PANTIP.COM : N11404420 โรงเรียนไหนที่มีการเรียนการสอนเป็นแบบนีโอฮิวแมนนิส (Neo-Humanist Education) บ้างคะ []

ความคิดเห็นที่ 10

"ไม่เคยเจอโรงเรียนไหนทำได้ตามทฤษฎีสักโรงเรียน"

เห็นด้วยนะคะ มีแต่รร.ที่พยายามทำตามทฤษฎี หรือยังห่างไกลกับทฤษฎี ค่ะ ส่วนตัวแล้ว รร. ทางเลือกต่างๆ คล้ายกันตรงที่ ไม่เร่งอ่าน เขียน ค่ะ

"ผู้ปกครองก็โดนโรงเรียนหลอก
กว่าจะรู้ตัวก็โน่น...ลูกอยู่ ป.6
เพราะลูกสอบอะไรกับเค้าก็ไม่ได้"

ถ้าเรียนรร.ที่มีแค่ชั้นเล็กๆ ก็น่าวิตกเหมือนกันค่ะ เพราะต้องหารร.อื่นต่อและรร.ชั้นสูงๆหน่อยที่รองรับการเรียนแบบนี้ก็ยังไม่ค่อยมี

แต่ถ้ารร.นั้นมีถึงชั้นม.ปลาย ก็ต้องมาพิสูจน์กันว่า เด็กม.ปลายที่นั่น อนาคตเป็นยังไง สอบเข้ามหาวิทยาลัยกันได้รึเปล่า แต่รร.แนวนี้(ไม่ได้หมายถึงนีโออย่าเดียวนะคะ หมายถึงวอลดอร์ฟ มอนเตสเซอรี่ ฯลฯ ทางเลือกทั้งหลาย)ส่วนใหญ่เพิ่งจะผุดขึ้นมาไม่นาน ก็เลยยังไม่มีเด็กที่โตพอที่จะเข้ามหาวิทยาลัยได้

เท่าที่รู้ (ความรู้ไม่ค่อยเยอะนะคะ) เห็นมีรุ่งอรุณ อมาตยกุล ที่เปิดมาจนมีเด็กเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว จำนวนเด็กที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐได้ก็สูงมากถ้าเทียบกับจำนวนนักเรียน(อมาตฯนี่ 90% ได้มั้ง) นี่ก็อาจจะเป็นข้อพิสูจน์ได้ว่า การที่ไม่เร่งเรียนในช่วงเด็กเล็ก แต่ไปพัฒนาความพร้อมด้านอื่นๆ มันมีผลต่อการพัฒนาความรู้เมื่อเด็กโตขึ้นได้จริงๆ(นี่คือเป้าหมายของรร.เตรียมความพร้อมรึเปล่าคะ)แต่นี่ก็ต้องดูว่า ถ้ารร.อยู่ดีๆก็ปิดกิจการ ก็...ค่อยว่ากัน

"การเรียนรู้ การได้ไปโรงเรียน เท่ากับ ความสุข
ไม่ใช่เท่ากับความเครียด ความเหนื่อยยาก
การศึกษา ถ้าจัดดีๆ เด็กจะมีความสุขที่ได้เรียน
ยิ่งมีความสุข ยิ่งอยากเรียน
ยิ่งเรียน ก็ยิ่งเก่ง
ยิ่งเก่ง ก็ยิ่งอยากเรียน อยากรู้

แต่เน้นว่า ต้องจัดการศึกษาดีๆ และถูกต้องเท่านั้น
การเรียน(ยากๆ) จึงจะเท่ากับ ความสุข"

เห็นด้วยค่ะ ถ้าเด็กคนนั้นชอบเรียน ทั้งพ่อแม่ มีความสุข ก็ถือว่าโชคดีได้รร.ถูกใจ
เหมือนเด็กบางคน ถ้ามีความสุขกับการเรียนพิเศษ เทนนิส รำไทย บัลเล่ท์ คุมองฯลฯ ก็ไม่น่าจะเสียหายที่เรียน

ส่วนตัวแล้วเราอยากให้ลูกเรียนรร.เตรียมความพร้อมเพราะ
1. ตัวเราเรียนรร.วิชาการตอนเด็กค่ะ ยิ่งโต ยิ่งอยากให้ลูกเรียนคนละแนวกับตัวเอง เพราะนึกถึงเรื่องเรียนแล้วไม่ค่อยมีความสุข โตมาก็อยากจะมีจินตนาการความคิดสร้างสรรค์มากกว่านี้ รร.ก็มีความเหลื่อมล้ำ ฯลฯ (อาจเป็นความเก็บกดส่วนตัว)
2. เคยฟังเพื่อนที่ไปเรียนต่อที่อเมริกา ยุโรปในชั้นเล็กๆ เค้าบอกว่า เมืองไทยเรียนยากเกิน ม.ต้นที่นั่นเรียนเลขแค่บวกลบคูณหาร แต่ที่นี่อะไรถอดสแควร์รูทมากมาย ก็เลยฝังใจ(ซึ่งจริงๆก็ถามเพื่อนแค่ไม่กี่คน รร.อื่นที่เมืองนอกมันอาจจะวิชาการก็ได้)
3. เคยไปโรงเรียนพ่อแม่ที่เสถียรธรรมสถาน มีดร.ทางการสอนเด็กปฐมวัยของมศว.(จำชื่อไม่ได้)พูดให้ฟัง ว่าเด็กเล็กๆ สิ่งที่ควรให้รู้จักก็คือการวาดภาพ การขีดเขียนอย่างอิสระ ไม่บังคับให้เขียนอะไร เพื่อเปิดจินตนาการ ก็เลยยิ่งตอกย้ำ
4. ไปสำรวจรร.ที่อยู่ในลิสต์จะให้ลูกเรียน แล้วก็ชอบม้ากมาก :)

นอกจากดูแนวคิดของรร.แล้ว คุณพ่อคุณแม่น่าจะดูอย่างอื่นประกอบ ไปดูที่รร. คุยกับครู คุยกับเด็กๆ และผปค.คนอื่นๆ ว่าเป็นยังไง เพราะแต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน

อย่างอื่นก็ดูนะคะรั้วรอบขอบชิด การรับส่ง ให้คนนอกเข้ารร.รึเปล่า อาหารการกินเป็นยังไง มีอะไรสงสัยก็ถามคุณครู รร.มีมาตรการป้องกันการลวนลามเด็กยังไง ฯลฯ ลองอ่านปัญหาของผู้ปกครองรร.ต่างๆว่ามีอะไรกันบ้างอะค่ะ แล้วลองเอาไปถามรร.ดู นะคะ

ขอให้ได้รร.ถูกใจค่ะ :)

จากคุณ : joymacy

เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 12:00:02