พูดและสอนอย่างไรให้โดนใจเด็ก
|
|
การสอนเด็กนั้นสิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจเด็ก เข้าถึงเด็ก หรือจริงๆต้องบอกว่า ต้องคิดแบบเด็ก มองแบบเด็ก
การสอนเด็กโดยมองหรือใช้ตรรกะแบบผู้ใหญ่นั้นหลายครั้งไม่สำเร็จหรือไม่สามารถทำให้เด็กคิดตามหรือเชื่อฟังได้ ถ้าเปรียบเป็นการตกปลาเราก็ต้องใช้เหยื่อที่ปลาชอบ เช่น ไส้เดือนหรือขนมปัง การที่เราคิดว่าเราชอบกินอะไร อย่าง สเต็ค หรือข้าวมันไก่แล้วคิดว่าปลาจะชอบเหมือนกัน แน่นอนว่าสุดท้ายนั้นเราก็คงได้กลับบ้านมือเปล่า
ทั้งนี้ไม่ได้หมายความต้องเข้าข้างเด็ก ทำตัวเป็นเพื่อนเด็ก หรือมองว่าเด็กทำอะไรก็ไม่ผิดตลอด
แต่คือการปรับคำสอนหรือประเด็นเพื่อสื่อให้เด็กเข้าใจหรือยอมฟังในสิ่งที่ถูกจริตของพวกเขา โดยยังคงความถูกต้องสมเหตุสมผลและช่วยให้พวกเขาพัฒนาตัวเองและมีพฤติกรรมไปในทางที่เหมาะสมได้
บางทีเราต้องยอมเลี่ยงประเด็นหลักที่เด็กไม่ชอบและหันไปให้ความสำคัญกับประเด็นรองที่ตรงใจเด็กแทน
เปรียบเหมือนเราเป็นเซลล์ขายรถยนต์ จุดเด่นที่สุดของรถที่เราขายคือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแต่ในเมื่อเรารู้ว่าผู้ซื้อไมได้สนใจเลยในเรื่องนั้นเราก็ต้องนำเสนอจุดเด่นรองเช่นการประหยัดน้ำมันแทน เพราะสุดท้ายนั้นถ้าเราขายรถได้ผลลัพธ์เรื่องสิ่งแวดล้อมก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ดี
เจนเข้าใจดีว่าเหตุผลที่ใช้ในการสอนเด็กของเจนหลายเรื่องนั้นไม่ใช่เหตุผลที่ดีที่สุดและตรงที่สุด
แต่หลายครั้งเหตุผลที่ดีที่สุดกับเหตุผลที่ใช้ได้ผลที่สุดนั้นไม่ใช่เหตุผลเดียวกัน
เจนลองรวบรวมคำสอนที่พูดกับเด็กแล้วรู้สึกได้ว่าเด็กรับฟัง เด็กสนใจ เด็กเถียงหรือโต้แย้งไม่ออก เด็กนำไปคิด ใช้ได้ผล หรือเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กได้ เทียบกับคำสอนที่เด็กรู้สึกไม่พอใจหรือต่อต้านหรือรู้สึกว่าผู้พูดไม่เข้าใจพวกเขาหรือเป็นผู้ใหญ่ขี้อิจฉาหรือไดโนเสาร์กินหญ้า (คำสอนกลุ่มนี้หลายอันได้มาจากการพูดคุยกับเด็กไม่ใช่ว่าเจนเคยพูดกับเด็กแบบนี้)
-ครูรู้ว่าหนูโดนพ่อแม่ตามใจมาตั้งแต่เด็ก ครูเองก็ไม่ได้คิดที่จะดัดนิสัยอะไร แต่ครูอยากสอนให้หนูโตเป็นผู้ใหญ่เป็นคนที่เข้าใจโลกเข้าใจชีวิต
