เอาความรู้มาฝากจากนิตยสารบันทึกคุณแม่ เดือนพฤศจิกายน 2553 จ้า โดย นายแพทย์พนิตย์ จิวะนันทประวัติ
แม่บางคนคิดมากซึ่งตอนท้องเราก็เป็น เพื่อคลายความกังวล เลยเอาฝากกัน
มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมอยากจะเขียนถึง เพราะได้ฟังคำถามจากคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องอยู่เป็นประจำ เป็นคำถามที่เกิดขึ้นเพราะควากลัว นั่นคือเรื่องของรกพันคอเด็ก ก่อนที่จะเขียนอธิบายกันต่อไป ก็ต้องขออนุญาตทำความเข้าใจเสียก่อนว่า ที่ว่ารกพันคอเด็กนั้น ตามความจริงไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย เพราะรกมีลักษณะเป็นแผ่นเหมือนใบบัว แล้วมันจะไปพันคอเด็กได้อย่างไร จึงเป็นการเรียกชื่อผิดเสียมากกว่า แท้ที่จริงแล้วควรจะเป็นสายสะดื มิใช่เป็นรก
รกนั่นเปรียบเสมือนใบบัว และสายสะดือเปรียบเสมือนก้านใบบัวหรือสายบัว มีลักษณะเป็นเส้นยาว ๆ ที่สามารถพันรอบคอเด็กได้อย่างสบาย สายสะดือก็เช่นเดียวกัน เป็นเส้นยาว ๆ ยาวประมาณ 60 เซนติเมตรโดยเฉลี่ย เมื่อยาวดั่งสายเชือก มันก็ย่อมจะพันรอบอะไรก็ได้ โดยเฉพาะรอบคอเด็ก นี่แหละคือสิ่งที่คุณแม่ท้องกลัวกันนัก และมักถามคุณหมอว่าจะรู้ได้อย่างไรว่า สายสะดือจะไม่พันคอเด็ก
ว่าไปแล้วเรื่องสายสะอหรือสายรกพันคอเด็ก จนเกรงว่าเด็กจะเป็นอันตรายนั้น ผมเคยเขียนถึงมาแล้ว แต่คำถามเกิดจากความกลัวและสงสัยยังคงมีถามกันเรื่อย ๆ ก็เลยถือโอกาสเขียนซะที เผื่อว่าเป็นคุณคนหนึ่งที่สงสัยอยู่เหมือนกันจะได้หายสงสัยและหายกลัว หรือว่าจะกลัวหนักขึ้นไปกว่าเก่าก็ลองอ่านพิจารณากันดู
จากประสบการณ์พบว่า ตอนที่เด็กคลอดออกมานั้น จำนวนไม่น้อยที่มีสายสะดือพันคอออกมาด้วย ไม่รอบเดียวก็สองรอบ บางรายถึงสามรอบก็ยังมี แต่เด็กทารกไม่ยักเป็นอะไร แม้ว่าจะภันกันถึงสามรอบก็ตาม ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น สิ่งนี้แหละที่ผมต้องการให้คุณ ๆ รับทราบ เพื่อจะได้ผ่อนคลายความกลัวและความกังวลลงได้บ้าง เหตุที่เด็กไม่เป็นอันตราย เพราะสายสะดือพันคอนั้นเพราะธรรมชาติมันช่วยครับ ที่ว่าธรรมชาติก็คือ
ประการแรก ธรรมชาติให้สายสะดือที่มีความยาวพอเพียง ที่เด็กจะใช้พันคอได้สองสามรอบ โดยที่สายสะดือไม่ตึงจนรัดแน่น
ประการที่สอง สายสะดือนั้น ตามความเป็นจริงมันก็คือเป็นทางผ่านของสายโลหิต จะเรียกว่าสายเลือกก็คงจะไม่ผิด สายสะดืนั้นวิ่งออกมาจากตัวเด็กทางสะดือ เป็นสายยาวออกไปจนกระทั่งสุดตรง อีกปลายหนึ่งเป็นส่วนของรก รกซึ่งเกาะติดแน่นกับผนังมดลูก ณ ที่นี้นี่เองจะมีการส่งผ่านแลกเปลี่ยนกันระหว่างแม่กับลูก แม่จะส่งอาหาร น้ำ อากาศให้แก่ลูกก็ตรงบริเวณนี้ แล้วเม็ดเลือดในสายสะดือก็จะลำเลียงสิ่งที่มีประโยชน์เหล่านั้นไปให้กับลูกอีกทีหนึ่ง ขณะเดียวกันเด็กทารกจะส่งถ่ายของเสียออกจากร่างกายก็โดยอาศัยสายสะดือและรกนี้ด้วย