Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เหตุการณ์วันที่ 19 พฤศจิกายน 2553 ติดต่อทีมงาน

ไม่น่าเชื่อ.. ว่าคลอดลูกผ่านมาแล้ว 9 เดือน เหมือนเพิ่งรู้สึกว่าเพิ่งคลอดลูกผ่านไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี่เอง.. อีกแค่ 3 เดือน ตุ๊ต๊ะก็จะอายุครบ 1 ขวบแล้ว แม่มีความตั้งใจหลายอย่าง ที่จะทำให้ลูก ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตั้งใจไว้ ก็เพื่อตัวของลูกเอง ทุกวันนี้ ทั้งเหนื่อย ทั้งท้อ บางครั้งก็กังวล แต่เมื่อเห็นหน้าลูก นอนหลับสบาย ก็อดภูมิใจลึกๆ ไม่ได้ ว่าอย่างน้อยที่ผ่านมา 9 เดือน เราพ่อแม่มือใหม่ ก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้


คืนนี้ ตุ๊ต๊ะมีอายุครบ 9 เดือน 3 วัน ระหว่างที่เตรียมทำกับข้าวสำหรับเราและแฟน ที่จะต้องใส่กล่องไปทานในรถกันในวันพรุ่งนี้เช้า และเก็บขวดนมไปล้าง ปั๊มนมรอบก่อนนอน กว่าจะเสร็จก็คงใกล้ๆ ตี 3 มีเวลานอนอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมง ขอย้อนเวลาไปในเช้าวันที่ 19 พฤศจิกายน 2553 วันที่ต๊ะจะลืมตามาดูโลกใบสดใสใบนี้ค่ะ..


เช้าวันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2553 เวลา 6 โมงเช้า ด้วยความเพลียที่กลับมาจากทานข้าวบ้านแม่สามีที่นครปฐมเมื่อวานนี้ ทำให้พ่อและแม่ยังไม่ตื่น แต่ทันที ที่รู้สึกได้ว่ามีน้ำไหลออกมาเลอะชุดนอน ก็รีบเรียกแฟนเสียงดังให้ตื่น พร้อมกับให้ดูว่าน้ำที่ไหลออกมาเป็นอะไร "ตะเองดมหน่อยสิ.. เปิ้ลฉี่รดที่นอนรึเปล่า??" คิดได้เนอะ.. พอรู้ว่าไม่ใช่ฉี่แน่นอน แต่เป็นอาการน้ำเดิน แฟนให้อาบน้ำแต่งตัว แล้วไปสแตนบายรอที่ออฟฟิต


ระหว่างทางไปออฟฟิต แฟนถามอยู่ตลอดว่าให้ไปส่งโรงพยาบาลเลยมั้ย?? ด้วยความคิดของเรา คิดว่าคงยังไม่คลอด ประกอบกับไม่เห็นจะเจ็บท้องเหมือนในละครน้ำเน่าหลังข่าวเลย "เค้าไปรอตะเองที่ออฟฟิตเค้าดีก่า มีไร เด๋วให้พี่ที่ออฟฟิตไปส่ง รพ." ที่ตอบไปแบบนั้น เพราะเช้าวันนั้น แฟนมีสืบพยานคดีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไม่อยากให้เสียงาน และไม่อยากให้กังวลไปกับอาการน้ำเดิน เมื่อไปถึงออฟฟิต แฟนรีบไปฝากฝังไว้กับพี่ๆ ว่า "น้ำเดินแล้วพี่ คลอดวันนี้แน่ๆ ผมฝากด้วยนะ" ไปถึงออฟฟิตตั้งแต่ 8 โมงเช้า ก็ยืนถ่ายเอกสารไป น้ำก็เดินไป เตรียมส่งสำนวนคืนออฟฟิต ท่าทางไม่พ้นวันนี้แน่ สัปดาห์หน้าคงไม่ได้มาทำงานแล้ว คืนสำนวนก่อนละกัน..


