ความคิดเห็นที่ 1 คงจะเป็นโรงเรียนเอกชน ที่มี 3 ระดับ ใช่ไหมค่ะ ดิฉันสอนโรงเรียนรัฐบาล ที่มี 2 ระดับ รับเด็กที่มีอายุ ย่างเข้า 4 ขวบ บางคนยังจับปากกาไม่เป็นเลยค่ะ ระบายสียังเลอะเทอะ เขียนตามรอยยังไม่ตรงเลยค่ะ แต่รัฐบาลไม่แน่เรื่องนี้มาก เท่ากับพัฒนาการตามวัย คือ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ค่ะ พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อเล็ก และใหญ่ ให้ทำกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนา ส่วนเรื่องการเขียนอ่าน เป็นเรื่องที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่อยากให้ทำได้ ทางโรงเรียนก็มีการบ้าน เช่น เขียนกอไก่ เลข ตามรอย เอาใจผู้ปกครอง ตามหลักแล้ว เด็กจะมีพัฒนาการที่ไม่เท่ากันค่ะ คนหนึ่งอาจจะเขียนได้แล้ว แต่อีกคนเขียนยังไม่ได้ ถ้าเค้าเริ่มจับดินสอมั่นคง เขียนตามรอย หรือ ระบายสีได้แต่ยังไม่ตามช่อง ก็ถือว่าเค้ามีพัฒนาการแล้วค่ะ อย่าเพิ่งไปเร่งลูกมากมายเลยค่ะ เพราะถ้าเค้าโตขึ้น เค้าจะเบื่อกับการบังคับที่เค้าเคยโดนมาจนไม่อยากทำอะไรเลยก็ได้นะค่ะ เรื่องพัฒนาการของเด็กต้องค่อยเป็นค่อยไปค่ะ คุณแม่ลองหากิจกรรม หรือว่าลองค้นหาในอินเตอร์เนตดูนะค่ะ เรื่องนี้อาจมีทางออกค่ะ จากคุณ : จอมยุทธลำน้ำปิง เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 11:19:43

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาติดตามคนที่จะตอบกระทู้ด้วยค่ะ เนื่องจากเริ่มกลุ้มใจเหมือนกัน เพราะว่าลูกคนโตกำลังจะเข้าเรียนอนุบาลให้ไปสอบที่แรกซึ่งเน้นวิชาการล้วนๆ ก็สอบไม่ติด ข้อสอบมีดังนี้ค่ะ (ขอเล่านิดนึงนะ) 1. ให้คุณแม่เล่านิทานแล้วตอบคำถามให้ได้ 5 ข้อ ---> ตอบไม่ได้เลยซักข้อ 2. ตอบว่ามีรูปอะไรบ้างที่ลูกรู้จัก เช่น เด็กกำลังรดน้ำต้นไม้ ดอกไม้ เด็กกำลังล้างรถ --> ตอบได้ 2 ข้อ 3.บอกรูปโจรฉกกระเป๋า กับ รูปตำรวจจับโจร ว่ารูปไหนเกิดก่อน --> ไม่ได้ 4.ชี้ต้นไม้ที่สูงที่สุด เตี้ยที่สุด -->ได้ 5.บอกว่าบอลกับว่าว อะไรเบากว่า --> เดาได้ อิอิ 6.ตักลูกปัด2ลูกด้วยช้อนชาใส่กระป๋องแล้วปิดฝา --> ได้ ตอนเล่านิทานลูกไม่ฟังเลยค่ะ มัวแต่ดูรอบๆ ห้อง คุณแม่เริ่มเครียดว่าเป็นเพราะตัวเองเล่าไม่เก่งลูกเลยไม่สนใจ นี่เหลืออีก 2 รร. ที่จะไปสอบประมาณต้นเดือนพ.ย.