ความคิดเห็นที่ 1 โพสต์วีดีโอไม่ได้ทุกทีเลย จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 18:51:51

ความคิดเห็นที่ 2 ลองอีกครั้งนะคะ จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 18:54:16

ความคิดเห็นที่ 3 หลายครั้งที่อ่านเจอว่า ควรจะให้น้องเรียนอินเตอร์ดีไหม หรือคุณพ่อเป็นฝรั่งคุณแม่ไทย ควรพูดภาษาอะไรกับลูกดี หรือถ้าพ่อแม่ไทยทั้งคู่ ใช้ภาษาอังกฤษกะลูกจะดีไหม อ่านจนจบ  คุณอาจจะพบคำตอบก็ได้นะคะ  เอาใจช่วยค่ะ หลายคนจะตอบประมาณว่า ไม่ให้พูดบ้าง เดี๋ยวสำเนียงจะเพี้ยนบ้าง ฯลฯ (แบบนี้ ถ้าไม่มีสามีหรือภรรยาฝรั่ง ก็ไม่ต้องสอนภาษาอังกฤษลูกกันพอดี ^ ^) ก่อนอื่นเราอยากให้เปลี่ยนทัศนคติเป็นเชิงบวกก่อนนะคะ  เช่น เราเห็นและได้ยินฝรั่งพูดภาษาไทยได้หนึ่งคน ค่อนข้างดีที่เดียวแหละ แต่ก็มีเพี้ยนเยอะ เพราะแน่นอนบางโทน ฝรั่งออกเสียงไม่ได้ดีพอ สมมติ คำว่า โผม ร๊าก คูณ เรายังชมกันว่า ฝรั่งคนนี้พูดภาษาไทยได้ดีใช่ไหมคะ ความเห็นส่วนตัวของเราและสามีแคนาดา เห็นพ้องต้องกันว่า สำเนียงใดๆก็ไม่ได้สำคัญไปกว่าความสามารถในการใช้ภาษานั้นๆ เช่น ฟังออก พูดได้(ออกเสียงถูกต้อง สำเนียงเพี้ยนไปบ้างแต่หากยังคงไว้ซึ่งคำเดิม) อ่านออก เขียนได้ ทักษะทั้งสี่นั้น ควรจะทำได้ดี ไม่ใช่แค่งูๆปลาๆ เนื่องจากเราอยู่ต่างประเทศและเคยทำงานที่อินเดีย รวมทั้งเพื่อนร่วมงานนานาชาติอีกมากมาย  เราค้นพบว่า มีหลายคน ทำหน้าที่ได้ดี ทั้งในตำแหน่งที่ต้องพูดเยอะ เช่นครูสอน ต้องสอนเป็นภาษาอังกฤษ มีหลายเชื้อชาติมากค่ะ ทั้งจีน คนไทย คนอินเดีย เลบานอน ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ฯลฯ ทุกคนสอนจบไปแล้วหลายรุ่น และไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกัน ครูแทบทุกคน พูดภาษาอังกฤษในสำเนียงที่เราฟังรู้ว่าเป็นคนชาติไหน แต่เรากลับชื่นชม คนเหล่านั้นมากกว่าตำหนืเรื่องสำเนียงนะคะ ทีนี้ อยากให้คุณพ่อคุณแม่ ทำเรื่องภาษาที่สองให้เป็นธรรมชาติก่อนนะคะ ถ้าหากต้องการสอนเค้าตั้งแต่ยังเล็กๆแบบนี้ เพราะการเรียนรู้ภาษาของเด็กและผู้ใหญ่ใช้กระบวนการต่างกันนะคะ เช่นจขกท ต้องการสอนภาษาจีนน้องอลิสสา หากจขกทใช้วิธีที่ตัวเองเคยเรียนสมัยมหาวิทยาลัยคงไม่ได้  (ตอนนั้น เรียนโดยการเริ่มหัดเขียนและจำไปทีละตัว เลยนะคะ เริ่มจากบทสนทนาง่ายๆ เช่นหนี ห่าว หนี ห่าวมา ไปจนยากขึ้นเรื่อยๆนะคะ) จขกทจึงเริ่มจากอะไรที่จำง่ายก่อนนะคะ เช่น สอนเพลง นับเลข นิทาน ฯลฯ ทีนี้ก็จะมีคำถามว่า ถ้าคุณพ่อ คุณแม่ พูดภาษาจีนไม่ได้จะสอนอย่างไร ตรงนี้อาจจะยากหน่อยนะคะ คือการเปิดดิกชันนารีหาความหมายของภาษาจีนอาจจะไม่ง่ายเหมือนภาษาอังกฤษ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถ ปัจจุบันทั้งสื่อการเรียนการสอน เทป ซีดี ยูทูป มีสอนมากมาย ทำไมเราไม่เรียนรู้ไปพร้อมๆกับลูกล่ะค่ะ เรียนทีละเรื่องๆ จริงอยู่ว่าไม่ง่ายเลย แต่เชื่อเราเถอะค่ะ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นนะคะ เราเองก็ไม่ได้มีสามีพูดจีนภาษาจีน  ที่บ้านเราพ่อพูดแต้จิ๋ว  แต่ท่านก็ไม่อยู่แล้ว  อาศัยว่าตอนอยู่มหาลัยเรียนมาสามตัว และทำงานกับไต้หวันมาเจ็ดปี เราพูดได้พอประมาณ  แต่อ่านและเขียนได้น้อยมากๆนะคะ พอเรียนมานาน ไม่ได้เขียนก็ลืม แต่พูดนี่ไม่ลืมแน่ๆค่ะ ตอนนี้ก็อาศัยสื่อต่างๆเนี่ยล่ะค่่ะ เรียนให้จงมาก  คุณพ่อคุณแม่บางท่าน. พูดภาษาที่สองที่สามได้ แต่ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง. บางคนอาจคิดว่าอาจารย์ที่สอนภาษานั้นๆน่าจะสอนได้ดีกว่า.    ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว คุณพ่อคุณแม่นั่นล่ะค่ะ เป็นครูสอนได้ดีที่สุด สำหรับเด็กเล็ก  ไม่จำกัดเวลาและไม่เสียงบประมาณ จ้างครูจีน อ่างมากก็สัปดาห์ละสาม สี่วัน อยากให้เปลี่ยนทัศนะคติตรงนี้ก่อนนะคะ คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะคิดว่า เดี๋ยวไปโรงเรียนคุณครูก็สอนเอง ถ้ามีความคิดเช่นนั้น ปิดกระทู้นี้ไปได้เลยค่ะ เพราะคงต้องเหนื่อยมากๆแน่ๆ ขอคั่นด้วย เพลงจีนของอลิสสาอีกหนึ่งนะคะ สงสัยกระทู้จะยาว ยังไม่ได้เข้าส่วนของภาษาอังกฤษเลย แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 54 07:57:37 จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 18:59:24

