ความคิดเห็นที่ 1 เห็นด้วยค่ะ  แต่ก็นานาจิตตังอ่ะเนอะ  แล้วแต่ความจำเป็นของแต่ละครอบครัว จากคุณ : มาม่าน้ำข้น เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 01:17:16

ความคิดเห็นที่ 2 ไปเจอหนังสือแล้วค่ะ รักลูก กพ53 หน้า 156-157 ขออนุญาตเอามาแชร์นะคะ คุณแม่ถามว่าน้องเกิด กค 51 จะให้เข้า รร เมื่อไหร่ดีค่ะ ตอบ ตามหลักการและเกณฑ์การศึกษาแล้ว ปีการศึกษาจะเริ่มนับจากกลางเดือน พค และเกณฑ์อายุที่จะรับเด็กเข้าอนุบาล1 ก็คือ 3 ขวบ หรือก่อน 16 พค ดังนั้น เมื่อเกิดหลัง พค จึงต้องเรียนปี 2555 แม้ รร อนุบาลบางแห่งจะไม่เข้มงวดเรื่องเกณฑ์อายุ แต่ รร ประถมที่มีคุณภาพ และมีการคัดเลือกเด็กเพื่อเข้าเรียนส่วนใหญ่ จะรับเด็กตามเกณฑ์ ดังนั้น หากเรียนก่อนเกณฑ์อาจมีปัญหาในการเข้าเรียนในระดับประถมได้ หากจะตอบจากประสบการณ์ตรงซึ่งได้พบเห็นจากลูกศิษย์ในช่วงวัยอนุบาลและจากการพูดคุยกับผปค ซึ่งมี ประสบการณ์ตรง ขอแนะนำว่า ถ้าลูกเป็นเด็กที่มีพัฒนาการตามวัย ก็ควรให้ลูกเรียนเมื่อปี 2555 ค่ะ เพราะหลักสูตร การจัดกิจกรรม หรือ การเรียนการสอนสำหรับเด็กจะถูกจัดให้เหมาะสมตามวัยและพัฒนาการของเด็ก กิจกรรมของเด็กอนุบาล1 ก็จะเป็นกิจกรรมที่เหมาะสมสำหรับเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป ถ้าลูกเราเป็นเด็กอายุไม่ถึงเกณฑ์ แต่เข้าไปเรียนและไม่ได้มีพัฒนาการเร็วกว่าวัย ก็จะต้องทำอะไรที่ยากกว่าวัยของเขา อาจจะทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ขณะที่เพื่อนๆคนอื่นที่โตกว่า หรืออายุอยู่ในเกณฑ์ทำได้ ไม่มีปัญหา จากคุณ : แม่น้องกล้า-กัปตัน (Le PeTiT MoM) เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 01:25:17

ความคิดเห็นที่ 3 ต่อค่ะ ซึ่งลักษณะของการตามเพื่อนหรือครูไม่ทัน ที่เด็กได้พบเจอทุกวันที่ รร จะค่อยๆซึมซับและส่งผลเสียในระยะยาวต่ออัตตาและ EQ บางอย่างของเขาได้ และส่งผลให้เด็กบางคนเคยชินกับการที่ตามเพื่อนไม่ทัน ไม่เข้าใจ จนเป็นเรื่องปกติของเขา ลองมองกลับกันนะคะ ถ้าลูกเรามีความพร้อมมากเนื่องจากเป็นเด็กโต ทำกิจกรรมทุกอย่างได้ดี คุณครูมักเรียกให้เป็นตัวอย่างของเพื่อนๆ เมื่อทำงานเสร็จเร็ว เขาก็มีเวลาเล่น ไม่ถูกกดดัน แถมยังได้ไปช่วยเพื่อนหรือคุณครู เป็นคนที่ถูกมองว่าเก่ง น่ารัก จึงได้เป็นผู้นำเสมอๆ และเป็นที่รักของคุณครูและเพื่อนๆ ลูกเราก็จะกลายเป็นคนภูมิใจในตัวเอง มีความมั่นใจ และจะมีโอกาสในชีวิตเพิ่มขึ้นอีก จากคุณ : แม่น้องกล้า-กัปตัน (Le PeTiT MoM) เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 01:32:19

ความคิดเห็นที่ 4 เราเองก็ว่าจะให้เข้าเรียนตามเกณฑ์ค่ะ ไม่อยากให้เค้าเครียด อยากให้เค้ามีความสุขตามวัย และที่สำคัญ จะได้อยู่กับเรานานๆอีกนิดนึง เพราะถ้าเข้าเรียนแล้วเข้าเลย จากคุณ : fahsaihome เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 01:33:44

ความคิดเห็นที่ 5 ต่อค่ะ สำหรับเด็กเล็กแล้ว อายุที่ต่างกันเพียง 3-4 เดือนนั้น ความสามารถและพัฒนาการจะต่างกันอย่างชัดเจน เพราะธรรมชาติของมนุษย์ จะเดิบโตและเรียนรู้ได้ไวที่สุดในช่วงนี้ ดังนั้นหากให้ลูกเรียนพร้อมเด็กที่โตกว่า ลูกเราก็คงจะต้องเหนื่อย และเป็นผู้ตามไปตลอด ไม่มีประโยชน์ที่จะให้ลูกเรียนเร็วไป1ปี แต่ลูกเองต้องคอยตามเพื่อน ไม่มีความสุขกับการเรียน เพราะสิ่งสำคัญของการให้การศึกษาก็คือการให้ทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ การรักตัวเอง และการรักผู้อื่น ซี่งจะส่งผลให้ลูกเติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพและจะเป็นเด็กที่มีความสุขในชีวิต จากคุณ : Le PeTiT MoM เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 01:38:06