รอจน 11 โมง คิดขึ้นมาได้ ถ้าน้ำคร่ำไหลออกหมด ลูกชั้นจะอยู่ในท้องได้ยังไง ก็เลยโทรไปที่โรงพยาบาล ปลายสายให้คำตอบว่าให้รีบมาโรงพยาบาล จะคลอดแล้ว "แต่ยังไม่เจ็บท้องเลยนะคะ" แน๊!! ยังมีไม่เชื่อ.. ก็เลยบอกคนในออฟฟิตว่าจะไปโรงพยาบาลแล้ว น้องทนายที่ออฟฟิตอาสาไปส่งโรงพยาบาล ทั้งที่มีศาลนนท์ในช่วงบ่าย และมีน้องธุรการที่ออฟฟิตไปเป็นเพื่อน ในระหว่างที่รออยู่ที่ออฟฟิต รู้จากแฟนภายหลัง ว่าแฟนแถลงศาลว่าขอเลื่อนคดี เนื่องจากเมียท้องแก่คลอดวันนี้แน่ๆ โชคดี ที่บัลลังก์ที่แฟนทำงานอยู่ เป็นบัลลังก์เดียวกับที่เปิ้ลไปว่าความคดีที่ดินเมื่อสัปดาห์ก่อน ศาลจำได้ว่ามีทนายผู้หญิงท้องแก่ใกล้คลอดมายืนว่าความติดต่อกัน 5 วัน ขอขอบคุณท่านสมพงศ์และท่านสรรเสริญมา ณ โอกาสนี้ค่ะ.. ที่อนุญาตให้เลื่อนคดี พร้อมกับคำถามที่คงคาใจท่านทั้งสองอยู่เป็นนานสองนาน ระหว่างที่ทนายท้องแก่ว่าความ มีอัยการมานั่งคุมการว่าความตลอด ไม่ได้มากระตุกครุย แต่กลัวเมียคลอดลูกระหว่างว่าความค่ะท่าน..


เปิ้ลได้แอดมิทที่ รพ.รามาฯ ตอนบ่าย 2 โมง โดนปู้ยี่ปู้ยำต่างๆ นานา เพราะหมอต้องวัดช่องคลอดว่าเปิดกี่เซ็นแล้ว โดนสวนทวาร ให้ขับถ่ายออกมาให้หมดก่อนทำคลอด เอาน้ำคร่ำไปตรวจ ว่าใช่น้ำคร่ำหรือไม่ หลังจากเก็บตัวอย่างเสร็จ ก็มีน้ำคร่ำทะลักออกมา หมอบอกว่าอย่างนี้ ไม่ต้องตรวจแล้ว คลอดวันนี้แน่ๆ เดินไปเดินมาอยู่ในห้องคลอดอยู่นาน เพราะห้องคลอดไม่ว่าง ทราบจากด้านหน้าห้องคลอดว่าแฟนมาถึง รพ.แล้ว เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ออกไปพบแฟนได้ เห็นหน้าแฟนครั้งแรก ต่อมน้ำตาแตกขึ้นมา "ตะเองเค้าเจ็บง่ะ.. หมอมาวัดปากช่องคลอดเค้าอ่ะ.." แฟนบอกว่าพี่ชาย (ทนายที่ออฟฟิต) มาที่ รพ.ด้วย วิ่งเต้นเรื่องห้องพิเศษให้ ขอขอบคุณพี่ชาย และพี่นิด มากค่ะ สำหรับห้องพิเศษที่ รพ.รามาฯ ซึ่งได้ยากมากๆ


