ความคิดเห็นที่ 1 ต่อนะคะ   ก็เปลี่ยนมาเป็นคุณหมอผู้หญิงคุยกันแล้วก็รู้สึกถึงความสบายใจค่ะ ก็ดำเนินการฝากครรภ์ไปเรื่อยๆจนปัญหาก็เกิดขึ้น เรื่องมีอยู่ว่าเมือ่ดิฉันท้องได้ประมาณ32 สัปดาห์ ก็มีอาการปวดท้อง จุกเสียดแน่นขึ้นตรงลิ้นปี่ เจ็บตั้งแต่ตี3 เริ่มนอนไม่ได้ ก็เปลี่ยนท่า มานั่งหลับแทน เปลี่ยนหลายท่าก็ไม่ดีขึ้นมีแต่จะแย่ลงกว่าเดิม เลยสะกิดสามีให้ตื่น พาไปหาหมอหน่อยที่รัก น้องเป็นไรไม่รู้ก็เล่า บลาๆๆๆๆๆ ให้สามีฟัง เช้า 7 โมงกว่าสามีพามาโรงพยาบาล ขับรถมาถึงก็เข้าห้องฉุกเฉินเลยค่ะ เพราะดิฉันปวดจนแทบเดินไม่ได้ หายใจไม่ค่อยออก ก็รอพบหมอ หมอก็วินิจฉัยว่าปวดเนื่องจากโรคกระเพาะ แต่ความรู้สึกตอนนั้นเจ็บจนไม่อยากให้ลูกทั้ง2ขยับตัวเลย เพราะตอนนี้แม่เจ็บที่สุด ตัวนี่เกร็งไปหมดค่ะ จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 15:16:08

ความคิดเห็นที่ 2 มาช่วยลุ้น จากคุณ : gus9642 เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 15:20:10

ความคิดเห็นที่ 3 ต่อนะคะ หมอดูอาการแล้วบอกกับสามีว่าต้องให้ดิฉันแอดมิทที่นี่ โอเค นอนปวดท้อง2คืน คุณหมอเค้าก็เข้ามาดูแลเรื่อยๆ และฉีดยาแก้ปวดให้ แล้วก็ดูประวัติและผลการซาวด์หมอบอกว่าน้องตัวใหญ่ดี น้ำหนักเด็กแฝดต้องเข้าใจนะคะว่าแต่ละคน 1500-1800 นี่ถือว่าดีแล้ว หมอบอกว่าอย่างนั้น แล้วดิฉันอายุครรภ์แค่ 32-33 สัปดาห์ ก็ทำให้ดิฉันใจชื้นขึ้นมาแวบนึง ก็ต้องนอนทนปวดอีกต่อไป จนเข้าคืนที่2 ดิฉันก็ถามหมอว่าอาการน่าเป็นห่วงมากมั้ยคะ กระทบถึงลูกรึปล่าว หมอก็บอกว่าไม่มีปัญหา แต่อยากจะบอกว่าช่วงที่นอนโรงพยาบาลหรือนอนในห้องคลอดนั้น แทบไม้ได้หลับได้นอนเลยค่ะ เสียงผู้ช่วยที่ต้องเข้าเวรกลางคืนเสียงดังมากๆ เดี๋ยวก็หานู่นนี่มากินเหม็นทั้งห้อง เสียงล้างถ้วยล้างชาม เสียงลูกหลานที่ขนกันมานอนด้วย โห ในใจคิดว่าที่เลือกฝากท้องที่นี่เพราะต้องการความสะดวกสบาย และที่สำคัญห้องคลอดเนี้ยมันจะต้องจำกัดบุคคลที่เข้ามา ไม่ใช่เป็นห้องที่ใครก็อยากเข้ามาเพ่นพ่านก็ได้ ( นอนปวดท้องไปก็คิดไป ) จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 15:36:19

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณ คุณgus9642 ที่เข้ามารับฟังด้วยนะคะ ต่อ พอวันที่2 หมอก็เข้ามาถามว่า ดิฉันต้องการให้ฉีดยาขยายปอดให้เด็กหรือไม่ เพราะหมอเค้าเผื่อไว้ว่าถ้าอาการไม่ดีขึ้นหรือทำให้คุณแม่ทรมานอยุ่แบบนี้ หมอเค้าพิจารณาจะผ่าก่อนกำหนดให้ เพราะดูจากผลการซาวด์แล้วเด็กตัวใหญ่ดี ดิฉันก็บอกว่าฉีดก็ได้ค่ะ เพราะอารมณ์นั้นอยากจะเอาลูกออกเร็วๆเพราะเจ็บปวดทรมานเหลือเกิน พลิกตัวไม่ได้ นอนเปลี่ยนท่าไม่ได้เลยคือสรุปแตะต้องตัวไมได้เลย เกร็งจนน้ำตาร่วง ตกลงฉีดยาเพื่อขยายปอดเด็ก ( ไว้เพือ่เด็กจะได้ออกมาหายใจได้ด้วยตัวเอง ) และนอนพักต่อไป เลยถามค่ารักษาว่าดิฉันต้องเตรียมค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ หมอเค้าก็บอกว่าประมาณ คนละแสน น้อง2คนก็ประมาณ2แสนบาท โอ้ว ลมแทบจับ โอเคเงินที่เก็บหอมรอบริบไว้ก็คงต้องถึงเวาเอาออกมาใช้เสียที และหมอเค้าให้เหตุผลว่าเด็กอาจจะออกมาตัวเล้ก คงต้องอบน้องหลายวัน ให้คุณแม่เผื่อไว้ก่อนนะคะ โอ้วววว จำต้องโอเคล่ะค่ะ จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 15:48:45

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามารออ่านด้วยคนค่ะ จากคุณ : สวยอย่างแรงนิ เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 15:52:17

ความคิดเห็นที่ 6 อ้าว กำลังจะย้ายไปโรงพยาบาลนี้พอดีเลยอ่ะ เริ่มลังเลล่ะ มารอฟีงค่ะ จากคุณ : kantalove เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 15:58:05

ความคิดเห็นที่ 7 พอรุ่งเช้าอีกวันอาการดิฉันก็ดีขึ้น ทานอาหารได้บ้างแล้วหมอก็บอกกับสามีว่าให้ดิฉันกลับบ้านไปก่อน แล้วถ้าปวดจนทนไม่ไหวถึงมาทำการคลอดเด็กแฝดกันนะก็จ่ายยาพารา ยาลดท้องอืดท้องเฟ้อ1ขวดและยาลดอาการเกร็งตัวองมดลูก กลับมาถึงบ้านตกกลางคืนปวดระดับรุนแรงมาก น้ำตาร่วงออกมาจากตาโดนที่ไม่ได้เสียใจหรืออยากจะร้องไห้เลย แม่ก็มาดูใจต้องคอยพยุงนั่ง นั่งแล้วนอน ทำอยู่อย่างนั้นทั้งคืน แม่ก็บอกว่าหมอเรียกแม่ไปคุยว่าดิฉันเป็นคุณแม่มือใหม่ สำออย ไม่มีความอดทน ดิฉันโกรธมาก ลองหมอมาปวดเองสิ ใครจะอยากเป็นแบบนี้ฟระ จนเช้าก็อดทนต่อไปเพื่อที่จะให้ลูกอยู่ในท้องให้นานที่สุดเพื่อที่เค้าจะได้ไม่ต้องเป็นเด็กน้อยตัวแดงๆเล็กๆเท่าลูกหนู แล้วต้องอบนานๆ อยากให้เค้าทั้ง2ออกมาเป็นเด็กที่สมบูรณ์แข็งแรง แต่แม่ก็ทนต่อไปอีกไม่ไหว บ่าย4โมง แม่กับญาติๆก็ปรึกษากันว่าดิฉันคงทนต่อไปไม่ไหวเป็นแน่ หน้าซีดมากๆก็กลับไปที่โรงพยาบาล และเข้าห้องฉุกเฉินเหมือนเดิม ดิฉันจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันเข้าพรรษา 53 เค้าก็เข็นดิฉันไปห้องคลอด พยาบาลนางเดิมก็บอกว่า รอบนเตียงสักครู่ ติดต่อหมอก่อน เค้าก็โทรศัพท์ไปคุยกับหมอตอนแรกก็คุยเสียงระดับปกติ ต่อมาก็เริ่มเบาๆลงจนขนาดว่ากระซิบกระซาบเลยก็ว่าได้  พอวางสายไม่นานก็เกิดอาการพยาบาลเกี่ยงกันและบอกกับดิฉันว่าวันนี้ห้องคลอดหยุด เป็นวันเข้าพรรษา แผนกสูติหยุดหมดทุกคนรวมทั้งหมอด้วย แม่ดิฉันก็รีบสวนกลับว่าแล้วคนคลอดมันกำหนดได้ด้วยหรอว่าต้องรอพรุ่งนี้ถึงจะคลอดได้ ก็หมอบอกว่าถ้าทนไม่ไหวก็ให้มาคลอดได้เลย พยาบาลแต่ละคนก็หน้าถอดสีและบอกว่าต้องขอโทษจริงๆค่ะ หมอที่รับเคสดิฉันเค้าไม่อยู่จริงๆ แม่ดิฉันเลยบอกแล้วขอสายหมอหน่อยจะคุยกับหมอเอง เค้าก็ไม่ยอมต่อสายให้ แล้วหันมาทางดิฉันเห็รดิฉันน้ำตาร่วงนึกสงสารไม่อยากเสียเวลาคุยด้วย เลยถามว่าแล้วจะให้พวกเราทำอย่างไร ลูกดิฉันปวดท้องจะเป็นจะตายแบบนี้จะหาทางออกให้อย่างไร จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 16:05:27

