|
From : tiny [26 กันยายน 2554 08:09] สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันตามอ่านความเห็นของคุณหมอในห้องชานเรือนมาซักระยะตั้งแต่เริ่มตั้งครรรภ์ ต้องขอขอบคุณสำหรับความเห็นที่มีประโยชน์ของคุณหมอมากๆ นะคะ ... มีเรื่องจะรบกวนถามคุณหมอค่ะ ตอนนี้ดิฉันกำลังเป็นกัววลใจกับผลตรวจโครโมโซมจาก FISH ที่พึ่งได้มาคือจากเซลล์น้ำคร่ำจำนวน 50 เซลล์ ตรวจพบ Trisomy 18 อยู่ 2 เซลล์ จนท แลบโทรมาบอกผล FISH เท่านี่ค่ะ แล้วบอกว่าไม่มีผลกระทบต่อทารก ซึ่งอาจจะมาจากเซลล์ของอย่างอื่นที่ไม่ใช่ของทารก และไม่ได้บอกเพศด้วยค่ะ ดิฉัีนก็เอะใจว่ามีอะไรผิดปกติมั๊ย เค้าบอกให้รอผล final กับการตรวจน้ำคร่ำทั้งหมดเพื่อคอนเฟิร์มผลในอีกหนึ่งอาทิตย์หน้า ดิฉันก็หาข้อมูลมากมายเจอเรื่อง Confined placental mosaicism ซึ่งส่วนมากจะตรวจเจอจาก CVS ซึ่งผลของดิฉันมาจากน้ำคร่ำค่ะ ก็เลยกังวลใจว่าเซลล์ 2 ตัวนั้นจะมาจากตัวทารกด้วย ไม่ทราบว่าการตรวจ FISH นี่ใช้ diagnose CPM เลยหรือไม่ค่ะ เพราะทางเจ้าหน้าที่บอกว่าให้สบายใจได้ ว่าไม่มีผลกระทบต่อทารก 99% แต่ดิฉันก็อดไม่สบายใจอยู่ดี รบกวนคุณหมออธิบายเรื่องความเป็นไปได้ของ CPM และโอกาสที่ลูกของดิฉันจะปกติมีแค่ไหนคะ ขอบคุณมากๆ ค่ะ
==========================================================
เรื่องที่คุณ tiny สอบถามเป็นเรื่องที่...ค่อนข้างเข้าใจยากครับ ที่ประหลาดใจอีกอย่างก็คือ...ปกติผลการตรวจจะไม่แจ้งทางโทรศัพท์ และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ...ควรจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญทางพันธุศาสตร์เป็นผู้อธิบายผลมากกว่าจะให้เจ้าหน้าที่แล็บมาเป็นคนบอกครับ เข้าใจเอาเองว่าคุณtiny มีพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์มาพอสมควร สังเกตจากที่เรียบเรียงเรื่องราวเกี่ยวกับการวินิจฉัยก่อนคลอด(Prenatal diagnosis) ได้ค่อนข้างดี อย่างไรก็ตามหากคำอธิบายของผมทำให้สับสนก็ต้องขอโทษมาณ.ที่นี้ด้วยครับ
