ความคิดเห็นที่ 1 ตอนนี้เราหวังจะพึ่งแฟนเก่า เราก็ไม่แน่ใจค่ะ เค้าทำเราเสียใจมาก ก่อนหน้านี้เคยพยายามบอก แต่เหมือนแฟนเค้าจะไม่ให้เค้ามายุ่งกับเราเลย โทรไปก็ไม่รับ Email ก็ไม่เช็ค ไม่ตอบกลับ เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมาเรากลับบ้านย่าที่ระยองเพื่อไปเจอเค้า (ตอน ม.ปลายเราเรียนอยู่ที่ระยองค่ะ ส่วนเค้าทำงานเป็นวิศวกรอยู่มาบตาพุด) พอเราได้เจอเค้าทีไร เค้าจะอยู่กับแฟนตลอด เคยพยายามเข้าไปขอคุยกับเค้าครั้งหนึ่ง เค้าก็เหมือนจะไม่ค่อยสนใจเราค่ะ เหมือนลำบากใจที่ต้องเจอเรา เค้าบอกว่า ให้เราพอซักทีได้มั้ย ทำไมเราต้องพยายามทำให้เค้ามีปัญหากับแฟนเค้า T^T เค้าไม่เปิดโอกาสให้เราได้พูดอะไรซักที แฟนเค้าก็โทรมาด่าเรา ประมาณว่า ผู้ชายเค้าทิ้งแล้ว มาตื๊ออยู่ได้ ไม่อายบ้างหรือไง เราพยายามโทรหาแฟนเก่าหลายครั้ง แฟนเค้าก็เป็นคนรับสาย และด่าเรา และเราไม่อยากให้แฟนใหม่ของเค้ารู้ด้วยค่ะว่าเราท้อง ทั้งๆที่เพิ่งเรียนปีหนึ่ง เพราะเค้าคงจะสมน้ำหน้าเรา และเอาไปพูดให้คนรู้กันทั่ว ซึ่งเรายังทำใจไม่ได้ เราอาย เราเหนื่อย เราทำอะไรไม่ถูกเลย มันเครียดมาก เรายังรักแฟนเก่าเราอยู่มาก แต่เราไม่แน่ใจเลยค่ะว่าเค้าจะรับผิดชอบหรือเปล่า ด้วยหน้าที่การงานและรายได้ของเค้าไม่มีปัญหาเลยที่จะเลี้ยงเด็ก ตัวเค้าเองเคยคุยเล่นๆกับเราว่าอยากจะมีลูกสาว และเค้าเป็นคนที่รักเด็กมาก แต่ตอนนี้เค้าก็ทิ้งเราไปแล้ว และเค้าคงไม่อยากจะมีลูกกับเรา แค่เจอหน้ากันยังทำเหมือนไม่อยากเจอเลยด้วยซ้ำ เราควรจะยังไงดีคะ มหาลัยเราเปิดเทอมแล้ว เราต้องไปเรียนทุกวัน ตอนนี้เราควรจะดรอปเรียนดีไหม และเราก็ไม่อยากให้ใครๆรู้เรื่องนี้เลย เพื่อนสนิทและรูมเมทเราก็ยังไม่รู้ (รูมเมทจะพาไป รพ.ของมหาลัยแต่เราไม่กล้า T^T) จริงๆก็เหมือนเค้าเป็นห่วงเราอยู่ เพราะเราขาดเรียนบ่อยๆ เวลาเรามึนหัวมากๆ บางทีไปเรียนอยู่ในห้องก็หลับไปซะเฉยๆ มันง่วงๆ หลับแบบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เหมือนคนหลับใน เราควรจะปรึกษา อ.ที่ปรึกษาดีไหมคะ? หรือว่า จะบอกแฟนเก่า หรือจะทำยังไงดี ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกๆความเห็นค่ะ ใครจะว่าอะไรเราก็ได้นะคะ เราผิดมากๆ แต่เราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ จากคุณ : min เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 54 22:00:31 A:161.200.209.188 X: TicketID:342661

ความคิดเห็นที่ 2 ลองทำเรื่องขอดรอปซักปีได้มั๊ยคะ เรียนให้จบปี 1 ก่อน เพราะน่าจะเหลืออีกไม่กี่เดือนก็ปิดเทอม น่าจะพอเรียนไหวอยู่ ที่คิดว่าควรทำตอนนี้ก็คือ ตั้งใจเรียนอย่าฟุ้งซ่านมากให้ผ่านปี 1 ไปได้ด้วยดีจะได้ไม่มีปัญหาอะไร และหาเพื่อนที่เข้าใจเราให้คำปรึกษาได้ หรือเป็นที่ระบายก็ยังดี แต่ใครที่ยิ่งทำให้เครียดหรือยุให้เอาออกก็อย่าไปปรึกษาเค้าเลยค่ะ กับแฟนลองคุย ๆ กับเค้าดู แต่ถ้ายังไงก็ไปกันไม่ได้ และคิดว่าอยู่คนเดียวเราไหวก็เป็นกำลังใจให้นะคะ single mom ไม่ยากอย่างที่คิด แม่ ๆ ในห้องนี้หลายคนก็เป็นกัน เราเองก็ต้องเตรียมตัวเป็นซิงเกิ้ลมัมบางเวลาเหมือนกันค่ะ ^^ จากคุณ : mOnkeYz & MariO (A_mOnkeYz) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 54 22:07:06

ความคิดเห็นที่ 3 มาให้คำเเนะนำตามประสา ป้าแก่ๆ ^^ ก่อนอื่น ต้องคิดให้ตกค่ะ ว่ายังรักแฟนเก่าอยู่ไหม ยังอยากใช้ชีวิตร่วมกับเขาอยู่ไหม ถ้ายังรักอยู่ เราเเนะนำให้บอก จะทางไหนก็ได้ มันต้องมีซักทาง ถ้าไม่เอาเเล้ว ลากันทีผู้ชายเเบบนี้ ก็ไม่ต้องบอกค่ะ ปล่อยเขาไป ต่อมา หาเพื่อนที่ไว้ใจได้สักคน สองคน ชวนกันไปฝากท้อง คุณหมอจะประมาณวันคลอดให้เรา จะได้รู้ว่าจะคลอดประมาณช่วงไหน เเล้วจากนั้นก็ไปหาอาจารย์ที่ปรึกษาค่ะ ให้เขาจัดตารางเรียนให้ บอกอ.ว่าหนูจะคลอดประมาณนี้ๆนะ อ. เต็มใจช่วยค่ะ จากนั้นหลังจากคลอดเเล้ว ถ้าจะให้ดี ดรอปไว้ประมาณ 1 ปี หรือ 1 เทอม ก็ได้ ถ้าอยากจบไวๆ เเล้วกลับไปเรียนต่อ พี่ไม่เเน่ใจว่า ของน้องมีภาคค่ำรึเปล่า คือถ้ามี ลงภาคค่ำจะโอเคกว่าค่ะ ไม่หนักมาก ไม่ต้องฝากเลี่้ยงนาน ถ้าลงภาคค่ำได้ ก็ให้เพื่อนคนที่สนิทๆ หรือจะฝากเนิสเอาก็ได้ เเต่ถ้าไม่มีภาคค่ำ คงต้องฝากเนิส เเล้วน้องก็ไปเรียนตอนกลางวัน กลับคอนโดมาเจอลูก เเนะนำให้ ฝากเนิสใกล้ๆคอนโด นะคะ ลูกจะได้ไม่ต้องเดินทางมาก อีกนิด อย่าได้เเคร์กับคำวิพากษ์วิจารณ์ หรือเสียงนินทา ต่างๆนาๆ มันมีอยู่เเล้วค่ะ เเต่อย่าไปสนใจเลย รกหูเปล่าๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 54 22:10:34