ความคิดเห็นที่ 8 แพทย์รังสิต? ไม่ได้ยินใครพูดถึง รพ นี้มาหลายปีแล้ว ขอลุ้นด้วยคน จากคุณ : cashmamamia เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 16:09:44

ความคิดเห็นที่ 9 มารออ่านจ้า จากคุณ : กระต่ายบนพื้นโลก เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 16:12:35

ความคิดเห็นที่ 10 เค้าก็บอกว่าเดี๋ยวจะทำการรีเฟอร์ไปโรงพยาบาลอื่นให้นะคะ สักครู่เกี่ยงกันอีกแระ พยาบาลนางนึงเลยพูดกับแม่ดิฉันเบาๆว่าต้องขอโทษด้วยนะคะ ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับเลยค่ะ เพราะเป็นเคสแฝดด้วยเค้าบอกว่าตู้อบไม่พอ ยิ่งฟังยิ่งอึ้ง แม่ดิฉันเลยถามไปว่าแล้วพวกคุณะรับผิดชอบลูกดิฉันยังไงต่อไปเค้าเลยพูดมาว่าหมอบอกว่าหมอจะเดินทางกลับมาผ่าให้ก็ได้แต่ตอนนี้ตู้อบเด็กไม่พอ ทางโรงพยาบาลไม่มีตู้อบพอ อึ้งกิมกี่สิคะ นี่โรงพยาบาลเอกชนที่กล้าบอกให้ดิฉันเตรียมค่าใช้จ่ายในการคลอดถึง2แสนบาทบอกว่า ไม่มีตู้อบพอ แล้วนี่มันเป็นปัญหาของดิฉันหรือไม่ที่ดิฉันจะมาคลอดกับโรงพยาบาลที่มีระบบการจัดการที่แย่ขนาดนี้ ดิฉันต้องวิ่งหาตู้อบเองหรืออย่างไร เด๋วมาต่อนะคะ จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 16:14:40

ความคิดเห็นที่ 12 นั่งรอเลยค่ะ จากคุณ : สิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝัน เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 16:28:50

ความคิดเห็นที่ 13 รอค่ะ จากคุณ : Fairybox เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 16:30:09

ความคิดเห็นที่ 14 ต่อนะคะ กำลังอารมณ์ขึ้นได้ที่เลยค่ะ พยาบาลนางนั้นก็บอกว่าต้องให้คุณแม่ไปหาโรงพยาบาลเองแล้วล่ะค่ะ ห๊า .... ให้ดิฉันพาลูกไปในสภาพแบบนี้เหรอ สามีเลยดึงแขนแม่ไว้แล้วบอกว่าดิฉันคงไม่ไหวแล้วอย่าเสียเวลาเลย แม่--- คุณจะเอารถไปส่งเราที่โรงพยาบาลอื่นใช่มั้ย พยาบาล----คุณแม่ต้องไปเองค่ะ แม่---โหแย่ที่สุดไม่น่ามาเสียเวลาฝากครรภ์ที่นี่เลย ในใจคิด แล้วถ้าคนไม่มีรถส่วนตัวอย่างดิฉันล่ะ เกิดเป็นตาสีตาสาจะมาคลอดล่ะ เค้าจะได้รับการปฏิบัติแบบนี้เหมือนกันหรอ ทิ้งคนไข้แบบไม่แยแสแบบนี้เหรอ คำขอโทษจากหมอที่เป็นเจ้าของเคส หรือความรับผิดชอบของโรงพยาบาลนี้ไม่มีเลย หันมาดูนาฬิกา จะ1ทุ่มแล้ว บรรดาญาติๆก็เร่งโทรไปหลายโรงพยาบาลเค้าก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีตู้อบพอ จนคำๆนี้มันหลอกหลอนดิฉันจนทุกวันนี้ ในระหว่างนั้นดิฉันก็ปวดท้องนะคะสามีก็ค่อยๆขับ เพื่อให้กระทบกระทั่งน้อยที่สุด จนรถคันข้างหลังบีบแตรไล่ ทุกคนอยุ่ในภาวะสับสน กระวนกระวายใจ ความรู้สึกในตอนนั้นคิดว่าเงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง เงินซื้อความเจ็บปวดดิฉันไม่ได้ สักพักก็ถึงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกันทางไปสะพานใหม่ เข้าไปตรวจซาวด์ดูหมอบอกว่าเด็กตัวเล็กมากๆ มากจนอันตรายจนเกินไปที่จะทำคลอดให้ หมอผู้ชายคนนี้แนะนำให้ดิฉันไปโรงพยาบาลราชวิถี หรือโรงพยาบาลเด็ก ก็ได้ พูดให้กำลังใจดิฉันสู้อีกครั้งทั้งที่ใจเริ่มท้อมากๆ บอกว่าอดทนอีกนิดเพราะหมอรับรองว่าที่นั่นไม่มีทางทิ้งคนไข้แน่นอน ได้ยินดังนั้นก็รีบอกจากโรงพยาบาลเพื่อมุ่งหน้าสู่ราชวิถี จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 16:35:13

ความคิดเห็นที่ 15 F5 แบบรัวๆค่ะ จากคุณ : คนอยากลืม_กลับจำ เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 16:37:34

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นกรณีที่น่าสนใจมากค่ะ. รออ่านนะคะ จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 16:39:10

ความคิดเห็นที่ 17 หมอโรงพยาบาลที่คุณ จขกท.ฝากครรถ์บอกว่าเด็กตัวใหญ่ดี แต่พอมาเปลี่ยนโรงพยาบาลใหม่ หมออีกคนบอกว่าเด็กตัวเล็กมาก ทำคลอดถึงกับเป็นอันตราย สงสาร จขกท.จังเลย รออ่านอยุ่นะคะ F5  รัวเลยค่ะตอนนี้ จากคุณ : Fairybox เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 16:44:39

ความคิดเห็นที่ 18 รอฟังด้วยค่ะ  เราก็เคยฝากชีวิตลูกไว้ที่ รพ.เด็ก ^___^ จากคุณ : ยัยหมองกุ้ง เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 16:45:31

ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อไปถึงราชวิถีก็ถูกเข็นเข้าห้องคลอดทันที โห ดิฉันไม่สามารถบรรยายความรู้สึกนี้ได้หมด หมอเข้ามารุมเสียบสายมั่ง สอบถามอาการ เช็คประวัติ เช็คอะไรต่อมิอะไรในร่างกายดิฉันทำให้ดิฉันอุ่นใจขึ้นมามากมาย ว่าดิฉันและลูกปลอดภัยแน่แล้ว แต่นั่นก็ได้แค่คิดแต่ยังไม่ใช่ทั้งหมดนะคะ เพราะคุณหมอเค้าเช็คจากใบฝากครรภ์และซาวด์ดูน้อง บอกว่าน้องแค่1550 และ 1650เอง น้องเล็กและอันตรายมากๆถ้าให้น้องออกมาดูโลกเร็วเกินไปในสภาวะที่เค้าไม่พร้อมแบบนี้ ที่สำคัญ ไม่มีตู้อบอีกแล้ว เอาล่ะสิคะ ดิฉันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ยกมือไหว้หมอบอกว่าหนูไปสอบถามมาหลายที่แล้ว ไม่มีใครรับหนูกับลูกเพราะเหตุผลเดียวกันนี้ ดิฉันไม่มีทางไปแล้ว ดิฉัน-- หมอคะหนูขอร้องเถอะค่ะ หนูปวดท้องมาวันนี้วันที่3แล้ว หนูเหนื่อยมากค่ะ หมอ--หมอเข้าใจนะคะ เอางี้หมอจะลองให้พี่เค้าโทรไปหลายๆที่ดูนะคะว่าที่ไหนมีตู้อบพอมั่ง ดิฉัน--ค่ะ รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆจนหลับไปด้วยความเหนื่อยและเพลีย ( หมอเค้ามาฉีดยาแก้ปวดให้ดิฉัน ตอนที่รอค่ะ ) ช่วงระหว่างที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นเสียงที่ได้ยินครั้งแรกคือ พยาบาลราชวิถี-- ไม่มีที่ไหนเลยหมอ เต็มหมด ทำไงดี โทรไปทุกที่แล้วเนี้ย หมอ--อืม พยายามอีกซิ เผื่อมี อ้อ โรงพยาบาลเด็กล่ะอย่าลืมเชคด้วยนะ ประโยคนี้ที่ไม่อยากได้ยิน---ดิฉันต้องตื่นมารับรู้อะไรที่ไม่อยากฟัง จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 16:48:39

ความคิดเห็นที่ 20 รอ รอ  ค้า แอบใจร้อน^__^ จากคุณ : ยัยหมองกุ้ง เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 16:53:42

ความคิดเห็นที่ 21 รอค่ะ จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 16:56:41

ความคิดเห็นที่ 22 ลุ้นค่ะ จากคุณ : แดงกันจัง เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 16:57:05