FISH ย่อมาจาก Fluorescence In Situ Hybridization คือการตรวจทางพันธุกรรมในห้องปฏิบัติการวิธีหนึ่ง โดยนำสีฟลูออเรสเซ้นส์ไปติด(Tag) กับตัวคัดกรอง เรียกว่า Probe ที่ต้องการ แล้วนำไปย้อมที่เซลล์ที่ต้องการตรวจ หาก Probe ที่ใช้ เช่น Probe สำหรับตรวจโครโมโซมคู่ที่ 18 Probe นำไปใช้ย้อมเซลล์ หากพบว่าเซลล์ติดสีฟลูออเรสเซ็นส์ 2 จุด ก็จะแสดงว่าเซลล์นั้นปกติ(ปกติคนเราจะมีโครโมโซมเป็นแท่ง คนปกติจะมีโครโมโซมสองแท่งเป็นคู่กันโดยได้รับมาจากมารดาหนึ่งอัน และบิดาหนึ่งอัน)
แต่ถ้าติดสีเป็น 3 จุด ก็แปลว่าเป็น Trisomy 18 ครับ ข้อดีของ FISH ก็คือรวดเร็ว เพราะหากเจาะน้ำคร่ำ(Amniocentesis)มา จะต้องเพาะเลี้ยงเซลล์ก่อน(Cell culture)ซึ่งต้องใช้เวลา 2-3 สัปดาห์กว่าจะทราบผล หากนำเทคนิค FISH มาใช้ก็จะทราบผลได้เลย ข้อเสียก็คือ จะตรวจได้เฉพาะ Probe ที่ใช้เท่านั้น (ในขณะที่ถ้าตรวจโครโมโซมแบบย้อมสีปกติจะเห็นโครโมโซมทุกตัว)
เช่น ถ้าใช้ Probe 18 มาจับก็จะทราบว่า Chromosome 18 ผิดปกติไหม แต่โครโมโซมตัวอื่นจะไม่รู้ ซึ่งอธิบายว่า...ทำไม ไม่ได้บอกเพศ ด้วย นั่นคือไม่ได้ใช้ Probe ที่เป็นโครโมโซม X หรือโครโมโซม Y มาจับครับ
Mosaic หรือ Mosaicism คือการที่มีมากว่า 1 Cell line อยู่ในคนๆเดียวกัน ปกติเราทุกคนพัฒนามาจากเซลล์ที่เกิดจากการปฏิสนธิเพียงเซลล์เดียว แล้วแบ่งตัวเพิ่มจำนวนไปเรื่อยๆ ดังนั้น...เราก็น่าจะมีทุกเซลล์ในร่างกายเหมือนกัน ชุดของเซลล์ต้นกำเนิดแล้วแบ่งตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราเรียกว่าเป็น Cell line ครับ ถ้าคิดแบบนี้เราควรจะมีเซลล์ไลน์เหมือนกันหมด เช่น เป็น 46,XX หรือ 46,XY แต่ในความเป็นจริงในบางคนจะมีมากกว่า 1 Cell line เราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า Mosaic ครับ เช่น ถ้าเขียนว่า 46,XX/45,XO แปลว่าคนนี้มีเป็น Mosaic โดยที่มีเซลล์ไลน์ปกติ(46,XX) ร่วมกับเซลล์ไลน์ที่เป็นกลุ่มอาการเทอเนอร์(Turner syndrome = 45,XO) โดยทั่วไปแล้ว Mosaic ที่พบบ่อยที่สุดคือ Mosaic ของ Trisomy คือมี Cell line ที่มีโครโมโซมเกินมา 1 อัน
Mosaic แท้หรือเทียม?
สิ่งแรกที่จะต้องพิจารณาก่อนเลยเมื่อพบ Mosaic ก็คือ มันเป็นของแท้หรือเปล่า เราเรียกว่า True Mosaic แต่ถ้าเป็นของปลอมเราจะเรียกว่า PseudoMosaic(Pseudo = เทียม, เสมือน) ของแท้(True Mosaic)ก็หมายถึงว่าเป็น Mosaic จริงๆ ในขณะที่ของเทียม(Pseudomosaic)ไม่ใช่ Mosaic จริงๆ เป็นความผิดพลาดในกระบวนการทางห้องปฏิบัติการ Pseudomosaic เกิดจากอะไร?