เจ้าหน้าที่เรียกให้เข้าไปนอนรอในห้องคลอด หมายเลข 3 นอนรอหลับแล้ว หลับอีก ตื่นขึ้นมาตอน 4 โมงเย็น ไม่เห็นทำอะไรซักที เบื่อแล้วนะ มองอะไรก็ไม่ชัด เพราะให้ถอดคอนแทคออก เห็นแต่นาฬิกาก็จับเวลาไปเรื่อย สังเกตว่าเริ่มเจ็บท้องตุ้บๆ ทุก 5 นาที ดีใจจัง ใกล้เวลาแล้วใช่มั้ยเนี่ย?? เบื่อจะแย่แล้วนะ.. หมออยู่ไหน เจ็บทุก 5 นาทีแล้ว มาๆๆๆ มาช่วยกันทำคลอดเร็วๆ หมออภิชาติเดินทางมาถึง รพ. ก็มาตรวจอาการ บอกว่าปากมดลูกเปิดแค่ 2 เซ็น จะให้ยาเร่งคลอด.. รอต่อไปอีก 2 ชั่วโมง


เวลา 6 โมงเย็น ตื่นขึ้นมา เพราะเจ็บท้องมากขึ้น เรียกพยาบาลขอบลอคหลัง ได้คำตอบว่า "ช่วงกลางคืน ไม่มีหมอดมยาอยู่เวรค่ะ" มีแต่ให้ยาบรรเทาอาการเจ็บปวดเท่านั้น งั้นไปเอามาเร็วๆ เลย เริ่มเจ็บมาแล้วนะ พอได้ยาไปเท่านั้นแหละ เข้าใจเลยว่าอารมณ์คนเสพยาเป็นยังไง มึนๆ งงๆ จะหลับตลอดเวลา พอรู้สึกเจ็บท้องก็ตื่น ถามคนที่เข้ามาตรวจ ไม่รู้ว่าเป็นใครว่า "จะทำคลอดเมื่อไหร่" "คืนนี้ค่ะ ถ้า 4 ทุ่มแล้ว คลอดเองไม่ได้ คุณหมอจะผ่าออกให้นะคะ" ห๊า!!! ผ่าหรอ?? ไม่เอาอ่ะ..


2 ทุ่ม ทนไม่ไหวแล้ว เจ็บท้องคลอดมาก แต่ไม่รู้ว่าต้องบอกหมอ คิดว่าหมอจะตรัสรู้เองได้ ว่ามานใกล้คลอดแล้วนะ.. ขอยาบรรเทาอาการปวด หมอบอกให้ไม่ได้แล้ว เพราะช่องคลอดเปิด 7 เซ็น ถ้าให้ตอนนี้ ลูกจะไม่หายใจ เป็นไงเป็นกันฟระ.. คลอดเองก็ได้.. แต่อีกใจ ใครก็ได้ ช่วยมาทำคลอดที ผ่าก็ได้ ทำไงก็ได้ให้หายเจ็บง่ะ.. ประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง มีลมเบ่งออกมาด้วย ได้ยินเจ้าหน้าที่ตะโกนบอกหมอว่าห้องข้างๆ มีลมเบ่งแล้ว ให้ทำคลอด อ้าว!! ต้องบอกหรอ?? หมอๆ มีลมเบ่งแล้วเหมือนกัน มาทำคลอดห้องนี้ก่อน ไม่ไหวแล้ว.. บอกช้าไปครึ่งนาที รอต่อไปอีกครึ่งชั่วโมง.. หมอไปทำคลอดห้องข้างๆ ก่อน เซงเป็ด!!


