ความคิดเห็นที่ 1 จริงๆเราก็ไม่สบายใจตั้งแต่แรกแล้วว่ามีผู้ชายดูแลเนิร์ส แต่คิดว่ามีป้าพี่เลี้ยงอยู่ด้วย คงจะไม่มีอะไร ประกอบกับเราไม่ค่อยได้ไปส่งลูกด้วย เพราะบางทีสามีจะเลยไปทำงานเลย ก็เลยไม่รู้ความเคลื่อนไหวที่เนิร์สเท่าไหร่ แต่สามีจะชอบไปส่งลูกเร็ว เราเคยถามสามีว่ามีใครมาหรือยัง สามีจะชอบรำคาญจนตอนหลังเราเลยไม่ถาม เป็นจุดที่ยอมรับว่าตัวเองพลาดมากๆ จากคุณ : หัวอกแม่ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 01:37:54 A:113.53.173.62 X: TicketID:305030

ความคิดเห็นที่ 2 หลังจากนั้นอีก 2 วัน เราก็เป็นคนเอาลูกเข้านอนอีก ตะล่อมๆถามเรื่องแหย่ก้นอีก ลูกก็เล่าแบบเดิมๆ เราก็เลยถามอีกว่าแล้วครูทำน้องที่อยู่ด้วยอีก 2คนมั้ย เค้าก็บอกว่าทำเหมือนกัน ทีนี้เลยถามว่าหนูเจ็บมั้ย เค้าบอกว่าเจ็บ เราก็ถามว่าเจ็บตรงไหน เค้าก็ชี้ไปที่จิ๊มิ๊ตัวเอง เราก็เลยเรียกสามีมาฟังด้วย แต่ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าเป็นยังไง คือทางสามีคงไม่ค่อยเชื่อเพราะเค้าชอบให้ลูกไปโรงเรียนมาก ส่วนเราเชื่อลูกแต่ก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่จะบอกได้ว่าครูคนนั้นเค้าทำจริง สามีเลยต้องให้ลูกไปที่เนิร์สนั่นต่อ แต่ก็ระวังคือรอให้ป้าพี่เลี้ยงมาก่อนแล้วเราค่อยกลับ อีก 2 วันต่อมา ตอนเย็นเราพาลูกไปโลตัส พอดีว่าทางลงมันแคบต้องอุ้มลูกด้วยท่าเอาแขนสอดผ่านรักแร้ 2 ข่าง มืออีกข้างก็ช้อนก้นลูก เราก็คิดแว่บนึงแล้วลองทำท่าที่ลูกเล่าให้ฟังว่าครูทำกับเค้ายังไง มือเราจะอยู่ระหว่างช่องคลอดกับก้น แล้วถามว่าครูทำอย่างนี้ใช่ไหม เค้าก็บอกว่าใช่ แล้วหนูรู้สึกยังไง เค้าบอกว่าเสียว เราตกใจมาก เราไม่เคยสอนลูกเรื่องคำว่าเสียวเลย เค้าไปจำมาจากไหน เราก็บอกสามีให้ฟังว่าลูกพูดอย่างนี้ ให้สามีมาฟังด้วยกันจะได้เชื่อซะทีว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ เราตะล่อมถามลูกจนจับใจความได้ว่า จากคุณ : หัวอกแม่ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 01:38:35 A:113.53.173.62 X: TicketID:305030

ความคิดเห็นที่ 3 ครูเปิดคลิปโป๊( ผู้หญิงผู้ชายไม่ใส่เสื้อผ้า)ในโทรศัพท์ให้ดู มีผู้หญิงกำลังทำออรัลเซ๊กส์ให้ผู้ชาย (ลูกใช้คำว่าอมๆ) แล้วก็มีผู้ชายแก่ใช้นิ้วกับส่วนนั้นของผู้หญิง (ลูกใช้คำว่าแหย่รู) แล้วผู้หญิงก็เสียว รีบพาลูกออกจาโลตัสแทบไม่ทัน เพราะเค้าเล่าเสียงดังด้วยความสนุกสนาน เหมือนกำลังเล่าเรื่องสนุกให้พ่อแม่ฟัง เลยตัดสินใจไปคุยกับคุณครูผู้หญิง 2 ท่านเลย พอไปถึงเราก็พูดตรงๆเลยว่ามันมีเหตุการณ์แบบนี้ ครูก็แบ่งรับแบ่งสู้ เราก็เข้าใจครูนะว่าคงตกใจเหมือนที่เราตกใจ ยังคงทำอะไรไม่ถูก ก็พยายามถามให้ลูกเล่าให้ฟังแต่ลูกก็ไม่พูด บอกแต่ว่าอยากกลับแล้ว อาจเป็นเพราะลูกชอบเล่นครูผู้ชายมาก จะไม่ค่อยเล่นกับครูผู้หญิง แต่ก็ได้ข้อมูลเพิ่มมาว่าครูไม่ได้อยู่กับภรรยาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ถามว่านานแค่ไหน จากคุณ : หัวอกแม่ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 01:40:02 A:113.53.173.62 X: TicketID:305030

ความคิดเห็นที่ 4 พอกลับบ้านเราเอาลูกเข้านอนก็ถามลูกอีก ลูกก็เล่าให้ฟังเหมือนเดิมเลย มีเพิ่มมาอีกว่า ครูจะทำตอนที่ป้าพี่เลี้ยงมาสาย(ช่วงเช้าที่ยังไม่มีใครมา)หรือไม่ก็ตอนป้าลงไปดูความเรียบร้อยข้างล่าง (เอานอนกลางวัน) แล้วครูเปิดโทรศัพท์ให้ใครดูบ้าง เค้าก็บอก 3 คนเลย แต่เด็กผู้หญิงอีกคน จะ 3 ขวบ(เป็นหลานครู) กลัวเลยไม่ดู ส่วนเด็กผู้ชาย 2 ขวบนิดๆก็ไม่ดู หนูรู้สึกยังไง เค้าบอกว่าเสียวๆแล้วก็ทำเสียงครางๆด้วย (อันนี้เราพยายามคิดเข้าข้างตัวเองว่า ครูสอนให้พูด เค้าไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเองจริงๆ) แล้วก็มีทำท่าอมๆ ท่าโก้งโค้ง ให้ดู จากคุณ : หัวอกแม่ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 01:40:32 A:113.53.173.62 X: TicketID:305030

ความคิดเห็นที่ 5 แต่ที่สรุปยังไม่ได้คือว่า ลูกบอกว่าครูทำหนูเจ็บตรงจิ๊มิ๊ บางทีก็บอกเจ็บ บางทีก็บอกไม่เจ็บ แต่ถามแล้วคือครูไม่ได้ถอดกางเกงเค้าแน่ๆ แล้วครูไม่ได้ถอดกางเกงตัวเองด้วย แต่ล้วงเข้าไปหรือปล่าวนี่สิ แล้วก็ล่าสุดลูกมีไข้ เราเช็ดตัวลดไข้ตรงขาหนีบ ลูกก็หุบขาไม่ยอมกางขา (ท่านั่ง) เค้าบอกว่ากลัวเจ็บ เราเลยถามว่า ครูทำหนูเจ็บเหรอลูก เค้าก็บอกว่าใช่ เราถามอีกว่าแล้วหนูทำยังไง ลูกบอกว่า หนูบอกว่าเจ็บแต่ครูก็ทำ เราเลยเงียบ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกอะไรบ้าง ภาวนาว่าเป็นแค่สัมผัสด้านนอกแค่นั้นนะ แต่พอถามความรู้สึกของลูก เค้าก็ยังไปเรียนที่นี่อยู่และก็ยังอยากเล่นกับครูผู้ชายอยู่ คือเค้าไม่ได้รู้สึกกลัว หรือรู้สึกว่าเป็นแผลในใจ พูดง่ายๆเลยว่า เค้าไม่รู้เลยว่าอะไรเกิดขึ้นกับตัวเอง ตอนนี้คุยกับสามีว่า จะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร( นอกจากครู 2 ท่านนั้น ) เพราะกลัวว่าเมื่อเค้าโตขึ้นจะมีคนเอามาพูดให้เค้าได้ยิน ส่วนครูผู้ชายก็โทรมาปฏิเสธกับสามีเราตามฟอร์ม แต่เราไม่อยากเอาเรื่องเพราะผลกระทบที่ตามมากับลูก เราว่ามันไม่คุ้ม แล้วเราก็จะไม่ถามเรื่องนี้กับลูกอีก แล้วอีกสักพักจะคุยกับสามีไม่ให้ลูกไปที่นั่นอีก อยากจะให้เค้าลืมไปเลย จากคุณ : หัวอก เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 01:43:48 A:113.53.173.62 X: TicketID:305030

ความคิดเห็นที่ 6 วันเสาร์ที่ผ่านมา ก็พาเค้าไปบอกคุณครูว่าจะมาแค่เสาร์อาทิตย์ ส่วนวันธรรมดาย้ายเข้าระบบโรงเรียนเลย เพราะปีนี้ต้องเข้าอนุบาลแล้ว ถ้าให้หยุดอยู่บ้านก็ต้องมาเริ่มนับหนึ่งกับปัญหาไม่อยากไปโรงเรียนอีกครั้ง ที่ยังต้องให้ลูกไปที่นั่น เพราะว่าเราคิดว่าลูกต้องรู้ว่ามีอะไรผิดปกติแน่ เพราะตอนที่เราคุยกับครูผู้หญิงทั้ง 2 ครั้ง เค้าดูอึดอัด กลัว ร้องไห้ ถ้าให้หยุดไปเลยกลัวก็เค้าคิดว่าเค้าทำอะไรผิดแน่ๆ เพราะขนาดวันธรรมดาเค้าได้ไปที่อื่นแทน เค้ายังถามเลยว่าทำไมเค้าไม่ได้ไปที่เก่า แล้วก็กำชับครูผู้หญิงว่าให้ดูแลเป็นพิเศษ ล่าสุดตอนลูกกลับมาจากที่นั่น เราก็ถามว่าวันนี้ใครเอานอน ลูกก็บอกว่าคุณครูผู้หญิง แล้วลูกก็เล่าให้ฟังอีกว่า ครูผู้ชายไม่ให้เล่นด้วย บอกว่าให้ไปไกลๆ (เราก็ดูลูกเสียใจมากที่ไม่ได้เล่นกับครูผู้ชาย ) แต่เพื่อนๆก็ปลอบหนูว่าไม่เป็นไร จากคุณ : หัวอกแม่ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 01:44:30 A:113.53.173.62 X: TicketID:305030

ความคิดเห็นที่ 7 อยากทราบน่ะค่ะว่า เด็กอายุขนาดนี้พอโตขึ้นเค้าจะจำเรื่องราวนี้ได้รึปล่าว แล้วก็จะหาคำพูดยังไงดีโน้มน้าวให้สามีเห็นด้วยกับการที่ไม่ให้ลูกไปที่นั่นอีก จากคุณ : หัวอกแม่ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 01:47:06 A:113.53.173.62 X: TicketID:305030

ความคิดเห็นที่ 8 เราว่าทางที่ดีเปลี่ยนเนิร์สเซอรี่ซะตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่าค่ะ ป้องกันไว้ก่อนดีกว่านะคะ ถ้าสามีไม่เห็นด้วยเราว่าไม่ต้องสนใจค่ะ เปลี่ยนเถอะ จากคุณ : Madamcupcake เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 02:00:18

ความคิดเห็นที่ 9 ลูกโดนล่วงเกินทางเพศ ถึงขนาดเจ็บ ถ้าสัมผัสข้างนอกอย่างเดียวเด็กไม่เจ็บจนไข้ขึ้นหรอก ไอ้ครูบ้าคงให้เด็กลองทำทุกอย่างที่เด็กเห็นในวีดีโอในโทรศัพท์ ทำไมคุณยังกล้าให้ลูกกลับไปอีก ทำไมไม่แจ้งตำรวจดำเนินการกับคนที่ทำผิด เด็กคนอื่นจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของคนเลวๆในคราบครูอย่างนี้ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 02:03:50 จากคุณ : Namkati (namkati) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 02:03:12

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านแล้วสลดใจและปวดหัวใจมากเลยค่ะ  สมัยนี้ไว้ใจใครหรืออะไรไม่ได้เลย บางครั้งผู้ชายบางคนชอบคิดอะไรง่ายๆไม่ลึกซึ้ง ซึ่งสามีคุณจขกท อาจเป็นแบบนั้น ถ้าเป็นดิฉันคงไม่รอความเห็นของสามีแน่ๆ  คงรีบย้ายเท่าที่จะรีบได้ จากที่ถาม " เด็กอายุขนาดนี้พอโตขึ้นเค้าจะจำเรื่องราวนี้ได้รึปล่าว " เด็กสามขวบกว่าๆ  บางคนก็จำอะไรต่ออะไรได้มากมายแต่อาจไม่เข้าใจว่า  อะไรคืออะไร คุณจขกท คงต้องเบี่ยงเบนความสนใจของลเด็ก (เช่น เรื่องไต่ถาม วิธีที่เด็กถูกกระทำ ก็เลิกถาม) และชวนเด็กพูดคุยด้านอื่น ในขณะที่ต้องอุ้มลูก  อาบน้ำลูก ( คือกริยาที่ต้องทำคล้ายๆกับที่เด็กโดนกระทำ) เด็กอายุยังน้อย ยังไม่รู้ประสา แต่ดิฉันคิดว่า คนเป็นแม่(สำคัญกว่าพ่อ)สามารถปรับความคิดความทรงจำให้ลูกได้ค่ะ เอาใจช่วยนะคะ ขอให้น้องลืมเรื่องราวที่ผ่านมาให้ได้ จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 02:03:52

ความคิดเห็นที่ 11 ทำไมคนสมัยนี้เลวจริงๆ ขอโทษที่ต้องใช้คำรุนแรงนะคะ รับไม่ได้อะค่ะ ไม่ทราบว่ามีวิธีที่จะจัดการกับครูผู้ชายคนนี้ไหมอะคะ(ไม่อยากเรียกว่าครูเลยจริงๆ) เช่น แจ้งความ หรือว่ารายงานเรื่องนี้กับเจ้าของเนิร์ส โดยการอัดเสียงน้องเวลาน้อง เค้าเล่าให้คุณแม่ฟังนะค่ะ หรือไม่ก็ทำอะไรก็ได้สามารถทำให้คุณครูผู้ชายนี้โดนลงโทษเพราะถ้าคุณแม่พาน้องเปลี่ยนเนิร์ส ครูผู้ชายนี้ก็ไม่มีทางที่จะเลิกพฤติกรรมนี้ ส่วนคุณสามีตัดไปเถอะคะ เพราะดูเค้าไม่เห็นมาเดือดเนื้อร้อนใจลูกสาวตัวเองแท้ๆ ไม่รู้นะคะเป็นเรา เราไม่ยอมต้องเอาเรื่องคนคนนั้นที่เรียกตัวเองว่าเป็นครูให้ได้. แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 06:44:15 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 02:19:27 จากคุณ : สาวใสCA เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 02:16:37

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านแล้วเครียดเลยค่ะ ทำไมสังคมเรามันน่ากลัวขนาดนี้ เด็กตัวเล็กๆจะรับมือได้ยังไงกัน หดหู่ใจ.. TT จากคุณ : Apirl Bunny เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 02:22:22

