ความคิดเห็นที่ 1 เห็นเหมือนคุณทุกข้อค่ะ ของลูกชาย 4 4/12 ปี เราสอนเรื่อง นอกเขตลูก ไม่รบกวนผู้อื่นค่ะ เขตลูก คือ บริเวณที่พ่อ แม่ ลูก กำหนดไว้ว่าเป็นที่ของหนู ตรงนี้จะช่วยได้หลายเรื่องค่ะ เช่น ไปร้านอาหาร เขตลูกคือ โต๊ะอาหาร ไม่เดินเล่นเสียงดังในร้าน ไม่ยื่นหน้า ไปโต๊ะอื่น ส่งเสียงดัง ก็ถือเป็นการรบกวนโต๊ะอื่น เพราะเราสุดเบื่อ เวลาไปร้านอาหาร หรือที่สาธารณะ แล้วเจอเด็กๆ ส่งเสียงดัง ยื่นมือ ยื่นหน้ามาบริเวณโต๊ะอาหารของเราค่ะ เลยไม่อยากให้ลูกไปทำ หรือในร้านหนังสือ เราจะบอกลูกว่า เขตของร้านนะ ไม่ใช่เขตของลูก หนังสือไม่ใช่ของเรา  จับหนังสืออย่างระมัดระวัง เราเคยเห็นเด็กๆนั่งอ่านกับพื้น จนท่านอื่นเข้าไปเลือกหนังสือไม่ได้ และบางคน แกะ sticker มาแปะเล่นด้วย สังเกตุว่า หลังรู้ขอบเขตตัวเอง ลูกก็เคารพผู้อื่นค่ะ จากคุณ : AKTIS เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:23:06

ความคิดเห็นที่ 2 โหวตค่ะ ชอบมาก จากคุณ : บาหลี...ดินแดนในภาพวาด เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:26:04

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากๆ เลยครับ ของผมเองก็สอนเหมือนที่ จขกท.สอนเหมือนกันครับ :) เอาที่ผมสอนลูกสาวมาช่วยเพิ่มเติมนะครับ - เวลามีผู้ใหญ่ยิ้มให้ ให้ยกมือไหว้ทุกครั้ง - เวลายกมือไหว้ ควรยิ้มด้วยทุกครั้ง ไม่ทำหน้าหงิกหน้างอในขณะยกมือไหว้ - เดินผ่านผู้ใหญ่ต้องค้อมตัวเสมอ - ใครให้ขนมทาน ให้รับไว้แต่อย่าแกะทานทันที ให้เอามาให้ป๊าหรือแม่ดูให้ก่อนเสมอ - เป็นเด็กผู้หญิง อย่าเดินไปไหนตามลำพังเพียงคนเดียว สถานที่ที่จะไปควรมีผู้ใหญ่ที่รู้จักหรือไว้ใจได้อยู่แถวนั้นเสมอ - ทุกคนล้วนแต่มีหน้าที่ความรับผิดชอบด้วยกันทั้งนั้น ป๊ากับแม่มีหน้าที่ทำงานเลี้ยงดูเรา เราก็มีหน้าที่ตั้งใจเรียน และเป็นเด็กดีเชื่อฟังพ่อแม่ - คำพูดที่สุภาพ และการมีสัมมาคารวะจะทำให้หนูเป็นเด็กที่มีแต่คนรัก ไม่เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของหนู - ไม่ว่าโตขึ้นไปอยากจะเป็นอะไร ประกอบอาชีพอะไร การที่หนูตั้งใจเรียนจะทำให้หนูได้เป็นอย่างที่หวัง จากคุณ : พ่อปุ๊ยกับปุณ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:26:45

ความคิดเห็นที่ 4 แวะมาอ่าน ให้กิฟท์และโหวตให้ด้วยค่ะ ขอบคุณมากๆ ที่มาแชร์ จากคุณ : coffeelover เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:33:48

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ได้สอนเรื่องเดียวคือไหมขัดฟันค่ะ เดิมทีไม่เคยคิดนะค่ะเข้าใจว่าเด็กยังไม่ต้องก็ได้ แต่พอได้มาดูจขกท.แล้ว เราว่าโอเคเลยอ่ะ เดี๋ยวเย็นนี้เริ่มเลย..ลุย จากคุณ : กะเตงลูกเที่ยว เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:41:53

ความคิดเห็นที่ 6 สอนว่า ถ้้าไม่เสพยาที่อาจเพื่อนเลวๆบางคนให้ ก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่ได้เป็นลูกผู้ชาย สร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดให้ลูก : ) จากคุณ : ขาประจำบัตรผ่าน เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:49:18 A:61.90.77.139 X: TicketID:285515

ความคิดเห็นที่ 7 นอกจากสอนแล้ว เราพยายามไม่ทำอะไรที่ไม่ดีให้ลูกเห็นค่ะ เพราะเค้าจะเลียนแบบพฤติกรรมจากผู้ใหญ่ อย่างเช่น - ไม่ใช้เท้า เขี่ยของ หรือปิดพัดลม (หุ หุ อันนี้เคยเผลอใช้ เจ้าลูกชายเห็นครั้งเดียว จำได้ เอาไปทำตามเลย) - ถึงจะเป็นลูกชาย แต่ไม่เคยใช้เท้าเตะ หรือเล่นกับลูก เพราะกลัวว่า ลูกจะเห็นเรื่องการเตะต่อยเป็นเรื่องปกติของลูกผู้ชาย (คิดมากไปเองหรือป่าวไม่รู้นะ แต่เราคิดแบบนี้อ่ะ) - สอนลูกให้รู้จักงานบ้าน เราซื้อของเล่นที่เป็นพวกชุดครัว เตารีด ครก มีดหั่นผัก เพราะเราอยากให้ลูกเราคุ้นกับมัน เพื่อโตขึ้น เค้าจะได้ไม่เกี่ยงงานพวกนี้ว่า เป็นงานของผู้หญิง - ทุกครั้งที่เจอพระ เจอรูปในหลวง จะสอนให้ลูกไหว้ เพื่อให้ลูกเคารพ และรักในสถาบันศาสนาและพระมหากษัตริย์ - สอนลูกให้รู้จักแบ่งปัน โดยการให้ลูกแบ่งของเล่น ของกิน พาไปให้อาหารปลา ให้เงินไปหยอดตามตู้รับบริจาค สิ่งเหล่านี้ เราเริ่มสอนลูกตั้งแต่เริ่มพาลูกไปเที่ยวนอกบ้านได้ (ตอนนี้ลูก 1.5 ปีค่ะ) ค่อย ๆ หัดเรื่อย ๆ ไม่รู้จะเห็นผลเมื่อไหร่ แต่อย่างน้อย ก็ขอให้อนาคตมีสุภาพบุรุษขึ้นมาได้อีกซักคนก็คงจะดี อิ อิ จากคุณ : มะตี้@แมวน้ำ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:49:42

ความคิดเห็นที่ 8 ชอบกระทู้นี้จังเลยค่ะ เมื่อตอนที่ลูกยังเล็กดิฉันก็จะสอนคล้าย ๆ กับ จขกท เหมือนกันค่ะ อย่างเวลาลูกทำน้ำ นม หรืออะไรก็ตามหกเลอะเทอะบนพื้น ดิฉันก็จะบอกกับเขาว่า ทำหกเลอะเทอะแล้วต้องทำความสะอาดนะลูก ก็ทำให้เขาเห็น หลัง ๆ ลูกเขาก็จะทำเอง กินนมกินน้ำแล้วทำหกเขาก็ไปหาผ้ามาเช็ดมาถู (ก็สะอาดได้แบบเด็ก ๆ ค่ะ) แต่ที่น่าชื่นใจคือ เมื่อเขามีน้อง น้องทำอะไรหกเลอะเทอะ ก็จะได้ยินพี่ชายบอกกับน้องตัวเล็ก ๆ ว่า ...ทำหกไม่เป็นไร หาผ้ามาเช็ดซะ ..... สอนให้ลูกรู้จักแบ่งปันค่ะ สอนลูกว่าของกิน ของเล่น หนังสือแบ่งกันได้ ยกเว้นการบ้าน(เพราะเจ้าพี่ชายชอบช่วยน้องทำการบ้าน)....แต่พอโตขึ้นมา พี่ชายเขาก็ช่วยสอนการบ้านน้องค่ะ ดิฉันก็เลยบอกลูกว่าแบ่งปันความรู้แบบนี้ดีกว่าทำการบ้านให้น้อง ลูกชายคนเล็กชอบแมวมากค่ะ เห็นที่ไหนไม่ได้ต้องไปเล่นด้วย บอกกับลูกว่า แมว มีเชื้อโรคที่จะทำให้ลูกไม่สบายได้ ถ้าโดนแมวข่วน แมวกัดต้องรีบมาบอกพ่อแม่หรือคุณครู ยิ่งถ้าเป็นแมวที่ไม่มีเจ้าของจะยิ่งมีเชื้อโรคมาก เพราะไม่มีคนดูแล......เวลาลูกชายไปบ้านญาติ ๆ เมื่อตอนที่เขายังเล็ก เขาเคยถามเจ้าของบ้านว่า ฉีดยาแมวแล้วหรือยัง ญาติ ๆ ดิฉันยังบอกดิฉันเลยค่ะว่า ลูกชายรอบคอบนะ แต่ตอนนี้เขาทั้งคู่โตแล้วค่ะ ก็เลยมีเรื่องที่ต้องบอกกล่าวกันไปตามวัยของเขา แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 12:29:57 แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 11:55:12 จากคุณ : ทะเลสวย น้ำใส เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:51:16

ความคิดเห็นที่ 9 ขอเพิ่มเรื่อง ตอนอยู่ในที่มืด เวลาไฟดับ ด้วยค่ะ เพราะเด็กจะตกใจ แล้วก็กลัวความมืด ก็เลยบอกลูกว่า เวลาไฟดับ ให้อยู่นิ่งๆ ส่งเสียงบอก ว่าอยู่ตรงไหน แต่อย่าเดินมาหาแม่ หรือ พ่อ พ่อแม่ จะเดินไปหาเอง และ พยายามพูดคุยกับเค้า อย่าเงียบ เพื่อลดความกลัวค่ะ เวลาถือแก้ว ให้เดินระมัดระวังกว่าปกติ เพราะหากแก้วแตก ไม่เพียงแต่แก้วแตก แต่ลูกอาจจะได้รับอุบัติเหตุแก้วบาดได้ อาบน้ำเสร็จ ให้เช็ดเท้าให้แห้ง ก่อนเดินไปไหนๆ โดยเฉพาะเดินลงบันได เพราะพื้นจะลื่น อาจเกิดอุบัติเหตุได้ เวลาไปบ้านญาติ หรือบ้านที่ไม่คุ้นเคย ห้ามวิ่งเล่น ซุกซนมาก เพราะมีหลานคนนึง เคยประสบอุบัติเหตุชนบานประตูกระจก มันใสมาก เค้าไม่ทราบว่านั่นคือบานประตูกระจก เค้าวิ่งผ่านเลยค่ะ ตอนทราบข่าว ตกใจมาก โชคดีที่แค่เย็บ (ไปหลายสิบเข็ม) และเป็นเด็กผู้ชาย แผลเต็มหน้าเลย ส่วนมากจะเน้นเรื่องระวังอุบัติเหตุค่ะ จากคุณ : Dreams Catcher เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:55:31

ความคิดเห็นที่ 10 ลูกขวบครึ่งเพิ่งเริ่มสอนมาได้ 1 อาทิตย์ค่ะ เวลาได้ยินเพลงชาติให้ยืนตรงและสำรวม พอจบเพลงให้โค้งทำความเคารพ ตอนนี้ลูกทำเองได้โดยไม่ต้องบอก ดนตรีมาก็ลุกยืน เพลงจบก็โค้ง ปลื้มค่ะ :) เรื่องอื่นๆ ก็เหมือนที่พ่อแม่หลายๆ ท่านแชร์ มีอีกหลายเรื่องที่ไม่ได้นึกถึงจะเอาไปสอนลูกเพิ่มค่ะ ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ ค่ะ :) จากคุณ : จ้าว..จอม เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 12:15:27

ความคิดเห็นที่ 11 ล้างมือ ล้างเท้าทุกครั้งที่กลับเข้าบ้าน (กลับจากโรงเรียน ไปเที่ยวเล่น) เก็บรองเท้า ถุงเท้าเองให้เรียบร้อย สอนให้สั่งน้ำมูก  เพราะถ้าสั่งน้ำมูกไม่เป็น เวลาเป็นหวัดเด็กจะสูดน้ำมูก ซึ่งทำให้เกิดปัญหาหูอักเสบได้ง่าย ไม่ให้รับของของคนอื่น ต้องขออนุญาตพ่อ แม่ก่อนเสมอ แปรงฟันก่อนเข้านอน และหลังแปรงฟันแล้วงดทานอาหารหรือขนมทุกชนิด ตอนเช้าให้เค้าแปรงเองได้ ขอบคุณทุกครั้งที่มีคนทำอะไรให้ ทุกวันนี้ ลูกชายเวลาขอบใจน้อง จะพูดว่า"น้องครับ ขอบใจครับ" ฟังแล้วขำมาก ฯลฯ จากคุณ : Anonym เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 12:31:20

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบมากค่ะ ให้สติ มากๆ เลย มีมาแชร์กันอีกนะคะ จะเข้ามาอ่านเรื่อยๆ *สำหรับคุณลูก เราจะไม่ใช้คำว่าไม่หรือห้าม หรือพยายามใช้น้อยที่สุด เวลาเราต้องการหรือไม่ต้องการให้ลูกทำอะไร จะบอกเหตุผลกับเค้าก่อนทุกครั้งว่าเพราะอะไร จะส่งผลอะไรต่อเค้าถ้าทำหรือไม่ทำสิ่งนั้นๆค่ะ *อีกอย่างเรื่องสอนให้ไหว้พระและในหลวงนั้น ได้ผลแล้วค่ะ น้องอายุ ขวบกว่า เห็นพระหรือภาพในหลวง จะยกมือไหว้ ค่ะ เค้าจำทุกอย่างแล้วจริงๆ *เรื่องใช้เท้านี่ เตือนสติเราได้อย่างดีเลย 555 (บางทีลืมตัว) จะระมัดระวังให้มากขึ้นค่ะ ขอบคุณมากค่ะ * เรื่องเขตของลูกนี่ ของคุณ  AKTIS เยี่ยมมากเลยค่ะ จะนำไปใช้กับคุณลูก เพราะเราก็ไม่ชอบเวลาไปที่สาธารณะแล้วเจอเด็กๆที่ไม่เคารพสถานที่ หรือสิทธิของคนอื่น วิธีนี้ต้องได้ผลแน่เลย ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : buabee เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 12:38:48

ความคิดเห็นที่ 13 ลูกชายขวบครึ่ง ตอนนี้ก็สอนให้ไหว้พระ และในหลวง เจอ พระและ รูปในหลวงที่ไหนไหว้หมด อีกเรื่องที่สอน คือทิ้งขยะ เวลา ถอดแพมเพิสให้เขาจะรีบเอาไปทิ้งขยะทันที ทุกๆคำสอนที่เพื่อนๆนำมาแชร์ มีประโยชน์มากๆเลย ค่ะ จากคุณ : บ้านเพื่อน เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:04:29