หมอมาถึงห้องคลอดตอน 3 ทุ่ม โชคดีจัง!! ห้องข้างๆ ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง นานกว่านี้ ไม่ไหวแน่ๆ เตรียมห้องคลอด แล้วก็วัดปากช่องคลอด ยังจะวัดอีกหรอ?? เกร็งไปหมดแล้ว หมอคิดว่าเราไม่ให้ความร่วมมือ รีบละล่ำละลักบอกหมอ "ไม่ไหวแล้วค่ะ อยากเบ่ง" "เอาๆๆๆ งั้นเบ่งเลย.." เฮ้อ!! โล่งอก.. คิดว่าหมอจะให้หนูอั้นลูกไว้ซะอีก.. 5555 หายใจเข้า กลั้นหายใจ เบ่ง มีคนคอยบอกจังหวะให้เบ่งตามแรงที่มดลูกบีบตัว โดยมีอีกคนกดท้องช่วย และมีเจ้าหน้าที่อีก 10 กว่าคนในห้อง ช่วยกันส่งเสียงเชียร์ เหมือนเชียร์อะไรกันซักอย่าง "ดีค่ะ.. เบ่งเลยค่ะ.. ฮึบๆๆๆๆๆๆ" "ลูกหายใจช้าแล้ว เบ่งแรงๆ" เสียงหมอบอกว่าอย่างนั้น "ฮึบๆๆๆๆๆ" เบ่งสุดแรงเกิด ลูกชั้นหายใจช้า 4 ทุ่มไม่คลอด จะผ่า ก็เลยตั้งหน้าตั้งตาเบ่งอย่างเดียว..


เวลา 3 ทุ่ม 33 นาที ก็ได้ยินเสียง "แอ๊ะ แอ๊ะ" เฮ้อ!! โล่งอก.. เราหันไปถามเจ้าหน้าที่คนข้างๆ ไม่รู้ว่าเค้าเป็นใคร สมมตว่าเป็นพยาบาลละกัน.. ว่าลูกเป็นยังไงบ้าง "เดี๋ยวดูเอาเองนะคะ" หมอจับลูกชายขึ้นชูให้ดู "จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก ลูกเอเลี่ยนชัดๆ" ตัวเป็นเมือกๆ เลือดเต็มเลย ไม่เอาอ่ะ.. อยากได้ลูกชายน่ารักๆ อ่ะ.. ไหงออกมาเป็นอย่างนี้อ่ะ รับไม่ได้ ระหว่างที่หมอกำลังเย็บช่องคลอด พยาบาลก็เอาลูกชายไปอาบน้ำ แล้วก็อุ้มมาให้ดูดนม เด็กอาไร้.. แม่เจ็บจะเป็นจะตาย ออกมาก็หลับปุ๋ย ให้ดูดนมต้องคอยสะกิดเรียกตลอด.. ว่าแต่ทำไมตัวนุ่มนิ่มๆ แบบนี้อ่ะ..


พยาบาลรอดูอาการเราอยู่จนถึงเที่ยงคืน ก็ให้ไปพักฟื้นที่ห้องรวมก่อน เพราะตอนนั้น ยังไม่ได้ห้องพิเศษ พร้อมกับบอกว่า ขอดูอาการลูกชายด้วย ถ้าไม่มีอะไร พรุ่งนี้เช้า จะให้ตามไปอยู่ด้วย.. ความทรงจำที่เจ็บปวด แต่เป็นความภาคภูมิใจสุดๆ ที่ผ่านมาได้ ใครที่ยังไม่มีลูก อ่านแล้วอาจจะกลัว แต่เราทำใจไว้ตั้งแต่ท้องแล้ว่าคลอดลูกมี 2 เจ็บ เจ็บแรก คือ เจ็บท้องคลอด เจ็บครั้งเดียว กับอีกเจ็บ คือ เจ็บแบบผ่าคลอด ตอนทำคลอดไม่เจ็บ แต่จะเจ็บช่วงที่ต้องรักษาแผลผ่า เปิ้ลเลือกที่จะเจ็บครั้งเดียว เพื่อที่หลังจากคลอดแล้ว จะได้ดูแลลูกชายด้วยตัวเองได้..    


สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณคุณหมออภิชาต ที่ทำคลอดให้จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และคุณหมอวชิระ ที่แนะนำคุณหมออภิชาตและห้องพิเศษให้ค่ะ..

จากคุณ : KunNaiPle
เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 54 01:55:30




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com