ความคิดเห็นที่ 13 เด็กไม่น่าจะจำเรื่องนี้ได้ค่ะ เพราะเค้ายังต้องอยู่ในช่วงวัยเรียนมีเรื่องราวมากมายอีกในชีวิต แต่!ต้องให้ห่างเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดนับจากเวลานี้ ไม่ให้เห็น ได้ยิน เรื่องแบบนี้และเบนความสนใจเค้าให้กลับมาสนใจเรื่องราวแบบในเด็กวัยเดียวกัน คุณเท่านั้นที่ทำให้ลูกลืมได้คุณต้องเข้มแข็งนะค่ะ และใจเย็นๆ ดิฉันอ่านไปใจสั่นและเข้าใจคุณเพระาดิฉันมีลูกสาวแค่9เดือน คุณต้องทำเพื่อลูกที่น่ารักของคุณนะ ต้องเอาเค้าออกมาจากที่นั่นเดี๋ยวนี้ถึงะทะเลาะกับสามีก็ไม่เป็นไรอย่างน้อยคุณก็รักกันแต่อย่าเอาคนที่ไม่ได้รักกันเข้ามาเป็นเรื่องในครอบครัว และเอาเรื่องให้ถึงที่สุด คุณแม่เข้มแข็งนะค่ะ ดิฉันเป็นห่วงความรู้สึกคุณมากแต่ตอนนี้เราแก้ไขได้แล้วนะค่ะ แต่ถ้าเป็นดิฉัน ผู้ชายคนนี้คงหายตัวไปแล้ว(ตายไปแล้ว) จากคุณ : c.seafarer (c.seafarer) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 02:24:46

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านแล้วเป็นกำลังใจให้ค่ะ ส่วนสามีถ้าเรื่องขนาดนี้ยังให้ลูกไปเรียนที่นั้นอีก ก็ขอมันหย่าเถอะค่ะ เอาตัวเองเลยนะค่ะ จำได้ค่ะเรื่องที่มันฝั่งใจ ตอนนั้น เรียน อ 1 กับลูกหรือหลานเจ้าของโรงเรียน แล้วเรากินลูกอมแก้เจ็บคอโดนครูตี แต่หลานกินลูกอมธรรมดา(หลังจากเราโดนตี นานแล้วล่ะแต่วันเดียว) เราก็วีน(ตอนนั้นคงยังไม่รู้จักคำว่ายุติธรรม) ว่าทำไมเขาทำได้เราทำไม่ได้ โดนตีแม่มาด่าครูถึงโรงเรียน แล้วก็จำอะไรไม่ได้แล้ว ถ้าฝั่งใจเด็กจำได้ค่ะ จำได้จริง ๆ ค่ะ 2 ขวบเราจะได้นิด ๆ เลยตอนหลังจากหกล้มเย็บ 20 เข็ม(มือทั้งมือ) แม่ห้ามโดนน้ำแล้วหมั่นไส้พี่กิน น้ำอะไรก็ไม่รู้อร่อย ๆ แต่เราจับถุงมันไม่ได้ ยังจำรสชาติของน้ำนั้นได้อยู่เลยจำได้กินครั้งสุดท้ายก็ก่อนย้ายมาเชียงใหม่(2-3 ขวบล่ะ) จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 02:28:51

ความคิดเห็นที่ 15 น้องอาจจะจำไมไ่ด้ แต่แม่จะจำและเจ็บไปจนตายเลยแหละค่ะ ทำไมไม่ค้นหาความจริงล่ะคะ  ปล่อยไปแบบนี้ เค้าอาจจะไปทำกับเด็กคนอื่นอีก จากคุณ : +- Au clAir de lA lune -+ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 02:33:35

ความคิดเห็นที่ 16 ทำไมกล้าส่งลูกไปที่นี่อีกล่ะครับ เปลี่ยนที่เลยดีกว่าครับ จะเกิดอะไรขึ้นอีกเราก็ไม่รู้ลูกไม่ได้อยู่ในสายตาเราตลอด จากคุณ : วันหน้าผมจะเป็นนายช่าง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 02:54:41

ความคิดเห็นที่ 17 เด็กบางคนจำได้นะคะ ส่วนเราจำได้ค่ะ เพราะตอนนั้นเป็นเด็ก เพื่อนเราชอบมาชอบเรา เล่นพระเอกกับนางเอก แต่เราไม่เล่นอ่ะ ความจริงอยากเล่น แต่แม่มาตามทุกที ตอนนั้นประมาณ สามขวบนิดๆ ค่ะ ............... ส่วนเรื่องของคุณแม่ เราว่าย้ายออกมาเลยไหมคะ หรือไปแจ้งความก็ได้ แต่ไม่รู้ว่าตำรวจจะรับแจ้งหรือเปล่า เพราะไม่มีหลักฐาน แต่เราเคยอ่านเจอนะคะ แค่จากปากเด็ก ตำรวจก็รับ แต่เราเกรงว่าจะไม่เป็นผลดี ต่อลูกเราค่ะ เพราะมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้าเงียบๆ ไป คนเลวคนนี้ ก็จะไม่หยุดกระทำ ถ้าเป็นเราๆ เราเอาศาลเตี้ยค่ะ หาคนมือฉมังซักหน่อย ซักสามคน อุ้มไปเลยค่ะ เอาให้หยอดน้ำข้าวต้มไปเลย ความจริงอยากจะเอาให้ตาย แต่คงไม่เอา เพราะไม่อยากติดคุก กับคนแบบนี้ ..................... ผู้ชายเค้ามักไม่ละเอียดรอบครอบ เค้าคงคิดว่าเราคิดมาก แต่ถ้าวันใด วันนึง เค้ารู้ หรือทราบว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เชื่อเราเถอะค่ะ สามีของคุณเค้าจะไม่เป็นอย่างนี้แน่ๆ เรื่องแบบนี้ ฆ่ากันให้ตายดีกว่า ยิ่งโดยเฉพาะลูกสาวแล้ว.. คนเป็นพ่อยิ่งหวงเป็นธรรมดา ถ้าสามียังจะให้ไปเรียนที่นั่นอีก เป็นเรา..เราไม่ไปค่ะ จะทะเลาะกันอะไรก็ยอม เพราะอนาคตของลูก จิตใจของลูก ถ้าเรายังเป็นแบบนี้ สามีก็อาจจะฟังเรา ฟังเหตุผลเราค่ะ เค้าจะรู้ว่าเราพูดจริงนะ อะไรประมาณนี้ .................. อย่างไรก็ดี ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 02:57:51

ความคิดเห็นที่ 18 พึ่งจะกลับไปอ่าน บาง คคห. เห็นด้วยกับพี่ไผ่ ตรงที่ว่า "เด็กบางคนจำได้" แต่อาจจะไม่เข้าใจว่านั่นอะไร เป็นอะไร แต่เมื่อโตขึ้นกว่านั้น เค้าก็จะรู้อยู่ดีค่ะ ไม่ได้ต้องการให้คุณแม่เครียดนะคะ แค่นึกถึงตัวเอง ตอนเป็นเด็กอ่ะค่ะ ชอบเล่นกับเด็กผู้ชายข้างบ้าน สนิทกันมากๆ โตมาด้วยกัน จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 03:00:21

ความคิดเห็นที่ 19 งงค่ะ รู้ขนาดนี้แล้วยังกล้าพาลูกไปอีกเหรอคะ เปลี่ยนที่ไปเลยดีกว่าค่ะ จากคุณ : k.lover เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 03:00:26

ความคิดเห็นที่ 20 เราว่าไม่ควรให้ไปที่นี่อีกเลย ถ้าไอครูนั่นมันเจ็บใจทำแรงขึ้นกว่าเดิม แล้วขู่ลูกคุณไม่ให้บอกใครจะยิ่งแย่ต่อน้องนะคะ เห็นว่าน้องติดเค้าด้วย ยิ่งน่ากลัวมากๆ จากคุณ : Chocolate Junkie เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 03:27:38

ความคิดเห็นที่ 21 อย่าให้ไปอีกเลยค่ะ ขอร้อง อ่านไปร้องไห้ไปเลยค่ะ ถ้าเกิดขึ้นกับสูกสาว เราเอามันตายแน่ เรื่องแบบนี้ยิ่งปล่อยยิ่งเลยเถิด ยิ่งได้ใจ อย่าคิดว่าตอนนี้เค้ารู้ตัวว่าเรารู้แล้วเค้าจะไม่ทำอีก อย่าคิดอย่างนั้นเด็ดขาด ขอร้องจริงๆค่ะ จากคุณ : lifewithhope เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 03:41:00

ความคิดเห็นที่ 22 ปิดคอมพ์ แล้วตัดใจกลับไม่นอนไม่ได้เลยค่ะ ไม่สบายใจอย่างแรง คุณแม่บอกว่า เค้ายังอยากไปที่นั่น ยังอยากเล่นกับครู และคุณแม่ห่วง ว่าเค้าจะรู้สึกว่าตัวเองผิดที่ไม่ได้ไปที่นั่นอีก เฮ้อ...จะพูดยังไงดี เด็กวัยนี้ยังตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆในชีวิตเองไม่ได้หรอกค่ะ วุฒิภาวะยังไม่ถึง ยังไม่พอ นั่นคือทำไมเค้าถึงต้องมีเรา พ่อและแม่ คอยช่วย ปกป้อง ดูแล สั่งสอน คุ้มครอง และนำทางให้เค้า เราให้ลูกตัดสินใจเองในเรื่องง่ายๆเหมาะกับวัยของเค้า เช่นจะใส่เสื้อผ้าแบบไหน กินข้าวกับอะไร จะไปเที่ยวที่ไหนและอื่นๆอีกมากมาย แต่ไม่ใช่เรื่องนี้ค่ะ การที่ลูกขอให้แม่แหย่ก้นให้เหมือนที่ครูทำ นั่นแปลว่าลูกชอบ หรือเคยชิน ซึ่งคุณจะปล่อยให้มันผ่านไปเรื่อยๆไม่ได้ค่ะ ต้องบอกเค้าว่าสิ่งที่ครูทำไม่ดี และ ไม่ถูกต้อง และหนูต้องไม่ยอม  ที่สำคัญต้องย้ำให้ลูกรู้ว่า หนูไม่ได้ทำอะไรผิด ครู (ทำไมฉันต้ิองเรียกมันว่าครู) ต่างหากที่เป็นคนผิด คนไม่ดี ที่แม่ต้องพาหนู ไปให้พ้น ให้ไกลจากคนไม่ดี นะคะ หยุดไปที่นั่น หาที่ใหม่เถอะค่ะ เข้าใจนะคะว่าสถานการณ์ ความจำเป็นต่างๆ ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน คุณแม่อาจมีเหตุผลมากมาย ที่คิดว่ายังจำเป็นปล่อยให้เป็น แบบนี้ หรือคิดว่าการแก้ไขต่างๆที่ทำไปแล้วดีที่สุดกับทุกฝ่ายหรือพอแล้ว หรืออยากทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น เพื่อจิตใจลูก สามี และเนิร์ส แต่สำหรับเราแล้ว มันไม่ใช่ค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 04:19:53 จากคุณ : lifewithhope เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 04:17:55

ความคิดเห็นที่ 23 พูดไม่ออกเลยกับคุณพ่อ....ลูกเล่าให้ฟังขนาดนี้ยังไม่แยแส ต้องรอให้สายเกินแก้รึไง เราว่าเด็กน่ะเขาไม่ได้รู้สึกผิดหรอกค่ะถ้าจะเปลี่ยนที่เรียนใหม่ พอมีเพื่อนใหม่ๆเขาก็ลืมที่เก่าแล้วค่ะ เป็นเราเปลี่ยนตั้งแต่รู้ว่าผิดปกติแล้วล่ะ จากคุณ : schatje เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 05:10:06

ความคิดเห็นที่ 24 ตอนนี้เด็กไม่เข้าใจหรอกค่ะ แต่พอโตมาระดับหนึ่งเค้าจะรู้เองว่าเคยเกิดอะไรขึ้นกับเค้า ซึ่งเค้าอาจจะรู้สึกแย่ ทางที่ดี คุณควรจะเอาเข้าออกจากที่นี่โดยเร็ว ไม่ต้องไปไม่ว่าวันไหน และกึ่งๆขู่ครูผู้ชายคนนั้นด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้เค้าไปทำกับเด็กคนไหนอีก และอธิบายให้ลูกฟังว่า สิ่งที่ครูผู้ชายทำไม่เหมาะสม หนูไม่ควรให้ผู้ชายคนไหนมาแตะต้องร่างกายหนูโดยเฉพาะจิมิ และหน้าอก คุณต้องหาทางอธิบายแบบง่ายๆแต่ให้เข้าใจว่า ที่ไม่ให้ไปเพราะเนอสที่นี่ไม่ดี ไม่ใช่เป็นเพราะตัวน้องที่ทำผิดค่ะ แต่ต้องเตือนน้องไม่ให้น้องเข้าใจผิดว่า เรื่องที่ครูทำเป็นเรื่องปกติ หรือควรทำนะคะ เรื่องแบบนี้ซีเรียสมากนะคะ ช่วยบอกคุณพ่อด้วยว่า สมัยนี้ภัยรอบตัวค่ะ อย่าประมาทแม้แต่นิดเดียว เพิ่มเติม.....เราคิดว่า ครูอาจมีการใช้นิ้วล่วงล้ำเข้าไปบ้างแล้ว ไม่งั้นน้องคงไม่เจ็บ ซึ่งนั่นแปลว่า เป็นเรื่องร้ายแรงมากแล้วนะคะ  เรื่องหาเนอสใหม่ไม่ยากเกินไปหรอกค่ะ อ้อ..อีกอย่างนึง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องส่งไปเนอสทั้งอาทิตย์คะ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 05:27:27 จากคุณ : ทะเลพระจันทร์ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 05:23:09

ความคิดเห็นที่ 25 คุณก็บอกสาเหตุไปแล้วว่าไม่อยากเอาเรื่อง แต่ดิฉันกลับคิดว่า คุณทำผิด คุณต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ต้องหาความจริงให้ได้ ไอ้ผู้ชายคนนั้น ปล่อยให้ลอยนวลไปได้อย่างไร แล้วมันจะทำกับเด็กอีกสักกี่คน คิดว่าคุณต้องเปลี่ยนที่เรียนให้ลูก ทำไมต้องให้ไปเสาร์อาทิตย์ด้วย คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับลูกคุณมากๆนะ ทำไมมันตัดไฟตั้งแต่ต้นลม และตัดไอ้เจ้าตัวปัญหานั้นด้วย ถ้าเค้าทำจริงเค้าต้อได้รับการลงโทษ ถ้าเป็นประเทศที่ดิฉันอยู่ คิดว่าพ่อแม่คงไม่ปล่อยให้มันเลยตามเลยแน่ๆ ที่สำคัญไอ้คนนั้นมันต้องได้รับผลที่ทำอย่างสาสม เสียใจแทนคุณและลูกสาวนะคะ จากคุณ : PoomPim..TMB เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 06:25:10