-หนูบอกครูว่าพ่อแม่หนูยังทนได้ยังไม่เคยว่าหนูในเรื่องนี้เลย ครูจะไม่โทษว่าพ่อแม่ตามใจจนทำให้หนูนิสัยเสีย แต่ครูจะบอกว่าหนูเป็นคนโชคดีมากๆที่ได้รับความรักจากครอบครัวอย่างเต็มที่ แต่หนูแน่ใจแล้วหรือว่าหนูไม่ต้องการความรักและการยอมรับจากใครอีก หนูอยากให้คนอื่นว่าหนูว่า "นิสัยแบบนี้ มีแต่พ่อแม่เธอเท่านั้นแหละที่ทนได้ หรอกหรือ
-หนูบอกว่าหนูไม่สนใจเรียนหรอกเพราะพ่อหนูรวย เรียนไม่จบ ไม่ทำงานหนูก็มีเงินใช้ แถมหนูก็ยังสวยอีกต่างหาก ครูจะไม่บอกว่าคิดอย่างนี้พอเงินหมดก็ต้องไปขอทาน จริงๆครูคิดว่าหนูอาจจะพูดถูกด้วยซ้ำ แต่หนูแน่ใจแล้วหรือว่าเงินคือคำตอบทุกอย่างของชีวิตแล้วหนูไม่ต้องการให่พ่อแม่และคนรอบข้างภาคภูมิใจในตัวหนูบ้างเลยหรือ แล้วถ้าสักวันมีคนพูดถึงหนูว่า "รวย สวย ใส ไร้สมอง" หนูแน่ใจว่าหนูจะไม่รู้สึกอะไร
-หนูพยายามสื่อว่าพ่อหนูใหญ่และรู้จักกับคนที่อยู่เหนือกว่าครู ถ้าครูแตะหนูละเป็นเรื่องแน่ ใช่ไหม เอาละ ครูจะไม่บอกว่าอย่าคิดลองดีกับครู แต่จะบอกว่าพ่อหนูเป็นคนดี เป็นคนที่มีชื่อเสียง คนที่ใครๆก็ยกย่อง แล้วหนูไม่คิดจะทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีเหมือนคุณพ่อบ้างหรือๆหนูคิดว่าพ่อหนูเด่นจนเกินไปหนูเลยต้องหาทางช่วยทำลายความภาคภูมิใจของพ่อตัวเองลงบ้าง
-หนูโกหกครู ต่อให้ครูรู้ ครูก็จะไม่บอกว่า ครูรู้นะว่าหนูกำลังโกหกอยู่หรอก แต่จะบอกว่า ครูรู้ว่าการพูดความจริงมันยากแต่ครูเชื่อว่าหนูมีความสามารถเพียงพอที่จะทำได้
-หนูบอกครูว่าหนูโตแล้วปีหน้าจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้วเพราะฉะนั้นหนูจะทำอะไรก็ได้ ครูจะไม่บอกว่าก็ลองดูสิแล้วจะได้เห็นดีกัน แต่จะบอกว่าหนูลองคิดดูว่าความคิดแบบนี้น่าจะมาจากผู้ใหญ่หรือเด็กไม่รู้จักโตที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่กันแน่
-หนูบอกว่าการพูดคำหยาบคายนั้นแสดงว่าหนูเป็นคนจริงใจ ครูจะไม่บอกว่าความคิดหนูผิดแต่จะบอกว่าถ้าอย่างนั้นทุกคนที่ครูรู้จักครูคงคบแบบผิวเผินและเหินห่างที่สุดในโลก และคนที่ได้รับการศึกษาและอบรมสั่งสอนคงคบใครแบบจริงใจไม่ได้
-หนูจะมีแฟน ครูก็ไม่ห้ามหรือมองว่าหนูเป็นเด็กใจแตกอะไร แต่อยากจะบอกว่าความรักเป็นสิ่งสวยงามก็ต่อเมื่อเราห้ามตัวห้ามใจของเราได้
-หนูสูบบุหรี่เพราะหนูบอกว่ามันทำให้หนูดูเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ ครูจะไม่ตัดสินว่าหนูคิดถูกหรือคิดผิดแต่อย่างใด แต่อยากให้ลองคิดดูว่าคนที่เสียเงินซื้อสิ่งที่ทำร้ายตัวเองมาใส่เข้าไปในตัวเองนั้นมันเกี่ยวอะไรกับยุคสมัย