ความคิดเห็นที่ 14 ลูกยังเล็กค่ะ แต่มีเรื่องที่ตั้งใจไว้ว่าจะต้องสอนลูกคือ.. - ให้ลูกรู้จักการรอคอยค่ะ - ให้ลูกรู้จักการเข้าคิว ห้ามแซงคิวคนอื่นเด็ดขาด จากคุณ : orangestar_y เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:32:00

ความคิดเห็นที่ 15 ลูกเรา 1.3 ปี เวลาเค้าเล่นของเล่นเราจะสอนให้เก็บค่ะ ตอนนี้ก็รู้จักเก็บบ้างแล้ว เวลาเค้าได้ยินเพลงชาติเค้าลุกขึ้นยืนเองแต่ยังไม่ยืนตรงเราก็จะสอนให้เค้าโค้งตัวตอนจบ ตอนนี้ก็ค่อย ๆ หัดค่ะ และจะสอนให้ไหว้ผู้ใหญ่เวลาให้ของหรือเจอกัน  ตอนนี้ค่อย ๆ สอนหนะค่ะ จากคุณ : opleee เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:47:43

ความคิดเห็นที่ 16 ชอบกระทู้นี้จังค่ะ .. ตอนนี้ สอนได้หลายเรื่องแล้ว เค้าอายุ 2.2 เดือน แต่ที่คิดไว้และตั้งใจว่าจะสอนคือ 1.เคารพกฎกติกาต่อตัวเองและผู้อื่น 2.ไม่โกหก 3.ไม่เอาของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง คิดว่าใน 3 ข้อนี้มันสามารถสอนและคลอบคลุม อะไรได้หลาย ๆ อย่างเลยค่ะ ตั้งใจว่าจะสอนเค้าไปรื่อย ๆ  ค่ะ จากคุณ : ปูลมค่ะ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 14:32:44

ความคิดเห็นที่ 17 ทู้นี้ดีจังเลย น้องเพิ่งแปดเดือน จะจำไว้สอนลูก เดี๋ยวพอสอนได้เมื่อไหร่ จะค่อยๆสอนเค้าเลยละค่ะ จากคุณ : jjmicro เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 14:32:50

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้ามีลูกจะสอนว่า ควรเคารพผู้ใหญ่ด้วยการ "พนมมือไหว้" ไม่ใช่ "ผงกหัวหงึกๆ" จากคุณ : Q เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 15:00:10 A:125.25.10.167 X: TicketID:306354

ความคิดเห็นที่ 19 เราสอนเรื่องที่อยู่นะ  ท่องที่อยู่ได้หมดแต่ๆๆ บ้านเราเลขที่ 3  ลูกเราบอกเลขที่ 4 ทุกทีมันชอบเลข 4 อ่ะ  ถ้าหลงคนจะส่งถูกบ้านมั๊ยเนียะ จากคุณ : baby_lotion เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 15:26:36

ความคิดเห็นที่ 20 เราสอนลูกเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก เราจะชอบพูดกับลูกเสมอ   มีสติ ทำอะไรให้นึกถึงความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่งเลย ไม่ว่าจะเล่นหรือทำอะไรก็ตาม ถ้าเจอเหตุการณ์ หรือเห็นอะไรก็ยกมาเป็นตัวอย่าง เช่น สัตว์ดุร้าย อย่าเข้าใกล้มัน ถ้าเจอมีสติ หาทางห่างมันให้มากที่สุด แบบเคยเจองูในบริเวณบ้าน และก็พ่วงเรื่องยาเสพติดด้วย ว่าผลของการเสพเป็นอย่างไร ดูข่าว ก็เอามาเล่าเป็นตัวอย่าง สร้างภูมิคุ้มกันก่อนเข้าสู่วัยรุ่น จากคุณ : BabyBye เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 15:48:09

ความคิดเห็นที่ 21 -  ทำผิด ให้ขอโทษ .... ให้พูดว่าขอโทษค่ะ แล้วยกมือไหว้  แล้วพูดให้เค้าเข้าใจว่าทำผิดอะไรไป แม่ไม่ได้โกรธ แม่รักมากด้วย   อย่าลืมกอดเค้านะคะเวลาสอน เพราะลูกเราเค้าชอบให้กอด มันจะไม่เหมือนดุ ยังอุ่นใจอยู่  ทั้งๆที่คนทำผิดยังร้องไห้ ผงกหัวหงิดๆ แต่ตั้งใจฟังที่สอน - ถอดเสื้อผ้าออกมาแล้ว ให้เอาใส่ตระกร้า ไม่มีคนเก็บให้แล้ว จากคุณ : baby_lotion เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 15:49:38

ความคิดเห็นที่ 22 สอนให้รู้จักการล้างมือ ก่อน-หลังกินข้าว และ หลังจากเข้าห้องน้ำไปฉี่-อึมา แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 16:04:12 จากคุณ : แงซาย_จอม เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:02:46

ความคิดเห็นที่ 23 ซ้ำค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 16:04:40 จากคุณ : แงซาย_จอม เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:04:07

ความคิดเห็นที่ 24 สอนให้รับผิดชอบกับภาระที่ตัวเองสร้างไว้ ในระดับที่เหมาะสมกับอายุ เช่น ตื่นแล้วต้องพับผ้าห่มของตัว  โตกว่านี้ก็ต้องซักผ้าปูที่นอนเอง ถอดเสื้อผ้า ต้องเอาไปใส่ตะกร้า โตกว่านี้แล้วค่อยซักเอง กินข้าวเสร็จ ต้องเอาจานไปใส่ในซิงค์ โตกว่านี้แล้วค่อยล้างเอง รับผิดชอบแต่เฉพาะเรื่องตัวเองได้เสียก่อน โตกว่านี้ แล้วค่อยคิดไปดูแลคนอื่น จากคุณ : แม่น้องหยง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:09:00

ความคิดเห็นที่ 25 - สอนไม่ให้หลงเชื่อโฆษณา  เช่น กินเครื่องดื่มนี่ นมนั่น แล้วจะฉลาด หรือโฆษณาที่อิงค่านิยม เช่น ผิวต้องขาว แม้แต่จั๊กกะแร้ก็ต้องขาว ดำแล้วผู้ชายไม่มอง ฯลฯ มีลูกสาว ถึงไม่ดำ  แต่ก็ไม่อยากให้มีค่านิยมผิดๆ ไปจนถึงให้ความสำคัญกับสายตาผู้ชายมากกว่าคุณค่าของตัวเอง - สอนให้ล้างก้นโดยเช็ดจากหน้าไปหลังเสมอ สำคัญมากโดยเฉพาะผู้หญิง แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 16:11:58 จากคุณ : lovelypam เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:09:48

ความคิดเห็นที่ 26 ของเราจะสอนเรื่องการ ฉี่ ค่ะ เพราะพอลูกสองขวบ ก็ไม่ยอมนั่งกระโถน ตอนแรกลูกก็ไม่ยอมบอกแม่ค่ะ เมื่อเค้าฉี่เราก็อุ้มไปห้องน้ำก่อน พอหลัง ๆ เค้าเริ่มบอก เราก็กระตือรือร้นถอดกางเกงจูงไปห้องน้ำทันที เค้าก็จะยืนฉี่ ( ไม่ยอมนั่งชักโครก กลัว....ถ้าใครมีวิธีสอนลูกนั่งชักโครกมาแชร์กันมั่งนะคะ ) เราก็จะตบมือให้ แล้วชมว่า " เก่งงงงงงงงงง... " จากนั้นก็จะค่อย ๆ ดึงเค้ามา หอมแก้มทั้งซ้ายและขวา แล้วก็ล้างโปโป๊ะให้ พร้อมกับพูดว่า " มาล้างโปโป๊ะ  จะได้สะอาด สบายตัวนะลูก " หลังจากนั้น เวลาปวดฉี่ เค้าจะบอกเกือบทุกครั้ง ( ยกเว้นอั้นไม่ทัน ) พอฉี่เสร็จก็จะเดินมาให้แม่หอมแก้ม แล้วพูดเองเลยว่า  " ย้างงงง โปโป๊ะ " พอเราล้างเสร็จเค้าก็จะบอกเราว่า  "  สะอาด สบายตัว  " เราก็จะชมลูกทุกครั้งว่า เก่งมากค่า บางทีเค้าก็มีชมตัวเองว่า   " อัดฉะยิยะ "  ( อัจฉริยะ ) ก็ขำดีค่ะ  ^^ จากคุณ : แม่โอ๋เรนเจอร์ (NooPeeYa) เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:10:18

ความคิดเห็นที่ 27 สอนหลายๆ เรื่องเหมือนกันคะ แต่ลูกชาย 2 คน อยู่ในวัยที่ซนมาก ถึงมากที่สุด ไปร้านอาหารยังควบคุมได้ไม่ยื่นมือไปโต๊ะอื่น จะบอกเค้าทุกครั้งว่าไม่ดี คนอื่นไม่ชอบ แต่ถ้าไปร้านหมอ ถ้าต้องรอนาน เค้าจะวิ่งเล่นกัน ก็รู้ว่าคนไม่ชอบมีเยอะ ซึ่งเมื่อก่อนไม่มีลูกเราก็รู้สึกไม่ชอบ แต่เราก็สอนนะคะว่าไม่ดีเสียงดัง รบกวนคนอื่น แต่เด็กยังควบคุมตัวเองไม่ได้มาก ยิ่งคนเล็กตัวนำเลย อุ้มก็ร้อง คงต้องใช้เวลาอีกนาน จากคุณ : mysonny เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:19:45

ความคิดเห็นที่ 28 หลักๆก็พยายามสอนเรื่องศีล 5 ข้อค่ะ ทบทวนทุกวันก่อนนอน ลูกๆจำได้แม่นยำ เรื่องอื่นๆก็ลื่นไหลไม่ติดขัด เมื่อลูกเข้าใจเรื่องการทำความดี ละเว้นความชั่ว เกรงกลัวบาปกรรม จากคุณ : เกิดจากดินใช่ดาวลูกสาวชาวนา เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:25:10

ความคิดเห็นที่ 29 ^_^ ตามที่หลายๆ คนบอกมาเลยค่ะ เราเจอมากะตัว เช่น เวลาไฟดับ แล้ว ควรส่งเสียงให้ลูกรู้ ว่าแม่อยู่แถวนี้ ไม่เป็นไรนะให้เขาอยู่เฉยๆ อย่าได้ตกใจ เพราะ...มีครั้งนึง พ่อเล่นกับลูก ปิดๆ ปิดๆ สวิตช์ไฟ แล้วลูกก็คึกมาก วิ่งทั้งๆที่มืด ปรากฏสะดุดขาเก้าอี้หกล้ม ฟันกระแทกขอบเตียง ได้เลือด ฟันหน้าโยกเลยทีเดียว เรื่องของแตกแบบพี่กุ้งก็เคยค่ะ ตอนนั้นยังไม่ได้สอน ต้องรีบตะโกนบอกให้ยืนเฉยๆ เพราะเจ้าตัว พยายามจะวิ่งไปเอาไม้กวาดมากวาด -_-'' เรื่องสุนัขนอกบ้านอีก คือ ลูกเราจะชอบเล่นกับสัตว์มากกก เจอแล้วก็มักจะไปเล่นด้วย ต้องสอนเขาตลอด เช่น ถามว่า หมาตัวนี้ หนูรู้จักเขาไหมลูก เขาชื่ออะไร ถ้าไม่รู้จัก อย่าเพิ่งไปจับนะ เค้าอาจจะตกใจ หันมากัดได้ แล้วเวลาเขากินอยู่ หนูอย่าไปอยู่ใกล้ๆ นะ เดี๋ยวเค้าคิดว่า หนูจะเข้าไปแย่งขนมกิน ให้เขาถามแม่ก่อนทุกครั้ง ว่า สัตว์ตัวไหนเล่นด้วยได้หรือไม่ ถ้าเจอสัตว์ร้าย เช่นงู หรือตะขาบ ห้ามจับ ให้วิ่งหนีมาบอกแม่ อย่างเวลาทำน้ำหก เราเห็นหลายบ้านจะดุลูก แล้วตัวพ่อแม่เองก็วิ่งไปหาผ้ามาเช็ดงกๆๆๆ แต่บ้านเรา จะไม่ดุ บอกแค่ว่า วันหลังให้ระมัดระวัง แล้ว จูงมือเขา หรือบอกให้เขาไปเอาผ้ามาเช็ดให้สะอาด สอนให้เคารพสิทธิ์ของคนอื่น ก็สำคัญมากเช่นกัน จากคุณ : กุ๊ดจัง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 17:27:54

ความคิดเห็นที่ 30 เออ กุ๊ดจังพูดให้เราคิดเรื่อง ของแตกอ่ะ เวลาแก้วแตก อิแม่ก็ตกใจ ลูกก็ตกใจ แม่มันก็กลัวว่าลูกจะวิ่ง ลูกก็กลัวว่าแม่จะดุ  ไม่รู้จะทำไง ตะโกนบอกให้นิ่งเลย เรื่อง ปลั๊กไฟอีก สอนลูกกันอย่างไงบ้างคะแม่ๆ จากคุณ : baby_lotion เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 17:41:17

ความคิดเห็นที่ 31 เราเพิ่มเติมจาก คห. บนๆ  เพราะมีหลายข้อที่เหมือน  และหลายข้อจะสอนเพิ่มเติม ** เมื่อเข้าบ้านแล้ว    ต้องไปล้างมือ ล้างเท้า  ก่อนที่จะไปทำอย่างอื่น ***เล่นอะไรก็แล้วแต่  ช่วยเก็บของเข้าที่ด้วยทุกครั้ง ****หนูจะมีเวลากินข้าว  ครั้งละแค่ 30 นาที เท่านั้น  จะจับเวลาเมื่ออาหารตั้งโต๊ะพร้อม หากจะดูทีวีหรือทำอย่างอื่นด้วยแม่ไม่ว่า  แต่หมดเวลาแม่จะเก็บทันที   (เริ่มฝึกตอน เกือบๆ 4 ขวบ  เพราะจะไปอยู่ชั้นอนุบาลแล้ว) จากคุณ : พิกุลเหล็ก เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 17:55:46

ความคิดเห็นที่ 32 เมื่อก่อนลูกเราเวลาใครให้อะไรก็จะพูดไม่เอา ไม่เอา พร้อมกับทำหน้าแบบ หนูไม่เอาอย่าเซ้าซี้น่ะ ซึ่งดูไม่น่ารักและดูไม่ดีเลย (แต่ก็คือดีที่ไม่รับของจากคนอื่น แต่ก็อยากให้ลูกดูน่าเอ็นดูกว่านี้) เราก็สอนเค้าเพียง 2 ครั้ง เค้าก็จำได้ ครั้งแรกที่ได้ยินที่เค้าพูดเอง ก็อืมแทบกรี๊ด ภูมิใจในตัวเองที่สอนเค้าได้และลูกสามารถทำได้คือ "ไม่เอาค่ะ ขอบคุณค่ะ" จากคุณ : ก็อย่างว่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 22:12:28