ความคิดเห็นที่ 6 เยเย เห็นด้วยกับคุณ  fahsaihome  ค่ะ ที่ไม่ให้เข้าเรียน เพราะอยากให้อยู่กับเรานานๆ อิอิ ขอบคุณคุณมาม่าน้ำข้นด้วยค่ะ จากคุณ : แม่น้องกล้า-กัปตัน (Le PeTiT MoM) เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 01:40:56

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยอย่างที่สุดค่ะ ลูกคนโตเรา เกิด ส.ค. 49 ขาดเกณฑ์ไป 2 เดือนกว่าๆ ด้วยความที่อยากให้ลูกเรียนพร้อมเด็กรุ่นเดียวกัน เกิดห่างกันแค่ 2-3 เดือนน่าจะเรียนได้ แต่เอาเข้าจริงๆ ลูกกลับทำไม่ได้ค่ะ กล้ามเนื้อมัดเล็กเค้าทำงานได้ไม่ดีพอ จับดินสอไม่ได้ เรียนไม่ทันเพื่อน การบ้านไม่ยอมทำ อาเค้า(เป็นครูที่ รร น้อง) เลยบอกว่าให้หยุดเถอะ น้องเรียนได้  2 เดือนเราให้ลูกหยุดเลยค่ะ สงสารลูก พอมาอีกปีที่ถึงเกณฑ์ น้องจะมีอายุเกินเกณฑ์ 8 เดือน ซื่อก้อเป็นพี่ที่โตสุดในชั้น การเรียนลูกเราทำได้ดีกว่าเด็กในห้อง กล้าแสดงออก และมีความสุขกับการไป โรงเรียนมากค่ะ สังเกตุได้จากเวลามีกิจกรรมน้องจะได้รับการคัดเลือกเสมอ (อันนี้จาก ปสก ตรงค่ะ) จากคุณ : candy_angle เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 01:47:40

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณคุณ candy_angle ที่มาเล่าให้ฟังนะคะ เราเองมีแต่ทฤษฎีค่ะ ลูกคนโต เกืด มีค เรียนตามเกณฑ์ค่ะ ส่วนตัวเล็ก ยังพูดไม่ได้เยอะ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มาก (ตอนสอบสัมภาษณ์ น้องอายุ2ขวบพอดีต่ะ รร นี้ สอบกันเร็วมากๆ) คุณแม่เลยให้อยู่ เนอสไปก่อนทั้งๆ ที่ครูบอกว่า อายุตกเกณฑ์แต่ถ้ามีพี่เรียนอยู่ ก็จะได้สิทธิ์ค่ะ แต่เรากลัวลูกจะไม่ไหวค่ะ คิดว่าตัดสินใจไม่ผิดค่ะ แก้คำผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 54 01:55:49 จากคุณ : แม่น้องกล้า-กัปตัน (Le PeTiT MoM) เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 01:55:13

ความคิดเห็นที่ 9 คนเรามีเหตุผล และคิดต่างกันนะคะ.. และหรือบางโรงเรียน อาจจะสอนไม่เหมือนกันก็ได้ (เดาเอา) ฉะนั้น ผู้ปกครองที่ตัดสินใจ ให้ลูกเข้าเรียนกันเร็ว เค้าอาจจะคิดว่า..นั่นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับลูกของเค้าค่ะ บางโรงเรียน อาจจะเน้นการเข้ากลุ่ม ทำกิจกรรมร่วมกัน ไม่ได้มาสอน หรือเคร่งเครียดอะไรมากมายนัก แต่ระบบการโรงเรียน เป็นอย่างไรเราไม่รู้ค่ะ . . ลูกเราจะสองขวบแล้ว มีพาไป Child center วันละ ชั่วโมง สัปดาห์ละ 4-5 ครั้ง เดี๋ยวนี้ทำให้เค้าเป็นเด็กกล้าแสดงออก ไปกลัวคนแปลกหน้าเหมือนเมื่อก่อน ถามว่า ..จะให้ลูกเข้าเรียนตอนไหน อันนี้มันยังตอบไม่ได้ค่ะ ตรงดูจังหวะและเวลา.. แต่ถ้าลูกซักสามขวบ ก็อยากให้ลูกไป Preschool ซักสัปดาห์ละ 2 วัน ส่วนอีกห้าวันก็อยู่กับเราที่บ้าน แต่อันนั้นเป็นเรื่องอนาคตค่ะ ณ. ปัจจุบัน กับสิ่งที่เราทำและเป็น เราก็โอเค พอสังเขป . . เราคงไม่ไปถาม หรือก้าวก่าย ครอบครัวคนอื่นๆ หรอกนะคะ ว่าเหตุผลใด จึงให้ลูกเข้าเรียนเร็วจัง คนเรามีความจำเป็นและเหตุผลต่างกันค่ะ แต่เชื่อว่าผู้ปกครอง หรือพ่อแม่ทุกคน ต่างก็พยายาม ขวนขวาย และพยายาม หาสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ตัวลูก จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 02:09:47