ความคิดเห็นที่ 23 หมอ--เราคงต้องแจ้งคนไข้ว่าเราไม่สามารถรับคนไข้ไว้ได้เพราะเราไม่มีตู้อบจริงๆ คนไข้เป็นเคสฉุกเฉินมาก แถมแฝดอีกต่างหาก เห้อ ดิฉัน--ก็แกล้งหลับตาฟัง หมอ--โทรตามหมอที่โรงบาลเด็กด้วยนะ หมอรพ.เด็ก --สวัสดีค่ะคุณแม่ เป็นยังไงนอนหลับไปนานเลยนะคะ คุณแม่ต้องเข้าใจนะคะว่าเราได้พยายามช่วยคุณแม่หาตู้ให้น้อง แต่ไม่มีเลยที่โรงบาลเด็กเป็นโรงพยาบาลใหญ่ก็จริงแต่อย่าลืมว่าก็คนไข้ที่มาคลอดมากขึ้นตามด้วย ดิฉัน-- ( ร้องไห้ ) ยกมือไหว้ขอความช่วยเหลือแล้วบอกว่า หมอช่วยหนูไม่ได้หนูก็หมดปัญญาล่ะค่ะ หนูไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ หมอ--คุณแม่กลับไปคลอดที่เดิมก็ได้นะคะ เดี๋ยวหมอจะช่วยประสานทางนั้นให้ ดิฉัน-- ไม่เป็นไรค่ะ หนูไม่กล้ากลับไปที่นั่นอีกแล้ว หนูกลัวและขยาดกับที่นั่นแล้วหนูเดินทางมาที่นี่เพราะมีคุณหมอผู้ชายแนะนำให้มาบอกว่าที่นี่ไม่มีทางทิ้งคนไข้ แน่นอน หมอ--เงียบและส่ายหัว...งั้นพักผ่อนก่อนนะคุณแม่ สักพักผ่านไป หมอราชวิถี-- คุณแม่หมอจะให้ยาแก้ปวดคุณแม่เพื่อบรรเทาอาการก่อนนะ ช่วงนี้คุณ:-)ดทานน้ำหรืออาหารทุกอย่างนะ ดิฉันได้รับการฉีดยาแก้ปวดทุกๆ4ชั่วโมง และได้รับการตรวจรักษาที่เคร่งครัดมากๆระบบที่นี่ดีมากทีสุดที่ดิฉันเคยเห็นมา และเค้าปฏิบัติกับคนไข้ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่ว่าคนไทย พม่า ลาว เขมร หรือบรรดาคุณแม่ทั้งหลายที่ปวดท้องคลอดกระทันหัน ดิฉันคิดว่าที่นี่คือที่ที่จะช่วยดิฉันและลูกๆได้ จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 17:00:32

ความคิดเห็นที่ 24 คล้ายเคสเราเลย ของเราคลอดก่อนกำหนด หาตู้อบไม่ได้ .. สุดท้าย เชื่อเถอะ ปาฏิหารย์มีจริง จากคุณ : ชะเอมน้อยกลอยใจ เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 17:00:47

ความคิดเห็นที่ 25 รอฟังอยู่ค่ะ จากคุณ : ladyhana (ladyhana) เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 17:09:42

ความคิดเห็นที่ 26 รอฟังอยู่เช่นกันค่ะ จากคุณ : bengyrot เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 17:15:23

ความคิดเห็นที่ 27 รอต่อจ้า.....กำลังลุ้นเลย^^ จากคุณ : gamegonclub เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 17:20:19

ความคิดเห็นที่ 28 หลายวันผ่านไป หมอก็เข้ามาตรวจร่างกายตามปกติ และคงสังเกตุเห็นสีหน้าดิฉันที่เปลี่ยนไปคือโทรมไปมากเนื่องจากไม่ได้ดื่มน้ำ และอาหารมาหลายวัน และไม่ได้เจอหน้าแม่และสามีที่ให้กำลังมาโดยตลอด ดิฉันก็เข้าใจนะคะว่าห้องคลอดคนนอกห้ามเข้า หมอ--คุณแม่เดี๋ยววันนี้จะพาคุณแม่ไปซาวด์นะจ๊ะ ว่าน้องหนักเท่าไหร่แล้ว ดิฉัน--ค่ะ หมอ--คุณแม่หมอว่าน้องตัวโตขึ้นนิดนึงแล้วนะคะ หมอคิดว่าถึงเวลาคุณแม่แล้วล่ะ ดิฉัน--ดีใจมากมาย อยากกระโดดกอดหมอเลยทีเดียว555 และก่อนวันคลอด1 วัน ลืมตาขึ้นมา เจอสามียืนอยู่ข้างๆและแม่นั่งอยู่อีกฝั่ง นึกว่าฝันไป เห็นหน้าแม่ทีแรกร้องไห้เลยค่ะ คิดถึงและรับรู้ได้ว่ากว่าจะเป็นแม่คนนี่มันลำบากขนาดนี้เชียวหรือ รู้สึกรักแม่มากๆๆๆๆๆ แม่ทรมานขนาดหนักกว่าจะได้ลูกที่เกเรเกตุงแบบเรา และสามีก็ร้องไห้บอกว่า ไม่เป็นไรแล้วนะ ที่รักปลอดภัยแล้วลูกก็ปลอดภัย ซึ้งงงงงง วันพุธ หมอ คุณแม่พรุ่งนี้แล้วนะ ประมาณช่วงเช้าหมอทำคลอดให้คุณแม่นะ คุณแม่ดีใจมั้ย ดิฉัน--ดีใจค่ะ ( นึกขึ้นได้ว่าเคยคุยกับแม่ว่าเด็กปีนี้ให้เกิดวันพฤหัสนะจะดีมากๆ ) เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ5555 ( ยังจะมีอารมณ์เลือกวันอีกนะ อิอิ ) แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 54 13:04:16 จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 17:21:09

ความคิดเห็นที่ 29 โอ้ย ลุ้นจังเลย มาต่อเร็วๆนะคะ จากคุณ : cashmamamia เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 17:21:39

ความคิดเห็นที่ 30 เข้ามาให้กำลังใจค่ะ เรื่องราวมันเครียดมากเลย ตอนนี้เราก็ใกล้คลอดแล้ว  อ่านแล้วอินมากมาย จากคุณ : momwinner เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 17:26:09

ความคิดเห็นที่ 31 นอนรอคลอดหลายวันเลยรึคะ.....โห อดทนมากคะ จากคุณ : gamegonclub เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 17:27:21

ความคิดเห็นที่ 32 สามีบอกว่าคุณหมอเห็นสีหน้าที่รักไม่ดี เลยอยากให้ญาติเข้ามาให้กำลังใจ ( กราบขอบพระคุณคุณหมอมากๆเลยนะคะ ) ดิฉันเข้าห้องคลอดเวลา 13.30 และผ่าคลอดด้วยการวางยาสลบ ออกมา20.00 แม่เดินกระวนกระวายทั้งที่หมอบอกว่าดิฉันและลูกแข็งแรงและปลอดภัยดี แต่ดิฉันก็ตื่นขึ้นมาตอนประมาณ23.25 น. เห็นสามีนอนหลับอยู่ข้างเตียงซึ่งเป็นห้องพักฟื้น ดิฉัน--หมอคะ หมอ--อ้าว คุณแม่ตื่นแล้วหรอ หลับไปนานเลยนะ เป็นไงเจ็บตรงไหนมั่งลองขยับตัวดูซิ ดิฉัน--เจ็บค่ะ ปวดหลังมากค่ะ และตรงหน้าท้อง  ( สักพักสามีก็ตื่นขึ้นมา ) หมอ--คุณแม่ตกเลือดน่ะนะ แต่หมอให้เลือดคุณแม่แทนแล้วล่ะ อย่าเพิ่งลุกนะ พักก่อน จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 17:29:03

ความคิดเห็นที่ 33 รอติดตามต่ออยู่นะจ้ะ..... จากคุณ : gamegonclub เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 17:47:27

ความคิดเห็นที่ 34 รอติดตามเหมือนกันค่ะ ^^ จากคุณ : น้ำหมี่&มะม่วง เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 17:53:04

ความคิดเห็นที่ 35 ลูกตัวน้อยๆของดิฉัน น้ำหนัก คนที่1 1750 g คนที่ 2 1859 g ค่ะ และสร้างความสงสัยกับดิฉันคือไหนลูก ไม่เห็นเค้าเข็นมาให้ดูเหมือนคนอื่นเลย สามีบอกว่าลูกตัวเล็กมาก คนนึงอบที่โรงบาลเด็กนะ อีกคนอยู่ที่นี่ ( ราชวิถี ) รอให้ที่รักออกจากห้องพักฟื้นก่อนนะ เราถึงไปดูลูกกัน ดิฉันนอนที่ห้องพักฟื้น3คืนเพื่อให้แน่ชัดว่าดิฉันจะไมม่มีอาการตกเลือดอีก หมอบอกว่าหมอได้จัดห้องพิเศษที่คุณพ่อขอให้ได้แล้วนะ พรุ่งนี้ถึงจะย้ายไป อดทนหน่อยนะ ดิฉันก็โดนเข็นมาที่ห้องพิเศษ ขอบอกว่าห้องสวยมากค่ะ พอใจมากๆ ที่สำคัญพี่พยาบาลที่ตึก5ก ดูแลดีมากๆเลยค่ะ จะไปไหนมาไหนไม่ปล่อยให้เราเดินเลยนะคะ ต้องมีคนเข็นไปค่ะ แต่ดิฉันลำบากหน่อยต้องไปให้นมลูก2ตึก แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ทุกอย่างผ่านพ้นมาด้วยดี ลูกๆดิฉันแข็งแรงดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ อบตู้อยู่ประมาณ15วันก็ได้กลับบ้านค่ะ ที่สำคัญสิ่งที่ทำให้ดิฉันประทับใจที่สุดอีกเรื่องคือ พี่พยาบาลแนะนำให้สามีทำเรื่องเบิกบัตรทองฉุกเฉินค่ะ สามีเดินไปจ่ายเงินค่าพยาบาลตั้งแต่แรกเข้าจนคลอดลูก ตลอดจนค่าอบน้อง ค่าใช้จ่ายออกมาคือ 35 บาทค่ะ  ( ค่าผ้าอนามัยค่ะ ) ดิฉันซาบซึ้งการให้บริการ ค่าใช้จ่าย และกำลังใจที่รับจากโรงพยาบาลแห่งนี้ ทำให้ดิฉันไม่ต้องเสียเงินถึง2แสนบาทแต่การบริการรวมถึงระบบการจัดการคนไข้ห่วยมากๆของที่เดิม แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 54 19:39:22 จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 17:55:54