ความคิดเห็นที่ 4 1ชีวิต ของใครๆ ก็รัก ถ้าเข้าห้องนี้ต้องขอบอกว่าไม่มีใครแนะให้เอาเด็กออกหรอกคะ ขอช่วยแก้ปัญหาทีละขั้นนะคะ ใจเย็น ค่อยๆคิด และคิดให้ไกลๆ 1 ถ้าคุณคิดว่า คุณสนิดกับแฟนเ่ก่ามากที่สุด ฉะนั้นแฟนเก่าย่อมรู้ว่าคุณไม่มีใครเลยจริงๆ กลับไปบอกเค้า ว่าคุณท้องกับเค้า ให้เค้ารับผิดชอบ 2 ย้ายเรื่องเรียนไปเรียนภาคพิเศษ 3 ไม่สนิดกับพ่อ แต่พ่อก็ส่งเงินให้คุณตลอดเวลา ย่อมทำให้เห็นว่าพ่อเค้ายังคงห่วงใยคุณแต่ด้วยความที่เป็นผู้ชาย จะไม่ค่อยละเอียดอ่อนเรื่องการดูแลลูก สิ่งที่พ่อทำดีที่สุดคือส่่งเสียให้คุณเรียนหนังสือ และฝากฝังไว้กับญาติ (พี่สาวตัวเอง คือป้าคุณ)  ถ้ายากที่จะบอก (แต่ก็ต้องบอกคะ) ก็ให้เขียนจดหมายไป เพราะอย่างน้อยก็ได้บอก คนเราทุกคน เวลามีปัญหา อย่าคิดแก้ปัญหาคนเดียว มันจะเหมือนพายเรือในอ่างด้วยมือข้างเดียว เพราะคุณจะวนอยู่กับปัญหานั้น จะมองไม่เห็นหนทาง ซึ่งจริงๆ แล้วมันมีทางออกให้เราเสมอ (ทางออกที่ถูกต้อง) ให้บอกพ่อเพราะท่านเป็นผู้อุปการะ และให้พ่อไปบอกป้า หรือจะยิงตรงบอกป้าเลยก็ได้(ถ้าเป็นเราก็เกรงใจป้า) การมีญาติผู้ใหญ่รับรู้เป็นการป้องกันอีกอย่างให้ฝ่ายชายร่วมรับผิดชอบ แต่คุณก็จะเป็นแม่คนแล้ว ก็ต้องปรับเปลี่ยนนิสัยไม่เอาแต่ใจให้เค้าต้องอึดอัด ปล.คุณไม่ได้ตัวคนเดียว คุณมีแม่ มีพี่สาว มีพ่อ มีป้า มีญาติลูกพี่ลูกน้อง ก่อนที่จะคิดว่าเค้าไม่สนิดกับเรา เราเคยคิดที่จะสนิดกับเค้าหรือแบ่งปันเรื่องดีๆ ให้เค้าบ้างไหม บางทีคนเหล่านี้อาจรอให้เรา เข้าไปหาก็ได้นะ เค้าคงไม่ใจร้ายใจดำ มองเห็นเราเป็นคนอื่น มากกว่าคนอื่นๆ จริงหรอกคะ ขอให้คุณมีทางออกในชีวิตที่ดีคะ จากคุณ : kansakx_aj5 เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 54 22:16:58

ความคิดเห็นที่ 5 บอกคุณแม่ดีมั้ยคะ ถึงความสัมพันธ์จะห่างกัน แต่เค้่าก็เป็นแม่ คุณยังมีครอบครัวอยู่นะคะ แล้วก็ดร็อปเรียนไว้ซัก 1 ปี แต่พอกลับมาเรียนต้องหาคนเลี้ยงนะคะ   เรามีลูกศิษย์ที่ท้องตอนเรียนค่ะ ดร็อปไปเทอมเดียวเองแล้วกลับมาตั้งหน้าตั้งตาเรียน ปีนี้ก็จบแล้วค่ะ ตอนนี้ชีวิตลัลล้า อวดลูกตลอด และวางแผนเรียนโทต่อด้วยค่ะ ช่วงว่างก็ขายเสื้อผ้าหาเงินค่านมลูก สู้ๆนะคะ จากคุณ : นัดจะมา เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 54 22:18:30

ความคิดเห็นที่ 6 เอาใจช่วยให้ผ่านเรื่องเลวร้ายให้ได้นะค่ะ   ตอนนี้มันยากที่จะผ่านอุปสวรรคไปได้ แต่สักวันที่เราผ่านไปแล้ว ย้อนกลับมาดู เราจะภูมิใจกับมันค่ะ ขอชื่นชมคุณมากนะค่ะ  ที่ไม่มีความคิดจะเอาเด็กออกเลย  เพื่อนเราท้องแล้วแท้ง ท้องแล้วแท้งกับผู้ชายคนเดิมไปสองรอบ (กินยาขับ)  ฝ่ายชายไม่รับผิดชอบอะไรเลย  ต้องใช้คำว่าตะคอก บอกให้ไปเอาเด็กออกด้วยค่ะ  ละเหี่ยใจจริงๆ   ^^'' พูดไปไม่ได้ช่วยอะไรเจ้าของกระทู้เลย  เป็นกำลังใจให้จริงๆค่ะ  เราไม่อยากให้คุณเอาเด็กออกจริงๆ ถึงแม้ไม่รู้ว่าจะช่วยแก้ปัญหายังไง จากคุณ : Baboon_baba เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 54 22:21:25