ในกรณีของการตัดเนื้อรกไปตรวจ(CVS) มีการตรวจโครโมโซมได้สองแบบคือ ทำเดี๋ยวนั้นได้เลย โดยตรวจจากเซลล์ที่ได้มาจากการทำ CVS โดยตรง(Direct analysis) หรือตรวจจากเซลล์ที่ได้มาจากการทำ CVS แล้วนำไปเพาะเลี้ยงอีกทีหนึ่ง(Cultured analysis) พบว่าโอกาสจะเกิด Pseudomosaic จะพบได้บ่อยขึ้นหากทำการตรวจโดยตรง(Direct analysis)มากกว่าจากการตรวจจากเซลล์เพาะเลี้ยง
กรณีการตรวจพบ Mosaic จากการเจาะน้ำคร่ำนั้น...จะมีโอกาสผิดพลาดน้อยกว่า เพราะ ส่วนใหญ่แล้วเวลาเจาะน้ำคร่ำไปตรวจจะนำเซลล์ที่ได้ไปเพาะเลี้ยงก่อนนำมาวิเคราะห์(Cultured analysis) การบอกว่าเป็น Pseudomosaic หมายถึงว่าเซลล์ที่เพาะเลี้ยงเพียงหนึ่งหลอดเท่านั้น(จากหลายๆหลอด)ที่พบว่ามี Mosaic เชื่อว่าเป็นความผิดพลาดทางห้องปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม...ความผิดพลาดของแต่ละห้องปฏิบัติการนั้นมีได้แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับห้องปฏิบัติการนั้นมีการควบคุมคุณภาพ(Quality control)ดีแค่ไหน
Mosaic เป็นเรื่องที่น่าปวดหัวมากครับ เพราะไม่ใช่ว่า Mosaic ทุกรายจะเหมือนกัน แม้ว่าจะเป็น Mosaic ของโครโมโซมคู่เดียวกันก็ตามทีครับ องค์ประกอบที่จะต้องนำมาพิจารณาว่า Mosaic รายนี้จะมีการพยากรณ์โรคเป็นอย่างไรนั้น...ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างครับ ได้แก่
1. โครโมโซมที่เกิด Mosaic เป็นโครโมโซมคู่ที่เท่าใด เพราะบางโครโมโซมหากเกิด Mosaic แล้วจะมีอันตรายมากกว่าบางโครโมโซม
2. เนื้อเยื่อที่เกิด Mosaic เนื่องจาก เนื้อเยื่อแต่ละชนิดอาจจะเกิด Mosaic ไม่เท่ากัน เช่น ที่ผิวหนังอาจเกิด Mosaic แต่ในเซลล์เม็ดเลือดขาวอาจจะไม่เกิด Mosaic ก็ได้ครับ
3. สัดส่วนของ Mosaic หมายถึงเปอร์เซ็นต์ของเซลล์ไลน์ที่ผิดปกติว่ามีมากหรือเปล่า หากมีมากโอกาสเกิดความผิดปกติที่แสดงออกมาให้เห็นก็จะมากกว่าพวกที่มีเปอร์เซ็นต์ของเซลล์ที่ผิดปกติน้อย ตัวอย่างเช่น ถึงจะเป็น Mosaic 46,XY/47,+21 เหมือนกัน แต่คนหนึ่งมีเปอร์เซ็นต์ของเซลล์ไลน์ที่ผิดปกติ(47,+21)มากกว่า ก็จะมีอาการมากกว่าอีกคนที่มีเซลล์ไลน์ที่ผิดปกติน้อยกว่าครับ
4. วิธีที่ใช้ในการตรวจพบ Mosaic ทั้งนี้เพราะว่าโอกาสตรวจเจอ Mosaic จากการตัดเนื้อรกมาตรวจ(Chorionic Villous Sampling = CVS) การเจาะน้ำคร่ำ(Amniocentesis) หรือการเจาะเลือดทารกในครรภ์มาตรวจ(Fetal Blood Sampling) มีไม่เท่ากันครับ โดยที่โอกาสเจอ Mosaic จากการทำ CVS พบได้สูงสุดคือ 1-2% ในขณะที่ถ้าทำการเจาะน้ำคร่ำ จะมีโอกาสเจอ Mosaic เพียง 0.1%(1 ใน 1,000)เท่านั้น
5. การตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อหาความพิการแต่กำเนิด หมายถึงว่า...ถ้าพบ Mosaic จำเป็นจะต้องตรวจทารกในครรภ์อย่างละเอียดว่ามีความพิการอะไรหรือไม่ ถ้าไม่มีก็น่าจะค่อนข้างดีครับ
6. มีหรือไม่มี Uniparental disomy เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน จะขอข้ามไปก่อนนะครับ เดี๋ยวจะกล่าวถึงตอนท้ายอีกที
7. มีรายงานทางการแพทย์ที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับ Mosaic ของโครโมโซมคู่นั้นหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องค่อนข้างสำคัญครับ เพราะดังที่บอกแล้วว่า Mosaic มีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง การที่จะเข้าใจ Mosaic นั้นๆได้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือศึกษาจากรายงานที่มีผู้พบมาก่อน ในข้อที่ 4 จะเห็นว่าวิธีการตรวจมีความสำคัญ เพราะโอกาสจะตรวจเจอ Mosaic ไม่เหมือนกันในแต่ละวิธี ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ...รกเป็นแหล่งที่เกิด Mosaic ได้มากกว่า เมื่อทำการตัดชิ้นเนื้อรกมาตรวจ(CVS) โอกาสที่จะพบ Mosaic จากรกก็จะมากขึ้นด้วย เราเรียกปรากฎการณ์ที่รกมี Mosaic แต่ที่ตัวเด็กปกตินี้ว่า Confined Placental Mosaic หรือมีตัวย่อว่า CPM ดังที่คุณ tiny ทราบมาก่อนแล้วครับ
และเนื่องจากมีความแตกต่างกันได้ของ Cell lines ระหว่างรกและตัวเด็ก ดังนั้นเมื่อพบ Mosaic จากการตรวจก่อนการคลอด(Prenatal diagnosis) ความเป็นไปได้มีอยู่อย่างใดอย่างหนึ่งใน 4 แบบนี้คือ...