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารอฟังประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่นะคะ อิอิ อ้อลืมบอกไปค่ะ ค่าห้องพิเศษคืนละ1700 ค่ะ ( ประมาณนะคะ ) และครั้งนั้นก็ทำให้ดิฉันล้างสมองอันงี่เง่าของตัวเองใหม่ว่า ไม่ใช่ว่าแพงแล้วจะดีเสมอไป และเงินซื้อความสะดวกสบายได้แต่ซื้อความปลอดภัยไม่ได้กับสถานพยาบาลแห่งนั้น ที่เราเรียกกันว่าโรงพยาบาลเอกชน เรามองข้ามสิทธิที่เราควรจะได้รับได้อย่างไรกัน และทำให้โยงไปถึงการรับผิดชอบภาษีรัฐบาลด้วย ขอบคุณคุณหมอที่โรงพยาบาลราชวิถี พี่พยาบาลในห้องคลอดทุกคน รวมไปถึงทุกท่านที่เข้ามาฟังประสบการณ์ครั้งนี้ด้วยค่ะ จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 18:04:03

ความคิดเห็นที่ 37 ดีใจด้วยค่ะ ว้าว เสียแค่ 35 บาทเอง ดีใจด้วยจริงๆเลย อ่านไปลุ้นไปซะเครียดและเหนื่อยแทนเลย ยินดีด้วย ขอให้แข็งแรงเร็วๆนะคะ จากคุณ : cashmamamia เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 18:06:05

ความคิดเห็นที่ 38 ดิฉันคลอดน้อง เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2553 ค่ะชายทั้งคู่ ตอนนี้น้องได้ 7เดือนกับ29วันแล้วค่ะ ถือโอกาสฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ น้องกลูเกิ้ล และน้องบับเบิ้ล คร้าบ จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 18:06:57

ความคิดเห็นที่ 39 ดีใจด้วยค่ะที่ปลอดภัยทั้งคุณแม่และคุณลูก จากคุณ : แม่น้อง Cherry เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 18:08:05

ความคิดเห็นที่ 40 เอารูปน้องมาโชว์ให้ดูหน่อยซิคะ จากคุณ : แมวอ้วนจัง เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 18:13:25

ความคิดเห็นที่ 41 ดีใจด้วยค่ะ ผ่านพ้นมาได้ เราก็คลอดราชวิถีนะ^^ จากคุณ : แดงกันจัง เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 18:13:35

ความคิดเห็นที่ 42 เราก็คลอดลูกแฝดที่นี่ค่ะ นน.3,206 กรัม และ 2,680 กรัมค่ะ คุณหมอน่ารัก พยาบาลก็เข้มๆ แต่ให้คำแนะนำดีค่ะ จากคุณ : HelloMuay เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 18:13:56

ความคิดเห็นที่ 43 โล่งอก ปลอดภัยดีทั้งแม่ละลูก เอาลูกๆออกมาให้ดูด้วยนะคะ เด็กน้อยผู้เข็มแข็ง ตามรออ่านมา 2 ชั่วโมงแล้ว ลืมบอกไปเราก็ย้ายจากเอกชนมาฝากคลอดพิเศษที่นี่ ดูแลดีทั้งคุณหมอและพยาบาลห้องพิเศษVIPก็ดีกว่าที่คิดไว้ ทั่งอุ่นใจเพราะมีหมอจาก รพ.เด็กมาดูลูกให้ด้วย แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 54 18:30:59 จากคุณ : angkan111 เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 18:18:47

ความคิดเห็นที่ 44 ดีใจด้วยนะคะ ผ่านพ้นมาด้วยดี จากคุณ : sweet_mu เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 18:20:18

ความคิดเห็นที่ 45 เฮ้อ โล่งอก ลุ้นอยู่นาน และแล้วก็ผ่านพ้นมาด้วยดี ดีใจด้วยค่ะ และอย่าลืมพาน้องมาโชว์ความน่ารักบ้างนะค่ะ จากคุณ : ladyhana (ladyhana) เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 18:32:55

ความคิดเห็นที่ 47 เราก็คลอดที่ราชวิถีค่ะ ประทับใจมาก ๆ เหมือนกัน จากคุณ : อีฟ (eve...) เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 18:48:47

ความคิดเห็นที่ 48 คล้ายๆกันกับเราเลย เราก็ไม่ได้จ่ายอะไรเลยของลูกก็เหมือนกัน ย้ายโรงพยาบาลไปมา แต่ได้มาคลอดโรงพยาบาลรัฐที่เรากลัวมาก แต่เค้าก็ช่วยเราจนผ่านมาได้ อายจัง เลยใส่ซองให้เป็นค่าน้ำใจคุณหมอ5000บาท เพราะไม่ได้จ่ายอะไรเลยแม้แต่ค่าห้อง จากคุณ : korkawe เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 19:00:33

ความคิดเห็นที่ 49 เราก็คลอดที่นี่ค่ะ  ดูเเลดีเน๊อะค่ะ ถ้ามีท้องหน้าก็ไปที่นี่แหล่ะ จากคุณ : ยัยหมองกุ้ง เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 19:03:00

ความคิดเห็นที่ 50 ยินดีด้วยค่ะ ขอดูหน้าน้องหน่อย ^_^ ตัวโตขนาดไหนแล้วคะ จากคุณ : smileline เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 19:03:16

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณคุณแม่ทุกท่านที่เข้ามาให้กำลังใจนะคะ เข้ามาห้องนี้ทีไรอบอุ่นทุกทีเลยค่ะ เดี๋ยวจะพยายามเอารูปน้องลงนะคะ พยายามแล้วแต่มันฟ้องว่าภาพใหญ่เกินไปอ่ะค่ะ ขอคำแนะนำด้วยนะคะ จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 19:25:14

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณคุณแม่ทุกท่านที่เข้ามาให้กำลังใจนะคะ เข้ามาห้องนี้ทีไรอบอุ่นทุกทีเลยค่ะ เดี๋ยวจะพยายามเอารูปน้องลงนะคะ พยายามแล้วแต่มันฟ้องว่าภาพใหญ่เกินไปอ่ะค่ะ ขอคำแนะนำด้วยนะคะ จากคุณ : หนูยิ้มสวย (หนูยิ้มสวย) เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 19:25:34

ความคิดเห็นที่ 53 รอรูปน้องนะคะ เกิดใกล้ลูกเราเลย ลูกเราเกิด 28 กรกฎา 53 อ่ะคะ ดีใจด้วย ใจหายใจคว่ำ ดีใจที่น้องรอด ที่น้องแข็งแรง จากคุณ : Fairybox เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 19:32:55

ความคิดเห็นที่ 54 แต่ไม่เข้าใจเลยนะ ทำไมหมอรพ แรก ถึงบอกน้องตัวใหญ่ หนักยังไม่ถึง สองพัน เนี่ยนะ ขอบคุณจขกท ที่มาแชร์ ปสก นะคะ จากคุณ : rain&ant เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 19:32:58

ความคิดเห็นที่ 55 โหวตค่ะ น่าจะฟ้องเลย จากคุณ : แมวสีขาวขนปุย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 19:41:32

ความคิดเห็นที่ 56 หมอที่แรกบอกว่า น้องหนัก 1800 และ1900 เลยนะคะ แต่พอมาที่ราชวิถีคุณหมอเค้าซาวด์อีกที 1650-1750 ประมาณนี้ค่ะ แต่พอคลอดออกมาจริงๆก็ใกล้เคียงกับที่ราชวิถีอ่ะค่ะ ดิฉันว่าอยู่ที่ความชำนาญของหมอแต่ละท่านมั้งคะ อีกอย่างผลการซาวด์ก็ +-ไว้ 200-300 g อ่ะค่ะ ( นี่ถามคุณหมอที่ราชวิถีนะคะ )ไม่ได้เป๊ะๆ จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 19:47:39

ความคิดเห็นที่ 57 ดีใจด้วยค่ะ ที่น้องแข็งแรงปลอดภัยดี ลุ้นตามมากๆ ทำเราเกลียด รพ.ต้นเรื่องอย่างแรงเลยค่ะ เราเองก็ฝากเอกชน เลยอินอย่างแรง หุหุ จากคุณ : momwinner เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 19:51:02

