ความคิดเห็นที่ 1 เด็ก สนุกกับวันลอยกระทง เสียงพลุดังสนั่นทั่วอำเภอ บอกว่า นี่คือหมดเวลา ประเพณีลอยกระทงตอน ห้าทุ่มแล้ว โครมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม เสียงดังสนั่น ลั่นตลาด ชาวบ้านนึกว่าเสียงพลุอีก ชุดหรือเปล่า แต่เปล่าเลย มันคือเสียงรถมอเตอร์ไซด์ ชนกับรถกระบะ ผลที่ออกเป็นไงหรือ เด็กคนขี่คอหัก ตายคาที่ คนที่สอง กระดูกทิ่มปอด เสียชีวิตที่โรงพยาบาล คนที่สามคนสุดท้าย กระเด็นตกจากรถ เอาส่งโรงพยาบาล แขนหัก สมองบวม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมเข้าสอน แบบสอนไม่ออกจริงๆ เด็กไม่ขำไม่เล่นเหมือนทุกวัน สอนเสร็จผมรีบขับรถไปเคลียร์งานที่ บ่อวิน ให้จบแล้ว รับเจ้าลูกสาวมาโรงพยาบาล เอกชลในตัวเมืองกัน เห็นสภาพลูกศิษย์แล้วตกใจ ผ้าพันรอบตาหมดสองข้าง เขานอนนิ่งเงียบ ในห้องไอซียู ใส่เครื่องช่วยหายใจ เฟอร์นิเจอร์ครบ ความดัน 120/60 ขีดล่างต่ำไปเยอะเหมือนกันแต่ เอานะ พระคุ้มครอง ลูกศิษย์ผมต้องรอด วันอาทิตย์ผมพยายามว่างตอนบ่าย ขับรถไปเยี่ยมแม่ของเด็กที่เสียชีวิตทั้งสองคน ในสองวัด ที่ไกลกันพอควร แม่เด็กร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล แม่คนแรก "ครู............หนูมาจาก บ้านโป่งเลยนะ พอรู้ว่าลูกเสีย หนูก็มืออ่อนหมดเลย ต้องนั่งรถจากบ้านโป่ง มาเส้นบ้านแพ้ว ถึงจะมาชลบุรีได้ " แม่คนที่สอง "หนูไม่เหลืออะไรอีกแล้ว เรามีกันสองคนแม่ลูก พ่อเขาไปมีครอบครัวใหม่ หนูก็เหลือกันสองแม่ลูก แล้วนี่ลูกชายก็มาจากไปอีกหนูทำกรรมอะไรนักหนา" พูดพลางร้องไห้พลาง ผมก็พูดไม่ออก เพราะงานแบบนี้เป็นผม ผมก็ชาหมดเหมือนกัน วันนี้วันจันทร์ เราต้องจัดครูสองชุด เพราะมีงานศพ สองงาน เผางานแรก ตอน 14.00 อีกงานตอน 15.00 มันเป็นอะไรที่ ยุ่งมากเลย ศพแรก เสร็จอย่างรวดเร็วเพราะญาติไม่เยอะมาก ครูไปนั่งกันไม่นาน ก็เสร็จ ย้ายวัดได้เลย แต่ ศพที่สอง แม่ร้องไห้จนไม่เหลืออะไรจะร้อง ในมือผมมี สมุดเฟรนชิปที่ลูกชายเขา ให้เพื่อนเซนต์เพราะจะจบ ป.6 อยู่ในมือ พวกนักเรียนของผม ฝากมาคืนแม่เขา ย้ำว่า ให้กับมือนะ จังหวะแทบไม่มีเลย พระสวดบังสกุล สวดสารพัด เทศน์ก็ อีกยกใหญ่ จนจังหวะที่ผมถวายผ้าไตรให้พระ "คุณแม่ครับ สมุดของลูกชาย เพื่อนๆ เขาฝากมาให้" ผมเอาสมุดเฟรนชิปให้แม่เขา "อือออออออออออออออออออออ" ทีนี้ยาววววววววลั่นวัดเลย เสียงร้องไห้คร่ำครวญถึงลูกชาย เพราะในหน้าแรก เป็นรูป ครอบครัวในอดีต สามรูป รูปแรก รูปของคุณแม่แต่งชุดเจ้าสาว รูปสอง เป็นพ่อแม่ลูกถ่ายร่วมกัน รูปสามเป็น รูปลูกชายถ่ายตอน ป.1 เล่นเอา เงียบไปทั้งศาลา ตายแล้ว ผมทำอะไรผิดหรือเปล่านี่ และแล้วเวลาอันพลัดพรากของจริงก็เข้ามา คือเวลา เผาจริง ทุกคนต้องกัน คุณแม่ให้ไปอยู่อีกที่หนึ่ง เพราะไม่เช่นนั้นงานคง ทำต่อไม่ได้ผมก็เห็นใจนะ หลายปีก่อนเสีย สามีให้กับ หญิงอื่น วันนี้เสียลูกชายคนเดียว ซึ่งเป็นเด็กขี้เล่นช่างพูดช่างคุย คนสุดท้าย คนที่สาม รายนี้โชคดีที่สุด รอดมาได้ แต่ ก็ คงต้องพักการเรียนไปเทอมหนึ่งถ้ายังหายไม่ทัน สิ้นปีนี้ แขนหัก สมองบวม นอนห้องไอซียู เช็คบิล ค่ารักษางวดแรก ร่วมแสนบาท กว่าจะหายพ่อแม่ไม่รู้จ่าย อีกเท่าไร คงไม่หนีราคารถมอเตอร์ไซด์สิบคันแน่ ใครล่ะเป็นคนชน!! รู้แล้วจะอึ้งหนักไปอีก คนชน คือ พ่อของเพื่อนพวกเขา ซึ่งในกลุ่มนี้ เล่นหัวกันแต่เด็ก สี่คน พ่อของเพื่อนคนที่สี่ ขับรถชนเพื่อนลูกตัวเอง ตายและเจ็บ คนขับก็ ขับรถเมามาจากไหนไม่รู้ มันน่าเศร้าไหม คนที่ผมห่วงที่สุดก็คือเพื่อนคนที่สี่ วานนี้ก่อนไปงานศพ ผมเห็นเขาหน้าจ๋อยสนิท เมื่อผมบอกนักเรียนว่า สองชั่วโมงสุดท้ายผมและครูอีกหลายคนจะไปงานศพ เพื่อนเขา ใจก็ภาวนา ขอให้ เพื่อนๆ ในชั้น ทุกคนเห็นใจเขา อย่าได้รังเกียจเพราะเขาไม่ได้ผิดอะไร ผมสอนหนังสือมาสิบเอ็ดปี ลูกศิษย์ เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสหลายรายจากรถมอเตอร์ไซด์ บางคนม้ามแตก บางคน เสียชีวิต ด้วยวัยคึกคะนอง พ่อแม่ บางคนหัดให้ลูกขี่รถเป็น แล้วไปคุยกันว่าลูกข้าเก่ง ลูกข้าแน่ พ่อแม่หลายคน ใช้ให้ลูกขี่รถเครื่องไป ซื้อของ ในตลาดที่ไกลๆ เสี่ยงรถชน คำว่า " แค่นี้เอง" มัน ใช้ได้ถ้าไม่เกิดเรื่องอะไร แต่พอเกิดเรื่องก็เสียใจร้องไห้กัน ลูกใครใครก็รัก ลูกคือแก้วตาดวงใจ ทั้งนั้น ลูกต้องไปทำกิจกรรมนอกเวลา อีกอย่าง อยากให้พ่อแม่ใส่ใจ โทรเช็คจากทางโรงเรียนว่าจริงไหม ในกรณีไม่มีหนังสือขออนุญาต จากโรงเรียนเด็กหลายคนโกหกพ่อแม่ ว่าทำกิจกรรมแต่เปล่าเลย ไปเที่ยว กัน พ่อแม่รู้อีกทีเมื่อลูกเจ็บตาย นี่ยังไม่นับพ่อแม่ที่ปล่อยลูกเกินไป ห้าทุ่มแล้วลูกอยู่ไหน ไม่รู้ ซึ่ง จะอ้างว่าลูกไปงานลอยกระทง ดึกขนาดนั้นควรไปด้วยกัน เพราะ อันตรายอะไรเกิดขึ้นไม่รู้ คิดแล้ว ผมเสียใจมากๆ แบบพูดไม่ออก เพราะไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องแต่งชุดดำไปงานศพลูกศิษย์ตัวเอง แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 54 08:10:53 จากคุณ : ทาสเทวี เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 07:09:46