ความคิดเห็นที่ 33 หลายๆ ข้อ ก็เหมือนเจ้าของกระทู้ และความเห็นอื่นๆค่ะ แต่ก็มีบางข้อบ้างเช่นกันที่นอกเหนือจากนั้น - เรื่องไหว้ กลับมาจากโรงเรียนหรือเจอหน้าใครก็ต้องยกมือไหว้ แม้แต่แม่บ้านก็ให้ไหว้เช่นกัน เพราะเค้าก็เป็นผู้ใหญ่กว่าม่าม๊า และเค้าก็คอยช่วยดูแลหนู เวลาม่าม๊าไม่อยู่ - เรื่องกินข้าวกินขนม ปกติเราจะไม่ให้ลูกกินขนมก่อนกินข้าว เพราะถ้าลูกกินขนมแล้วจะอิ่มจนไม่ยอมกินข้าว ปัจจุบันลูกเราก็เลยกินข้าวก่อน แล้วถึงจะตามด้วยขนม - เรื่องทำบุญใส่บาตร เวลาพาลูกไปใส่บาตร เราจะสอนให้เค้าอธิษฐานให้บุญกุศลที่ได้ทำ ส่งถึงเทวดาประจำพระองค์และเจ้ากรรมนายเวรของหนู ให้ได้รับผลบุญนี้ไปด้วย - เรื่องกับข้าวใส่บาตร เราสอนลูกว่า กับข้าวที่นำไปใส่บาตรนั้น จะต้องใส่กับข้าวดีๆ ใส่กับข้าวที่น่ากินหรือใส่กับข้าวที่เราชอบกิน เพราะพระจะได้ฉันท์กับข้าวที่ดีๆ อร่อยๆ และพี่ๆ ที่เป็นเด็กวัด จะได้กินของดีๆด้วย และกับข้าวที่เราใส่ไปนั้นอาจจะไปถึงเรา ให้ได้กินในชาติหน้าก็ได้นะลูก(อันนี้เราคิดไปเองเปล่าไม่รู้ค่ะ เคยได้ยินเค้าพูดๆ กันมา) - เรื่องไฟฟ้า (เน้นที่เครื่องทำน้ำอุ่น) ปกติเวลาเราอาบน้ำลูก จะใช้เครื่องทำน้ำอุ่นบ่อยๆ แต่เราจะต้องลองใช้มือแตะดูก่อน ว่ามีไฟรั่วหรือเปล่า โดยให้ลูกยืนอยู่ห่างๆ แล้วบอกลูกว่า หากเห็นม่าม๊าล้มลง ให้ออกไปสับเบรคเกอร์ลง(เบรคเกอร์อยู่หน้าห้องน้ำ) แล้วห้ามมาใกล้ๆม่าม๊า ให้โทรหาปาป๊าทันที(ลูกเราจำเบอร์โทรศัพท์ของเรากับแฟนได้) ตอนนี้นึกได้เท่านี้ก่อนค่ะ ไว้นึกได้อีกจะมาเล่าให้ฟังต่อนะคะ จากคุณ : กลมเหมือนซาลาเปา เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 22:24:09

ความคิดเห็นที่ 34 ยังไม่มีลูกค่ะ แต่ถ้ามีลูก... -จะสอนให้รู้จักคำว่าทุกข์ เสียใจ และวิธีการคิดที่จะทำให้ก้าวผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้ด้วยดี โดยไม่ทำร้ายตัวเองและคนรอบข้างค่ะ - สอนให้รักษาความดีอย่างเกลือรักษาความเค็ม คนทำได้ต้องได้ดี มีแน่นอน - สอนให้รักตนเองให้เป็นก่อนที่จะรักใคร จากคุณ : I am JUNe. เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 22:53:39

ความคิดเห็นที่ 35 - สอนให้แปรงฟันเช้า เย็น แล้วใช้ฟรอสด้วย - สอนให้เก็บรองเท้า ของเล่น เข้าที่ - สอนให้รู้จักศีลห้า เขาจะรู้ว่าห้ามฆ่าสัตว์ รู้ด้วยว่าห้ามมีกิ๊ก ชอบถามว่ากิ๊กคืออะไร อีกข้อที่ใช้ได้ผลเสมอคือ ห้ามขโมย ทุกอย่างต้องขออนุญาตก่อน - สอนไม่ให้ไปกับคนแปลกหน้า - สอนให้ไหว้ผู้ใหญ่ และไหว้พระก่อนนอน เขาสวดมนต์บทนะโมตัสสะได้ตอนสองขวบกว่า แล้วก็สวดอิติปิโสจบบทได้ตอนสามขวบ - สอนให้ใช้เสียงเบาๆ โดยเฉพาะในที่สาธารณะ ถ้าเขาเห็นเด็กร้องไห้ในร้านอาหาร เขาก็จะหันมาบอกว่า แม่ ทำไมเขาโวยวาย ไม่น่ารักเลย - สอนให้รู้จักการต่อแถว ห้ามแย่งของเล่นของคนอื่น ให้แบ่งปัน จากคุณ : SF Girl เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 23:20:06

ความคิดเห็นที่ 36 ลูกชาย 3 ขวบ 1 เดือน  ช่วงนี้หลัก ๆ จะพูดบ่อยๆ และเยอะ คือ - สอนให้เคารพและให้เกียรติคนอื่น - สอนให้รู้จักวินัยและความรับผิดชอบ ต่อตนเองและส่วนรวม - สอนให้สู้ จากคุณ : PJladd เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 23:48:06

ความคิดเห็นที่ 37 เพิ่งไปเจอหลานสาวมา คนโตป ๒ ได้ เริ่มโต เริ่มรู้เรื่องมาก คนเล็ก ๓ ขวบได้ เป็นเด็กตจว แต่ก็ได้รับการเลี้ยงดูในระดัับหนึ่ง คล้ายคนกทม. เด็กจะแย่งของกัน จะเปรียบเทียบกัน ว่าน้องเล่นแล้ว เขาขอเล่นบ้าง เล่นตู้หยอดเหรียญ เราเลยสอนพี่ไปว่า  ไม่ต้องเทียบกับน้อง เราได้อะไรที่เยอะกว่า (เขาไปเล่นสวนสนุกที่เด็กเล็กเล่นไม่ได้) บอกเรื่องสวนสนุก ได้เรียนดนตรี แต่้น้องไม่ได้ ทำไมต้องมาเปรียบเทียบกัน ตอนนั้นนาทีเฉพาะหน้า หาคำที่สวยกว่านี้ไม่ได้แล้ว แต่ตอนพุดก็จะกอดเเขาไปด้วยนะ (เราเป็นสะใภ้ของบ้านเขานะ) แล้วก็บอกว่าเข้าใจนะ เขาก็รับนิ่งไม่โวยวายต่อ อีกเรื่อง แย่งของกัน พี่ให้ของน้อง น้องมาแย่ง แม่เขาบอกให้น้องไป เพราะน้องยังเล็ก แล้วจะร้องกรี้ดเสียงดัง (นอกสถานที่) แม่เลยแก้ปัญหาว่าให้น้องไป เรามาพูดกับน้องทีหลัีงว่า  ถ้าแบบนี้ ต่อไปจะยึดไม่ให้เล่นทั้งคู่นะ  แล้วหลังจากนั้น อารมณ์ลงกันแล้ว ก็บอกว่า จะกำหนดว่า ต้องเล่นกันกี่นาที  เมื่อถึงกำหนด ต้องให้คืน  ถ้าไม่ได้จะยึดไม่ให้เล่น    พอถึงเวลาปฎิบัติจริง คนน้อง (เหมือนแม่เขาจะตามใจมากกว่า อาจจะตามที่บอกไว้ข้างต้น แล้วคนพี่จะไม่ค่อยโวยวายแล้วไง)  ก็ไม่ปฏิบัติตาม  จนคนพี่มา้ฟ้อง   ไอ้เราก็ไม่กล้าไปดึงออกมา หรือออกคำสั่ง (พูดให้น้องเอาไปให้แล้ว น้องไม่ยอม) เพราะแม่เขานั่งอยู่ด้วย จนคนพี่ น้อยใจร้องไห้  นั่งในรถด้วยกัน  คนพี่ก็ไปซบข้างพ่อ   คนน้องก็เล่่นไม่สนใจพี่ นั่งข้างแม่   เราก้ได้แต่สบตาคนน้อง แล้วทำท่า เจเจ๊ร้องไห้ เพราะแม่เขานั่งอยู่ด้วย จนสุดท้าย นานนนนนนนนนนมาก น้องถึงเอามาให้ เหนื่อยเลยแบบนี้  เราก็คนนอกพูดไม่ได้นะ  ถ้าพ่อแม่ไม่ปฏิบัติ ร่วมมือด้วยอะ เลยคิดว่าถ้าเป็นลูกเรา จะไม่ให้เป็นแบบนี้ จะเริ่มตั้งแต่แรก ๆ  เลย ไม่ปล่อยให้เรื้อรังมาแบบนี้หรอก (เพราะเราะเพิ่งเจอ ก่อนหน้าพ่อแม่ก็คงจะตามใจ) อีกอัน เด็กหญิงสองคนเล่นกัน พี่น้องคู่เดิม คนพี่รู้เรื่องเยอะ จะมาเปิดกระโปรงน้อง มาเล่นจับน้องเล็กของน้อง  เราเห็นก็พูดเลยว่า ห้ามเล่นแบบนี้นะ  และห้ามให้ใครมาจับ มาดู  ใครก็ตามก็ห้าม ครู เพื่อนก็ไม่ได้ (ป้องกันไว้ก่อน)  เป็นของของเราห้ามให้มาจับ อีกอีก พี่โต จะมาพูดคำว่า "องค..." คำนี้เลยกับเรา แต่กระซิบนะ เราก็ตกใจ บอกว่า ไม่ให้พูดนะ ทำไมถึงมาพูดไม่ใช่เป็นคำที่พูดเล่นเลย เด็กบอกว่า เพือ่นในห้องพูดกัน   เราเลยว่า เพื่อนคนไหนพูด ก็ไม่ต้องไปพุดกันคนนั้น ประมาณนี้ เรื่องแบ่งปัน  พี่น้องแย่งของกัน เปรียบเทียบกันทำไงดีคะ  ช่วยแชร์หน่อยคะ เรื่องเพศด้วยคะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 02:45:36 จากคุณ : น้องออมบุญ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 02:44:09

ความคิดเห็นที่ 38 เรื่องแย่งของดิฉันว่าง่าย ให้เทคเทิร์น ใช้ได้ผลทุกครั้งเวลามีเด็กสองคนขึ้นไป ให้เขาดูนาฬิกา หรือนับเลข ว่าหากถึงเลขนี้เเล้ว ต้องเปลี่ยนให้อีกคนเล่น เรื่องเพศ คำเรียกเครื่องเพศ ต้องสอนว่าเป็นคำนามอย่างหนึ่ง แต่ไม่ควรพูด เพราะฟังดูไม่เพราะ เด็กคงคิดว่าเป็นคำยากสำหรับผู้ใหญ่เลยเอามาพูด จากคุณ : mrs.night owl เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 05:46:31

ความคิดเห็นที่ 39 อยากสอนเรื่อง "ผิดหวัง" และ "เสียใจ" ค่ะ ไม่ได้อยากทำให้ลูกรู้สึกเสียใจนะคะ แต่อยากให้เรียนรู้ว่า ชีวิตต้องมี ผิดหวัง คือไม่ได้ทุกอย่างตามที่ตัวเองอยากได้เสมอไป อาจจะเริ่มจากการที่ถ้าอยากได้ของเล่นบางชิ้นแล้ว ยังไม่ซื้อให้ทันที  ให้รอ ให้ลูกรู้จักรอ  และรู้ว่า บางทีในชีวิตคนเรา มันไม่ได้ทุกอย่างอย่างใจหวังเสมอไป เรียนรู้ที่จะ ผิดหวัง และ เสียใจ โดยสอนให้รู้จักคำว่า "ไม่เป็นไร" ให้เขา พยายามจัดการกับความรู้สีกด้านลบ ด้วยตัวเองบ้างค่ะ โดยมีเราเป็นคนปลอบ และ อธิบายให้เข้าใจ แต่ลูกสาว ตอนนี้ยังเล็กมาก คงต้องรอสอนตอนที่พอจะรู้เรื่องค่ะ จากคุณ : ภีวณา (ภีวณา) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 08:36:50

ความคิดเห็นที่ 40 ชอบมากครับกระทู้นี้ เป็นรากฐานที่ดี ของสังคมได้ในอนาคตเลยทีเดียวครับ ต้องของอนุญาต คัดลอกกระทู้  และบางความเห็น นำไปเผยแพร่ กับน้อง ๆ ที่ทำงานต่อนะครับ เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงแข็งแรงให้กับประเทศชาติ เลย ที่เดียวหล่ะครับ ไม่ใช่ล้อเล่นนะ ขอบพระคุณอย่างสูงครับ จากคุณ : พ่อน้องภู (พัฒนพล) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 09:16:30

ความคิดเห็นที่ 41 สอนให้รักคนแก่ คนเฒ่า ให้ยกมือไหว้ได้ทุกคนตั้งแต่ คนกวาดถนนจนถึงญาติผู้ใหญ่ สอนว่าเราไม่ได้อยู่กับเค้าไปตลอด อาจไม่อยู่พรุ่งนี้วันนี้เลยก็เป็นได้ ให้คิดดูว่าถ้าไม่มีเราเค้าจะต้องทำอะไรได้เองบ้าง สอนให้รู้จักแพ้ และต้องแพ้ให้เป็น สอนให้รู้จักอาวุโส แต่คนอาวุโสกว่าก็ทำผิดได้เหมือนเด็ก เวลาผู้ใหญ่สั่งหรือเตือนให้ลองทำตาม แล้วดูว่าถูก ผิด เหมาะ สม กับ ตัวเองหรือไม่ จากคุณ : เลือดหมูขาว เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 09:44:59

ความคิดเห็นที่ 42 โหวตค่ะ จากคุณ : แม่น้องข้าวป้อน (ทู่ซี้) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 09:57:21

ความคิดเห็นที่ 43 เรื่องแย่งของระหว่างพี่น้อง ที่บ้านไม่มีปัญหาค่ะเพราะ จะให้เขาแบ่งกันเล่นโดยกำหนดเวลาของแต่ละคนไว้ (เป็นการสอนให้เขาเคารพกติกาด้วยค่ะ) ทุกวันนี้เวลาจะเล่นเกมส์หรืออ่านการ์ตูนเขาก็จะตกลงกันเองระหว่างพี่น้อง อาจจะมีการต่อรองกันบ้าง เช่นใครจะเริ่มก่อนอย่างไร เขาจะตกลงกันเองค่ะ... เรื่องแพ้ชนะ ผิดหวังสมหวัง ดิฉันสอนลูกโดยผ่านการให้เขาเล่นกีฬาค่ะ กีฬาจะสอนเขามากมายเลยค่ะ และกีฬาก็ทำให้พ่อแม่ลูกได้เรียนรู้กันและกันเพิ่มขึ้นมากด้วยค่ะ อย่างเช่นเมื่อลูกไม่อยากซ้อมพ่อแม่จะทำอย่างไร จะพูดกับเขาอย่างไร เมื่อไปแข่งลูกแพ้หรือชนะ พ่อแม่ลูกจะทำอย่างไร บางครั้งลูกเดินออกจากสนามแข่งอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสแม้ว่าเขาจะแพ้การแข่งขัน บางครั้งลูกเดินออกจากสนามแข่งแบบไม่ค่อยสบายใจนักแม้ว่าเขาจะชนะ บางครั้งก็เดินออกมาทั้งน้ำตาเพราะความกดดันจากการแข่งขัน ฯลฯ เมื่อลูกโตขึ้น ดิฉันเริ่มฟังลูกมากขึ้น ฟังความคิดเห็นของเขา ฟังเหตุผลของเขา และสิ่งที่ได้กลับมาคือดิฉันพูดน้อยลงแต่ลูกเข้าใจ ลูกทั้งสองคนยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น ซึ่งสามีดิฉันมักจะบอกกับดิฉันเสมอว่า ลูกวัยนี้พ่อแม่ต้องมีสติและใช้สติให้มาก อย่าใช้อารมณ์กับลูก ถ้าเริ่มดิฉันเริ่มโมโหหรือโกรธ ดิฉันจะบอกกับลูกเลยว่า ตอนนี้แม่โมโหอยู่นะ ขอเวลาให้หายโมโหก่อนแล้วเรามาคุยกัน ก็ไม่รู้ว่ากว่าลูกจะผ่านช่วงนี้ไปได้ แม่จะสติหลุดสติหาย เรียกสติคืนกันสักกี่ครั้ง แต่ก็จะพยายามค่ะ ที่จะพาลูกผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ ดีใจที่เห็นคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในช่วงวัยรุ่นเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 11:20:30 จากคุณ : ทะเลสวย น้ำใส เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 10:10:23