ความคิดเห็นที่ 58 ดิฉันอยากให้เป็นข้อคิดเตือนใจนะคะ ที่ดิฉันมีความคิดว่าเอกชนจะต้องเป๊ะทุกอย่าง ( เป็นบางที่ ) สำหรับคุณแม่บางท่านที่คลอดเอกชนส่วนใหญ่ก็จะได้รับประสบการณ์และบริการที่ดี มีความรับผิดชอบที่ดีเยอะแยะไปนะคะ และอีกมุมนึงคุณแม่ทีคลอดรัฐบาล ก็ได้รับการบริการที่ดีเช่นกัน ( บางที่ ) ถือว่าเป้นความโชคร้ายของดิฉันเองค่ะ จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 19:52:16

ความคิดเห็นที่ 59 โอ๊ว เป็นกระทู้ที่อ่านไปลุ้นไป .. แต่สุดท้าย Happy ค่ะ ขอบคุณที่มาเล่า ปสก. จะได้มอง รพ. รัฐในทางที่ดีบ้างค่ะ จากคุณ : แม่น้องปีใหม่ เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 19:57:25

ความคิดเห็นที่ 60 เราก็ฝากพิเศษกับหมอต่างหากคะ  แต่คลอดโรงพยาบาลรัฐค่ะ ก็ถือว่าดี ไม่ถึงกับดีมาก แต่ก็ผ่านมาได้ นอนห้องพิเศษเสียส่วนเกินวันละ 200 บาทเองค่ะ เพราะเบิกได้ แต่ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินกับเรา เราก็คงแย่เหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 54 20:03:29 จากคุณ : Fairybox เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 20:03:10

ความคิดเห็นที่ 61 โอ้โฮ  สดุดีราชวิถี ประทับใจแทนเลยค่ะ ความเป็นความตายอยู่ที่ความรับผิดชอบของคนๆ หนึ่งเท่านั้น  ดีใจด้วยนะคะ จากคุณ : sisser เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 20:11:15

ความคิดเห็นที่ 62 รอดูรูปน้องค่ะ ว่างๆแวะมาโชว์หน่อยนะค่ะ จากคุณ : bengyrot เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 20:12:30

ความคิดเห็นที่ 63 อ่านตอนสุดท้ายรู้สึก ดีใจด้วยค่ะ   แต่เรื่งโรงบาลแรกๆน่าจะฟ้องเลยนะ คนไข้ฝากท้องตั้งแต่แรก พอปวดท้องบอกวันเข้าพรรษา  หยุด หมอไม่มีจิตสำนึกเลยยยย  เกลียดด  โค-ต-ร   หมอเอกชนคนแรกที่เราคลอด ก็น่าเงินมากๆ  เราปวดท้องความรู้สึกเหมือนเราจะตาย หมอบอกจะช่วยนะ คีมใหญ่ๆคารู.. พร้อมกับเสียงโทรศัพทืดังขึ้นมา ไม่ได้พุดเรื่องไรคะ เรื่องคุณหมอเปิดคลีนิก ที่ไหน เปิดเวลากี่โมง จะบ้าตายๆๆๆ ใช่ค่ะ  เอกชนไม่ได้ดีซะทุกอย่าง แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 54 20:22:30 จากคุณ : จี้เพชร เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 20:20:46

ความคิดเห็นที่ 64 เออ จะบอกว่าดิฉันก็ฝากท้องและคลอดที่ รพ ที่แรก กับ จขกทนะคะ ประทับใจมาก(ฝากกับหมอผู้หญิง) สำหรับเราเค้าบริการดีมาก ๆ พูดคุยเป็นกันเอง ในห้องรอคลอดพยาบาลก็ดีทุกคน อันนี้เมื่อ สามปีก่อนคะ เรายังคิดเลยถ้าท้องอีกก็คงไปฝากท้องกับหมอคนเดิม  อ่านแล้วตกใจและน่าเห็นใจ จขกท มากๆ คะ จากคุณ : piano-nok (piano-nok) เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 20:24:15

ความคิดเห็นที่ 65 เราก็คลอดราชวิถีเหมือนกันคะ อยู่ห้องพิเศษชั้น 5 เหมือนกัน พี่ๆพยาบาลดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก (เสียอย่างเดียว หมอ ผญของราชวิถี) ลูกเราก็มีปัญหา ต้องส่องไฟเป็นเดือน พี่พยาบาลก็แนะนำให้ทำบัตรทองฉุกเฉิน ค่าใช้จ่ายเป็น 0 คะ ส่วนของพี่สาวเรา ลูกสาวส่องไฟเอกชน 3 วันเป็นหมื่นคะ จากคุณ : zandzang เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 20:30:42

ความคิดเห็นที่ 66 คุณ จขกท. คะ -  ขนาดของไฟล์จะต้องไม่เกิน 200 KB -  จะ preview ไฟล์ก่อนไม่ได้ด้วยค่ะ จากคุณ : HelloMuay เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 20:44:28

ความคิดเห็นที่ 67 อ่านไป ลุ้นไปค่ะ ดีใจด้วยค่ะที่น้องแข็งแรง ปลอดภัยทั้งคู่ วัยไล่เลี่ยกับลูกชายเราค่ะ น้องวินวิน  เกิด 17 ส.ค.53 ค่ะ นี่แหล่ะค่ะ กว่าที่เราจะเป็นแม่คนได้ มันช่างลำบากยากเย็นเสียเหลือเกิน จากคุณ : Namphon_r เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 20:45:12

ความคิดเห็นที่ 68 ดีใจด้วยค่ะ ที่ปลอดภัยทั้งแม่และลูกแฝด รอดูรูปอยู่นะคะ ของเราก็คลอดใกล้ๆ กับ จขกท. ค่ะ เลยไปอีกนิด รพ.รามาค่ะ ทีแรกก็หลงผิดไปเหมือนกัน ฝากท้องกับ รพ.สินแพทย์ แต่เพราะเราน้ำคร่ำรั่ว ลูกมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด วันนั้น พยาบาลรีบมาพูดก่อนเลย ว่าถ้าต้องเข้าตู้อบ คืนละ 40000 นะ แล้วไม่รุ้ต้องอยู่กี่วัน เสียหลายแสนแน่ๆ เราก็เข้าใจนะ ว่ามันเป็นธุรกิจ แต่การบริการก็ไม่ได้แย่ขนาด จขกท. ดังนั้นเราจึงไปคลอดที่ รพ.รามา เพราะตอนแรกเคยฝากท้องที่นี่แล้วย้ายไป การบริการ อุปกรณ์ บุคลากร ถือว่าเราพอใจนะ ลูกเราออกมา 31w 1500g. อยู่ รพ. เดือนนึง ทำบัตรทองแล้ว กลับบ้านจ่ายไป 1600 เองค่ะ จากคุณ : FrenZyMeloN เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 21:15:26

ความคิดเห็นที่ 69 ดีใจด้วยนะคะที่ปลอดภัยทั้งคุณแม่คุณลูก เข้าใจมากๆ เลยว่าช่วงเวลาที่นอนรอแบบไม่รู้อนาคตนั้นมันเป็นยังไง เป็นอะไรที่เรากำหนดไม่ได้ซะด้วยสิ แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้ เอาไว้เล่าให้น้องทั้งสองฟังนะคะว่ากว่าเค้าทั้งสองจะเกิดมาได้สมบูรณ์ ทุกคนต้องอดทน ฟันฝ่าขนาดไหน ความช่วยเหลือจากหลายๆ ฝ่าย น้ำใจที่มีให้ในวันนั้น ทำให้สามแม่ลูกได้เจอหน้ากันอย่างปลอดภัย เป็นเด็กดีนะครับเด็กน้อย โรงพยาบาลแรก ไม่พูดถึงค่ะ ไม่มีจรรยาบรรณเลย น่าจะหาทางออกให้คนไข้ได้มากกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยให้คนไข้ที่อาการหนัก ต้องไปดิ้นรนหาโรงพยาบาลเองแบบนี้ รักษาเบื้องต้นให้ก่อนก็ยังดี แบบที่ราชวิถีทำ เต็มที่ ไม่ใช่ทำแบบขอไปที จากคุณ : Sara K. เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 21:29:38

ความคิดเห็นที่ 70 ดีใจกับคุณแม่ด้วยที่ผ่านพ้นไปได้ลุ้นมากๆๆค่ะ จากคุณ : เดียวดายในสายลม เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 21:33:58

ความคิดเห็นที่ 71 ดีใจกับคุณแม่ด้วยมากๆนะคะ อ่านไปเราก็ลุ้นเกือบแย่ แต่สุดท้ายก็จบแบบแอปปี้ ดีใจด้วยจริงๆ เราก็ผ่าคลอดกับโรงพยาบาลรัฐคะ ไม่เสียตังค์สักบาทเดียวคะ จากคุณ : แม่น้องบีบี เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 21:58:21

ความคิดเห็นที่ 72 ยินดีด้วยนะคะ ที่ผ่านพ้นมาได้ด้วยดี จากคุณ : Sugar Prow เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 22:38:48

ความคิดเห็นที่ 73 กับตอนฝากท้องไม่ต้องรอคิวนาน แต่ถ้ากรณีฉุกฉิกโรงพยาบาลรัฐดีที่สุด อย่างไรเราก็เชี่อว่าโรงพยาบาลรัฐมีอุปกรณ์และหมอที่เก่งกว่า แต่ไม่ชอบที่รอคิวนานมาก ๆๆ ห้องพิเศษเข้ายากมาก ๆๆ จำได้ตอนพ่อเราผ่าตัดไส้ติ่งไปโรงบาลรัฐแล้ว แต่ไม่มีห้องพิเศษ  เลยย้ายไปเอกชน แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 54 23:02:45 จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 23:00:55

