ความคิดเห็นที่ 1 พอมาถึงหนังสือเล่มนี้ จะถูกมองในอีกมุมหนึ่ง นั้นคือวิถีแห่งโดราเอมอน ทำอย่างไรถึงสามารถทำให้ "โนบิตะ" คนขี้เกียจ ชอบนอนกลางวัน ไม่ชอบทำอะไรใหม่ๆ ที่คิดว่ายาก ตัวเองทำไม่ได้หรอก ไม่ชอบทำอะไรที่ต้องออกแรง ใช้กำลัง และอีกมากมายก่ายกอง ที่เสมือนเป็นหลุมดำในจิตใจของโนบิตะ และหากสิ่งเหล่านี้ยังสั่งสมต่อไปเรื่อยๆ อนาคตของโนบิตะคงหนีไม่พ้นคำว่าล้มเหลวในชีวิต " นั่นเพราะหลายสิ่งที่โดราเอมอนปฏิบัติต่อโนบิตะนั้นล้วนมีความหมาย " แม้ว่าในทุกๆ เหตุการณ์ ในทุกๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับโนบิตะ จะมีโดราเอมอนคอยเป็นผู้ช่วย แต่ถ้าสังเกตดีๆ โดราเอมอนไม่เคยทุ่มลงไปทั้งตัว เพียงแต่คอยชี้แนะหนึ่งวิธีที่ใช้คือ "การดุด่า" จนทำให้รู้สึกว่าโดราเอมอนนี้ขี้บ่นเหมือนคนแก่จริงๆ เลยแต่ในความจู้จี้ขี้บ่นของโดราเอมอนนั้น แฝงไปด้วยความรัก ความห่วงใย ความเมตตา จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 15:16:52

ความคิดเห็นที่ 2 และคำดุด่านั้นไม่ใช่การดุด่าที่บั่นทอนกำลังใจ ในความ "โหด" มีความ "รัก" บางครั้งการด่าว่าของโดราเอมอนเสมือนการเบรก เพื่อให้ชะลอในการคิดหรือการทำอะไรให้ตรึกตรองถี่ถ้วนเสียก่อน ไม่ใช่การเบรกกระชากให้หัวคว่ำเสียหลัก และบางครั้งการด่าของโดราเอมอน ก็เป็นแรง "ฉุด" ให้โนบิตะเกิดความฮึกเหิม ฮึด มีพลังที่จะกระทำในเรื่องนั้นๆ "ไม่ว่าใครก็ทำผิดพลาดได้ทั้งนั้น และการบอกลูกให้รู้ถึงความคาดหวัง หรือการเฝ้ารอต่างหาก ที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้ลูกขยับแข้งขยับขา เพื่อต่อสู้กับการแก้ไขปัญหาด้วยทัศนคติที่แข็งแกร่ง" แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 54 15:18:27 จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 15:17:44

ความคิดเห็นที่ 3 นอกจาก ด่าแล้ว "ลูกยอ" ของ โดราเอมอนก็มี ถ้าจำกันได้คงคุ้นๆ ประโยคนี้ในหลายๆ ตอน "เห็นไหมโนบิตะก็ทำได้" หรือ "แหม ความคิดนายนี่เข้าท่าไม่สมกับเป็นนายเลยแฮะ" นี่แหละคำชมจากโดราเอมอนสู่โนบิตะ ส่วนในหนังสือเล่มนี้ก็มีกฎของการชมว่า "จะใช้คำพูดและการกระทำแบบไหนดีที่จะเพิ่มศักยภาพของคนได้" เพราะการชมไปเรื่อย ชมได้ทุกเรื่อง ก็ส่งผลด้านลบเหมือนกัน ทั้งทำให้คนถูกชมหลงระเริง หรือทำให้ไม่เห็นค่าในคำชม "เพิ่มศักยภาพในการชมทันทีเมื่อสำเร็จ ถ้ามีข้อดีสักนิดถึงแม้จะไม่ใช่ความสำเร็จยิ่งใหญ่อะไรนักก็อย่าลืมที่จะชม เพื่อเพิ่มศักยภาพในตัวเขา เพิ่มศักยภาพโดยการชมต่อหน้าเพียงลำพัง เพิ่มศักยภาพโดยการชมอยู่เสมอกับการกระทำที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน และเพิ่มศักยภาพโดยการชมบ้างเป็นบางครั้งกับเรื่องที่เขาทำอยู่เป็นประจำ" "ของวิเศษ" ที่โดราเอมอนเอามาจากกระเป๋ามิติที่ 4 มาช่วยเหลือโนบิตะตามลำดับเวลานั้น เป็นเพียงเครื่องมือหรือไอเดียของกระบวนการทำในเรื่องราวต่างๆ เท่านั้น ไม่ใช่ของวิเศษที่นำพาโนบิตะไปสู่ความสำเร็จ จะเห็นได้ว่าในหลายๆ ครั้งผลลัพธ์ของการใช้ของวิเศษ ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าเหมือนกัน จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 15:19:52