ความคิดเห็นที่ 2 เฮ้อออออออออ -___-" จากคุณ : jukkajee_5555 เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 08:04:22

ความคิดเห็นที่ 3 เราอยู่ศรีราชา เด็กๆแถวนี้บางคน ขี่มอฯตั้งแต่มอฯเท้ายังยันแทบไม่ถึงพื้นด้วยซ้ำ พ่อแม่ก็ปล่อยให้ขี่ แบบนี้โทษใครไม่ได้ นอกจากพ่อแม่รังแกฉัน จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 08:10:10

ความคิดเห็นที่ 4 ขนาดน้องฟีมนักบิดระดับโลกเค้ายังขี่ฟีโน่ชนได้เลย ประสาอะไรกับเด็กอื่นๆ มอเตอร์ไซต์มันคือเนื้อหุ้มเกราะ มีเพื่อนเป็นนักแข่งเหมือนกันเคยได้แชมป์และก็เคยเกือบตาย และเพื่อนนักแข่งของเค้าก็ทยอยตายไปทีละคนสองคน แต่ละคนเก่งๆทั้งนั้น ชื่อดังในวงการ ไม่ตายในสนามแต่มาตายบนถนน ตอนนี้เค้าก็เลิกขี่แล้ว จู่ๆก็กลัวตายขึ้นมา จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 08:23:59

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านแล้วนั่งร้องไห้เลย สงสารแม่เด็กมาก   เมื่อวานก็เห็นเด็กผู้ชายน่าจะยังอยู่ชั้นประถม มองดูแล้วขายังยันพื้นไม่ได้เลย ขี่มอเตอร์ไซค์ ซ้อนกันมา 2 คน ไม่ใส่หมวกกันน็อค ส่วนคนขี่ก็กินขนมไปด้วยน่ากลัวมากเลยบอกให้สามี ขับห่าง ๆ ดีกว่า กลัวเกิดอันตราย พ่อ-แม่ บางคนอยากให้ลูกขี่รถเป็นอาจจะเอาไว้ใช้ซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่คงคิดไม่ถึงว่าอันตรายอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง จากคุณ : อะไรกันผู้หญิงคนนี้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 09:51:46

ความคิดเห็นที่ 6 สมัยเราวัยรุ่น พ่อเราบอกว่าจะให้ขี่มอไซค์ได้ ต้องอายุถึงใบขับขี่และมีใบขับขี่ก่อน ไม่งั้นไม่ให้ออกถนน นึกน้อยใจพ่อนิดนึง เพื่อน ๆ เขาขี่กันตั้งแต่ป.6-ม.1 แล้ว เราต้องรอจนม.4(อายุ16) พออายุถึงรีบหัดขี่ในหมู่บ้านทันที พอขี่ได้ไปรีบไปสอบใบขับขี่ และพ่อก็รักษาสัญญา ซื้อมอไซค์ให้คนนึง และยอมให้ขี่ไปร.ร. ตั้งแต่ขี่มไซค์มา อุบัติเหตุร้ายแรงสุดที่เคยเจอคือชนกับรถเก๋งที่เขาย้อนศรมาชนเรา แต่เจ็บแค่ถลอกปอกเปิก ไม่มีกระดูกหักหรือแผลแตกต้องเย็บ แต่ก็เข็ดไปนาน ตอนหลังรถคันนั้นเอาไปให้พี่สาวใช้ที่เชียงใหม่ เราเข้ามหาลัยเลยเลิกขี่มอไซค์เพราะไปเรียนไกลมาก นั่งรถเมล์แทน   เรื่องขับรถยนต์ พ่อขอให้เรียนจบป.ตรีก่อน แล้วค่อยสอนขับ แว่บแรก น้อยใจอีกแล้ว เพื่อน ๆ เราขับตั้งแต่ปี1กันทั้งนั้น แต่ก็เชื่อพ่อ พอทำงาน พ่อให้รถเก่าพ่อแต่สภาพดีมาใช้ บอกว่า มือใหม่อย่าใช้รถใหม่เลย เดี๋ยวชนจะเสียดาย ขับไปได้ระยะนึง พ่อก็สั่งให้ขายคันเก่าเอาไปดาวน์ป้ายแดง เราก็ทำตาม ผ่อนแจ๊สคันที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ มาวันนี้ พ่อจากไปแล้วด้วยโรคภัย และเราก็มีลูกเอง บ้านเราไม่เคยมีประวัติอุบัติเหตุร้ายแรงจากรถ เรานึกขอบคุณพ่อเสมอที่เคยเข้มงวดกับเราตอนนั้น เราคุยกับที่บ้านแล้ว เราจะทำแบบเดียวกับที่พ่อเราเคยทำ คือไม่ให้ลูกขับขี่รถก่อนวัยอันควรค่ะ จากคุณ : shamuneko เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 10:07:20

ความคิดเห็นที่ 7 เฮ้อ เราก็อยู่บ้านสวน ชลบุรี ตอนดึกๆได้ยืนแต่เสียงปืนเสียงรถ เราก็มีลูกสาวด้วย โตขึ้นเราจะไม่สอนให้เขาขับเลยล่ะ เพราะพ่อเขาก็เคยรถชนเกือบเสียพ่อเขาไปแล้ว ถ้าเสียเขาไป คนเป็นแม่คงใจสลาย T___T" จากคุณ : modaom เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 10:38:34

ความคิดเห็นที่ 8 เคยไป ตจว เด็กที่นั่นขี่มอเตอร์ไซด์ตั้งแต่ขายังไม่ถึงพื้น เจอจัง ๆ ชนกันที่สามแยก ฝ่ายชน เป็นเด็กนักเรียนหญิง 2 คน ล้มแบบตั้งหลักได้ คงแค่ถลอก แต่อีกฝ่ายเป็นเด็กผู้ชาย น่าจะไม่เกิน ป.6 คงล้มแบบเสียหลัก หัวฟาดพื้น นอนชักอยู่กลางแยก ถ้าอย่างน้อย พ่อแม่หาหมวกให้ใส่ น่าจะหนักเป็นเบาได้ หารถให้ลูกขี่ แต่เด็กไม่ใส่หมวกกันน็อกกันเลย จากคุณ : ZQ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 10:54:36

