นิทานเรื่องหนึ่งที่สมควรที่จะเผยแพร่ให้แก่ผู้ที่เป็นพ่อแม่ ได้พิจารณา
|
|
เอามาแชร์ค่ะ ส่วนตัวเห็นว่าน่าสนใจมาก ด้วยที่ว่าตัวเองมีลูกเล็ก และตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะให้เค้าได้เลือกเรียนรู้สิ่งที่เค้ารักและสนใจที่จะทำ สนับสนุนในสิ่งที่เค้าต้องการจะเป็น ไม่อยากให้ลูกไม่มีความสุขในการคาดหวังของเราที่ต้องการจะให้เค้าเป็นหรือให้เค้าทำ....
ได้รับมาจาก forward mail นะคะ *** Credit forward mail***
************************************************
ผมได้อ่านคู่มือนักเรียนและผู้ปกครอง ประจำปี 2541 ของโรงเรียนตาดทองพิทยาคม มีนิทานเรื่องหนึ่งที่สมควรที่จะเผยแพร่ให้แก่ผู้ที่เป็นพ่อแม่ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ได้พิจารณา เรื่องมีอยู่ว่า
.
กาลครั้งหนึ่ง มีสัตว์ป่าหลายชนิดมาประชุม เพื่อจัดตั้งโรงเรียนขึ้น หลักสูตรของโรงเรียนสัตว์เหล่านี้ ประกอบด้วย วิชา วิ่งเร็ว ปีนป่าย ว่ายน้ำ และฝึกบิน ซึ่งสัตว์ทุกตัวจะต้องเรียนรู้ และสอบผ่านทุกวิชา จึงจะจบจากโรงเรียนนี้ได้
พอเปิดทำการเรียนการสอนได้ระยะหนึ่ง เมื่อถึงเวลาสอบกลางภาค เจ้าเป็ดน้อย สอบได้เกรด 4 ในวิชาว่ายน้ำ, แต่ทำได้เพียงเกรด 2 ในวิชาวิ่งเร็ว และเกรด 0 ในวิชาฝึกบินและปีนป่าย ส่งผลให้เจ้าเป็ดน้อย ต้องอยู่เรียนพิเศษกับครูฝึกบิน และปีนป่าย จนในที่สุด เท้าทั้งสองข้างของเจ้าเป็ดน้อย ก็เปื่อยเน่า จากการวิ่งและปีนป่าย ลำตัวก็บอบช้ำเพราะตกจากที่สูงบ่อย ๆ และผลการสอบปลายภาค เจ้าเป็ดน้อย ก็สอบได้เพียงเกรด 1 ในวิชา วิ่งเร็ว ฝึกบิน และปีนป่าย
ส่วนเจ้ากระรอก ซึ่งได้เกรด 4 ในวิชาปีนป่าย และวิ่งเร็ว กลับสอบตกอย่างไม่เป็นท่า ในวิชาว่ายน้ำ และฝึกบิน การเรียนพิเศษของเจ้ากระรอก ก็ไม่ช่วยให้มันว่ายน้ำดีขึ้นมากนัก และเนื่องจากมันฝึกว่ายน้ำอย่างหนักหน่วง จึงทำให้วิชาปีนป่าย ที่เคยได้เกรด 4 ลดลงมาเหลือเพียงเกรด 2
เจ้านกอินทรีย์ ซึ่งชนะเลิศในการบิน เมื่อมาถูกฝึกด้านวิ่งเร็ว และว่ายน้ำ มันก็ไม่สามารถทำได้ดีเหมือนฝึกบิน กลายเป็นสัตว์ที่มีปัญหาขึ้นมาทันที ทำให้สอบตกทุกวิชา ในการสอบปลายภาค
มิหนำซ้ำ เจ้านกอินทรีย์ยังกลายเป็นสัตว์ที่ก้าวร้าว ไล่จิกตีผู้อื่น เพื่อให้มันเป็นผู้ชนะ ความสุขที่เคยมีตอนเป็นจ้าวเวหาก็หายไป พร้อมกับความทุกข์ที่มันพยายามจะเอาชนะผู้อื่นในวิชาที่ไม่ถนัด เข้ามาแทนที่
..
เมื่ออ่านจบนิทานนี้แล้ว ท่านคงพอจะทราบคำตอบบ้างแล้ว ใช่หรือไม่ เด็กทุกคนไม่มีใครอยากล้มเหลวในชีวิต และพ่อแม่ทุกคน ก็อยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี แต่การหวังดีโดยปราศจากความเข้าใจในธรรมชาติที่แท้จริงของเด็ก อาจเป็นการทำร้ายจิตใจ และทำลายศักยภาพที่มีอยู่ในตัวของเด็กได้อย่างง่ายดาย
ก่อนที่จะพยายาม ยัดเยียด สิ่งที่ท่านเห็นว่าดีให้แก่ลูก จงพยายามค้นหาธรรมชาติพิเศษของลูกให้เจอ เด็กทุกคนมีพรสวรรค์อยู่ในตัวของเขาเอง ความสำเร็จในชีวิต มิได้มาจากปริญญาสูง ๆ เท่านั้น
หากคุณส่งเสริมในทิศทางที่ลูกมีพรสวรรค์ เขาก็จะมีความสุข และเราก็ไม่ต้องปากเปียกปากแฉะ เคี่ยวเข็ญ เด็กก็จะไม่เป็นเช่นเจ้าเป็ดน้อยที่พิการ หรือเจ้าอินทรีย์ที่สร้างปัญหาแก่ตนเองและสังคม
.
จากคุณ |
:
Nat_wila
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ส.ค. 54 11:00:27
|
|
|
|