ความคิดเห็นที่ 4 ชอบการ์ตูนเรื่องมากกกกกกก จากคุณ : เขียนบน iPhone (แม่น้องมิวนิค) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 15:22:24

ความคิดเห็นที่ 5 และการนำของวิเศษออกมานั้นโดยปกติแล้วโดราเอมอน ให้ความสำคัญกับการแก้ไข ปัญหาภารกิจของโนบิตะที่อยู่ตรงหน้าก่อนเสมอ โดยไม่ค่อยสนใจกับสถานการณ์หรือนิสัยของโนบิตะ และทุกครั้งไปสิน่าที่โนบิตะเมื่อได้ของวิเศษแล้ว มักไม่ยอมคืนให้โดราเอมอนง่ายๆ ไม่ว่าโดราเอมอนจะทวงคืนยังไง จนถึงขั้นทำทีท่าไม่สนใจ หรือใช้สายตามองอย่างผิดหวังในตัวโนบิตะ ซึ่งสุดท้ายมันก็ได้ผลต่อจิตสำนึกของโนบิตะเอง ที่รู้สึกผิด และรู้สึกละอายใจ จนผลลัพธ์ที่ออกมาสุดท้ายไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ความคิดและการกระทำของโนบิตะ ที่มีโดราเอมอนเป็นโค้ชให้นั้น ก็ล้วนถูกส่งขับมาจากพลังภายในใจของโนบิตะทั้งสิ้น ในโลกแห่ง ความเป็นจริงของมนุษย์ทุกคนไม่มีโดราเอมอนมาคอยช่วยเหลือ ไม่มีของวิเศษมาช่วยดลบันดาลอะไรให้ง่ายขึ้น ทว่าทุกคนมีสองมือ มีมันสมอง เพียงแต่เลือกแนวทางให้ถูกต้อง และวิถีแห่งโดราเอมอน เป็นอีกหนึ่งวิถีที่คนในครอบครัว จะนำมาเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนพลังของลูกน้อย จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 15:23:08

ความคิดเห็นที่ 6 การ์ตูนเรื่องโปรดค่ะ จากคุณ : NuChKie เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 17:10:15

ความคิดเห็นที่ 7 แต่ตอนนี้โดเรม่อนกำลังเดือดร้อนนน!! เนื่องจากน้ำท่วมม!! ขำๆนะคะ อิอิ แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 54 18:32:12 จากคุณ : หนมจีนเส้นหนึบ (kkasemos) เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 18:31:29

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยค่ะ. เราอ่านหนังสือออกและอ่านได้คล่องเพราะการ์ตูนโดเรมอนนี่แหละ เรารักและเห็นโดเรมอนเป็นเพื่อนที่ดีเสมอ มีคำสอนดีๆ เราตั้งใจว่าหนังสือเล่มแรกๆของบอมเบย์จะเป็นโดเรมอนเช่นกันค่ะ จากคุณ : note2j เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 19:19:49

ความคิดเห็นที่ 9 เชื่อได้ว่าในสักช่วงหนึ่งของวัย คุณต้องมีโอกาสได้ชมการ์ตูนเด็กยอดนิยมและมีความเป็นอมตะ อย่างการ์ตูนเรื่องโดราเอม่อน บางท่านอาจจะเป็นแฟนการ์ตูนเรื่องนี้ตัวยงและบางท่านอาจเคยดูกับลูกหลานและเ มื่อเร็วๆนี้เอง รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่งจะประกาศให้โดราเอม่อนเป็นทูตวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ความมหัศจรรย์ของโดราเอม่อนที่พบในวันนี้ คือ หากมองบทบาท บุคลิกและลักษณะของโดราเอม่อน ผ่านมุมมองทางด้านการบริหารจัดการ โดราเอม่อน สะท้อนให้เห็นถึงแบบอย่างของ ผู้นำ สถานการณ์ต่างๆในการ์ตูนเรื่องนี้ไม่ว่า โดราเอม่อนจะทำงานกับโนบิตะผู้ที่เปรียบเสมือนผู้ตามของโดราเอม่อนโดยตรง หรือทำงานร่วมกับเพื่อนคนอื่นๆ อย่างชิซูกะ ไจแอนท์ ซูเนโอะ โดราเอม่อนก็มีการทำงานซึ่งแสดงถึงภาวะความเป็นผู้นำได้อย่างดีทีเดียว มาลองดูด้วยกันว่าวิถีของการเป็นผู้นำและภาวะผู้นำแบบโดราเอม่อน ที่จะนำมาวิเคราะห์ในฉบับนี้จะเหมือนกับมุมมองที่คุณมองเห็นอยู่หรือไม่ ประการแรก ความมุ่งมั่นในการทำงาน ก่อนที่โดราเอม่อนจะถูกส่งมาช่วยโนบิตะนั้น โดราเอม่อนรู้แล้วว่าความไม่เอาไหนของโนบิตะนั้นเป็นอย่างไร งานที่ได้รับมอบหมายดูเหมือนว่าจะเป็น Mission Impossible จริงๆ แต่ว่าโดราเอม่อนเองแสดงความมุ่งมั่นในการที่จะทำงานนี้ให้สำเร็จ ซึ่งถ้าเราดูจากแต่ละตอน โนบิตะจะเอาปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ สากกะเบือยันเรือรบมาปรึกษาโดราเอม่อนเสมอ แม้บางครั้งโดราเอม่อนจะท้อแท้บ้าง เบื่อบ้าง แต่ก็ไม่มีตอนไหนเลยที่แสดงว่าโดราเอม่อนละเลยต่อการทำงานของตน โดราเอม่อนนั้นแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะทำความฝันของ เซวาชิ หลานของโนบิตะผู้ที่เป็นคนมอบหมายภารกิจนี้ และทำให้ความฝันของผู้ตามอย่างโนบิตะที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงอนาคตของตัวเอง จากคนไม่เอาไหนให้ได้สำเร็จตามที่ฝันไว้ จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 19:52:38

