Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ถ้าให้ลูกกินนมแม่ได้ก็ไม่ให้กินนมผงหรอก จะห้ามโฆษณาทำไม ติดต่อทีมงาน

มีหลายคนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีการจัดการ ควบคุม การโฆษณา ทำการตลาด ของบริษัทนมผง ก็คนไม่มีนมให้ลูกกินแล้วจะรู้ได้ไงว่าจะกินนมอะไรถ้าไม่โฆษณา

(แตกกระทู้ไปที่นี่ค่ะ http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N11129720/N11129720.html)

(แนะนำก่อนว่าถ้าใครสงสัยหรือกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เชิญที่ www.thaibreastfeeding.org หรือเฟซบุคเพจนมแม่ค่ะ)
**กิ๊ฟหมดแล้วนะคะ^^ ขอบคุณค่ะ

**ขอบคุณทุกท่านที่โหวตให้นะคะ

ลองอ่านบทความนี้นะคะ

การตลาดของนมผงที่มีการแจกนมผงตัวอย่างฟรีแก่แม่หลังคลอด โฆษณาในทุกสื่อ เป็นการตลาดที่ไร้จริยธรรมหรือไม่

(คัดลอกจากบันทึกของ พญ.ศิริพัฒนา ศิริธนารัตนกุล คุณหมอผู้รู้จริงเรื่องนมแม่ ค่ะ)

 นมผงสำหรับทารกไม่ใช่สินค้าโดยทั่วไป แต่เป็นอาหารที่จะต้องเข้าสู่ร่างกายทารกที่ยังแบบบาง การตลาด­­ของสินค้าที่อาจมีผลกระทบต่อทารกเล็กๆ จึงไม่ควรจะเหมือนกับการตลาดของสินค้าทั่วไป  

 ความจริงข้อที่1   “เมื่อไรที่ทารกเริ่มได้กินนมผง   ยากที่จะเปลี่ยนกลับมากินนมแม่”  

 นมผงที่แจกให้แม่หลังคลอด เพื่อให้แม่มีไว้ใกล้ๆมือ เมื่อไรที่เริ่มชงให้ลูกแรกเกิดที่กำลังร้องกิน เท่ากับเริ่มติดกับดักขั้นแรก      บริษัทนมรู้ดีเท่าๆกับที่หมอเด็กรู้ดีว่า เมื่อไรก็ตามที่ทารกแรกเกิดได้ดูดนมจากจุกนมยาง เมื่อนั้นทารกจะเริ่มเรียนรู้ว่า นมนั้นไหลง่ายอย่างกับน้ำก๊อก ไม่ต้องออกแรงเท่าไรเลย แสนจะสบาย  (คนเราติดความสบายมาตั้งแต่แรกเกิด)

ถ้าลองให้ลูกแรกเกิดได้ดูดนมผงจากขวดบ่อยๆ   พอให้ดูดนมจากอกแม่ก็จะไม่ดูดแล้ว แม่จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “มันไม่ทันใจน่ะคุณหมอ  ดูดจากเต้านมไหลไม่ทัน “       เราก็จะคิดอยู่ในใจว่า ก็จะต้องไปกินไอ้ที่มันไหลเร็วๆทำไมล่ะ  ลูกเขาไม่ได้ต้องการเลยนะ  พ่อแม่ต่างหากที่ไม่เข้าใจ ไปยัดเยียดให้เขาดูดจากจุกตั้งแต่แรก  ลูกแรกเกิดมีอะไรใส่ปากก็ดูดทั้งนั้นแหละ  ถ้าในโลกนี้ไม่มีจุกหรือขวดนมเสียอย่าง เวลาลูกร้อง แม่ก็จะต้องพยายามหาวิธีให้ลูกกินนมจากเต้าให้ได้   การที่มีขวดกับนมผงอยู่ใกล้มือ ทำให้บริษัทนมมีโอกาสที่จะได้ลูกค้าเพิ่มค่อนข้างสูง   และเป็นลูกค้าชั้นดีเสียด้วย เพราะจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้ต่อไปอีกอย่างน้อย  1 ปี โดยไม่ยอมเปลี่ยนยี่ห้อง่ายๆ   Brand loyalty ค่อนข้างดี ดังนั้นใครชิงลูกค้าได้ตั้งแต่ต้น กำไรเห็นอยู่เหนาะๆ
 