ความคิดเห็นที่ 26 ตอบตรง ๆ ได้ไหมนะ เราว่า ทำไมจะต้องคิดว่า เด็กติดครู หรืออยากให้เค้าไปเรียนทีนี้อีก มันเกินไปแล้วนะ คนเราเกิดเป็นพ่อแม่ มีหน้าที่ปกป้องลูกตัวเอง ผช คนนั้น ไม่สมควรจะเรียกตัวเองว่า ครูหรอกนะ เลวขนาดนั้น ถึงกับเปิดวิดีโออย่างว่าให้เด็กดู ให้เด็กทำตามยังงันเหรอ รับรองได้ว่า ไอ้นั้นนะต้องทำเกินเลยไปแล้ว ไม่งั้น อยู่ ดี ๆ เด็กจะเจ๊บตรงนั้นได้เหรอ ควรพาเด็กไปหาหมอตรวจดูไปเลยคะ และไม่ต้องไปเรียนที่นั้น ไม่เห็นจำเป็นต้องง้อ ถ้าเป็นเรา จะแจ้งความด้วยคะ ไม่เอามันไว้หรอก ไอ้มาบอกว่า กลัวเสีย ไรนั้น คิดดูใหม่ คนเลว ควรได้รับกรรมทีทำไป ไม่งั้น ลูกคน คงไม่ใช่คนสุดท้าย ที่มันทำหรอกคะ ถ้าสามีเรา ยังไม่สนใจลูก จนถึงขนาดนี้ แล้ว เราคงจะเลิกกะมันไปเลย ในฐานะที่เป็นพ่อที่ไม่รับผิดชอบอะไรเลย ลูกสาวทังคน ยอมให้มันทำกับลูกเราขนาดนี้ได้ยังไง ระวังนะ เด็กไม่ลืม และถ้าทำบ่อย ๆ จะโตมา ติด และอาจจะนำไปสุ่การลองทำแบบนี้กับเด็กอื่น ๆ ได้ เพราะมันหยามใจไปแล้ว จากคุณ : แม่หมูปิ้ง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 06:26:45 A:202.180.115.248 X: TicketID:142447

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าตำรวจพึ่งไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐาน รู้มั้ยคะบ้านเราเค้าจะทำกันยังไง? ไอ้เห้นี่มันโดนน้าเราเอาพวกมาซ้อมมันแน่ค่ะ จากคุณ : zuntos เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 06:31:25

ความคิดเห็นที่ 28 เราว่าคุณพาลูกไปหาหมอดีไหมคะ ให้หมอตรวจดูว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศบ้างหรือเปล่า เผื่อลูกจะได้คุยกับจิตแพทย์เด็กโดยตรง เรามองว่าทำไมคุณให้ลูกทำเป็นลืมๆไปล่ะคะ เค้าต้องรู้สักวันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร แล้วไหนยังอาการที่เค้าอธิบายคุณอีก (ต่อให้ไปจำที่เค้าสอนมาก็ตาม คำว่าเสียว ) จากคุณ : Jinny_jj เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 06:35:55

ความคิดเห็นที่ 29 ทำไมถึงยังให้ลูกกลับไปที่นั่นอยู่อีกคะ หากมันกิดอะไรขึ้นมากกว่านั้นคนที่เสียใจไม่ใช่ใครนอกจากครอบครัวคุณ ตัดไฟเสียแต่ต้นลมเถอะค่ะ จากคุณ : punny_13 เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 06:52:15

ความคิดเห็นที่ 30 อ่านแล้วคันไม้คันมือคันปากจัง ทำไมคนเป็นพ่อถึงดูเฉยกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกสาวตัวเองจัง ทำไมยังกล้าเอาลูกไปที่นั่นอีก เปลี่ยนที่เถอะค่ะคุณแม่ตัดไฟเสียแต่ต้นลมอยู่ห่างๆไอ้เอวนั่นไว้ดีกว่าค่ะ จากคุณ : bullock เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 07:15:56

ความคิดเห็นที่ 31 บอกตรงๆว่า อ่านไปแค่เมนท์ที่สองก็ทนอ่านต่อไม่ได้ และได้บทสรุปจากเมนท์ที่ทำให้สรุปได้ว่า คุณและสามียังปล่อยให้ลูกไป รร เดิมโดยไม่ได้แก้ไข เอาผิด อะไรกัีบไอ้ชาิติชั่วนั่น หน้าที่คุณต้องปกป้องสิทธิและดูแลลูกไม่ให้เกิดอันตราย เพราะเด็กเองยังไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ วันหนึ่งเมื่อลูกคุณโตจำความได้และเริ่มเข้าใจว่าเกิดอะไรขี้นกับตัวเอง คุณจะมองหน้าลูกหรืออธิบายลูกของคุณยังไง ที่ปล่อยให้เขาโดนกระทำซ้ำซากโดยไม่เอาผิดและยังปล่อยให้เขาเป็นผู้ถูกกระทำโดยที่ไม่ทำอะไรกัน อ่านไปได้สองเมนท์ บอกได้คำเดียวว่า อยากแจ้งตำรวจจับพ่อแม่ก่อนเ เพื่อกันเด็กออกจากพ่อแม่อย่างคุณ รับไม่ได้จริงๆ คำปลอบใจไม่มีให้พ่อแม่ที่ละเลยลูก มีแต่ความสงสารและเวทนาต่อลูกของคุณเท่านั้น จากคุณ : Mimi Mice เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 07:17:22

ความคิดเห็นที่ 32 อือ.. แปลกใจกับความคิดของพ่อแม่สองท่านนี้... คิดได้ไงอ่ะ ห่วงกังวลไม่เข้าเรื่องกับเรื่องการจะส่งลูกไปเรียนอุบาลในอนาคต ต้องเอามาเป็นเหตุผลตื้นๆเพราะกลัวลูกจะงอแงไม่ยอมไปเรียนอนุบาล ถ้าเกิดหยุดส่งไปอยู่เนิสเซอรี่นี้ ยังจะส่งลูกไปอยู่กับเนิร์สเสาร์ อาทิตย์... เหวอออ ถ้าพ่อแม่เด็กคิดได้แค่นี้ ก็เป็นความโชคไม่ดีของเด็ก ไม่สามารถแนะนำออกความเห็นได้ ถ้าพ่อแม่เด็กเข้าข้างตัวเงอกับเหตุผลที่ไม่สำคัญอะไรเลย... ลูกตัวเองเสียเด็กไปแล้วค่ะ ความทรงจำนี้มันฝังอยู่ในหัวสมอง และอาจเปลี่ยนนิสัยเขาให้มีความชอบใกล้ชิดผู้ชาย โดยที่เขาไม่รู้ด้วยว่าทำไม แก้ไขมีตกหล่น แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 07:19:37 จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 07:18:26

ความคิดเห็นที่ 33 ทั้งคุณแม่และคุณพ่อใจดีและมองโลกในแง่ดีเกินไปแล้ว วันก่อนยังพึ่งอ่านอยู่เลยที่ว่าเด็ก 5 เดือน โดนละเมิดขนาดว่าต้องเย็บแผลถึง 40 เข็ม คุณแม่และคุณพ่อไม่กลัวว่าลูกจะโดนแบบนั้นบ้างหรือค่ะ ถ้าเป็นบ้านดิฉัน (ย้ำ! บ้านดิฉัน) ไอ้ครูเวรคนนั้นมันจมกองเลือดไปแล้วค่ะ คือ ตั้งแต่รู้ว่าใครแตะต้องลูกแบบนั้น สามีดิฉันตามล่ากุดหัวมันแน่นอน คุณแม่ย่ามใจมากๆ ที่ยังให้ลูกไปอีก ต่อให้มันไม่ได้ถอดกางเกงในลูกสาวคุณแม่ ต่อให้มันไม่ได้ถอดกางเกงในมัน แต่...มันแตะต้องลูกสาวคุณนะค่ะ แค่นี้มันก็เป็นความผิดทางกฏหมายแล้วด้วยซ้ำ ทำไมยังปล่อยไป ยังคิดว่าไม่มีอะไร ลูกสาวคุณยังเล็กเกินกว่าจะปกป้องตัวเองได้ ถ้าพ่อไม่สนใจจะปกป้องลูก คุณเป็นแม่ค่ะ  คุณต้องทำ เพราะถ้ามีอะไรเกิดขึ้นแล้วละก็ คุณนั่นแหละที่จะเสียใจไปตลอดชีวิต อ่านแล้วสติแตกพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกเลยทีเดียว แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 07:26:36 จากคุณ : soulfighter เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 07:25:47

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องจริงรึเปล่า จขกท ลูกถูกกระทำ ยังจะปล่อยให้ไปอีกเนี่ยนะ เอาไรคิด จากคุณ : lovelypam เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 07:32:50

ความคิดเห็นที่ 35 เป็นเราไม่ให้เอาลูกไปที่นั่นอีก ย้ายออกเลย และควรแจ้งความเอาเรื่องด้วย หากคุณปล่อยไว้เผลอๆจะมีเด็กอีกกี่คนที่ตกเป็นเหยื่อ อันตรายมากๆ !!! คุณเป็นพ่อแม่ของเด็กควรปกป้องเด็ก และรักษาสิทธิของเด็กมากกว่านี้ ขั้นแรกออกจากที่นั่นซะ... เป็นห่วงเด็กๆจริงๆ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 07:50:25 จากคุณ : StarInDark เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 07:49:57

ความคิดเห็นที่ 36 อย่าให้ลูกไปเจอคนอย่างนั้นอีกเลยคะ คุณแม่รู้แล้วว่าเค้าถูกล่วงละเมิดจนเจ็บ แต่ยังส่งลูกให้ไปอยู่ใกล้คนแบบนั้นอีก เหตุผลอะไรมันไม่มากพอหรอกค่ะ ดิฉันไม่กล้าบอกให้คุณแจ้งความเพราะแค่เอาลูกออกจากเดย์แคร์คุณยังไม่ทำเลย เป็นห่วงและกลุ้มใจอย่างเดียวคงไม่พอค่ะ คุณแม่คงต้องเอาลูกออกจากสถานการณ์อย่างนั้นด้วยนะคะ เมื่อพ่อพึ่งไม่ได้ แม่ก็ต้องเป็นคนช่วยเหลือลูกเองนะคะ น่าจะพาลูกไปพบแพทย์ด้วยนะคะ ไม่รู้ว่าผู้ชายโรคจิตทำร้ายลูกคุณถึงขั้นไหน คุณก็ไม่แน่ใจ แพทย์จะได้ตรวจรักษาได้ถูก พบแพทย์เค้าอาจจะให้คำแนะนำคุณถูกด้วยว่าต้องพูดปรับความเข้าใจยังไงให้จิตใจลูกไม่บอบช้ำ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 08:03:00 จากคุณ : ต (โตช้าแก่เร็ว) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 07:53:29

ความคิดเห็นที่ 37 พ่อ แม่ มีหน้าที่ปกป้อง ดูแลลูกจากสิ่งอันตราย แต่นี่คุณยังจะส่งเค้าเข้าไปในนั่้นอีก เข้าใจนะคะ ว่ากลัวจะกระทบกระเทือนด้านจิตใจ แต่คิดว่า ควรแจ้งความและแจ้งเจ้าของโรงเรียน เพื่อไม่ให้เขาไปทำแบบนี้กับใครอีก ส่วนเด็กควรพาไปตรวจร่างกายเพราะน้องบอกว่าเจ็บไม่ใช่เหรอคะ และปรึกษานักจิตวิทยาเด็กดู ว่าเด็กคิดอะไรยังไง และเราจะมีวิธีจัดการกับเรืาองนี้อย่างไรดีไหมคะ จากคุณ : Tommyrot เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:00:17

ความคิดเห็นที่ 38 เพราะแบบนี้ คนผิดคนเลวในสังวคมจึงยังมีอยู่เกลื่อน เพราะมันได้ใจไง ที่ผ่านมาเราว่าไม่ใช่แค่ลูกจขกทหรอกที่โดน ไม่รู้เด็กกี่คนแล้ว แต่คงไม่มีใครเอาเรื่อง มันเลยกล้าทำซ้ำๆ เห็นแก่สังคมและประเทศชาติ เอาผิดคนเลวๆ จะทำได้ไหมหนอ จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:18:22

ความคิดเห็นที่ 39 คุณแม่ไม่คิดจะจัดการอะไรให้ดีไปกว่านี้เหรอคะ ? จากคุณ : ป้าแมงฯ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:19:18

ความคิดเห็นที่ 40 ทำไมต้องเกรงใจ คิดถึงจิตใจของคนอื่น คนที่คุณควรคิดถึงมากที่สุดคือ ลูก อนาคตของแกจะเป็นอย่างไงคะ แล้วแกจะลืมได้อย่างไงถ้ายังเจอผู้ชายคนนั้นอยู่ และยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิม ๆ แถมคุณครู่แต่ละคน ก็ไม่มีการรับผิดชอบ หรือไม่มีปัญญาจะช่วยอะไรได้เลย ขอส่งเสริมความคิดเห็นของ คคห อื่นคะ เด็กบางคนจำได้คะ ยิ่งเหตุการณ์มันเกิดขึ้นหลายครั้งและนานอย่างนี้ จากคุณ : Malaim (MalaiM) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:27:10

ความคิดเห็นที่ 41 น่าจะพาลูกไปตรวจร่างกายค่ะ และเอาผิดกับคนทำ จะได้ไม่ไปสร้างตราบาปในใจ ให้เด็กคนอื่น ๆ ได้อีก คนเลวแบบนี้ไม่ควรที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับเด็กที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสา อย่าพาไปอีกเลยค่ะ เท่าที่อ่านกลายเป็นว่าลูกรุ้สึกว่าตัวเองผิดปกติ ครูเลยไม่เล่นด้วย ขอภาวนาให้น้องไม่มีความทรงจำตรงนี้ติดตัวไปค่ะ เด็กบางคนจำอะไรต่ออะไรได้มากกว่าที่เราคิด บางครั้งเหตุการณ์ในวัยเด็กที่เราเข้า รพ. ตอนเล็ก ๆ ยังแว่บผ่านเข้ามาในหัวเราเลย ก็เลยคิดว่าคงมีบางช่วงที่เด็กจะมีความทรงจำอยู่บ้าง อาจจะได้ไม่ทั้งหมด จากคุณ : คนสวยเมืองนนท์ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:30:10

ความคิดเห็นที่ 42 พาน้องไปตรวจร่างกายโดยด่วนก่อนเลยดีกว่าไหมค่ะ จากคุณ : ocple13 เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:36:07

ความคิดเห็นที่ 43 ขอโทษนะคะ อยากบอกว่า ช่างหัวพ่อมันค่ะ  ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ................... ถ้าเป็นเรา สอบถามได้ข้อมูลขนาดนี้แล้ว เราจะ - งดส่งลูกไปที่เดิม - แจ้งให้ผู้ปกครองทุกท่านได้รับทราบ ลูกคนอื่นอาจไม่เล่าให้พ่อแม่ฟังเหมือนลูกเรา ถือว่า สงสารบ้านอื่นด้วย เพราะถ้าทำกับลูกเรา ก็ต้องทำกับเด็กบ้านอื่นด้วย และยังจะมีเด็กบ้านอื่นที่เข้ามาใหม่อีกด้วย ถือว่า บอกไปเค้าจะเชื่อ/ไม่เชื่อแล้วแต่ - แจ้งความค่ะ เท่าที่เคยเจอเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศในวัยเยาว์ พบว่า เกือบทุกคนจำความได้ แต่มารู้ว่าอะไรเป็นอะไรชัดเจนภายหลัง และหลายๆคนมีความทรงจำที่ฝังลึก และส่งผลต่อจิตใจในภายหลังได้ ในรูปแบบที่แตกต่างกัน เป็นกำลังใจให้นะคะ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 08:45:01 จากคุณ : AKTIS เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:40:13