ความคิดเห็นที่ 10 โนบิตะ เปรียบเสมือนคนที่ขี้แพ้ ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องซักที โดราเอม่อนเองแสดงให้เห็นว่า โดราเอม่อนเข้าใจว่าความสามารถของโนบิตะมีแค่ไหน อะไรคือจุดอ่อน แค่เข้าใจคงไม่พอ โดราเอม่อนนั้นยอมรับในจุดอ่อนของโนบิตะด้วยซึ่งการยอมรับนั้นเป็นเรื่องสำค ัญมาก เข้าใจแต่ทำใจไม่ได้ก็คงทำให้งานสำเร็จไม่ได้ บางตอนเราจะเห็นว่า จากการเข้าใจจุดอ่อนของโนบิตะ ทำให้โดราเอม่อนนั้นสามารถวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาที่คาดว่าโนบิตะจะต้องทำผิด พลาดได้ก่อนล่วงหน้า นอกจากนั้นโดราเอม่อนเองก็แสดงให้เห็นว่าเข้าใจและยอมรับจุดอ่อนของเพื่อนคน อื่นๆในทีมด้วย ไม่ว่าจะเป็นความใจร้อน มุทะลุของไจแอนท์ หรือความเป็นคนช่างเอาแต่ใจตัวเอง อย่างลูกคุณหนูแบบซูเนโอะ ซึ่งทำให้โดราเอม่อน หยิบลักษณะนิสัยเหล่านี้มาเป็นจุดที่ระวังในการเตือนโนบิตะ รวมถึงเวลาที่โดราเอม่อนติดต่อกับไจแอนท์และซูเนโอะ นอกจากนั้นโดราเอม่อนเองยังมองให้เห็นในจุดดี ซึ่งโนบิตะด้วยความที่ดูเหมือนคนไม่เอาไหนก็มีจุดดีอยู่เหมือนกัน เช่น จิตใจที่มุ่งมั่นที่จะทำ และหาทางแก้ไขปัญหา แม้ว่าบางทีวิธีการแก้ไขปัญหาอาจดูไม่เหมาะสมก็ตาม แต่ว่าโดราเอม่อนเองก็ทำหน้าที่ผู้นำได้อย่างดีในการช่วย Support และ Coach โนบิตะเป็นอย่างดี จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 19:54:05

ความคิดเห็นที่ 11 โดราเอม่อนเองแม้รู้ว่า เครื่องมือหรือคำแนะนำที่ให้โนบิตะไป แม้ตัวเองจะเตือนโนบิตะแล้ว แต่โนบิตะก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้างตามเรื่อง แต่กระนั้นโดราเอม่อนก็ให้โอกาสโนบิตะได้ทดลองทำและได้เรียนรู้เสมอๆ ตัวอย่างเช่น โนบิตะหลังจากได้ดูนินจาฮาโตริแล้วเกิดอยากจะเป็นนินจาขึ้นมาบ้าง จึงไปขอร้องให้โดราเอม่อนช่วยหาชุดฝึกนินจาให้ โดราเอม่อนเตือนโนบิตะว่า การอยากพัฒนาศักยภาพตัวเองเป็นเรื่องดี แต่ว่าการฝึกที่จะเป็นนินจานั้น ใช่จะทำกันได้ง่ายๆ แต่ก็ยอมให้โนบิตะเอาอุปกรณ์ชุดฝึกนินจาไปทดลองใช้ แล้วผลสุดท้ายก็เป็นอย่างที่คาดไว้ โนบิตะฝึกสำเร็จไปไม่กี่บทเรียนของการเป็นนินจา ถึงแม้ว่าโนบิตะจะทำได้ไม่สำเร็จแต่การที่จะประสบความสำเร็จนั้นหากโดราเอม่ อนไม่ให้โอกาสได้ลงมือฝึกฝนอย่างที่โนบิตะตั้งใจไว้ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็เรียกได้ว่าเป็นศูนย์ตั้งแต่ต้น การให้โอกาสนี้เป็นเรื่องสำคัญมากในการพัฒนาศักยภาพของโนบิตะ จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 19:57:01