ความคิดเห็นที่ 4 เดี๋ยวเราจะมาพูดถึงวิธีการสอนภาษาที่สองและสามกันนะคะ พร้อมสื่อการเรียนการสอนที่จขกทนำมาฝากอีกเช่นเคย จขกท จะพิมพ์ไปเรื่อยๆนะคะ   อาจมีเว้นช่วงบ้าง แต่ต้องเสร็จวันนี้แน่นอนค่ะ พอดีอลิสสายังไม่นอนนะคะ ตอนนี้จะเป็นเรื่องของแนวคิดกันก่อน อย่างอลิสสาเนี่ย  คำแรกที่สอนเลย  คือคำว่า  ตู้จึ  หรือ ท้องนั้นเอง   ตอนนั้นน้องเค้าจำคำว่าตู้จึแปลว่าท้อง ได้ก่อนภาษาอังกฤษเสียอีก  ราวขวบเศษๆ  ซึ่งเค้าก็ไม่รู้หรอกค่ะ  ว่าเป็นภาษาจีน (แต่ตอนนี้เค้ารู้แล้ว ว่าอันไหนภาษาจีน  ไทย  อังกฤษ หรืออารบิค (แต่อันสุกท้ายนี่ไม่ได้สอนนะคะ  ไม่สามารถ) อย่างที่บอกว่าภาษาเป็นเรื่องของศิลปะ  ทำให้เป็นธรรมชาติ  มันจะง่ายขึ้นค่ะ ปัจจุบันอลิสสาดูดีวีดี หรือยูทูป ภาษาจีนบ่อยๆ ไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ  บางทีภาพน่ารักๆ ตรงนี้เราสร้างความคุ้นเคยก่อนนะคะ อย่างเวลาเราสอนเพลง  พอเค้าร้องได้แล้ว  เราก็บอกเลยค่ะ  ว่า  เอ่อตัว แปลว่า หู  เว่ยปา หาง แปลทุกๆวันๆ หลังเพลงจบ  เค้าก็จะค่อยๆจำได้เองค่ะ อย่างเวลาอาบน้ำ ปกติจะสอนอวัยวะของร่างกายใช่ไหมคะ  เคยสอนเป็นภาษาอังกฤษค่ะ   ตอนนี้พูดเป็นภาษาจีนเลยค่ะ  เค้าก็จะเถียงว่า  ไม่ใช่  เราก็พูดไปว่า เป็นภาษาจีน  ทำบ่อยๆ เดี๋ยวก็จำได้ค่ะ ภาษาจีนเป็นภาษาภาพ  จำกันเป็นตัวๆ แต่ละตัวแต่ละความหมาย (อาจจะมีการรวมตัวกันบ้าง เพื่อเป็นอีกความหมายหนึ่ง   แต่ ไม่ใช่การผสมๆทีละตัวแบบภาษาอังกฤษนะคะ ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดคือ  จำค่ะ   เราต้องเอาออกมาให้เค้าเห็นให้มาก  กระตุ้นต่อมความอยากรู้อยากเห็นของเค้าซะ ชาร์ทของ  เบอร์ลิสต์ จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 19:28:24

ความคิดเห็นที่ 5 มาติดตามคุณหน่อยค่ะ ชอบคุณหน่อยมากๆ  แหะๆ ^ ^ อลิสสาโตขึ้นเยอะเลยค่ะ เก่งขึ้นเรื่อยๆเลย จากคุณ : >> tatar_papin << เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 19:55:36

ความคิดเห็นที่ 6 สื่อการเรียนการสอน เอามาจากไหน ? เราไม่รู้ภาษาจีน  เริ่มอย่างไร? อันนี้ลองใช้ความสามารถทางคอมพิวเตอร์ดูนะคะ  ถ้าทุกท่านสามารถเล่นพันทิปได้  อย่างน้อยๆก็ต้องรู้จักกูเกิ้ฯ ใช่ไหมคะ  ลองหาเลยค่ะ  เช่นใช้คำว่า  chinese for kid, learn chinese, free chinese lessons ฯลฯ  รับรองค่ะ  ว่าต้องได้อะไรดีๆแน่นอน ลงทุน  ซื้อเลยค่ะ   ไม่ว่าจะหนังสือหัดเรียนภาษาจีน (แต่หนังสือแบบเขียนคำอ่านเป็นภาษาไทยนี่ไม่เอานะคะ  เพราะเราเห็นเยอะมาก  ไม่มีคุณภาพเลย  เขียนผิดๆ)   อย่างให้ลองของสถาบันดีๆมากกว่าค่ะ จริงๆมีมากกว่าในรูปนะคะ  นี่ส่วนหนึ่งที่ใช้บ่อย เวลาเราไปเมืองจีนที  ก็จะแวะดูหนังสือให้ลูกเป็นหลักค่ะ  รวมทั้งดีวีดีสอนภาษาจีนด้วย  สอนจีนเป็นจีนก็ไม่เป็นไรค่ะ  เพราะเป็นดีวีดีที่เค้าทำสอนเด็กคนจีนนั่นเอง จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 19:55:49

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ>> tatar_papin <<สวัสดีเป็นคนแรกเลย  ขอบคุณที่ชอบนะคะ วันนี้เงียบเหงาจังนะคะ  สงสัยเป็นเพราะวันศุกร์นะคะ  รถติด  เร่งรีบ บางส่วนเราซื้อมาจากสิงค์โปร์ สอนเป็นภาษาอังกฤษ  เข้าใจง่ายค่ะ และมีเยอะที่มาจากยูทูป  น่ารักมากค่ะ อันนี้อลิสสาก็ร้องได้แล้ว  แต่เราไม่ได้ถ่ายวีดีโอค่ะ   บางครั้งการถ่ายวีดีโอลูก  ไม่ว่าจะลงเว็ปโฮมสคูลแบบนี้  หรือเก็บไว้ดูเล่น  ก็มีข้อจำกัดนะคะ บางทีถ่ายมากๆคุณลูกก็รำคาญ  บางครั้งเราต้องเคารพความเป็นส่วนตัวของเค้าด้วยค่ะ จะสนองความอยากของเราอย่างเดียวก็กระไร จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 20:05:10

ความคิดเห็นที่ 8 ฝากเป็นไอเดียนะคะ  น่ารักดี อย่างที่บอกว่าการเริ่มภาษาที่สองที่สาม  ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยื่งถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้พูดภาษานั้นๆ  แต่ก็ไม่มีอะไรจะเสียถ้าได้ลองใช่ไหมคะ  เรากลับว่าน่าท้าทายอีกตะหาก เราเคยคิดว่าจะให้ลูกเรียนโรงเรียนที่สอนสามภาษา   แต่ก็ติดที่ว่า  โรงเรียนจีนที่นี่ คุณภาพไม่ค่อยดี (มีเหตุผลในปลีกย่อย) และไม่มีตัวเลือกเลย หลายคนอาจจะพบว่าไกลบ้านบ้าง  มีราคาแพงบ้าง หรือบางคนก็ยังอยากให้ลูกเรียนโรงเรียนที่มีความเข้มข้นทางวิชาการมากกว่า ดังนั้น  การทำโฮมสคูลภาษาที่สองที่สาม  ควบคู่กันไป  เป็นการตอบโจทย์ที่ดีที่สุด จริงๆ ไม่ว่าจะส่งเด็กไปเรียนต่อสิงค์โปร์ หรือไปต่ออเมริกาตอนโต  ก็ทำได้ แต่จะไม่ดีกว่าหรือ  ที่เราเริ่มสอนตอนเค้ายังเล็ก  และยังไม่มีส่วนของความรู้ทางวิชาการให้ต้องจำมากนัก  ยื่งเริ่มไว  ยื่งเรียนรู้ได้ไว  ต่อยอดได้ง่าย   เรากล้ารับประกันว่า  พอน้องสิบขวบ  น้องจะอ่านและเขียนได้ดี ในภาษาที่พ่อแม่สอนให้ตอนนี้  นอกเหนือจากภาษาที่ใช้ที่บ้าน พอเค้าโตขึ้น   ให้เค้าไปเรียนสิ่งที่เค้าอยากเรียนดีกว่า  และภาษาก็จะติดตัวเค้าไปด้วย  ง่ายกว่าไหม แถมประหยัดเงินเรียนค่าภาษาตอนเด็กๆ ตั้งหลายปี   แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น   ตัวแปรเรื่องเวลา ค่อนข้างสำคัญทีเดียว จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 20:21:04

