เราลองหาในเน็ตเค้าก็ว่ารักษาหายนะ ลองเข้าไปอ่านดูนะคะ เห็นว่ามีหลายรพเลยที่รักษา ลองดูในกูเกิ้ลนะคะ
เอาใจช่วยให้น้องหายเร็วๆนะคะ
http://www.komchadluek.net/detail/20101018/76739/76739.html
โรคเท้าปุก (Clubfoot) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดรูปของเท้าแต่กำเนิดชนิดหนึ่ง เกิดในเด็กที่ไม่มีความผิดปกติอื่นๆ ที่สามารถอธิบายการเป็นโรคชนิดนี้ ซึ่งต้องรักษาเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และอย่างถูกต้อง
ด้วยวิธีที่ไม่ใช่การผ่าตัด มิฉะนั้นเด็กจะมีความพิการอย่างมาก ทำให้ต้องเดินด้วยหลังเท้า หรือปลายเท้า ส่งผลให้ปวดเท้า ใส่รองเท้าไม่ได้ และไม่สามารถประกอบอาชีพได้เหมือนอย่างคนอื่นๆ พ่อแม่ของทารกที่เป็นเท้าปุก ควรได้รับการเน้นย้ำจากแพทย์ว่า ถ้าได้รับการรักษาที่ถูกต้องโดยแพทย์ที่มีความชำนาญ เด็กจะหายกลับมามีเท้าที่ปกติ สามารถใช้งานได้เช่นเท้าปกติทั่วไป ไม่เป็นปมด้อยของเด็กอีกต่อไป เท้าปุกส่วนใหญ่จะมีรูปร่างกลับมาเป็นปกติ ภายหลังจากได้รับการดัดเท้าและเข้าเฝือกในเวลาเพียง 6-8 สัปดาห์ การรักษา อาศัยความเข้าใจเกี่ยวกับกายวิภาค และความสัมพันธ์ของกระดูกของเท้า การเคลื่อนไหวของกระดูกเท้า รวมถึงความรู้เกี่ยวกับการตอบสนองของตัวกระดูก เอ็น และกล้ามเนื้อต่อการดัดแบบค่อยเป็นค่อยไป ในจำนวนเท้าปุกทั้งหมด มีไม่ถึง 5% ที่มีความรุนแรงมากจนการดัดเท้าไม่ได้ผลสมบูรณ์ และต้องรักษาต่อด้วยการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดควรทำเมื่อการดัดเท้าไม่ได้ผลเท่านั้น เด็กที่เป็นเท้าปุก ควรได้รับการรักษาภายในสองสามอาทิตย์แรกหลังคลอด อาศัยความได้เปรียบในขณะที่เนื้อเยื่อของเอ็นข้อ เอ็นกล้ามเนื้อ และเยื่อหุ้มข้อ ยังพอมีความยืดหยุ่นอยู่บ้าง ด้วยการดัดที่ถูกต้องทุกๆ อาทิตย์ ภายหลังการดัดแต่ละครั้ง เท้าจะได้รับการเข้าเฝือกจากปลายเท้าถึงโคนขาในท่าที่เข่างอ 90 องศา เพื่อบังคับเท้าให้อยู่ในท่าที่ดัดได้ ดังนั้น เท้าจะค่อยๆ ถูกดัดให้เป็นปกติในที่สุด โดยทั่วไปจะใช้เฝือกเพียง 5-7 อัน แม้แต่ เท้าปุกที่เป็นมากๆ ใช้เฝือกไม่เกิน 8-9 อัน ก่อนใส่เฝือกอันสุดท้าย เด็กจะได้รับการตัดเอ็นร้อยหวาย เพื่อทำให้ข้อเท้ากระดกขึ้น เฝือกอันสุดท้ายจะใส่อยู่ 3-4 สัปดาห์ เพื่อให้เอ็นที่ถูกตัดติดกันในท่าที่ยืดยาวขึ้น หลังจากหายแล้ว เด็กที่เคยมีเท้าปุกอาจกลับเป็นใหม่ได้ ฉะนั้น หลังสิ้นสุดการเข้าเฝือก จะต้องใส่กายอุปกรณ์เท้า ทั้งวันทั้งคืน 2-3 เดือน และใส่เฉพาะกลางคืนหรือเวลานอนอีก 4 ปี การวินิจฉัย โรคเท้าปุกใช้เพียงตาดูก็รู้แล้ว การถ่ายภาพเอกซเรย์จึงไม่จำเป็น การตรวจร่างกายโดยละเอียดทำเพื่อดูว่า มีโรคอื่นๆ ร่วมด้วยหรือไม่ ในผู้ป่วยบางรายที่รักษาหายแล้ว อาจมีความไม่สมดุลของเอ็นในการดึงเท้า ทำให้ดูเหมือนว่า เท้ายังผิดรูปอยู่ อาจมีการผ่าตัดเพื่อย้ายเอ็นให้มีแนวดึงที่ตรงขึ้น จากรายงานต่างๆ ที่บอกว่า การดัดและการเข้าเฝือกไม่ได้ผล แสดงว่า วิธีของท่านเหล่านั้นไม่ถูกต้อง ความไม่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง เกี่ยวกับกายวิภาคและการเคลื่อนไหวของเท้า ทำให้ดัดไม่ถูกวิธี และไม่ได้ผลดังกล่าวข้างต้น ส่วนการผ่าตัดในรายที่การดัด และเข้าเฝือกไม่ได้ผล ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
คลินิกเท้าผิดรูปในเด็กศูนย์กระดูกและข้อกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ โทร.1719
จากคุณ |
:
นู๋กำไร
|
เขียนเมื่อ |
:
31 ต.ค. 54 22:33:17
|
|
|
|