ความคิดเห็นที่ 44 เราเป็นคุณ จะขอเล่นสามีคุณก่อนละ ลูกบอกอะไรยังไม่เชื่อ จะรอให้เหตุการณ์ร้ายแรงมากกว่านี้เกิดขึ้นก่อนรึไง ถึงจะเชื่อ คุยกับลูกอีกครั้งนะ อัดเสียงหรือวีดีโอไว้ด้วย จากนั้นเข้าแจ้งความ เอาไอ้เลวนั่นเข้าคุก หรือสั่งสอนให้หลาบจำ ว่าทีหลังอย่าทำเลวๆแบบนี้อีก ถ้ามันอยากนัก ซ่องเยอะแยะทำไมไม่ไป ทำไมต้องมาทำกับเด็กตัวแค่นี้ให้มีตราบาปด้วย ที่สำคัญ มีเรื่องแบบนี้กับลูกตัวเอง ทำไมคุณพ่อคุณแม่ถึงได้ทนได้ โดยเฉพาะคุณพ่อ เป็นเราน่ะเหรอ ไอ้เลวนั่นหยอดน้ำข้าวต้มไปแล้ว ไม่มาตั้งกระทู้ถามแบบนี้หรอก จากคุณ : แม่น้องเบนส์ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:41:32

ความคิดเห็นที่ 45 แจ้งจับมันเลย ไอ้พวกจิตไม่ปรกติพวกนี้ หาหลักฐานมัดตัว แล้วแจ้งจับเลย จากคุณ : ไม่ผ่านการตรวจสอบ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:42:33

ความคิดเห็นที่ 46 ไม่ประหลาดใจที่ลูกคุณโดนแบบนี้ เพราะมีพ่อแม่แบบคุณนั่นเอง ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเจอพ่อแม่แบบนี้ คนงานก่อสร้าง ถ้าเค้ารู้ว่าลูกโดนล่วงเกินทางเพศ เค้ายังพาลูกไปแจ้งความ แจ้งมูลนิธิปวีณา แต่นี่ ..ทำเหมือนลูกหกล้ม แค่กลัวลูกจะจำได้ กลัวลูกจะเป็นแผลเป็น ..คนหรือเปล่า อยากแจ้งความจับคุณและสามีจริงๆ ค่ะ ..เลวหรือโง่ ใกล้กันจนแยกไม่ถูก จากคุณ : JNOY เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 08:52:56

ความคิดเห็นที่ 47 ถ้าเป็นเรานะ ที่นั่นอ่ะ ระเบิดลงตั้งแต่วันแรกที่ลูกบอกแล้วล่ะ เพราะเด็ก ๆ น่ะ โกหก ไม่เป็นหรอก แล้วจะไม่สนใจด้วยว่าสามีจะเชื่อรึเปล่า โดยเฉพาะ  ครูผู้ชาย  จะเอาให้หนักเลย อย่าหวังว่าจะมาก่อกรรมทำชั่วกับเด็กคนไหนได้อีก ถ้ามันสร้างตราบาปให้เด็ก เราก็จะสร้างรอยจารึกไว้ให้มันจำเหมือนกัน เราจะไม่ให้ลูกไปเหยียบที่นั่นอีก พยายามหาสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ให้ลูกลืม ๆ ไปซะ เคยมีคนตั้งกระทู้ในชานเรือนนี่ล่ะ ที่ถามประมาณว่า ความจำในวัยเด็กย้อนกลับไปได้ที่สุดเมื่อไหร่ หรือ อะไรทำนองนี้ รู้สึกว่า เจ้าของกระทู้ เค้าจะจำเรื่องราวของตัวเองได้ตั้งแต่ตอน 2 ขวบ ส่วนเราจำได้ช่วง 3 ขวบกว่า ๆ คุณก็ลองคิดเอา  ถ้ายังเอาลูกไปฝากที่นั่น มันจะเป็น ตราบาป กับเค้ามั้ย จริงอยู่ตอนนี้เค้าอาจจะไม่ทราบว่าพฤติกรรมแบบนั้น คืออะไร แต่ถ้าโตไปเป็นผู้ใหญ่ แล้วยังจำเรื่องราวนี้ได้ ก็สามารถปะติดปะต่อได้อยู่ดีนั่นล่ะ จากคุณ : แม่โอ๋เรนเจอร์ (NooPeeYa) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:01:40

ความคิดเห็นที่ 48 ไม่เข้าใจค่ะ ทำยังคุณยังหล้าส่งลูกไปที่นรกๆ แบบนั้นอีก ตั้งแต่สงสัยแล้วว่าลูกจะโดนละเมิด จากคุณ : PP-จัง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:04:17

ความคิดเห็นที่ 49 เด็กจำได้แน่ๆ ค่ะ....ถึงจะเลือนลางในความคิด วันนึงพอเค้าโตมาพอจะรู้เรื่อง เค้าจะนึกออกเองว่าโดนอะไรมาบ้าง.... ถ้าไม่รีบแก้....ระวังจะเป็นโรคจิตตอนโตนะคะ ควรจะเอาออกมาจากที่นั่นได้แล้ว แจ้งคงแจ้งความอะไรก็ว่าไป ถ้าไม่แจ้งเอาความ ไปบอก ตร. หรือเตือนคนอื่นๆ ก็ดีนะ ถ้าไม่อยากให้เด็กคนอื่นโดนเหมือนลูกสาวคุณอะ อ่อ..พ่อแม่ มีหน้าที่สร้างความมั่นใจให้ลูกในทางที่ถูกนะคะ  อย่างเค้าไม่ได้กลับไปเนริสอันเก่า หรือไม่ได้เล่นกับครูผู้ชาย ไม่ควรจะทำให้เค้าหมดความมั่นใจ รู้สึกว่า ไม่มีคนรักเค้านะ....ควรจะอธิบายให้เด็กเข้าใจด้วย กรปกป้องลูก สร้างความมั่นใจให้เค้าในแบบที่คุณทำอยู่ ส่งกลับไปเนริส เก็บเรื่องเอาไว้เงียบๆ ไม่ใช่ทางออกที่ดี อย่างน้อย คุณสองคนก็ร่วมกันสร้างตราบาปให้ลูกตัวเอง และต่อไปอาจจะลูกคนอื่นที่หลงเข้าไปด้วย แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 09:14:39 จากคุณ : กุ๊ดจัง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:09:14

ความคิดเห็นที่ 50 เราคงไม่เอาลูกไปเรียนอีก ถึงแม้ว่าจะแค่ระแคะระคายก็ตาม ทำไมคุณถึงเอาลูกไปอีกคะ แค่สามีไม่เชื่อกับลูกติดครูผู้ชาย เลิกเถอะค่ะ ถ้าเป็นไปได้ช่วบบอก ผปค คนอื่นก็ดีนะคะ เราไม่อยากให้เด็กอื่นได้รับรู้เรื่องเลวทรามอย่างนี้ค่ะ จากคุณ : แม่มดหมวกดำ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:17:04

ความคิดเห็นที่ 51 ถ้าเป็นเราจะรีบเอาลูกออกไปเลย ไม่ปล่อยให้ลูกเจอครูชั่วๆ อีก ลูกคุณอาจเสียใจที่ไม่ได้ไปที่นั้นอีกตามประสาเด็กๆ แต่ถ้าวันหนึ่งลูกคุณโตขึ้นมา เขาจะคิดยังไงละคะ แนะนำให้แจ้งความไปเลยนะคะ (เห็นด้วยกับ กท.11) เอาเรื่องให้ถึงที่สุดไปเลยคะ แล้วถ้าเป็นไปได้ อยากให้บอกคุณแม่ของเพื่อนลูกสาว จขกท ในเนิร์สเซอรี่ด้วย กลัวว่าจะไปทำกับลูกสาวคนอื่นด้วย... เป็นกำลังใจให้ จขกท นะคะ (สู้เพื่อลูก) จากคุณ : Zbee เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:23:33

ความคิดเห็นที่ 53 เป็นลูกแม่......ป่านนี้ไอ้นั่น...อยู่ในคุกไปแล้ว  หรือไม่ก็คางเหลืองหยอดน้ำข้าวต้ม พะงาบ ๆ แล้ว แค่ลูกรู้สึกแย่กับเพื่อน....แม่ก็เครียดแล้ว   นี่โดนซะแบบนั้น   คุณสามี,  คุณ  ..........ใจเย็นมากๆ ค่ะ   ให้ลูก ออกมาเถอะ  แล้ว ไอ้คุณสามีเนี่ย  จัดชุดใหญ่ให้ไปเลย  ลูกตัวเองนะ   ไม่ห่วงก็หย่ามันไปเลย  ไปส่งลูกทุกวัน ไม่เคยอยู่คอยดู ลูกอยู่กับใคร  ใครดูแล เอาแค่มีหน้าที่ส่งก็ส่ง..........เฮ้อ................ ปัญหาโลกแตกมากนะ สำหรับเรา เรื่องนี้ .............เฮ้อ..............สงสารน้องจัง........... จากคุณ : momnew1 เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:27:44

ความคิดเห็นที่ 55 คุณ ต้องยืนหยัดปกป้องสิทธิ์ของลูกตัวเอง ไม่ว่าใครจะว่ายังไง ควรเชื่อสัญชาติญาณความเป็นแม่ค่ะ... พ่อก็คิดแบบพ่อ ครูก็คิดแบบครู ลูกยังเล็ก ถ้าพ่อไม่ปกป้อง ครูมัวแต่กลัวความซวยจะมาถึง กลัวธุรกิจจะพัง แม่กลัวสามี แม่กลัวครู พ่อแม่กลัวเสียชื่อเสียง แล้วใครจะปกป้องลูก แล้ว...จำเป็นแค่ไหน ถึงต้องทำงานกันทั้ง 2 คน 7 วันต่อสัปดาห์เลย อันนี้ ไม่ได้กวนนะคะ  เข้าใจว่าแต่ละคน มีความจำเป็๋นไม่เหมือนกัน แต่อาจจะลองนึกดู ว่าควรผลัดกันหยุดหรืออะไรบ้างไหม เก็บลูกไว้ใกล้ๆ ตัว สักสัปดาห์ละ วันสองวันบ้างจะดีไหม....ไม่ควรปล่อยให้เค้าโตมาแบบให้คนอื่นเลี้ยง 7 วันต่อสัปดาห์แบบนี้นะคะ  ณ จุดนึง บางอย่างอาจจะสายเกินไป.... ตอนนี้ เกือบแล้วล่ะ ถ้ายังไม่รีบแก้ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 09:34:17 จากคุณ : กุ๊ดจัง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:31:02

ความคิดเห็นที่ 56 54 เราช่วยไป 1 แล้วนะ จากคุณ : แม่น้องเบนส์ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:31:51

ความคิดเห็นที่ 57 ลูกโดนขนาดนี้ยังให้ลูกกลับไปอีก แย่มาก เป็นพ่อแม่ประสาอะไรไม่ปกป้องลูก แถมยังไม่เอาเรื่องมันอีก เชื่อมั่นในตัวเองหน่อย ถ้าเป็นลูกเรานะ เจอศาลเตี้ยแน่ ไม่ต้องไปสนใจป้าพี่เลี้ยง 2 คนนั่นแล้ว ออกมาเลยคะ  ออกมาให้ห่าง อ่านแล้วปี๊ดทั้งคุณพ่อ คุณแม่เลยค่ะ ขอโทษนะคะที่ว่า แต่เป็นห่วงลูกสาวคุณแทนเลยคะ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 09:33:19 จากคุณ : Fairybox เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:31:57

ความคิดเห็นที่ 58 กดไปละ 1 จากคุณ : กุ๊ดจัง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:32:31

ความคิดเห็นที่ 60 เฮ้อ...........ในใจเราคิดว่าจะค่อยๆให้ลูกเฟดตัวออก มา ไม่ให้เค้ารู้สึกว่าผิดปกติ เลยคิดว่าจะให้ไปอีกอาทิตย์ แต่มาคิดแล้วมาจะไม่ให้ไปอีก แต่คุยกับสามีแล้ว เค้าก็ยังยืนยันว่าจะเอาลูกไปที่นั่นอีก ต้องคุยกันอีกหลายรอบแน่ๆ เค้าบอกว่าวันธรรมดาคนอยู่น้อย เสาร์อาทิตย์คนอยู่เยอะ ครูก็รับปากแล้วว่าจะดูแลให้ เราก็บอกไปว่าไม่อยากให้เค้าเจอคนที่นั่นอีก เผื่อลูกจะได้ไม่จำเหตุการณ์ต่างๆได้ ตอนที่ไปคุยกับครูผู้หญิง พอเกิดเหตุการณ์นี้ เค้าบอกว่าจะไม่รับเด็กวันธรรมดาแล้ว เพราะเค้าไม่ได้ดูแลเอง จะรับแต่เสาร์อาทิตย์เพราะเค้าดูแลได้ เราเลยคิดว่าจะไม่แจ้งความ หวังว่าเหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิดกับเด็กคนอื่นๆอีก ถ้ามีคนเยอะๆก็คงไม่มีอะไร แต่เราได้อัดคลิปวีดีโอ+คลิปเสียงตอนที่เราคุยกับลูกไว้ด้วย (แล้วก็ได้เปิดให้ครูผู้หญิงฟังแล้ว เค้าก็คงกลัวมีปัญหาเหมือนกัน) คือถ้ามีอะไรก็คงใช้เป็นหลักฐานแจ้งความได้ สาเหตุที่ต้องเอา ลูกไปเนิร์ส เพราะทำงานทั้ง 2 คนค่ะ สามีไม่ถูกกับแม่เรา เลยไม่ยอมให้ยายเลี้ยงหลาน พยายามเอาลูกออกไปข้างนอกตลอด เพื่อที่หลานจะไม่ได้คลุกคลีกับยาย คือเค้าจะไว้ใจคนอื่นมากกว่ายายแท้ๆของหลานอีกค่ะ เรา สอนลูกตลอดตั้งแต่เค้าเริ่มพูดคุยรู้เรื่อง ว่าจิ๊มิ๊เป็นของสำคัญของหนู ห้ามให้คนอื่นจับ ห้ามให้คนอื่นเห็น เดี๋ยวคนไม่ดีจะมาทำร้าย พ่อกับแม่ก็ไม่จับ แต่จะทำความสะอาดให้ตอนอาบน้ำนะ เค้าก็รับรู้ เวลาถามว่าคนอื่นจับได้ไหม เค้าก็บอกว่าไม่ได้ แล้วก้บอกว่าถ้ามีคนจับให้บอกไปเลยว่าห้ามจับ ไม่ให้เปิดเสื้อ เปิดพุงให้คนอื่นดู มันโป๊ เค้าจะรู้ว่าแต่งตัวแบบไหนโป๊ไม่โป๊ คือพยายามสอนตลอด แต่อย่างที่ว่าเด็กก็คือเด็ก คงไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ ที่ บอกว่าจะไม่คุยเรื่องนี้กับลูก คือจะไม่ถามเรื่องครูทำอะไรกับลูกแล้ว กลัวว่าจะไปทำให้เค้าจำน่ะค่ะ แต่ก็จะบอกเค้าว่าทำแบบนี้ไม่ดีนะ ก็ไม่รู้ว่าเราทำถูกหรือปล่าว ส่วนเรื่องน้องเป็นไข้ เป็นจากหลอดลมอักเสบค่ะ ไม่ได้เกิดจากเหตุการ์นี้ค่ะ จากคุณ : หัวอกแม่ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:35:45 A:182.53.112.213 X: TicketID:305030