1. เกิดจาก Confined Placental Mosaic คือ เกิด Mosaic เฉพาะในเนื้อรก ที่ตัวเด็กปกติดี และการตั้งครรภ์จะดำเนินไปอย่างปกติ
2. เกิดจาก Confined Placental Mosaic คือ เกิด Mosaic เฉพาะในเนื้อรก ที่ตัวเด็กปกติดี เหมือนอย่างข้อแรก...แต่...แต่ Mosaic ที่เกิดที่รกส่งผลทำให้รกทำงานได้ไม่ปกติ รกเป็นตัวส่งอาหาร และออกซิเจนให้ทารกในครรภ์ และรับถ่ายของเสียด้วย เมื่อทำงานผิดปกติไป จึงทำให้ทารกในครรภ์เกิดความผิดปกติไปด้วย เช่น ทำให้เกิดการแท้งบุตร ทำให้เกิดภาวะการเจริญเติบโตช้าในครรภ์ของทารก(IntraUterine Growth Retardation = IUGR)
3. เกิด Mosaic แต่ถึงแม้ตัวทารกในครรภ์จะตรวจพบว่าเป็น Diploid(พบว่ามีโครโมโซมเป็น 46,XX หรือ 46,XY) แต่เมื่อดูแบบละเอียดพบว่ามีบางโครโมโซมมาจากฝั่งพ่อเท่านั้น หรือบางโครโมโซมมาจากฝั่งแม่เท่านั้น โดยปกติแล้ว...เวลาตั้งครรภ์ครึ่งหนึ่งของโครโมโซม(23 อัน = 46 หารด้วย 2) จะมาจากเซลล์สืบพันธุ์ของพ่อ อีกครึ่งหนึ่งจะต้องมาจากเซลล์สืบพันธุ์ของแม่ แต่เกิดกรณีที่บางโครโมโซมมาจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น เราเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า UniParental Disomy(UPD) UPD ที่เกิดขึ้นในตัวเด็กอาจจะเป็นปัญหาทางสุขภาพบางประการ เช่น ทำให้เด็กตัวเล็ก(IUGR) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า UPD นั้นเกิดขึ้นกับยีนใด เรื่องนี้จะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องกระบวนการฝังของยีน(Imprinted genes)ซึ่งจะไม่ขอกล่าวในที่นี้
4. เกิด Mosaic ในทั้งตัวเด็กและรก ผลต่อทารกจะขึ้นอยู่กับโครโมโซมใดที่เกิด Mosaic และสัดส่วน(เปอร์เซ็นต์)ของความผิดปกติที่เกิดขึ้น ถ้าให้ดีก็ดูตัวอย่างจากที่มีรายงานทางการแพทย์มาก่อนหรือเปล่า
ถ้าเกิดตรวจพบ Mosaic จาก Prenatal diagnosis ควรทำอย่างไร โดยทั่วไปแล้ว สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำก็คือ...