ความคิดเห็นที่ 44 เนื่องจากลูกโตแล้ว จึงได้ผ่านการสอนมาทุกอย่างแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วง แม่โกรธ โมโห เมื่อลูกทำบ้างไม่ทำบ้าง ออกแนวจำเจไม่สนุกเหมือนตอนเด็ก ๆ แล้วค่ะ แต่พอเด็กทำก็จะ ทำหน้าภูมิใจ และบอกให้เด็กทราบเสมอว่าเด็กทำดีทำถูก เมื่อก่อน ก่อนนอนจะมีการ เล่นบทบาทสมมุติ (Role Play) เรื่องต่าง ๆ จากนิทานบ้าง จากเรื่องที่แม่ต้องการสอนบ้าง จากเรื่องที่เด็กอยากรู้บ้าง โดยจะมีสามคนแม่ลูก (ส่วนใหญ่ บางทีพ่ออยู่ก็จะร่วมด้วย) แสดงเป็นบทบาทสมมุติที่แต่งกันขึ้นก่อน เตี๊ยมกันและแสดง เพื่อให้เห็นภาพ เมื่อเกิดเหตุการณ์จริง จะไม่ตื่นเต้นจนลืมว่าสอนไว้อย่างไร อย่างเบอร์โทรนี่ เราให้เขาจำเบอร์ บ้านย่า บ้านยายด้วย นอกจากพ่อแม่ โดยให้เขาหมั่นโทรหาย่ายายเอง อย่างไฟไหม้ เราสอนให้เขาหมอบต่ำ หาผ้าที่ใกล้ที่สุด (ถ้ามี) มาชุบน้ำ (ถ้ามี) แล้วปิดจมูกไว้ แล้วคลานออกมาจากที่นั้นออกไปที่ทางออกนอกบ้านให้ได้ (เรื่องนี้จะสอนเขาว่า คนส่วนใหญ่ที่อยู่ในไฟไหม้ ไม่ได้ตายเพราะเกิดจากไฟ แต่ตายเพราะขาดอากาศหายใจ จึงต้องหมอบต่ำ เพราะอากาศจะเบาบางกว่า คาร์บอนไดออกไซต์ อันนี้เคยทดลองกันแล้วเรื่อง การทำหมอก การเกิดควัน เขาจะเห็นภาพที่อากาศกดตัวลงต่ำ และหมอกควัน และอากาศเสียลอยตัวขึ้น ก็สอนเพิ่มเติมเรื่องควันเสีย ควันพิษต่อ แถมต่อด้วยเรื่องความชื้นจากน้ำที่เอามาชุบผ้าจะทำให้เราหายใจได้ง่ายขึ้น เพราะไฟไหม้จะทำให้อากาศน้อยและแห้งมากไม่ดีกับปอด) หากมืด (เตรียมสอนไว้แล้ว) ให้หลับตาสักพัก หยุดตื่นเต้น แล้วค่อยลืมตา ทุกอย่างจะสว่างขึ้นกว่าตอนก่อนหลับตา และจะมองเห็นของ และจำได้ว่าอะไรเป็นอะไรมากขึ้น หากกลัวให้หยุดอยู่กับที่ อย่าไปไหน แล้วตะโกนเรียกมาม้า ปาป๊า ไม่ว่าจะหลงหรือไม่หลง (ในสถานที่ไม่คุ้นเคยหรือที่บ้าน หากอยู่ดี ๆ เกิดกลัว (ช่วง7-9 ขวบจะกลัวผีเพราะเด็ก ๆที่ รร. จะชอบเล่าเรื่องผีกันค่ะ)) เวลาให้ของกับคนอื่น ต้องให้ของที่เรามีอยู่ที่ดีที่สุดกับคนอื่นที่เราอยากให้เสมอ อย่าเอาของไม่ดีให้เขา เช่น แบ่งขนม เอาอาหารที่ทำใหม่ ๆ วันนั้นให้เพื่อนข้างบ้าน ต้องตักก่อนเสมอ เด็กจะสงสัยและเราก็ต้องอธิบายยาวววว เมื่อมีเวลา หรือเห็นตัวอย่างที่ทั้งดีและไม่ดีก็จะทบทวนการสอนแต่ละอย่าง อย่างเมื่อเช้า เจอตัวอย่างไม่ดีหนึ่งอย่างคือ ทั้งขับรถไป สูบบุหรี่ไป เปิดกระจกเขี่ยผงบุหรี่ออกนอกรถ เราก็ร่ายยาวเรื่อง มะเร็งปอด เรื่องขับรถแล้วทำอย่างอื่น เรื่องเขี่ยบุหรี่ลงถนนสาธารณะ ใครจะมาทำความสะอาดให้ ไม่ทิ้งขยะลงสถานที่สาธารณะหรือที่ใด ๆ เด็ดขาด ขยะต้องไปอยู่ในบ้านของขยะเท่านั้น จนเลยต่อไปว่า หากมีเพื่อนมาชวน สูบบุหรี่ หรือลองยาอะไรก็ตาม อย่าลองเด็ดขาด เพราะมันเป็นสิ่งเสพติด มันจะติด หากเพื่อนบอกว่า หากไม่ลองแปลว่าเราไม่รักเขา ไม่รักเพื่อน แสดงว่า คนพูดนั้นเป็นคนที่ไม่รักเพื่อนมากกว่า เพราะเพื่อนที่ดีไม่สอนให้ลอง ให้สูบสิ่งไม่ดีแน่นอน ให้บอกเพื่อนคนนั้นเลย ว่าเรารักเพื่อน แต่เราไม่อยากให้เพื่อนสูบบุหรี่ ไม่อยากให้เพื่อนลองสิ่งไม่ดี และเราก็จะไม่ลอง (อันนี้สอนอนาคต ต้องรอดูต่อไป และต้องสอนเรื่อย ๆ) ตอนนี้ที่สอนหนักและเข้มข้นคือเรื่อง มีโทรศัพท์มือถือ มีเกมส์ play psp xbox ฯลฯ ต้องสอนและพูดทุกวันว่า เรายังไม่มี เพราะเราไม่จำเป็นต้องเหมือนคนอื่น (เขาจะบอกว่า คนอื่นเขามีกัน) เราจะมีสิ่งที่จำเป็น ตามอายุ เช่นกินโค้กได้ตามใจตอนอายุ 18 ขับรถได้ตอนมีใบขับขี่ ห้ามขี่มอเตอร์ไซต์เด็ดขาดเพราะเห็นอุบัติเหตุเกิดกับมอเตอร์ไซต์เกือบทุกวัน มีโทรศัพท์ได้เมื่อรับผิดชอบของไม่ให้หาย และสามารถป้องกันตนเองจากการโดนคนอื่นมาแย่งโทรศัพท์ไปจากมือตนเองได้ ตอนนี้ยังไม่มีโทรศัพท์หากอยากโทรหามาม้า ปาป๊าให้เอาเหรียญไปหยอดตู้ หรือไม่ก็ไปห้องธุรการ ห้ามไปกับคนแปลกหน้า หรือไม่แปลกหน้าก็ตาม หากมาม้าไม่อนุญาตก่อน โดยเฉพาะตอนเลิกเรียน ไม่ว่าจะเป็นใคร (ยกเว้นแค่ มาม้า ปาป๊า ยาย ย่า อากง เท่านั้น) ต้องรอมาม้ามารับเท่านั้น หรือไม่ก็ต้องได้ยินเสียงมาม้าจากโทรศัพท์ก่อนที่จะไปกับคน ๆ นั้น ตอนนี้เริ่มสอนเรื่อง ความสำคัญของการออกกำลังกายมีมากกว่า การนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ เพราะเด็กเริ่มจะสนใจคอมพิวเตอร์มากกว่า ออกกำลังกายซะแล้ว สอนเรื่อง แพ้ ชนะ และการเล่นเกม ต้องมีแพ้ ชนะ เป็นธรรมดา อย่าท้อถอย ต้องเล่นใหม่ และฝึกฝน ก็จะชนะในที่สุด และต้องมีน้ำใจนักกีฬา ไม่โอ้อวดเกินไปเมื่อชนะ ไม่เสียใจเกินไปเมื่อแพ้ (ยาก) สอนเรื่อง ระงับความโกรธ เพราะ คนหนึ่งโกรธแล้วชอบร้องไห้ อีกคนโกรธแล้วจะโมโห ทำร้ายคนอื่น ก็ต้องสอนให้ รู้ว่าตอนนี้โกรธแล้วนะ บอกให้เขารู้ และให้เขาบอกออกมาว่า โกรธ และสอนเขาต่อว่า ทำยังไงดี (ให้เขาคิดเอง เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างมาม้า หากโกรธจะเดินหนี จะเปลี่ยนเรื่องทำ) ที่จะทำให้ ความโกรธหายไปโดยเร็ว ไม่ต้องร้องไห้ ไม่ต้องโวยวาย ไม่ต้องทำร้ายคนอื่น ดีกว่าไหม ชี้ให้เขาเห็น และให้เขาเปลี่ยนเรื่องทำตามที่เขาคิด ก็จะค่อย ๆ เพิ่มการบริหารความโกรธได้มากขึ้น ตอนนี้อยู่ระหว่าง บ่มเพาะ แต่แม่นี่ เป็นตัวอย่างที่ไม่ค่อยดี เพราะ ปรี๊ดบ่อย แต่ก็เอาตัวอย่างของแม่นี่แหละมาสอน ว่า เห็นไหม เด็กยังไม่ชอบเลย มาม้าก็ไม่ชอบ ต้องมาช่วยกันแก้ โอเคนะครับ สอนเรื่องสวดมนต์ทุกคืน นอนสมาธิทุกคืน และอุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรและเทวดาประจำตัว รวมทั้งบรรพบุรุษ ผีบ้านผีเรือน รวมถึงสอนเรื่อง วิญญาน นิพพาน และศีลห้า เรื่องเวรกรรม (เรื่องนี้สอนได้เรื่อย ๆ เมื่อเขาทำร้ายคนอื่น ก็จะบอกเขาว่า จำเรื่องมาม้าสอนเรื่องเวรกรรมได้ไหม เราทำใครไว้ คนอื่นจะมาทำเรา ในทำนองเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีเสมอ พอมีเรื่องที่เขาโดนทำร้ายแล้วมาฟ้อง เราก็จะบอกว่า เห็นไหมมาม้าบอกแล้วว่าเราทำคนอื่น ๆ ก็จะมาทำเราแบบที่เราเคยทำไว้กับคนอื่นเช่นกัน ฯลฯ) สอนเรื่องช่วยเหลือคนอื่น เมื่อเราเห็นว่าเราสามารถช่วยเหลือเขาได้ เช่น ในห้องเขาจะมีเด็กพิเศษอยู่ ก็สอนเขาให้เขาช่วยเหลือเพื่อนคนนั้นเยอะกว่าคนอื่น และให้ดูแล และคอยตักเตือนเพื่อนด้วย หากเพื่อนทำไม่ดี เพราะบางทีเพื่อนก็เผลอ หรือลืมเหมือนที่เราก็เป็นแล้ว มาม้าคอยเตือน ฯลฯ มีอีกมากเลยค่ะ -เพิ่มเติม และแก้คำผิดค่ะ- แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 23:31:18 จากคุณ : แม่น้องเอเอ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 10:10:43

ความคิดเห็นที่ 45 ลูกชายตอนนี้อายุ 2 ขวบค่ะ เท่าที่าสอนตอนนี้ก็มี -สวัสดีครับ คือเจอหน้าคนรู้จัก พ่อแม่ตอนเช้า ต้องยกมือไหว้และพูดสวัสดีครับก่อนทุกครั้ง ซึ่งลูกชายมืออ่อนมาก เจอหน้าคนปุ๊ป สวัสดีครับปั๊ป เพราะโดนพ่อแม่กดดันให้ทำบ่อยๆที่บ้าน ^^ -ขอบคุณครับ ให้ขอบคุณไว้ก่อน ทุกเรื่อง เช่น ขอแม่ทานนม พอแม่ชงให้ ต้องขอบคุณครับ จะเอาอะไร ถ้าพ่อแม่ทำให้ ต้องขอบคุณครับ -สอนให้ช่วยเหลือตัวเองเล็กๆน้อยๆเท่าที่ทำได้ เช่นถอดแพมเพิสเอง ต้องเอาไปทิ้งถังขยะเอง -สอนให้รู้จักการรอคอย เป็นลูกชายคนเดียวก็เลยค่อนข้างเอาแต่ใจ เวลาจะเอาอะไร ต้องเดี๋ยวนั้น เราจะสอนให้ลูกรอ โดยบอกว่ารอก่อน ยังไม่ใช่ตอนนี้ และเวลานี้ ถ้าเขาวิ่งมาถามอีก ก็จะพูดเหมือนเดิม คือ รอ -สอนให้รู้ว่าถ้าแม่บอกว่าไม่ได้ หรือห้ามทำ แล้วลูกยังจะทำ เขาจะได้รับผลอะไรบ้าง เช่น งดดูการ์ตูน งดทานไอติม .. รอให้โตกว่านี้ จะเริ่มสอนตามเพื่อนๆด้านบนบ้างค่ะ บางเรื่องเป็นสิ่งที่เรามองข้ามจริงๆ ขอบคุณมากๆค่ะ ที่แวะมาแชร์ จากคุณ : wanvisa เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 10:58:01

ความคิดเห็นที่ 46 ตอนนี้ลูกสาว 2.1 ขวบ - สอนเรื่องเกี่ยวกับเพศ สอนให้เค้ารู้ว่าอวัยเพศที่เค้ามีต่างกับของผู้ชาย ให้เค้ารู้จักปกปิด อวัยเพศของตัวเอง ห้ามให้ใครดู ห้ามให้ใครจับ และต้องสงวนไว้ - สอนให้กลัวคนแปลกหน้า ห้ามเข้าใกล้รถตู้ - สอนให้รู้จักหน้าที่ของตนเอง เช่น ถอดแพมเพิร์สแล้ว เค้าจะเดินหยิบไปทิ้งที่ถังขยะเอง, ถอดเสื้อผ้า แล้วต้องเดินเอาไปใส่ในตะกร้า, ทานข้าวเสร็จ ก็จะเดินไปเก็บที่จัดเตรียมไว้ให้ แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน เจอเรื่อง Amazing มากค่ะ อาม่าทานข้าวเสร็จแล้ว บอกลูกสาวว่า ช่วยเอาจานไปเก็บให้อาม่าหน่อยได้มั้ยคะ เค้าก็บอกว่าได้ค่ะ แต่ก่อนไปเก็บ แวะมาที่ถังขยะก่อน โดยใช้มือหยิบช้อนขึ้นมา แล้วกวาดเศษอาหารทิ้งลงในถังขยะ หลังจากนั้นก็เดินไปวางไว้ในภาชนะที่จัดเตรียม เราเห็นแล้วถึงกับอึ้ง O_O" ว่าโอ้ว ลูกชั้น ทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ ยังมีอีกหลายเรื่องที่สอนค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 11:04:38 จากคุณ : Nuchy_Sand_A เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 11:01:06