ความคิดเห็นที่ 61 ขอโทษเถอะนะคะ ไม่ทราบว่าทำไมถึงปล่อยให้ไอ่สัตว์ในร่างครูนั้นลอยนวลอยู่ได้ ... เห็นมั้ยคะ ว่ามันไม่ได้กระทำกับลูกคุณคนเดียว แต่ยังจะกระทำกับเด็กคนอื่นๆด้วย ไม่รู้ว่ามีเด็กๆโดนกระทำแบบนี้มาแล้วกี่ราย และจะโดนอีกกี่รายถ้าปล่อยไป ดูเหมือนคุณตั้งกระทู้แค่อยากจะรู้ว่าเด็กวัยนี้มีความจำเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม ดิฉันตอบได้อย่างมั่นใจว่า "มี" แน่นอนค่ะ มีงานวิจัยมากมาย ที่ศึกษาแล้วว่า ความผิดปกติด้านพฤติกรรมทางเพศ(paraphilia) ไม่ว่าจะเป็นแบบชอบความรุนแรงหรือซาดิสม์ มาโซคิสต์ คือ ชอบเป็นผู้ถูกกระทำนั้น ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือ การถูกล่วงละเมิดในวัยเด็ก ตัวอย่าง  http://www.sciencedirect.com/science?_ob=ArticleURL&_udi=B6V7N-44XCWD9-8&_user=10&_coverDate=01%2F31%2F2002&_rdoc=1&_fmt=high&_orig=search&_origin=search&_sort=d&_docanchor=&view=c&_searchStrId=1627477776&_rerunOrigin=google&_acct=C000050221&_version=1&_urlVersion=0&_userid=10&md5=50a61429b1f394e0f3975e2a669ee74e&searchtype=a คุณอาจวางใจว่าตอนนี้ลูกสาวคุณยังไม่โดนล่วงละเมิดภายใน แต่แน่ใจได้อย่างไรคะ ว่าวันข้างหน้าจะไม่โดน? ดังนั้น ถ้าเห็นแก่ลูกของคุณและเด็กคนอื่นๆ ช่วยพาลูกไปตรวจร่างกายและแจ้งความเอาเรื่องไอ้เลวนี้ด้วยเถิดค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าลูกจะอายหรือเจ็บปวดอะไร เพราะการจะตรวจเด็กจะมีนักจิตวิทยาและจิตแพทย์เด็กคอยดูแล กรุณาเถิดนะคะ ... แก้ไขลิงค์ผิด แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 12:26:44 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 09:41:23 แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 09:39:56 จากคุณ : หมูเหมียว (หมูเหมียว) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:35:53

ความคิดเห็นที่ 62 ขอเพิ่มเติมนะคะ แนะนำให้คุณไปคุยกับพ่อแม่เด็กในเนิสที่เหลือด้วยนะคะ พ่อแม่เด็กพวกนั้นยังไม่รุ้ แต่คุณรุ้ คุณจะปิดเงียบไว้ทำไมคะ อย่าให้เด็กพวกนั้น อนาคตดับวูบ เลยนะคะ สงสารเด็ก ไม่เข้าคุณแม่จริงๆเลยคะ คิดอะไรกันแน่ เนิสไม่ได้มีที่นั่นที่เดียวในโลกนะคะ ไปง้อมันทำไม แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 09:41:58 จากคุณ : Fairybox เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:40:45

ความคิดเห็นที่ 63 ย้ำคิดย้ำทำแต่กลัวลูกจะจำได้อย่างเดียว ..แทนที่จะพยายามปกป้อง ดูแล ป้องกัน และ เยียวยาให้ถูกต้อง พ่อกับแม่แบบคุณนี่ทำได้แค่หนีปัญหาเท่านั้น ..พ่อก็เป็นประเภทไม่ใส่ใจ  แม่ก็เป็นประเภทกลัวสามี และ คิดแต่กวาดขยะไปซุกไว้ใต้พรม ลองสมมติว่าคุณเป็นลูกอายุ 3 ขวบ แล้วแม่คุณทำแบบคุณนี่ อยากถามว่าถ้าคุณโตขึ้น คุณจะรู้สึกโกรธและเกลียดพ่อแม่ตัวเองหรือไม่ ที่ "โง่" จนไม่สามารถปกป้องคุณได้ บอกตามตรงนะคะ เรื่องลูกถูกละเมิดทางเพศเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก เด็กมีบาดแผลแน่ค่ะ ถ้าไม่กลัวไปเลย ก็ชอบไปเลย ลูกคุณอยู่ในเคสชอบ ทีนี้ล่ะ ต่อไปเด็กอาจจะมีโอกาส "ยอม" ให้ถูกกระทำอีก และ เมื่อโตขึ้นเข้าวัยรุ่น ก็จะเห็นเรื่องทางเพศเป็นเรื่องธรรมดาที่คุ้นเคย ..แต่ก็ไม่เป็นไรใช่ไม๊คะ เพราะคุณกับสามีก็เห็นเป็นเรื่องธรรมดา จากคุณ : JNOY เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:48:42

ความคิดเห็นที่ 64 เป็นเราไม่เอาไปแล้วค่ะ ตั้งแต่แรกที่รู้ เราโกรธสามีคุณด้วย ลูกโดนขนาดนี้ยังไม่ค่อยเชื่ออีก จากคุณ : คุณเหมียว28 เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:52:24

ความคิดเห็นที่ 65 เราว่าคุณมีกระบวนการตัดสินใจแก้ปัญหาที่แย่มากนะ คุณ จขกท ต่อไปลูกคุณจะเอาเป็นแบบอย่าง โดนใครเอาเปรียบก็ยอม แค่ลืมๆมันไป จากคุณ : maewfoo (maewfoo) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:55:37

ความคิดเห็นที่ 66 ลองอ่านกระทู้นี้ดูนะคะ กำลังเป็นข่าวอยู่ http://hilight.kapook.com/view/55754 จากคุณ : Tu es parti sans moi เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 09:57:31

ความคิดเห็นที่ 67 คุณเป็นแม่ที่ไม่รับผิดชอบมากๆ ส่วนสามีคุณก็ยอมให้ลูกถูกล่วงละเมิดดีกว่าให้แม่ยายช่วยเลี้ยงเหรอ เห็นแก่ตัว สงสารลูกมากกกกกก คิดว่าคนที่ควรได้รับการต่อว่าน่าจะเป็นพ่อแม่ที่ปล่อยให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นแล้วยังมีอารมณ์มาเขียนชี้แจงเหตผลของตัวเอง. รับไม่ได้จริงๆค่ะ จากคุณ : Giant tako (Giant Tako) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:00:22

ความคิดเห็นที่ 68 เห็นด้วยกับหลายๆๆความเห็นนะค่ะ อ่านแล้วก็กังวล เพราะมีลุกสาวเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 10:06:41 จากคุณ : i-jeffs เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:04:36

ความคิดเห็นที่ 69 ยิ่งอ่านยิ่งงง ทำไมยังกล้าให้ลูกไปอีกอ่ะ เป็นเราไม่ว่าจะโดนกระทำข้างนอกหรือข้างใน ลูกจะจำได้หรือไม่ได้ก็แล้วแต่ เราไม่ยอมอ่ะลูกเราทั้งคนนะ ไม่ได้คลอดเค้าออกมาให้คนอื่นมาทำแบบนี้กับลูกเรา จากคุณ : j a r n i k เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:07:25

ความคิดเห็นที่ 70 เห็นจขกท.จะเอาลูกไปอีก อ่านหน่อยนะคะ   -------------------------------------------- คัดลอกจาก คู่มืออาสาสมัคร พิทักษ์สิทธิเด็กทางเพศ โดยองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมูลนิธิมิตรมวลเด็ก และศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก มูลนิธิเด็ก 2537 -------------------------------------------------------------------------------------- ผลของการล่วงเกินทางเพศต่อเด็ก จะรุนแรงเพียงใดขึ้นอยู่กับบุคลิกของเด็ก และประเภทของการถูกระทำ 1. กรณีที่ไม่รุนแรง เช่น การให้เด็กดูอวัยวะเพศ ใช้คำพูดลามกเล้าโลม ซึ่งอาจมีผลให้เด็กมีปัญหาด้านอารมณ์ และจิตใจชั่วครั้งชั่วคราว ได้แก่ - อาย กลัว สับสนตกใจง่าย - รู้สึกผิด กระวนกระวาย - กลัวถูกรังเกียจ - ระแวงผู้ใหญ่และคนแปลกหน้า - สนใจเรื่องเพศผิดปรกติ หรือชอบจับคลำอวัยวะเพศของผู้อื่น "บางครั้งเหตุการณ์ดังกล่าวดูเหมือนจะไม่มีผลอะไรต่อเด็ก แต่พ่อแม่หรือผู้ดูแลเด็กยังต้องคอยสังเกตอยู่เสมอ"   2. กรณีที่รุนแรงหากผู้ล่วงเกินทางเพศต่อเด็กเป็นพ่อ แม่ ญาติใกล้ชิด หรือเมื่อเด็กถูกกระทำโดยวิธีรุนแรง อาจมีผลต่อเด็กด้านต่างๆ ดังนี้ 2.1 ด้านร่างกาย - ร่างกายของเด็กอาจมีบาดแผล ฟกช้ำ เนื่องจากการถูกทำร้าย หรือมีปัญหาโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์ 2.2 ด้านอารมณ์ - สะท้อนจิตใจจนเป็นเหตุให้ฝันร้าย ซึมเศร้า กังวล กรีดร้อง หรือพยายามทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย - หวาดกลัวผู้ล่วงเกินทางเพศ หรือผู้ที่มีลักษณะคล้ายผู้ล่วงเกิน หรือบางกรณีก็อาจคลอเคลียกับบุคคลดังกล่าวนี้มากผิดปรกติ 2.3 พฤติกรรม - ซึมเศร้า ผลการเรียนเลวลง ก้าวร้าว หนีออกจากบ้าน - ไม่สามารถควบคุมระบบขับถ่าย หรือหวนกลับไปสู่พฤติกรรมต่ำกว่าวัยของตนอย่างกระทันหัน - เสพยาเสพติด - สำเร็จความใคร่ด้วยตนเองบ่อยผิดปรกติ - ยั่วยวนหรือสำส่อนทางเพศ จากการศึกษาพบว่า ผู้เคยถูกล่วงเกินทางเพศในวัยเด็ก มีแนวโน้มจะเป็นอาชญากรและอาชญากรทางเพศ โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย ส่วนเด็กผู้หญิงมีแนวโน้มไปค้าประเวณี "อาการของผลกระทบทางอารมณ์อาจเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์นั้นหลายปี เช่น เมื่อเด็กย่างเข้าวัยรุ่น หรือเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ได้" จากคุณ : AKTIS เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:10:46

ความคิดเห็นที่ 71 พ่อแม่รังแกฉัน จากคุณ : jena_naam เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:10:53

ความคิดเห็นที่ 72 อ่านแล้วใจสั่นค่ะ กว่าจะตั้งสติpost ได้ ยิ่งมาอ่านความเห็นล่าสุดของคุณ บอกตรงๆนะคะ อยากจะเฉดหัวสามีคุณจริงๆ (ถ้าเป็นสามีเรา ไปให้ห่างเลย) พ่ออะไรไม่คิดจะปกป้องลูก คิดอะไรง่ายไปหน่อยมั้ย มีเหตุผลอะไรที่ต้องไปที่นั่นอีก แถวบ้านคุณไม่มีที่อื่นแล้วเหรอ แล้วทำไมต้องเกลียดแม่ยายขนาดหลานไม่ให้เลี้ยงด้วย สุภาษิตเรียก เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง แต่งงานกับลูกเค้าแท้ๆ เราก็พ่อสามีเมื่อก่อนก็ไม่ค่อยถูกกันเพราะเค้าเป็นประเภทจีนจ๋า...ผู้ชายกุมอำนาจเด็ดขาด เราก็จีนแต่พ่อแม่เลี้ยงมาแบบให้คิดเอง เรายังไม่เคยกีดกันเลย มันคนละส่วนหลานเค้าๆ ก็รัก -----อย่าคิดว่าลูกคุณจำไม่ได้--------- เราไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังซักครั้งในชีวิต นี่เป็นครั้งแรกที่เราเล่า และเล่าเพราะเรื่องของคุณแหล่ะค่ะ ที่ทำให้เราอยากเล่าให้คุณได้รู้ (พ่อแม่เราก็ไม่เคยรู้) ตอนประมาณ อ.1-2 เนี่ยะ(จำปีแน่นอนไม่ได้ แต่จำได้ว่าอนุบาล เพราะบ้านที่อยู่ตอนนั้น กับสถานที่เล่น) แถวบ้านจะมีบ่อน้ำ แล้วแถวบ้านเรามีแต่เด็กผู้ชาย มีพี่ผู้ชายตรงข้ามบ้านกัน คิดว่าเค้าอายุเยอะกว่าเราน่าจะ 10 กว่าปีแล้ว เราก็ไปเล่นน้ำในบ่อน้ำกัน ใส่เสื้อผ้าอยู่บ้านลงไปเล่นเลย (พ่อแม่ทำงานทุกวัน) ในระหว่างเล่นน้ำอยู่ พี่ผู้ชายคนนี้เค้าก็เอามือมาจับจิ๊มิเรา แต่เรารู้สึกไม่ชอบ แล้วเราก็เลยเลิกเล่นแล้วกลับบ้านเลย หลังจากนั้นเรารู้สึกแปลกๆ กับคนนี้เรากลัวและไม่อยากให้เค้ามาจับของๆเรา เรื่องมีแค่นี้ค่ะ เค้าไม่ได้ทำอะไรเรามากไปกว่านี้เลย แต่เราจำได้ค่ะ ตอนนั้นเราก็บอกไม่ถูกหรอกค่ะว่า เค้าทำอะไรเรา เรารู้แต่ว่ามันไม่ปรกติ จนเราโต เราก็ยังจำได้และมารู้เรื่องทีหลังเองนี่แหล่ะ แต่มันจำได้เองค่ะ ไม่ต้องมีคนมาถามมาฝังให้เรา เราก็จำได้ อย่าถามว่าทำไมว่าจำได้ ไม่รู้ค่ะ ลูกคุณไม่เหมือนเรา เราไม่ชอบอาจจะเหมือนเพื่อนของลูกคุณอีก 2 คน แต่ลูกคุณชอบ นั่นยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ เราคงตอบเหมือนความเห็นหลายๆคนข้างบนแหล่ะค่ะ - ไม่ให้ลูกไปที่นั่นอีกเด็ดขาด (แม้พ่อมันจะปัญญาอ่อนให้ไปก็ตาม คงเห็นดีกันไปข้างนึง) - เอาเรื่องนี้แจ้งโรงเรียน รวมถึงผู้ปกครองคนอื่น เพราะเรื่องนี้ไม่ควรจบ เพราะเด็กคนอื่นหล่ะคะ (ของอย่างนี้มันเป็นสันดานค่ะ ไอ้ครูเฮงซวยนั่นมันไม่หยุดหรอก เพราะมันโรคจิต) - เคลียร์กับสามีเอาให้เด็ดขาดเลย (ความคิดประหลาดจริงๆ คนอะไร) เครียดแทนจริงๆ แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณสู้นะ อย่าหนีปัญหา อย่ายอมแพ้ และอย่าชะล่าใจจนปัญหามันบานปลายไปมากกว่านี้ ตัดไฟซะค่ะ จากคุณ : คุณแม่น้องเซ็น เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:12:06

ความคิดเห็นที่ 73 หลายๆ คห. แสดงความเห็นไปหมดแล้ว เราก็คิดเหมือนกันกับหลายๆ คห. แต่ที่เรากำลังคิดกังวลคือ ..... ลูกคุณรอดปลอดภัย(หรือป่าวไม่รู้ เพราะยังส่งไปอยู่อีก) แต่... ลูกคนอื่นละที่เขายังไม่รู้เรื่องนี้จะเป็นยังไง หรือชั่งหัวมัน ?? เพราะถูกปกปิดเอาไว้ อยากรู้จังเนิร์สที่ไหนจะได้เตือนคนอื่นให้ระวัง แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 10:19:05 จากคุณ : น้องเพ้นท์ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:13:54