1. หาทางให้แน่ใจก่อนว่าเป็น True หรือ Pseudo-Mosaic เรื่องนี้คงต้องสอบถามเอาจากห้องปฏิบัติการนั้นๆว่าผลตรวจมีความแม่นยำและเที่ยงตรงแค่ไหนครับ
2. กรณีที่คิดว่าเป็น True mosaic หาทางยืนยันการวินิจฉัยก่อนว่าเป็นแบบไหนของ 1 ใน 4 แบบที่เป็นไปได้ของ Mosaic ดังที่ได้กล่าวข้างบนแล้ว อย่าลืมว่า...รกเกิด Mosaic ได้(ที่เรียกว่า CPM ดังที่กล่าวแล้ว) ดังนั้นหากได้ผล Mosaic จากการตัดเนื้อรกไปตรวจ(CVS) ที่ตัวเด็กอาจจะปกติก็ได้ ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ยืนยันผลการตรวจจากการทำการเจาะน้ำคร่ำ(Amniocentesis) หรือเจาะเลือดเด็ก(Fetal Blood Sampling)ไปตรวจ
3. ตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงในตัวเด็กอย่างละเอียด รวมถึงตรวจติดตามการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ด้วย เพราะถึงแม้ว่าจะเป็น CPM ก็ตาม...อาจจะทำให้เด็กมีภาวะการเจริญเติบโตช้าในครรภ์ได้ด้วย(IUGR) ในกรณีที่เกิด Mosaic ทั้งตัวเด็กและรก การแสดงออกของยีน(Phenotype)จะแตกต่างกันไปตามโครโมโซมคู่ที่ได้รับผล และเปอร์เซ็นต์ของความผิดปกติ
4. ตรวจยืนยันที่ตัวเด็กเองอีกครั้งหลังคลอด
กลับมาที่คำถามของคุณ tiny กันนะครับ
คุณ tiny ถามว่า ...ไม่ทราบว่าการตรวจ FISH นี่ใช้ diagnose CPM เลยหรือไม่ค่ะ...
กรณีของคุณ tiny ได้เซลล์มาจากการเจาะน้ำคร่ำครับ ซึ่งน่าจะเป็นเซลล์ของถุงน้ำคร่ำ(Amniocyte) หรือเป็นเซลล์ของทารก(Fetal cells) แต่ Confined Placental Mosaic(CPM) จะต้องได้มาจากการเนื้อของรก ดังนั้นความเป็นไปได้ที่จะเป็น CPM น่าจะน้อยครับ
อย่างไรก็ตาม...อย่าเพิ่งตกใจครับ เพราะผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการมีความคลาดเคลื่อนได้ขึ้นอยู่กับการควบคุมคุณภาพในแต่ละห้องปฏิบัติการ
อีกอย่าง...ถึงจะถูกต้องก็ไม่ได้แปลว่าที่ตัวเด็กจะต้องเกิด Mosaic เหมือนกับผลการตรวจน้ำคร่ำนะครับ
แต่ยังไงตอนนี้ดิฉันกับสามีก็รับผลแจ้งแบบนี้กันไปก่อน แล้วค่อยๆ ทำใจรอรับผลไฟนอลในอีกไม่กี่วันนี้นะคะ
ถึงแม้ว่าผล Mosaic จากการเจาะน้ำคร่ำถูกต้อง ก็อาจจะเป็นแค่เพียงเซลล์จากถุงน้ำคร่ำเด็ก(Amniocyte)ก็ได้ แต่ตัวเด็กมี Cell line ปกติ สุดท้ายหากเป็น Mosaic ที่ตัวเด็กจริงๆ ผมคิดว่า...น่าจะมีผลค่อนข้างน้อยครับ เพราะเปอร์เซ็นต์ที่พบ Trisomy 18 มีเพียง 4%(2 เซลล์จากทั้งหมด 50 เซลล์ที่ตรวจ) ข้อมูลนี้ผมนำมาจาก Web page นี้ครับ(เข้าถึงเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2554)
http://www.medgen.ubc.ca/robinsonlab/mosaic/specific/trisomy18.htm
ซึ่งระบุว่า หาก Mosaic ของ Trisomy 18 ในตัวเด็กมีอยู่เฉลี่ยประมาณ 9%(ตั้งแต่ 2-20%) จะพบว่าเด็กมีลักษณะปกติ
ตอนนี้ที่ทำได้ก็คือรอผลตรวจจาก Cultured analysis ของการเจาะน้ำคร่ำ และตรวจอัลตร้าซาวด์ทารกในครรภ์โดยผู้เชี่ยวชาญเป็นระยะ รวมถึงยืนยันผลทั้งหมดที่ตัวเด็กอีกทีหลังคลอดครับ
ผมเข้าใจดีว่าความทุกข์ทรมานของการรอคอยผลมีมากเพียงใด หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลที่ให้ไปจะเป็นประโยชน์ต่อคุณ tiny และหวังว่าจะช่วยทำให้คุณ tiny สบายใจขึ้นได้บ้างครับ ขออวยพรให้คุณ tiny และลูก แข็งแรง ปลอดภัย ไร้โรคและภยันตรายใดใดทั้งปวงด้วยครับ
จากคุณ |
:
tiny
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ต.ค. 54 12:25:49
|
|
|
|
|