ไม่รู้ว่าจะได้ที่ไหน ส่วนที่แรกนี่เริ่มตัดใจแล้วว่าน่าจะไม่เหมาะกับลูก เรื่องเรียนพิเศษ เคยคิดค่ะว่าจะให้เรียน คุมองเพราะที่ตรังมี เห็นมีเด็กเรียนเยอะเหมือนกัน ส่วนภาษาก็มีแต่ต้องรอให้ครบ 4 ขวบก่อน คือที่เรียนพิเศษของเด็กคุณครูเค้าจะมีเทคนิคสอนไม่ให้เด็กเครียดแต่เราเองคงต้องจัดเวลาอย่าให้ลูกเรียนติดๆ กันทุกวัน หรือใช้เวลาในแต่ละวันนานเกินไป เค้าคงอยากอยู่กับพ่อแม่บ้าง อยากเล่นบ้าง เรื่องดูการ์ตูน บอกตรงๆ ว่าไม่เคยให้ดูเลย กลัวเค้าติดแล้วงอแงน่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ ที่อ่านจนจบ อาจช่วยได้บ้าง ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงลูกค่ะ เอาใจช่วย จากคุณ : โอ๋ (iloveumy2m) เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 11:26:09

ความคิดเห็นที่ 3 ลูกชาย เรียน อ.1 รร.แนววิชาการ มีสอบ แต่ว่ายังไม่ทราบผลสอบ และที่ รร.ไม่มีการจัดลำดับที่ สำหรับเราไม่เน้นวิชาการในระดับอนุบาล เอาแค่ให้สนุกกับการไปโรงเรียน รู้หน้าที่และปรับตัวกับการไป รร. เช่น ต้องนอนหัวค่ำ ตื่นเช้า อาบน้ำ แต่งตัว กินอาหาร ไปโรงเรียน เล่นกับเพื่อนอย่างสนุกและปลอดภัย ทำการบ้าน เราไม่ได้ให้ลูกเรียนพิเศษการบ้านตอนเย็น หรือเสริมศักยภาพวันเสาร์เลยค่ะ ก่อนสอบคุณครูมีชีทมาให้ผู้ปกครองช่วยติวเสริม เราก็ให้ลูกทำ พยายามทำบรรยากาศให้เหมือนเล่นเกมส์ ถ้าลูกไม่อยากทำ เราจะบอกว่าเก็บเลยไม่ต้องทำแล้ว ส่วนใหญ่ลูกจะกลับไปทำเองเพราะกลัวไม่มีส่งคุณครู ปิดเทอม ยังไม่ได้เรียนเสริมอะไรค่ะ เล่นกันที่บ้าน ( เราเป็นแม่ full time ) กับพาเที่ยวต่างจังหวัด เรียนรู้นอกห้องเรียนบ้าง ^ ^ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 11:35:41 จากคุณ : ระแนงไม้ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 11:33:14

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณทุกๆ ความเห็นนะคะ บอกตรงๆ ตอนนี้กำลังสับสนอยู่น่ะแหละค่ะ ว่าการที่เราพยายามสอนลูกนี่ มันถูกต้องแล้วหรือ แล้วจะทำอย่างไรให้มันพอดีๆ เด็กไม่เครียดเกินไป แล้วก็ไม่หย่อนเกินไป บางครั้งคุณแม่เห็นลูกทำไม่ได้ก็รู้สึกเครียด ว่าจะสอนอย่างไรดี ดุเขาบ่อยๆ ก็กลัวเขาจะเสียความมั่นใจในตัวเอง จากก่อนหน้านี้ เขาเป็นเด็กที่อารมณ์ดี สดชื่น สดใส ก็นึกกลัวว่าเราจะทำผิดหรือเปล่า มาสอนเขาแบบนี้ กลายเป็น ต้องมางอแงกันทุกวัน บ่นไม่อยากทำๆ ตอนนี้ได้แต่หวังว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงปรับตัว หลังจากนี้พออยู่ตัวแล้วจะไม่งอแงอีกน่ะค่ะ ================================= คุณจอมยุทธลำน้ำปิง ใช่ค่ะ น้องเรียนโรงเรียนอนุบาลเอกชน มี 3 ระดับค่ะ ตอนนี้น้องจับดินสอได้ดีค่ะ แต่ยังเขียนตามรอยประออกนอกเส้นอยู่ค่ะ หลังจากคุณแม่คุมเข้ม บอกว่าเขียนออกนอกจะลบออกให้เขียนใหม่ เขาก็เขียนได้ดีขึ้น แต่ยังออกนอกเส้นอยู่บ้างค่ะ ดูเหมือนจะติดรีบ ไม่อยากนั่งทำงานนานๆ แต่พอคุณแม่เผลอทีไร เขาจะรีบเขียน แล้วก็จะเขียนเละทุกทีเลย ระบายสิยังได้ไม่ตามช่อง ออกนอกกรอบอยู่ คงต้องค่อยๆ ฝึกฝนต่อไป แต่คุณแม่ก็ไม่ซีเรียสมาก เรื่องเขียน คิดว่าคงค่อยๆ ได้ ตอนนี้กังวลเรื่องเวลาทำการบ้านแล้วเขาไม่ค่อยเข้าใจโจทย์ว่าให้ทำอะไร กับการที่เขาไม่ค่อยมีสมาธิมากกว่าน่ะค่ะ คงต้องพยายามกันต่อไป ================================= คุณโอ๋ อ่านข้อสอบแล้วคิดว่า เจ้าลูกสาวเราคงทำไม่ได้เหมือนกันแน่เลย 555 เขาติดเล่น ไม่ค่อยมีสมาธิ เวลาเล่านิทานให้ฟังที่บ้าน นั่งฟังไม่ค่อยได้จบ ลุกไปโน่นไปนี่ตลอด วันแรกที่ห้ามดูการ์ตูน นี่ฟาดหัวฟาดหาง ร้องไห้ไปหลายตลบ เห็นลูกเราเป็นงี้แล้วเศร้า เฮ้อ ================================= คุณระแนงไม้ เป็นความผิดพลาดของเราเองน่ะค่ะ ว่า เราปล่อยให้พี่เลี้ยงสอนการบ้าน พี่เลี้ยงอาจจะใจร้อน พอทำไม่ได้ แล้วเขาก็บอกคำตอบไปเลย ทำให้เด็กไม่ค่อยได้คิดเอง พอเรากลับมา แค่ดูเห็นว่าเขาทำเสร็จแล้ว ก็ไม่ได้มาทบทวนอีกครั้ง (ช่วงแรกๆ พยายามทำอยู่ แต่น้องเขาก็ไม่ยอม บอกทำเสร็จแล้วๆ ตอนหลังเลยเลิกไป) พอรู้ผลสอบแล้ว เราเอาชีทที่ลูกเคยทำออกมาให้ทำใหม่ ลูกเราเขาทำไม่ได้เท่าไหร่เลย เฮ้อ เห็นแล้วกลุ้ม รู้สึกเสียใจ เราเป็นแม่ที่แย่หรือเปล่าเนี่ยไม่เอาใจใส่ลูกเลย เทอมหน้าคุณแม่เอง คงต้องปรับปรุงตัวใหม่มาสอนการบ้านเองแล้ว หวังว่าถ้าได้สอนการบ้านเองแล้วจะดีขึ้นนะคะ   เรื่องทำการบ้าน บางวันพอเขาไม่ยอมทำแล้ว คุณแม่บอกว่าเก็บเลย เขาก็เก็บจริงค่ะ คุณแม่ก็ปล่อยให้เอาไปโรงเรียนทั้งที่ทำไม่เสร็จ ดูเขาก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่ เลยไม่รู้จะทำยังไง แต่ว่าเรื่องให้ทำเหมือนเล่นเกมส์นี่ เดี๋ยวจะลองพยายามดูใหม่ค่ะ เราอาจจะสอนน่าเบื่อเกินไปก็ได้ จากคุณ : หัวกลม เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 14:19:08

ความคิดเห็นที่ 5 เราทำงานทั้งวันกว่าจะกลับถึงบ้านก็เกือบ 2 ทุ่ม กลับมาก็ต้องกวาดบ้าน ถูบ้าน แปรงฟันและเช็ดตัวให้ลูก แล้วก็พาขึ้นนอน ตอนเย็นเด็ก ๆ กลับมาอยู่กับยายค่ะเราเลยตัดปัญหาเรื่องการบ้าน เราให้ลูกเรียนพิเศษที่โรงเรียนช่วงเย็นค่ะ ประมาณ 1 ชม. ไม่ได้เรียนอะไรมากแค่สอนทำการบ้าน ระบายสี จากคุณ : อยากเป็นแม่ที่ดี เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 15:22:01