ความคิดเห็นที่ 10 ขอแชร์หน่อยค่ะ เพราะเห็นด้วยที่ไม่ครวรให้ลูกเข้าเรียนก่อนเกณฑ์ ลูกชายดิฉัน อายุ 2 ขวบเต็ม ถึงได้เข้าเตรีมอนุบาล...และที่เข้าไปเตรียม อ. ก็ไม่ได้สอนอ่านเขียนอะไรเลย เพราะเขาเน้นให้เด็กรู้จักช่วยตัวเอง รู้จักระเบียบวินัย รู้จักคำว่าเพื่อน รู้จักแบ่งปันและแสดงความรักความเข้าใจกับเด็กอื่นๆ ขนาดตอนนี้ลูกชายดิฉัน 3 ขวบเต็มแล้ว ยังเข้าอนุบาลไม่ได้เลย เพราะ ฮี เพิ่งครบสามขวบเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา อนุบาลที่ ประเทศเยอรมัน จะรับเด็กช่วงเปิดเทอมหน้าร้อน คือช่วงเดือน สิงหาคมเท่านั้น และรับเด็กเมื่อ อายุ 3 ขวบเต็ม ขาด2-3เดือนก็ไม่ได้ ความจริงลูกเราอยู่ในวัย 1-3 ขวบ เราไม่จำเป็นต้องให้ลูกไปเรียนอะไรที่ใหน เราสอนลูกอยู่กับบ้านได้ บางครั้งดีกว่า(ถ้าเรามีเวลาพอ)แถมประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย แต่ถ้าไม่มีเวลา เพราะต้องไปทำงาน ก็แล้วแต่เหตุผลส่วนตัวของแต่ละคนก็แล้วกัน. จากคุณ : จิงโจ้ยักษ์ เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 03:29:16

ความคิดเห็นที่ 11 ขอคิดต่างนิดนึงนะคะ.... แต่บางคน ก็มีเหตุผลต่างกันค่ะ... เราเองเป็นคุณแม่เต็มเวลาอยู่ที่อังกฤษ ลูกเรา 1 ขวบ 7 เดือน... เราพาลูกเราไป Toddlers group อาทิตย์ละ 3 วัน วันละ 1.30 ชั่วโมงตอนเช้า ลูกเราชอบมากค่ะ ที่ได้เจอเด็ก ๆ ทั้งวัยเดียวกัน และโตกว่า (ไม่เกิน 3 ขวบ) ไปถึง ไม่สนใจเราเลยค่ะ วิ่งไปเล่นกับเด็กคนอื่น ถึงเวลาทานของว่าง จากเมื่อก่อน ไม่ค่อยนั่งนิ่ง ไม่เคยรอคิว (เวลาเค้าแจกขนมน้ำ) เดี๋ยวนี้ นั่งทานพร้อมกับเพื่อน ๆ ได้ดี สามารถรอได้ โดยไม่โวยวาย เวลาเล่น มีการแบ่งปันของเล่นกันด้วย ตอนนี้เราเริ่มมองหา รร ให้ลูกแล้วค่ะ...เป็น infant school ถ้าได้ เราจะให้ลูกเราเข้าเลยค่ะ...อาทิตย์ละ 2 วัน วันละ 3-4 ชม. ถามว่า เค้าไม่ได้สอนอะไรเลย ถ้าที่นี่ คงไม่ใช่ เพราะจากที่เราไปดู มีสอนร้องเพลง วาดรูป เล่น (ทำขนมจริง ๆ) อีกอย่างที่เราอยากได้ คือระเบียบวินัย การแบ่งปัน การรอคอย และที่สำคัญ คือเพื่อนค่ะ..เพราะลูกเราเป็นลูกคนเดียว เราอยากให้เค้าได้สนุกสนานตามวัย กับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน โดยมี staff คอยดูแลด้วย เพราะที่นี่ อัตรา ครูพี่เลี้ยง 1 คน ต่อเด็ก 3 คน จริงอยู่ เราสอนเองที่บ้านก็ได้ แต่บางอย่าง เราว่า เราเลือกให้ลูกเจอที่ รร ดีกว่าค่ะ แล้วที่สำคัญ เค้าไปแค่อาทิตย์ละ 2 วัน นอกนั้น ก็อยู่กับเราตลอดอยู่ดี... เพราะตอนลูกเราถึงวัยเข้า รร ..ที่นี่ เทอมเริ่มเดือน กันยา ลูกเราจะนับได้ว่า เป็นเด็กเล็กในชั้น เพราะเกิด กค. เราเลยอยากเตรียมความพร้อมให้ลูกเราด้วยค่ะ อีกทั้งเป็นการปูทางสำหรับ รร ป.1 ด้วย เราเองก็อยากประหยัดเงินในกระเป๋าเหมือนกัน แต่เราเลือกที่จะจ่าย (แพงด้วย) เพราะเหตุผลอย่างว่าค่ะ อีกอย่าง ต่างคนก็ต่างเหตุผลค่ะ เราเชื่อว่า ทุกคนอยากได้สิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกไม่ต่างกันหรอกค่ะ ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย จากคุณ : KhunTop เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 04:07:13

ความคิดเห็นที่ 12 โรงเรียนอนุบาลสมัยนี้ที่วางหลักสูตรเอาไว้อย่างดีก็ปวดหัวกับปัญหานี้เพราะผู้ปกครองไม่ยอมเข้าใจ บางแห่งเลยตัดปัญหาจัดสอบความพร้อมเด็กซะเลย พอเด็กสอบไม่ได้พอ่แม่พวกนี้ก็ดันผิดหวังไปตีเด็กซะอีก ถ้าอยากให้เด็กพร้อมที่จะเข้าเรียนก็ควรให้เขาไปเรียนเนอร์สก่อนเตรียมความพร้อมให้เด็กด้วยก็ไม่ทำ พอเขาทำตามคำสั่งไม่ได้ก็ไปโทษที่ตัวเด็กแทนที่จะโทษตัวเอง พ่อแม่รังแกฉันจริงๆ จากคุณ : bird เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 04:15:32 A:125.25.210.253 X: TicketID:302231