ความคิดเห็นที่ 9 สมองเด็กช่วง 0-3เป็นอะไรที่สำคัญมาก   ช่วงนี้  อยากสอน  สอนเลยค่ะ  ไม่ต้องรอ   ไม่ต้องกลัวใครว่าว่ากดดันนะคะ   เราไม่ได้บังคับ  ค่อยๆใช้วิธีซึมซับ จุดประสงค์คือ  ต้องการให้สมองได้รับการฝึกฝน  พัฒนา อย่างเต็มที่  ต่อเนื่อง จากหนังสือ  กว่าจะถึงอนุบาลก็สายเสียแล้ว  ยังให้เหตุผลว่า เด็กที่สมองช่วงนี้ได้รับการฝึกฝนมากๆ จะเป็นเด็กที่เรียนรู้ไวเมื่อโตขึ้น   ซึ่งเราก็เห็นด้วยนะคะ   เพราะเรามีประสบการณ์โดยตรง  (แต่ขอข้ามเรื่องส่วนตัวไปนะคะ) เข้าเรื่องภาษาอังกฤษบ้าง   คิดว่าคุณพ่อคุณแม่น่าจะสนใจมากกว่าภาษาจีน  เพราะส่วนมากมักจะอ่านออกเขียนได้ในระดับหนึ่ง น่าจะสอนคุณลูกได้ง่ายกว่า ที่บ้านเรา  ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก  ภาษาไทยเป็นภาษาที่สอง  และภาษาจีนเป็นภาษาที่สาม ตั้งแต่อลิสสา 0-2ขวบ  เราแทบไม่ได้คุยหรือสอนอลิสสาเป็นภาษาไทยเลย  เนื่องจากว่า เราต้องพยายามให้เค้าพูดให้ได้ก่อน  เราอยากให้เค้าสื่อสารกับพ่อเค้าได้  เวลาสามีกลับมาจากทำงาน ลูกพูดด้วยก็จะได้ดีใจ  (สามีเราฟังภาษาไทยไม่ออกเลย) หลายคนอาจจะว่าว่า  เราควรพูดภาษาไทย และให้สามีพูดอังกฤษกับลูก   ซึ่งในกรณีของเรา  สามีเราทำงานต้องเดินทางต่างประเทศบ่อย  เค้าไม่ค่อยได้สอนลูก หรืออยู่กับลุกเท่าเรานะคะ   ถ้าเราทำเช่นนั้น  ลูกเราจะเริ่มพูดภาษาไทยก่อนแน่นอน   เรากลัวว่าสามีที่ฟังไม่รู้เรื่องจะเสียใจ  เพราะลูกเป็นของเราทั้งสอง  ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง   อีกทั้งเราก็ฟังภาษาอังกฤษได้ อลิสสา  จึงเริ่มพูดภาษาอังกฤษก่อนค่ะ พอสองขวบ  เราเริ่มสอนภาษาไทย  ทั้งพยัญชนะ  ทั้งเพลง   เค้าก็รับได้นะคะ ตอนนี้อลิสสาสามขวบพอดีค่ะ   พูดภาษาไทยได้เยอะ  อาจมีสับสนเช่นตอนเด็กๆเค้านึกคำว่า dish ไม่ออก  เค้าบอกพ่อเค้าว่า " put on theจาน "  ขำกันทั้งบ้านเลยค่ะ บางทีถามเค้าว่า  ทำอะไรอยู่คะลูก  เป็นภาษาไทย  ตอนเค้ากำลังหัดลากเส้น  เค้าตอบเราว่า   " I'm เขียนนิ่ง" คือเค้าอยากจะตอบเราเป็นภาษาไทย  แต่เค้าไม่รู้จักคำว่า กำลัง ค่ะ  เลยใส่ verb -ing หลังคำว่าเขียนซะเลย ทั้งที่เราเองก็ยังไม่เคยสอนเรื่องการใช้ verb-ing กับเค้าเลย  คือเด็กเกค้าจับจุดได้เองค่ะ  ว่าภาษาอังกฤษกำลังทำสิ่งนั้นๆอยู่ให้เติม ing ลงไป  อึ้งไปทั้งบ้านเลยค่ะ  (จริงขำมากกว่า) แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 54 20:50:44 จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 20:44:27

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนนี้เราพยายามพูดภาษาไทยให้มากขึ้นค่ะ  แต่บางทีก็ลืมพูด  เพราะต้องคุยกับพ่อแล้วหันมาคุยกับลูก หลายครั้งมากๆ ที่อลิสสาให้เราพูดภาษาไทย คือ ขอให้เราเล่าเรื่องหรือพูดสิ่งที่เค้าต้องการหรือชอบเป็นภาษาไทย  เราจะรีบพูดทันที   เวลาเปิดหนังเด็กๆให้ดู  ก็จะถามเค้าว่า อยากดูเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ  ให้เค้าเลือกเองค่ะ ตอนนี้  เค้ารู้ความแตกต่างของสองภาษาดีแล้ว เป้าหมายของเรา อลิสสาต้องอ่านออก  เขียนได้ ภาษาไทย เหมือนเด็กไทยคนอื่นๆ ไม่ใช่แค่พูดได้นะคะ การไม่ไได้อยู่ประเทศไทย  ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะไม่ได้ภาษาไทยสำหรับเรา จะว่าๆไป  จริงๆ เราก็เหนื่อยเหมือนกัน  แต่ก็ภูมิใจค่ะ   พอเค้าโตขึ้น  เราก็จะยิ่งเหนื่อยน้อยลงนะเราว่า คำถามที่ถามบ่อยมากๆ ว่าสอนน้องตอนไหน   ลูกเราชอบเข้าห้องเรียนค่ะ  บางทีตื่นนอนก็วิ่งเข้าไปก่อนเลย  ทานข้าวไปเรียนไปก็มี เราไม่จำกัดอ่ะคะ  เค้ามีใจจะเรียนรู้  กับเรื่องเล็กน้อย  เราจะขัดไปทำไมใช่ไหมคะ บางทีดึกมากแล้ว  ก่อนนอนอยากระบายสี  เราก็ให้ระบายนะคะ แต่ถ้าเป็นกรณีไม่ยอมนอนแต่จะเล่นนี่ ไม่ค่ะ  หรือจะดูดีวีดี(การเรียนรู้) ก็ไม่ค่ะ  นอนคือนอน เพราะดึกแล้ว บางเรื่องเค้าอยากจะทำเอง   อย่างเหลาดินสอ  ก็ให้เค้าทำค่ะ  (โดยเราดูแลอย่างใกล้ชิด)  บางที ปิดกั้นกันมากๆ ก็ไม่ไหวค่ะ ถึงแม้จะทำไม่สำเร็จก็ตามที แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 54 21:07:30 จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 21:04:35

