Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อย่าปล่อยให้มดลูกป่วย ติดต่อทีมงาน

อย่าให้มดลูกป่วย (รักลูก)
โดย: กุมภการ

         คุณรู้จักมดลูกแค่ไหน? หลายท่านอาจคิดว่าไม่น่าถาม เพราะทราบกันอยู่แล้วว่ามดลูกเป็นอวัยวะที่อยู่กับผู้หญิงมาตั้งแต่เกิด แต่ทราบไหมคะว่า มดลูกที่เจ้าตัวเล็กของคุณแม่เจริญเติบโตอยู่ข้างในนั้น มีหน้าที่และการทำงานอย่างไร เป็นโรคใดได้บ้าง เป็นแล้วรักษาได้ไหม ฯลฯ

         คำถามเหล่านี้จะไม่ค้างคาใจอีกต่อไป เพราะ ผศ.ดร.นพ.ดิฐกานต์ บริบูรณ์หิรัญสาร สูติแพทย์ประจำโรงพยาลบาลศิริราช ได้อธิบายและไขข้อข้องใจไว้อย่างละเอียดค่ะ

         มดลูกของผู้หญิงเราจะโตขึ้นตามวัยค่ะ แต่ไม่ได้โตขึ้นเรื่อย ๆ นะคะ เพราะเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ก็จะหยุดโต และมีขนาดประมาณ 1x2x3 นิ้ว (ขนาดประมาณลูกแพร์) มดลูกเป็นอวัยวะในระบบสืบพันธุ์ มีเอ็นยึดไว้ให้ติดอยู่ในช่องท้องบริเวณอุ้งเชิงกราน

          ด้านหน้าของมดลูกติดกับกระเพาะปัสสาวะ

          ด้านหลังอยู่ใกล้ลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย โดยมีปากมดลูก หรือคอมดลูกยื่นเข้าไปในช่องคลอด

          ด้านนอกมีลักษณะเป็นกล้ามเนื้อ มีการหดรัดตัวได้ ช่วงเวลาที่มีประจำเดือนแล้วรู้สึกปวด เนื่องจากมีการหดรัดตัว เกร็งตัวของกล้ามเนื้อมดลูกค่ะ

          ส่วนด้านในที่เรียกกันว่าโพรงมดลูกนั้น ที่จริงไม่ได้เป็นโพรงนะคะ แต่จะมีเยื่อบุแนบชิดกันอยู่ภายใน

         หากจะพูดถึงหน้าที่โดยตรงของมดลูก มีเพียงหน้าที่เดียวคือสำหรับเลี้ยงลูก เมื่อตัวอ่อนเข้าไปฝังตัวและเจริญเติบโตเป็นทารก มดลูกก็จะเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตามอายุครรภ์ของคุณแม่ค่ะ

ความเปลี่ยนแปลงของมดลูก

         ความจริงแล้วมดลูกไม่ได้มีกลไกอะไรในการทำงาน แต่ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเนื่องจากมีฮอร์โมนมากระตุ้น เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ ต่อมใต้สมองจะกระตุ้นรังไข่ ทำให้มีการสร้างฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มมากขึ้น จนเยื่อบุที่อยู่ข้างในโพรงมดลูกหนาตัวมากขึ้น เมื่อครบรอบก็จะหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน หมุนเวียนเป็นรอบ ๆ ไป

         การเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่งคือวัยก่อนหมดประจำเดือน เพาะไม่มีฮอร์โมนมากระตุ้นอีกต่อไป มดลูกจะเหี่ยวและฝ่อลงไป แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ เป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติเท่านั้นค่ะ

         การตั้งครรภ์ คือ การเปลี่ยนแปลงอีกอย่างหนึ่งของมดลูก เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์มดลูกจะยืดขยายจากเดิมได้เป็นพันเท่าทีเดียวค่ะ ผู้หญิงหลายคนอาจสงสัยว่า เมื่อมดลูกขยายเต็มที่แล้วขณะตั้งครรภ์ หลังคลอดมดลูกจะกลับมามีขนาดเท่าเดิมหรือไม่ คุณหมอบอกว่าจะกลับมามีขนาดเท่าเดิมค่ะ