ความคิดเห็นที่ 7 อย่างที่หลายความเห็นบอกไปค่ะ ก่อนอื่นเลย คุณควรบอกแฟนเก่าคุณให้รับรู้ เพราะเค้าเป็นคนที่ควรจะต้องรับผิดชอบมากที่สุด อย่างน้อยก็เพื่อให้โอกาสเค้า ว่าเค้ายังมีความรับผิดชอบอยู่รึเปล่า หากไม่ จะได้ตัดใจและตัดขาดไปเลย ก่อนจะไปบอกเค้า คุณควรเอาผลตรวจการตั้งครรภ์ จากหมอที่ฝากท้องตามโรงพยาบาลไปยืนยันด้วย เพื่อยืนยันว่าคุณท้องกับเค้าจริง และท้องในช่วงที่คุณยังไม่ได้เลิกกับเค้า อย่างน้อยก็ช่วยป้องกันตัวคุณเอง จากการโดนกล่าวหาของอีกฝ่าย ไม่ต้องกลัวว่าแฟนเค้าจะสมน้ำหน้าหรอกค่ะ สิ่งที่ต้องทำอย่างที่ 2  คือปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษา เค้ามีประสบการณ์มาเยอะ น่าจะช่วยแนะนำคุณได้ในเรื่องของการเรียน ว่าควรจะทำอย่างไร หากคุณมีเพื่อนที่สนิทและไวใจได้ จะบอกเพื่อนเพิ่มอีกคนก็ได้ค่ะ เค้าจะได้ช่วยคุณในเรื่องของการเรียน และช่วยดูแลคุณด้วย เราเห็นด้วยกับความเห็น 3 นะคะว่าควรบอกพ่อคุณค่ะ เพราะอย่างน้อยทั้งก็ยังช่วงส่งเสียเลี้ยงดูคุณมา เราว่าท่านอาจจะพอช่วยเพิ่มในเรื่องค่าใช้จ่ายของคุณได้บ้าง เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอร้องว่าอย่าทิ้งการเรียนเด็ดขาดนะคะ อดทนนิดนึงค่ะ แล้วคุณจะผ่านมันไปได้ สู้ๆนะคะ จากคุณ : Trippy เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 54 22:45:17

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นกำลังใจให้นะค่ะมีเพื่อนที่ท้องตอนเรียนเหมือนกันค่ะ ตอนปีสามเค้าดร๊อปไปปีเดียว แล้วกลับมาตั้งหน้าตั้งตาเรียน ตอนนี้เรียนจบทำงานแล้วลูกน่ารักมากค่ะ สู้ๆนะค่ะ คิดว่าบอกคุณพ่อ คุณแม่ (ถึงจะไม่สนิท) ถึงเราจะผิดยังไงท่านก็พร้อมจะรับฟัง และให้อภัยเราเสมอค่ะ ลูกยังไงก็คือลูกค่ะ แล้วปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาดีแล้วค่ะ ท่านจะได้ช่วยวางแผนเรื่องเรียนเราด้วยค่ะ จากคุณ : Nisa Beach เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 54 22:46:15

ความคิดเห็นที่ 9 เราไม่มีความคิดจะทำแท้งค่ะ กลัวบาป และกลัวเจ็บ T^T แฟนเก่าเราคงไม่ให้เราทำแท้งค่ะ เพราะเค้าเป็นคนรักเด็ก คงไม่ใจร้ายขนาดนั้น แต่เรากลัวว่า ถ้าเค้ารับผิดชอบ แล้วเค้าจะเอาลูกไปเลีั้ยงที่บ้านพ่อแม่เค้า (ซึ่งอยู่นครศรีธรรมราช ไกลจากเราเลย) โดยไม่สนใจไยดีอะไรกับเรา ซึ่งเราก็คงทำใจไม่ได้ค่ะ เราไม่อยากเป็นแม่ที่ทำหน้าที่แค่คลอดลูกเฉยๆ ตอนเด็กๆ เราอยากเจอแม่มาก แต่ก็ไม่ได้เจอ เราไม่อยากให้ลูกเราเป็นแบบเดียวกัน และเรื่องเรียน ตอนนี้เราไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าถ้าเราท้องเราจะมีสิทธิ์เรียนต่อมหาลัยนี้หรือเปล่า? เราเสียดายมากค่ะ เพราะเราฝันอยากเรียนที่นี่มาตั้งแต่ ม.ต้น และที่นี่ไม่มีภาคค่ำค่ะ จริงๆเราเรียน pre degree ที่รามมาตั้งแต่ ม.ปลาย ตอนนี้ใกล้จบแล้ว แต่ไม่รู้ว่า ถ้าเราไม่ได้เรียนต่อมหาลัยเดิม พอจบรามแล้วเราจะหางานทำ จะเลี้ยงลูกไหวหรือเปล่า ซึ่งถ้าเป็นไปได้ เราก็อยากเรียนที่เดิมจนจบค่ะ T^T ที่เราไม่อยากให้ใครรู้ว่าท้องนั้นก็เพราะไม่เคยเห็นนิสิต ป.ตรีของที่นี่ท้องทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบมาก่อนเลยค่ะ ไม่อยากตกเป็นหัวข้อการนินทา (ถึงเราจะผิดจริงแต่ก็ทำใจลำบาก) ขอบคุณกำลังใจจากทุกๆความเห็นค่ะ จากคุณ : min เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 54 22:55:32 A:161.200.209.188 X: TicketID:342661

ความคิดเห็นที่ 10 ข้างบนแนะนำดีมากๆเลยค่ะ น้องอดทนนะคะ อย่าวู่วาม อย่าหมดอาลัย อย่าทำอะไรผิดๆ อยากบอกว่า มีอะไร เข้ามาอัพเดทในห้องนี้นะคะ คนเป็นแม่ไม่เคยแล้งน้ำใจต่อกันค่ะ ต้องการความช่วยเหลืออะไร เข้ามาแจ้งกันได้นะคะ หรือต้องการกำลังใจ ที่นี่ก็ไม่เคยขาดค่ะ รับรอง จากคุณ : Jarunya.b เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 54 22:56:33

ความคิดเห็นที่ 11 ดรอปเรียนไว้ก่อน 1 ปี มาเลี้ยงลูกก่อนนะ แล้วกลับไปเรียน จ้างเขาเลี้ยงลูกเอา ดูท่าทางน้องไม่น่ามีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายนะคะ ส่วนเรื่องแฟนเก่า  ส่ง sms ไปก็ได้ค่ะ แค่ให้เขารับรู้ก็พอ  ส่วนเขาจะตัดสินใจยังไงต่อก็ไม่ต้องคาดหวัง คุณพ่อยังส่งเงินให้อยู่ ก็แปลว่าท่านยังรัก ยังห่วง ก็ปรึกษาท่านไปเลย  อาจมีคนช่วยคิดอีกคน ไม่รู้จะเลี้ยงลูกยังไง ไม่ต้องกลัวค่ะ ตอนไปฝากท้อง เขามีแนะนำ สอนทุกอย่าง หรือขาดอะไรก็มาถามแม่ๆ ในห้องนี้ได้ พี่ก็เลี้ยงลูกคนเดียว คนแรกด้วย ไม่มีใครเลย  ก็อาศัยอ่านหนังสือ เรียนรู้จากเจ้าหน้าที่ตอนไปฝากท้อง แล้วก็มาโพสต์ถามที่นี่แหละค่ะ ไม่ต้องเครียดนะ เลี้ยงลูกไม่ยากขนาดนั้นหรอกค่ะ ยิ่งมีเขา ชีวิตเราจะยิ่งมีความสุข เครียดก็มาระบายค่ะ พี่รอฟังอยู่ จากคุณ : Beloved Son_Chang เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 54 23:10:36