ความคิดเห็นที่ 13 ชื่อว่า รร. ไม่ได้ไปเรียนหนังสือ เด็กไปเล่นกับเด็กอื่น ไปเรียนรู้การเข้าสังคม ไม่ใช่ไปเพื่อเรียนให้เก่ง หรืออะไรทั้งสิ้น ไปโรงเรียนเพื่อรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาล รู้จักแบ่งปัน ความรู้พ่อแม่สอนเองได้ แต่สังคมและโลกภายนอก พ่อแม่สอนไม่ได้ รร. เขาไมได้มีแต่แบบสอนอ่านสอนเขียนอย่างเดียว รร. ที่ให้เล่น ให้เรียนผ่านการเล่นก็มีเยอะเเยะ และที่สำคัญ ไม่ใช่ทุกคนที่มีเวลา หยุดอยู่บ้านนั่งดูตาลูกอยู่ตลอด บางคนเขาต้องทำมาหากิน ไม่ส่งเข้าโรงเรียนแล้วจะให้เขาเอาไปไว้ไหน self esteem จากคุณ : mrs.night owl เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 04:31:03

ความคิดเห็นที่ 14 ลูกเราไป รร. ตอน 2.2 ขวบ  เค้าชอบค่ะ  และไม่อยากให้ไปรับเร็ว   เพราะอยากเล่นกับเพื่อนๆ รร.ค้าไม่มีเรียนอะไร  นอกจากส่งเสริมพัฒนาการตามช่วงวัย แต่เรื่องเรียนก่อนเกณฑ์เนี่ย  เราให้ลูกเรียนก่อนเกณฑ์  ยอมรับว่าเหนื่อยมาก  ขนาดว่าเตรียมมาเยอะนะ   (เพิ่งขึ้นชั้นประถม) แต่คุณแม่อีกคนลูกเรียนก่อนเกณฑ์เหมือนกัน รุ่นเดียวกัน  แต่ลูกเค้าชอบและเก่งมากด้วย   เราคิดว่าแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน  เลยยอมรับในจุดนี้  ลูกเราไม่เครียดหรอกค่ะ  เพราะเค้ามีความสุขกับการไป รร.  ไม่เคยร้องไห้เวลาไป รร. มาตั้งแต่เล็กๆ เลยค่ะ สามีบอกว่า  การเดินทางของชีวิตยังอีกยาวไกล  ค่อยๆปรับและพัฒนากันไปค่ะ จากคุณ : พิกุลเหล็ก เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 06:53:02

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยนะคะ เราก็รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้ผู้ปกครองจะพาบุตรเข้าเรียนเร็วมากๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ว่ามันก็คงขึ้นอยู่กับความพร้อมของเด็กแต่ละคนไม่เท่ากัน ลูกเราจะ 3 ขวบแล้วยังดูไม่พร้อมเลย ไม่ได้เอ็นดูลูกตัวเองหรอกนะค่ะ แต่ประเมินดูแล้วมันเป็นอย่างนั้นจริงๆเลยยังไม่ไป จากคุณ : อุดมไปด้วยความสุข เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 08:07:19

ความคิดเห็นที่ 16 เราเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับหลักการที่ว่า ให้ลูกเรียนเมื่อพร้อม เพราะถ้าเค้าไม่พร้อม อาจจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี ลูกเราเกิดสิงหา 51 ตอนนี้ยังอยู่เนอสอยู่เลยค่ะ และคุณครูบอกว่าเดี๋ยวลูกเราจะเข้า อ. 1 เดือน พ.ค.เพราะเค้าพร้อมแล้ว เราก็บอกคุณครูไปว่า เราไม่รีบ ให้เค้าไปตามอายุดีกว่า เพราะเราไม่แคร์ว่าลูกเราจะอายุมากกว่าเพื่อนในชั้น เพราะถ้าเค้าพร้อมเค้าย่อมทำอะไรได้ดีกว่าที่ไม่พร้อมแน่ เหตุผลเพราะลูกเราเริ่มพูดตอน 2 ขวบ และเรียนรู้ได้ช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน แต่เราไม่ได้เครียด เพราะเราเองเข้า อ. 1 ตอนอายุ 5 ขวบ และ ป. 1 ตอนอายุ 7 ขวบ ตามเกณท์แป๊ะๆ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ถือว่าเรียนช้ามาก ถ้าเทียบกับเด็กๆ ในปัจจุบันนี้ เราเลยไม่ได้คิดอะไรมากเรื่องการเเข้าเรียนช้า ส่วนเรื่องที่ว่าเร่งให้เข้าไปใหม เราก็มองว่า คนเรามุมมองต่างกัน มีเหตุผลแตกต่างกันไปและขึ้นอยู่กับเด็กด้วย เด็กๆ หลายคน เรียนรู้ได้เร็วมากๆ แน่นอน พ่อแม่ย่อมต้องการที่จะสนันสนุนศักยภาพในตัวลูกก็เลยไม่อยากให้เค้าเรียนช้า เพราะถ้าเข้าเรียนเร็ว เค้าก็ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็ไม่ถือว่าเรียนเร็วมาก เพียงแค่เรียนในปีที่เกิดเท่านั้นเองค่ะ สิ่งที่เป็นปัญหาคือ บ้านเราไปตัดเกณท์ที่ตรงกลางปี คือ พ.ค. ถ้าเกิดตัดที่ 1 มค ปัญหาอาจจน้อยลง เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น มันก็จะเป็นปีที่เกิดจริงๆ จากคุณ : Lionfish เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 08:15:28

ความคิดเห็นที่ 17 พ่อแม่บางคนอาจะไม่มีเวลาเลี้้ยงนะครับ จากคุณ : ริมน้ำคาน เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 08:33:06

ความคิดเห็นที่ 18 ในสภาวะเศษฐกิจแบบนี้คงไม่มีใครอยากไปเสียเงินให้โรงเรียนโดยไม่จำเป็นหรอกนะเราว่า เลี้ยงเองได้นานเท่าไร คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายก็คงอยากเลี้ยงเองค่ะ ทั้งไม่ต้องเสียเงิน ทั้งได้ใกล้ชิดลูกด้วย จากคุณ : ตัวเล็กหัวโต เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 09:12:22