ความคิดเห็นที่ 74 ยินดีด้วยที่ผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตินั้นมาได้ ขอให้น้องแข็งแรงโตวันโตคืนนะคะ และขอบคุณที่มาถ่ายทอดประสบการณ์ที่ดีของรพ.ของรัฐให้ฟังค่ะ เราเองที่กลัวกับการคลอดใน รพ.ของรัฐ ไม่ได้กลัวเรื่องหมอว่าไม่เก่งนะคะ   แต่ติดนิสัยรักสบาย ไม่อยากรอคิวตรวจนาน ไม่อยากนอนห้องรวม ฯลฯ ลูกเราคลอดเอกชน  ค่าใช้จ่ายสูง  แต่ก็อยูในแผนที่เตรียมไว้  เกินบ้างตรงที่ต้องเข้าตู้อบตัวเหลือง  แต่การบริการดีเยี่ยมสมราคาเลยค่ะ แต่กับพี่สาวแฟน ที่คลอดระยะเวลาใกล้ๆกัน เขาคลอดราชวิธี  มีเส้นสายนิดหน่อยเลยได้ห้องพิเศษเร็ว  เขาได้รับการบริการที่ดี  และราคาถูกแบบคุณยิ้มสวยนี่แหละค่ะ จากคุณ : น้ำน่านน้ำปิง เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 54 23:17:21

ความคิดเห็นที่ 75 ขอตรบมือให้กับ คุณหมอ และโรงพยาบาล ราชวิถี คะยังไงเขาไม่ทิ้งคุณจริงๆ จากคุณ : Bany_jung เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 00:31:39

ความคิดเห็นที่ 76 อ่านไปลุ้นไป  ยินดีด้วยนะคะ  ^__^~ จากคุณ : หนูน้อยAเซอร์ เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 02:01:45

ความคิดเห็นที่ 77 อ่านไปน้ำตาก็ไหลเลยค่ะ นึกถึงวันที่เราจะคลอด ตกเลือด ไปจุฬาเขาก็ไม่รับค่ะ ไม่มีตู้ โชคดีที่ รพ เอกชนที่ฝากท้องเขาดูแลอย่างดี แต่ก็จ่ายเยอะ ลูกคลอดออกมาแล้วก็ยังหาตู้ไม่ได้ค่ะ ต้องอบที่รพ ที่คลอด 1 เดือน วิ่งหาตู้จนคิดว่าไม่หาแล้ว นอนไปให้สบายใจเลยลูก เอกชนนี่ล่ะ นึก ๆ ดูแล้ว ปีนึง ๆ ก็เสียภาษีตั้งเยอะ แต่จะหาตู้อบให้ลูก แค่นี้ไม่มีใครช่วยได้เลย ทำมัยคุณภาพ รพ ในไทยมันถึงต่ำจัง เฮ้อ จากคุณ : designbox108 เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 03:40:00

ความคิดเห็นที่ 78 ดีใจกับจขกท.และน้องคู่แฝดด้วยคะ ที่ผ่านเหตุการณ์นี้มาได้อย่างปลอดภัย......... และขอชื่นชมคุณหมอรพ.ราชวิถี ด้วยคะที่เห็นคุณค่าของชีวิตน้อย ช่วยดูแลรักษาอย่างเต็มที่ >>>>>>> เราว่านะ.........แพทย์เป็นอาชีพที่ได้บุญสูงมาก เพราะสามารถช่วยชีวิตคนได้มากมาย แต่ก็ทำบาปหนักได้เหมือนกัน เช่นพวกหมอไม่มีจรรยาบรรณ ปล่อยให้คนป่วยนอนรอความตาย ไม่ได้ช่วยเต็มที่ ทั้งๆที่เค้ายังมีโอกาสรอด............... จากคุณ : gamegonclub เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 09:51:16

ความคิดเห็นที่ 79 โอ้ย ! อ่านแล้วลุ้น  น้ำตามันจะไหล สุดท้ายนี้ขอแสดงความดีใจ และยินดี ด้วยค่ะที่คลอดลูกออกมา ปลอดภัยทั้งแม่และลูก จากคุณ : บุษบามณฑารพ เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 10:17:10

ความคิดเห็นที่ 80 อ่านไปน้ำตาก็จ้องจะไหลค่ะ....ดีใจด้วยนะค่ะ จากคุณ : กะเตงลูกเที่ยว เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 10:29:25

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณค่ะที่แชร์ประสบการณ์โดยละเอียดให้ฟัง จากคุณ : คุณหมาขายาว เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 10:59:09

ความคิดเห็นที่ 82 ขอบพระคุณทุกๆกำลังใจนะคะ วันนี้เอารูปน้องมาให้ชมกันค่ะ จากคุณ : หนูยิ้มสวย (หนูยิ้มสวย) เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 11:03:47

ความคิดเห็นที่ 83 อ่านไปแล้วจะร้องไห้ เข้าใจหัวอกคนจะคลอดลูกหน่ะ อยากให้มูลนิธิ บริจาค เพื่อนำเงินไปซื้อ ตู้อบ ให้รพ.รัฐเพิ่มจริงๆ มันเป็นปัญหาบ่อยมากเลยนะ เรื่องตู้อบเนี้ยะ ทำไม ถึงไม่ซื้อกันเพิ่มสักหน่อยนะ แล้วรพ.เอกชนก็เหมือนกัน เฮ้อออออ จากคุณ : chosen เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 11:06:28

ความคิดเห็นที่ 84 อีกรูปคร้าบ ฝากน้องกูเกิ้ล กับ น้องบับเบิ้ลด้วยนะครับ จากคุณ : หนูยิ้มสวย (หนูยิ้มสวย) เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 11:08:54

ความคิดเห็นที่ 85 น้องน่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  น่าฟัดชะมัด จากคุณ : bengyrot เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 11:14:34

ความคิดเห็นที่ 86 อีกรูปนะคะ จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 11:18:35

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบพระคุณค่ะ คุณแม่ bengyrot ปลื้มใจจังค่ะ จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 11:20:11

ความคิดเห็นที่ 88 คุณแม่เลี้ยงได้เก่งมากๆ น้องหน้าตาน่าชังเชียว จากคุณ : Mrs. Maroc เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 11:21:58

ความคิดเห็นที่ 89 ชัดๆนะคะ อิอิ จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 11:23:50

ความคิดเห็นที่ 90 คุณ Mrs.Maroc หนักเอาการเลยค่ะ น้ำหนักดิฉันลง22 กิโลภายในเดือนเดียวเลยค่ะ หน้าที่ประจำวันคือ นอน ดื่มน้ำขิง ปั๊มนม กินข้าว นอน ทำอยู่อย่างเนี้ยอ่ะค่ะ 555 น้ำหนักหายไปเลยค่ะ ก่อนท้อง59-61 โล ท้อง     87  โล หลังคลอด  82 โล ค่ะ ตอนนี้เหลือ4 โลจะเท่าเดิมแล้วค่ะ แต่รู้สึกว่าจะทรงตัวนานแล้วนะคะ 5555 เพราะตอนนี้น้องเกือบจะ8เดือนแล้วค่ะ จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 11:28:05

ความคิดเห็นที่ 91 น้องๆน่ารักน่าชังมากๆๆค่ะ ยินดีด้วยนะคะคุณแม่ ^__^ จากคุณ : annieake เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 12:34:56

ความคิดเห็นที่ 92 เราทำงานมา 4 ปี ช่วง 3 ปีแรกประกันสังคมเราอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เวลาไปใช้บริการเหมือนตัวเองเป็นขอทาน ในระหว่างนั้นแฟนเราถูกแมวกัดแผลใหญ่มาก ได้ไปที่โรงพยาบาลราชวิถีเพื่อทำแผลและฉีดยาเข็มแรก เข็มต่อๆมาไปฉีดที่โรงพยาบาลภูมิพล แม้การไปใช้บริการโรงพยาบาลรัฐจะต้องเสียเวลารอนานเป็นชั่วโมงๆ บางครั้งรอจนนั่งหลับ แต่เรากลับชอบ เพราะเจ้าหน้าที่พูดจาดี ไม่มีดูถูกคนไข้แม้แต่น้อย ไม่เหวี่ยงไม่อารมณ์เสียใส่ ตั้งแต่นั้นมาเราก็เปลี่ยนความคิดที่ว่าโรงพยาบาลเอกชนต้องดีกว่าโรงพยาบาลรัฐ และปีนี้เราก็ได้เปลี่ยนประกันสังคมไปที่ราชวิถีแล้ว ยิ่งมาอ่านกระทู้นี้ ยิ่งรู้สึกดีมากๆ ป.ล.น้องแฝดอ้วนจ้ำม่ำน่ารักมากๆค่ะ จากคุณ : นักแปลเท้าปุย เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 12:41:07

ความคิดเห็นที่ 93 อ่านแล้วลุ้น ท้องเกร็งไปหมดเลยเนี่ย น้องกูเกิ้ล กับ น้องบับเบิ้ล ตอนนี้จ้ำม่ำน่าฟัดมากเลย จากคุณ : แมวเหมียวตัวผอม เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 12:51:11