ความคิดเห็นที่ 12 ควรบอกแฟนให้รับรู้...ส่วนเค้าจะเลือกเรากับลูกหรือไม่ ก็เป็นการตัดสินใจของเค้า ถ้าเค้าเลือกคุณ คุณต้องเป็นผู้ใหญ่ ... ชีวิตคู่ ไม่เหมือนเพื่อนที่จะ คบกันได้ยืดยาว แม้นิสัยจะมีบางเรื่องที่เข้ากันไม่ได้ เพราะชีวิตคู่ต้องการความเข้าใจ ความอดทน และยอมคนละครึ่งทาง มากกว่าเพื่อนมากกกกกก แต่ถ้าเค้าไม่เลือกคุณ ... คุณจะได้ไม่ต้องมีอะไรติดค้างในใจ ไม่ต้องไปกลัวแฟนใหม่เค้า คุณเจอเค้าก็บอกไปเลยว่ามีเรื่องจะขอคุยเป็นการส่วนตัว ถ้าเค้าไม่ให้ ก็บอกไปต่อหน้าเลยว่า ... "ชั้นท้องลูกของเธอ แค่อยากให้รู้ไว้ แต่ไม่จำเป็นต้องกลับมาคบกันก็ได้ ถ้าใจเธอไม่มีชั้นเหลืออยู่อีกแล้ว" ... อาจจะเจ็บ แต่เป็นทางที่จะทำให้สมองโล่งมากที่สุด จะได้เพ่งสมาธิไปที่ลูกแทน ไม่ฟุ้งซ่าน ต่อมาก็ควรที่จะบอกทางบ้าน ถ้าป้าจะมองว่าแรด ก็ให้เค้ามอง ทำผิด (มีอะไรก่อนวัยอันสมควรแล้วไม่คุมกำเนิด) แล้วต้องรับได้กับผลที่จะตามมา ต้อนทนได้กับคำนินทา กร่นด่า สารพัด แต่พวกเค้า (พ่อ แม่ ป้า) คือครอบครัวเดียวของคุณ เค้าก็คงผิดหวังไปสักพัก แต่เด๋วอะไรๆก็จะดีขึ้น ต่อมาก็มาคิดเรื่องการเรียน คุณจะเรียนยังไง ลงเทอมไหน จะดรอปช่วงไหน คิดให้ดีๆ บอกอ.ที่สนิทเสีย หรือไม่ก็ไปคุยกับ อ.ที่ปรึกษาเลย บอกว่า หนูท้อง แต่ไม่คิดจะทำแท้ง และอยากเรียนให้จบ แต่อาจจะขอความกรุณาจากทางอาจารย์แนะนำให้หนูหน่อย สมัยนี้ถ้าจะโดนไล่ออกจากมหาลัยเพราะท้องเนี่ย คนเป็นครูบาอาจารย์ ก็คงจะเก่งแต่สมอง จิตใจไม่เก่งเลย ... แต่คิดว่าคงไม่มีแล้วนะ ที่จะโดนไล่ออกเพราะเรื่องนี้ แต่เราก็ไม่รู้จะแก้ยังไงนะถ้าอาจารย์ไม่ยอมรับ เพราะเราเลยวัยมหาลัยมาแล้ว อาจจะต้องถามพี่ๆที่ห้องนี้อีกที ต่อมาก็อย่าลืมไปฝากท้อง เตรียมตัวเป็นแม่คน เลี้ยงลูกให้ดี หางานเสริมที่ไม่เหนื่อยก็ดีนะ เพราะอะไรๆก็ต้องใช้เงินแล้วอะถ้ามีลูก เก็บตังไว้ดีที่สุด ประหยัดๆ ด้วย สู้ๆนะ จากคุณ : Trinycat เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 54 23:34:19

ความคิดเห็นที่ 13 เราตัดสินใจจะไปตรวจและฝากครรภ์พรุ่งนี้แล้วค่ะ ช่วงเช้าเราไม่มีเรียน (ยังไม่รู้จะเอาไงแน่เรื่องดรอปและอื่นๆ) พรุ่งนี้คงจะไปกับเมทค่ะ เราอยู่คอนโดแต่ว่าช่วงที่ซ้อมหลีดเราเช่าหอกับเมทเพราะอยู่ใกล้มหาลัย ซึ่งรูมเมทของเราก็เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด เรียนคณะเดียวกัน สาขาเดียวกัน ตอนนี้ก็บอกเพื่อนไปแล้ว เพื่อนเราก็ช็อคเล็กๆ ส่วนเรื่องแฟนเก่า เราคงจะกลับไประยองอีกครั้งวันเสาร์นี้ค่ะ เรายังหวังอยู่ว่าเค้าจะยังเหลือความรักให้เราบ้าง ไม่ว่าจะได้คำตอบยังไง เราจะพยายามทำใจให้ได้ในเร็ววัน เรื่องบอกพ่อแม่ และอ.ที่ปรึกษา ขอเวลาเราตั้งสติก่อนนะคะ คงจะบอกในอีกไม่กี่วันนี้หลังจากฝากครรภ์แล้ว ขอบคุณทุกๆคำแนะนำและกำลังใจค่ะ จากคุณ : min (จขกท) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 54 23:44:13 A:161.200.209.188 X: TicketID:342661

ความคิดเห็นที่ 14 มาเป็นกำลังใจให้อีกคนนะคะ เมื่อมีสติทุกอย่างจะค่อยๆ คลี่คลายไปในตัวของมันเอง อันดับแรกไปตรวจฝากครรภ์ก่อน คลีนิคก็ได้เพื่อความสะดวก จะได้รู้อายุครรภ์เพราะรอบเดือนคุณไม่แน่นอน ผู้หญิงทุกคนมีสิทธิ์ตั้งท้องค่ะ ไม่ได้ไปก่ออาชญากรรมไม่ต้องไปสนใจคำพูดไม่ดีของคนอื่น สู้ๆ นะ แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 54 00:33:02 จากคุณ : แม่น้องปาย เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 54 00:26:48

ความคิดเห็นที่ 15 เข้ามาอ่าน แล้วรู้สึกเห็นใจ จขกท นะคะ และขอให้กำลังใจค่ะ ขอให้เลือกทำในสิ่งที่ดีที่สุดนะคะ พี่ๆห้องนี้ ให้คำแนะนำที่ดีๆ และถูกทางมากมายเลยค่ะ และอ่านจากสำนวนที่น้องเขียนมาแล้ว คิดว่าน้องเองมีวุฒิภาวะมากเกินวัยเลยค่ะ เพียงแต่ตอนนี้น้องเสียขวัญและหวั่นไหว ไปกับสถานการณ์ แต่ก็กำลังจะตั้งสติได้แล้ว ขออวยพรให้น้องประสบความสำเร็จและแก้ปัญหาได้เร็ววันนะคะ จากคุณ : Flair เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 54 00:36:19