ความคิดเห็นที่ 74 คุณแคร์คนรอบข้างมากเกินไป เกินจนการปกป้องลูกของคุณเองทำได้ไม่ดี ไม่ว่าจะแคร์สามีตัวเอง ที่ไม่ยอมให้ยายเลี้ยงแต่กลับไว้ใจคนอื่นมากกว่า แคร์ความรู้สึกของลูกที่กลัวจะไม่มีคนเล่นด้วย แต่การทีลูกคุณกลัว นั่นหมายถึงอันตรายที่จะเกิด อย่าชะล่าใจจนเหตุการณ์มันถลำมากกว่านี้ ตอนนี้เขาอาจจะโดนสัมผัส แต่ต่อไปใครจะไปรู้ว่าจะโดนอะไรมากกว่านี้ ทำไมไม่ย้ายเนอร์ฯ ที่ใหม่ทันที่ ทำไมต้องมีเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ เด็กๆ เขาปรับตัวได้เมื่ออยู่ในสถานที่ใหม่ๆ ก็เหมือนกับที่เราเอาเขามาฝากเนอร์ฯ ตอนแรกๆ ดีกว่าที่เขาจะต้องเจอเหตุการณ์(เลวร้าย)ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งเมื่อเจอเหตุการณ์ซ้ำอีก พาลจะจำลึกลงไปในจิตใจ  ซึงถ้าหากเสาร์-อาทิตย์ อาจจะฝากยายเลี้ยงก็ได้ ส่วนสามี เป็นเรา งานนี้มีแหลกกันไปข้างหนึ่ง ในทัศนคติการฝากคนอื่นเลี้ยง กับฝากยายแท้ๆ เลี้ยง จากคุณ : แม่น้องพีพี เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:17:47

ความคิดเห็นที่ 75 ขอโทษนะคะ ถ้าแรงไปในตอนแรกเพราะปี๊ดมาก อ่านทู้คุณแล้ว เราเครียดลงกระเพาะเลย คุณไม่รู้หรอกว่าลูกคุณจะจำได้หรือไม่ แต่อย่างน้อยการย้ายโรงเรียนก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าคุณได้พยายามทำหน้าที่แม่ในการปกป้องลูกอย่างจริงจัง ส่วนสามี ก็ถ้ามันจะคิดไม่เหมือนกับเราก็ช่างหัวมันสิ เข้าใจว่าคนเราก็มีครอบครัวที่ต่างกัน แต่เรื่องบางเรื่องใช้สัญชาตญาณของเราดีกว่า ถึงแม้ว่ามันจะทำให้ทะเลาะกันก็ตาม ถ้ามันจะดีกับลูกคุณเองน่ะนะ แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 54 19:31:57 จากคุณ : fahsaihome เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:19:55

ความคิดเห็นที่ 76 ทำไมไม่ปกป้องลูกคะ ยังส่งไปที่นั่นอีก จากคุณ : แม่น้องน้ำมนต์ (InfernoST) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:25:41

ความคิดเห็นที่ 77 ทำไมพ่อของลูกคุณถึงยอมให้ลูกไปเนิสอีกละค่ะ หรือต้องรอให้เกิดเหตุการณ์ร้ายๆกับลูกก่อนถึงจะยอมเปลี่ยนเนิสให้ลูก ไม่เข้าใจค่ะ ทำไมไม่ยอมปกป้องลูกตั้งแต่ตอนนี้ จากคุณ : PRIVATEX เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:27:15

ความคิดเห็นที่ 78 อ่านความคิดเห็นที่ 60 ที่คุณเจ้าของกระทู้เข้ามาตอบว่า " คุยกับสามีแล้ว เค้าก็ยังยืนยันว่าจะเอาลูกไปที่นั่นอีก "  ! โอ้ยังคิดให้ลูกไปที่นั่นอีกเหรอ !!!! และเท่าที่อ่านคนร้ายก็ยังคงลอยนวล ไม่มีการลงโทษชัดเจน ทำๆเหมือนเลี่ยงๆไป ยังคงวนเวียนอยู่ที่เดิม คำถามคือ แน่ใจแล้วเหรอสื่งที่คุณทำ...ได้ปกป้องลูกคุณเต็มที่แล้ว ** จากคุณ : StarInDark เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:28:18

ความคิดเห็นที่ 79 เอ่อ  ถ้าเป็นสามีเราครูผู้ชายคนนั้น มีเลือดตกยางออกไปบ้างเเล้วค่ะ  เจ้าของกระทู้กับสามีใจเย็นมากกกเกินไปนะคะ คราวหน้าน้องอาจไม่โชคดีอย่างนี้    เเจ้งตำรวจย้ายเนอสเถอะค่ะ จากคุณ : น้ำขิงกับเต้าฮวย เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:32:55

ความคิดเห็นที่ 80 เราจะพาลูกไปตรวจร่างกายให้ละเอียด แล้วไปแจ้งความเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด !!! ....โ ก ร ธ ม า ก.... จากคุณ : ชะเอมน้อยกลอยใจ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:39:54

ความคิดเห็นที่ 81 ลองคืดดูนะคะ     ทางเลือกแรก ปล่อยให้เรื่องค่อยๆเงียบไป เปลี่ยนเนิร์สใหม่ให้ลูก แล้วก็เฝ้าภาวนาให้ลูกลืมเรื่องเหล่านี้ ซึ่งเราคิดว่าตอนนี้ใจคุณเอนเอียงไปทางนี้ ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่มีใครให้คำปรึกษาหรือให้กำลังใจคุณ แม้แต่สามีซึ่งควรจะอยู่ข้างคุณก็กลับไม่ช่วยอะไร......แต่ ถ้าลูกไม่ลืมล่ะคะ หรืออย่างน้อยเราว่ามันมีอะไรฝังอยู่ใต้จิตสำนึกไปแล้ว วันใดวันหนึ่งที่ลูกรื้อฟื้นหรือถามเรื่องนี้กับคุณ ถามคุณว่า "แล้วตอนนั้นแม่ทำยังไง" คุณคิดว่าคำตอบของคุณจะทำให้คุณละอายใจหรือไม่     ทางเลือกที่สอง เอาผิดผู้ชายคนนั้นให้ถึงที่สุด ไม่ต้องกลัวค่ะ กระบวนการทางกฎหมายน่าจะช่วยให้ทุกอย่างกระจ่างขึ้น แม้น้องจะต้องตอบคำถามหรือต้องตรวจร่างกาย แต่กุมารแพทย์ / จิตแพทย์เด็ก มีวิธีคุยที่ทำให้น้องไม่กลัวหรือรู้สึกแย่นะคะ    ไม่ว่าคดีจะออกมาในรูปไหน สมมุติว่ามันผิดจริง มันก็จะได้รับโทษและลูกก็จะรู้ว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันเป็นคนเลว คนผิดถึงต้องติดคุก ลูกไม่ได้เป็นคนผิด   แต่ถ้าเรื่องพลิก สมมุติว่าเป็นการเข้าใจผิด เค้าไม่ได้ทำ เราก็สบายใจจริงไหมคะ ดีกว่าปล่อยให้เรื่องคาราคาซัง  และในความรู้สึกเรา เราก็รู้ว่าอย่างน้อยเราได้ปกป้องลูกถึงที่สุดแล้ว      อย่าอ่อนแอนะคะ ลูกคุณไม่มีใครแล้ว นอกจากคุณ สามีคุณ คนที่เค้าเชื่อใจที่สุดในโลก จากคุณ : Bubbaloo เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:47:35

ความคิดเห็นที่ 82 ไม่เข้าใจทำไมไม่แจ้งความ เอาไอ้นรกตัวนั้นเข้าคุกคะ?? คุณสองคนทำเหมือนกับว่าลูกคุณไปวิ่งหกล้มมาอย่างนั้นแหละ ได้แต่นั่งหวังว่าซักวันแผลจะหายไปเอง ขอโทษเถอะนะคะ เราว่าคุณสองคนไม่เหมาะจะเป็นพ่อแม่ใครเลย พ่อแท้โดนใครทำกับลูกสาวแบบนั้น ยังเฉย และยังเอาลูกไปส่งเนิสได้อีก ส่วนคุณซึ่งเป็นแม่ แทนที่จะออกมาปกป้องลูก กลับเกรงใจสามียิ่งกว่าอะไร อ้างเรื่องงาน อ้างเรื่องโน้นเรื่องนี้สารพัด คุณคงกลัวเสียหน้า และต้องการรักษาหน้าตัวเองมากกว่า เลยไม่อยากแจ้งความ ถ้าเป็นเรานะ ขอโทษเถอะ ใครมาทำกับลูกเราแบบนี้ ชาตินี้อย่าหวังว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายเลย จากคุณ : wanvisa เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:48:10

ความคิดเห็นที่ 83 เราไม่อยากพูดแรงๆ ค่ะ ก็เลยพูดอ้อมๆ ลูกจำได้แน่นอน ขนาดเราๆ ยังจำได้เลย ดีไม่ดี ลูกอาจจะคิดว่าทำไม พ่อกับแม่ไม่ปกป้องเค้า ทำไมปล่อยให้เค้าต้องประสบเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ ตั้งแต่เล็ก อาจจะทำให้ลูกเกลียดผู้ชาย มีปมด้อย หรือไม่ก็แก่แดด ไปเลยก็ได้ เราว่า ถ้าคุณควรจะทำอะไรซักอย่างนะ จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:54:51

ความคิดเห็นที่ 84 ไม่ต้องมาตอบกระทู้แล้วค่ะ พ่อแม่คู่นี้เค้าคิดได้แค่นี้ค่ะ  ลูกเค้า ไม่ใช่ลูกเรา คนอื่นมาช่วยห่วงช่วยแนะนำได้แค่นี้  ท่าทางเค้าไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรเท่าที่ควรเลย  จะไปยุ่งเรื่องในบ้านเค้ากันทำไมนี่ เจ้าของกระทู้ไม่ต้องมา post อะไรแกก็ได้นะคะ  ขี้เกียจอ่าน จะไปเจออะไรกันอีกมันก็เรื่องของบ้านคุณแล้ว เราไม่สนใจแล้วค่ะ จากคุณ : big black eyes เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 10:58:26

ความคิดเห็นที่ 85 รับฟังทุกความคิดเห็นค่ะ จะทำตามคำแนะนำในเรื่องที่ทำได้ แต่บางเรื่องก็ทำไม่ได้ จะเลือกทางที่ดีที่สุดที่จะกระทบกับลูกน้อยที่สุด ตอนนี้ยังคุยกับสามีไม่รู้เรื่องเลยค่ะ แต่เราก็ยืนยันไปแล้วว่าไม่ให้ลูกไปที่เดิมอีกแล้ว ที่ใหม่ที่ไปเป็นโรงเรียนค่ะไม่ได้เป็นเนิร์ส ทีนี้ขอถามเรื่องเกี่ยวกับลูกหน่อยนะคะว่า พอย้ายที่แล้ว หลังจากนี้ควรทำอย่างไรเพื่อที่จะให้เค้าไม่นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น การไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกเป็นทางที่ถูกแล้วหรือปล่าว ขอคำแนะนำด้วยค่ะ จากคุณ : หัวอกแม่ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:01:26 A:182.53.112.213 X: TicketID:305030

ความคิดเห็นที่ 86 คห.ที่ 81 อันแรก เราเป็นอย่างนั้นเลยล่ะค่ะ ไม่รู้จะคุยกับใคร ถึงต้องมาคุยในนี้ ไม่ใช่เรื่องว่าอายหรือไม่กล้าหรอกค่ะ แต่เรากลัวว่าวันหนึ่งเมื่อลูกโตขึ้น จะมีคนพูดให้เค้าได้ยินว่า เด็กคนนี้ไงที่โดนครูทำ XXXXX เรื่องเล่าจากปากต่อปาก มันมักจะใหญ่เกินจริงขึ้นเรื่อยๆ แล้วถ้าสมมติว่าเค้าจำเหตุการณ์ไม่ได้ พอมีคนมาพูด ความทรงจำมันก็ต้องย้อนกลับมา บอกครงๆเลยว่าเรื่องแจ้งความ เรายังคิดหนัก แต่เรื่องพบจิตแพทย์นี่ก็อยากให้เค้าคุยกับลูกดุว่าลุกรู้สึกอะไร ยังไง จากคุณ : หัวอกแม่ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:09:23 A:182.53.112.213 X: TicketID:305030

ความคิดเห็นที่ 87 คุณคงมีคำตอบในใจแล้วค่ะ เป็นเราหล่ะก็ ถ้าไอ้ครูนรกนั่นไม่เข้าคุก เรียกเราเป็นหมาได้เลย จากคุณ : pimluck เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:14:42

ความคิดเห็นที่ 88 เห็นด้วยกับหลายๆความคิดเห็นนะคะ ทำไมคุณถึงยอมถึงขนาดนี้คะไม่เข้าใจเลย ถ้าเป็นเรานะคะ ระเบิดที่เนิสซ์ตั้งแต่วันแรกที่ระแคะระคายแล้วคะ ไอ้ครูนั่นเราก็ไม่ปล่อยไว้หรอกคะ ผู้ปกครองของเด็กคนอื่นๆเราก็จะบอกให้รู้ให้หมด เค้าจะได้ไม่ต้องพาลูกเค้ามาที่นั่นอีก เราจะทำทุกทางให้ไอ้ครูนั่นได้รับผลที่มันทำกับลูกให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เราคงไม่ปล่อยไว้เหมือนคุณหรอกคะ เราก็ไม่อยากพูดแรงมาก ทั้งที่อยากพูดมากกว่านี้ ย้ำอีกสักครั้ง เราไม่เข้าใจครอบครัวของคุณจริงๆ คะ จากคุณ : แม่น้องบีบี เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:22:55

ความคิดเห็นที่ 89 เข้ามาอีกรอบ เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้ จขกท. ค่อยๆ คิดคะ แต่สิ่งที่เร็วที่สุดคือเอาลูกออกห่างมาก่อน ส่วนสามีชั่งเขาเถอะไม่ต้องสนใจอะไรแล้ว คุณคนเดียวตอนนี้คือปกป้องลูกให้มากที่สุด  เรื่องพบจิตแพทย์คุณแม่ลองคุยและปรึกษาดูคะ คุณหมอเขามีวิธีการของเขาคะ ยังดีกว่าไม่ทำอะไรจริงไหมคะ เรื่องแจ้งความถ้าคุณไม่อยากแจ้งความเอาผิดกับคนที่ทำคนเลวก็ลอยนวล ไม่รู้จะไปทำกับลูกหลานใครอีก เป็นห่วงมากๆ เลยคะ ถ้าคุณแจ้งความ ไม่ใช่แค่ปกป้องลูกคุณ แต่ยังช่วยอีกหลายๆ ให้ปลอดภัยกับคนจำพวกนี้นะคะ แล้วมันก็จะปลดทุกข์ในใจคุณได้ในอนาคตนะคะไม่ให้รู้สึกผิด แล้วให้กฏหมายจัดการเอง คิดเสียว่าเราทำดีที่สุดแล้ว ยกเว้นว่าคุณจะไม่รู้สึกอะไร หากกลัวกระทบหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะลูกปรึกษาจิตแพทย์ก็ได้คะ จะได้เครียดน้อยลง ยังไงรีบแก้ปัญหาให้เร็วที่สุดที่กว่าคะ สู้ๆ แต่ถ้าเป็นเรา ยกพวกถล่มเนิร์สนี้ไปนานแล้วคะ แจ้งความเอาคนเลวเข้าคุกจะได้ไม่มีโอกาสไปทำกับคนอื่นอีกแน่ๆ แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 11:27:15 จากคุณ : น้องเพ้นท์ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:23:23

