อยากกระโดดกอด จขกท มากค่ะ ถูกใจมากๆๆๆ เพราะวันนี้เพิ่งเจอมาสดๆร้อนๆ (อีกแล้ว) กับประโยคเดิมๆ " น่าสงสารเนอะ ให้มันดูไปเหอะ ไม่เป็นไรหรอก " (ฟังดูน่าจะเดากันออกนะคะว่ามาจากญาติผู้ใหญ่...) ฟังแล้วอิแม่ปวดจิตมากค่ะ...T_T
เพราะเราก็เป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจตั้งแต่ตอนท้องว่าอยากให้ลูกรักการอ่าน ก็อ่านหนังสือให้ฟังกันมาตั้งแต่ในท้องเลยค่ะ (ฟังดูอาจจะดูเว่อร์นะคะ...แต่ทำอย่างนั้นจริงๆ ) พอตอนคลอดนี่คุณหมอเด็กบอกเลยว่า คุณแม่อย่าให้น้องดูทีวีจนกว่าจะสองขวบนะคะ เพราะจะทำให้สมาธิสั้น พูดช้า แหม..ได้ฟังอย่างนี้ก็เอาเลยค่ะ เข้าทางพอดี ไม่ต้องดูทีวี แถมได้อ่านหนังสือด้วย แต่ไอ้คนทำกะคนรอบข้างนี่มันชอบสวนทางกันอยุ่เรื่อยนะคะ ตอนนี้ลูกสาวอายุ 8 เดือนแล้วค่ะ เค้าก็ดูรักการอ่านดี เห็นหนังสือต้องคลานเข้าใส่ แรกๆก็งับๆ.แทะๆ ค่ะ เปื่อยไปหลายเล่มอยู่ หลังๆแม่ส่งสายตาโหดๆว่า ไม่กัด ไม่แทะนะลูก หลังๆเริ่มดีขึ้น พยายามเปิดเอง ไรเอง
ส่วนคำพูดต่างๆนาๆจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนในครอบครัวนี่ก็เป็นส่วนทำให้มีกำลังใจในการทำเหมือนกันนะคะ อย่างวันนี้สามีบอกว่า นี่เธอ ถ้าเธอไม่อยู่นะ ชั้นจะเปิดทีวีให้ลูกดูตลอดเลย....โอ้โห พูดกันอย่างนี้ แทบอยากจะเอาทีวีทุ่มหัวค่ะ 5555 (สามีชอบว่าเราเยอะค่ะ เรื่องทีวีเนี้ย กะอีกหลายๆเรื่อง อิอิ) แต่เราชอบข้อ 4 ของ จขกท มากเลยนะคะ อย่าได้แคร์สื่อใดๆ....สู้ค่ะ
ต้องขอบคุณ จขกท และทุกคนที่เข้ามาแชร์ประสบการณ์ของตัวเองนะคะ รู้สึกมีกำลังใจให้สู้ต่อมากเลยค่ะ รักห้องชานเรือนจริงๆ ค่ะ ^__^