ความคิดเห็นที่ 19 ต่างคนต่างเหตุผลค่ะ..... เราก็ไม่ได้อยากจะส่งลูกเข้า รร.เร็ว  (ตกเกรณ์ 1 เดือน) แต่เนื่องด้วยว่า อยู่บ้านก็ไม่มีคนเลี้ยง ต้องจ้างเลี้ยงอยู่กับพี่เล้ยง 2 คน ด ด้วยวัยที่เค้า 2 ขวบ 3 ขวบ เป็นวัยที่ควรจะเรียนรู้โลกภายนอกบ้างแล้ว เราเลยตัดสินใจส่งลูกเข้า รร. สิ่งที่ได้กลับมา อ. 1 ไม่ใช่ว่าต้องการวิชาการ... อ่าน ก-ฮ 1-10 A-Z อันนี้เราถือว่าเป็นของแถม แต่สิ่งที่เราภูมิใจคือ.... เค้าสามารถช่วยเหลือตัวเองมากขึ้น ขับถ่ายเอง กินข้าวเอง กลับมามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับครู  เกี่ยวกับเพื่อน เต้นประกอบเพลงให้เราดู....เราว่าเค้าแฮบปี้ค่ะ...... จากคุณ : เสือน้อยดีที่สุด เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 09:28:41

ความคิดเห็นที่ 20 ก็เข้าใจ จขกท. นะคะ สำหรับบางคน ที่ พยายามจะส่งลูกไปโรงเรียนเร็วๆ ทั้งที่ ตัวเองอยู่บ้าน มีเวลาให้ลูกเต็มๆ เพียงเพราะ คิดว่า รร. มีอะไรที่ดีกว่าที่บ้านมากๆ (ไม่นับคนที่ต้องทำงาน ซึ่งต่อให้ทำงาน ก็ควรมีเวลาให้ลูกด้วย ไม่ใช่ส่งๆ ไปโรงเรียนแล้วคิดว่า รร. จะสอนทุกสิ่งอย่างให้ และโรงเรียนในที่นี้ หมายถึง ordinary school ที่ไปกัน 5 วันต่อสัปดาห์ เด็กห้องนึง 10-20-30 คน) ถึงเราจะเป็นคนที่ส่งลูกไปโรงเรียนในวัยสองขวบกว่า ทั้งๆที่ ไม่ค่อยอยากจะส่งไป แต่พอดี ต้องทำงานถึงจะไม่เต็มเวลา พาลูกไปด้วยได้ แต่บางที่ก็ไม่เหมาะกับเด็กๆ เลยคิดว่า ไป รร. ดีกว่า เลือก รร. ที่เรียนน้อยๆ เล่นเยอะๆ เลิกเร็วๆ เลิกเที่ยงได้ยิ่งดี คือ ฝากไว้แป๊บนึง พอให้ทีเวลาทำงานทำธุระบ้าง ทีเจอมาด้วยตัวเองคือ เด็กวัย 2 ขวบกว่า  ไปโรงเรียนเร็ว ก็ไม่สบายง่าย เจ็บป่วยตลอด เทอมนึง ไป รร. 3 วัน หยุด 2 วันบ้าง หรือหยุดยาวเป็นสัปดาห์ บ้าง ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น อยู่บ้าน ทานนมแม่ขนถึง 2 ขวบ ไม่ต้องบอกว่าแข็งแรงขนาดไหน ไป รร. ครู 1 คน ต่อเด็ก 5 คน นี่จัดว่าเป็น รร. ที่อัตราเด็กต่อครู แทบจะตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นแล้วนะ เพราะส่วนใหญ่ เด็ก 20-30 ครู-พี่เลี้ยง 2-3 คนเอง สำหรับ เด็กเล็ก ก็ยังไม่ดีเท่า เด็ก : พ่อแม่ ถึงจะเป็นการฝึกเด็กให้ช่วยตัวเอง แต่ ณ จุดนี้ การฝึกเด็กให้ช่วยเหลือตัวเองในเรื่องต่างๆ ที่บ้าน สามารถทำได้ การเรียนรู้ผ่านการเล่น สามารถทำได้ที่บ้าน "ถ้าจะทำ"  ฝึกให้ลูกช่วยงานพ่อแม่ในชีวิตประจำวัน การเข้าสังคม ถ้าพ่อแม่สอนดีๆ ไม่สปอยลูกจนลูกเป็นศูนย์กลางจักรวาล ก็สามารถทำได้ที่บ้าน ไม่ต้องโรงเรียนหรอก ก็คิดดู ผู้ใหญ่สมัยนี้ ก็ไปโรงเรียนกันทั้งนั้น แต่ทำไม ยังมีบางคน ไม่ได้เป็นคนดี เข้ากับคนลำบาก ก็มีเยอะแยะ พื้นฐานความเป็นมนุษย์ การเห็นอกเห็นใจ แบ่งปันผู้อื่น ความดีที่ควรปฎิบัติ สอนได้จากเรื่องใกล้ตัวที่สุด คนใกล้ตัวที่สุด คือ พ่อแม่ โรงเรียนอาจจะไม่ใช่สิ่งจำเป็นเสมอไป สำหรับทุกคน แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 54 09:50:10 จากคุณ : กุ๊ดจัง เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 09:41:20

ความคิดเห็นที่ 21 ความจำเป็นและมาตรฐานความคิดของแต่ละครอบครัวต่างกันค่ะ คงไม่สามารถตัดสินได้หรอกค่ะว่า ถูกหรือผิด ดีหรือไม่ดี จากคุณ : namm_gamm เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 09:52:33