ความคิดเห็นที่ 94 อ่านไปลุ้นไป.. แหม๋ๆๆ อยากรู้ชื่อรพ.จัง. แต่..น้องจ้ำม่ำจังเลยค่ะ. น่ารักจริง ๆ จากคุณ : มนอิฐ-กระดุม เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 12:57:49

ความคิดเห็นที่ 95 น่ารักๆๆๆๆ จากคุณ : อาเดียร์ เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:02:58

ความคิดเห็นที่ 96 รพ.แรกก็ใกล้บ้านเราค่ะ ยังเคยคิดว่าถ้าลูกฉุกเฉินมาอาจจะให้เป็นทางเลือก แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแระ - -" น้องน่ารักจ้ำม้ำมากๆเลยค่ะ ^^ จากคุณ : nitimajeng เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:04:45

ความคิดเห็นที่ 97 น้องน่ารักมากๆๆๆทั้งสองคนเลยค่ะ จ้ำม่ำ น่าฟัด จากคุณ : จุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:06:52

ความคิดเห็นที่ 98 เข้ามาลุ้นค่ะตั้งแต่เมื่อวาน  ดีใจที่ผ่านไปไ้ด้ด้วยดีค่ะ น้องน่าฟัดมาก ๆ เลยค่ะ จากคุณ : filmblack เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:07:21

ความคิดเห็นที่ 99 โอ้ว เข้ามาลุ้นค่ะ และก็ดีใจด้วยจ้า ที่น้องทั้งคู่ปลอดภัย น่ะ แหม เห็นรูปเจ้าตัวน้อยแล้วนึกถึง ขาหมู เลยอะ อิอิ จ่ำหม่ำจริงๆ จากคุณ : แม่น้องบูม เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:12:51

ความคิดเห็นที่ 100 อ่านแล้วลุ้นมาตลอดเลยค่ะ โชคดีจริง ๆ ที่น้องคลอดออกมาอย่างปลอดภัย เราเองก็เคยมีประสบการณ์ลูกเฉียดตายตอนแรกคลอด เข้าใจค่ะ ว่าคนเป็นแม่รู้สึกอย่างไร เห็นคุณแม่เล่าว่า แอบลุ้นให้ลูกเกิดวันพฤหัสเพราะเป็นวันดี เลยแอบเปิดปฏิทินร้อยปีดู พบว่า ปีนั้น วันพฤหัสเป็นอธิบดี แถมเลขข้างกระดานยังเป็น  โสฬส  อีกต่างหาก สุดยอดไปเลยค่ะ  ^^ จากคุณ : แม่โอ๋เรนเจอร์ (NooPeeYa) เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:18:25

ความคิดเห็นที่ 101 อ่านไปลุ้นไป ตอนเราคลอดลูกชาย ก็เปลี่ยนโรงพยาบาลที่จะคลอดก่อนคลอด 3 วันเองค่ะ  ทั้งที่ฝากท้องไว้ตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว(ฝากเอกชน)  แต่เรามีภาวะรกเกาะต่ำ ต้องผ่าคลอด ตอนแรกก็ว่าจะผ่าฤกษ์สะดวก แต่ทางผุ้ใหญ่ไม่ยอม ไปหาฤกษ์หายามมาให้ ซึ่งต้องเป็นช่วงเวลา ตี5-ก่อน 7 โมงเช้าเท่านั้น เราก็แจ้งหมอสูติฯไว้ตั้งแต่ก่อนกำหนดคลอดล่วงหน้า 2 เดือนแล้ว พอถึงเวลาจริงๆ คุณหมอนัดตรวจ เราก็ย้ำเรื่องนี้อีกที ปรากฎว่า คุณหมอสูติฯบอก หมอน่ะมาได้ แต่หมอเด็กไม่มี หมอเด็กจะเข้าเวรประมาณ 9 โมงเช้า  ฟังแล้วเหวอเลย ถ้าลูกดิชั้นเป็นไรไปใครจะรับผิดชอบเนี่ย *-*  แฟนเลยบอกหาโรงพยาบาลใหม่ดีกว่า ไปโรงพยาบาลเอกชนอีกที่(จะไปรพ.รัฐ ก็ไม่ไหว ไกลบ้านมาก ๆ ที่บ้านไม่สะดวกกันเลย)  ไกลบ้านไปนิด แต่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด เพราะลูกเราหลังคลอดมีภาวะติดเชื้อและหายใจเร็ว ต้องอยู่ห้อง N.I.C.U นี่ถ้าคลอดโรงพยาบาลเดิม รอคุณหมอเด็กมาทำงาน 9 โมงเช้า ลูกเราจะเป็นอย่างไรไม่รู้   ปล.น้องแฝดน่ารักมากๆ เลยค่ะ  คุณแม่ก็สวยมาก ๆ (คห.86) จากคุณ : คัสตาร์ดราดนมข้น เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:21:56

ความคิดเห็นที่ 102 คือจะอธิบายนิดนึงคะ เรื่องทำไมคนไข้ต้องไปเอง สมมติว่าคนไข้เข้ามาที่รพ. A แล้วหมอรพ. A จะส่งต่อรพ.ที่ใหญ่กว่า เช่น รพ.B เมื่อหมอ รพ.B ปฏิเสธแล้ว ทางรพ. A ไม่มีสิทธิเอาคนไข้ไปส่งที่นั่นค่ะ สิ่งที่เกิดคือคนไข้ต้องนอนรอที่รพ.A นั่นแหละ จนกว่า A จะหาที่ลงได้ แล้วคิดดูว่าถ้าบังเอิญคลอดออกมาที่นั่น เด็กจะเป็นยังไง เลยเป็นที่มาของทริกแบบนี้อ่ะค่ะ คือสมมติคนไข้เดินเข้าไปที่รพ.B ด้วยตนเอง ต่อให้รพ.B ไม่มีตู้อบว่าง เค้าก็จะรับไว้ค่ะ แล้วภาระหาตู้ก็จะเป็นของรพ.B ต่อไป ในที่สุดก็อาจได้คลอดที่ B นั่นแหละ เพราะผ่านไป 1-2 วัน ตู้ที่เคยเต็มมันเกิดว่างขึ้นมาก็เป็นได้ แล้วเราก็จะเป็นคิวแรก เพราะเรานอนอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว เราเอง เวลาเจอเคสแบบนี้ แล้วหาตู้ให้ไม่ได้ ก็ให้คนไข้ไปเองค่ะ ไม่งั้นก็ค้างอยู่อย่างงั้นแหละ แต่ก็คือต้องไม่ใช่เคสที่ใกล้คลอด ปากมดลูกเปิดเกิน 4 ซม.ก็ไปไม่ไหวนะคะ อย่างของจขกท.น่าจะยังไม่เปิด เพราะยังไปนอนราชวิถีได้อีกหลายวันเลยใช่ไหมคะ เคสคลอดก่อนกำหนดที่เด็กเล็กมากๆ หาที่ลงยากมากค่ะ ครั้งนึงเราเคยอยู่ในโรงเรียนแพทย์ (เชียงใหม่) มีรพ.ต่างจังหวัดโทรมาขอส่งเคสคลอด แต่ตู้อบเต็ม เราก็จำต้องปฏิเสธ ทั้งๆที่ที่นั่นก็พร้อมที่สุดในภาคเหนือ ถ้าที่นี่เต็มที่อื่นก็ยากแล้ว ยังแอบคิดในใจ แล้วคนไข้จะไปไหนฟระ ต้องไปถึงกรุงเทพรึเปล่า แล้วถ้าที่กรุงเทพเต็ม ต้องไปถึงอเมริการึเปล่า จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:24:09

ความคิดเห็นที่ 103 เพิ่งเคยได้ยินว่าห้องคลอดมีวันหยุดด้วย จริงๆแล้วมันมีหรือเปล่าคะ หรือว่าเป็นข้ออ้าง จากคุณ : Jibako เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:25:22

ความคิดเห็นที่ 104 555 เข้ามาลุ้นแล้วหัวใจจะวายตายค่ะ น้องน่ารักมากๆๆเลย จากคุณ : pikju เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:27:48

ความคิดเห็นที่ 105 เด็กๆน่ารักมากเลยค่ะ จากคุณ : k.lover เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:28:24

ความคิดเห็นที่ 106 น้องแฝดน่ารักมาก ๆ คะ จากคุณ : rainbowpiggy เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:28:39