ความคิดเห็นที่ 11 ขอข้ามเรื่องสามภาษาแป๊ปนะคะ  พอดีต่อเนื่องกะข้างบน จำตอนที่แล้วได้ไหมคะ  ที่สอนให้ลูกเขียน ตอนนั้น  เราใช้ปากกาที่เขียนแล้วลบได้  หรือไม่ก็ใช้เครยอน (สีเทียน) ตอนนี้เราขยับมาใช้ดินสอจริงๆค่ะ  แต่ให้คุณพ่อคุณแม่เลือกที่บีสูงๆหน่อยนะคะ  น้องจะได้เขียนง่ายๆ ส่วนระบายสี  เริ่มหันมาให้ใช้สีไม้ค่ะ  จะได้ฝึกทักษะการจับไปพร้อมๆกับฝึกการเขียน  เพราะให้ความรู้สึกคล้ายๆกันค่ะ  สอนให้เค้าฝนระบายมากกว่ายกข้อมือสูงแบบขีดๆนะคะ   (เพราะการเขียนจริงมือจะติดกะโต๊ะค่ะ  ไม่ใช่ลอยๆ อันนี้รูปที่อลิสสาระบายด้วยสีไม้  (จากรูปคหบนนะคะ) จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 21:31:23

ความคิดเห็นที่ 12 สังเกตุว่าอลิสสาก็ยังจับดินสอไม่ถูกต้องนะคะ   แต่พอเราไปแก้ให้  เค้าก็พาลจะไม่เขียนซะงั้นค่ะ  เราต้องค่อยเป็นค่อยไป อยากให้เค้ารู้จักการบังคับนิ้วและข้อมือด้วยค่ะ   เพราะอลิสสาชอบยกขึ้นสูงเวลาเขียนค่ะ จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 21:41:16

ความคิดเห็นที่ 13 วันนี้ช่างเงียบเหงาซะจริง เดี๋ยวมาต่อนะคะ. ขอจัดการคุณลูกสาวก่อน จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 22:34:06

ความคิดเห็นที่ 14 ตามอ่านมาตั้งแต่ตอนที่ 1 ชอบมากคะ :) แต่อ่านเงียบ ๆ ไม่ค่อยได้ออกความเห็นอ่ะไร และก็คิดว่ามีอีกหลายคน ที่ตามอ่านเงียบ ๆนะคะ :D ปล. น้องน่ารักมากเลยนะคะ อยากทำได้เหมือนคุณแม่จัง :D จากคุณ : jeab (pue_sung) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 23:21:04

ความคิดเห็นที่ 15 หน่อยจ๋า คิดถึงมากเลยจ๊ะ งวดที่แล้วว่าจะโทรหาก็วุ่น ๆ โรงเรียนน้องคิดหยุดหนึ่งอาทิตย์เพราะโรคมือเท้าปากจ๊ะ น้องคิดก็ติดมาด้วยแต่เป็นไม่มาก โชคดีที่น้องแคนไม่เป็นอะไร ตอนนี้ออยก็ฝ่อ ๆ ไปเล็กน้อยเรื่องสอนภาษาอังกฤษให้น้องคิด แต่ว่าเริ่ม ๆ มารอบใหม่แล้วหละ กะว่าจะค่อย ๆ บิวท์อารมณ์ไปเรื่อย ๆ บอกเค้าว่าน้องแคนพูดไทยไม่ได้ ให้เค้าหัดพูดอังกฤษ อิอิ ตอนนี้น้องคิดพูดภาษาไทยเร็วมากและไม่ค่อยชัด ย้อนนึกกลับไปนะ ตอนนั้นออยดื้อเองหละ ถ้าสอนให้น้องคิดพูดไทยให้ชัด ๆ ก่อนแล้วค่อยสอนอังกฤษก็ดี เดี๋ยวของน้องแคน ออยคงสอนไทยกับอังกฤษควบคู่กันไปเลย เพราะถ้าเอาแบบเก่าที่ออยสอนอังกฤษ ไม่มีคนสอนภาษาไทยแน่ ๆ (ปาป๊ากลับมาก็ไม่ค่อยพูดอะไร) แม่เราอยากช่วยสอนภาษาอังกฤษน้องคิด สอนผิดหมดเลยอ่ะ แต่เท่าที่สังเกต ตอนนี้น้องคิดชอบพูดตามออยนะ เลยได้สอนอังกฤษบ้าง ตอนนี้รู้สึกว่าแบตเตอรี่ส่วนตัวอ่อนมาก ๆ ไว้จะเข้ามาดูใหม่นะ ไปนอนก่อนหละ พรุ่งนี้ต้องพาน้องแคนไปหาหมอ ติดหวัดจากเฮียคิด ไอมาสามวันแล้ว คิดถึงจ๊ะ ปล. ดีใจจัง ได้มาให้กำลังใจเป็นคนแรก ๆ ออยเซฟกระทู้ของหน่อยเอาไว้อ่านทบทวนด้วย จะเอาไว้สอนน้องแคน ไม่แน่จะให้น้องแคนเรียนแบบโฮมสคูลดีกว่า อิอิ จากคุณ : คุณรักผมและผมรักคุณ เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 23:40:42

ความคิดเห็นที่ 16 สวัสดีค่ะ คุณ jeab (pue_sung) อยากจะบอกว่าหน่อยก็จำล็อกอินนี้ได้เหมือนกันนะคะ   ขอบคุณค่ะ จริงๆหน่อยชอบแบบทักทายกันมากกว่า  อย่างน้อยเรายังรู้ว่ามีคนอ่านอยู่  กิ๊ฟไม่ได้ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อนออย  หน่อยจะกลับเมืองไทยวันมะรืนอ่ะ  เลยรีบมาตั้งกระทู้ก่อนกลับ  เพราะอยู่เมืองไทยออกไปทานข้าวนอกบ้านและเที่ยวทุกวัน  คาดว่าไม่มีเวลาแน่นอน แต่เมื่อกี้สามี บอกว่าจะขอกลับพรุ่งนี้เช้าแทน  หน่อยเลยเครียดไปต่อไม่ถูกเลย  กระเป๋าก็ยังจัดไม่เสร็จ เลย  แถมดันมาตั้งกระทู้วันนี้อีก  พรุ่งนี้ก็คงหายไปจากหน้าจอละ   แต่ยังไง ถ้าถึงเมืองไทยหน่อยจะตอบทุกๆคห  แน่นอนค่ะ คิดถึงออยเหมือนกันจ้า  เห็นเฟสฯ เรื่องโฟนิค  ยังคิดว่าออยเก่งจังเลย กลับไปจะโทรหานะ ต่อๆนะคะ สองภาษา สามภาษาเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย  อย่างที่บอกไว้ตอนแรกนะคะ โดยเฉพาะครอบครัวไทยแท้ๆ แต่ไม่อยากให้ท้อนะคะ   เพราะบางทีเราชอบคิดแทนเด็ก  ว่ายากไปบ้าง  จำไม่ได้บ้าง  เพราะเราคิดว่าเด็กเรียนรู้แบบเรา ตัวอย่างนะคะ  อย่างเราฟังเพลงไทย  รอบสองรอบ  เราพอจะจำเนื้อร้องได้ เพราะเรารู้ความหมายใช่ไหมคะ  พอเราฟังเพลงฝรั่งที่เร็วๆ เราอาจฟังไม่ทัน  ต่อให้ฟังสักห้ารอบ ก็ยังร้องไม่ได้   เพราะสมองเราไม่ได้แปลภาษาอังกฤษเป็นอังกฤษ  แต่แปลอังกฤษเป็นไทยก่อนไงคะ  ทำให้เสียเวลามากและมีข้อจำกัดในการแปล (เพราะศัพท์หลายตัวที่ไม่รู้ความหมาย) แต่กรณีของอลิสสา  เท่าที่สังเกตุดู  เค้าจะจำได้ หลังจากการฟังแค่ไม่กี่ครั้ง (เพลงเด็กบ้าง จากการ์ตูนบ้าง) เราเองก็นั่งดูอยู่ด้วยทุกครั้ง  ยังจำไม่ได้เลยค่ะ เพราะสมองเด็กยังไม่ถูกตีกรอบแบบเรานั่นเอง นั่นจึงเป็นข้อดีของการเริ่มภาษาที่สองตั้งแต่ยังเด็กนะคะ แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 54 00:37:28 จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 00:32:55