ความคิดเห็นที่ 12 โนบิตะเองแม้จะทำเรื่องราวต่างๆมากมายมาให้โดราเอมอนได้ปวดหัวอยู่เรื่อยๆ แต่โดราเอมอนเองกลับเลือกที่จะมองโนบิตะในด้านดีงามที่โนบิตะมีอยู่ ตัวอย่างเช่นโนบิตะได้เขียนขอพร ในวันเทศกาลทานาบาตะ ว่า ขอให้เป็นคนฉลาด โดราเอมอนซึ่งเป็นผู้ที่ใช้เวลาอยู่กับโนบิตะมากกว่าใครๆนั้นมองลึกเข้าไป เห็นว่า จริงๆแล้วโนบิตะมีความตั้งใจที่ดีและใฝ่ดี การเจอปัญหาต่างๆแล้วมาพึ่งพาโดราเอมอนนั้นก็เพียงเพราะโนบิตะเอง อยากมีศักยภาพในการเรียน การเล่นกีฬา หรือ การเล่นดนตรี ได้เหมือนๆกับเพื่อนๆคนอื่นๆ ก็เท่านั้นเอง และโดราเอมอนเลือกที่จะมองลึกซึ้งลงไปและศรัทธาในความดีงามที่โนบ ิตะเองมี ไม่ใช่ ตราหน้าโนบิตะที่พยายามพัฒนาปรับปรุงตัวเองว่า เป็นไอ้ขี้แพ้ ซึ่งหากปราศจากผู้ที่เลือกจะมองและเชื่อมั่นในด้านดีๆอย่างโดรา เอมอนแล้ว เราคงไม่มีโอกาสได้เห็นความสำเร็จของโนบิตะแน่นอน จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 20:00:14

ความคิดเห็นที่ 13 เราจะเห็นโดราเอมอนร่วมทำกิจกรรมต่างๆกับครอบครัวของโนบิตะ ไม่ว่าจะเป็นนั่งดูทีวีกับครอบครัว ช่วยคุณแม่ทำงานบ้านต่างๆ รวมถึงออกไปซื้อของที่ตลาดให้คุณแม่ หรือเวลาที่โดราเอมอนต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น เช่น ไจแอ้นท์ผู้ที่อยากจะเป็นนักร้องแต่ร้องเพลงไม่ได้เรื่องเลย โดราเอมอนเองยอมนั่งทนฟังไจแอ้นท์ที่ร้องเพลงจนจบ สำหรับโนบิตะ ซึ่งโดราเอมอนสนิทด้วยที่สุดนั้น จะเห็นได้ว่าโดราเอมอนไม่เคยอวดอ้างบุญคุณ แต่กลับอยู่ร่วมกับโนบิตะทั้งยามสุขยามทุกข์ และที่สำคัญคือทั้งสองคนจะทำงานร่วมกัน โดราเอมอนรู้จักที่จะเดินไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าวอยู่เสมอ หากมีการสังเกตการนำเสนอของการ์ตูนเรื่องนี้จะพบว่าโดราเอมอน มักมองไปข้างหน้าแทนโนบิตะอยู่เสมอ เพราะรู้ดีว่านิสัยของโนบิตะเป็นอย่างไร มีจุดอ่อนและขาดความรอบคอบระมัดระวังในเรื่องใด ดังนั้นเราจะเห็นว่าบางครั้งโดราเอมอนให้โนบิตะนำของวิเศษไปใช้นั้น จะเตือนก่อน และวางแผนในการแก้ไขเผื่อไว้เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายหรืออันตรายที่ยากเกินแก้ไข เช่นในโดราเอมอนตอน "บันทึกการร่อนเร่ของโนบิตะ" ในตอนนี้โนบิตะ เกิดอยากออกไปเผชิญโชคจากแรงบันดาลใจที่ได้อ่านเรื่องของโรบินสัน ครูโซ ด้วยการสร้างแพจากตะเกียบแล้วออกไปสำรวจเกาะ โดราเอมอนได้เตือนถึงความยากลำบาก แต่เมื่อเห็นว่าโนบิตะมีความตั้งใจจริงก็ปล่อยให้โนบิตะได้ทดลองทำอย่างที่ตั้งใจไว้ หลังจากที่โนบิตะออกจากบ้านไป โดราเอมอนก็รอจนคิดว่าโนบิตะนั้นออกทะเลไปเรียบร้อยแล้ว จึงได้ดึงมอนิเตอร์เพื่อจะได้เฝ้ามองโนบิตะ ผลปรากฏว่าแพของโนบิตะนั้นยังลอยเคว้งคว้างกลางทะเล เนื่องจากโนบิตะไม่ได้วางแผนการเดินทาง โดราเอมอนจึงแอบเอาเครื่องช่วยหาเกาะไปติดไว้ที่ใต้แพ เพื่อให้แพของโนบิตะไปถึงฝั่งได้ โดราเอมอนเองเมื่อแอบตาม ไปยังเกาะแห่งนั้นก็เอาขนมปังไปติดที่ต้นไม้ไว้ให้โนบิตะที่กำลังจะหมดแรงเดินเพราะไม่มีอาหาร และโดราเอมอนรู้ดีว่าจะต้องเกิดปัญหานี้ขึ้น เนื่องจากก่อนที่โนบิตะจะออกจากบ้านมา โดราเอมอนเตือนให้โนบิตะเอาเป้เสบียงมาด้วย แต่โนบิตะก็ไม่ยอมฟัง การที่โนบิตะมีความกล้าที่จะทำอะไรที่ท้าทายได้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความช่วยเหลือจากมือที่มองไม่เห็นอย่างโดราเอมอนที่มองไปข้างหน้าอีกก้าวนั่นเอง จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 20:02:49