ความคิดเห็นที่ 107 เราก็คลอดโรงพยาบาลรัฐเหมือนกัน ตอนแรกคลอดลูกก็ไม่แข็งแรงเข้าตู้อบ ก็เข้าใจว่าเครื่องไม้เครื่องมือก็น้อย ตอนที่ลูกอยู่ตู้ต้องภาวนาว่าอย่าให้มีเคสฉุกเฉินหรือเด็กที่อาการหนักกว่าลูกเราเลยนะเพราะเค้าต้องเอาพวกเครื่องมืออุปกรณ์ของลูกเราไปแน่ๆ(ลูกเราจะอาการแย่น้อยที่สุดในตอนนั้น) บางวันตื่นมาดูลูกที่ห้องเด็กฉุกเฉินเห็นเครื่องมือวัดชีพจรหายไปนึกดีใจว่าลูกเราดีขึ้นแล้วแต่เปล่าหรอกเครื่องมือไม่พอเอาไปให้เด็กก่อน จิตตกเลยทีนี้ โรงพยาบาลที่เราคลอดโดยรวมก็ไม่ได้ดีอะไรมากมายพยาบาลบางคนก็สุดจะทนเหมือนกัน เคยตื่นมานอนไม่หลับกลางดึกมาดูลูกในตู้ก็เจอพยาบาลหลับทั้งห้องเครื่องร้องเสียเตือนดังมากก็ไม่ยอมตื่นกัน(เพราะชอบคิดว่าเครื่องไม่ดีร้องเป็นปกติ) แต่มันดังนานมากจนผิดปกติต้องไปปลุกเรียกเด็กเกือบแย่แล้ว -*- อยู่เกือบเดือนทั้งแม่ทั้งลูกเสียแต่ค่าคลอดกับค่าห้องพิเศษหมื่นต้นๆ  ค่ายาค่าตู้ค่าอุปกรณ์ของลูกไม่เสียเพราะสิทธิ์บัตรทอง จะเล่าว่าตอนนั้นมีพวกต่างด้าวมาอยู่เหมือนกันลูกแฝดด้วยคลอดกก่อนกำหนดตัวเล็กอยู่หลายเดือน พ่อแม่ต่างด้าวทั้งคู่เจอค่ารักษาไป 2 แสน จะหาเงินที่ไหนมาจ่ายก็ไม่รู้ จากคุณ : อุดมไปด้วยความสุข เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:29:26

ความคิดเห็นที่ 108 อ่านไปก็ลุ้นตอนจบไป น้องแฝดน่ารักมากๆ เลยค่ะ คุณแม่เลี้ยงดีจังเลย จ้ำม่ำน่าดู จากคุณ : เลนส์สีฟ้า เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:31:41

ความคิดเห็นที่ 109 คุณแม่ยังสาวแล้วก็สวยด้วยค่ะ ^^ จากคุณ : เลนส์สีฟ้า เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:35:36

ความคิดเห็นที่ 110 น้องน่ารักมากค่ะ... ไม่น่าเชื่อว่าคุณแม่จะเข้มแข็งได้ขนาดนี้ ขนาดเราคลอด(คลอดไม่ยากค่ะ แป๊บเดียว 30นาที คลอดธรรมชาติ) แม้จะเป็นคนคลอดง่าย...แต่ก็เจ็บนะคะ... แล้วคุณแม่จขกท.ทนได้ยังไงเนี่ย นับถือๆๆ ปล. ร.พ.เอกชน นั่น แย่มากค่ะ ไม่มีความรับผิดชอบในตัวคนไข้เลยนะคะ... แพงอย่างเดียวจริงๆ จากคุณ : us.amii เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:38:54

ความคิดเห็นที่ 111 อ่านไปลุ้นไป น้องแฝดน่ารักมากเลยค่ะ จากคุณ : แม่ อุลตร้ากะอะตอม เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:45:04

ความคิดเห็นที่ 112 อ่านแล้วลุ้นมากเลยค่ะ ขอให้น้องกูเกิ้ล และ น้องบับเบิ้ล เลี้ยงง่ายๆ สุขภาพแข็งแรงนะคะ :) น้องจ้ำม่ำมากเลยค่ะ จากคุณ : เต่าปัง กับ ปาท่องโก๋ เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:47:43

ความคิดเห็นที่ 113 ขอบคุณค่ะคุณแม่คัดส์ตาดราดนมข้น คุณฟ้าหมาดฝน -- ดิฉันปากมดลูกเปิดแค่1ซม. ค่ะ แต่ที่มันน่าใจหายก็ตรงที่ให้ไปเอง และผิดเองที่ดิฉันตั้งความหวังไว้กับโรงพยาบาลเอกชนนี้มากเกินไปค่ะ เลยรับไม่ได้กับสิ่งที่คุณหมอเค้าปล่อยให้พยาบาลแก้ปัญหาเอง ดิฉันไม่รู้วิธีหรือระบบเค้ามากหรอกนะคะ และอีกอย่างตอนที่ไปฝากท้องกับหมอคนนี้ก็เนื่องด้วยมีคนแนะนำมาว่าหมอเค้าดี อย่างนั้นอย่างนี้เลยเสียความรู้สึกมากหน่อยอ่ะค่ะ อ้อ แล้วหลังจากที่ดิฉันไปนอนรักษาตัวที่ราชวิถีแล้วนั้น สามีบอกว่าได้พยายามติดต่อกลับมาที่โรงพยาบาลเดิม แล้วเข้าไปพบหมอเค้าก็ยืนยันว่าไม่มีตู้อบให้เหมือนเดิม สรุปทำอะไรไม่ได้เลยกับโรงพยาบาลนี้อ่ะค่ะ จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 13:53:06

ความคิดเห็นที่ 114 คริๆๆ ลุ้นกันเสียวทั้งตัวเลย เรื่องคนเป็นแม่นี้สุดจะบรรยายเลยจริง ๆ จากคุณ : benjabas เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 14:06:37

ความคิดเห็นที่ 115 อ่านด้วยความลุ้นจนจบก็โล่งใจพร้อมกับขอปรบมือดังๆๆๆใหกับ จรรยาแพทย์ที่น่ายกย่อง ไม่งั้นเราจะได้เห็นจ้ำหม้ำทั้งสองคนแบบนี้ไหมเนี่ย..น่ารักมาก..เป็นวาสนาของคุณจริงๆๆเลยค่ะ...ดีใจด้วยนะคะ จากคุณ : แม่ลูกหนุน เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 14:09:56

ความคิดเห็นที่ 116 ขอบพระคุณมากๆเลยนะคะ คุณ--แม่ลูกหนุน, คุณ--benjabas, คุณ--เต่าปังกับปาท่องโก๋, คุณ--แม่อุลตร้ากะอะตอม, คุณ--เลนส์สีฟ้า คุณ--ฟ้าหมาดฝน -- ที่เข้ามาตอบและให้ความรู้เพิ่มเติมค่ะ คุณ--us.amii คุณ--k.lover คุณ--rainbowpiggy คุณ--pikju และคุณแม่ทุกๆท่านที่เม้นท์เข้ามา เป็นแรงและกำลังใจสำหรับดิฉันมากๆเลยค่ะ จากคุณ : หนูยิ้มสวย เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 14:22:26

ความคิดเห็นที่ 117 น้องน่าฟัดมากๆ เลยค่ะ อ่านไป ตามลุ้นไปด้วย ปาฎิหารย์มีจริง จริงๆ ค่ะ จากคุณ : noomind เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 14:31:14

ความคิดเห็นที่ 118 ทู้นี้ขโมยกีบเราไปเยอะเลยอ่า ยินดีต้อนรับน้องแฝดนะคะ  น่ารักทั้งสองคนเลย จากคุณ : t_twins เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 14:53:58

ความคิดเห็นที่ 119 อ่านไปลุ้นไป  อ่านแล้วนึกถึงตัวเอง ของเราราบรื่นดีค่ะ ดีจนแอบคิดว่า เลยไม่ค่อยซื้งกับความเป็นแม่เลย แหะ ๆ สมัยเด็ก ๆ เคยคิดอยากมีลูกแฝด พอท้องจริง ๆ  แค่ 1 ก็ไม่ขอเพิ่มแล้วค่ะ ปอลอ   น้องน่ารักมาก ๆ ๆ เลยนะคะ จากคุณ : lovelyeve เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 14:55:52

ความคิดเห็นที่ 120 อ่านไปลุ้นตามไป ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ และขอชื่นชมทีมแพทย์และพยาบาล รพ.ราชวิถ่ค่ะ จากคุณ : คนสวยเมืองนนท์ เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 15:09:30

ความคิดเห็นที่ 121 เราฝากเอกชน คลอดรัฐบาลทั้ง 2ท้องเลยคะ แต่ฝากรัฐบาล ฝากพิเศษคะ แต่เราแจ้งคุณหมอ ที่ รพ เอกชนตั้งแต่ 5เดือนคะว่าจะคลอดที่ รัฐบาล คนแรกเราย้ายมาฝากที่รัฐบาลตอน 34w คนที่ 2 ฝากกับคุณหมอรัฐต่อจากเอกชน(คุณหมอรัฐ ออกตรวจที่ เอกชนด้วย)ตอน 34wคะ ปล คนแรกเราคลอดก่อนกำหนด ลูกอยู่ตู้อบ 20วัน ค่าใช้จ่าย 300000บาท ใช้บัตรทอง เสียแค่ 30บาท(ของลูก)  ของแม่เสียค่าคลอด+ค่าห้องพิเศษ5วัน 6000กว่าบาทคะ คนที่สองคลอดปกติดี แค่คลอด+ค่าห้อง 5000กว่าคะ  ค่าห้องธรรมดา 1วัน 300บาท ค่าห้องพิเศษวันละ 800 คนแรก รพ เชียงรายประชานุเคราะห์ พยาบาลห้อง ICUเด็กใจดีมากคะ ดูแลตลอด ขอบคุณมากจริงๆที่ทำให้ลูกเรารอดมาได้คะ รพ สวนดอก พยาบาลห้องคลอดดููแลดีมากคะ คุณหมอก็น่ารักสุดๆ ประทับใจคะ ห้องคลอดสวนดอกทันสมัยมากคะ สะอาดด้วย บริการดีเหมือนเอกชนเลยอ่ะ แก้ไขเมื่อ 28 มี.ค. 54 15:13:23 จากคุณ : nirunaoko เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 54 15:12:46