ความคิดเห็นที่ 47 เหมือนคุณแม่น้องออมบุญค่ะจะสอนอย่างจิรงจังเพราะใกล้จะเข้าโรงเรียนแล้ว ***ห้ามใครมาจับโป๊ะโกะและหนมหน๊มนะคะถ้าใครมาจับให้บอกคุณแม่******* (โป๊ะโกะคือจุ๋มจิ๋มของลูกค่ะ) เป็นห่วงเรื่องนี้มากกกกก จากคุณ : napharat (napharat_a) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 12:35:42

ความคิดเห็นที่ 48 หลานสาววัย 3 ขวบ   จะสอนเรื่องข้ามถนนครับ  สอนแกว่าก่อนข้ามถนนให้ดูซ้าย ดูขวาก่อนทุกครั้งว่ามีรถหรือเปล่า จากคุณ : ริมน้ำคาน เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 12:37:01

ความคิดเห็นที่ 49 ไม่มีลูกแต่อยากแจม ที่โรงเรียนหลานนะคะ  เด็ก 3-6 ขวบอยู่คลาสเดียวกัน ครูจะสอนให้ stand up for your right ค่ะ เช่น เพื่อนแกล้ง ก็ให้บอกเพื่อนว่า it's not nice, don't do that, i don't like it. อะไรทำนองนี้ สอนให้แก้ปัญหา  เวลาเกิดอะไรขึ้น ไม่ต้องร้อง ไม่ต้องโวยวาย ให้จำไว้ว่า it's ok. แล้วมาดูกันว่า เราจะแก้ปัญหากันได้ยังงัย เช่นทำน้ำหก ครูพี่เลี้ยงก็จะไม่มาเช็ดให้ แต่ชี้ให้ดูว่า ผ้าเช็ดโต๊ะ หรือผ้าเช็ดพื้นอยู่ตรงไหน แล้วให้เด็ก ไปหยิบมาเช็ดเอง (แต่ตามเก็บความเรียบร้อยทีหลัง) สอนให้หาคำตอบเอง เวลาเด็กๆ มีคำถาม ครูก็จะถามกลับ ว่า นั่นสินะ  แล้วเราจะหาคำตอบได้จากไหนบ้างล่ะนี่ เอนไซโคปีเดีย จะมีไม๊นะ  แล้วมันควรจะอยู่ในหมวดไหน  คือค่อยๆ ไกด์เด็กไปเรื่อยๆ แล้วให้เด็กค้นพบคำตอบเอง (สมัยนี้ คงกูเกิ้ลไปเลย ง่ายดี 5555) จากคุณ : letsgokrabi เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 12:54:29

ความคิดเห็นที่ 50 ซ้ำครับ ลบก่อน แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 12:58:14 จากคุณ : chaolove เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 12:56:55

ความคิดเห็นที่ 51 1ผมสอนลูกไม่ให้ทำร้ายคนอื่น 2ไม่ให้ลูก แย่งของคนอื่น 3 แบ่งของหรือขนมให้เพื่อนถ้าเพื่อนขอ 4ถ้าเพื่อนแกล้งให้วิ่งหนีไปบอกครูหรือกลับมาบอกพ่อ 5ให้รักเพื่อน ผมบอกว่าถ้าเราไม่รักเพื่อนเพื่อนก็จะไม่รักเรา 6 ห้ามเอาของคนอื่นที่ไม่ใช่ของเรา 7 ของเล่นที่ รร ถ้าเพื่อนอยากเล่นให้เพื่อนไปรอจนกว่าเพื่อนจะเล่นเสร็จเราค่อยเล่น 8 สอนให้กลัวหมา ถ้าเจออย่าเข้าไปใกล้ สุดท้ายบอกว่าถ้า โตขึ้นมาน้องจะมีคนรักน้องเยอะๆๆ ลูกคนเล็กครับ2.1ปี  กำลังค่อยๆสอน ส่วนลูกคนโต 5ขวบครึ่งแล้วครับ http://www.youtube.com/watch?v=c7qXlN5WRB0 แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 13:00:28 แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 12:59:25 จากคุณ : chaolove เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 12:57:13

ความคิดเห็นที่ 52 ของเราลูกเพิ่งสองขวบสองเดือนค่ะ พยายามสอนเรื่องพื้นฐาน ก่อนค่ะ เมื่อไหร่ควรพูด ขอโทษค่ะ  ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะ สอนให้รู้จักสิทธิของตัวเอง อันนี้เราว่าสำคัญมากค่ะ เห็นด้วยกับความเห็นที่ 49 เลยค่ะ อย่างกรณีของเรา ลูกมีลูกพี่ลูกน้องค่ะ ซึ่งตอนนี้อยู่ในวัยที่กำลังแย่งของ จะแย่งทุกอย่างที่พี่สาวเล่น เราสอนให้ลูกไม่หวงของ แต่ว่าไม่ใช่ให้ทั้งหมด ถ้าอันไหน เค้าไม่ได้เล่นอยู่ เค้าจะให้น้องเล่น ถ้าอันไหนเค้าเล่นอยู่ ให้เค้าบอกน้องว่า ให้พี่เล่นก่อนนะคะ เดี๋ยวน้องค่อยเล่นต่อ อันนี้ถือว่าสอนทั้งพี่ทั้งน้องเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะสอนตามหนังสือนิทานที่เค้าชอบน่ะค่ะ เช่นเรื่อง what do you say when a monkey acts this way? จะสอนให้ล้างมือก่อนทานข้าว สอนให้รู้จักขอโทษ สอนให้พูดจาให้ไพเราะ สอนให้ขอบคุณเมื่อมีคนให้ของ สอนให้รู้จักแบ่งปัน สอนให้รู้จักเก็บของเล่นให้เรียบร้อย เป็นต้นค่ะ จากคุณ : kameokam เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 13:21:32

ความคิดเห็นที่ 53 ตอนนี้ที่ยังสอนไม่สำเร็จ คือสอนไม่ให้ลูกดื้อและซนค่ะ จากคุณ : kameokam เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 13:22:44

ความคิดเห็นที่ 54 มีลูกสาว 2 คนค่ะ ส่วนใหญ่ก็มีแม่ ๆ แชร์ไว้แล้ว  - สอนให้รู้จักของสงวนของตัวเอง ห้ามให้ใครจับ-ใครดู ยกเว้นแม่และยาวเท่านั้น  - เดินก้มหลังเวลาผ่านผู้ใหญ่  -  ยกมือไหว้เวลาผู้ใหญ่ให้ของ  -  เก็บของเล่นทุกครั้งหลังเลิกเล่น แม้แต่เสื้อผ้า จานอาหาร  -  สวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน ทุกวัน ถือเป็นการฝึกสมาธิในตัว     พาไปวัดในวันหยุดต่าง ๆ รวมทั้งวันเกิดของคนในบ้าน ส่วนใหญ่จะทำบุญ-ไหว้พระ     ให้อาหารปลา จากคุณ : mantana_11 เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 13:25:05

ความคิดเห็นที่ 55 ตอนนี้ที่พร่ำ ๆ สอนนอกจากการใช้ชีวิตประจำวันและมารยาททั่วไปแล้ว ก็คือเรื่องความรัก สอนให้เค้ารักตัวเอง รักน้อง รักพ่อแม่ รักคนในครอบครัว ก่อนถึงไปรักคนอื่น ให้รักน้องที่สุด เป็นที่พึ่งของน้องให้ได้ ไม่รู้ตอนนี้เค้าจะเข้าใจรึเปล่า แต่ถ้าวันนึงเค้าโตกว่านี้นึกถึงคำสอนที่แม่สอน เค้าคงจะเข้าใจ และหวังว่าจะทำตามนะ อิอิ จากคุณ : แก้วขวัญกะพู่กัน เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 13:28:48

ความคิดเห็นที่ 56 ลูกชายขวบกับสองเดือน ยังไม่ค่อยได้สอนอะไรเลยค่ะ...ละอายจัง ขอบคุณทุกข้อคิดดี ๆ นะคะ ...กระทู้ดูด Gift รึเปล่าคะเนี่ย เสียไปเยอะเลยค่ะ ... ^ ^ จากคุณ : NatMoshi เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 13:33:08

ความคิดเห็นที่ 57 ขออนุญาตไปแปะที่บล็อกนะคะ ขอบคุณค่ะ มีหลายๆ ข้อที่เราสอนลูกเหมือนกันค่ะ และเราก็มีึบางอย่างที่อยากจะสอนเค้า คือ - ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ให้ทำอะไรด้วยตัวเองก่อน อย่าไปหวังพึ่งคนอื่น ไม่มีใครทำอะไรได้ดั่งใจเรา ถึงเราจำเป็นต้องไหว้วานให้คนอื่นทำให้ ก็ต้องเผื่อใจกับความผิดหวังด้วย แค่เค้าทำให้เรา เราก็ควรดีใจ ขอบคุณเค้าแล้ว - เมื่อเกิดปัญหาอะไร ให้มองย้อนมาที่ตัวเราก่อน ว่าเราทำอะไรตรงไหนผิดพลาดหรือป่าว อย่ามัวแต่ไปหาความผิด หรือโทษคนอื่น และพยายามหาทางแก้ไข ไม่ใช่มัวแต่ไปโมโห ว่าคนโน้น คนนี้ มันไม่เกิดประโยชน์อะไร นอกจากเสียเวลา และอาจเสียเพื่อน - ถ้าสงสัย หรือมีปัญหาอะไร ถึงปัญหาจะ้เกิดจากลูก ก็ให้คิดถึงพ่อ แม่ก่อน เข้ามาถาม มาปรึกษาได้ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น เพราะพ่อ แม่ รักหนูที่สุด ไม่มีทางจะแนะนำสิ่งที่ไม่ดีให้กับหนู และพร้อมจะให้อภัยหนูเสมอ -คำสอน คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล เป็นเรื่องจริง -ความกตัญญู กตเวที และความซื่อสัตย์ เป็นสิ่งสำคัญมาก ทำให้เราเจริญขึ้น ถึงคนอื่นจะไม่รู้ แต่เรารู้ตัวเองว่าเป็นอย่างไร โกหกตัวเองไม่ได้หรอก แก้คำผิด และเพิ่มเติมค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 14:14:56 แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 14:03:13 แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 13:57:32 จากคุณ : ขนมปังน้ำแดง เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 13:47:21