ความคิดเห็นที่ 14 โดเรมอน เป็นตัวแทนของ ฝ่ายผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์มากกว่าเด็กๆ รวมถึงความฝัน ในวัยเยาว์ สติปัญญา (wisdom) ความถูกต้อง และชีวิตในอุดมคติ ขอให้แยกระหว่างสติปัญญา(wisdom) และ ความฉลาด(intelligence) เพราะ 2 สิ่งนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง คนที่ฉลาด มี IQ สูงๆ มีประกาศนียบัตรรับรองมากมาย อาจด้อยสติปัญญาก็ได้ ส่วนคนที่มีสติปัญญามากมักจะเอาตัวรอดได้ดี โดยไม่ต้องมีใบรับรอง แต่สองอย่างนี้ก็อาจเสริมกันได้ จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 20:06:36

ความคิดเห็นที่ 15 โนบิตะ เป็นตัวแทนของ คนธรรมดาๆ ที่ย่อมมีข้อผิดพลาดได้ รวมถึงยังต้องพัฒนาในเรื่อง EQ อยู่เสมอๆ เพราะยังมีอารมณ์แบบเด็กอยู่บ้าง เป็นตัวละครที่ปกติจะใส่แว่น สวมเสื้อโปโลสีเหลืองหรือแดง ปกขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน มีนิสัยขี้แย เป็นคนไม่เอาถ่าน อ่อนแอ ไม่เคยพึ่งพาตนเอง เรียนหนังสือไม่เก่ง สอบได้ 0 คะแนนบ่อยๆ มาโรงเรียนสายประจำ ถูกทำโทษบ่อยครั้ง กีฬาก็ไม่ถนัด แต่เล่นพันด้ายเก่ง และเป็นจอมแม่นปืน งานอดิเรกก็คือนอนกลางวัน กับอ่านการ์ตูน ถือว่าเป็นตัวละครที่ไม่เอาไหน แต่ทำไมถึงประสบความสำเร็จในอนาคต แถมยังได้แต่งงานกับชิซูกะที่สวย Perfect อีกด้วย อันที่จริงโนบิตะเป็นเด็กที่มีนิสัยดีคนหนึ่งที่น่าชมคือ รักสัตว์ ขี้สงสาร รักเพื่อน อารมณ์อ่อนไหว และรักความยุติธรรม ชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์  ที่สำคัญเป็นเด็กกตัญญูรัก พ่อ แม่และย่าของเขามาก การที่โนบิตะประสบผลสำเร็จได้อย่างสวยงามอาจเป็นอานิสงค์ของการเป็นเด็กดีของเขาก็เป็นได้ จะเห็นว่าในยามที่ถูกรังแกจากไจแอนท์ และซูเนโอะ โนบิตะก็ไม่เคยคิดแค้นอกแค้นใจ หาทางกลั่นแกล้งตอบ อย่างมากก็ตะโกนดังๆออกมาว่า “ฉุนโว้ยยยยย...” ระบายความอัดอั้นบ้าง...ก็แค่นั้น ในทางกลับกันเขาพยายามจะหาทางพัฒนาตนเองเพื่อให้ทำให้ได้อย่างเพื่อนๆ  อีกอย่างโนบิตะก็ได้ครูดีอย่างโดเรมอนที่ช่วยสอนการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด โดยผ่านของวิเศษต่างๆ ซึ่งก็เป็นเพียงเครื่องมือเท่านั้นเอง มีตอนหนึ่ง มีของวิเศษที่เรียกว่า "ดินสอคอมพิวเตอร์" หากเอาไปใช้สอบ ไม่ว่าคำถามอะไรก็ตอบได้หมด ได้คะแนนเต็ย 100 แน่นอน แต่ในที่สุดโนบิตะก็ชนะใจตัวเอง ไม่ใช้มัน รู้สึกชอบจิตใจที่ไม่ท้อถอย ของโนบิตะนี่แหละ ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่เก่ง แต่ก็อยากก้าวไปข้างหน้าด้วยตนเอง ในวันสุดท้ายก่อนที่โดเรมอนจะลากลับโลกแห่งอนาคต โดเรมอนก็เป็นห่วงโนบิตะ ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ได้หรือไม่ โนบิตะก็ให้ความมั่นใจโดเรมอน ด้วยคำพูดสุดซึ้งว่า “ ได้ซิโดเรมอน นายไม่ต้องเป็นห่วง จะมามัวแต่หวังพึ่งคนอื่น หรือของวิเศษต่างๆนาๆ โดยไม่หวังพึ่งตนเอง จะได้อย่างไร...อย่างไรฉันก็ต้องทำให้ได้” ว่าแล้วทั้งสองคนก็กอดกันร้องไห้โฮด้วยความซาบซึ้ง จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 20:10:12