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องมอไซค์นี่ ผมเองไม่เคยเรียกร้องกับพ่อแม่เลยครับ เพราะรู้ว่าครอบครัวยากจน แต่ในใจลึกๆก็อยากได้นะครับ พูดตรงๆเลยคืออยากขับไว้อวดสาว จน มอ 3 นี่พ่อก็ซื้อมือสองมาให้ 1 คันใช้จนมาถึงทุกวันนี้ อายุ 31 ปีแล้วครับ ยังขับรถคันเดิมที่เคยไปไหนมาไหนด้วยกันมาตั้งแต่มอ 3 เอาไปทำงานทุกวัน โดยที่ตัวเองยังรู้สึกดีและภูมิใจกับรถคันนี้มากไม่เคยเปลี่ยนแปลง จากคุณ : Classic Joomla เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 10:58:18

ความคิดเห็นที่ 10 ลูกเรา ไม่หัดให้เด็ดขาด เพราะขนาดจักรยาน ยังจะชนหลายรอบ ถ้ามอเตอร์ไซค์ คงไม่รอด เฮ้อ เด็กหนอเด็ก เพราะความสนุก อยากลอง คะนองโดยแื้ท้ ขอให้น้อง ทั้ง 2 คนไปสู่สุคติ และน้องที่ได้รับบาดเจ็บกลับมาเรียนเร็วๆ นะคะ จากคุณ : สักวัน ความดีต้องปรากฏ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 11:07:43

ความคิดเห็นที่ 11 อยู่ที่ครอบครัว ขนาดจักรยาน กว่าจะปั่นเป็น ป.5 คนอื่นเค้าปั่นกันได้นานแล้ว มอไซค์ ได้ขี่ตอนอายุ 20 ก่อนหน้านั่น ไม่เคยได้จับ พ่อไม่ให้ แต่ส่งไปเรียนขับรถยนต์ก็ตอน 20 นั่นละ ขับไม่คล่องเอารถไปถูประตูบ้านอีก ไม่มีเงินเติมน้ำมันด้วย เลยขอมอไซค์แทน เกือบไม่ได้ ต้องไปหัดเอง มาขี่ให้ดูว่าได้แล้วนะตอน 21 ขวบ ไปไหนก็ต้องใส่หมวก พ่อสั่ง จากคุณ : พ่อศรีเรือนคับผม เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 11:27:06

ความคิดเห็นที่ 12 เฮ้อเมาแล้วขับ จากคุณ : credor เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 12:55:10

ความคิดเห็นที่ 13 น่าสงสารจัง แต่จะโทษใครได้นอกจากผู้ปกครอง แถวบ้านแม่ต่างจังหวัด ขายังไม่ถึงพื้นก็ขับกันแล้ว แต่ก็จำกัดขอบเขตในการขับคือในหมู่บ้านและที่ชุมชนรถไม่ค่อยมี ส่วนในเมืองมีตรวจใบขับขี่เข้มงวดมาก ซึ่งยังไงเด็กๆขับเท่าที่เห็นก็ยังน่ากลัวอยู่ดีค่ะ เรื่องนี้ครอบครัวมีส่วนมากๆ ไม่ควรให้ขับเด็ดขาด จากคุณ : angkan111 เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 13:11:41

ความคิดเห็นที่ 14 น่าสงสารแม่น้องเค้าจังเลยค่ะ สามีเราเคยแข่งมอไซค์ตอนวัยรุ่นนะ ประมาณีวีรบุรุษนักบิด แต่ตอนนั้นเราไม่รู้จักกะสามีเราหรอก เพื่อนเราเล่าให้ฟังมาอีกที ขนาดสามีเคยชอบขับ  ชอบแข่งความเร็ว ตอนนี้เรามีกำลังท้องอยู่ สามีบอกว่าถ้าได้ลูกชายจะไม่ให้ขี่มอไซค์เด็ดขาด ถ้าใช้รถมอไซค์ก้อต้องอยู่ในสายตา ควบคุมไม่ให้ไปขี่เล่นไกลๆหรือแข่งกับเพื่อน เรื่องนี้ผู้ปกครองควรใส่ใจให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กผู้ชาย มีความเสี่ยงสูงมากค่ะ จากคุณ : NuChKie เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 13:20:34

ความคิดเห็นที่ 15 เฮ้อ เจอเรื่องประมาณนี้หลายครั้งแล้วคะเพราะทำงานบริษัทประกัน สงสารพ่อแม่ แต่เค้าก็เป็นคนซื้อรถให้เด็กใช้เอง ห้ามก็ไม่ได้ เพื่อนมี เืพื่อนขี่กันเป็น ก็ต้องเป็นไปตามเค้าด้วย บางคนพ่อแม่ผ่อนซะแทบแย่ ขี่ไม่ระวังหายบ้าง เอาไปพนันเกมส์บ้าง บอลบ้างแล้วแต่กันไป จากคุณ : JusTT เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 13:29:49

ความคิดเห็นที่ 16 แถวบ้านเราเค้าจะพูดกันว่า ซื้อมอไซต์ แถมโรงศพค่ะ จากคุณ : กระต่ายน้อยรสสตอเบอร์รี่ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 13:31:26

ความคิดเห็นที่ 17 ป6 ทำไมพ่อแม่ยอมให้ลูกขี่มอไซร์แล้วล่ะ?? จะโทษเด็กก็ไม่ได้นะแบบนี้ บางครอบครัวรักลูกมากเกินไปจนไม่ห้ามไม่ตักเตือนกันเลย พอเกิดเรื่องก็มานั่งเสียใจกัน อ่านแล้วก็บอกไม่ถูก ไม่รู้จะสงสารพ่อแม่เด็กดีรึปล่าวด้วยซ้ำ RIP~ ละกัน แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 54 15:37:14 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ย. 54 15:37:13 จากคุณ : หนมจีนเส้นหนึบ (kkasemos) เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 13:45:32

ความคิดเห็นที่ 18 สงสารแม่น้องจับใจ อ่านแล้วก็แอบน้ำตาซึมไปด้วย เด็ก อย่างไรก็คือเด็ก ความคิดอ่าน และประสบการณ์ชีวิตเค้ายังน้อย ความคึกคะนองก็สูง ขาดความระมัดระวังอย่างแรง ปัจจุบันนี้ เวลาขับรถกลับบ้าน สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของเราก็คือคนขี่มอเตอร์ไซด์ ยิ่งเป็นเด็กยิ่งน่ากลัว บทจะตัดหน้าก็ตัด จะแซงแล้วปาดก็มีให้เห็นบ่อย บางคนซ้อนสามแถมขับรถย้อนศรอีก บ้างก็ฝ่าไฟแดงแบบข้าแน่ ข้าเก่ง เห็นแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ เด็กยิ่งอยู่รวมกันเป็นแก๊ง ความคึกคะนองก็สูง เฮ้อ เศร้าได้อีก..... จากคุณ : แม่น้องไม้โท เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 13:52:28

ความคิดเห็นที่ 19 ตจว เห็นเด็กนักเรียนประถามขี่มอไซค์กันเป็นเรื่องปกติครับ และที่สำคัญ ไม่เคยเห็นเด็กพวกนี้ใส่หมวกกันน็อคเลยสักคน ตำรวจตามถนน ก็โบกมือให้ไปตามปกติ พาลสงสัยว่า กฎหมายมันครอบคลุมเฉพาะ กทม และปริมณฑลหรืออย่างไร ทำไม กฎหมายไม่สามารถบังคับให้เด็ก ตจว ใส่หมวกกันน็อคด้วย ถ้าพ่อแม่ใส่ใจสักนิด คิดว่ามันจำเป็นต้องขี่มอไซค์ แต่ให้ใส่หมวกกันน็อคสักหน่อย เรื่องมันอาจจะไม่เลวร้ายอย่างนี้ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 14:04:51

ความคิดเห็นที่ 20 พ่อแม่ผมเคยพูดว่า "ซื้อมอไซด์ให้ลูก ก็เหมือนซื้อโลงศพให้" ดูเหมือนจะเป็นความจริงครับ เมื่อก่อนตอนผมประมาณ ม.4 ได้ ปกติที่บ้านมีมอไซด์คันเดียว ยี่ห้อ Suzuki RC แต่เนื่องจากที่บ้านผมมีกันสี่คน คือ พ่อ แม่ พี่ชายผม แล้วก็ผม เวลาไปไหนมาไหนมันลำบาก พ่อกับแม่ก็เลยไปซื้อมอไซด์เพิ่ม แทนที่จะได้รถครอบครัวมาอีกคันกลายเป็นว่าได้ Dash แบบไม่มีคลัชมาแทน สมัยนั้นใครๆ ก็รู้ว่ารุ่นนี้ตัวแรงเลย ออกมาไม่ทันไรผมแอบเอามอไซด์ตัวแรงไปบิดจมไมล์ ตอนนั้นจำได้ว่าเกือบ 140 ทั้งๆ ที่เพิ่งหัดขับรถไม่นาน แล้วก็มีหลายๆ ครั้งที่พี่ผมและผมแอบเอาไปแข่งกันตอนกลางคืน คิดสภาพเอานะครับว่าถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมานี่พ่อกับแม่ผมคงหัวใจสลายแค่ไหน แต่ยังโชคดีครับที่แคล้วคลาดมาทุกครั้ง ตอนนี้ผมมีลูกชายเกือบๆ สองขวบ และสัญญาว่าจะไม่มีทางซื้อมอไซด์ให้ลูกผมเด็ดขาด... จากคุณ : บะหมี่เกี๊ยวหมูกรอบ เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 14:12:18

ความคิดเห็นที่ 21 แถวบ้านก็มี แต่เป็นอีกเคสนึง ลูกวัยรุ่น ร่ำร้องจะเอามอไซค์ พ่อแม่ไม่ซื้อให้ เพราะไม่อยากให้ลูกขับ กลัวจะเกิด อุบัติเหตุ ใคร ๆก็ว่า ซื้อรถให้ลูก จะเท่ากับทำให้ลูกชีวิตสั้น แต่ลูกไม่คิดเช่นนั้น คิดว่าไม่ซื้อให้ คือไม่รักลูก ลูกเลยไปผูกคอตาย ประชดซะเลย เฮ้อ............. จากคุณ : Labaluna เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 14:30:19

ความคิดเห็นที่ 22 เข้าใจแล้วว่าทำไมแม่ไม่ให้ขี่มอไซ................. จากคุณ : pollapoice เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 15:00:55

ความคิดเห็นที่ 23 เราเคยหัดขี่อยู่ค่ะแล้วขับไปชนเก้าอี้ทำให้ตระกร้าหน้ารถเบี้ยวรถก็ล้ม ต้องแต่นั้นมาไม่เคยจับอีกเลยกลัวค่ะ มอเตอร์ไซค์ก็เคยคว่ำมาแล้วเพราะสามีนี่แหละพาคว่ำรถกระบะขับตัดหน้าแบบกระชั้นชิดสุดท้ายก็รอดมาได้เจ็บนิดหน่อย ที่บ้านเราไม่มีใครสนับสนุนให้ซื้อรถมอเตอร์ไซค์เลยค่ะ พ่อ - แม่ห้ามตลองบอกถ้าซื้อรถก็ซื้อโลงศพผูกติดกันไว้เลย น่าสงสารเด็กคนที่ 2 มากเลย แม่ก็เสียทั้งสามีแล้วยังมาเสียลูกชายคนเดียวอีก อยู่กัน 2 คน เป็นเราคงตามไปอยู่กับลูกแล้วค่ะ ทนอยู่คนเดียวไม่ได้ จากคุณ : nong ot เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 15:42:21

ความคิดเห็นที่ 24 แม่เราก็สอนมาแต่เด็กค่ะ แม่บอกว่า ขับรถยนต์น่ะ "เหล็กหุ้มเนื้อ" ส่วน มอเตอร์ไซค์น่ะ "เนื้อหุ้มเหล็ก" พ่อกะแม่เราไม่เคยให้เราขี่มอเตอร์ไซค์เลยค่ะ ตอนนี้เราอายุ 30 ปีแล้ว ก็ยัง ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็นค่ะ ตอนเรียนก็รู้สึกลำบากบ้าง ต้องคอยซ้อนเพื่อน ขับรถยนต์ไปเรียนก็ไม่มีที่จอด ฯลฯ แต่เราก็ไม่เคยโกรธแม่เลย ส่วนสามีเรา ก็ขี่ตั้งแต่ ม.ต้น เฮ้ว มาก ขี่เร็วมาก ซอกไปแซกมา มีแผลตามแขนขาเพียบ ทุกวันนี้เวลานั่งรถยนต์กับสามีแล้วมีวัยรุ่นขี่รถ ปาดซ้าย ขวารถเราไป สามีก็จะบอกว่า ... เมื่อก่อนเค้าก็ขับแบบนี้ ย้อนกลับไปคิดก็ใจหาย ดีแค่ไหนแล้วที่รอดตายมาได้จนทุกวันนี้ ... เฮ้อ ! จากคุณ : BoMuChan เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 15:45:50

ความคิดเห็นที่ 25 ตอนอยู่ ม.ต้น เราอยู่เบตง ขับมอไซด์ได้ก็เอาไปโรงเรียน วันหยุดก็ขับไปเที่ยวกับเพื่อน วันนึงขับไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วนึกคึกแข่งกัน นึกทางยะลา-เบตงออกไหมคะ ทางโค้งเยอะมาก รถเราก็ใช่ว่าจะดี เก่าๆ เบรกไม่ค่อยติด แต่ด้วยความที่เป็นวัยรุ่น อยากลอง เลยแข่งกัน มีเพื่อนซ้อนท้ายด้วย ถึงทางโค้ง เราชะลอแล้วตีโค้ง แต่ด้วยความที่ขับมาเร็ว เราประคองรถไม่อยู่ ล้มค่ะ กลิ้งทั้งคนทั้งรถ เราคนขับอ่ะ พอรู้ว่ารถมันจะล้ม เราก็ยังมีสติอยู่ แต่เพื่อนเราสิ มันซ้อนท้ายมันไม่รู้หรอกว่าจะล้ม หัวฟาดพื้นถนนค่ะ   เราเองกลิ้งไปหลายตลบอยู่เหมือนกัน  พอลุกขึ้นมาได้ วิ่งไปดูเพื่อนก่อนเลย ตัวเราเองไม่ห่วงหรอก ห่วงเพื่อนมากกว่า เพราะว่าเราชวนให้เค้าซ้อนมาด้วยกัน ตอนนั้นแบบอยากร้องไห้มาก เพราะเพื่อนมันบอกว่าปวดหัวๆ ส่วนรถไม่ต้องพูดถึงค่ะ ยับเยิน จูงรถเข้าบ้านหน้าจ๋อยๆ กลัวคุณอาว่า (อยู่กับอา) ดีที่ว่าเค้าไม่ว่าอะไร ได้แต่บอกว่าไปอาบน้ำซะ ค่าซ่อมรถบานเลยค่ะ  ไฟเลี้ยวแตก ไฟท้ายแตก บังโคลนแตก แฮนด์พัง ซ่อมเบรก ตั้งแต่นั้นมา เลิกซ่าส์เลยค่ะ กลายเป็นเด็กเรียบร้อยไปหลายเดือนเหมือนกัน 555 ยังไงผู้ปกครองที่มีเด็กวัยนี้ ก็อย่าให้เค้าขับเลยนะคะ ความคึกคะนองนี่แหละคะตัวดีเลย อาจทำให้เสียใจภายหลังได้ **แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 54 08:54:37 จากคุณ : พ่อหนูอยู่เบตง เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 16:30:07