 ไร้จริยธรรมขั้นแรก คือ รู้ว่าถ้าได้ดูดนมผงจากจุกขวด จะดูดนมแม่ได้น้อยลง หรือไม่ดูดเลย แต่ก็ยังแจกเอานมผงนั้นไปไว้ข้างเตียงแม่หลังคลอดให้หิ้วกลับบ้าน  (เพราะรู้ว่าที่บ้าน ถ้าไม่มีใครคอยให้กำลังใจ เดี๋ยวลูกร้องคงได้ชงนมผงแน่)  

  อาจจะมีคนแย้งว่า  ก็ถ้าแม่ไม่มีนมจริงๆจะให้ทารกอดตายหรือ   ในทารกที่คลอดครบกำหนดปกติจะมีไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังเป็นพลังงานสำรองอยู่แล้ว  ไม่ต้องกินอะไรเลย  7 วันก็ยังมีชีวิตรอดได้  ในวันแรกๆ น้ำนมแม่น้อยจริง แต่เพียงพอกับลูกวัยนั้นซึ่งไม่ได้ต้องการนมเยอะเป็นออนซ์ๆอย่างที่เราคิด   ลูกต้องการความอบอุ่นจากอกแม่ ซุกไซ้กอดกันทั้งวันทั้งคืน  หิวก็ดูดจากเต้า ทารกมีสัญชาติญาณที่จะคลานบนอกแม่ขึ้นไปหาเต้านม และอ้าปากออกงับเต้านม  เพียงแต่เราต้องให้โอกาสแม่ลูกได้อยู่ด้วยกัน ทำความรู้จักกัน โดยไม่ต้องมีสิ่งใดมา­ขวางกั้น
 
เอ๊ะ! แล้วมีใครคิดถึงสุขภาพของทารกกันบ้างหรือยัง   ลูกแรกเกิดยังพูดไม่ได้ ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ มีแต่พ่อ แม่ หมอ ที่จะต้องคอยทำหน้าที่นี้ให้  ตอนที่ลูกยังอยู่ในท้อง แม่จะกินอาหาร หรือยา อะไร ก็จะระมัดระวังตัว ไม่กินยาโดยไม่จะเป็น  หมอจะให้ยาในแม่ท้องก็ต้องคิดแล้วคิดอีก   แต่พอทารกคลอดออกมาปุ๊บทำไมเราจึงเอานมผงที่ทำจากนมวัว(เติมสารชื่อหรูๆหลายอย่าง ผ่านขบวนการผลิตจากโรงงาน)มาให้ทารกกินโดยไม่คิดระวังอะไรเลย  ทั้งๆที่ทารกแรกคลอดยังเปราะบาง เซลล์ในร่างกายยังเจริญไม่เต็มที่ยังมีโอกาสจะเปลี่ยนแปลงพัฒนาไปได้อีกมาก   แล้วถ้าเราให้อาหารที่เป็นของแปลกปลอมเข้าร่างกายของทารก เราจะรู้ได้อย่างไรว่า สารเหล่านั้นจะมีบางอย่างไหมที่อาจจะไปทำอันตรายต่อเซลล์ที่ยังอ่อนๆเหล่านั้นทำให้อาจจะพัฒนาผิดแผกไปจากที่ควรจะเป็น

(มีต่อ)

แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 54 07:56:56

แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 17:23:45

แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 54 12:46:08

 
 

จากคุณ : joymacy
เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 54 12:25:15




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com