ความคิดเห็นที่ 16 ชิซูกะ เป็นตัวแทนของ ความสวยงาม ความรัก ความเมตตา ความอ่อนโยน และความอ่อนไหว เป็นสิ่งที่ใครเห็นก็ต้องชอบแหละ ด้วยรูปลักษณ์ของเธอ และค่อนข้างจะเป็นอภิสิทธิ์ชน เพราะเป็นคนเดียวที่ไม่โดนไจแอนท์อัด ไจแอนท์ เป็นตัวแทนของ อำนาจ พละกำลัง บางทีก็มี เผด็จการ และ มีความรุนแรงแฝงอยู่ด้วย ไจโกะ น้องสาวไจแอนท์ เป็นเด็กผู้หญิงที่ผู้ชายพากันร้องยี้ เพียงเพราะรูปร่างหน้าตาของเธอ แต่หากผอมซะหน่อย ชิซูกะก็มีสิทธิ์หนาวเหมือนกันด้วยคุณสมบัติส่วนตัวคือ ขยันขันแข็ง ช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน เข้มแข็ง อีกทั้งยังฉลาดอีกด้วย ซูเนโอะ เป็นตัวแทนของคนรวย เงินตรา ทุนนิยม ความโอ่อ่าฟู่ฟ้า ขี้โม้เป็นบางที (ใช้พวกนี้ทำการตลาดก็คงจะดีไม่น้อย) เดคิซุงิ เป็นตัวแทนของ ความรอบรู้ในสาขาวิชาการ(intelligence)  จะเห็นว่าในเรื่อง เดคิซูงิ ไม่ค่อยรับบทเด่นเท่าไหร่ ทั้งๆที่ หล่อด้วย เรียนเก่งด้วย คงเป็นความตั้งใจของผู้แต่งการ์ตูนที่เน้นให้เด็กๆพัฒนาทักษะ และนิสัยในด้านอื่นๆด้วย แทนที่จะเน้นด้านวิชาการกันอย่างเดียว แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 54 20:13:39 จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 20:13:07

ความคิดเห็นที่ 17 ความลับที่ควรรู้เกี่ยวกับโดราเอมอน 1. เชื่อหรือไม่ว่า โดราเอมอนมีเลขที่เกี่ยวข้องคือ 129.3 ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนัก ส่วนสูง และปีเกิด (3-9-2112) ที่ต้องมีตัวเลขเท่านี้ เพราะอาจารย์ฟุจิโกะได้นำส่วนสูง โดยเฉลี่ยของเด็กญี่ปุ่นที่อยู่ในชั้น ป.4 มาคำนวณ เพื่อให้ได้ส่วนสูงเท่า ๆ กับโนบิตะที่อยู่ชั้น ป.4 นั่นเอง 2. คุณรู้ไหมว่า ตอนแรกนั้นโนบิตะของเราต้องแต่งงานกับใคร คำตอบครับ.... น้องสาวของไจแอนท์ ที่ชื่อว่า ไจโกะ นั่นเอง ต้องขอบคุณเชวาชิ เหลนของเหลน โนบิตะ ที่ทำให้ได้แต่งงานกับซิซุกะ 3. ความหมายของชื่อโนบิตะ ที่พ่อและแม่ของโนบิตะตั้งให้ แปลว่า.... ความหวังที่จะให้เจริญเติบโตอย่างแข็งแรง และก้าวหน้าไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 4. โดเรมี่ เกิดหลังโดราเอมอน 2 ปี และได้ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 1973 5. การ์ตูนโดราเอมอน ตีพิมพ์รวมเล่มฉบับแรกเมื่อปี 1974 6. รู้รึเปล่าว่า... ทีมนักพากย์การ์ตูนโดราเอมอนที่ญี่ปุ่น เป็นชุดเดียวกันตลอดตั้งแต่เริ่มออกอากาศครั้งแรกเมื่อปี 1979 และรู้รึเปล่าว่า... คนพากย์โนบิตะเป็นผู้หญิงครับ 7. ถ้าคุณลองกลับไปอ่านการ์ตูนเรื่อง ปาร์แมน จะเห็นว่าตัวเอกหญิงของการ์ตูนปาร์แมน ชื่อว่า โฮชิโนะ สุมิเระ เธอคือดาราดังในเรื่องโดราเอมอนด้วย 8. ได้มีการโหวตคะแนนตัวการ์ตูนยอดนิยมตลอดกาล 100 ตัว ของญี่ปุ่น ซึ่งจัดในปี 2002 โดยสถานีโทรทัศน์ทีวีอาซาฮึ และตัวละครของอาจารย์ฟุจิโกะได้ไปถึง 8 ตัว แน่ล่ะว่าโดราเอมอนได้อันดับที่ 1 โดยอันดับที่ 2 คือ ซุนหงอคง จาก ดรากอนบอลล์ นั่นเอง 9. โดราเอมอนถือเป็นการ์ตูนที่ไม่มีตอนจบ (ซึ่งมีอยู่น้อยมากที่จะเกิดขึ้น) แม้ว่าทางอาจารย์ได้มีการเขียนตอน "ลาก่อนโดราเอมอน" ออกมาก็จริง แต่ทว่ากระแสของแฟน ๆ การ์ตูนที่ไม่ต้องการให้จบ ทำให้อาจารย์ต้องนำกลับมาเขียนต่อ จนอาจารย์ได้จากโลกนี้ไปเสียก่อน.... จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 20:21:26

