PANTIP.COM : N11022015 --เมื่อผลตรวจ triple test ออกมาพบว่ามีความเสี่ยงเป็น adward's syndrome []

ความคิดเห็นที่ 6

การตรวจทางห้องปฏิบัติการต่ละอย่างมีความหมายที่แตกต่างกันไปครับ บางอย่างเป็นการตรวจที่เรียกว่า "การตรวจวินิจฉัย(Diagnostic test)" บางอย่างเรียกว่าเป็น "การตรวจคัดกรอง(Screening test)" การตรวจวินิจฉัยทำเพื่อบอกว่า "เป็น" หรือ "ไม่เป็น" โรค ตัวอย่างเช่น การตรวจน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร เป็นเกณฑ์การวินิจฉัยโรคเบาหวาน การวัดความดันโลหิตเป็นการวินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น ส่วนการตรวจคัดกรองมีวัตถุประสงค์เพื่อ...กรองเอาผู้ที่มี "ความเสี่ยง" สูงมาตรวจละเอียดอีกทีหนึ่งว่าเป็นโรค หรือไม่เป็นโรค ทำไมต้องกรองก่อน? ก็เพราะการตรวจวินิจฉัยวินิจฉัยอาจจะมี "ค่าใช้จ่าย" ของมันที่ทำให้การตรวจวินิจฉัยทำได้ยากลำบากขึ้น คำว่า"ค่าใช้จ่าย" อาจจะไม่ได้หมายถึงเงินนะครับ ตัวอย่างของ "ค่าใช้จ่าย" ของการตรวจวินิจฉัยก็ เช่น การเจาะน้ำคร่ำนี่ไงครับ การเจาะน้ำคร่ำมีความเสี่ยงของการแท้งบุตร เป็น"ค่าใช้จ่าย"ที่ไม่ใช่ตัวเงิน เพราะมันประเมินค่าเป็นเงินไม่ได้ นอกจากนี้แล้วถ้าคัดกรองผู้ป่วยมาระดับหนึ่งแล้ว(ผู้ที่ถูกคัดกรองแล้วจะมีโอกาสตรวจพบว่าเป้นโรคมากกว่าคนอื่น) การมาตรวจวินิจฉัยในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง(ซึ่งแทนที่จะต้องไปทำในประชากรมากมาก ก็มาทำในกลุ่มประชากรที่น้อยลง)เป็นการใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงที่สุดครับ
ดังนั้นการที่ผลตรวจผิดปกติเมื่อตรวจคัดกรองจึงไม่ได้แปลว่าจะต้องผิดปกติแน่ๆ แปลได้เพียงว่า มีความเสี่ยง หรือโอกาสมากกว่าคนทั่วๆไปในการที่จะตรวจวินิจฉัยแล้วพบว่าเป็นโรคนั้นๆ ประเด็นเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก...ก่อนทำการตรวจคัดกรอง ผู้ที่แนะนำการตรวจดังกล่าวสมควรจะต้องอธิบาย"ความหมาย"ของการตรวจพบว่า"ผิดปกติ"ว่า ไม่ใช่เป็นโรค และจะดียิ่งขึ้นไปอีกหากอธิบายด้วยว่า การตรวจคัดกรองดังกล่าวมี "ความถูกต้อง(Accuracy)" เท่าใด จริงๆจะมีคำทางสถิติซึ่งค่อนข้างยุ่งยากอีกหลายคำที่...ถ้าหากอธิบายให้เข้าใจได้ก็จะทำให้ผู้ที่รับการตรวจทราบ"ความเสี่ยง"ในการเกิดโรคได้ดียื่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ความจำเพาะเจาะจงของการตรวจ(Specificity) ผลบวกลวง(False positive = การตรวจให้ผลว่าผิดปกติ หรือมีความเสี่ยงว่าจะเป็นโรค แต่พอไปตรวจวินิจฉัยแล้วปรากฏว่าไม่ได้เป็นโรคแต่อย่างใด) ค่า PPV = Positive Predictive Value คือ สัดส่วนของผู้เป็นโรคจริงๆจากผู้ที่การตรวจ(Test)ให้ผลบวก หรือผลผิดปกติ ค่า NPV = Negative Predictive Value คือค่าสัดส่วนของผู้ที่ไม่ได้เป็นโรคจากผู้ที่ผลการตรวจปกติ(Test เป็นลบ) ในโลกที่สมูรณ์แบบเราทุกคนอย่ากจะได้การตรวจที่มีค่าต่างๆดีทั้งหมด แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง...ไม่มีการตรวจแบบนั้นอยู่จริงๆครับ ดังนั้น...จะต้องทราบก่อนว่าการตรวจนั้นมีความสามารถทางด้านใด ทีี่เล่ามาทั้งหมดนี้กำลังจะบอกว่า Triple test มีค่า NPV ค่อนข้างสูง(แปลว่าดีครับ) แต่ค่า PPV ส่วนใหญ่จะต่ำครับ(แปลว่าไม่ดีครับ) หรือพูดให้เป็นภาษาคนทั่วไปก็คือ Triple test มีความแม่ยำในการที่จะบอกว่าไม่เป็นโรคมากกว่าบอกว่าเป็นโรคครับ เอาใหม่...หรือจะพูดว่า ถ้า Triple test ปกติ...โอกาสที่จะมีความผิดปกติของโครโมโซมจะน้อยมาก(Triple test ให้ผลลบไม่ได้แปลว่าจะไม่เป็นอะไรแน่ๆนะครับ) ในขณะที่ Triple test บอกว่าผิดปกติ โอกาสที่จะไม่เป็นโรคก็ยังมีอยู่พอสมควรครับ ในทางการแพทย์เค้าเรียกว่า Test นี้มีความสามารถในการ Ruled out(เอาโรคออกไป) มากกว่า Rule in(บอกว่าเป็นโรค)ครับ
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ค่า PPV หรือ NPV ของ Triple test ในกรณีของเราเป็นอย่างไร? เรื่องนี้คงต้องสอบถามผู้ให้บริการตรวจ Test นั้นๆครับ เพราะมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่มีผลต่อค่าความแม่นยำดังกล่าว เช่น อายุ เชื้อชาติ เป็นต้นผลตามมาอีกประการหนึ่ง...จากการที่ Triple test มีโอกาสให้ผลบวก(ผลผิดปกติ)โดยที่ไม่ได้เป็นโรค..ก็คือ จะต้องมีการตรวจยืนยันอีกครั้ง(Backup test) และสำหรับ Triple test แล้ว ส่วนใหญ่ก็จะแนะนำให้ไปทำการตรวจโครโมโซมของเด็กเลย(เช่น ทำการเจาะน้ำคร่ำ เป็นต้น)
สรุปนะครับสรุป...ที่เขียนมาข้างบนทั้งหมดนี่ก็เหมือนกับที่หลายๆท่านบอกแล้วแหละครับว่า...การตวรจ Triple test "ไม่ใช่" การวินิจฉัยโรค ถ้าผลผิดปกติจะต้องหาการตรวจยืนยันต่อไปครับ

จากคุณ : NaughtyDoc

เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 15:53:16