Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
REFRESH ความเหนื่อยล้าด้วย “สมาธิ“ ติดต่อทีมงาน

ในเมื่อแต่ละวันร่างกายและจิตใจของคุณแม่ทำงานหนักมามาก ทั้งงานที่ทำงาน งานเลี้ยงลูก หรือแม้แต่งานบ้านสารพัด อะไรๆก็ต้องเร็วไว้ก่อน เราถูกทำให้เคยชินกับความเร็ว รออะไรนานๆก็จะรู้สึกหงุดหงิดไปหมด สิ่งเหล่านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราโดยไม่รู้ตัวและมีผลต่อการทำงานของสมอง ความอ่อนล้า ความเครียดและทั้งหมดก็ส่งผลต่อสมองและภาวะร่างกายจิตใจ ถึงเวลาทำบางสิ่งที่ง่าย ไม่เสียเงิน ได้ผ่อนคลายระดับลึก เหมือนกดปุ่ม Refresh ให้ร่างกายใหม่… ทำสมาธิสิคะ

รู้จัก “สมาธิ” ที่แท้จริง

สมาธิ (Meditate) หมายถึง การทำใจให้สงบ การฝึกฝนเพื่อพัฒนาจิตใจ หรือภาวะที่จิตตั้งมั่น ซึ่งภาวะจิตเหล่านี้มีประโยชน์ที่หลากหลาย แต่ก่อนที่จะพาคุณผู้อ่านไป refresh ร่างกายใหม่ Audrey ขอหยิบความหมายของสมาธิจากท่านพระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) เพื่อการเข้าใจสมาธิที่ถูกต้องว่า

“สมาธิ เป็นวิธีการเพื่อเข้าถึงจุดหมายไม่ใช่ตัวจุดหมาย ผู้เริ่มปฏิบัติอาจต้องปลีกตัวออกจากสังคมเพื่อการปฏิบัติช่วงระยะหนึ่ง แล้วจึงออกมามีบทบาทในทางสังคมตามความเหมาะสมของตนต่อไป ทั้งนี้การเจริญสมาธิมิใช่จะต้องมานั่งเจริญอยู่ทั้งวันทั้งคืน และวิธีปฏิบัติก็มีมากมาย เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมกับจริยา”
จากหนังสือพุทธธรรม

ประโยชน์ของสมาธิ

การฝึกสมาธิเป็นอีกทางเลือกของแพทย์ยุคใหม่ มีผลงานวิจัยมากมายที่ค้นพบว่าเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยบรรเทารักษาโรคต่างๆ อาทิ โรคเครียด ปวดหัวเรื้อรัง ไมเกรน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เป็นต้น แต่ที่หญิงสาวชอบกันมากคือหน้าใสเห็นๆ

ในระหว่างที่จิตใจเราเข้าสู่สมาธิ หัวใจจะเต้นช้า ลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ ร่างกายเผาผลาญออกซิเจนน้อยลง กล้ามเนื้อผ่อนคลายมากขึ้นขึ้น ระบบเลือดไหลเวียนมากขึ้น ลดระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งทำให้เกิดอาการกระวนกระวาย ไม่เป็นสุข อีกทั้งร่างกายของเราจะหลั่งสารเอนดอร์ฟินหรือสารแห่งความสุขออกมา ทำให้ร่างกายสุขภาพดี ไร้โรคภัยเบียดเบียน หน้าก็ใสได้ง่ายๆ ค่ะ

อีกทั้งคุณแม่ที่กำลังเครียด มีความวิตกกังวล หาทางแก้ปัญหาแก้แล้วแก้อีกก็เหมือนวัวพันหลัก ลองนั่งสมาธิก่อนสักพัก เมื่อจิตใจสงบปัญหาต่างๆ ก็จะแก้ไขได้ง่ายกว่า อีกทั้งคุณแม่ยังอาจจะได้มุมมองใหม่ๆ ที่เกิดจากการมองโลกในแง่ดี มาช่วยแก้ปัญหาได้ด้วย

นาน-บ่อย-ต่อเนื่อง … เคล็ดลับสมาธิ

- ทำนาน ในแต่ละครั้งควรทำให้นาน อย่างน้อยต้องครึ่งหรือหนึ่งชั่วโมง ทำ 3 ครั้งต่อวัน หรือ

- ทำบ่อย ในแต่ละครั้ง ครั้งละสิบหรือสิบห้านาทีก็พอ แต่ทำให้บ่อย ๆ ตามแต่จะสะดวก ที่สำคัญคือ

- ต่อเนื่อง ควรเอาสมาธิมาใช้ในชีวิตประจำวันให้เกิดความเคยชิน

รู้ก่อนทำสมาธิ

1. หาความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทำสมาธิให้มากที่สุด เพื่อจะได้ประหยัดเวลาไม่ต้องลองผิดลองถูก และไม่หลงทาง
2. เลือกวิธีที่คิดว่าเหมาะสมกับตนเองมากที่สุด

3. พยายามตัดความกังวลทุกอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นออกไปให้มากที่สุด โดยการทำงานทุกอย่างที่คั่งค้างอยู่ให้เสร็จเรียบร้อย

ก่อนที่จะทำสมาธิ

4. ก่อนนั่งสมาธิควรอาบน้ำหรือล้างหน้า ล้างมือ ล้างเท้าก่อนจะทำให้โล่งสบายตัว

5. ควรทำสมาธิในที่ที่เงียบสงบ อากาศเย็นสบาย ไม่พลุกพล่านจอแจ

หลากรูปแบบทำสมาธิ

การทำสมาธินั้นมีรูปแบบที่หลากหลายมานานกว่าพันปีแล้ว การทำสมาธิของคุณแม่ที่มีเวลาน้อยสามารถเลือกแบบที่สอดคล้องไปกับการดำเนินชีวิตประจำวันได้ค่ะ

การฝึกลมหายใจ

ใช้ได้กับการทำสมาธิในทุกอิริยาบถค่ะ

- หลับตา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ

- สูดลมหายใจเข้าออกทางจมูก จนรู้สึกว่าท้องพอง ท้องยุบ

- จดจ่ออยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออก ถ้าเริ่มรู้สึกว่าใจวอกแวกไปที่อื่น ให้ดึงกลับมาที่ลมหายใจ

- สำหรับผู้เริ่มต้นให้นับหายใจเข้า 1-5 หายใจออก 1-5 เป็นจังหวะ ทำต่อเนื่องแบบนี้ไปเรื่อยๆ

นั่งสมาธิ

การนั่งสมาธิคือการทำสมาธิที่เราคุ้นเคยกันดีค่ะ ควรนั่งในท่าขัดสมาธิ หลังตรง หรืออาจจะนั่งบนเก้าอี้ก็ได้ ทอดตาลงต่ำ ทำกล้ามเนื้อให้ผ่อนคลาย มือทั้ง 2 ข้างประสานกัน หลับตาลงช้าๆ หลังจากนั้นส่งจิตไปสำรวจตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ให้ทั่วทั้งตัว เพื่อดูว่ามีกล้ามเนื้อส่วนใดที่เกร็งอยู่หรือไม่ ถ้าพบก็ให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อส่วนนั้นให้หายเกร็ง โดยไล่จากปลายเท้าทีละข้าง ค่อยๆ สำรวจเลื่อนขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงสะโพก แล้วย้ายไปสำรวจที่ปลายเท้าอีกข้างหนึ่ง ทำเช่นเดียวกัน จากนั้นก็สำรวจจากสะโพก ไล่ขึ้นไปจนถึงยอดอก แล้วสำรวจจากปลายนิ้วมือทีละข้าง ไล่มาจนถึงไหล่ เมื่อทำครบสองข้างแล้ว ก็สำรวจไล่จากยอดอกขึ้นไปจนถึงปลายเส้นผม ก็จะเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ทั่วร่างกาย จากนั้นหายใจเข้าออกลึกๆ สัก 3 รอบ โดยมีสติอยู่ที่ลมหายใจ ตรงจุดที่ลมกระทบปลายจมูก พร้อมกับทำจิตใจให้รู้สึกผ่อนคลายลงเรื่อยๆ

เดินสมาธิ

ก่อนนั่งสมาธิควรเดินสมาธิ (จงกรม) ก่อนสักพัก คือเดินกลับไปกลับมาช้าๆ โดยยึดจิตไว้ที่จุดใดจุดหนึ่งในเท้าข้างที่กำลังเคลื่อนไหว เช่น ปลายเท้าหรือส้นเท้า เพื่อให้จิตเป็นสมาธิในระดับหนึ่งก่อน จะทำให้นั่งสมาธิได้ง่ายขึ้น ทางที่เดินนั้นควรราบรื่นสะอาด เป็นที่สงบ ให้เอามือทั้ง 2 ประสานกันไว้ข้างหน้า ปล่อยแขน ลงตามสบาย ทอดสายตาลงต่ำ ควบคุมจิตให้อยู่ในความสงบ แล้วก้าวเดินช้าๆ ไปจนสุดทางแล้วหยุดยืนสักครู่ค่อยหันหลังกลับแล้วเดินไปในทางเดิม ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ การเดินสมาธินี้คุณแม่สามารถประยุกต์ใช้เมื่อต้องเดินเล่น หรือเดินซื้อของนานๆ ก็ได้เช่นกันค่ะ

ยืนสมาธิ

การยืนสมาธิมักใช้ปฏิบัติคั่นในระหว่างการเดินจงกรม เพื่อพักผ่อนร่างกายเป็นระยะๆ ไป คือยืนพักขาข้างหนึ่ง โดยผลัดเปลี่ยนกันไป ในเมื่อขาหนึ่งเมื่อยก็เปลี่ยนพักขาอีกข้างหนึ่ง ในขณะที่ยืนนั้นก็ทำการอบรมจิต (สมาธิ) ยืนนานพอสมควรแล้ว ก็ควรใช้อิริยาบถอื่นต่อไป แต่คุณแม่สามารถประยุกต์การยืนสมาธิให้เข้ากับสถานการณ์รอบๆ ตัวได้ เช่น ยืนรอคิวซื้อของหรือยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ค่ะ