ความคิดเห็นที่ 90 เป็นสิทธิของพ่อแม่ค่ีะ เราเข้าใจ แต่ขอเล่าอะไรนิดนึง.... เพื่อนผู้ชายเราคนนึง มันเป็นเกย์(ควีน) แต่หน้าตาท่าทางแมนมากๆ เป็นวิศวกรด้วย เรียกว่าคนนอกดูไม่รู้เลยว่ามันเป็นเกย์ มีอยู่หน มันเมาเลยเล่าให้ฟังว่า ตอนเด็กๆ สัก 3-4 ขวบ มันโดนคนงานผู้ชายในบ้าน บังคับให้อมไอ้นั่น.... ด้วยความที่เป็นเด็ก เลยไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง โตมาด้วยกัน เรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยมจนเด๋วนี้ มันมีแฟนเป็นผู้หญิงมาหลายคน แต่ในที่สุด มันก้อเลือกที่จะเป็นเกย์ ยืนยัน นั่งยันเลยว่า เด็กเค้าจำได้แน่นอน แต่ตอนนั้นเค้าอาจไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเค้า แต่โตมา เค้าต้องรู้แน่นอนค่ะ ++ เป็นกำลังให้คุณแม่นะคะ ขอให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้ เราเชื่อว่าคุณรักลูกไม่แพ้คนอื่น แน่ๆ  ++ จากคุณ : หมวยแก้มป่อง เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:24:12

ความคิดเห็นที่ 91 คุณต้องมีสัญชาติญาณที่จะปกป้องลูกสิคะ   เราต้องปกป้องลูก  ถ้าคุณไม่เอาเรื่องครูคนนั้น แล้วคุณทำเฉย ปล่อยให้มันย่ามใจทำกับเด็กคนอื่นๆ อีกเหรอคะ   แล้วถ้าลูกคุณเกิดจำความได้ขึ้นมา เค้าต้องคิดแน่ๆ ว่าคุณไม่ปกป้องเค้าเลย     ในอนาคต เิกิดน้องเจออะไรที่คล้ายๆกันแบบนี้อีก  เรื่องแบบนี้เคยเกิดมาแล้วไม่เห็น พ่อกับแม่ จะรู้สึกตกใจหรือว่าอะไรเลย  น้องก็อาจจะเห็นเป็นเรื่องปกติไป  โดนให้คนอื่นมาทำแบบนี้อีกเรื่อยๆ ถึงตอนนั้น พวกคุณจะิแย่นะคะ จากคุณ : Redtape เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:27:53

ความคิดเห็นที่ 92 อ่านถึง คห 60 เราว่านะ สามีคุณน่ากลัวกว่าครูชั่วนั่นอีก คุณก็เหลือเกิน ถ้าคุยกับสามีไม่รู้เรื่อง ยังอยากให้ลูกไปที่นั่นอีก ก็ไม่ต้องคุยแล้วหล่ะ เป็นเราคงหย่าไปแล้วค่ะ นี่อะไร ยังอยากให้ลูกไปเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก เหมือนส่งอ้อยเข้าปากช้างเลยค่ะ น่าสงสารลูกคุณจัง ที่พ่อก็แย่ แม่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ จากคุณ : Nuchy_Sand_A เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:28:08

ความคิดเห็นที่ 93 ขอโทษคะ อ่านแล้วปวดตับมาก ไม่รู้ว่าทำไมพวกคุณยังปล่อยปละไปแบบนี้ ขอโทษนะคะพ่อก็ปัญญาอ่อน มัวแต่มีทิฐิ แต่ไม่ห่วงลูกสาว ยังไงๆ ยายย่อมดูแลดีกว่า ถึงแม้ว่าไม่อยากให้ยายเลี้ยงจริงๆ ก็ควรหาที่ใหม่ให้ลูก ส่วนคุณดิฉันไม่แน่ใจ และไม่ทราบว่าคุณมีเหตุผลอะไรที่จะขัดใจสามีไม่ได้ ในเมื่อนี่เป็นเรื่องใหญ่มาก ซึ่งตัวคุณเองก็ทราบไม่งั้นคงไม่มาตั้งกระทู้ในนี้ แต่คุณก็ยังปล่อยไป และบอกไม่อยากมีเรื่องกับคนที่เหมือนสัตว์นรกที่ทำร้ายลูกสาวคุณ ถ้าคุณรักและห่วงลูกดังที่คุณเขียนมา คุณไม่ควรปล่อยและที่สำคัญลูกคุณควรถูกย้ายไปที่ใหม่ตั้งแต่ได้ยินลูกบอกคะ จากคุณ : นกโกะ (Rayn) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:34:41

ความคิดเห็นที่ 94 จากความเห็นที่ 86 เราว่าลองให้ลูกรับการตรวจก่อนดีมั๊ย  จะได้รู้ว่า โดนล่วงละเมิดหรือป่าว  ส่วนเรื่องแจ้งความไม่แจ้งความนั่นก็แล้วแต่คุณ ส่วนสภาวะจิตใจเด็ก  เขาคงตกใจ  ว่าเรื่องที่เขาทำ เป็นเรื่องผิดหรือเปล่า   ก็ค่อย ๆ อธิบายให้เขาฟัง เดี๋ยวนี้มีหนังสือ เกี่ยวกับ อวัยวะร่างกายแบบการ์ตูนแล้ว  ซื้อให้เขาอ่านประกอบกับอธิบายให้ฟัง  ว่าเป็นยังไง  และไม่ควรให้ใครมายุ่งอีกกับส่วนนั้นของเรา แต่ในกรณีไปพบจิตแพทย์เราว่า ลูกคุณยังไม่ถึงขั้นนั้น เพียงแค่เขา ไม่มีภาวะจิตใจ ที่เป็นคนเลือกว่า อันไหนดี อันไหนไม่ดี ควรทำ หรือไม่ควรทำ คุณเองและสามี ต้องหาเวลา และให้เวลากับน้องเขามากกว่านี้ **  แต่เราว่ายังดีนะ  ที่น้องเขาเล่าให้ฟัง ***  อย่างน้อยน้องก็เชื่อใจคุณ อย่าทำให้เขากลัว  เพราะเขายังไม่รู้ว่า โดนละเมิดคืออะไร  อย่าพูดเรื่องนี้บ่อย  ไม่นานอาจจะลืม  หรคือบางที แกอาจจะจำไปอีกนาน  อย่างน้อยแกก็ได้รู้แล้วว่า ห้ามมายุ่งกับส่วนนั้นของหนู คุณพ่อ กับคุณแม่จะโกธรหนูอีก...... จากคุณ : momnew1 เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:40:08

ความคิดเห็นที่ 95 เรามาสะดุดใจอีกทีกับข้อความตรงที่ว่า "พักหลังลูกชอบให้พ่อพาเข้านอน" แบบว่าไม่อยากคิดอกุศลนะ แต่เราว่าพ่อของลูกคุณเฉยชากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากไปและออกจะเห็นแก่ตัวไปหน่อยกับแม่ของคุณ คุณต้องเป็นหลักให้กับลูกแล้วหล่ะ แล้วก็แยกๆลูกออกจากสามีบ้าง แฟนเราอ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้มากนะ ตอนนี้เค้าเป็นคนอาบน้ำให้ลูกสาวแทนเราเพราะเรากำลังท้องลูกอีกคนอยู่ เรื่องส่วนนั้นของลูกเค้าจะไม่แตะเลยจะบอกให้เราทำความสะอาดให้ลูกแทน  เข้าใจว่าอยากให้พ่อกับลูกผูกพันธ์ แต่ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว เป็นเราคงไม่ไว้ใจให้เค้าปกป้องลูกต่อไปแน่นอน ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เราว่าคุณใจเย็นมากไปแล้วล่ะ จากคุณ : แล้วจะรักใครได้อีก เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:49:01

ความคิดเห็นที่ 96 อ่านกระทู้ตั้งแต่คุณจขกท.ยังตั้งไม่เสร็จแล้วแต่ยังไม่มีเวลาเขียนแต่อารมณ์ตอนที่อ่านนั้นบอกได้คำเดียวว่า โมโหคุณและสามีคุณมาก  เข้าใจว่าคุณมาตั้งกระทู้ในห้องนี้ก็เพื่อระบายและขอความเห็น ดิฉันจึงขอให้ความเห็นตามตรงเลยว่า   หากมองในหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อการปกป้องดูแลลูก คุณเป็นคุณแม่ที่อ่อนแอปกป้องลูกสาวคุณไม่ได้เลยส่วนสามีคุณเป็นพ่อที่ขาดความรับผิดชอบอย่างที่สุด เรื่องการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กถือเป็นเรื่องที่ใหญ่โตมากนะคะ ยิ่งในต่างประเทศนี่เป็นเรื่องที่ยอมกันไม่ได้เลยค่ะ ลูกสาวคุณถือว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศแล้วคุณยังใจเย็น ลังเลมีความคิดที่จะส่งลูกสาวไปให้ไอ้หื่นกามนั่นทำร้ายร่างกายและจิตใจอีก หากคุณเป็นแม่ที่ต้องการปกป้องลูกตัวเองจริงๆก็ไม่ควรนำลูกสาวไปไว้ที่เนิร์สนั่นอีกแล้ว แล้วก็ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความหรือแจ้งต่อทางองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ทำหน้าที่ปกป้องสตรีและเด็กได้แล้ว คุณสอนให้ลูกสาวรู้จักอวัยวะสงวนของหญิงนั้นเป็นเรื่องที่ดีแต่มันไม่ได้ช่วยลูกสาวปลอดภัยจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศเลยค่ะ สิ่งที่คุณต้องสอนเค้าคือสอนให้เค้ารู้ว่าการที่ไอ้ครูหื่นกามคนนั้นเอามือหรือองคชาติมาสัมผัสตรงของสวนเป็นเรื่องที่น่ากลัวและควรหลีกห่าง  ไม่ต้องกลัวเรื่องบาดแผลในใจหรอกค่ะ บาดแผลจะเกิดขึ้นอีกแน่ๆหากคุณส่งลูกกลับไปไว้ที่เนิร์สนั่นอีกทีนี้จะได้ทั้งบาดแผลทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างที่คุณกลัวแน่ๆ และคุณเองก็จะมีบาดแผลทางใจติดตัวไปตลอดชีวิตที่ไม่สามารถปกป้องลูกได้ เผลอๆลูกคุณโตขึ้นคิดเป็นเค้าอาจคิดว่าคนที่ทำร้ายเค้าไม่ใช่ใครหรอก พ่อแม่ฉันนี่เอง เป็นดิฉัน ดิฉันคิดนะหากมีพ่อแม่แบบคุณและสามีคุณเนี่ย ส่วนสามีคุณไม่ต้องพูดถึงเป็นพ่อที่ใช้ไม่ได้เลย ไม่มีความใส่ใจต่อความปลอดภัยของลูกตัวเอง แถมเป็นคนถือดียอมให้ลูกตัวเองถูกทำร้ายเพราะแรงเกลียดแม่ยายมากกว่า ดิฉันแนะว่าหากสามีคุณยังมีความคิดแบบเดิมอยู่ไม่ต้องไปขอความคิดเห็นแล้วค่ะ เราเป็นแม่ต้องปกป้องลูกก่อนเป็นอันดับแรก และหากมองในแง่ของสังคมภาพรวม คุณและสามีเป็นหนึ่งในตัวอย่างของคนไทยที่ไม่รู้จักปกป้องสิทธิของตัวเอง ลูกถูกทำร้ายแบบนี้ยังมาใจเย็นทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่ได้. และนี่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยเลยแหละคือคนไทยยังไม่ค่อยรู้จักปกป้องสิทธิของตนเอง.  เรื่องเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศแบบนี้อยู่เมืองนอกยังไงก็ต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายแน่นอน กฎหมายมีไว้เพื่อปกครองการอยู่ร่วมกันของคนในสังคมอย่างสันติ เมื่อมีคนหนึ่งทำผิดกฎหมายขึ้นมาคุณมีสิทธิเต็มที่ที่จะใช้กฎหมายนั้นจัดการกับคนคนนั้นได้ นอกจากจะเป็นการปกป้องลูกสาวคุณเองแล้วยังเป็นการปกป้องเด็กสาวคนอื่นที่อาจตกเป็นเหยื่อรายต่อไปจากไอ้หื่นกามนี่ด้วย คุณเองก็พูดไมใช่เหรอว่าไม่อยากให้เด็กคนอื่นต้องเจอแบบลูกสาวคุณอีก  ที่เขียนมาทั้งหมดเพราะเป็นห่วงและสงสารลูกสาวคุณค่ะในฐานะคนมีลูกสาวเหมือนกัน อย่ารีรออยู่เลยใช้กฎหมายปกป้องลูกของคุณเถอะค่ะ. แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 11:59:04 จากคุณ : Bunnie เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:50:07

ความคิดเห็นที่ 97 นั่นสิ........อ่านแล้วไม่เข้าใจว่าคุณพ่อ ทำไมใจเย็นจัง....... เป็นเรา คงไม่ให้ลูกไปเรียนที่นั้นอีกตั้งแต่วันแรกที่ได้ยินลูกพูด ถึงแม้จะยังไม่100% ก็เหอะ......หลังจากนั้นคงจะพยายามหาวิธีเอาผิดไอ้ครูคนนั้นให้ได้....โดยเร็วด้วย จากคุณ : mominam เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:52:48

ความคิดเห็นที่ 98 เด็กคือคนที่รับกรรม..เอาเรื่องครูชั่วให้ถึงที่สุด..หลังจากนั้นย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น..เด็กจะได้ไปเจอสังคมใหม่ ๆ  และไม่ต้องไปแคร์ปากชาวบ้านที่พูดถึงเรื่องนี้ จากคุณ : Hula A-u-MI GiRL เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 11:53:58

ความคิดเห็นที่ 99 ไม่ได้รักความรุนแรงนะครับ แต่จะกระทืบไอ้ครูผู้ชายคนนั้นถึงห้องพักโดยไม่ให้เด็ก ๆ คนอื่นได้เห็นความรุนแรงแน่นอน จากคุณ : theOldDignity (theOldDignity) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 12:00:52