ความคิดเห็นที่ 26 อ่านแล้วแทบร้องไห้ เห็นใจทุกฝ่าย จากคุณ : ส้มตำปลาร้า เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 16:40:12

ความคิดเห็นที่ 27 พูดไม่ออกค่ะ อ่านแล้วสลดใจจริงๆ ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียทุกคนด้วยนะคะ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 16:56:22

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่สงสารใครทั้งนั้น เด็กอายุไม่ถึง ไม่มีวุฒิภาวะในการตัดสินใจ ให้ขับมอเตอร์ไซค์ได้อย่างไร ตัวเองไม่เจ็บ ไม่ตาย ก็ทำคนอื่นเจ็บ ผิดกฏหมายเห็น ๆ คนขับรถ เมา แล้วบอกว่า ไม่ได้ทำอะไรผิดได้อย่างไร ถึงเด็กที่ตาย จะขับมาผิดอย่างไร ถ้าอีกฝ่าย ไม่เมา คงยั้งได้ เมาแล้วขับ  ผิด  ผิด  ผิด ผิด ผิด ผิด ไม่คิดสงสารใคร หรือเห็นใจ ใด ๆ ทั้งสิ้น พวกเราสร้างสิี่งแวดล้อมเช่นนี้ ขึ้นมาเอง ยอมรับในสิ่งที่ผิด แล้วบอกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดา เด็กแค่ไหนก็ขับมอเตอร์ไซค์ได้ ผู้ชายกินเหล้า เมาเป็นเรื่องธรรมดา เมาแล้วขับเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีเงิน ไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถ ใช้มอเตอร์ไซค์ ก็ผ่อนเอา ใคร ๆ เขาก็ทำ เรื่องเหล่านี้ สร้างกันมาเอง ก็รับกรรมกันเองแล้วกัน จากคุณ : แม่น้องหยง เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 18:18:36

ความคิดเห็นที่ 29 สงสารน้อง สงสารแม่น้อง ขอให้น้องทั้ง2 ไปสู่ภพภูมิที่ดี ผมเองบอกตรงๆ อยู่มาจรจะ 30 ยังขี่มอไซค์ไม่เป็นเลย เคยหัดตอน 12 ขับไปได้ไม่ถึง 10 เมตร ล้มแขนหัก เหอๆ หลังจากนั้นไม่เคยขับมอไซค์อีกเลย (ยกเว้นซ้อนชาวบ้านนะ) จากคุณ : TVIC_1408 เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 19:37:15

ความคิดเห็นที่ 30 น้ำตาไหลเลย นึกถึงน้องคนนึง ลูกของน้าเพิ่งจบ ป.6 อยู่ ม.1ขอพ่อเค้าไปงานลอยกระทงกับเพื่อน ซึ่งปกติพ่อเค้าไม่เคยปล่อยเลย แต่น้องบอกว่าไปใกล้ๆ + งอนนิดๆ คนเป็นพ่อเลยใจอ่อน สรุปน้องซ้อนเพื่อนไปแถวธรรมศาสตร์นูู่น และก็ไม่กลับมาอีกเลย คนเป็นพ่อแทบตั้งสติไม่ได้ ส่วนน้องต่างพ่อของดิฉันตอนนี้อยู่ป.6 ก็เริ่มมีเพื่อนขับมอเตอร์ไซ ดิฉันจะคอยห้ามและใช้จิตวิทยาโดยการเล่าเรื่องน้องที่เสียไปให้ฟัง ซึ่งท่าทางเค้าก็รับฟังอย่างดี แต่ดิฉันก็ยังไม่ประมาทเพราะเข้าใจดีว่าเด็กวัยนี้คึกคะนองแต่ก็พยายามให้เพื่อนเค้ามาบ้านมากกว่าจะให้เค้าออกไป จากคุณ : ladynula เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 21:34:49

ความคิดเห็นที่ 31 มีมอร์ไซค์ เหมือนติดปีก  เด็กขาดความระมัดระวัง ทำไมเด็ก ตจว. ถึงหัดมอร์ไซ ให้เร็วก้เพราะถนนโล่ง รถไม่เยอะ เหมือน กทม บางครอบครัว ก็กลัวลูกน้อย เพื่อนขับเป็นตัวเองขับไม่เป็น กลัวลูกอาย เด็กบางคนได้มอร์ไซขับไปรร.ยังแต่ม.ต้น  หน้าบ้านคุณตา (หน้าบ้านเราเองนี่แหละ) เป็นถนนใหญ่ ตรงข้ามบ้านเป็นศาลารอรถโดยสาร มีการมั่วสุมทุกคืน สุมกันตังแต่ประถม มัธยม ปวช.  และถนนก็เป้นสนามแข่งรถ !!!!  ยังดีว่า ไม่ดักขว้างหิน ใส่รถที่วิ่งผ่านไปมา บางคืนก็เป็นแหล่งนัดตีกัน ฟันกัน .........ที่บ้านเมื่อตอนเป็นเด็กเคยมีประวัติ ปวช. โดนตีวิ่งไปหลบในบ้านเรา น่ากลัวมาก เฮ้อออออ  จากคุณ : pure_diamond เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 23:31:31

ความคิดเห็นที่ 33 เราขบมอไซค์ได้ตั้งแต่ ป.4 (อายุ 9 ขวบค่ะ) ด้วยความตัวสูง แรงเยอะ แม่บอกว่า ถ้าสตาร์ทติดอยากลองขับเองก็เอาเลย เราก็เลยหัดขับรถเองจนเป็นแล้วก็ไปสอนเพื่อนอีกสามคนให้ขับมอไซค์เป็น แต่ตอนนี้มีลูกสาว  จะยอมไปรับไปส่งจนกว่จะขึ้นม.ปลายเลย ปล. สงสารผู้ปกครองของน้องๆทุกคนในเหตุการณ์มากค่ะ คงไม่มีใครอยากให้เกิด โดยเฉพาะคุณแม่ของน้องคนที่สองที่น่าเห็นใจมากๆ กลัวแกจะคิดสั้นจังเลย แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 54 02:47:15 จากคุณ : มิสพรหล้า เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 54 02:46:09