ความคิดเห็นที่ 16 อ่อ กิจกรรมที่หนักอ่ะ เลิกชั่วคราวเลยนะ หลีดเหลิดยังไม่ต้องเป็น เพราะมันกรัทบกระเทือนได้นะจ๊ะ แต่ก็ทำกิจวัตรแบบปกติได้ :) มีอะไรไม่สบายใจก็หลังไมค์มาได้นะ เราท้องไปทำงานไป เข้าโรงงานไป เหนื่อย 55+ กินอะไรไม่ค่อยจะลง อยากขี่ม้าก็โดนห้าม ขี่มอไซค์ก็ยังไม่ได้เลย เซ็งๆอยู่...จากปกติห้าวๆ กลายเป็นแมวจ๋อยเลย กี่สัปดาห์แล้วอย่าลืมเอามาโชว์นะ ของเราตอนแรกยังไม่เหนเด็กเลย นี่อยู่โรงงานอยู่ เลยต้องเลื่อนนัดหมอเป็นวันเสาร์ เงินเดือนก็ยังไม่ออก กี๊ดๆ อิอิ สู้ๆนะ จากคุณ : Trinycat เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 54 07:18:43

ความคิดเห็นที่ 17 อ่านแล้วไม่มีคำแนะนำ มีแต่กำลังใจให้ค่ะ สู้ๆ จากคุณ : สายไหมสีส้ม เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 54 07:54:48

ความคิดเห็นที่ 18 พี่เเนะนำให้บอกแฟนนะคะ ถึงเเม้อาจจะไม่ได้มาใช้ชีวิตร่วมกันเเต่ต้องมีส่วนร่วมคือค่าใช้จ่ายสำหรับเราที่ต้องดูเเลครรถ์เเละฝากท้อง ค่าเลี้ยงดูบุตร ทำให้เป็นเรื่องทางกฏหมายก็ดีค่ะ ยุคนี้ไม่ใช่ยุคนางเอกท้องเเล้วต้องรับภาระเองทั้งหมด เห็นใจฝ่ายหญิงมากๆถ้าต้องเจอผู้ชายที่ขี้ขลาดแม้กระทั่งความรับผิดชอบต้องส่งเสียค่าเลี้ยงดูซักนิดก็ไม่มี สู้ๆนะคะ^^ เพิ่มเติม บอกพ่อกับเเม่ด้วยค่ะ ปรึกษาคุยกับพ่อเราเเม่เราดีที่สุดยังไงก็รีบบอกนะคะ จะได้ไม่กดดันเเละยังรู้ว่ามีคนที่คอยห่วงใยเราอยู่นะคะ เรื่องเรียนก็ตามที่คห.อื่นๆเเนะนำค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 54 08:48:27 จากคุณ : แม่อยู่ไกล (แม่อยู่ไกล) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 54 08:19:27

ความคิดเห็นที่ 19 ก็อยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกอย่างไปได้สวย แฟนเก่ายอมรับผิดชอบ กลับมาคืนดีกัน พ่อแม่ผู้ปกครอบรับทราบ เข้าใจและช่วยเหลือ ครูอาจารย์และเพื่อน ๆ ยอมรับ ไม่เป็นอุปสรรคกับการเรียน แต่ ชีวิตจริง บางครั้งมันก็ไม่ราบรื่นขนาดนั้น ขอแนะนำตามประสบการณ์ของตัวเองว่า 1. ทำใจไว้ก่อนเลยว่าจะเป็น single mom 2. ลองคิดดูว่า ถ้าเป็น single mom ต้องเตรียมการอะไรบ้าง - ด้านการเรียน ยังงัยซะก็ยังไม่ควรทิ้งความฝัน อุตส่าห์เข้ามหาลัยที่ตั้งใจได้ ก็ควรจะพิจารณาดูว่า ต้องทำอย่างไรให้ยังสามารถเรียนอยู่ได้หลังคลอด... เรียนเทอมนี้ให้จบ ปรึกษาอาจารย์ ขอคำแนะนำ ดร็อปเรียนไปดูแลตัวเองและคลอด  จัดการจัดหาคนหรือที่รับดูแลลูกให้เราช่วงกลางวัน - ด้านสุขภาพ ไม่มีประโยชน์ที่จะเครียด... ทันทีที่รู้ว่าเป็นแม่ เราก็มีหน้าที่อันยิ่งใหญ่ต่อตัวเองและลูกแล้ว... ไปฝากท้อง จะไปกับเพื่อนก็ได้ หาข้อมูลเรื่องการดูแลตัวเอง กินอาหารให้ครบห้าหมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ฯลฯ - วางแผนอนาคต ลองคิดดูว่า จากกำหนดคลอด น้องจะวางแผนชีวิตตัวเองในแต่ละช่วงอย่างไร ลองตั้งเป้าดูว่า จะกลับไปเรียนเมื่อไหร่ ระหว่างที่พักการเรียน มาคลอดและดูแลลูก จะใช้ชีวิตอย่างไรให้ตัวเองพร้อมที่จะทำทั้งหน้าที่แม่และหน้าที่นักศึกษา 3. พอรู้แนวทางแล้ว ก็มาจัดการด้านการเงิน  คุณพ่อเป็นผู้อุปการะ ก็ควรจะแจ้งให้ท่านทราบ จะคุยกับคุณพ่ออย่างไร (พี่คิดว่า ถ้าน้องลองคิด วางแผนอนาคตตัวเองไว้ แสดงให้คุณพ่อเห็นว่าน้องพร้อมสู้ ยังงัยท่านก็ต้องเข้าใจ และช่วยเหลือ) และตัวเองก็ควรจะเตรียมการสำหรับกรณีฉุกเฉินด้วย เช่น พยายามตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออก ลองดูลู่ทางว่าพอจะมีงานอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่เกินกำลังของตัวเองให้ทำบ้าง ถ้าเกิดกรณีฉุกเฉินด้านการเงิน 4. ในฐานะแม่ น้องมีสิทธิปกครองบุตรเต็มที่ เพราะยังไม่ได้จดทะเบียนกับแฟนเก่า แต่เพื่อความเป็นธรรมกับลูก (มิใช่กับคนอื่น) เด็กควรมีสิทธิได้รับรู้ว่าใครเป็นพ่อ แต่เราจะเลี้ยงลูกให้โตมาก่อนแล้วค่อยบอกว่าใครเป็นพ่อ โดยที่พ่อไม่ได้รับรู้ มันคงเป็นนิยายเกินไป --- เพราะฉะนั้น ถ้าน้องทำใจได้แล้วว่าตัวเองจะพึ่งตัวเอง ไม่ได้คาดหวังว่าเค้าจะเลิกกับแฟนกลับมาหาเรา ก็ควรบอกให้แฟนเก่าได้ทราบ  ให้เค้าตัดสินใจเองว่าจะช่วยรับผิดชอบอย่างไร มันแตกต่างกันมาก ระหว่างการที่น้องแจ้งข่าวตอนที่ตัวเองทำใจได้ กับตัวเองยังคาดหวังปาฏิหาริย์... เพราะถ้าตัวเองทำใจได้ เมื่อแจ้งข่าวไป ผลเป็นยังงัยมันก็บวกทั้งนั้น ถ้าเค้ามีความรับผิดชอบต่อลูก จะช่วยส่งเสียเลี้ยงดู มันก็เป็นเรื่องดี  ถ้าเค้าคิดว่าจะเอาลูกไปจากน้อง น้องก็จะได้จัดการกับเหตุการณ์ได้ ตัดสินใจได้ว่า ตัวเองต้องการความรับผิดชอบลักษณะนี้รึเปล่า  ถ้าปาฏิหาริย์มีจริง ทุกอย่างลงตัว แบบที่น้องเคยใฝ่ฝัน นั่นก็ยิ่งดีใหญ่----- แต่ถ้าน้องแจ้งข่าวตอนที่ยังทำใจไม่ได้ แล้วผลมันไม่ได้ออกมาแบบปาฏิหาริย์ ตัวเองจะต้องมานั่งเจ็บช้ำรึเปล่า เสียเวลา เสียสุขภาพ ขอเน้นว่า คุณค่าของเราไม่ได้อยู่ที่ขี้ปากคนอื่น แม้ว่าในสถานการณ์นี้ เราก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า มันมีเรื่องไม่ลงตัวเกิดขึ้นกับชีวิต ที่บั่นทอนจิตใจเรา แต่อนาคต เรากำหนดเองได้ค่ะ   วันนี้ น้องอาจจะได้ชื่อว่าท้องก่อนแต่ง ท้องทั้ง ๆ ที่ยังเรียน และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่แล้วมันก็จะผ่านไป อาจจะมีคนจำได้บ้าง ช่างหัวเค้า น้องทำให้พรุ่งนี้ คนอื่นชื่นชม หรือตัวเองภูมิใจได้ว่า น้องเลี้ยงลูกได้ดี น้องเรียนจบได้ทั้ง ๆ ที่ต้องมีภาระเลี้ยงดูเด็กเล็ก ๆ   น้องพึ่งอายุ 18 พรุ่งนี้และวันต่อ ๆ ไป ยังมีเรื่องต่าง ๆ รอเราอีกมากมาย จากคุณ : หม่ามี้อี๊ด เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 54 09:11:39