ความคิดเห็นที่ 22 ของเราเพราะต้องทำงานแล้วเราเป็นครอบครัวเดี่ยว เราไม่มีคนช่วยดูแล เราออกจากงานมาดูแลเค้า สองปี แล้วเราก็กลับไปทำงาน ตอนแรกเราก็มีจ้างญาติ ในระยะเวลา2เดือน ที่จ้างมาดูแลแต่สิ่งที่ลูกเราได้มันแย่มาก ลูกเราตกบันไดขาเกือบหัก ตกเตียงปากแตกฯลฯ  แล้วไม่พาลูกเราไปหาหมอ ไม่พาไปล้างแผล ไม่อะไรเลย จานกินอะไรก็วางไว้จนหนอนขึ้น ให้เราเป็นคนเก็บ เราทำงานมาก็เหนื่อยแล้วต้องมานั่งเก็บให้อีกหรอ จ้างวันหนึ่งไม่ใชถูกๆๆวันละ 400 เลยนะ ลูกกินข้าวกับหมาประมาณว่าต้องแย่งหมากินเลยแหละแบบว่าไก่ชิ้นเดี่ยวคนกินด้วยหมากินด้วย พาลูกเราไปนับแต้ม พาไปนั่งด่าคนอื่นพูดจาสารพัดสัตว์ อารมณ์ดีไม่ดีพูดคำด่าดำ สารพัด  กว่าจะรู้ก็นะลูกติดสันดานเลวมาแล้ว เพราะเราทำงานกว่าจะกลับมาลูกหลับแล้วไม่ได้พูดกลับลูกเลย พอรู้ก็เลิกจ้าง มันยังตามมาด่าเราจนทุกวันนี้ คือเราลำบากจริงๆๆเราไม่ไว้ใจใครเลย เราก็เลยให้ลูกไปเรียนที่สถานรับเลี้ยงตอน2.3แล้วพอ 2.6 ก็เข้าอนุบาลเพราะยังงัย ไปโรงเรียนก็ยังดีกว่าอยู่กับคนแถวบ้าน แล้วลูกก็นิสัยดีขึ้น ตอนนี้พอเลิกเรียนเราก็รับมาอยู่ด้วยกับเราพาไปเรียนกับเราคือเราเรียนต่อภาคสมทบ  เสาร์อาทิตย์เรียนพิเศษวันละชั่วโมงแล้วเราก็พาไปทำงานด้วย งานเราเป็นงานที่ต้องทำทุกวัน ออกข้างนอกทุกวัน ออกไม่เป็นเวลาอีกด้วย คือคนที่เป็นครอบครัวใหญ่มีปู่ย่าตายายก็ได้เปรียบมีคนดูให้ไม่ต้องลำบากมากมาย ก็สบายไป ไว้ใจได้ เพราะเค้ารักและดูแลเป็นอย่างดี แต่เราพ่อแม่สามีก็เสียหมดแล้ว พ่อเราก็เสีย เหลือแต่แม่ที่อยู่ต่างจังหวัดกับน้องชาย แล้วเราจะฝากใครจะออกจากงานก็ไม่ได้เพราะเราไม่รวยไม่มีเงินเยอะแยะ ต้องช่วยกันทำงานเพราะอนาคตลูกเราต้องใช้เงินเยอะ ในเรื่องเรียน แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 54 10:31:02 แก้ไขเมื่อ 16 ก.พ. 54 10:21:53 จากคุณ : มิ้นกับน้ำ เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 10:19:13

ความคิดเห็นที่ 23 แล้วแต่ความจำเป็น ปัจจัยของแต่ละครอบครัวค่ะ จากคุณ : เอี๊ยกหม่วย เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 10:31:11

ความคิดเห็นที่ 24 ตัวเราเองเข้าเรียนตอนสองขวดครึ่ง ก็ไม่มีปัญหาอะไรอ่ะค่ะ แต่สมัยนั้นยังไม่ได้ซีเรียสเรื่องเกณฑ์ จากคุณ : ป้าจะอิ๊บ (jipnaja) เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 11:42:19

ความคิดเห็นที่ 25 เราก็ว่าแล้วแต่ปัจเจกบุคคล คือความพร้อม และหลายๆอย่างของแต่ละครอบครัวและตัวเด็กค่ะ ต้องดูรวมๆ ตัดสินไม่ได้หรอกค่ะว่าอะไรเหมาะกับเด็กคนไหนหรือครอบครัวไหน เราเองก็เรียน อ. 1 ตั้งแต่ 2 ขวบครึ่ง จบป.ตรี อายุ 20เข้าทำงานบริษัทแล้ว (เรียนตามปกติไม่ได้สอบเทียบเลยนะคะ) ก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ อย่างที่คห. 24 บอกสมัยก่อนไม่ซีเรียสเรื่องเกณฑ์ เพื่อนประถมรุ่นเดียวกัน เกิดหลังเรา 4-5 เดือนก็มีค่ะ จากคุณ : -jj- เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 12:01:38

ความคิดเห็นที่ 26 เรามายอมรับอีกเสียงหนึ่ง คือไม่สามารถเลี้ยงลูกให้ครบเกณฑ์อายุได้ จึงพาไปโรงเรียนที่มีเนอส์ฯ แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าลูกจะต้องเรียนเร็วกว่าคนอื่นๆ โรงเรียนที่เราส่งไปเขาจะดูความพร้อมของเด็ก อย่างลูกคนโตถึงแม้จะพาไปอยู่เนอร์ตั้งแต่ขวบกว่าๆ แต่เขาก็กำลังจะเข้าอนุบาล 1 ในเดือน พ.ค.ปีนี้ ตอนอายุ 3 ขวบกว่า (บางคนอาจคิดว่าช้าไป) แต่สำหรับเราไม่ซีเรียส อยากให้เขาทำได้ตามความสามารถของเขาไม่เร่ง ไม่อยากให้เขาเครียด เพราะการเรียนจะเรียนนานแค่ไหนมันก็ไม่มีที่สิ้นสุดถ้าเขาอยากจะเรียน จากคุณ : แม่น้องพีพี เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 14:04:33