ความคิดเห็นที่ 17 ที่นี่จะห้าทุ่มแล้วนะคะ  แต่ที่เมืองไทยคงดึกมาก   ยังไงซะคืนนี้หน่อยก็คงไม่ได้นอนไวอยู่แล้วนะคะ  เพราะต้องเก็บของกับเคลียร์บ้านให้เรียบร้อย ก็จะเขียนไปเรื่อยๆ นะคะ เอาไว้เพื่อนๆมาอ่านกันต่อตอนเช้าก็ได้นะคะ  ถ้าเพื่อนๆเห็นว่ากระทู้นี้มีประโยชน์  ก็รบกวนกดโหวตให้ด้วยนะคะ  อย่างน้อยๆได้ให้คนอื่นๆเห็นสักวันก็ยังดี  (เพราะเช้าวันจันทร์กระทู้ก็จะหายไปค่ะ) เมื่อก่อนจขกทเองก็ค่อนข้างจะต่อต้านเรื่องการที่เด็กๆ ต้องไปโรงเรียนนานาชาติ เพื่อจะให้ได้ภาษาอังกฤษ คิดเสมอว่า  สมัยเรา เพื่อนๆเราจบโรงเรียนมัธยมและมหาลัยรัฐบาล  หลายคนไปต่อเมืองนอก ปัจจุบันทำงานต่างประทศกันก็หลายคน  ไม่เห็นต้องไปโรงเรียนนานาชาติ หรือเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่อนุบาลเลย แต่นั่นเป็นการคิดโดยใช้ตัวเองเป็นศูนย์กลาง  ตัดสินจากประาบการณ์ของตัวเอง แต่หลังจากได้ทดลองสอนอลิสสาแล้ว  รู้เลยว่า  เรียนตอนเด็ก ตั้งแต่เริ่มพูด ต่างจากการเรียนตอนโตโดยสิ้นเชิง   เมื่อสักครู่คุณลูกอยากระบายสี  เลยต้องไปนั่งเป็นเพื่อนในห้องเรียน   อยู่ดีๆ เค้าก็หยิบสีเทียนสีแดงขึ้นมา  แล้วพูดว่า  หงซื่อ  (จริงๆคือ หง เซ่อ) แล้วก็ชี้ไปที่สีเขียวว่า ลู่ย ซื่อ (จริงๆ ลู่ย เซ่อ)  แค่นี้เราก็ดีใจมากแล้ว  พอถามเค้าต่อว่าแล้วสีนี้ล่ะค่ะ  พูดภาษาไทย ชี้ไปที่สีขาว  เค้าตอบว่า  สีขาวค่ะ   (เพราะเค้าไม่ได้ภาษาจีนคำนี้นั่นเอง) ตอนนี้อลิสสาสามารถแยกแยะภาษาได้ดีทีเดียว  ถ้าเราถามภาษาไทย  เค้าก็จะตอบภาษาไทย  ถามอังกฤษเค้าก็จะตอบเป็นภาษาอังกฤษค่ะ ดังนั่น   อยากให้คุณพ่อคุณแม่เริ่มตอนนี้เลยนะคะ  หาสื่อน่ารักๆให้ดูนะคะ   (สำหรับเรา  เราให้อลิสสาดูดีวีดีตั้งแต่หกเดือนหรือเก้าเดือนนี่แหละ  เรื่มจากเบบี้ ไอน์สไตน์ ทั้งเซต เราไม่เห็นว่าอลิสสาจะสมาธิสั้นแต่อย่างใด  เพราะเราก็ทำกิจกรรมกับเค้าด้วยมากมาย   อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ  เพราะคุณหมอเราก็บอกไม่ให้ดูค่ะ  แต่เราเลือกเชื่อตัวเองมากกว่า   ดูวันละนิดหน่อยค่ะ) อย่างพวกเมจิกอังลิช  หรือดิสนีย์ อิงลิช นี่ก็ดีทีเดียวนะคะ  เพื่อนๆลองไปหามาดูนะคะ (เราไม่มีขาย และไม่มีแจกนะคะ) หรือสื่อฟรีๆจากยูทูป  ในบทก่อนๆ เราให้ไว้ค่อนข้างเยอะ  ก็หาไล่ๆไปนะคะ ตามชื่อของคนทำ ไม่ต้องเสียเงิน ก็เรียนรู้ได้นะคะ จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:23:04

