น่าเห็นใจค่ะ แต่มันเป็นปัญหาหยุมหยิม จะทะเลาะกันตายก็เพราะพวกมือที่สามนี่แหละค่ะ
คิดว่าคุณใจเย็นๆไว้ก่อนดีกว่า ลูกพี่สาวคอยแย่งของและนั่งตัก เกิดจากแกมีความรู้สึกสูญเสียความรัก เพราะแม่กำลังมีน้อง แบบนี้เป็นกันทุกบ้าน แต่เด็กจะมีพฤติกรรมรุนแรงแค่ไหน อยู่ที่ท่าที่ของคนเป็นพ่อ แม่เด็ก ถ้าพ่อแม่แสดงความเป็น สองมาตรฐาน แน่นอนค่ะเด็กต้องแสวงหาความรักที่อื่น โดยมีพฤติกรรมตามที่คุณเล่า
ถ้ามองกันอย่างเข้าใจเด็ก แกน่าสงสารค่ะ แต่ตัวแปรที่แย่มากๆคือแม่สามี ครอบครัวพี่สาว ไม่เคยเรียนรู้อะไรหรือหาข้อมูลเลยหรือว่า ควรปฏิบัติอย่างไร กับลูกคนโต เมื่อกำลังมีน้อง ส่วนสามีก็อยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถึงอย่างไร นี่ก็แม่ พี่สาว และนี่ก็เมียและลูก สามีคุณต้องตามใจพี่สาวคงไม่อยากมีปัญหากับแม่ ถึงอย่างไร แม่ พี่ หรือ น้อง เขาคงตัดกันไม่ขาด เมื่อมีครอบครัวกันแล้วก็ไม่ควรให้เข้ามาก้าวก่ายจนเกินไปนัก เหตุการณ์แบบนี้ ถ้ามีบ่อยๆ ก็คงต้องจับเข่าคุยกันหาทางแก้ไข แล้วบอกตรงๆไปว่า เป็นแบบนี้เราอึดอัด และควรสอนให้เด็กทั้งสองคน รู้จักการแบ่งปัน ไม่ใช่เรียกร้องให้เด็ก แปดเดือนเสียสละ แม่สามีก็ทำอย่างนี้ไม่ถูกค่ะ ควรเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย ให้เด็กสองคนเล่นกันให้ได้ ไม่ใช่อุ้มคนเล็กหนี เป็นการทำร้ายจิตใจลูกคุณนะคะ ต่อไปกลัวจะเป็นเด็กก้าวร้าว
เรื่องแบบนี้ ครั้งสองครั้งไม่ค่อยเท่าไร ถ้าเกิดขึ้นเป็นประจำ เป็นผลเสียกับเด็กทั้งสองคน เรื่องนี้อยู่ที่คนกลางคือสามีคุณแล้วค่ะ สิ่งที่ทำคือ น้ำขุ่นไว้ในน้ำใสไว้นอก พยายามเบี่ยงเบนให้พ่ออยู่ใกล้ชิดลูกมากๆ ลูกกำลังน่ารัก คงไม่ดิดรักลูกคนอื่นมากกว่าค่ะ แต่ที่ทำไปคือไม่อยากมีปัญหากับแม่ ที่แน่ๆ ทำอย่างไร จะกำจัดแม่ผัวให้เข้ามาวุ่นวายในครอบครัวเราน้อยๆหน่อย
ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โต หยุมหยิม แต่กวนใจ ทำให้หงุดหงิด กดดัน มากๆเข้าจะกลายเป็นคลื่นใต้น้ำ ขาดความสุขในครอบครัวได้ เมื่อคุณแสดงปฏิกิริยามากเกินไป ก็จะกลายเป็นที่เบื่อหน่ายของสามีได้ ดังนั้น จะทำอะไรก็ให้เนียนๆ และรอบคอบ
วันหยุดหากิจกรรมนอกบ้านสำหรับครอบครัวคุณค่ะ ถ้าจะพาใครพ่วงไปด้วย ก็กระซิบสามีหวานๆ ว่า ขอเป็นเวลาครอบครัวจริงๆ
ผิดมากหรอ ที่อยากให้ลูกเป็นผู้เสียสละ