ความคิดเห็นที่ 27 ปลายปีนี้จะให้ลูกเข้าเตรียมอนุบาลค่ะ อายุ 2 ขวบกว่า ๆ หากเค้าพร้อมก็คงจะขึ้นอนุบาลก่อนเกณฑ์ไปนิดหน่อยเหมือนกัน แต่ถ้าเค้าไม่พร้อมเราก็จะให้อยู่เตรียมต่อค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น เราว่าผู้ปกครองและครูต้องร่วมกันประเมินค่ะ จากคุณ : LuckyNeko เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 14:16:06

ความคิดเห็นที่ 28 ความเห็นของผม เรียนอ.ปกติ พอจบป.2 ย้ายรร.ไปเทียบป.4 (ต้องยัดเงิน) ก็ลัดได้1ปี จากคุณ : แนะนำด้วยครับ เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 14:51:05

ความคิดเห็นที่ 29 จะว่าตามทฤษฎีก็ถูก แต่เราว่าสุดท้ายมันอยู่ที่ ตัวบุคคล (ทั้งพ่อแม่และเด็ก) มากกว่าน่ะค่ะ ไม่มีใครเหมือนใครหรอกค่ะ พี่สาวเราเกิด ก.ย. เข้าอนุบาลได้ก่อนเกณฑ์ ผลการเรียนของพี่ตอนเด็ก ๆ ไม่ค่อยดีนะคะ แต่มาดีขึ้นตอน ม.ปลาย เรียนไปเรียนมา สอบเทียบ ม.3 ด้วย ม.6 ด้วย เอนท์ติด ตอนอายุ 14 ! แต่สละสิทธิ์ เข้าเรียนแพทย์ ตอนอายุ 15 ! ผลการเรียนเป็นเลิศ ตอนนี้ก็เป็นหมอ แต่งงานมีลูกแล้ว 2 คน แต่เราว่า ชีวิตวัยรุ่นเค้าขาดหายอ่ะค่ะ ส่วนเราเอง เกิด ต.ค. แม่พาไปเข้าโรงเรียนเดิมของพี่ กลับไม่รับเราซะงั้น (เกณฑ์เข้มขึ้นมั้ง) เราก็เลยเรียนช้าไปตามเรื่องค่ะ แต่ผลการเรียนตอนเด็ก ๆเราดีนะคะ เราก็สอบเทียบ ม.5 เอนท์ติด จบก็ได้เกียรตินิยมเหมือนกัน ซึ่งเราว่า เพื่อน ๆ ที่เรียนในรุ่น คนที่เกรดสูง ๆ ส่วนใหญ่สอบเทียบมาทั้งนั้นอ่ะค่ะ ส่วนลูกเรา เกิด เม.ย. ดีจัง ได้เข้าเรียนตามเกณฑ์ ^^ จากคุณ : BoMuChan เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 15:06:11

ความคิดเห็นที่ 30 โดยส่วนตัวเรามองว่าพ่อแม่ควรมองพฤติกรรมของลูกก่อนส่งเค้าเข้าเรียนนะ อย่างเด็กบางคนชอบเล่น ชอบเข้ากลุ่มกับเพื่อนชอบอยู่กับคนจำนวนมาก ก็ควรให้เข้าเรียนก่อนเกณฑ์ ในขณะที่เด็กคนอื่น ชอบอยู่กับพ่อแม่ติดมาก หรือไม่พร้อมก็ให้ไปตามเกณฑ์ ไม่ใช่จับลูกส่งเข้าเรียนอย่างเดียวโดยไม่ดูพฤติกรรมและความพร้อมของลูก ลูกสาวเรากำลังหาที่ให้เข้ากลุ่มเพราะเรามองเห็นว่าเค้าชอบอยู่กับเพื่อน ชอบเล่นกับคนอื่น เวลาที่อยู่กับพ่อแม่ ถ้าไม่เล่นด้วยเค้าจะหงอยไปเลย แต่ถ้าเล่นด้วยเค้าจะมีความสุขมาก แต่เราคงเป็นของเล่นให้ลูกไม่ได้ตลอด เพราะฉะนั้นเราจึงให้เค้าเข้ากลุ่มเตรียมตัวอนุบาล เอ้อลืมบอก ลูกสาวเรา 11 เดือนคะ จะไปเข้ากลุ่มเรียนตอนเดือนกันยายนปีนี้ก็คงประมาณปีกว่า ๆ จากคุณ : แม่น้องฟ้าใส เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 21:23:21 A:84.170.187.181 X: TicketID:277569

ความคิดเห็นที่ 31 เด็กหญิงของดิฉันเข้าอนุบาลหนึ่งตอนสองขวบ สิบเดือน ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น คุยกับคุณสามีมาตลอดเรื่อง ไม่อยากเร่งเค้า (ตามทฤษฎีที่มีมา) เพราะจริงๆก็ไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องรีบจบ เพื่อทำงาน ทำไม แต่ ทุกคนมีเหตุผลของตัวเองค่ะ เพราะเค้าอยู่บ้านกับคุณปู่ คุณย่า ซึ่งงานเลี้ยงเด็กวัยนี้ถือว่าหนักค่ะ โรงเรียนก็อยู่หน้าบ้านก็เลยให้เข้าอนุบาลหนึ่งไปเลย ประกอบกับช่วงนั้น เค้าช่วยเหลือตัวเองได้พอสมควรแล้ว เค้าเป็นเด็กที่ค่อนข้างมีความมั่นใจในตัวเอง เข้ากับคนอื่นได้ง่าย เพราะฉะนั้น เมื่อไปโรงเรียนจึงไม่ค่อยมีปัญหาด้านพัฒนาการทางสังคม มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อมัดเล็กอยู่บ้าง แต่ก็บอกคุณครูไว้แล้วค่ะ ว่าเราไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย หลังจากนั้น เค้าก็พัฒนาตามลำดับค่ะ เท่าที่ดู ตอนนี้อนุบาลสอง ไม่มีปัญหาอะไร จริงๆไปโรงเรียนก็ดีค่ะ ด้วยความที่เป็นลูกคนเดียว เหมือนที่บางท่านบอกค่ะ อยู่บ้านเหมือนเป็นศูนย์กลาง ไปโรงเรียนก็เหมือนมีเพื่อนวัยเดียวกัน ได้เล่นกันตามประสาเด็กๆ และบางครั้งก็ต้องมียอมๆคนอื่นบ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดูความพร้อม หลักสูตร ความคาดหวังของโรงเรียนด้วยค่ะ ตอนเรียน ป ตรีเห็นมีเพื่อนบางคนที่เรียนก่อนเกณฑ์มากๆ เค้าก็เรียนเก่งๆกันนะคะ จากคุณ : ดวงเด่นเดือน (ดวงเด่นเดือน) เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 21:33:16