ความคิดเห็นที่ 18 ซึ่งหลังจากท่านได้เสียชีวิตไปในวันที่ 23 กย.2539 เดือนเดียวกันกับที่โดราเอม่อนถือกำเนิด ทางญี่ปุ่นได้มีการร่างตอนจบเอาไว้ 2 แบบ นั่นคือ 1.โนบิตะป่วยหนัก จนเป็นเจ้าชายนิทรามาหลายสิบปี เมื่อโนบิตะตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง เขาจึงถามหาโดราเอม่อน แต่ทุกคนกลับไม่มีใครรู้จัก โนบิตะจึงรู้ว่ามันเป็นแค่เพียงความฝันเท่านั้น โนบิตะเสียใจมากจนกลายเป็นคนเหม่อลอย วันๆได้แต่นั่งดูต้นซากุระข้างหน้าต่าง รพ.ที่ร่วงโรยลงทุกวัน จนในที่สุดโนบิตะได้เสียชีวิตลง พร้อมๆกับกลีบดอกซากุระสุดท้ายที่ร่วงโรยสู่ผืนแผ่นดิน TT เมื่อมีผู้ล่วงรู้ถึงตอนจบแบบที่ 1 ก็เกิดการต่อต้านอย่างรุนแรง เนื่องจากนี่จะเป็นการทำร้ายจิตใจเด็กๆ ทั้งในญี่ปุ่น และทั่วโลก เพราะเป็นตอนจบที่โหดร้ายเกินกว่าจะรับได้ ตอนจบแบบที่ 1 นี้จึงได้ถูกเก็บไว้ ไม่มีใครพูดถึงอีกต่อไป... ส่วนตอนจบแบบที่ 2 นั้น ได้รับการยอมรับว่า นี่...น่าจะเป็นตอนจบที่ลงตัวที่สุด และตอบคำถามที่คาใจทุกๆคนมาตลอดได้ว่า..ใครคือผู้สร้างโดราเอม่อน (ผลงานชิ้นนี้ ไม่ใช่ผลงานของ อ.ฟุจิโกะ F.ฟุจิโอะ เนื่องจากท่านได้เสียชีวิตไปก่อน) โดยผู้วาดนั้นคือ อ.ทะจิม่า ยาสุเอะ (Tajima Yasue) ลาก่อนโดราเอมอน http://video.mthai.com/player.php?id=18M1258285509M0 จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 20:24:37

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมากค่ะ ชอบโดราเอมอนมากๆ เหมือนกันค่า จากคุณ : J Miro เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 23:22:08

ความคิดเห็นที่ 20 ชอบมากๆ เหมือนกันจ้า ปล อีกเรื่องที่คงไม่มีวันจบ ก็คงเป็นชินจังอะ จากคุณ : แม่น้องบูม เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 09:13:47

ความคิดเห็นที่ 21 รักการ์ตูนเรื่องนี้มากเลยค่ะ ทุกวันนี้หมอนข้างลูกก็เป็นโดเรม่อน เปิดการ์ตูนให้เค้าดู เค้าก็รู้จัก จากคุณ : แม่โอ๋เรนเจอร์ เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 09:59:34

ความคิดเห็นที่ 22 ลูกชายดูทุกวันเลยค่ะ จนทำให้คุณแม่ติดไปด้วย จากคุณ : แม่น้องpeace เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 10:59:59

ความคิดเห็นที่ 23 ตอนนี้น้องชายสะสมไว้เยอะมากเลยค่ะเพราะชอบมาก หวังไว้เช่นกันว่าวันนึงที่ลูกชายโตขึ้นจะเอาให้เค้าดู จากคุณ : น้องสกายสุดที่รัก เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 13:08:34

ความคิดเห็นที่ 24 เป็นแฟนโดเรมอนตั้งแต่เป็นเด็ก จนตอนนี้เป็นแม่คนแล้ว ก็ยังดูโดเรมอนไปกับลูกค่ะ จากคุณ : ดญ. หัวเหน่ง เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 13:16:05

ความคิดเห็นที่ 25 เป็นแฟนโดเรม่อนเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ตกเป็นสมบัติของลูกชายไปแล้ว จากคุณ : ป้าแมงฯ เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 13:21:40