ความคิดเห็นที่ 20 ให้กำลังใจน้องนะคะ ท่องไว้ค่ะ อะไรเกิดขึ้นแล้วดีเสมอ ^^ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทำ และที่สำคัญทำจิตใตตัวเองให้แข็งแกร่ง น้องกำลังจะเป็นแม่คนแล้ว อย่าใส่ใจคำพูด สายตา ของคนรอบข้างคนพวกนี้ไม่จริงใจกับเรา อย่าไปแคร์ ให้กำลังใจตัวเองเยอะ ๆ พี่แนะนำให้สวดมนต์ทุกวัน ทำจิตใจให้ดีมีธรรมะ ลูกออกมาจะได้เลี้ยงง่าย ๆ โลกนี้ไม่ได้สวยงาม แต่มันน่าอยู่ถ้าเราเลือกที่ที่จะยืน ที่จะมองนะคะ สู้ ๆ ค่ะคนสวย... จากคุณ : หมาแม่กลอง เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 54 10:46:31

ความคิดเห็นที่ 21 เอ่อ น้องคะ จะเก็บเด็กไว้แล้วดร็อปเพื่อเรียนต่อเนี่ยโอเคนะคะพี่เห็นด้วย แต่ว่า จากประสบการณ์ตรงนะ รีบบอกอาจารย์ที่ปรึกษาให้เร็วที่สุดนะคะอย่าตั้งตัวนาน เพราะพี่เคยรู้ตัวช้าค่ะ คือแพ้ท้องแล้วอ่อนเพลีย+ง่วงมากๆเลยหยุดเรียนบ่อย พอรู้ตัวว่าท้องก็ตกใจและลังเลอยู่นาน จนกระทั่งโทรไปขอดร็อปเค้าให้ไปคุยด้วยตัวเอง ด้วยความอายเลยตั้งตัวอยู่นาน ระหว่างนี้ก็หยุดเรียนไปเลยเพราะแพ้มากไปไม่ไหว สุดท้ายเค้าแจ้งมาว่าเวลาขาดเรียนพี่รวมแล้ว 2 เดือน จึงหมดสภาพนักศึกษา!!! ช็อครอบสอง =__=" อดดร็อปเลย.... อย่าพลาดแบบพี่นะคะ จากคุณ : pukuchan22 เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 54 12:34:44

ความคิดเห็นที่ 22 ก่อนอื่นขอบอกว่าเป็นกำลังใจให้อีกคนนะคะ ถ้าพี่เป็นนู๋ พี่จะติดต่อหาแม่ค่ะ ยังไงก็แม่เรา ถึงนู๋จะไม่สนิทแต่พี่เชื่อว่าความรักของแม่นั้นยิ่งใหญ่เสมอ เค้าน่าจะจำได้อยู่ว่าทิ้งลูกสาวไว้เมืองไทยอีกคน และก็กำลังเคว้งคว้าง ไม่มีที่พึ่ง ลองติดต่อไปและคุยกับเค้า ถ้ากังวลกลัวเค้าคิดว่าเราเรียกร้อง ก็บอกเค้าไปว่าขอแค่ที่ปรึกษาเพราะไม่รู้จะหันหน้าหาใคร แม่คลอดลูกออกมาย่อมรักลูกทุกคนค่ะ จากคุณ : ยูซ่า@ยากูซ่า เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 54 16:57:56

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่มีอะไรที่ยากเกินกว่ามนุษย์อย่างเราจะสามารถทำได้ค่ะ จำเคส ดร.เป็ดที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตจากรถตู้ร่วงจากโทลเวย์ได้มั้ยคะ เค้าเติบโตมาอย่างยากลำบาก เป็นชีวิตที่น่าสงสารมาก แต่คุณแม่บุญธรรมดร.เป็ด ก็ผ่านมันมาได้ ถึงแม้ตอนจบ อาจจะไม่ happy ending แต่..ความรักของคนที่เป็นแม่ พี่ว่ายิ่งใหญ่มากๆค่ะ http://picpost.postjung.com/124385.html พี่ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 54 17:01:14 จากคุณ : 2nd Ave. เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 54 16:59:01

ความคิดเห็นที่ 24 มาเป็นกำลังใจให้น้องน่ะค่ะ ดีใจที่น้องคิดจะเก็บเจ้าตัวเล็กไว้  ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีนะค่ะ จากคุณ : Wineglass เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 54 19:14:19

