จากใจครูฝ่ายปกครอง ไม่ดุ ไม่ด่า ไม่ตี ก็ทำให้นักเรียนดีได้ถ้ารู้จักใช้จิตวิทยา
|
 |
เรื่องราวความเป็นมาถ้าท่านสนใจ
http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N10144118/N10144118.html
http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N10148847/N10148847.html
เมื่อไม่นานมานี้มีเพื่อนบ้านมาระบายกับดิฉันบอกลูกสาววัยรุ่นหนีเที่ยว ไม่ยอมกลับบ้าน ด่าก็แล้ว ตีก็แล้ว ขู่จะไล่ออกจากบ้านก็แล้วไม่มีอะไรดีขึ้น ดิฉันเลยบอกว่าครั้งหน้าถ้าลูกกลับมาให้พูดกับลูกดีๆ หาของที่ลูกชอบให้กิน ห้ามด่า ห้ามว่า ห้ามตี แล้วบอกลูกว่า หนูจะไปเที่ยวเมื่อไหร่ไปได้เลยนะลูก แต่เบื่อแล้วอย่าลืมกลับบ้านเรา แม่จะรอหนูนะ บางทีทำแบบนี้อาจทำให้เธอคิดได้ แต่ถ้าไม่ได้ผลให้มาบอกแล้วดิฉันจะลองหาวิธีใหม่ให้
ดิฉันมานั่งนึก ผู้ใหญเองยังไม่ชอบให้ใครมาด่า มาว่า มาตี แล้วทำไมถึงคิดว่าเด็กๆจะชอบ
จากประสบการณ์ในการเป็นครูฝ่ายปกครองเด็กสมัยนี้พูดแรงๆ ด่าแรงๆ ทำโทษแรงๆ มีแต่จะทำให้เด็กต่อต้าน ถึงบังคับได้ก็แค่ชั่วคราว หลังจากนั้นก็ต้องเล่นเกมส์แมวจับหนูกันไปตลอด
ตัวดิฉันเองเวลานักเรียนทำผิดดิฉันจะพูดกับเด็กดีๆเสมอ และถ้าเป็นเด็กที่โตมากแล้ว (เกรด11-12,มอ5-6) ดิฉันจะไม่ตำหนิตรงๆแต่จะใช้วิธีพูดให้เขาได้คิดเอง
เช่น นักเรียนใส่กระโปรงสั้นมาก แทนที่จะพูดว่า "ใส่กระโปรงแบบนี้จะไปโชว์ผู้ชายที่ไหน อีกไม่นานมีหวังได้โดนฉุดไปข่มขืนหรอก"
ดิฉันจะพูดว่า "หนูสูงขึ้นรึเปล่าค่ะ ครูว่าหนูสูงขึ้นจนกระโปรงตัวเก่ามันสั้นไปแล้ว เปลี่ยนหรือเอาลงหน่อยดีไหมใส่แบบนี้เกิดไปเจอพวกโรคจิตละแย่เลยน่ะ"
เด็กใส่แหวน ใส่กำไล ใส่สร้อยที่โรงเรียนห้าม แทนที่จะว่าเด็กว่า "กฏโรงเรียนห้ามใส่ อยากลองดีหรือไง ถอดออกเดี๋ยวนี้" ก็เปลี่ยนเป็น "กำไลหนูสวยจังเลยค่ะ แต่ครูพูดตรงๆนะมันไม่เข้ากับชุดนักเรียนเลยแล้วมันก็ผิดระเบียบด้วย ถอดออกดีไหมค่ะ แล้วค่อยใส่ตอนไปเที่ยววันหยุด"
เด็กบางคนเตือนดีๆกลับทำท่าทางชวนทะเลาะพูดขึ้นเสียงบ้าง พูดห้วนๆบ้าง แต่ดิฉันจะไม่ทะเลาะกับเด็กเด็ดขาด ถ้าเจอแบบนี้ก็จะปล่อยให้พูด สักพักดิฉันก็จะจับไหล่เด็กเบาๆ แล้วพูดว่า "หนูโมโหใครมาหรือวันนั้นของเดือนหรือเปล่าค่ะ ทำไมวันนี้พูดกับครูไม่ดีเลย ใจเย็นๆหน่อยดีไหม แล้วเรื่องที่ครูพูดไว้หนูอารมณ์ดีเมื่อไหร่อย่าลืมคิดด้วยก็แล้วกัน"