ความคิดเห็นที่ 58 ขออนุญาต สรุปคำสอนคุณพ่อ-คุณแม่นะคะ เราได้นำแปะที่ blog  เลยสรุปเป็นข้อๆ ค่ะ พยายามนำไปให้ครบที่สุด ไม่ให้เสียเนื้อหาที่ต้องการสื่อค่ะ ถ้าผิดพลาดตรงไหน ขออภัยด้วยค่ะ 70 ข้อ แล้วค่าา ท่านใดจะโพสท์ก็ต่อกันไปเลยนะคะ 1. ลูกดิฉันสามขวบครึ่งเเล้ว เดี๋ยวนี้เริ่มสอนให้ ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน เพราะดูจากตัวเอง ตอนเด็ก ไม่มีใครสอน โตขึ้นมาหัดเป็นเรื่องลำบากมาก เลยอยากทำให้ลูกติดเป็นนิสัย สอนโดยเราทำให้เขาเห็น เขาจะอยากทำด้วย จากนั้นก็ช่วยลูกขัดฟัน เสร็จเเล้วให้เขาลองทำดูเอง ขัดฟันสำคัญมาก จะทำให้เหงือกสุขภาพดี 2. สอนลูกเรื่อง ทำตัวอย่างไร เมื่อทำของแตก ไม่เคยสอนเพราะไม่ได้นึกถึง จนวันหนึ่ง ลูกทำแก้วเเตกบนพื้น เขาตกใจ วิ่งมาหาเเม่ ซึ่งอันตรายมาก โชคดี ไม่โดนแก้วบาด จากนั้นสอนลูกเลยว่า เมื่อทำของแตก ให้อยู่กับที่ เเล้วเรียกแม่ให้มาช่วย 3. สอนใหลูกจำที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ ชื่อเต็ม ตัวเอง และพ่อแม่ เผื่อหลงทาง เผื่อกรณีฉุกเฉิน เหล่านี้ช่วยเขาได้ตอนฉุกเฉิน สอนเบอร์ฉุกเฉิน เมื่อต้องการความช่วยเหลือ (เบอร์โทรศัพท์ ดิฉันต้องพูดซ้ำหลายครั้งกว่าจะจำได้ แต่ถ้าจำได้เเล้วเขาไม่ลืม ) 4. สอนลูกเรื่องทำไฟไหม้ ถ้าไฟไหม้ ให้รีบหนีออกไปรอด้านนอก อย่าตามหาพ่อแม่ ให้ออกไปเร็วที่สุด เเล้วเรียกพ่อแม่จากด้านนอก 5. หากเห็นสัตว์เลี้ยง ให้ถามเจ้าของเขาก่อน ว่าเล่นได้ไหม จับได้ไหม ห้ามจับเองเด็ดขาดเพราะสัตว์บางอย่าง มันกัดเอาได้ 6. นอกเขตลูก ไม่รบกวนผู้อื่นค่ะ เขตลูก คือ บริเวณที่พ่อ แม่ ลูก กำหนดไว้ว่าเป็นที่ของหนู ตรงนี้จะช่วยได้หลายเรื่องค่ะ เช่น ไปร้านอาหาร เขตลูกคือ โต๊ะอาหาร ไม่เดินเล่นเสียงดังในร้าน ไม่ยื่นหน้า ไปโต๊ะอื่น ส่งเสียงดัง ก็ถือเป็นการรบกวนโต๊ะอื่น เพราะ เราสุดเบื่อ เวลาไปร้านอาหาร หรือที่สาธารณะ แล้วเจอเด็กๆ ส่งเสียงดัง ยื่นมือ ยื่นหน้ามาบริเวณโต๊ะอาหารของเราค่ะ เลยไม่อยากให้ลูกไปทำ หรือ ในร้านหนังสือ เราจะบอกลูกว่า เขตของร้านนะ ไม่ใช่เขตของลูก หนังสือไม่ใช่ของเรา จับหนังสืออย่างระมัดระวัง เราเคยเห็นเด็กๆนั่งอ่านกับพื้น จนท่านอื่นเข้าไปเลือกหนังสือไม่ได้ และบางคน แกะ sticker มาแปะเล่นด้วย สังเกตุว่า หลังรู้ขอบเขตตัวเอง ลูกก็เคารพผู้อื่นค่ะ 7. เวลามีผู้ใหญ่ยิ้มให้ ให้ยกมือไหว้ทุกครั้ง 8. เวลายกมือไหว้ ควรยิ้มด้วยทุกครั้ง ไม่ทำหน้าหงิกหน้างอในขณะยกมือไหว้ 9. เดินผ่านผู้ใหญ่ต้องค้อมตัวเสมอ 10.ใครให้ขนมทาน ให้รับไว้แต่อย่าแกะทานทันที ให้เอามาให้ป๊าหรือแม่ดูให้ก่อนเสมอ 11. เป็นเด็กผู้หญิง อย่าเดินไปไหนตามลำพังเพียงคนเดียว สถานที่ที่จะไปควรมีผู้ใหญ่ที่รู้จักหรือไว้ใจได้อยู่แถวนั้นเสมอ 12. ทุกคนล้วนแต่มีหน้าที่ความรับผิดชอบด้วยกันทั้งนั้น ป๊ากับแม่มีหน้าที่ทำงานเลี้ยงดูเรา เราก็มีหน้าที่ตั้งใจเรียน และเป็นเด็กดีเชื่อฟังพ่อแม่ 13. คำพูดที่สุภาพ และการมีสัมมาคารวะจะทำให้หนูเป็นเด็กที่มีแต่คนรัก ไม่เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของหนู 14. ไม่ว่าโตขึ้นไปอยากจะเป็นอะไร ประกอบอาชีพอะไร การที่หนูตั้งใจเรียนจะทำให้หนูได้เป็นอย่างที่หวัง 15. ไม่ใช้เท้า เขี่ยของ หรือปิดพัดลม (หุ หุ อันนี้เคยเผลอใช้ เจ้าลูกชายเห็นครั้งเดียว จำได้ เอาไปทำตามเลย) 16. ถึงจะเป็นลูกชาย แต่ไม่เคยใช้เท้าเตะ หรือเล่นกับลูก เพราะกลัวว่า ลูกจะเห็นเรื่องการเตะต่อยเป็นเรื่องปกติของลูกผู้ชาย (คิดมากไปเองหรือป่าวไม่รู้นะ แต่เราคิดแบบนี้อ่ะ) 17. สอนลูกให้รู้จักงานบ้าน เราซื้อของเล่นที่เป็นพวกชุดครัว เตารีด ครก มีดหั่นผัก เพราะเราอยากให้ลูกเราคุ้นกับมัน เพื่อโตขึ้น เค้าจะได้ไม่เกี่ยงงานพวกนี้ว่า เป็นงานของผู้หญิง 18. ทุกครั้งที่เจอพระ เจอรูปในหลวง จะสอนให้ลูกไหว้ เพื่อให้ลูกเคารพ และรักในสถาบันศาสนาและพระมหากษัตริย์ 19. สอนลูกให้รู้จักแบ่งปัน โดยการให้ลูกแบ่งของเล่น ของกิน พาไปให้อาหารปลา ให้เงินไปหยอดตามตู้รับบริจาค 20. สอนว่า ถ้้าไม่เสพยาที่อาจเพื่อนเลวๆ บางคนให้ ก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่ได้เป็นลูกผู้ชาย สร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดให้ลูก 21. สอนเวลาลูกทำน้ำ นม หรืออะไรก็ตามหกเลอะเทอะบนพื้น จะบอกกับเขาว่า ทำหกเลอะเทอะแล้วต้องทำความสะอาดนะลูก ก็ทำให้เขาเห็น หลังๆ ลูกเขาก็จะทำเอง กินนมกินน้ำแล้วทำหกเขาก็ไปหาผ้ามาเช็ดมาถู (ก็สะอาดได้แบบเด็กๆ ค่ะ) 22. บอกลูกว่า เวลาไฟดับ ให้อยู่นิ่งๆ ส่งเสียงบอก ว่าอยู่ตรงไหน แต่อย่าเดินมาหาแม่ หรือ พ่อ พ่อแม่ จะเดินไปหาเอง และ พยายามพูดคุยกับเค้า อย่าเงียบ เพื่อลดความกลัวค่ะ 23. เวลาถือแก้ว ให้เดินระมัดระวังกว่าปกติ เพราะหากแก้วแตก ไม่เพียงแต่แก้วแตก แต่ลูกอาจจะได้รับอุบัติเหตุแก้วบาดได้ 24. อาบน้ำเสร็จ ให้เช็ดเท้าให้แห้ง ก่อนเดินไปไหนๆ โดยเฉพาะเดินลงบันได เพราะพื้นจะลื่น อาจเกิดอุบัติเหตุได้ 25. เวลาไปบ้านญาติ หรือบ้านที่ไม่คุ้นเคย ห้ามวิ่งเล่น ซุกซนมาก เพราะมีหลานคนนึง เคยประสบอุบัติเหตุชนบานประตูกระจก มันใสมาก เค้าไม่ทราบว่านั่นคือบานประตูกระจก เค้าวิ่งผ่านเลยค่ะ 26. เวลาได้ยินเพลงชาติให้ยืนตรงและสำรวม พอจบเพลงให้โค้งทำความเคารพ ตอนนี้ลูกทำเองได้โดยไม่ต้องบอก ดนตรีมาก็ลุกยืน เพลงจบก็โค้ง 27. ล้างมือ ล้างเท้าทุกครั้งที่กลับเข้าบ้าน (กลับจากโรงเรียน ไปเที่ยวเล่น) หลังจากเข้าห้องน้ำไปฉี่-อึมา 28. เก็บรองเท้า ถุงเท้าเองให้เรียบร้อย 29. สอนให้สั่งน้ำมูก เพราะถ้าสั่งน้ำมูกไม่เป็น เวลาเป็นหวัดเด็กจะสูดน้ำมูก ซึ่งทำให้เกิดปัญหาหูอักเสบได้ง่าย 30. ไม่ให้รับของของคนอื่น ต้องขออนุญาตพ่อ แม่ก่อนเสมอ 31. แปรงฟันก่อนเข้านอน และหลังแปรงฟันแล้วงดทานอาหารหรือขนมทุกชนิด ตอนเช้าให้เค้าแปรงเองได้ 32. ขอบคุณทุกครั้งที่มีคนทำอะไรให้ ทุกวันนี้ ลูกชายเวลาขอบใจน้อง จะพูดว่า"น้องครับ ขอบใจครับ" ฟังแล้วขำมาก 33. ให้ลูกรู้จักการรอคอยค่ะ 34. ให้ลูกรู้จักการเข้าคิว ห้ามแซงคิวคนอื่นเด็ดขาด 35. เวลาเค้าเล่นของเล่นเราจะสอนให้เก็บค่ะ ตอนนี้ก็รู้จักเก็บบ้างแล้ว จากคุณ : ขนมปังน้ำแดง เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 14:21:00

ความคิดเห็นที่ 59 36. เคารพกฎกติกาต่อตัวเองและผู้อื่น 37.ไม่โกหก 38.ไม่เอาของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง 39. ทำผิด ให้ขอโทษ .... ให้พูดว่าขอโทษค่ะ แล้วยกมือไหว้ แล้วพูดให้เค้าเข้าใจว่าทำผิดอะไรไป แม่ไม่ได้โกรธ แม่รักมากด้วย อย่าลืมกอดเค้านะคะเวลาสอน เพราะลูกเราเค้าชอบให้กอด มันจะไม่เหมือนดุ ยังอุ่นใจอยู่ ทั้งๆที่คนทำผิดยังร้องไห้ ผงกหัวหงิดๆ แต่ตั้งใจฟังที่สอน 40. ถอดเสื้อผ้าออกมาแล้ว ให้เอาใส่ตระกร้า ไม่มีคนเก็บให้แล้ว 41. สอนให้รับผิดชอบกับภาระที่ตัวเองสร้างไว้ ในระดับที่เหมาะสมกับอายุ เช่น ตื่นแล้วต้องพับผ้าห่มของตัว โตกว่านี้ก็ต้องซักผ้าปูที่นอนเอง ถอดเสื้อผ้า ต้องเอาไปใส่ตะกร้า โตกว่านี้แล้วค่อยซักเอง กินข้าวเสร็จ ต้องเอาจานไปใส่ในซิงค์ โตกว่านี้แล้วค่อยล้างเอง 42. สอนไม่ให้หลงเชื่อโฆษณา เช่น กินเครื่องดื่มนี่ นมนั่น แล้วจะฉลาด หรือโฆษณาที่อิงค่านิยม เช่น ผิวต้องขาว แม้แต่จั๊กกะแร้ก็ต้องขาว ดำแล้วผู้ชายไม่มอง ฯลฯ มีลูกสาว ถึงไม่ดำ แต่ก็ไม่อยากให้มีค่านิยมผิดๆ ไปจนถึงให้ความสำคัญกับสายตาผู้ชายมากกว่าคุณค่าของตัวเอง 43. สอนให้ล้างก้นโดยเช็ดจากหน้าไปหลังเสมอ สำคัญมากโดยเฉพาะผู้หญิง 44. เราภูมิใจในตัวเองที่สอนเค้าได้ และลูกสามารถทำได้คือ "ไม่เอาค่ะ ขอบคุณค่ะ" 45. เรื่องไหว้ กลับมาจากโรงเรียนหรือเจอหน้าใครก็ต้องยกมือไหว้ แม้แต่แม่บ้านก็ให้ไหว้เช่นกัน เพราะเค้าก็เป็นผู้ใหญ่กว่าม่าม๊า และเค้าก็คอยช่วยดูแลหนู เวลาม่าม๊าไม่อยู่ 46. เรื่องกินข้าวกินขนม ปกติเราจะไม่ให้ลูกกินขนมก่อนกินข้าว เพราะถ้าลูกกินขนมแล้วจะอิ่มจนไม่ยอมกินข้าว ปัจจุบันลูกเราก็เลยกินข้าวก่อน แล้วถึงจะตามด้วยขนม 47. เรื่องทำบุญใส่บาตร เวลาพาลูกไปใส่บาตร เราจะสอนให้เค้าอธิษฐานให้บุญกุศลที่ได้ทำ ส่งถึงเทวดาประจำพระองค์และเจ้ากรรมนายเวรของหนู ให้ได้รับผลบุญนี้ไปด้วย 48. เรื่องกับข้าวใส่บาตร เราสอนลูกว่า กับข้าวที่นำไปใส่บาตรนั้น จะต้องใส่กับข้าวดีๆ ใส่กับข้าวที่น่ากินหรือใส่กับข้าวที่เราชอบกิน เพราะพระจะได้ฉันท์กับข้าวที่ดีๆ อร่อยๆ และพี่ๆ ที่เป็นเด็กวัดจะได้กินของดีๆด้วย และกับข้าวที่เราใส่ไปนั้นอาจจะไปถึงเราให้ได้กินในชาติหน้าก็ได้นะลูก 49. เรื่องไฟฟ้า (เน้นที่เครื่องทำน้ำอุ่น) ปกติเวลาเราอาบน้ำลูกจะใช้เครื่องทำน้ำอุ่นบ่อยๆ แต่เราจะต้องลองใช้มือแตะดูก่อนว่ามีไฟรั่วหรือเปล่า โดยให้ลูกยืนอยู่ห่างๆ แล้วบอกลูกว่าหากเห็นม่าม๊าล้มลง ให้ออกไปสับเบรคเกอร์ลง(เบรคเกอร์อยู่หน้าห้องน้ำ) แล้วห้ามมาใกล้ๆ ม่าม๊า ให้โทรหาปาป๊าทันที(ลูกเราจำเบอร์โทรศัพท์ของเรากับแฟนได้) 50. จะสอนให้รู้จักคำว่าทุกข์ เสียใจ และวิธีการคิดที่จะทำให้ก้าวผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้ด้วยดี โดยไม่ทำร้ายตัวเองและคนรอบข้างค่ะ 51. สอนให้รักษาความดีอย่างเกลือรักษาความเค็ม คนทำได้ต้องได้ดี มีแน่นอน 52. สอนให้รักตนเองให้เป็นก่อนที่จะรักใคร 53. สอนให้รู้จักศีลห้า เขาจะรู้ว่าห้ามฆ่าสัตว์ รู้ด้วยว่าห้ามมีกิ๊ก ชอบถามว่ากิ๊กคืออะไร อีกข้อที่ใช้ได้ผลเสมอคือ ห้ามขโมย ทุกอย่างต้องขออนุญาตก่อน 54. สอนให้ไหว้พระก่อนนอน เขาสวดมนต์บทนะโมตัสสะได้ตอนสองขวบกว่า แล้วก็สวดอิติปิโสจบบทได้ตอนสามขวบ 55. สอนให้ใช้เสียงเบาๆ โดยเฉพาะในที่สาธารณะ ถ้าเขาเห็นเด็กร้องไห้ในร้านอาหาร เขาก็จะหันมาบอกว่า แม่ ทำไมเขาโวยวาย ไม่น่ารักเลย 56. เรื่องเพศ คำเรียกเครื่องเพศ ต้องสอนว่าเป็นคำนามอย่างหนึ่ง แต่ไม่ควรพูด เพราะฟังดูไม่เพราะ เด็กคงคิดว่าเป็นคำยากสำหรับผู้ใหญ่เลยเอามาพูด 57. เรื่องแย่งของให้เทคเทิร์น ใช้ได้ผลทุกครั้งเวลามีเด็กสองคนขึ้นไป ให้เขาดูนาฬิกา หรือนับเลข ว่าหากถึงเลขนี้เเล้ว ต้องเปลี่ยนให้อีกคนเล่น 58. เรียนรู้ที่จะ ผิดหวัง และ เสียใจ โดยสอนให้รู้จักคำว่า "ไม่เป็นไร" ให้เขา พยายามจัดการกับความรู้สีกด้านลบ ด้วยตัวเองบ้างค่ะ โดยมีเราเป็นคนปลอบ และ อธิบายให้เข้าใจ 59. สอนให้รักคนแก่ คนเฒ่า ให้ยกมือไหว้ได้ทุกคนตั้งแต่ คนกวาดถนนจนถึงญาติผู้ใหญ่ 60. สอนว่าเราไม่ได้อยู่กับเค้าไปตลอด อาจไม่อยู่พรุ่งนี้วันนี้เลยก็เป็นได้ ให้คิดดูว่าถ้าไม่มีเราเค้าจะต้องทำอะไรได้เองบ้าง 61. สอนให้รู้จักแพ้ และต้องแพ้ให้เป็น 62. สอนให้รู้จักอาวุโส แต่คนอาวุโสกว่าก็ทำผิดได้เหมือนเด็ก เวลาผู้ใหญ่สั่งหรือเตือนให้ลองทำตาม แล้วดูว่าถูก ผิด เหมาะ สม กับ ตัวเองหรือไม่ 63 สอนเรื่อง ระงับความโกรธ เพราะ คนหนึ่งโกรธแล้วชอบร้องไห้ อีกคนโกรธแล้วจะโมโห ทำร้ายคนอื่น ก็ต้องสอนให้ รู้ว่าตอนนี้โกรธแล้วนะ บอกให้เขารู้ และให้เขาบอกออกมาว่า โกรธ และสอนเขาต่อว่า ทำยังไงดี 64. สอนเรื่องข้ามถนน สอนแกว่าก่อนข้ามถนนให้ดูซ้าย ดูขวาก่อนทุกครั้งว่ามีรถหรือเปล่า 65. สอนให้หาคำตอบเอง เวลาเด็กๆ มีคำถาม ครูก็จะถามกลับ ว่า นั่นสินะ แล้วเราจะหาคำตอบได้จากไหนบ้างล่ะนี่ เอนไซโคปีเดีย จะมีไม๊นะ แล้วมันควรจะอยู่ในหมวดไหน คือค่อยๆ ไกด์เด็กไปเรื่อยๆ แล้วให้เด็กค้นพบคำตอบเอง (สมัยนี้ คงกูเกิ้ลไปเลย) 66. ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ให้ทำอะไรด้วยตัวเองก่อน อย่าไปหวังพึ่งคนอื่น ไม่มีใครทำอะไรได้ดั่งใจเรา ถึงเราจำเป็นต้องไหว้วานให้คนอื่นทำให้ ก็ต้องเผื่อใจกับความผิดหวังด้วย แค่เค้าทำให้เรา เราก็ควรดีใจ ขอบคุณเค้าแล้ว 67. เมื่อเกิดปัญหาอะไร ให้มองย้อนมาที่ตัวเราก่อน ว่าเราทำอะไรตรงไหนผิดพลาดหรือป่าว อย่ามัวแต่ไปหาความผิด หรือโทษคนอื่น และพยายามหาทางแก้ไข ไม่ใช่มัวแต่ไปโมโห ว่าคนโน้น คนนี้ มันไม่เกิดประโยชน์อะไร นอกจากเสียเวลา และอาจเสียเพื่อน 68. ถ้าสงสัย หรือมีปัญหาอะไร ถึงปัญหาจะ้เกิดจากลูก ก็ให้คิดถึงพ่อ แม่ก่อน เข้ามาถาม มาปรึกษาได้ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น เพราะพ่อ แม่ รักหนูที่สุด ไม่มีทางจะแนะนำสิ่งที่ไม่ดีให้กับหนู และพร้อมจะให้อภัยหนูเสมอ 69. คำสอน คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล เป็นเรื่องจริง 70. ความ กตัญญู กตเวที และความซื่อสัตย์ เป็นสิ่งสำคัญมาก ทำให้เราเจริญขึ้น ถึงคนอื่นจะไม่รู้ แต่เรารู้ตัวเองว่าเป็นอย่างไร โกหกตัวเองไม่ได้หรอก จากคุณ : ขนมปังน้ำแดง เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 14:21:38