ความคิดเห็นที่ 6 มาเพิ่มเติม จขกท คงต้องลองประเมินและหาจุดยืนของตัวเอง เรารู้จักแม่ ๆ หลายคนเข้มงวดกวดขันเรื่องการเรียนของลูกวัยอนุบาลมาก ตั้งใจจะให้ไปสอบแข่งขันที่นั่นที่นี่ ส่วนเราเป็นพวกเน้นสนุกสนาน วันจันทร์จะสอบ วันเสาร์-อาทิตย์เรายังพาเที่ยวทะเลก่อนสอบ ^ ^ โดนแม่ ๆ กลุ่มแรกค่อนขอดอยู่พอสมควร แหะ ๆ ... แต่สำหรับเราจะเป็นกลุ่มไหนคงไม่มีถูกผิด ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นและความเหมาะสมของแต่ละครอบครัว มีแม่ ๆ เพื่อนลูกหลายคน ตัดปัญหาให้เรียนพิเศษการบ้านที่ รร. เพราะจนใจสอน อยู่กับครูใช้เวลาทำการบ้าน 5-10 นาที แต่อยู่กับแม่เป็นชั่วโมง พูดดีก็แล้ว ดุก็แล้ว สารพัด อย่างเรื่องเขียนตามเส้นประ เราไม่ค่อยชอบ ชอบให้เขียนเอง แต่ก็มีการบ้านเขียนตามเส้นประ เราจะปล่อยให้ลูกเขียน พอเสร็จแล้วมาช่วยกันดู ให้ลูกดูว่าตัวไหนเขียนไม่ตรงเส้น ให้เลือกซัก 3 ตัว แล้ว ลบ เขียนใหม่กันไป เราไม่เข้มงวดเรื่องเขียนไม่ตรงเส้นค่ะ เราเน้นให้ลูกเขียนให้เป็นเขียนให้ถูกต้องมากกว่า ดูแล้วที่ลูกเขียนตามเส้นประ ก-ฮ ลูกจะสนใจแต่เขียนให้ตรงตามเส้นประเท่านั้น ลูกไม่ได้จำว่าต้องเขียนยังไง พอไม่มีเส้นประไปไม่เป็นเลยทีเดียว ตอนนี้ลูกชายจะทำเรื่องอนุกรมไม่ได้ค่ะ เช่น 1 2 1 2 ตัวต่อไปคืออะไร แม่สอนแล้ว ... ไม่ได้ พ่อสอนแล้ว ... ไม่ได้ เลยพักไว้ก่อน 555 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 15:32:47 จากคุณ : ระแนงไม้ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 15:26:18

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณอีกทีนะคะ จริงๆ การมาเขียนกระทู้มันก็ช่วยได้นะ เหมือนกับได้คิดทบทวนอีกที หายเครียดไปเยอะเลย พอแม่สอนแบบเครียดๆ ลูกก็คงไม่อยากเรียน เมื่อวานนี้ลองสอนเขาแบบขำๆ ให้่เขาเป็นครูสอนแม่หน่อย ทำไปหัวเราะกันไป แต่ว่าก็ยังไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่หรอกนะคะ เหมือนเดิม ทำได้ 2 ข้อ ก็วิ่งไปเล่นตุ๊กตา แต่ว่าท่าทางเขามีความสุขมากขึ้น แม่บอกว่าทำไม่ได้มาสอนหน่อยเร็ว เขาก็รีบวิ่งมาสอนแม่ คิดว่าน่าจะพอจับแนวได้ละ คงต้องสอนกันประมาณนี้กับเด็กที่ฮาๆ คงต้องค่อยๆ สอนกันไปแบบฮาๆ จะจับเขามานั่งเรียบร้อยตั้งใจทำงานแบบเด็กคนอื่นเขาคงทำไม่ได้ จากคุณ : หัวกลม เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 09:55:03