ความคิดเห็นที่ 34 ตอนเด็กๆไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงเกลียดมอเตอไซด์นักหนา เห็นเราขี่ทีไรโกรธด่าเราทุกที ยิ่งเราไม่ชอบใส่หมวกกันน๊อกด้วย จากคุณ : OtteR เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 54 02:55:47

ความคิดเห็นที่ 35 บีบหัวใจของคนเป็นแม่ดีแท้ๆค่ะ จากคุณ : แม่น้องเบนส์ เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 54 09:52:32

ความคิดเห็นที่ 36 น่าสงสารมากค่ะ จริงๆ แล้วมอเตอร์ไซค์นี้อันตรายกับทุกคนนะคะ ไม่ใช่กับเด็ก แต่สำหรับต่างจังหวัดก็คงเลี่ยงที่จะไม่ใช้กันได้ยาก เพราะรถสาธารณะน้อย รถเมล์ก็ไม่มีกัน เฮ้อ... จากคุณ : Puffylove เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 54 10:51:55

ความคิดเห็นที่ 37 อยู่บ้านมีแต่จักรยาน ปั่นกันจนปวดน่อง  ตั้งใจว่าจะไม่มีมอเตอร์ไซด์ค่ะ ไปไกลก็ใช้รถใหญ่ จากคุณ : lovely_beautyful เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 54 11:35:24

ความคิดเห็นที่ 38 นำ้ตาไหลเลย จากคุณ : ปลาทูทำอะไรก็อร่อย เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 54 11:35:36

ความคิดเห็นที่ 39 พ่อแม่รังแกฉัน จากคุณ : ดินสอปากกา เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 54 12:01:56

ความคิดเห็นที่ 40 เศร้ามาก รุ่นผมที่ขี่มอเตอร์ไซด์เป็นกันนี่อย่างเร็วก็ ม.6 นู่น ส่วนใหญ่ใช้จักรยานกัน จากคุณ : ฤ เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 54 14:08:23

ความคิดเห็นที่ 41 เรื่องมอเตอร์ไซด์จะว่าพ่อแม่รังแกฉันก็ส่วนนึงแต่ก็ไม่เต็มปากนัก คนในพื้นที่ห่างไกลไม่ได้มีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้อรถยนต์ได้ทุกคนนะคะ ส่วนมากพ่อแม่ก็ปากกัดตีนถีบทำงานเช้ายันค่ำ ไม่สามารถไปส่งลูกหลานได้ตลอดเวลา มอเตอร์ไซด์ที่ราคาไม่แพงนักก็เป็นอีกตัวเลือกนึงที่ซื้อให้ลูกเพื่อให้ลูกไปไหนมาไหนได้ โดยไม่ต้องอาศัยพ่อแม่ไปส่ง เพราะพ่อแม่จำเป็นต้องทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ชีวิตมันแบบนี้แหล่ะค่ะ อยู่ที่พ่อแม่จะสอนให้ลูกรู้จักสวมใส่หมวกกันน็อค ให้เคร่งครัด และขับขี่อย่างปลอดภัย ไม่ไปชนผู้อื่นค่ะ จากคุณ : Jackmoder เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 54 16:43:40

ความคิดเห็นที่ 42 พ่อแม่ ปล่อยปะละเลย ....... ปล่อยให้ลูกขับออกมาโดยไม่ดูแล เด็กเลือกคบเพื่อนกลุ่มคึกคนอง พ่อแม่ไม่มีรถ ก้อยืมรถเพื่อนมาแว๊น.... เจ้าหน้าที่ห่วยแตก .....บอกได้เลยว่าปล่อยปะละเลย เวลาตั้งด่านจับเนี่ยเข้มงวดนัก งานเทศกาลกลางคืนรู้อยู่แล้วต้องเข้มงวดมาก แทนที่จะออกมาดูแลประชาชน หายหัวกันหมด วัยรุ่นมัยไม่โง่นะ มันก้อรู้ช่วงไหนไม่มีตำรวจ มันก้อจะออกมาแว๊น กัน... จากคุณ : E20PBO เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 54 17:20:32

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่มีทางซื้อให้เด็ดขาด ห้ามขี่ ห้ามซ้อน ไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น ไกลก็ให้นั่งรถเมล์เอา ไม่มีก็เดิน แต่ห้ามนั่งมอเตอร์ไซค์ จะเป็นสิ่งที่ผมบอกลูก เพราะตัวผมเอง ผมก็ทำแบบนี้ตอนเป็นวัยรุ่น จากคุณ : megaxx เขียนเมื่อ : 16 พ.ย. 54 23:38:10

ความคิดเห็นที่ 44 เราโตขนาดนี้ยังขับไม่เป็นเลยค่ะ อยู่บ้าน จะไปไหน พ่อกะพี่สาวตลอดๆ (ยังคิดอยู่เลยว่า..สงสัยจะขับไม่เป็นเรื่อยไป) นี่...ป. 6 เด็กกว่าหลานคนโตเราอีกอ่ะ แล้ว 5 ทุ่ม บ้านเราหลับกันทั้งบ้านแล้วค่ะ ขนาดคนอ่านยังรู้สึกเศร้า คนเป็นแม่คงใจสลาย สงสารเด็กคนที่เป็นลูกคนชนเหมือนกันนะคะ เค้าคงรู้สึกไม่ดีแน่ๆ จากคุณ : tanH2O เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 08:48:24

ความคิดเห็นที่ 45 ครูค่ะ  พ่อของเพื่อนคนที่สี่  เขารับผิดชอบอะไรบ้างหรือเปล่าคะ จากคุณ : กาแฟใส่โอวัลติน เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 11:22:18

ความคิดเห็นที่ 46 เราฝืนกฏ กันมาเยอะ โดยเฉพาะ การ จราจร อยาก ให้ประเทศไทยเคร่งครัด เหมือน ญี่ปุ่น เรื่องกฏ ระเบียบ วินัย จราจร รถ มอเตอร์ไซต์ คืออาวุธ ที่ร้ายแรงที่สุด ในการ เข่นฆ่ามนุษย์ ทุกวันนี้ ถ้าเรา ประมาท จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 12:34:00

ความคิดเห็นที่ 47 ้น้องเค้าเด็กเกินไปที่จะขับจริงๆค่ะ น่าสงสารอ่ะ ตอนเราวัยรุ่นอยากจะขับเพราะมันเท่ดีแต่ที่บ้านไม่ยอม  ต้องขอบคุณครอบครัวเราค่ะ ที่ประเทศจีน แทบไม่มีใครใช้มอเตอร์ไซกันหรอกค่ะ อย่างมากก็สกู๊ตเตอร์ความเร็วต่ำ ปลอดภัยกว่าเมืองไทยมาก ถึงจะมีอุบัติเหตุบ้างก็บาดเจ็บเล็กน้อย แต่เสียอย่างคือ คนที่นี่ไม่นิยมใส่หมวกกันน๊อคค่ะ   ตอนนั้นขับรถแถวถนนราชดำเนินเวลาเกือบสีทุ่มมีมอเตอร์ไซขับซิกแซกสวนทางขึ้นมาหน้าตาเฉยเลย  นีขนาดถนนใหญ่ในกรุงเทพนะเนี่ย จากคุณ : เทพบุตรหมัดดาวหาง เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 12:58:18

