- บอกให้เด็กรู้ล่วงหน้า อย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนจะถึงเวลาให้เลิกใช้ เช่นบอกว่า หนูโตแล้วถึงเวลาทิ้งขวด เลิกดูดขวดนม
- บอกเด็กทุกวันว่าอีกไม่นานหนูจะไม่ต้องใช้ขวดนมอีกแล้ว
- เมื่อถึงเวลาเก็บขวดนม ต้องเก็บให้พ้นสายตาเด็ก หรือให้เด็กช่วยแม่เก็บขวดนมใส่ถุงนำไปบริจาค หรือเอาไปทิ้งถังขยะ เขาจะได้ทราบว่าต้องตัดใจจากจริงๆ
- ให้รางวัลเด็กเมื่อไม่ดูดขวดนมตลอดวันหรือตลอดคืนที่ผ่านมา
- เตรียมน้ำหรือน้ำผลไม้ใส่แก้ว พร้อมสำหรับเด็กดื่มเมื่อเด็กร้องหาขวดนม
- ให้เด็กมีสิ่งของทดแทนขวดนม อาจเป็นตุ๊กตาหรือของเล่นที่ชอบ เอาไว้กอดเมื่อคิดถึงขวดนม
2. แบบทดแทน เหมาะกับเด็กที่ติดขวด แต่ไม่ถือขวดนมติดตัวไปมา ไม่หลับคาขวดนม เด็กที่เริ่มใช้แก้ว ขณะทานอาหาร หรืออาหารว่างบ้างแล้ว
- ใช้แก้วหัดดื่มทั้งกับนม น้ำดื่มและน้ำผลไม้ เพื่อให้เด็กคุ้นเคย
- เริ่มฝึกอายุ 6 เดือนใช้แก้วหัดดื่ม อาจให้เด็กเล่นแก้วหัดดื่มจนคุ้นเคยก่อน
- การฝึกเด็กใช้แก้ว เริ่มจากให้เด็กฝึกจับแก้วเปล่าใบเล็กๆ พ่อแม่ยกแก้วจรดปากดื่ม ให้เด็กดูเป็นตัวอย่าง
- ใส่น้ำปริมาณน้อยๆ ให้เด็กฝึกจิบก่อน ระยะแรกเด็กอาจยังสำลักหรือทำน้ำหกเรี่ยราดบ้าง
- ให้เด็กใช้แก้วขณะทานอาหารทุกมื้อ ไม่ใช่ใช้เฉพาะเมื่อถึงมื้อนม
- ไม่ให้เด็กถือขวดนมติดตัว
3. แบบค่อยเป็นค่อยไป เหมาะกับเด็กที่ติดขวดแล้ว ส่วนใหญ่จะได้ผลใน 3 สัปดาห์
- ค่อยๆ ลดขวดนมทีละน้อย ทีละ 1 ขวด ทุก 2 - 4 วัน โดยให้ดื่มนมจากแก้วแทน
- ค่อยๆ ลดนมทีละขวด ค่อยๆ ลดมื้อที่ไม่สำคัญก่อน เช่น มื้อกลางวัน หรือมื้อดึก หลังเที่ยงคืน
- หากเด็กงอแงอาจใส่น้ำให้เด็กดูดแทนนมในช่วงมื้อก่อนนอนหรือกลางวัน
- ค่อยๆ ลดปริมาณนมมื้อดึก จาก 8 ออนซ์ เหลือ 4 ออนซ์ จนงดได้ในที่สุด
- หากเด็กยังงอแง อาจใช้วิธีขยายจุกนมให้รูกว้างขึ้น เพื่อให้เด็กระมัดระวังการดูดมากขึ้น ไม่สามารถนอนดูดสบายๆ เหมือนก่อน แต่ต้องไม่กว้างจนเด็กสำลัก
- ระหว่างการหย่าขวดนม อาจดึงดูดความสนใจเด็กโดยให้เลือกแก้ว ตกแต่งแก้วเอง ใช้หลอดแบบแปลกๆ
ระหว่างการฝึกควรกอดเด็กเพิ่มเป็นพิเศษ และขอความร่วมมือจากสมาชิกคนอื่นๆ ในบ้าน เนื่องจากเด็กอาจร้องไห้งอแง หรือหงุดหงิด
ข้อมูลจาก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ค่ะ