คนจำนวนมากเชื่อว่าด่าเด็กต่อหน้าคนอื่นให้อายเป็นวิธีที่ได้ผล แต่จากประสบการณ์ดิฉันบอกเลยว่าเลือกชมได้ผลกว่าเลือกตำหนิ
ครั้งนึงดิฉันกับครูผู้ช่วยไปสุ่มตรวจการแต่งกายของนักเรียน มีห้องนึงเรียบร้อยกันทั้งห้องมีนักเรียนแค่คนเดียวที่แต่งแบบตั้งใจผิดระเบียบ เด็กที่ถูกระเบียบดิฉันก็ไม่ได้พูดอะไรด้วย ส่วนเด็กที่ผิดดิฉันก็เตือนดีๆ แต่ท่าทางที่เด็กแสดงออกก็ประมาณว่า "ฉันไม่สน ยิ่งโดนว่าฉันยิ่งรู้สึกว่าฉันเก่งฉันกล้ากว่าคนอื่นๆ"
อาทิตย์หน้าดิฉันเลยไปใหม่ก็เจอเหมือนเดิม แต่คราวนี้ดิฉันกับครูผู้ช่วยเปลี่ยนวิธีใหม่ เราชมเด็กทุกคนในแถวที่ถูกระเบียบ "เก่งมากเลย" "น่ารักจัง" "เห็นแล้วชื่นใจจริงๆ" พอถึงเด็กคนที่ผิดระเบียบ ดิฉันก็มองเธอตั้งแต่ศรีษะไล่มาถึงเท้า แล้วก็ทำหน้าเหมือนกำลังใช้ความคิดว่าจะชมยังไงแต่คิดไม่ออก แล้วดิฉันก็หันไปมองครูผู้ช่วยๆก็ส่ายหัว ดิฉันก็เดินจากไป ครูผู้ช่วยมาเล่าให้ฟังทีหลังว่าพอดิฉันเดินไปเด็กคนอื่นก็หัวเราะกันคิกคักส่วนเด็กคนนั้นก็หน้าเสียเหมือนกับรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวตลก
หลังจากนั้นไม่กี่วันดิฉันก็เดินสวนกับเด็กคนนี้ คราวนี้เธอแต่งถูกระเบียบหมดทุกอย่าง ดิฉันก็ชมเธอๆก็ยิ้มใหญ่
อีกเรื่อง
เมื่อไม่นานมีครูหลายคนมาบ่นบอกมีเด็กคนนึงสมมุติชื่อหนูมิ้นท์แล้วกัน ทุกวันเวลา 13.30 เมื่อไหร่ไม่ว่าจะวิชาอะไรหนูมิ้นท์จะขอไปห้องน้ำบอกปวดท้องแล้วก็จะหายไปเกือบๆชั่วโมง
ตอนแรกๆก็ไม่มีใครว่าอะไร พอหลังๆครูทุกคนก็สงสัย ครูคนไหนถามหนูมิ้นท์ๆก็ทำท่าจะเป็นจะตายว่าปวดท้องมาก สุดท้ายเลยให้ครูคนนึงแอบตามไปจึงได้รู้ว่าทุกวันที่หนูมิ้นท์ขอเข้าห้องน้ำจริงแล้วเพื่อไปคุยโทรศัพท์กับเพื่อนผู้ชาย พอหนูมิ้นท์มาขออีกครูที่สอนเลยถามว่าจะไปห้องน้ำหรือไปคุยโทรศัพท์ หนูมิ้นท์ก็ทำท่าไม่พอใจพูดเหมือนทำไมต้องคอยจับผิดเธอ แต่ก็ยังยืนกรานว่าเธอจำเป็นต้องเข้าห้องน้ำ
ครูทั้งหลายเลยมาขอให้ดิฉันช่วยจัดการกับเธอหน่อย