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณสำหรับทุกๆความเห็นนะคะ เราเองแค่อยากนำเสนอมุมมองอีกด้านเท่านั้นเองค่ะ และไม่ได้มีความหมายว่า คนที่ไม่ทำอย่างนี้จะผิด เพราะสุดท้าย คนที่จะตัดสินใจก็คิอคุณแม่ บนพื้นฐานความพร้อมและความสามารถของคุณลูก และปัจจัยอื่นๆ ตามที่แม่ๆทั่้งหลายมาแชร์  ทั้งเรื่องไม่มีคนเลีิยง หรืออยากให้มีสังคม เพราะพ่อแม่ทุกคนก็ต้องการให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกอยู่แล้ว ประสบการณ์ต่างๆที่แม่ๆเอามาแชร์ จะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังลังเล หรือกำลังตัดสินใจ ให้มีมุมมองหลากหลายค่ะ เคารพทุกการตัดสินใจของทุกคนค่ะ จากคุณ : แม่น้องกล้า-กัปตัน (Le PeTiT MoM) เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 23:15:36

ความคิดเห็นที่ 33 นอกจากนี้โรงเรียนแต่ละโรงเรียนก็มีเกณฑ์รับเด็กเข้าเรียนไม่เหมือนกัน ทำให้เด็กเรื่มเรียน อ. 1 ที่อายุต่างกันไปบ้าง   ร.ร.ที่ จขกท. เล็งไว้ตัดเดือน ก.ค.   ร.ร. ลูกสาวเราตัดที่เดือน พ.ค. ร.ร. แสงโสมตัดประมาณ ต.ค-พ.ย. ร.ร. สาธิตจุฬา ตัดที่ประมาณเดิอน พ.ย. ลูกเพื่อนที่เป็นอาจารย์อยู่ที่นั่นเกิด ตุลาคม 51 ปี ปี พ.ค. 54 นี้เลยได้เข้า อ. 1 จากคุณ : เจ๊ว่าแล้ว เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 10:20:24

ความคิดเห็นที่ 34 ลูกชายเข้าเรียนอ.1 ตอน2ขวบ10เดือน ค่ะเป็นเด็กเกิด ก.ค.50 ตามเกณฑ์คือน้องต้องเรียน อ.1พ.ค.54 นี้ แต่ที่ให้เข้าเรียนก่อนเนื่องจากตอนแรกคิดเหมือนอีกหลายๆคนว่าตกเกณฑ์ไปแค่เดือนกว่าๆคงไม่เป็นไรแต่พอลูกเข้าเรียนได้1เทอมก็เริ่มเห็นความแตกต่างเนื่องจากเพื่อนในห้องลูกอีก9คน(ในห้องมี10คน)เป็นเด็กเกือบ4ขวบบางคน4ขวบกว่าลูกเราจึงเป็นน้องเล็กในห้องงานบางอยา่งที่ครูสอนเค้าทำได้เหมือนเพื่อนแต่บางงานเค้าทำไม่ได้เหมือนเพื่อนเค้าจะเลื่ยงไม่ทำเลย เท่าที่คุยกับครูแล้วหลายๆครั้งลูกเหมือนขาดความมั่นใจในการที่จะตอบคำถามหรือขาดความเชื่อมั่นในตัวเองไปเราเห็นความชัดเจนขึ้น ทำให้เราคิดว่าสิ่งที่เราตัดสินใจให้ลูกเข้าเรียนเร็วไม่ได้นึกถึงใจลูกนี่แย่มากๆและเสียใจที่ตัดสินใจแบบนั้น ตอนนี้เราจะให้ลูกเรียนซ้ำอ.1อีกปีค่ะให้เค้าได้อยู่กับเด็กรุ่นเดียวกันกล้ามเนื้อต่างจะพร้อมและที่สำคัญเราอยากได้ลูกที่มีความสุขในการไปโรงเรียนมีความมั่นใจเพราะสิ่งนี้ถ้าเราไม่รีบแก้ไขมันจะติดตัวเค้าไปถึงตอนโต โชคดีที่ครูประจำชั้นคอยแนะนำและช่วยเหลือเยอะมาก เราอยากแชร์ประสบการณ์ตรงนี้ให้เผื่อพ่อ แม่ที่กำลังตัดสินใจให้ลูกเรียนเร็วหรือตามเกณฑ์ดีให้พิจารณาให้ดีก่อนนะคะ่เราเห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ว่าจะเร่งลูกให้เรียนเร็วไปทำไม แต่ทุกอยา่งก็ขึ้นกับความพร้อมของครอบครัวแต่ละครอบครัวและเด็กแต่ละคนอาจรับได้ไม่เท่ากันค่ะ จากคุณ : นู๋แมวเหมียว เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 13:17:57