นอนสมาธิ

ระหว่างที่นอนคุณแม่ก็สามารถทำสมาธิได้เช่นกันค่ะ โดยเมื่อล้มตัวลงนอนให้คุณแม่นอนอย่างผ่อนคลายที่สุด ควรนอนหงายเพราะสะดวกแก่การทำสมาธิ วางมือทั้งสองซ้อนหรือประสานไว้บนอก หลับตา หายใจเข้า-ออกลึกๆ 3 ครั้ง ถ้าจิตยังไม่สงบ ให้เพิ่มการนับเลขเข้าไปด้วยก็ได้ค่ะ

ทำงาน

ไม่ว่าคุณแม่กำลังทำอาชีพอะไร สามารถที่จะเอาสมาธิมาใช้ในการทำงานนั้นๆ ได้ด้วยค่ะ เช่น ในขณะที่ทำบัญชี เขียนต้นฉบับ หรือตรวจคนไข้ ถ้าเอาใจใส่ในการทำงานนั้นๆ ไม่ปล่อยให้ใจฟุ้งซ่าน มีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานนั้นๆ จิตก็ย่อมมีสมาธิเกิดร่วมด้วยเช่นกันค่ะ ได้ทั้งความรู้จากงาน ได้สมาธิ (ความสุข) และได้สุขภาพจิตดี เป็นผลพวงตามมาอีกด้วย

ทำงานบ้าน

คุณแม่ที่ทำงานบ้านอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ระหว่างนั้นคุณแม่ก็ทำให้เกิดสมาธิได้นะคะ เช่น ถูบ้าน หรือล้างจาน เพียงแต่ว่าขอให้มีจิตจดจ่ออยู่กับงานนั้นๆ อยู่ ไม่วอกแวกดูสิ่งอื่นๆ รอบตัวและกำหนดลมหายใจเข้าและลมหายใจออกด้วย ก็จะเกิดสมาธิขึ้นมาเช่นกันค่ะ

ฟังเพลง

การฟังเพลงเป็นส่วนเสริมให้เกิดสมาธิเป็นอย่างดีค่ะ แต่คุณแม่ควรเลือกเพลงที่ทำให้จิตใจสงบ ไม่ปลุกเร้าให้เกิดอารมณ์วุ่นวาย เพลงที่เลือกจึงควรเป็นเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง หรือมีเนื้อร้อง แต่ฟังแล้วจิตใจผ่องใส คิดแต่สิ่งดีงาม แต่ที่สำคัญคุณแม่ต้องเลือกเพลงที่ตนเองชอบเป็นสำคัญนะคะ

สวดมนต์ภาวนา

ผู้ที่สวดมนต์ภาวนาเป็นประจำ ทำให้เกิดสมาธิด้วยค่ะ เพราะร่างกายอยู่ในสภาวะผ่อนคลาย และช่วยให้คุณแม่เกิดสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังกระทำอยู่ นั่นก็คือการสวดมนต์นั่นเอง

จะเห็นว่าการทำสมาธิไม่ได้เป็นเรื่องยากจนเกินไป อีกทั้งคุณแม่ยังสามารถทำได้สอดคล้องไปกับการดำเนินชีวิตประจำวัน อุ้มลูก ป้อนข้าว หรือทำงานบ้าน หากจะมีใครมาทักว่าหน้าใส อย่าลืมบอกเขาว่าคุณแม่ไปทำสมาธิมา ไม่ได้ใช้ไวเทนนิ่งยี่ห้อไหนนะคะ

สถานที่ฝึกสมาธิ

ถ้าคุณแม่สนใจที่จะฝึกสมาธิอย่างจริงจัง สามารถเลือกสถานที่ปฏิบัติได้ค่ะ ปัจจุบันมีหลายแห่ง ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด

- เสถียรธรรมสถาน ซ.วัชรพล รามอินทรา โทร.0 2509 0085 , 0 2510 6697

- ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย 58/8 ซ.เพชรเกษม 54 เขตภาษีเจริญ กทม. โทร.0 2805 0790-4

- สถาบันแม่ชีไทย จ.ราชบุรี (อ.ปากท่อ) โทร. 0 3228 1058

- วัดทรงธรรมกัลยาณี (สามเณรีธัมมนันทา) จ.นครปฐม โทร. 0 3428 4315

- ศูนย์ปฏิบัติธรรมคุณแม่สิริ กรินชัย จ.นครราชสีมา โทร.044 242 559

ที่มาจากนิตยสาร  Modern Mom

 
 

จากคุณ : คุณพ่อน้องฮาน่า
เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 16:04:09




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com