ดังนั้นหากเส้นทางลำเลียงเกิดหยุดชะงักไป เด็กก็คงจะแย่แน่นอน ด้วยเหตุนี้ผมบอกว่าธรรมชาติมันช่วย และได้หาทางป้องกันอุบัติการณอันนี้ไว้แล้ว นั่นก็คือในสายสะดือ จะมีเส้นเลือดที่ใช้เป็นทางลำเลียงทุกสิ่งทุกอย่างอยู่เพียง 3 เส้นเท่านั้น แดงสอง ดำหนึ่ง แต่ถ้าคุณเคยเห็นสายสะดือแล้ว จะเห็นว่ามันจะมีขนาดเบ้อเริ่มเทิ่ม พอที่จะให้เส้นเลือกนับสิบ ๆ เส้นซ่อนอยู่ภายในนั้น แต่นี่มีเพียงสาม ฉะนั่นที่เหลือจึงเป็นเนื้อเยื่ออย่างอื่นที่คอปกปักรักษามิให้อันตรายเกิดขึ้นกับเส้นเลือดทั้งสามที่ฝังอยู่ภายในสายสะดือ เช่น มิให้เกิดการหัก หรืองอดั่งเช่นหลอดดูดโอเลี้ยงเกิดขึ้นเป็นอันขาด ความแข็งแรงของสายสะดือจึงมีด้วยประการฉะนี้
ประการที่สาม สายสะดือที่ว่มีขนาดดตพอ ๆ กับนิ้วมือของผู้ใหญ่แล้ว มันยังเคลือบด้วยเมือกลื่น ๆ อยู่ตลอดเวลา ความลื่นของสายสะดือจะช่วยป้องกันมิให้เกิดการรัดตัวเองขึ้นมาเหมือนกับปมเชือก เพราะมันลื่น เปรียบเสมือนดั่งตัวปลาไหล ใครสามารถจับปลาไหลมัดกันเป็นปมแน่นได้ ก็ต้องยอมรับว่าเก่ง หรือไม่ก็ต้องเป็นปลาไลที่ถูกขูดเมือกตามตัวออกไปหมดแล้ว มิฉะนั่นจะทำได้ยากมาก สายสะดือก็ทำนองเดียวกัน โอกาสที่มันจะผูกมดตัวของมันเอง จนกระทั่งเลือดเดินไม่ได้เกิดได้ยากมาก ผมเองยังไม่เคยเจอ ยกเว้นเคยเจอก็สายสะดือที่ผิดปกติเท่านั้น
ทำนองเดียวกับปลาไหลที่ถูกใบข่อยม้นครูดเอานั่นแหละ เรียกว่าธรรมชาติได้วางแผนป้องกันมาเป็นอย่างดีแล้ว แค่นั้นยังไม่พอ ปรากฎว่าบนสายสะดือนั้นยังมีปมที่เรียกว่า False Knot คือปมหลอกอยู่เป็นระยะ ปมหลอกที่ว่านี้ ความจริงก็คือบริเวณที่หลอดเลือดมันมีการขดตัวอยู่บริเวณนั้น จึงทำให้มองเหมือนเป็นปมปูดขึ้นมา ประโยชน์ของปมหลอกก็คือช่วยให้มีการยืดหยุ่นเกิดขึ้นกับสายสะดือในคราวจำเป็น ซึ่งจะแตกต่างจากปมแท้อย่างสิ้นเชิง
ปมแท้ก็คือปมที่เกิดขึ้นจากการมัดตัวของสายสะดือ ปมแท้จะยิ่งแน่นถ้าหากมีการดึงรั้งให้สายสะดือตึงมากขึ้น หากยิ่งแย่นก็ยิ่งแย่ดังที่ได้อธิบายไว้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ปมแท้จะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก ตามสถิติบอกไว้ว่าจะเกิดประมาณ 1เปอร์เซนต์เท่านั้น รวมความทั้งหมดก็จะเห็นได้ว่าสายสะดือในภาวะปกตินั้น ธรรมชาตก็ช่วยสร้างให้มีความปลอดภัยต่อชีวิตของทารกน้อยในครรภ์เป็นอย่างสูง ก็คงจะช่วยให้คลายความกังวลไปได้บ้างนะครับ หรือถ้าจะให้ดีก็อย่าได้ไปนึกถึงมันเลยจะดีที่สุด หากจะนึกจะคิดอะไรในตอนที่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้น หากคุณได้นึกได้คิดแต่สิ่งที่สวยงาม สิ่งที่ดี ๆ ผมก็เชื่อและหวังว่าจะเป็นผลดีต่อตัวคุณเอง และต่อลูกของคุณที่นอนรอรับการคลอดอยู่ท้องของคุณด้วย เรื่องของสายสะดือหรือสายรกนั้น ธรรมชาติเขาช่วยดูแลไว้ให้คุณเป็นอย่างดีแล้ว ไว้ใจได้ครับ โอกาสผิดพลาดมีน้อย