ดิฉันเรียกหนูมิ้นท์มาหาเล่าเรื่องที่ครูทั้งหลายบ่นให้เธอฟัง แล้วดิฉันก็พูดว่า ครูโกรธมากเลยตอนที่ครูเขาบอกว่ามินท์ขอเข้าห้องน้ำเพื่อไปโทรศัพท์ อย่าเข้าใจผิด ครูไม่ได้โกรธมิ้นท์นะ แต่ครูโกรธครูพวกนั้น มาว่ามิ้นท์แบบนี้ได้ยังไง มิ้นท์ออกจะตั้งใจเรียน เรียบร้อย ไม่มีทางทำเรื่องเหลวไหลอะไรแบบนั้นแน่นอน แล้วดิฉันก็ถามเธอ ใช่ไหมค่ะ
เธอก็ยิ้มแล้วบอก ใช่ค่ะ ครู ดิฉันเลยพูดต่อว่าแต่ที่ดิฉันเรียกเธอมาวันนี้เพราะเป็นห่วง กลัวว่าอาการปวดท้องทุกวันของเธออาจจะเกี่ยวกับโรคของผู้หญิงอย่างมดลูกก็ได้
ครูว่ามิ้นท์น่าจะลองไปตรวจดูนะ ครูมีหมอสูติฯที่รู้จักครูแนะนำให้ได้
เธอเบะปากแล้วพูดว่า หมอสูติฯไม่เอาหรอกครู เกิดเขาให้หนูตรวจภายในละอายแย่เลย
ดิฉันเลยพูดว่า ไม่สบายแล้วไม่ไปหาหมอไม่ได้หรอกมันอันตราย เอาแบบนี้ก็ได้เดี๋ยวครูโทรเล่าเรื่องที่้มิ้นท์ปวดท้องให้คุณแม่มิ้นท์ฟังแล้วก็จะแนะนำให้คุณแม่พามิ้นท์ไปหาหมอด้วยดีไหมค่ะ แต่ถ้าคุณแม่ท่านถามว่าครูรู้เรื่องนี้ได้ยังไงครูคงต้องเล่าเรื่องทั้งหมดรวมทั้งเรื่องที่ครูคนอื่นหาว่ามิ้นท์แอบหนีเรียนไปคุยโทรศัพท์กับเพื่อนผู้ชายด้วยน่ะ
เธอหน้าซีด แล้วบอกว่า เธอปวดประจำเดือนธรรมดา ไม่มีอะไรจริงๆ
ดิฉันไม่สนพูดต่อว่า ไม่ธรรมดาหรอกค่ะมิ้นท์ ปวดทุกวันเวลาเดิม ปวดทีละร่วมชั่วโมง แถมเข้าห้องน้ำคุยโทรศัพท์กับเพื่อนผู้ชายเสร็จแล้วก็หายปวดเป็นปลิดทิ้ง โรคแบบนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ แล้วที่สำคัญอันตรายมากๆด้วย
เธอเงียบ หน้าเสียทำท่าเหมือนจะร้องไห้
ดิฉันเลยพูดว่า
เอาละสำหรับเรื่องนี้มิ้นท์อาจจะป่วยจริงและครูอาจจะกังวลมากไปก็ได้ เอาแบบนี้แล้วกัน ครูจะให้ครูที่สอนคอยสังเกตอาการ ถ้ามิ้นท์ไม่ต้องลาไปห้องน้ำอีกก็แปลว่าหายแล้ว แต่ถ้ามิ้นท์ยังปวดทุกวัน เวลาเดิม แล้วพอไปคุยกับโทรศัพท์ก็หายเหมือนเดิม ก็แปลว่ามิ้นท์รักษาตัวเองไม่ได้ และถ้าเป็นแบบนั้นครูคงต้องช่วยรักษาให้
มิ้นท์ค่ะ ครูดูแลเด็กมาหลายปี ถ้าครูไม่ทันเด็ก ครูเป็นครูของหนูไม่ได้หรอก ครูให้โอกาสมิ้นท์แล้วน่ะ เข้าใจที่ครูพูดใช่ไหมค่ะ
หนูมิ้นท์ยกมือไหว้แล้วบอก เข้าใจค่ะ หนูหายแล้วค่ะ รับรองค่ะครู ขอบคุณมากๆที่ให้โอกาสหนูนะค่ะ
ตั้งแต่นั้นโรคปวดท้องทุก 13.30 ของเธอก็หายเป็นปลิดทิ้ง
| จากคุณ |
:
เจน
|
| เขียนเมื่อ |
:
7 ก.พ. 54 07:28:32
A:124.120.203.182 X: TicketID:304085
|
|
|
|
ไปแทนก่อนนะคะ
