Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เขาบอกว่า สารอาหารในนมแม่ไม่มีแล้ว กินนมแม่นานๆ แล้วเด็กจะไม่ปกติ ติดต่อทีมงาน

ความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับการให้นมลูกในวัย 1 ขวบขึ้นไป
ใครต้องการข้อมูลนมแม่เพิ่ม แวะไปที่ facebook "นมแม่" หรือลองดูที่บล็อกก็ได้ค่ะ

เขาบอกว่า สารอาหารในนมแม่ ลดลง (หรือหมดไป) หลังขวบปีแรก

ความจริง นมแม่ยังมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งแม้หลังจาก 1 ปีแรก แต่เด็กวัย 1 ขวบ (ไม่ว่ากินนมแม่หรือนมผง) จะต้องการสารอาหารจากแหล่งอาหารอื่นๆ เพื่อการเติบโตอย่างสมวัย ควรให้ลูกได้รับอาหารให้ครบ 5 หมู่ ควบคู่กับนมแม่เป็นอาหารเสริมค่ะ

*********************************************************

เขาบอกว่า ภูมิคุ้มกันในนมแม่จะหมดไป ภายในไม่กี่เดือนแรก

ความจริง ภูมิคุ้มกันในนมแม่ยังมีอยู่เสมอ ตราบใดที่มีการผลิตของน้ำนม ภูมิคุ้มกันบางตัวจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ลูกเริ่มหย่านมแม่ เด็กที่ได้กินนมแม่จะป่วยน้อยกว่าและหายเร็วกว่า American Academy of Family Physicians ระบุว่าเด็กที่หย่านมก่อน 2 ขวบจะมีความเสี่ยงของการเจ็บไข้เพิ่มมากขึ้น
(บีขอเพิ่มเติมว่า ตราบใดที่ร่างกายของแม่ยังมีชีวิตและผลิตน้ำนม น้ำนมแม่จะมีสารอาหารที่มีชีวิตด้วย ไม่ว่าจะเป็นเม็ดเลือดขาว ภูมิคุ้มกันหลายชนิด ฮอร์โมนต่างๆ รวมไม่ต่ำว่า 200 ชนิด)


*********************************************************

เขาบอกว่า การให้นมแม่กับเด็กวัยเตาะแตะ ก็เหมือนกับการให้นมแม่กับเด็กทารก (น่ะแหล่ะ)

ความจริง ความถี่และระยะเวลาในการให้นมแม่กับเด็กเกินขวบนั้นแตกต่างกันไปเป็นรายบุคคล ความต้องการของสารอาหารในนมแม่จะลดลงเมื่อลูกอายุมากขึ้น (เพราะลูกควรได้รับอาหาร 5 หมู่ หลัง 1 ขวบ) แต่ความอบอุ่นใจและภูมิคุ้มกันนั้นยิ่งสำคัญมากสำหรับเด็กวัยเตาะแตะ

*********************************************************

เขาบอกว่า การให้ลูกกินนมแม่หลัง 1 ขวบจะทำให้เด็กจิตใจผิดปกติ ไม่เป็นตัวของตัวเอง

ความจริง ในทางกลับกัน การให้ลูกวัยเตาะแตะกินนมแม่กลับช่วยให้ลูกมั่นใจในตนเองมากยิ่งขึ้น จากการศึกษาทางวิชาการและประสบการณ์ของแม่ทั่วโลก การให้ลูกวัยเตาะแตะกินนมแม่จะช่วยให้ลูกปรับตัวในเชิงของอารมณ์และการเข้าสังคม โดยทาง American Academy of Pediatrics ระบุว่าการให้นมแม่ไม่ควรจำกัดอายุว่าควรให้จนเด็กอายุเท่าใด และไม่พบหลักฐานว่าการให้นมแม่นานๆ นั้นจะส่งผลกระทบในทางลบต่อจิตใจและพัฒนาการของเด็ก ทั้งนี้การให้นมแม่นานๆ มีแต่ผลดี และไม่มีผลเสียกับแม่และเด็ก อายุในการหย่านมด้วยตนเองของเด็กคือประมาณ 2-7 ปี

*********************************************************

เขาบอกว่า แม่ที่ให้นมลูกนานๆ จะไม่รู้วิธีการปลอบลูกด้วยวิธีอื่น

ความจริง นมแม่เป็นอีกวิธีที่ใช้ปลอบประโลมให้ลูกสบายใจ นอกเหนือไปจากวิธีอื่นๆ เช่นการโอบกอด พูดคุย (ซึ่งเป็นสิ่งที่แม่ให้นมบุตรทำอยู่แล้ว)

*********************************************************

เขาบอกว่า แม่ที่ให้นมลูกนานๆ ทำเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง

ความจริง หากเด็กไม่ต้องการนมแม่ เด็กจะปฏิเสธนมแม่เอง การที่แม่ยังให้นมลูกอยู่นั้นเพราะลูกยังไม่พร้อมที่จะหย่านมแม่ และเป็นเพราะประโยชน์เชิงสุขภาพและเชิงจิตใจที่ลูกได้รับจากการกินนมแม่

*********************************************************

เขาบอกว่า แม่ที่ต้องการต้องครรภ์ต้องหย่านมลูกจึงจะท้องได้ และการให้นมลูกระหว่างการตั้งครรภ์นั้นไม่ปลอดภัย

ความจริง แม่สามารถให้นมลูกและตั้งครรภ์ได้ และยังสามารถให้นมลูกคนแรกได้ในขณะที่ตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง (ในสองไตรมาสแรกลูกในท้องยังไม่ต้องการสารอาหารมากมาย คุณหมอแนะนำให้ค่อยๆ ลดให้นม และหยุดการให้นมลูกในใตรมาสที่สามค่ะ)

*********************************************************

เขาบอกว่า ให้ลูกกินนมแม่นานๆ จะยิ่งทำให้หย่านมลูกได้ยากมากขึ้น

ความจริง อายุของลูกไม่เกี่ยวกับความยากง่ายในการหย่านม เด็กแต่ละคนมีความพร้อมแตกต่างกันไป แม่อาจค่อยๆ ชวนให้ลูกหย่านมด้วยวิธีต่างๆ เบี่ยงเบนความสนใจด้วยกิจกรรมอื่นๆ เป็นต้น

*********************************************************

แปลและเรียบเรียง โดย บี มามี๊ต่าต๋า
"อยากให้เพื่อนๆ ให้นมลูกกันไปนานๆ ค่ะ"
From article: Myths: Breastfeeding Past Infancy
By Kelly Bonyata, BS, IBCLC

จากคุณ : Narcosis
เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 21:43:14




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com