ความคิดเห็นที่ 48 เราอยู่ศรีราชาเหมือนกันค่ะ เด็กในหมู่บ้านตัวเล็กนิดเดียว หัดขี่มอเตอร์ไซค์แล้ว แว๊นไปก็แว๊นมา เห็นแล้วก็เฮ้อ ใครอยู่ศรีราชาคงจะรู้จักโค้งสมิติเวชดี เราเสียเพื่อนที่โค้งนี้ตอนม.4 เพื่อนเราขี่มาจากทางโรงเรียนศรช.จะไปเกาะลอย สาดโค้งซะกระเด็นข้ามเกาะกลางไปอยู่ตรงต้นไม้ใหญ่อีกฝั่ง สมัยเราเด็ก เราโตมากับโรงเรียนรัฐบาล เพื่อนไปแว๊นกันทุกศุกร์-เสาร์เลย แต่เราไม่เคยไปกับเขาหรอก เราเสียเพื่อนเพราะมอเตอร์ไซค์ไปหลายคนทีเดียว จากคุณ : เด็กหญิงพิมมาดา เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 15:16:12

ความคิดเห็นที่ 49 อ่านแล้วร้องไห้เลย สงสารคุณแม่น้องมากๆ ขอให้เด็กๆ ไปสู่สุคตินะคะ น้องชายเราก็อยากได้มอไซค์มากๆ เหมือนกัน เราก็บอกแม่กับพ่อว่าห้ามซื้อให้ ตอนนี้น้องยังไม่ได้หรอกค่ะ แต่ก็ไปกับเพื่อนๆ ที่ขับมอไซค์ตลอด เป็นห่วงมากๆ เหมือนกัน จากคุณ : F r i - r a เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 54 20:22:34

ความคิดเห็นที่ 50 ผมเห็นด้วยว่าเด็กระดับประถมไม่ควรขับขี่รถมอเคอร์ไซค์ แต่หากเป็นระดับมัธยมต้นขึ้นมาก็คงต้องดูเป็นกรณีไปครับ ส่วนหนึ่งที่ต่างจังหวัดหัดให้เด็กขับขี่มอเตอร์ไซค์ตั้งแต่เด็ก เพราะว่าการเกินทางในต่างจังหวัดนั้นลำบากกว่าในกรุงเทพหรือเขตเมืองเยอะครับ ไม่มีรถสองแถว หรือรถประจำทางรับส่งครับ ครั้นจะให้ผู้ปกครองมารับมาส่งนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะชีวิตเกษตรกรจะตื่นแต่เช้ามืด และออกจากบ้านไปเรือกสวนไร่นาแต่เช้าตรู่ครับ ซึ่งจะตรงกับเวลาไปเรียนของลูก สมัยผมไปเรียนจำได้เลยว่าตอนตื่นมาจะไม่เจอหน้าพ่อแม่ จะมีแค่โอวัลติน+ตังค์ไปโรงเรียนวางไว้ให้ เพราะพ่อแม่ออกไปทุ่งนาแล้ว ทำให้หลายๆครอบครัวจำเป็นต้องซื้อมอเตอร์ไซค์ให้ลูกมาโรงเรียนครับ บ้านผมอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 15 กิโลเมตรครับ สำหรับต่างจังหวัดทางลูกรังถือว่าไกลเอาเรื่องครับ ที่ไปเรียนไกลเพราะพ่อแม่อยากให้เรียนขนาดใหญ่ในตัวเมืองครับ โรงเรียนในหมู่บ้านไม่มี มีแค่ระดับประถม มีโรงเรียนขยายโอกาสที่หมู่บ้านถัดไปห่างไป 7 กิโลเมตร ซึ่งไม่ค่อยมีความพร้อมในการจัดการเรียนการสอน คำตอบจึงตกแก่มอเตอร์ไซค์ครับ นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ที่บ้านอนุญาตให้ขี่มอเตอร์ไซค์ตั้งแต่เด็ก แต่ถ้าวันไหนจะต้องกลับดึกโดยที่โรงเรียนไม่แจ้งล่วงหน้า เช่นจักซ้อมกิจกรรมหลังเลิกเรียน ผมจะแจ้งเลยว่าผมไม่สามารถอยู่ได้ด้วยบ้านไกล ต่างจังหวัดอันตรายมากนะครับสำหรับการเดินทาง ซึ่ง อาจารย์จะเข้าใจ แต่ถ้าเป็นกิจกรรมที่แจ้งล่วงหน้า ที่บ้านจะมารับมาส่งครับ(ขี่มอเตอร์ไซค์มารับนะครับ ที่บ้านไม่มีรถยนต์) เทอมหนึงไม่เกินสองครั้งประมาณนั้นครับ ผู้ปกครองหลายๆท่านอาจจะไม่เข้าใจเพราะสิ่งแวดล้อมและการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันอ่ะครับ แต่ที่หน้าโรงเรียนผมจะมีตำรวจคอยอำนวยความสะดวก บวกจับหมวกกันน๊อคครับ แต่ไม่จับใบขับขี่ เพราะ ตำรวจต่างจังหวัดจะเข้าใจในเหตุผลการเดินทางของเด็กในต่างจังหวัดครับ ป.ล. ที่แน่ๆในต่างจังหวัดจะมีคนเมาและขับเยอะมาก ดังนั้นผมขี่ต้องระวังมากๆ และสวมหมวกกันน๊อคตลอด ไม่งั้นหัวแดงเพราะถนนมีแต่ฝุ่น 555 จากคุณ : ~ReiZei-In~ เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 01:43:42

ความคิดเห็นที่ 51 ผมว่าเมาเป็นปัญหามากกว่ามอไซ จากคุณ : .... เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 09:39:11 A:110.77.176.94 X: TicketID:270953

ความคิดเห็นที่ 52 เรามีลูกชายคนเดียวค่ะ ตอนนี้อยู่ ป.4   เค้าบ่นกับเราทุกวัน โดขึ้นแม่ซื้อมอเตอร์ไซค์ให้หนูนะ ขี่แล้วมันเท๋ห์ มากเลยนะแม่ เราบอกกับลูกไปเลยว่า ลูกเอ๋ย เรื่องมอเตอร์ไซค์ฝันไปเลยนะ ยังงัยก้อไม่ซื้อให้หรอก เอาไว้เรียนเก่ง ทำงานดีๆๆ แม่ซื้อรถยนต์ให้เลย อย่างน้อยเราคิดว่า  มอเตอร์ไซค์  :  เนื้อ หุ้ม เหล็ก                        รถยนต์        :   เหล็ก หุ้ม เนื้อ จากคุณ : Lady..Online เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 15:52:38

ความคิดเห็นที่ 53 เดี๋ยวนี้ปัญหามันไม่ได้หยุดอยู่แค่เด็กขี่รถแล้วตายน่ะสิครับ ในกรุงเทพเด็กพวกนี้รวมตัวกันแล้วกล้าเกินขีดจำกัดออกรวมตัวกันก่อกวน ทำลายข้าวของ ปล้น ข่มขืน ฆ่าข่มขืน วิทยุรายงายสภาพจราจรแท็กซ๊บ่นกันแทบทุกคืนเพื่อนร่วมอาชีพเค้าโดนเด็กพวกนี้ลวงไปซอยมืดแล้วปล้น บางคนโดนปล้นไม่พอเอามืดแทงเพื่อนเค้าตายอีก เด็กคนทำหลายคนบัตรประชาชนก้ไม่มี มันกลายเป็นอาชญากรอายุน้อยไปแล้วตัวแค่นี้ปล้นข่มขืนฆ่าคน พ่อแม่ทำไมไม่ดูแลให้ดี? นี่น่ะหรือลูกของฉันเป็นคนดีมาตลอด? จากคุณ : ex เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 17:24:51 A:202.149.29.81 X: TicketID:337652