ความคิดเห็นที่ 18 อ่านไปอ่านมา  เราพิมพ์ผิดเยอะทีเดียว  เนื่องจากจขกท ไม่มีแป้นไทยนะคะ ใช้วิธีเดาเอาค่ะ ครั้นจะกลับขึ้นไปแก้ก็ไม่ไหว  ตาลายค่ะ ขออภัยด้วยนะคะ จริงๆในไอแพด ก็มีแอพฯหลายตัว  ที่สอนภาษาจีน (ภาษาอังกฤษยิ่งเยอะกว่าหลายเท่า) ที่ฟรี  สำหรับคนที่่มี ลองหาดูนะคะ  จขกทไม่แนะนำละกันนะคะ  เพราะหลายคนอาจจะยังไม่มี  และจริงๆมันอาจจะไม่จำเป็นก็ได้ ถ้าจะเริ่มสองภาษา  ควรเริ่มจากตรงไหน? อันนี้น่าสนใจ   ลองนั่งนึกย้อนไป  จขกท เริ่มภาษาไทยตอนอลิสสาสองขวบ  ก่อนหน้านั้นก็มีพูดบ้าง แต่ไม่จริงจังนะคะ   เริ่มจากนับเลขมังคะ  จำได้ว่า  อลิสสาจำหนึ่งถึงสิบภาษาอังกฤษได้ไวมาก  หลังจากนั้นเราเริ่มสอนเป็นภาษาไทยค่ะ  พอเค้าพูดวัน  เราก็หนึ่งค่ะ ไปเรื่อยๆ จนถึงสิบค่ะ จากนั้นก็มีอวัยวะของร่างกาย  สี   เพลงก ไก่  (อันนี้จำได้ไวมากนะคะ)  และก็เรียนตัวอักษร  ให้จำเป็นตัวๆเลยนะคะ  ไม่ต้องเรียงค่ะ บทสนทนาประจำวัน  เริ่มได้เลยค่ะ  เช่นอาบน้ำกันนะคะ  เค้าจะงงๆ พอสักสามสี่วันก็พูดเองเลยค่ะ  ไม่อาบน้ำ 5555 กินข้าวไหมคะ..... ทำอะไรอยู่คะ...... แล้วก็สอนคะ ขา ค่ะ  ตามแต่จะชอบนะคะ  จขกทไม่ชอบเลยที่จะได้ยินเด็กพูดไม่มีหางเสียง หลายครั้งที่เปิดทีวีดู  แล้วคุณหนู ลูกๆของดารารับเชิญ พูดไม่เพราะ  ฟังแล้วหงุดหงิดมากค่ะ ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยากนะคะ   สอนแต่ยังเล็กเลยค่ะ  อย่าคิดไปเองว่าจะทำให้ประโยคยาวไปแล้วเค้าจะจำไม่ได้........เชื่อเถอะค่ะ  ว่าคำว่าค่ะคำเดียว  ไม่ยาวเลย เรียนรู้จากสิ่งรอบตัว    พาคุณลูกออกไปพบปะผู้คน  ท่องเที่ยวบ้างนะคะ  ทุกที่ทีไป  เรียนรู้ได้ทั้งนั้น ไปร้านอาหารจีนที่นี่  เราให้ลูกดราทักทายพนักงานว่า  หนีห่าว  และเชี่ยๆ ตามโอกาส เวลาเจอคนไทย  ก็ให้สวัสดีค่ะ นั่นคือตัวอย่างของเราในการสอนภาษาไทย เป็นภาษาที่สอง   คุณพ่อคุณแม่อาจจะ เปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษแทนนะคะ  แต่ใช้วิธีคล้ายๆกัน จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 03:51:51

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่เห็นกระทู้ดีๆของคุณหน่อยนานแล้ว....ดีใจที่ได้เห็นอีกครั้งนะคะ....ชื่นชอบการสอนลูกของคุณหน่อยค่ะ และดีใจที่คุณหน่อยมาแชร์ให้พวกเราได้อ่านอีกครั้งนะคะ จะขอติดตามเป็นแฟนคลับไปเรื่อยๆค่า ^^ จากคุณ : พี่เอเธนส์+น้องเอเชีย เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 06:08:08

ความคิดเห็นที่ 20 รอกระทู้คุณหน่อยมานานค่ะ จากคุณ : beutylover เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 08:26:24

ความคิดเห็นที่ 21 ตามอ่านอยู่ค่ะ จากคุณ : วินธัย เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 09:16:33

ความคิดเห็นที่ 22 ขอโทษนะคะ. พอดีเมื่อวานเผลอหลับไปพร้อมคุณลูกซะงั้น (ราวตีหนึ่งกว่า) ตอนนี้อยู่ที่สนามบินแล้วค่ะ.  แต่คืนนี้ก็ถึงเมืองไทยแล้ว.  เดี๋ยวคืนนี้จะต่อและตอบให้จบนะคะ. จะขอตัวไปเช็คอินก่อน.   ที่เหลือก็จะเป็นเรื่องของสื่อที่น่ารักๆตามยูทูปค่ะ. เก็บมาฝากกัน ขอบคุณทุกๆกำลังใจนะคะ.  เดี๋ยวมาต่อแน่นอนค่ะ จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 10:05:46

ความคิดเห็นที่ 23 เดินทางปลอดภัยทุกคนเลยนะคะ ต้อนรับกลับแผ่นดินแม่คะ จากคุณ : น้องออมบุญ เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 02:21:34

ความคิดเห็นที่ 24 คุณแม่น้องอลิสสาคะ แนะนำเข้าไปดูเว็บ freeappalertดอทคอม คะ.....มีแอพสอนภาษาจีนในไอแพด ที่ปกติไม่ฟรี มาแจกเรื่อย ๆ แทบจะทุกวันเลยคะ ส่วนใหญ่เป้นนิทานคะ จากคุณ : mangek เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 08:30:41

ความคิดเห็นที่ 25 ตามอ่านมาทุกตอน ต้องขอบคุณมากๆนะคะที่เอามาแชร์ เป็นประโยชน์มากๆค่ะ จากคุณ : Dream@Torfun เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 09:08:11

ความคิดเห็นที่ 26 สุดยอดมากเลยค่ะ หลานที่บ้านก็ให้พูดภาษาจีนกับอาม่าเหมือนกัน ตอนนี้รู้สึกทึ่งมากที่ไอ้ตี๋น้อยสามารถโต้ตอบภาษาจีนกับอาม่าได้ หัวเราะ ขำกันได้ น้องอลิสสาเก่งมากๆเลยค่ะ จากคุณ : หนุงหนิง (kurapy) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 10:08:12

ความคิดเห็นที่ 27 เข้ามายกมือ  ให้รู้ว่าติดตามผลงานคุณแม่อยู่นะคะ^^ ไม่ค่อยได้ออกความเห็น วันนี้ขอทักทายซักหน่อย จากคุณ : annamom เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 10:17:23

ความคิดเห็นที่ 28 รออ่านต่อนะคะ จากคุณ : อยากเป็นแม่ที่ดี เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 11:33:36

ความคิดเห็นที่ 29 เข้ามาตามติดค่ะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 13:05:10

ความคิดเห็นที่ 30 เห็นด้วยเลยค่ะ กับความคิดที่ว่าภาษาที่สองต้องเรียนแบบธรรมชาติก่อน เราก็สอนภาษาญี่ปุ่นให้อิชิ ตัวเราเองก็ไม่ได้มีความรู้มากมาย เคยเรียนตอนอยู่มหาวิทยาลัยแค่ 2 คอร์ส ก็พออ่านได้บ้าง แต่เราชอบซื้อหนังสือ วีซีดี และก็ของเล่นของญี่ปุ่นให้อิชิ (ส่วนมากจะมือสอง คุ้มสุดๆ) เค้าก็ซึมซับไปเรื่อยๆ จนเราคาดไม่ถึง ตอนนี้อิชิก็ร้องเพลงง่ายๆ ได้ อ่านฮิรางานะได้บางตัว เขียนได้บ้าง เราก็ไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะให้อิชิไปเรียนภาษาญี่ปุ่นแบบเป็นเรื่องเป็นราวรึป่าว (เพราะค่าเรียนก็แพง) แต่คิดว่า ถ้าเค้าโตขึ้นแล้วเค้าชอบ อยากเรียนจริงๆ ก็คงให้เรียน แต่ถ้าเค้าไม่อยากเรียนก็คงไม่บังคับค่ะ เพราะเรียนภาษานี่ต้องอาศัยใจรักจริงๆ จากคุณ : love_is_so_beautiful เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 13:28:07

ความคิดเห็นที่ 31 จริงๆ ภาษาจีนก็อยากสอนนะ แต่ว่าไม่มีความรู้เลย ได้แต่คำภาษาจีนแต้จิ๋วง่ายๆ แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 54 13:32:34 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 54 13:31:04 จากคุณ : love_is_so_beautiful เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 13:30:04