ความคิดเห็นที่ 25 ฝากท้องให้เรียบร้อย  ทานของดีๆบำรุงไปเลยค่ะ อย่าได้แคร์  บอกพ่อแม่ ยังไงคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องรักและห่วงใยลูกเสมอ     น้องเจอแบบนี้เค้าคงไม่ตัดขาดกับน้องหรอกค่ะ ท่านยังอาจจะมีทางช่วยเหลือน้องได้อีก ส่วนเรื่องพ่อเด็ก ทำใจไว้ด้วยนะคะ เค้าจะพูดทำร้ายจิตใจยังไง ก็ไม่ต้องเก็บมาเสียใจ บอกให้รับรู้ก็พอ ส่วนเรื่องเรียน ถ้าดรอปไม่ได้     ก็ค่อยหาที่เรียนใหม่ มหาลัยเปิด หรือภาคค่ำก็มี ถ้าน้องสู้ไหวเพราะถ้าคลอดลูกแล้วนี่สารพัดเรื่องเลยค่ะ ตอนนั้นพี่ก็อยู่ปี 2 นี่แหละค่ะ อาจารย์ให้ดรอป แต่มันมาเรียนไม่ไหว ต้องทำงานไปด้วยเป็นห่วงลูกด้วย พี่เลี้ยงลูกคนเดียวทั้งเหนื่อยทั้งเครียด แต่พี่ก็ผ่านมาได้  เหมือนแม่แม่ single mom อีกหลายหลายท่าน อย่าไปทำร้ายเด็กเลยค่ะ เราจะหมดคุณค่าความเป็นคน อย่าเสียใจ อย่าอาย จงภูมิใจที่เราสามารถ เลี้ยงดูคนหนึ่งคนได้ด้วยตัวของเราเอง  สู้สู้นะคะ จากคุณ : ไม่อยากอยู่เฉยเฉย เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 54 19:20:59

ความคิดเห็นที่ 26 สงสารน้องจังเลยค่ะ เราอ่านแล้วเราร้องไห้เลย น้องไม่มีใครเลยจริงๆ พี่ว่าน้องลองโทรไปปรึกษาแม่กับพี่สาวดีมั้ย อย่างน้อยก้จะได้ระบาย น้องเรียนให้จบปี 1 ไปก่อนนะคะ หลังจากนั้นก็ดรอปมาคลอดลูก แล้วเลี้ยงลูกสักพักดีมั้ย  เก็บเงินให้เยอะๆ ประหยัดได้ก็ประหยัดนะ เพราะจะได้เอาเงินมาเลี้ยงลูกและตัวน้องเอง อย่าคิดที่จะไปเอาลูกออกนะ เด็กไม่รุ้เรื่องอะไรด้วย น้องเก่งมาก ที่อยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว  แข็งแกร่งมาก เป็นพี่นะคงเหงาน่าดู จากคุณ : Fairybox เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 54 20:37:26

ความคิดเห็นที่ 27 เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ดีใจนะที่น้องไม่คิดจะเอาลูกออก เห็นว่าจะไปฝากท้องแล้ว ผลออกมาเป็นยังไงบอกกันบ้างนะค่ะ ไม่ได้เป็น single mom ค่่ะ แต่ยินดีให้คำปรึกษาทุกเรื่อง ยังไงก้อหลังไมค์มาได้นะค่ะ เราท้องเพราะยังไม่พร้อมเหมือนกัน ไม่กล้าที่จะบอกพ่อแม่ แต่ทางพ่อแม่แฟนรับรู้ค่ะ เค้าก้อไม่ได้ว่าอะไร ตอนฝากท้องแฟนเราไปแค่ตอนฝากครั้งแรก นอกนั้นเราไปเองหมดเลยค่ะ ตอนลูกคลอดออกมา ตากะยาย(แม่ของเราเอง) ดีใจมากเลยค่ะ แล้วตอนนี้ก้อรักหลานมากด้วย ยังไงก้อเป็นกำลังใจให้นะค่ะ ในเมื่อเค้าเกิดมาแล้วเราต้องเลี้ยงเค้าให้ดีที่สุดค่ะ จากคุณ : แม่แอ้นท์จร้า (อีกครั้งที่ยาวนาน) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 54 20:48:28

ความคิดเห็นที่ 28 วันนี้อะไรๆก็ผิดแผนไปหมดเลยค่ะ ตั้งแต่เมื่อคืนเรายังไม่ได้นอนเลย มันนอนไม่หลับ เรากังวลมากๆ (คือเราก็รู้นะว่ามันไม่ดี แต่มันข่มตาให้หลับไม่ได้) วันนี้เรายังไม่ได้ไปหาหมอเลย T^T จากที่ตกลงกันไว้ว่าจะไปตรวจที่ รพ. ด้วยกัน เพื่อนเราคิดว่าควรปรึกษา อ.ที่ปรึกษาก่อนดีกว่า เพราะเพื่อนเราสนิทกับ อ. มากๆ เพื่อนเราเป็นคนเล่าให้ อ.ฟังค่ะ เราเงียบตลอด เพราะกลัวมาก อ. ถามว่า เรายังอยากเรียนที่นี่อยู่หรือเปล่า เราตอบว่า อยากค่ะ อ. รับปากว่าจะพยายามช่วยเรา แต่เคสแบบเราไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ อ.ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยได้แค่ไหน และเราจะทนสายตาคนอื่นได้หรือเปล่า เพราะที่ผ่านมา มหาลัยไม่เคยไล่ออก แต่คนที่มีปัญหาแบบเดียวกับเราเค้า "พิจารณาตัวเองและลาออกไปเอง" เราอึ้ง... (คือ...เราก็ควรต้องทำแบบนั้นใช่ไหม??) แต่ อ.ก็เป็นคนจัดการแก้ปัญหาให้เราค่ะ คือเป็นคนโทรไปบอกพ่อเรา (เราขอร้องไม่ไห้โทรหาป้า T^T) คุยกันอยู่สักพักใหญ่ พ่อเราก็ขอคุยกับเรา พ่อ : คิดว่าเลี้ยงเด็กมันง่ายเหรอ ทำไมทำเหมือนเห็นชีวิตเป็นเรื่องเล่นๆ เรา : (ร้องไห้ ไม่ได้ตอบอะไร) พ่อ : แล้วจะให้พ่อทำยังไง เรา : หนูไม่รู้ หนูไม่ได้ตั้งใจ หนูขอโทษ (ร้องไห้โฮ ...) อ. ทนฟังมานาน เลยขอคุยกับพ่อเราอีกครั้ง แล้วอธิบายประมาณว่า เรายังมีอนาคต อยากให้พ่อช่วยดูแลเราและหลาน อ.ไม่อยากให้ทำแท้ง เพราะจะเป็นบาปติดตัวเราไปจนตาย ส่วนเรื่องจะเรียนต่อ อ.จะเป็นคนช่วยเหลือเราเอง ให้เรามาปรึกษา อ.ได้ตลอดเวลา สุดท้าย พ่อเราบอกเราว่า พ่อจะโอนเงินให้ก่อนแล้วกัน เรื่องอื่นค่อยคุยกันอีกที เราจะทำอะไรก็รีบทำ อย่าปล่อยให้ยืดเยื้อ แล้วพ่อก็โทรบอกป้าให้มาจัดการ T_T จากคุณ : min (จขกท) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 00:04:21 A:161.200.211.122 X: TicketID:342661