เมื่อมดลูกป่วย

         โอกาสในการเกิดโรคต่าง ๆ ในมดลูกพบได้พอสมควรค่ะ โรคที่พบได้ เช่น เนื้องอก เนื่องจากตัวมดลูกเป็นกล้ามเนื้อ ก็อาจจะมีเนื้องอกขึ้นมาได้ เช่น

           เนื้องอกที่โตอยู่ในโพรงมดลูก อยู่ในเนื้อมดลูกโตออกมาข้างนอก หรือตัวมดลูกอาจโตขึ้นมาทั้งหมดก็ได้ค่ะ เรียกรวม ๆ  ว่า "เนื้องอกของมดลูก" ซึ่งพบได้บ่อยกว่าโรคอื่น ๆ ค่ะ สาเหตุนั้นยังไม่ทราบว่าเกิดเพราะเหตุใด และผู้ป่วยก็จะไม่ทราบว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ โรคนี้อาจแสดงอาการหรือไม่ก็ได้

         อาการที่พบได้บ่อยก็คือ การมีประจำเดือนออกมากกว่าปกติ บางรายเลือดออกมากจนซีดก็มี นอกจากนั้นอาจมีอาการจากการกดเบียดอวัยวะข้างเคียง เช่น กระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะบ่อยได้ เป็นต้น แต่หลายรายก็ไม่มีอาการใด ๆ นอกจากมาตรวจแล้วจึงพบว่าเป็นโรค ส่วนการรักษาก็ต้องผ่าตัดค่ะ

          เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวภายในโพรงมดลูก ซึ่งมีเยื่อบุอยู่ก็สามารถเกิดโรคได้ค่ะ เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ เพราะได้รับการกระตุ้นจากฮอร์โมนนานเกินไป ยิ่งหนามากเลือดก็ยิ่งออกมาก แต่สามารถรักษาได้โดยการใช้ยาหรือการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคค่ะ

          กระบังลมหย่อน เกิดจากการที่เอ็นที่ยึดตัวมดลูกและกล้ามเนื้อเชิงกรานที่ยึดรั้งตัวมดลูก ยืดยานออก ทำให้เกิดสภาวะที่มดลูกเลื่อนต่ำลงมาจากต่ำแหน่งเดิม ทำให้กลั้นปัสสาวะไม่ได้ เวลาไอ จาม จะมีปัสสาวะเล็ดออกมา ก่อให้เกิดความรำคาญน่าดูซึ่งภาวะนี้จะเกิดขึ้นเมื่อถึงวัยหมดประจำเดือน นอกจากมดลูกจะเหี่ยวและฝ่อลงแล้ว เอ็นต่าง ๆ ที่ยึดมดลูกไว้ก็จะหย่อนยานลงบ้าง รวมทั้งขณะตั้งครรภ์มดลูกมีการขยายใหญ่ขึ้น ทำให้เอ็นที่ยึดมดลูกมีการยืดขยาย ดังนั้นถ้าตั้งครรภ์และคลอดลูกบ่อย ๆ เอ็นก็จะหย่อนยานได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน

         การรักษา หากเอ็นหย่อนไม่มากคุณหมอจะผ่าตัดเฉพาะช่องคลอด ที่เรียกว่าผ่ารีแพร์ แต่ถ้าหย่อนมาก ๆ จนไม่สามารถซ่อมแซมได้ อาจต้องตัดทิ้งไปเลยค่ะ

          มะเร็ง พบได้ทั้งที่ตัวมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูก แต่พบไม่บ่อยนัก ส่วนมะเร็งที่ปากมดลูกซึ่งพบบ่อยกว่า มะเร็งต่าง ๆ เหล่านี้จะสามารถแพร่กระจาย และทำลายอวัยวะใกล้เคียง หรือแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกายทางกระแสเลือดและระบบท่อน้ำเหลือง

         การรักษา มีทั้งการผ่าตัด การใช้รังสี การใช้ฮอร์โมนและเคมีบำบัด ขึ้นอยู่กับระยะของโรคและชนิดของมะเร็งค่ะ

 
 

จากคุณ : หนูน้อยบ้านนา
เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 54 13:02:30




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com