ความคิดเห็นที่ 32 ขออนุญาตอวดวีดีโอที่อิชิร้องเพลงภาษาญี่ปุ่นมั่งนะคะ ^_^ ถ่ายไว้เมื่อปีที่แล้ว (แปลกมากที่จ้องกล้อง ปกตินี่ถ่ายรูปยากมากก) จากคุณ : love_is_so_beautiful เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 13:37:37

ความคิดเห็นที่ 33 สวัสดีค่ะ คุณหน่อย เราติดตามกระทู้ตั้งแต่ภาคที่1แล้วค่ะ ตอนนี้ยังติดตามอยู่ตลอดนะคะ อยากจะบอกว่าเอาวิธีที่คุณหน่อยแนะนำไปใช้สอนลูกตลอดเลยค่ะ รวมทั้งยูทูปต่างๆที่คุณหน่อยแนะนำ ลูกชอบดูมากค่ะ ตื่นเช้ามาก็ร้องให้เปืดเพลงเปิดทีวีดูค่ะ และร้องตามเพลงอังกฤษได้บ้างนะคะ จนตอนนี้กังวลว่าลูกจะดูทีวีมากไปแล้วเป็นสมาธิสั้นหรือเปล่า จนอ่านที่คุณหน่อยเขียนแล้วก็สบายใจขึ้นค่ะ ต้องขอบคุณคุณหน่อยมากๆที่ทำให้แม่อย่างเรามีวิธีสอนลูก (คิดเองไม่ค่อยเป็นค่ะ555) คุณหน่อยเก่งมากๆ น้องอลิสสาก็เก่งมากๆเช่นกัน จะรออ่านอยู่นะคะ ขอให้เดินทางปลอดภัยค่ะ จากคุณ : เชอรี่ (ม่าม๊าน้องซูยุ) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 13:48:11

ความคิดเห็นที่ 34 มาทักทายคุณหน่อยค่ะ  เพิ่งได้เข้ามา (ไม่ค่อยมีเวลาอยู่หน้าคอมค่ะ) ดีใจที่คุณหน่อยมาแชร์ไอเดียดีๆให้ฟัง  น้องอลิสสาโตขึ้นมากแล้วนะคะ  เวลามาไทย น้องอลิสสาชอบไหมคะเนี่ย    รออ่านต่อนะคะ จากคุณ : ck (ck&cm) เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 15:43:46

ความคิดเห็นที่ 35 คุณหน่อยจ๋า ไม่ได้คุยกันนานเลย สบายดีนะคะ น้องอลิสสาโตเร็วมากๆ แถมเก่งอีกต่างหาก มีคุณแม่หน่อยคนเก่งคอยสอนและสนับสนุนแบบนี้ อนาคตได้เป็นคุณแม่ของด๊อกเตอร์อลิสสาแน่ๆค่ะ กระทู้ของคุณหน่อยมีประโยชน์มากๆ ได้ไอเดียสอนลูกๆเยอะเลยค่ะ ตอนนี้เจ้าตัวเล็ก 1 ขวบ 1 เดือนแล้ว ยังพูดไม่ได้เลย แถมยังไม่ยอมเดินเองอีกต่างหาก ทั้งๆที่เกาะยืน และเกาะเดินเองได้เร็วมากๆ แต่พัฒนาการเรื่องอื่น ถือว่าเร็วใช้ได้ สามารถใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กได้ดี ที่บ้านคุยกัน 3 ภาษาเหมือนกันค่ะ กับเจ้าตัวเล็ก จะพูดกับเค้าทั้งไทย อังกฤษ เยอรมัน ตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าเค้าจะเริ่มพูดภาษาไหนก่อน ส่วนตัวโตกับคนกลาง จะใช้ภาษาไทย กับเยอรมัน แต่ก็ฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่อง เพราะได้ยินเอ๋กับแฟนพูดทุกวัน ตอนนี้ก็เริ่มสอนให้เค้าพูดภาษาอังกฤษแล้ว รู้สึกว่าเค้าสนุกกับการได้เรียนรู้ความหมายของภาษาต่างๆ สามารถแยกแยะภาษาต่างๆได้ อย่างไปโรงเรียน มีเพื่อนชาวอิตาเลี่ยนและฝรั่งเศสก็จะได้คำศัำพท์ใหม่ๆกลับมาด้วย ปล.ขอให้คุณหน่อยเที่ยวเมืองไทยให้สนุกนะคะ จากคุณ : ปรีชญา เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 17:19:23