ความคิดเห็นที่ 60 สอนลูกว่า... ----    การไปโรงเรียน ไปเพื่อเรียนรู้ในสิ่งที่มีประโยชน์กับชีวิตหนู (ไม่ใช่เรียนเพื่อสอบเอาคะแนนดีๆ แต่กลับเอามาใช้อะไรจริงไม่ได้) และพ่อแม่ต้องไม่ให้ความสำคัญกับคะแนนมากกว่าการถามลูกว่ามันมีประโยชน์กับตัวหนูยังไงบ้าง ----  สอนให้ลูกพูดคำว่าเจ็บให้ได้เร็วที่สุด เพราะส่วนตัวแล้วคำว่าเจ็บนี่แหละที่ช่วยชีวิตลูกมาได้ เพราะถ้าลูกบอกได้ว่าเจ็บตรงไหน จะทำให้ดูแลได้เร็ว อย่างของลูกสาวรอดตายตอนขวบนิดๆ เพราะตอนไม่สบายเราถามว่าเจ็บตรงไหน ลูกสาวชี้ที่หน้าอกแล้วบอกว่าเจ็บ ทำให้หมอเช็คเจอว่าปอดบวม ซึ่งเป็นอาการปอดบวมเฉียบพลัน เพียงมีอาการไอแค่วันเดียวก็ปอดบวมสองข้างแล้ว และบางครั้งถ้าลูกปวดหัวลูกจะชี้หัวแล้วบอกว่าเจ็บ ----  สอนให้ลูกแก้ปัญหาทุกครั้งที่เขาเผลอสร้างปัญหา เช่น น้ำหก ก็ให้เช็ด (ไม่ต้องดุ แค่ต้องช่วยแก้ปัญหา)  ทำของเสียก็ช่วยกันซ่อม ----  สอนเรื่องเพศศึกษาตั้งแต่เด็กๆ เพราะยิ่งโตจะยิ่งเขินกัน ----  สอนลูกไม่ให้กินทุกอย่างที่เพื่อนให้ (เพราะอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ควรกินก็ได้ เช่น ยา) ----  สอนลูกว่าให้ดูเพื่อนที่ความเป็นจริง อย่าคิดว่าสิ่งที่เพื่อนทำจะถูกเสมอ ----  ถ้าเพื่อนทำอะไรแผลง แปลก ให้มาเล่าให้แม่ฟัง ----  ลูกสาวรักสวยรักงามมาก เลยต้องสอนว่า คนงาม ต้องงามด้วยความดีไม่แพ้ความงามภายนอก ---- สอนลูกว่าเวลาอยากกินอะไร ให้มาขอแม่ อย่าไปขอคนอื่นนอกเสียจากเขาจะให้เอง ถ้าเพื่อนหรือผู้ใหญ่ให้เอง ก็รับและขอบคุณด้วยการไหว้และพูดขอบคุณด้วย แต่ไม่ให้ไปขอเองเพียงแค่เพราะว่าอยากกินอยากได้ เพราะลูกแม่ แม่เท่านั้นที่มีหน้าที่เลี้ยงหนู (เคยมีเด็กมาที่บ้านเราแบ่งขนมให้ พอเด็กน้อยคนนั้นกินหมด แล้วยังเดินไปหยิบมาเพิ่มเองอีก ตกใจมาก เพราะเด็กโตกว่าลูกสาวน่าจะรู้มารยาท) ---- สอนลูกในการเป็นแขกที่ดี และเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้องทำยังไง แขกที่ดีต้องรู้จักเกรงใจ เจ้าบ้านที่ดีต้องใจดี และดูแลแขก ---- สอนลูกให้มีความอดทน และความพยายาม เพราะคนดี กับคนเก่ง จะต้องมีคุณสมบัติ 2 ข้อนี้ ถ้าไม่มี 2 ข้อนี้ คงเป็นคนดี หรือคนเก่งไม่ได้ ---- สอนลูกให้รู้ว่าหลายอย่างในรายการโทรทัศน์นั้น เชื่อไม่ได้ ---- สอนลูกว่า ชีวิตของหนู เป็นของหนู หนูเป็นคนเลือกชีวิต หนูต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเอง ไม่ใช่ให้พ่อแม่รับผิดชอบ พ่อแม่เป็นเพียงแค่คนที่รักหนู และหวังดีกับหนูเสมอ(อันนี้สอนให้เขาคิดในมุมของเขา ส่วนการเลี้ยงลูกเป็นหน้าที่รับผิดชอบของพ่อแม่ พ่อแม่ต้องรู้และเก็บไว้ในใจตัวเอง) ----  สอนลูกว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ที่ๆปลอดภัยที่สุดคือบ้านพ่อบ้านแม่ เพราะที่นี่มีแต่คนที่รักหนูตลอดไป (ถ้าคอยสอนอันนี้ ลูกจะไม่มีวันหนีออกจากบ้านไปผจญภัยข้างนอกเด็ดขาด) เยอะจัง ยังมีอีกเยอะ เอาเท่านี้ก่อนดีกว่า จากคุณ : แม่ลูกตาว (jackgeo) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 14:38:35

ความคิดเห็นที่ 61 สอนเรื่องขอความช่วยเหลือ เรากับลูกออกไปไหนกันสองคนตลอด จะสอนลูกให้จำเบอร์โทรไม่ให้ได้ ถ้าพลัดหลงกันให้มองหาพนักงานของที่นั้นๆ สังเกตจากเสื้อผ้า ที่คนใส่เหมือนๆ กันเยอะที่สุดแสดงว่าคือชุดทำงานของที่นั้นๆ ถ้าเกิดหาพนักงานไม่เจอก็ให้มองหา รปภ ถ้า รปภ ไม่เจอ ให้มองหาแม่ที่มากับกับลูก (ลูกถามเราว่าทำไม เราตอบว่าเพราะว่าคนที่เป็นแม่จะมีสัญชาติญาณความเป็นแม่ และพร้อมที่จะช่วยเหลือเด็ก) แล้วบอกกับเค้าว่า "พี่คะ น้าคะ ป้าคะ หนูหลงกับแม่ ช่วยโทรหาแม่หนูหน่อยได้ไหมคะ" หรือถ้าโทรไม่ติดให้บอกเค้าว่า ช่วยพาหนูไปรอแม่ที่ประชาสัมพันธ์ได้ไม๊คะ สอนลูกตอน 5 ขวบ(ตอนนี้ 6 ขวบ) เค้าก้เข้าใจดี แต่ตั้งแต่สอนไปไม่มีโอกาสหลงเลย เพราะเกาะแม่หนึบ กลัวจะหลงทาง เวลาเราผ่านที่ต่างๆ ที่มีประกาสเด็กหาย เราจะให้ลูกดูแล้วสอนว่า โดนจับตัวไปเค้าจะทำอะไรกับเราบ้าง บางที นานๆ ไป เค้าก็ถามเราซักครั้งว่า เด็กที่โดนจับตัวไปที่เราเจอประกาส ตอนนี้เค้าเจอแม่หรือยัง สังคมสมัยนี้น่ากลัว สอนให้ลูกระวังตัวไว้ดีที่สุด สอนเรื่องช่วยตัวเอง เราให้ลูกเราหัดซื้อของเองตั้งแต่สามขวบ ไปด้วยกัน ยืนด้วยกัน แต่ให้เงินลูกเป็นคนซื้อ ให้รอเงินทอน ให้แต่งตัวเอง กินข้าวเอง ทำอะไรเอง  เราบอกลูกเสมอว่า อีกหน่อยเค้าต้องมีชีวิตของตัวเอง ถ้าไม่รู้จักช่วยตัวเองตั้งแต่วันนี้อนาคตจะยืนด้วยตัวเองได้ยังไง  บางทีเค้าก็ทาได้บ้างไม่ได้บ้างก็หยวนๆ กันไป ไม้อ่อน ค่อยๆ ดัด เดี๋ยวก็โค้ง สอนให้กตัญญู ไม่ว่ากับแม่หรือกับใคร แม่เราสอนเราตอนเด็กๆ ว่า "แม้ว่าใครจะให้น้ำเราดื่มอีกเดียว ก้ถือเป็นบุญคุณ ถ้ามีโอกาสต้องทดแทน" เราชอบบ่นกับลูกแบบ over acting ว่า โอ๊ย เหนื่อยมากๆ ทำงานเหนือยจริงๆ เพื่อลูกนะ เงินหายาก ต้องใช้ประหยัด  บางทีลูกร้องอยากได้นั่นนี่ เราก็บอกว่า ได้ ถ้าอยากได้ก็ซื้อให้ แต่1 อาทิตย์ต่อไปนี้แม่คงไมไ่ด้กินข้าวเพราะเอาเงินไปซื้อของที่ไม่จำเป็นให้ลูก  เค้าก็จะคิดๆ แล้วบอกว่า ของไม่จำเป็นงั้นหนูไม่เอาก้ได้ แม่จะได้มีเงินกินข้าว   หรือถ้าไปซื้อของกันมา มี 3 ถุง ลูกต้องช่วยถือ 1 ถุง เราอยู่ด้วยกัน เราต้องช่วยกัน จะมากจะน้อยเราก็ต้องช่วย ทุกวันนี้ลูกก็ติดนิสัย ช่วยถือของ ช่วยทำนั่นนี่ให้ เสนอตัวให้ความช่วยเหลือตลอด บางทีนอนเล่นกันอยู่ เราเผลอหลับ รู้สึกตัวอีกทีลูกเอาผ้าห่มมาห่มให้ ทั้งๆ ที่จริงๆ เราไม่ได้เลี้ยงลูกแบบหวานๆ เลย ดุซะด้วยซ้ำ แต่ก็ปลื้มใจที่ลูกน่ารักแบบนี้ ถึงจะมีดื้อบ้าง ซนบ้าง ก็โดนดุ โดนตีไปบ้าง ทำดีให้ลูกดู บางเรื่อง บางอย่าง พูดไปก็ไม่เข้าหูหรอก ฟังหูซ้าย เดินเอียงหน่อยก็หล่นออกหูขวา อันนี้เราไม่ได้ตั้งใจ แต่ด้วยว่าเราชอบช่วยเหลือคนอื่น ตามที่จะสามารถช่วยได้ เช่นเห็นคนพิการเข็นรถเข็นข้ามถนน เราก็เสนอตัวไปช่วย ทั้งๆ ที่เค้าไม่ได้ร้องขอ  เสนอตัวทุกครั้งที่มีโอกาสช่วยเหลือคนอื่น ส่วนมากจะเรื่องเล็กๆ เช่น บอกทาง ช่วยเรื่องกด ATM ฝากเงิน  เราก้ไม่คิดว่าลูกจะจำ หรืออะไร หรือว่าั้ตั้งใจจะทำให้ลูกดู แต่พอดีไปด้วยกัน แล้ววันนึง ที่เราก็ช่วยป้าคนไทย กับสามีต่างชาติฝากเงินตู้อัตโนมัติ พอเสร็จ ป้ากับลุงก็ขอบคุณ เราก็เดินจูงมือกับลูก ลูกหันมาพูดกับเราว่า "มามี๊ ใจดีจังเลย อีกหน่อยถ้าหนูโตเหมือนมามมีีหนูก็จะช่วยคนอื่นเหมือนกัน" วันนั้นเราหน้าบานเป็นสองเท่า นอกจากได้ช่วยลุงกับป้าแล้ว เรายังรู้ว่าลูกเรารู้ว่าสิ่งไหนดีและจะนำไปปฎิบัติ โดยที่เราเองยังไม่ได้เอ่ยปากสอนซักคำ จากคุณ : sodawithpie เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 15:27:45

ความคิดเห็นที่ 62 เป็นกระทู้ที่ดีมากเลยค่ะ บางเรื่องดูเหมือนเล็กๆน้อยๆแต่เป็นประโยชน์ดีจริงๆค่ะ บางเรื่องเราก็สอนอยู่แล้ว บางเรื่องก็คิดไม่ถึงค่ะ ของเรานะคะ - สอนให้ลูกกินข้าวให้เกลี้ยงชามค่ะ เราถามลูกก่อนว่าเท่านี้หมดมั้ย ถ้าไม่พอตักเพิ่มต้องรับผิดชอบกินให้หมด ให้ประหยัดและดูเรียบร้อยค่ะ - เวลาเล่นให้ดูว่าอะไรเล่นได้ไม่ได้ โดย 1เล่นแล้วตัวเองไม่เจ็บ 2. เล่นแล้วคนอื่นไม่เจ็บ 3.เล่นแล้วของไม่เสียหาย - ถ้าแม่เตือนว่าอะไรอันตราย แล้วลูกไม่เชื่อ ลูกจะเป็นคนเจ็บตัวเอง แม่รักลูกถึงเตือนเพราะไม่อยากให้ลูกเจ็บ แต่ถ้าลูกยังจะเล่นก็ตามใจ เจ็บขึ้นมาแม่ช่วยเจ็บแทนไม่ได้ แม่ทำได้แค่สงสาร เค้าก็จะเชื่อมากกว่าเราห้ามค่ะ - เราสอนให้กินของหลากหลาย ลองกินทุกอย่าง แต่ละอย่างมีประโยชน์ต่างกัน (ลองแต่เล็กจะได้ไม่ค่อยช่างเลือกค่ะ) ไปบางที่จะได้ไม่ลำบากเหมือนตัวเราเองที่กินยาก ตอนนี้เราเลยต้องพยายามกินเป็นตัวอย่างลูก - เรื่องคนแปลกหน้าเค้าไม่ไปด้วยอยู่แล้ว แต่เราสอนเรื่องคนใกล้ตัวค่ะ ถึงจะรู้จักเห็นหน้าทุกวันถ้าไม่ใช่ญาติมารับไปไหน แล้วแม่ไม่ได้บอกให้ไปด้วยห้ามไปกับคนอื่นเด็ดขาด เช่นคนงานของพ่อ จากคุณ : Happy ending เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 15:58:37