ความคิดเห็นที่ 26 ชอบเหมือนกันค่ะ แต่ดูไปต้องเตือนตัวเองไปค่ะ เพราะชีวิตเราไม่มีโดเรมอนเหมือนโนบีตะนะ ตอนเด็กๆเคยฝันเลยอ่ะ  ว่าอยากมีโดเรมอนบ้าง จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 15:12:46

ความคิดเห็นที่ 27 ไทม์แมชชีน [1,พิเศษ1] (ญี่ปุ่น: タイムマシン Time machine ?) เป็นยานเดินทางข้ามเวลา สามารถขึ้นไทม์แมชชีนเพื่อไปยังอดีตหรืออนาคตได้ ซึ่งเมื่อลงจากไทม์แมชชีนแล้วไทม์แมชชีนจะจอดรอเป็นห้วงเวลารูปวงกลม และจะเปิดทางออกจากอดีตหรืออนาคตที่ลิ้นชักโต๊ะของโนบิตะ(ตอน ผู้มาจากโลกอนาคต) ประตูไปที่ไหนก็ได้ เพียงแค่บอกจุดหมายที่ต้องการ เมื่อเดินผ่านประตูนี้ก็จะไปถึงจุดหมายทันทีแต่ในโดราเอมอนตอนตะลุยอวกาศนั้นไม่สามารถข้ามดาวนั้นไปหาดาวนี้ได้เพราะไกลเกินไปและจำเป็นจะต้องมีข้อมูลแผนที่โลกในยุคสมัยหรือดวงดาวนั้นๆด้วย(ตอน เป็นอะไรๆ กับโมโมทาโร่กันแน่) ไฟฉายย่อส่วน เมื่อไฟฉายนี้ฉายแสงไปที่ คน สัตว์ หรือสิ่งของใดๆ จะทำให้มีขนาดเล็กลง เหมาะสำหรับสิ่งของชิ้นใหญ่ๆ ที่คุณถือไม่ถนัด(ตอน แม้ในน้ำ ในกระเพาะอาหาร) หมวกก้อนหินริมทาง เมื่อสวมหมวกนี้แล้ว ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครให้ความสนใจ เหมือนกับก้อนหินที่ตกอยู่ริมทาง เป็นของวิเศษที่ถูกนำมาใช้บ่อยๆ ใน โดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ เวลาที่ต้องหนีจากศัตรูตัวร้าย(ตอน ก้อนหินริมทาง) อยากมีจัง จากคุณ : ใบไม้เบาหวิว เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 16:41:38

ความคิดเห็นที่ 28 ชอบมากค่ะ เป็นการ์ตูนเรื่องแรกที่อ่าน ปัจจุบันก็ยังติดตามอยู่ ^^ จากคุณ : ดาด้า เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 54 10:39:53 A:113.53.74.198 X: TicketID:336446

ความคิดเห็นที่ 29 ชอบที่สุดคะ มีแผ่นเพียบ จากคุณ : Nuudao_kookkai เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 54 14:07:25

ความคิดเห็นที่ 30 โตมากับเรืองนี้ ตอนนี้ลูกก็เจริญรอยตาม แต่จะบอกว่า เวอชั่นแรกๆ เนื้อหาแย่มาก ตบตี ด่าทอ เอาแต่ใจตัวเอง และนิสัยแย่ๆของตัวละครเยอะมาก เวอชั่นต่อๆมา เวิร์กครับ จากคุณ : kopbirt เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 54 15:30:43

ความคิดเห็นที่ 31 น่าสนใจมากเลยค่ะ มีหนังสือที่แปลเป็นภาษาไทยมั้ยคะ อยากได้จังค่ะ จากคุณ : poompinky เขียนเมื่อ : 2 พ.ย. 54 17:27:26

ความคิดเห็นที่ 32 โดราเอมอน ที่แท้ ก็คือ พ่อแม่เรานั่นเองสินะ ;-) จากคุณ : อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 54 15:06:42

ความคิดเห็นที่ 33 ทั้งพ่อทั้งลูก คลั่งโดเรมอนมากเลยค่า ดูทุกตอน ซ้ำไปซ้ำมา จากคุณ : urassaya เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 14:10:52

ความคิดเห็นที่ 34 ชอบมากค่ะ มีความฝันว่าต้องไป Doraemon museum ให้ได้ จากคุณ : jinjung เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 10:25:11

ความคิดเห็นที่ 35 ไม่เคยเข้าห้องนี้มาก่อนเลย  เพราะตอนนี้ติดเกาะ(บ้านน้ำท่วม)  เข้ามาอ่านแล้วหวลคิดถึงตัวเองตอนเด็กมาก  นอกจากดราก้อนบอลแล้ว  โดเรม่อนก็คือหนึ่งในดวงใจที่เป็นการ์ตูนสุดรักของผม  ขอบคุณจขกท มากมายครับผม  ^_^ จากคุณ : poppula เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 13:43:15

ความคิดเห็นที่ 36 อย่าคิดลึกนะตัว... จากคุณ : นิว ชะลาล่า เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 15:24:01