ความคิดเห็นที่ 100 คุณจขกท คุณอย่าคิดแทนลูก สิ่งที่คุณต้องทำคือ ปกป้องเค้า จากเรื่องร้ายๆ โอเค เรื่องที่เกิดขึ้น คุณทำอะไรได้อีก อย่างที่บอก คุณแคร์ใครมากกว่ากัน พ่อ (สามีที่ไร้หัวคิด ) กับลูกที่อ่อนต่อโลก ช่างหัว พ่อ มันที่ไร้ความคิด เอาแต่ตัวเป็นใหญ่ จะให้ยายเลี้ยงก็รังเกียจ อย่างน้อยที่สุด อยู่กับยาย ก็ปลอดภัยกว่าไปอยู่ กับ อ้าย วิปริตที่รร. แค่นี้ ก็ยังตรองไม่เป็น เป็นพ่อคนได้ยังไง คุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง ก็ช่างมัน ไม่ต้องคุยกันแล้ว เลือกลูกก่อน บางครั้ง ผู้ชาย พวกนี้ เค้าไม่ยอมรับหรอกนะว่าเค้าคิดอะไรผิดในสายตาลูกเมีย ส่วนใหญ่ อีโก้จัด ต่อให้ ผิด ก็ยังตะเบงว่าชั้น ถูกไปนั่น สำหรับลูก คุยกับเค้า ตรงๆ ทำให้เค้ารู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้น มันไม่ดี ไม่มีผู้ใหญ่คนไหนที่ทำกับเด็กแบบนี้   แล้วที่สำคัญมากๆๆๆๆ  ต้องบอกให้เค้ารู้ว่า เค้าไม่ผิด เค้าไม่ได้ทำอะไรผิดเลย คนเลวมันเป็นผู้ใหญ่   แล้วไม่อยากให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นอีกกับเค้า คุยกับเค้า ชี้แจงให้เค้าเข้าใจ ไม่ต้องปิดบัง เค้าอาจจะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ถ้าเค้ารู้ว่าเรื่องไม่ถูกต้อง เค้าจะได้เพิ่มความระวังให้ต้วเองด้วย อีกอย่างความเข้าใจ อย่างที่หลายคนบอก เค้าไม่เข้าใจ แต่เมื่อโตขึ้น เค้าจะเข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นกับเค้า เค้าจะรู้เรื่องเวลานั้น ถ้าคุณไม่ทำอะไร เค้ารู้สึกว่า พ่อแม่ไม่น่าไว้ใจ เชื่อใจไม่ได้ อาจจะมีผลลัพธ์ที่ทำให้คุณเสียใจมากกว่านี้ ถ้าคุณได้ทำอะไรสักอย่างให้เค้า วันข้างหน้า เค้าจะรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรืองที่เลวร้าย แต่ในความเลวร้ายนั้น เค้ามีสิ่งที่เค้าเชื่อมั่นคือ รักของพ่อแม่ที่ปกป้อง และสู้เพื่อเค้า สำหรับการเอาเรื่อง แนะนำว่า อย่าปล่อยทิ้งไว้ อย่างคิดว่า ไม่เอาเรื่องเพราะว่ากลัวลูกจะอาย หรือว่า จำได้ จากคคห.นี้ "คห.ที่ 81 อันแรก เราเป็นอย่างนั้นเลยล่ะค่ะ ไม่รู้จะคุยกับใคร ถึงต้องมาคุยในนี้ ไม่ใช่เรื่องว่าอายหรือไม่กล้าหรอกค่ะ แต่เรากลัวว่าวันหนึ่งเมื่อลูกโตขึ้น จะมีคนพูดให้เค้าได้ยินว่า เด็กคนนี้ไงที่โดนครูทำ XXXXX เรื่องเล่าจากปากต่อปาก มันมักจะใหญ่เกินจริงขึ้นเรื่อยๆ แล้วถ้าสมมติว่าเค้าจำเหตุการณ์ไม่ได้ พอมีคนมาพูด ความทรงจำมันก็ต้องย้อนกลับมา " จำไว้ ถ้าเค้ามั่นคงทางอารมณ์เพียงพอเค้าจะยืนหยัดเพื่อตัวเองได้ด้วย และที่สำคัญ คุณต้องย้ำว่าเองว่า เรื่องนี้ เป็นความโชคร้ายของเค้า แต่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องอาย   ลูกจะอายทำไม ถ้าคุณบอกเค้าว่า ให้เค้ามั่นใจว่า เค้าไม่ทำอะไรที่น่าละอาย ไม่ได้ทำอะไรผิด ผู้ใหญ่ที่ทำอะไรกับเค้าตะหากต้องละอาย และพ่อแม่ที่ไม่ปกป้องลูก ก็ต้องยิ่งละอายใจตัวเอง เรือ่งจำได้แล้วไง เค้าจะจำได้แน่นอน แต่เค้าจะเข้าใจได้ด้วยว่า พ่อแม่ทำอะไรให้เค้าบ้าง เรื่องเพศเป็นที่เหมือนกับเป็นเรื่องที่ต้องปกปิดในสังคม แต่อย่าลืมว่ามันคือธรรมชาติ ควรมีวิถีทางที่ถูกต้อง ไม่ใช่ ปกปิดละอาย แล้วทำให้เรื่องที่ผิดกลายเป็นเรื่องถูก คิดใหม่ให้ถูกต้องดีกว่า แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 54 12:16:12 จากคุณ : วีทีอาร์ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 12:06:48

ความคิดเห็นที่ 101 คุณต้องปกป้องลูกของคุณจากความคิดงี่เง่าของ"ผู้ชายในบ้าน" ด้วยการย้ายลูกคุรไปจากนรก แล้วปกป้องลูกคุณจาก"นรกนอกบ้าน" ด้วยการลากคอมันเข้าตะรางค่ะ จากคุณ : จ้อย..ยย เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 12:12:58

ความคิดเห็นที่ 102 แสดงว่าคุณเกรงใจสามี? กลัวสามี? หรือกลัวมีปัญหากับสามี? ถึงได้ยอมตามใจสามี ส่งลูกกลับไปที่นั่นอีก  รักสามีมากกว่าลูก ?????? ทำไมถึงได้ยอมขนาดนั้น  ไม่เข้าใจเลย ทำไมไม่ให้ยายเลี้ยงให้ แค่ผู้ใหญ่ไม่ถูกกัน แล้วความซวยตกที่เด็ก สามีคุณบ้าหรือเปล่า จะให้ลูกถูกข่มขืนก่อนหรืองัยแล้วค่อยยอมรับว่าลูกมีปัญหา พิมพ์ไป ปรี๊ดไป ปรี๊ดดดดดด อ่านแล้วของขึ้น เป็นพ่อประเภทไหนกันแน่เนี่ย จากคุณ : พราวพิรุณ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 12:33:23

ความคิดเห็นที่ 103 อยากให้จขกท.ลองปรับเปลี่ยนความคิดของตัวคุณเองก่อนว่า ผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศไม่ควรอายต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเป็นผู้ถูกกระทำ ต้องเรียนรู้ว่าจะอยู่กับสิ่งนั้นได้อย่างไร ที่นี้ก็มาปรับวิธีใช้กับลูกของคุณ เราไม่รู้ว่าการถามลูกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นควรหรือไม่ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตเวช แต่สิ่งที่ควรทำต่อจากนี้ไปคือสอนลูกถึงวิธีการป้องกัน หลีกเลี่ยง จากเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก อธิบายให้เค้าทราบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่สิ่งที่ดี ควรหลีกเลี่ยง และหากเกิดเหตุการณ์คล้ายๆกันขึ้นควรทำอย่างไร เรื่องอื่นๆไม่ออกความเห็นล่ะกัน จากคุณ : lama89 เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 12:45:52

ความคิดเห็นที่ 104 คุณควรจะเอาเรื่องเนิร์สเซอรี่นี้ให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายคนนั้น เจ้าของ หรือใครๆที่มีหน้าที่รับผิดชอบอยู่ในนั้น และคุณควรจะแจ้งพ่อแม่เด็กคนอื่นๆด้วยว่า มีเรื่องราวแบบนี้ ไม่ต้องเล่าละเอียดขนาดโดนแหย่รูก็ได้ แค่เล่าว่ามีครูผู้ชายเปิดคลิปโป๊ให้เด็กๆดู แค่นั้น คิดว่าพ่อแม่ท่านอื่นๆ คงมีความคิดพอ ที่จะไม่ไปเนิร์สที่นั่นอีก อย่าปล่อยให้คนทำผิดได้อยู่ต่อไปแบบสบายๆเลยนะคะ ไม่อย่างงั้น พอลูกคุณย้ายออกไปแล้ว เค้าก็คงจะไปทำลูกของคนอื่นต่อไปอีก ขอร้องค่ะ จากคุณ : thanks giving เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 12:47:16

ความคิดเห็นที่ 105 ต้องดำเนินคดีนะครับ เค้าทำกับลูกคุณได้ ถ้าคุณปล่อยไป ก็จะเป็นภัยต่อเด็กคนอื่นๆ อีก คุณอยู่ในฐานะที่ช่วยป้องกันเรื่องนี้ไม่ให้ไปเกิดกับเด็กคนอื่นๆ ได้ ทำเถอะครับ เป็นหน้าที่ของพลเมืองดี ถ้าสามีพึ่งไม่ได้ คุณแม่ต้องยืนหยัดเพื่อลูกแล้วล่ะครับ นี่ไม่ใช่เรื่องเล้ฏ เป็นเรื่อซีเรียสมากๆ ไม่ต้องรอให้สามีคุณเข้าใจ ไม่เข้าใจก็อย่าเข้าใจ คุณเป็นแม่คุณต้องปกป้องลูกก่อน ถามว่า โตขึ้นลูกจะจำได้มั้ย?.... เสียใจนะครับ ต้องบอกว่า มันสายไปแล้ว ถึงเค้าจำไม่ได้ มันก็ฝังอยู่ในจิตสำนึกครับ ว่าครั้งนึงเค้าเคยถูกล่วงเกิน และจะส่งผลกับเค้าเมื่อเค้าโตเป็นผู้ใหญ่แน่นอน อันนี้ผมไม่ได้พูดเล่น หากเวลาผ่านไ และเค้ามีปัญหาเรื่องพัฒนาการ หรือเรื่องทางอารมณ์ ให้สงสัยได้เลยครับว่ามาจากเรื่องรี้ และอาจจะต้องใช้จิตแพทย์ช่วย จากคุณ : Baritone เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 12:48:17

ความคิดเห็นที่ 106 แค่นี้ยังคิดเองไม่ได้เหรอ ว่าควรทำไง???????? กรรมของเด็กมีพ่อแม่เยี่ยงนี้ จากคุณ : บ้านหน้าแบน เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 12:52:43

ความคิดเห็นที่ 107 โอ๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ชอบยายไม่ถูกกับยาย แต่เอาลูกสาวไปให้ผู้ชายคนอื่นปู้ยี้ปู้ยำได้ใช่มั้ยคะ ดีค่ะเจริญเลยค่ะ สงสารเด็กจริงๆ  โดนคนอื่นทำร้ายไม่พอ คนในครอบครัวยังทำร้ายซ้ำเข้าไปอีก จากคุณ : kubkew-kicky เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 12:56:03

ความคิดเห็นที่ 108 โง่ทั้งผัวทั้งเมีย จากคุณ : hunnypot เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 13:00:30

ความคิดเห็นที่ 109 อ่านกระทู้ไปด้วยใจสะท้านค่ะ สามีคุณใช้ไม่ได้ ไม่ปกป้องลูก ส่วนคุณเกรงสามีมาก เราไม่รู้ว่าภายในครอบครัวคุณเป็นอย่างไร แต่ในฐานะแม่คุณย่อมรู้ว่าต้องปกป้องลูกตัวเองยังไง ให้ลูกปลอดภัย เพราะบางสิ่งเราไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้  ขอให้คุณคิดอีกครั้ง เราเข้าใจว่าคุณต้องการที่ปรึกษา และทุกคห.ก็ให้ความเห็น และหนทางแล้ว อยู่ที่ว่าคุณจะใช้มันรึไม่ จากคุณ : mompeach เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 13:05:08

ความคิดเห็นที่ 110 ไม่เข้าใจพ่อจริงๆที่ ยอมได้ยังไงที่ลูกสาวโดนแบบนี้ ยังว่าเรียกได้ว่าพ่อคนอีกไหม ถ้าเป็นเรา พ่อแบบของลูกแบบนี้เราไม่เอาไม่สามารถปกป้องลูกสาวตัวเองได้ บอกอะไรก็ไม่เชื่อแบบนี้ บอกตรงๆ โมโหแทนค่ะ  ขอโทษด้วยนะค่ะ ถ้าแรงเกินไป โมโหจริงๆค่ะ จากคุณ : misschemistry เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 13:10:33

ความคิดเห็นที่ 111 เข้าใจความรู้สึก คุณแม่นะคะ ว่าห่วงความรู้สึกลูก แต่ควรจะให้คนทำได้รู้และหลาบจำนะคะ เค้าจะได้ไม่ไปทำกับเด็กคนอื่นอีก ถือว่าได้บุญด้วยค่ะ อีกอย่างที่กังวลแทนคือ คุณพ่อยังยืนยันจะให้ไปอีกเนี่ย น่าเป็นห่วงลูกสาวคุณมากค่ะ ที่มีพ่อไม่สนใจเรื่องใหญ่แบบนี้ เป็นเรา หัวพ่อมันแตกก่อนผู้ชายคนนั่นแน่ๆ ไม่ไว้ใจยาย แต่ไว้ใจคนอื่นเนี่ยนะ จากคุณ : Blackrose return เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 13:11:38

ความคิดเห็นที่ 112 ควรเอาทู้นี้ให้สามีอ่านค่ะ เค้ารักตัวเอง หรือรักลูกมากกว่ากัน อย่างแรกที่ต้องทำคือเปลี่ยนที่ฝากเลี้ยง จะให้แม่คุณเลี้ยง หรือโรงเรียนอื่นก็ได้ค่ะ อย่าเอาเหตุผลส่วนตัว ว่าทั้งคู่ทำงานหรือไม่ถูกกับคนนั้นคนนี้ มาเป็นเหตุผลให้ฝากเลี้ยงไม่ได้ จากคุณ : nating เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 13:14:04

ความคิดเห็นที่ 113 อ่านแล้วเครียดมากเลยค่ะ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้กันค่ะ ทำไมไม่เปลี่ยนเนส ไปเลย เนสมันมีที่เดียวหรือไงค่ะในเมืองไทย โอ้ย คุณใจเย็นได้ไงเนีย แค่เราอ่าน เรายังปรี๊ดแตกเลย สามีคุณใช่ไม่ได้เลย ขอบอกตามตรงนะค่ะ ถามจริง เค้ารักลูกกันบ้างหรือเปล่าเนี้ย ถึงให้ลูกไปเจอกับเหตุการณ์อย่างนี้อีก ไม่อยากจะบอกว่า คุณเป็นพ่อแม่ที่ซวยแตกมาก จากคุณ : และแล้วก็ถึงวันนี้ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 13:19:32

ความคิดเห็นที่ 114 สงสารเด็กจัง เจ็บแบบนั้น สงสัยคงโดนอะไรเข้าไปเรียบร้อยแล้ว พ่อแม่รักษาแต่หน้าตา แต่ไม่ได้รักษาใจลูก ปล่อยให้ลูกโดนกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากคุณ : ระงับจ่าย เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 13:38:18

ความคิดเห็นที่ 115 สามีไม่รู้สึกรู้สาเลยเหรอ  ที่ลูกถูกกระทำ  ถ้าเป็นพ่อเด็กคนอื่น รู้ว่าลูกเค้าโดนแบบนี้ เค้าคงกระโดดถีบไอ้ตัวผู้นั้นไปแล้วล่ะ ชวนเค้ามารับทราบและช่วยแก้ปัญหาให้ลูกเถอะค่ะ ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง  ก็เลิกกับผัวเอาลูกไปฝากคุณยายน่าจะดีกว่า ปล. อย่าลืมให้กฏหมายมาจัดการกับคนผิดด้วยนะคะ จากคุณ : Pim_ลภัส เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 13:38:44

ความคิดเห็นที่ 116 ถ้าเป็นสามีเรา ครูผู้ชายคนนั้นตายตั้งแต่ลูกเราอ้าปากบอกแล้ว จากคุณ : =น้องนู๋ตัวเล็ก= เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 13:51:39