ความคิดเห็นที่ 63 นอกจากสอนลูกแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดเลย การกระทำของคนที่เป็นพอ่และแม่ค่ะ พ่อแม่คือ แม่แบบของลุก พ่อแม่ ทำอย่างไร ลูกก็มักจะเลียนแบบทำอย่างนั้น เด็กไม่เข้าใจหรอก ว่าทำไมเค้าทำไมได้ สิ่งที่เค้าเข้าใจคือ เมื่อพ่อแม่ทำได้ เค้าก็ต้องทำได้ แทนที่จะพร่ำสอนด้วยปากเพียงอย่างเดียว เราว่า การกระทำให้เห็นน่าจะดีที่สุดนะคะ จากคุณ : แมวสีขาวขนปุย เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 16:21:25

ความคิดเห็นที่ 64 สอนลูกพูดจาไพเราะกับพ่อแม่พี่น้องและผู้อื่น ฟังแล้วรื่นหุดี วินัยก็สำคัญ นอกนั้นก็เหมือนแม่ๆใน คห.อื่นๆทุกท่าน จากคุณ : แม่น้องอินดี้ (mother-platinum) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 17:08:11

ความคิดเห็นที่ 65 เพิ่มเติม เราจะบอกลูกว่า เงินทองมีเยอะแค่ไหนสักวันมันก็หมด แต่ความรู้จะติดตัวหนูไปจนวันตาย และคนที่มีความรู้จะไม่มีวันอดตาย เงินทองที่พ่อแม่หามาทั้งชีวิตก็เพื่อเอาไว้กินยามแก่จะได้ไม่ต้องไปเดือดร้อนลูกหลาน ถ้าลูกอยากมีลูกก็ต้องรู้จักหา เราจะสอนให้ลูกหาปลาให้เป็น ไม่ใช่ให้ปลากับลูก เพราะถ้าเราไม่อยู่ลูกก็จะรู้วิธีหาปลา จากคุณ : เขียนบน iPhone (แมวสีขาวขนปุย) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 18:04:25

ความคิดเห็นที่ 66 I just want to add one more thing that I have not seen on the list yet (maybe it is there but I do not see it)....being on time, don't be late. As the comment above (#65), teach kids the value of money. แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 54 20:23:33 จากคุณ : Khat เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 20:22:44

ความคิดเห็นที่ 67 กระทู้นี้ดีมากๆเลยคะ ลูกใกล้2ขวบแล้ว สอนเหมือนกันแต่ยังไม่หมด - สอนเรื่องเด็กกาแฟดื่มไม่ได้มีคาเฟอีน กินเข้าไปเดี๋ยวหัวใจเต้นแรงแล้วตายได้ เพราะคุณแม่ชอบดื่มกาแฟทุกวัน ลูกจำได้หมดเลยแต่ไม่รู้ว่าเข้าความหมายจริงๆหรือเปล่า ฯลฯ อ่าน คคห.1 แล้วไม่อยากพาลูกไปร้านอาหารกับร้านหนังสือเลย ร้านอาหารก้สอนตลอดไม่ให้ไปดูไปเล่นกับโตะอื่นๆ ไม่ให้เดินไปทั่ว แต่ก็ทำได้แค่ระดับนึง ยังโชคดีที่ลูกไม่ค่อยส่งเสียดังแค่เดินไปเที่ยวทั่วร้าน จากคุณ : angkan111 เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 21:08:59

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณสำหรับประโยคแรกที่บอกว่า "สอนลูก ให้ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน" ขอบคุณจริงๆๆครับ จากคุณ : หมอฟันเด็ก (Carlziess Lens) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 22:01:20

ความคิดเห็นที่ 69 เคยมีคนบอกว่า ให้สอนลูกสีดำ-สีขาว ส่วนสีเทาๆ ให้ลูกเค้าเรียนรู้เอง จากคุณ : pastelcolor เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 22:50:08

ความคิดเห็นที่ 70 ขอเก็บเข้าคลังกระทู้   อยากแจกgive แต่หมดแล้ว โหวตให้นะคะ จากคุณ : Caramelfudge เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 09:29:06

ความคิดเห็นที่ 71 สุด ๆ ค่ะทู้นี้ เราเพิ่งมีโอกาสมาอ่าน ขอบคุณนะคะ ขอเซฟเลยค่ะ จากคุณ : peopleparadise เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 10:35:55

ความคิดเห็นที่ 72 หลานอิฉันสิบขวบ ต้องนั่งเครื่องบินบ่อยๆ แถมหลายครั้งที่เดินทางคนเดียว จะสอนให้ ตั้งใจฟังพี่แอร์เวลาสาธิตเรื่องความปลอดภัย และขึ้นเครื่องปุ๊บ ได้ที่นั่งแล้ว ให้หันรอบๆตัว ว่าประตูฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน (เวลาไปดูหนังก็เหมือนกันค่ะ สอนตั้งแต่เล็กๆ ว่าถ้ามีไฟไหม้ หรืออะไรให้วิ่งออกไปยังงัย) เมื่อสองปีก่อน เคยได้เสื้อชูชีพหมดอายุ (แต่ยังสภาพดี)ของสายการบินนึง มาให้หลานๆ ลองใส่เล่นค่ะ เอาไปเล่นที่สระด้วย ว่าถ้าลงน้ำแล้วต้องลอยตัวยัง ตอนนั้น เล่นกันไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้อ่านทู้นี้แล้ว คิดว่า โอ้วว... ชั้นสอนหลานดีเหมือนกันนะนี่   จากคุณ : letsgokrabi เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 10:58:06

ความคิดเห็นที่ 73 เพิ่งเข้ามาอ่านเหมือนกันค่ะดีมากๆ ทู้นี้เป็นประโยชน์มากๆ จริงๆค่ะ จากคุณ : Papa n'shogun เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 11:13:22

ความคิดเห็นที่ 74 อันอื่นโดนแม่ ๆ โพสไปหมดแล้ว ต้องเค้นพอสมควร กลัวว่าจะซ้ำ สรุปได้ว่า ทุกวันนี้ผมสอนอะไรลูกบ้าง สอนให้รักทุกคน แม้บางคนจะไม่น่ารัก สอนให้ดูคนที่ด้อยโอกาสกว่าเรา และมองโลกในแง่บวก สอนการจัดการกับความผิดหวัง ทุกเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่คิด สอนว่าพ่อแม่ไม่ได้อยู่กับลูกตลอดไป แต่เฝ้ามองดูอยู่ทุกเวลา สอนว่าเราไม่ได้รู้ทุกเรื่อง แต่เราพร้อมที่จะเรียนรู้ทุกอย่าง สอนว่าไม่มีใครมีน้อยเกินกว่าที่จะให้ ฉะนั้นจงให้ออกไป สุดท้าย คือ สอนโดยการทำให้ดูเป็นตัวอย่าง จากคุณ : cybergigz เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 12:50:07

ความคิดเห็นที่ 75 -เวลาเห็นใครที่ไม่เหมือนเรา อย่าไปจ้องมอง หรือ พูดถึง เพราะเสียมารยาท จากคุณ : SurfersParadise เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 15:02:24

ความคิดเห็นที่ 76 สอนให้รู้จักแพ้บ้างค่ะ และอย่าให้ลูกขี้กลัวเช่น แมลงสาบ  ความมืด ผี.. ส่วนใหญ่เราเป็นคนสร้างให้เขากลัวโดยไม่รู้ตัว^^ สอนให้รักตัวเอง   พยายามทำให้ได้อยู่ค่า จากคุณ : Red Corona เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 17:05:42

ความคิดเห็นที่ 77 ผมว่าจะใช้แนวทางกุศลกรรมบท 10 เป็นแนวทางครับกุศลกรรมบถ 10 ประพฤติดีด้วยกาย 3 ประเภท ประพฤติดีด้วยกาย นั้นชื่อว่า กายกรรม คือ ทำกิจการงานด้วยกายอย่าให้ทุกข์เกิดขึ้นแก่ผู้อื่น กายกรรมที่ให้เกิดทุกข์แก่ผู้อื่นนั้น มี 3 ประการ คือ อย่าเบียดเบียนร่างกายของท่าน คือ อย่าฆ่า อย่าฟัน อย่าทุบ อย่าตี ร่างกายของท่านผู้อื่นโดยที่สุด เว้นถึงสัตว์ติรัจฉานได้ยิ่งเป็นการดี ตรงภาษาบาลีที่ว่า ปาณาติปาตาเวรมณี ฯ คือ อย่าเบียดเบียนทรัพย์สมบัติข้าวของของท่านผู้อื่น คืออย่าลักขโมย อย่าฉ้อโกง อย่าเบียดบังเอาข้าวของของท่านผู้อื่น ตรงภาษาบาลที่ว่า อทินฺนาทานาเวรมณี ฯ คือ อย่าแย่งชิงลักลอบด้วยอำนาจของกายในหญิงที่ท่านหวงห้าม ตรงภาษาบาลีที่ว่า กาเมสุมิจฉาจาราเวรมณีฯ ประพฤติดีด้วยวาจา 4 ประเภท ประพฤติดีด้วยวาจา 4 ประเภท (วจีกรรม 4 ประเภท) นั้นได้แก่ คือ ให้กล่าวแต่วาจาถ้อยคำที่สัตย์ที่จริง ให้เว้นจากวาจาที่เท็จไม่จริงเสีย ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า มุสาวาทาเวรมณี ฯ คือ ให้กล่าวแต่วาจาถ้อยคำอันสมานประสานสามัคคีให้ท่านดีต่อกัน ให้เว้นวาจาส่อเสียดยุยงเสีย ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า ปิสุณายาวาจาเวรมณีฯ คือ ให้กล่าวแต่วาจาถ้อยคำอันอ่อนโยน ให้เกิดความยินดีแก่ผู้ฟัง ให้งดเว้นวาจาที่หยาบคาย บริภาษตัดพ้อหยาบๆ คายๆ ให้ผู้ฟังได้รับความเดือดร้อนต่างๆ เสีย ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า ผรุสฺสายวาจายเวรมณี ฯ คือ ให้กล่าวแต่วาจาถ้อยคำที่เป็นไปกับด้วยประโยชน์ ให้เว้นวาจาที่เหลวไหล คือพูดเล่นหาประโยชน์มิได้เสีย ตรงกับภาษาลีที่ว่า สมฺผปฺปลาปาวาจายเวรมณี ฯ ประพฤติดีด้วยใจ 3 ประเภท ประพฤติดีด้วยใจ 3 ประเภท (มโนกรรม 3 ประเภท) นั้นคือ คือ ให้ระวังเจตนากรรม ให้สัมประยุตต์ด้วยเมตตาอยู่เสมอ คือ ความดำริของใจ อย่าให้ลุอำนาจแห่งโลภะ คืออย่าเพ่งเอากิเลสกามและวัตถุกามของท่านผู้อื่น อันไม่สมควรแก่ฐานะของตน ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า อนภิชฺฌา โหติฯ คือ ให้ระวังเจตนากรรมให้สัมประยุตต์ด้วยกรุณาอยู่ทุกเมื่อ อย่าให้โทสะ พยาบาท เข้าครอบงำได้ ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า อพฺพยาปาโท โหติฯ คือ ให้ระวังเจตนากรรมให้สัมประยุตต์ด้วย มุทิตา อุเบกขา อยู่ทุกเมื่อ อย่าให้ไหลไปในทางผิด ให้เห็นตรงตามคลองธรรมทั้ง 10 นี้อยู่ทุกเมื่อ ตรงกับภาษาบาลีที่ว่า สมฺมทิฎฺฐิโก โหติฯ จากคุณ : DevMan เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 18:38:32

ความคิดเห็นที่ 78 เคยได้ยินว่า ให้สอนลูกไปเซเว่นที่ใกล้ที่สุดเวลาหลงทาง หรือหาพ่อแม่ไม่เจอค่ะ แต่ตัวเองจะชอบถามลูกเยอะๆ เพื่อให้ลูกหาเหตุผลมาตอบค่ะ จากคุณ : AwayAwhile เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 20:38:16

ความคิดเห็นที่ 79 ตอนนี้สอนลูก ให้เป็นคนใจเย็นค่ะ เพราะเค้าชอบจัยร้อน ตอนเด็ก ๆ ๆ สอนหมดตามที่คุณเเม่ข้างบนบอก ตอนนี้จา7ขวบ เเล้ว ลืม หมด 555+ จากคุณ : คุณเเม่เหมือนนกัน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 00:15:18 A:58.8.12.213 X: TicketID:295049

ความคิดเห็นที่ 80 จะสอนให้ลูก -อย่าเดินลากท้าและเดินลงส้น ไม่ว่าเราจะอยู่บนตึกถึงแม้ไม่ได้ยินเหมือนอยู่บ้านไม้แต่ก็จะทำให้เค้าติดนิสสัยไป -อย่าเห็นคนอื่นมีค่าก็ต่อเมื่อเราเดือดร้อน ทุกคนมีค่ากับเราหมดทั้งนั้น จากคุณ : ตัวเล็กซู่ซ่า เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 08:58:25

ความคิดเห็นที่ 81 เวลาผู้ใหญ่เรียก ให้ขานรับ หรือ พูดจามีหางเสียง เวลาเห็นของกิน ให้ถามก่อนว่ากินได้ไหม อย่าเอาอะไรเข้าปากโดยลำพัง พาไปเที่ยว บอกให้เล่นตรงนี้ก็คือตรงนี้ ห้ามวิ่งไปเล่นบริเวณอื่นโดยไม่บอกผู้ใหญ่ ถ้ามีคนแปลกหน้ามารับหรืออุ้มขึ้นรถ ให้ร้องดังๆ ว่าช่วยด้วยๆๆ ห้ามเล่นกระจกรถยนต์ เพราะกลัวกระจกจะหนีบถ้าลูกยื่นหัวหรือมือออกไป ยิ่งกระจกไฟฟ้า มันจะเลื่อนปิดจนถึงขอบบนสุดถึงแม้จะมีอะไรมาขวางมันก็ตาม ห้ามปีนระเบียงโดยเด็ดขาด นอกนั้นแม่ๆ เม้นต์หมดแล้วค่ะ จากคุณ : sisser เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 09:18:38

ความคิดเห็นที่ 82 เพิ่มเติมคะ - สอนให้เขารู้จักรีไซเคิล - สอนให้รักโลกใบนี้ รักธรรมชาติ และรู้จักใช้น้ำ ใช้ไฟ อย่างประหยัด จนทุกวันนี้ถ้าเขาเห็นคุณยายเปิดไฟไว้ในห้องเฉยๆ เขาก็จะเดินไปปิดไฟเอง   - สอนให้ระวังรถ โดยเฉพาะในที่จอดรถ จะบอกเขาเสมอว่าหนูตัวเล็ก ถ้าหนูเดินในที่จอดรถๆไม่สามารถมองเห็นหนู เพราะฉะนั้นกฎของที่จอดรถคือแม่ต้องจูงมือเขาเสมอ และห้ามวิ่ง - สอนให้รู้จักขอโทษเมื่อทำผิด ถ้าแม่ทำผิดแม่ก็ขอโทษลูกเหมือนกัน - สอนให้รู้จักบุญ บาป และกฎแห่งกรรม พร้อมทั้งสอนให้ทำบุญและอนุโมทนาบุญ จากคุณ : SF Girl เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 12:22:07

ความคิดเห็นที่ 83 เราสอนมาตลอด เริ่มแม้กระทั่งตอนนี้ค่ะ . . สอนเกือบจะทุกอย่างเลย อันไหนที่คิดว่าดี ถ้าเอามาพิมพ์ คงนึกออกไม่หมดค่ะ จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 54 23:07:02