ความคิดเห็นที่ 36 มาแล้วค่ะ  มาแล้วค่ะ   ขอโทษที่ให้รอนานตั้งสองวันนะคะ  เดินทางนี่เหนื่อยจริงๆเลย ขอบคุณทุกกิ๊ฟ  ทุกกำลังใจนะคะ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสละเวลามาคุยกัน  ทำให้ยังรู้ว่า  ยังมีคุณแม่ๆที่สนใจเรื่องเดียวกันอยู่บ้างนะคะ  ดีใจที่เขียนแล้วมีคนอ่านนะคะ พี่เอเธนส์+น้องเอเชีย  ขอบคุณนะคะ  แหม....เรียกแฟนคลับก็เขิลแย่ซีคะ  นานๆเขียนกะเค้าที  ไม่บังอาจหรอกค่ะ  เอาเป็นว่า  พอเห็นกระทู้แล้วแวะมาทักทายกัน  ก็ดีใจจะแย่แล้วค่ะ  ขอบคุณมากๆเลยค่ะ หน่อยจำล็อกอินนี้ได้แม่นเลยค่ะ   คุณbeutylover  สวัสดีค่ะ  ต่อไปนี้สัญญาว่าจะเขียนให้บ่อยกว่าเดิมนะคะ คุณวินธัย  ขอบคุณค่ะ  มาเขียนต่อแล้วนะคะ สวัสดีค่ะ  แม่น้องออมบุญ  กลับมาถึงโดยปลอดภัยแล้วค่ะ คุณ mangek  ขอบคุณนะคะ  แล้วจะลองเข้าไปดูนะคะ  ปกติก็จ่ายเงินซื้อแอพที่ชอบประจำค่ะ สวัสดีค่ะ Dream@Torfun  ขอบคุณที่ชอบนะคะ สวัสดีค่ะ คุณหนุงหนิง (kurapy)  ดีจังเลยนะคะ ที่บ้านมีผู้ใหญ่คอยสอนด้วย  อย่างนี้อาม่าคงหลงหลานน่าดูเลยนะคะ สวัสดีค่ะคุณ annamom  ขอบคุณมากๆค่ะ  ทุกคอมเมนท์ อ่านแล้วมีความสุขมากเลยค่ะ  ดีใจ สวัสดีค่ะ  คุณ อยากเป็นแม่ที่ดี  วันนี้จะต่อให้จบเลยค่ะ  ขอโทษนะคะ  ที่ทิ้งกระทู้ไป สวัสดีค่ะ  แม่ยายซ่าหริ่ม   ดีใจที่แวะมานะคะ  หน่อยอ่านกระทู้คุณบ่อยๆเหมือนกันค่ะ สวัสดีค่ะ คุณlove_is_so_beautiful  น้องอิชิ เก่งจังเลยค่ะ  เอ....ไม่ทราบว่าที่บ้านมีคนพูดญี่ปุ่นได้อีกไหมเอ่ย  น้องมีพรสวรรค์แบบนี้  ไม่สานต่อเสียดายแย่เลย  หรือไม่คุณแม่อาจจะต้องปัดฝุ่นภาษาญี่ปุ่นหน่อย  ยิงปืนทีเดียวได้นกสองตัวเลยนะคะ   สวัสดีค่ะคุณ  เชอรี่ (ม่าม๊าน้องซูยุ)  เรื่องดูทีวีแล้วสมาธิสั้นเนี่ย  พูดกันไปก็อาจจะไม่จบนะคะ   ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคน  แถมเด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน   สำหรับหน่อยเชื่อว่า  ขึ้นอยู่กับสื่อที่เราให้ลูกดูด้วยนะคะ   ถ้าเป็นหนังหรืออะไรที่ทำสำหรับผู้ใหญ่  ภาพจะเคลื่นไหวเร็ว  รวมทั้งพูดเร็ว เนื้อหาสาระก็ไม่เหมาะสำหรับเด็ก   นั่นอาจจะเป็นสาเหตุของสมาธิสั้น แต่สำหรับสื่อของเด็ก  สีสันสดใส  พูดช้ากว่า  เป็นเนื้อหาที่เค้าอยากรู้  อยากเรียน  แล้วก็เป็นเรื่องสั้นๆ ดูๆไป บางที  รู้เรื่องในรายละเอียดบางอย่าง  ทั้งๆที่เรายังไม่ได้สอนเลยค่ะ หน่อยเองก็ไม่กล้ายืนยัน (แต่กล้าให้อลิสสาดู)  เพราะเด็กคนอื่นอาจจะไม่เหมือนอลิสสาก็ได้ค่ะ สวัสดีค่ะ  คุณ ck (ck&cm)  อิอิ  คำถามถูกใจ  น้องชอบเมืองไทยมากค่ะ สวัสดีเอ๋  ไม่ได้คุยกันนานจริงๆด้วย  จำได้ว่าคุยกันคราวที่แล้ว ยังไม่คลอดเลย  นี่ขวบกว่าแล้ว เวลาผ่านไปไวจัง   อยู่เยอรมันก็ดีนะ  น้องจะได้ภาษาเยอรมันแน่นนอน  ไหนจะไทย  อังกฤษ   อืม.... น่าสนใจ ที่นี่ที่หน่อยอยู่  เมืองแขก พูดอารบิค  ถ้าจะให้ได้ภาษาที่นี่  ต้องไปโรงเรียนธรรมดา  แต่ไม่ไหวค่ะ  กลัว คงไปโรงเรียนนานาชาติ  ซึ่งก็คงสอนเป็นภาษาอังกฤษแย่างเดียว ไว้หน่อยรอดูเจ้าตัวเล็กของเอ๋นะ  เอารูปมาอวดบ้างนะ คิดถึงเหมือนกัน จริงๆ มีวีดีโออันนึง  น่ารักมาก  สอนจำเลข (จีน) แต่หน่อยหาไม่เจอ เอาอันอื่นไปก่อนนะคะ จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 00:25:08

ความคิดเห็นที่ 37 อันนี้ชื่อเรียกของเส้นต่าง และวิธีเขียน ภาษาจีนเยอะหน่อยนะคะ  เพราะสื่อภาษาอังกฤษ  หน่อยเคยลงไปเยอะแล้วเนอะ จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 00:30:30

ความคิดเห็นที่ 38 อันนี้ ภาษาอังกฤษนะคะ   เราว่าตลกดี  บทสนทนาง่ายๆ จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 00:44:15

ความคิดเห็นที่ 39 มาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ จากคุณ : beutylover เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 00:46:18

ความคิดเห็นที่ 40 สุดท้ายนี้ ขอให้คุณพ่อคุณแม่อย่าท้อแท้นะคะ   ค่อยเป็นค่อยไป   เหนื่อยวันนี้  แต่รับรองว่า  สบายวันหน้าแน่นอนค่ะ ขอบคุณนะคะ  ทุกๆคน จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 00:48:14

ความคิดเห็นที่ 41 คุณbeutylover  สวัสดีตอนดึกๆค่ะ ขอโทษนะคะ  เรากะว่าจะขอตัวไปนอนแล้วพอดีเลย ขอบคุณค่ะ   อย่านอนดึกนะคะ  ^ ^ จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 00:50:13

ความคิดเห็นที่ 42 ลูกสาวคุณแม่นี่ยิ่งโตยิ่งสวยค่ะ ตามดูตั้งแต่น้องเด็กๆ เปิดยูทูปเพลง acb ของน้องอลิสสาให้ลูกสาวเราดู ลูกสาวก็ชี้ๆ จะดูพี่ พี่ พี่ อยู่นั่นหล่ะค่ะ 555 จากคุณ : crispyroll เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 22:30:53

ความคิดเห็นที่ 43 คุณหน่อยกลับเมืองไทยหรอคะ ขอให้เที่ยวให้สนุกค่า ติดตามอย่างเงียบๆมานานค่า เห็นด้วยกับการสอนสองภาษา สามภาษาทตั้งแต่เล็กๆ ทำอยู่้เหมือนกัน ได้ผลระดับนึงค่า เพราะตอนนี้มีตัวเล็กด้วย เลยไม่ค่อยได้อยู่กะคนโต ความถี่ลดลง พอได้อ่านทู้คุณหน่อยทีไร มีแรงฮึด มีกำลังใจทุกทีค่า จากคุณ : jennie_cu เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 54 22:41:09

ความคิดเห็นที่ 44 Thank you for sharing ka :) จากคุณ : หัวแห้ว เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 01:01:10

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคูณนะคะ ตอนนี้เรามีลูกสาวจะสองขอบแล้วคะ สอนภาษาไทยไปก่อน ภาษาอังกฤษก็ค่อยๆสอน พ่อเค้าพูดอังกฤษอยู่แล้วเลยไม่กลัวลูกไม่ได้ ส่วนภาษาจีนนี้ย่าเค้าพูด สามภาษาเหมือนกันคะ อยากทำให้ได้เหมือนเจ้าของกระทู้ คุณเป็นคุณแม่ที่เก่งมากคะ ขอลงกระทู้ในเฟสบุ็คนะคะเพราะอยากให้เพื่อนเราได้อ่านเรื่องดีๆแบบนี้ จากคุณ : Yel_Ly เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 10:14:42

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณมากค่ะ จะเก็บเอาไว้สอนลูกบ้าง จากคุณ : โอ๋ (ohsirirat) เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 11:30:43

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณคุณหน่อยมากค่ะ ที่มา share เรื่องราวดีๆ ตอนนี้เรามีลูกแฝด 8 เดือนแล้วค่ะ ค่อยๆจะสอนภาษาอังกฤษควบคู่ไปกับภาษาไทยด้วย แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะพูดไทยไปด้วยแปลอังกฤษไปด้วยรึเปล่า เช่น cat แมว dog หมา คุณหร่อยว่าควรจะแปลหรือไม่คะ จากคุณ : ornnasi เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 14:44:59