ความคิดเห็นที่ 54 ของเป็นเวรกรรมที่เค้าทำมาร่วมกันนะคะ จากคุณ : mominam เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 20:59:01

ความคิดเห็นที่ 55 นอกจากเด็กแล้ว เดี๋ยวนี้ยังมีอีกแบบนะ ที่สมุทรสาครแรงงานต่างด้าวเป็นแสน ถอยมอไซมาขี่กันเกลื่อนเมิองเลยค่ะ มาหัดขี่ที่นี่แหละ ขี่รถก่อนจะพูดไทยชัดซะอีก ดีลเลอร์มอไซมหาชัย ภูมิใจมาก ยอดขายเยอะ ใช่ซิ  ดาวน์เก้าสิบเก้าบาท ได้มอไซไปขี่แล้ว ที่แรงงานพวกนี้ซื้อได้ ให้นายจ้างคนไทยซื้อค่ะ หักค่าแรงเอา นายจ้างได้กำไรไปนิดหน่อย จากคุณ : loveleklek เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 23:03:56

ความคิดเห็นที่ 56 ตอนเราอยู่ม.ต้น หัดขี่มอเตอร์ไซด์เเล้ว แต่พ่อก็ไม่ยอมให้ขี่ไปนอกค่ายทหาร ไปเจอลูกพี่ลูกน้องอายุเท่ากัน ที่อยู่ในหมู่บ้านนอกเมืองหน่อย เค้าขี่เองไปโน่น มานี่ซะคล่อง พอใครถามเรา เราก็ตอบว่าขี่ได้แต่ที่บ้านไม่ให้ขี่ ญาติก็เย้ยๆเราว่าคงไม่เป็นแต่ทำพูดไปอย่างนั้น แล้วก็ยอว่าลูกพี่ลูกน้องเราเก่งแบ่งเบาได้ วันนึงญาติเราคนนั้นก็ชนกับรถกระบะ เหตุเพราะใจร้อนในถนนเลนเดียว แซงเขาไปชนรถที่สวนมา คาที่ แม่เค้าร้องไห้บอกเลยว่า น่าจะห้ามไม่ให้ขี่เหมือนบ้านเรา ------------ เรื่องกฏหมายจราจร และการควบคุมเด็กในบ้านตัวเอง นับว่าเป็นสิ่งยากในสังคมค่ะ จากคุณ : เทียนลอย เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 23:41:08

ความคิดเห็นที่ 57 ต่างจังหวัด เด็กกับมอไซด์เป็นของคู่กัน ดาว์แค่วันละ 99 บาทถูกเหมือนได้ฟรี เด็กแถวบ้านก็ร้องเอาฟีโน่ พ่อแม่ก็แห่กันออกให้ลูก หารู้ไม่นั้นมันส่งลูกไปตายชัดๆ จากคุณ : พ่อใจดี เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 10:51:58

ความคิดเห็นที่ 58 เคยเห็นเขาดาวน์กันแค่1บาทอ่ะ พวกวัยรุ่น เด็กๆคงดาวน์กันเยอะ พ่อแม่ก็ผ่อนให้ไป นอกจากเด็กวัยรุ่นขี้มอร์ไซด์แล้ว พ่อแม่บางคนให้ลูกซ้อนท้ายโดยไม่ใส่หมวก โตมา ขี่ไม่ขี่เปล่า ยังขี่ย้อนศร กลับรถที่ที่ไม่ใช่ที่กลับรถ มีคูเล็กๆตรงเกาะกลางก็หาจุดที่มีไม้พาดแล้วข้ามไป ไม่คิดรักษาชีวิตตัวเองเลย พ่อแม่เราก็ไม่ให้เราขี่มอร์ไซด์นะ แต่ซื้อรถให้ขับ เราหัดขับรถค่อนข้างช้า อายุ23ถึงหัด ก่อนหัดอ่านหนังสือเกี่ยวกับการขับรถอย่างปลอดภัย อย่างมากก็เฉียดๆตอนจอดแบบถอยหลัง รถถลอกนิดหน่อย แต่ไม่เคยชนใคร สงสัยว่า คนที่หัดขับรถไม่เร็วเกินไป จะระวังมากกว่า เพราะใจเริ่มเย็นลง เริ่มเป็นผู้ใหญ่แล้ว ขับระวังมากขึ้นก็เลยปลอดภัยกว่าหรือเปล่า? เสียดายชีวิตน้องๆจริงๆ พ่อแม่เลี้ยงมาอย่างยากลำบาก ระวังนู้นนี่กว่าจะโตอย่างปลอดภัยขึ้นมา เห้อ กรรมแท้ๆ ไปดีนะน้องนะ จากคุณ : นางสาวคานทอง เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 17:52:07

ความคิดเห็นที่ 59 อ่านแล้วน้ำตาจะไหลค่ะ ขอแสดงความเสียใจกับทั้งสองครอบครัวด้วย และน้องอีกคนก็ขอให้หายไวๆ นะคะ เรื่องนี้ทำให้เราย้อนคิดถึงเรื่องของพี่ชายเรา ตอนอยู่ ม.ต้น อยากได้รถเก๋ง เพราะเห็นเพื่อนๆมี พี่เราเรียนโรงเรียนนานาชาติ เพื่อนรวยๆ ทั้งนั้น ด้วยความที่เป็นวัยรุ่นก็มาร่ำร้องขอให้พ่อแม่ซื้อรถให้บ้าง อยากจะขับรถ อยากจะเท่ในสายตาเพื่อนๆ และสาวๆ สมัยนั้น พ่อแม่เราหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ซื้อให้ค่ะ ทะเลาะกันจนบ้านแทบแตก แม่เราก็ไม่ยอมซื้อค่ะ พี่เราอ้างว่าเพื่อนๆ เค้ายังมีขับเลย ทำไมเค้าจะมีบ้างไม่ได้ แม่เราบอกว่ามันยังไม่ถึงวัย ผิดกฎหมาย และที่สำคัญแม่ไม่อยากให้ลูกตาย พ่อแม่ที่ซื้อรถให้ลูกทั้งๆ ที่ลูกยังเด็กก็เหมือนกับสนับสนุนให้ลูกไปเสี่ยง โดยมีเดิมพันเป็นชีวิตของลูก   แม่ไม่อยากให้ลูกต้องเจ็บ ต้องพิการหรือตายไป รถน่ะมีเงินก็ซื้อได้แล้ว แต่ชีวิตลูกมันซื้อไม่ได้ จะรวยแค่ไหนก็เอาชีวิตลูกกลับคืนมาไม่ได้ จากนั้นพี่เราก็ไม่ร้องขอให้ซื้อรถอีกเลย จนถึงวัยอันสมควร รถก็มีให้ขับเองนั่นแหละ ไม่ต้องไปเรียกร้องอะไรเลย จากคุณ : CutieAngel เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 54 03:21:35

ความคิดเห็นที่ 60 ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยค่ะ จากคุณ : แม่โอ๋เรนเจอร์ เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 54 00:54:24