-หนูโดนใครด่าใน facebook หรือพื้นที่ส่วนตัวหนูอย่างหยาบคาย ครูจะไม่ขอให้หนูไม่โกรธหรือไม่รู้สึกอะไร แต่อยากบอกว่าหนูน่าจะดีใจที่หนูได้รับการอบรมสั่งสอน มีการศึกษาและโอกาสที่ดีกว่าพวกเขาเหล่านั้น
-ถ้าหนูชี้นิ้วด่าใคร ครูจะไม่ขอให้หนูหยุดแต่อยากจะให้เอามือค้างไว้แล้วมองว่ามีแค่นิ้วเดียวที่พุ่งไปหาคนๆนั้นแล้วนิ้วที่เหลือละมันพุ่งเข้ามาหาใคร
-หนูบอกหนูโดนแฟนทิ้ง หนูไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ครูจะไม่ไล่ให้หนูไปตาย แต่อยากจะถามว่าหนูจะตายเพื่อคนที่ไม่ได้รักหนูแล้วทิ้งคนสองคนที่รักหนูที่สุดในโลกคือพ่อกับแม่ไว้หนูแน่ใจว่าคิดดีแล้วหรือ
-หนูเกลียดใคร โกรธใคร หรือคิดว่าใครเป็นคนเลว หนูรู้สึกแบบนั้นได้ครูจะไม่ขอให้หนูเปลี่ยนความคิดอะไร แต่ที่ครูตำหนิหนูไม่ใช่เพราะความคิดหนูแต่เพราะหนูแสดงความรู้สึกออกมาด้วยกิริยา มารยาทและคำพูดที่ไม่เหมาะสมต่างหาก
-ครูรู้ว่าหนูคงนึกในใจว่าแค่โดนกระโดดตบเพราะมาโรงเรียนสายคิดเหรอว่าจะทำให้หนูกลัวหรือเข็ดได้ ครูก็รู้ว่าหนูไม่เข็ดไม่กลัวแล้วก็ไม่ได้ต้องการให้รู้สึกแบบนั้น จริงๆสิ่งที่ครูอยากสอนคือเรื่องความละอายใจต่อการทำผิดต่างหาก ตอนแรกที่ครูไม่พูดเพราะคิดว่าหนูน่าจะเข้าใจเองได้ แต่พอเห็นหนูทำท่าทางแบบนี้ครูเลยคิดว่าครูคงจำเป็นต้องพูดแล้วละ
-หนูบอกว่าชีวิตหนูก็ย่อมเป็นของหนูๆมีสิทธิที่จะทำอะไรก็ได้ ครูเองก็คิดว่าสิ่งที่หนูพูดมาน่ะใช่เลย แต่พ่อกับแม่ก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตหนูด้วยจริงหรือเปล่า
-หนูจะใช้ไอโฟน ใช้บีบี หรือใช้มือถือจอขาวดำ ครูบอกเลยว่าครูไม่ได้อคติอะไร พ่อแม่หนูซื้อให้ก็เป็นสิทธิของหนู แต่สิ่งที่ครูสนใจและอาจทำให้ครูไม่พอใจคือมารยาทในการใช้โทรศัพท์ของหนูต่างหาก
-หนูจะได้ค่าขนมมาโรงเรียนวันละ 500 ครูก็ไม่ได้มองว่าพ่อแม่สปอยล์หนูแต่อย่างใด แต่ถ้าเป็นครูๆคงเก็บไว้บ้างเพราะพ่อแม่ไม่ได้บังคับให้หนูใช้จนหมดจริงไหม เรื่องของธุรกิจไม่มีความแน่นอนอะไร ใครจะไปรู้ว่าสักวันหนูอาจได้เป็นฝ่ายช่วยพ่อแม่ก็เป็นได้
(บทความนี้เขียนขึ้นจากความรู้สึกและประสบการณ์ เจนเข้าใจดีว่าเด็กทุกคนมีความแตกต่าง วิธีการหรือคำสอนที่ใช้ได้ผลกับเด็กคนนึงไม่ได้ผูกพันธ์อันใดเลยที่จะใช้ได้ผลกับเด็กทุกคนเสมอไป)
เจน
จากคุณ |
:
JanE & IK
|
เขียนเมื่อ |
:
6 พ.ย. 54 23:50:51
|
|
|
|