ความคิดเห็นที่ 29 เป็นทางแยกที่ต้องเลือก อย่างมีสติ... อย่าปล่อยให้มีคำถามใดๆ หลอกหลอนเราในอนาคต วันนึงน้องจะมองหน้าลูกรัก ด้วยความรู้สึก....รักแล้วก็จะไม่มีคำถามใดๆ ให้สงสัยค่ะ ผ่านไปให้ได้ค่ะ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับน้องเองค่ะ จากคุณ : น้องแว๊ด เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 00:21:12

ความคิดเห็นที่ 30 และ อ.ก็ทำสิ่งที่เราคาดไม่ถึงคือ อ.เป็นคนโทรไปหาแฟนเราค่ะ (แต่ถามความสมัครใจของเราแล้ว) อ. search หาชื่อบริษัทและหาเบอร์ติดต่อจาก internet เลยค่ะ และติดต่อได้จริงๆด้วย เราไม่เคยรู้เบอร์ที่ทำงานแฟนเลย ถึงรู้ก็ไม่กล้าทำ อ. ให้เราบอกชื่อ นามสกุลของแฟน และ plant ที่ทำงาน (เป็นโรงงานค่ะ) ผลคือ แฟนเก่าเราโดนเรียกตัวด่วนจากที่ประชุม เพราะ อ.บอกกับคนรับสายว่ามีธุระด่วนมาก แฟนเราช็อคไปเลย และขอคุยกับเรา ถามประมาณว่า เป็นแบบนี้ได้ยังไง ทำไมไม่ไปหาหมอ ไปตรวจให้แน่ใจ บางทีเราอาจเข้าใจผิดก็ได้ แล้วทำไมต้องให้ใครต่อใครมาจัดการเรื่องนี้แทน มันใช่เรื่องของคนอื่นหรอ ทำไมเราไม่บอกกับเค้าตรงๆ เราบอกว่า เราไม่กล้า T_T และเราไม่ได้เข้าใจผิด แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก เค้ากำลังยุ่ง และเค้าก็ขอโทรบอกพ่อแม่เค้าก่อน และขอเบอร์ติดต่อพ่อเราด้วย เค้าบอกว่าพรุ่งนี้เค้าจะลางานมาหาเราที่คอนโด แล้วเค้าจะพาเราไป รพ.เอง ส่วนเรื่องอื่นเค้าขอเวลาคิดก่อน แล้วก็วางสายไป และอ.ก็ให้เบอร์ติดต่อไว้ เผื่อเรามีเรื่องอะไร โทรติดต่อ อ.ได้ตลอด 24 ชั่วโมง อ. ดีกับเรามากจริงๆ เพื่อนเราก็เลยพาเรากลับมาที่หอ มันไม่อยากให้เราอยู่คนเดียว กลัวว่าจะฟุ้งซ่าน ตอนนี้เราก็ยังนอนไม่หลับเลยค่ะ มันเพลียนะ แต่ข่มตาไม่ลง สมองเราคิดอะไรวุ่นวายไปหมด นอนมองเพดานไปให้มันหมดๆวัน กินอะไรก็ไม่ลง แถมตอนนี้เหม็นกลิ่นตู้เย็นในห้องมาก เพื่อนเราบอกว่ากลิ่นมันก็ปกติทั่วไป แต่เราได้กลิ่นแล้วอยากจะอ้วกตลอดเลย พอเราอ้วกไปครั้งนึง เพื่อนไม่กล้าเปิดตู้เย็นอีกเลย T^T ทั้งๆที่ไม่ได้กินอะไรเลยก็ยังอุตส่าห์อ้วกเอาน้ำออกมา T^T ทรมานจริงๆ แถมตอนบ่ายสาม ป้าเราโทรมาด่าเรายาวเลย เกือบชั่วโมง ร้องไห้จนน้ำตาแห้งเหือด T_T คือเราก็รู้ว่าเราผิดนะ ผิดมากด้วย แต่คำว่า "ชั้นบอกแล้วใช่มั้ย แกน่ะมัน...บลา บลา บลา ชั้นรู้อยู่แล้วว่าซักวันต้องเป็นแบบนี้....." เราไม่อยากได้ยินอีกแล้ว เรานั่งรีเฟรชกระทู้นี้ดูมาตั้งแต่เย็นแล้วค่ะ อ่าน คห.ของพี่ๆในห้องนี้ไปหลายสิบรอบ อ่านแล้วร้องไห้ นั่งกดดูกระทู้อื่นๆ เหมือนกับว่าใครๆก็ดีใจที่มีลูก บางคนมีลูกน่ารักมากๆ (อย่างน้องเวียงพิงค์ น่ารักมากจริงๆ) บางคนพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองท้อง แต่เราท้องทั้งๆที่ไม่ได้ต้องการเลย ควรจะดีใจดีไหม คนที่อยากเป็นแม่มีมากมาย แต่เค้าเลือกมาเกิดเป็นลูกเรา T^T ขอบคุณทุกๆกำลังใจนะคะ บาง คห.อ่านแล้วรู้สึกเหมือนมีคนมานั่งจับมืออยู่ข้างๆ ขอบคุณที่ทำให้เราไม่รู้สึกเหมือนกับต้องเผชิญอะไรๆอยู่คนเดียว คิดถูกจริงๆที่มาถามในห้องนี้ ตอนแรกลังเลว่า นี่มันปัญหาชีวิตนี่นา หรือ ปัญหาสุขภาพจิต หรือ สุขภาพกาย ฯลฯ สับสนมากทั้งๆที่เล่นพันทิปมานาน ตอนแรกจะไปโพสในห้อง single mom ด้วยซ้ำ แต่เพื่อนบอกว่า อย่าเลย มันจะเป็นลาง เชื่อป่ะคะ ตลกร้ายแบบนี้ทำให้เราหัวเราะได้ในรอบหนึ่งอาทิตย์ เพื่อนเราก็ดีกับเรามากจริงๆ เห็นเราเครียดๆก็เปิด เดี่ยว 9 ให้ดูด้วย เราเลยร้องไห้ไปหัวเราะไป อ.ก็โทรมาถามตอนหัวค่ำว่าเราเป็นยังไงบ้าง เราซาบซึ้งมากๆ ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นมากแล้วค่ะ แต่พรุ่งนี้จะเป็นยังไงเรายังไม่รู้เลย ฝากตัวกับแม่ๆห้องนี้ด้วยนะคะ อีกไม่นานเราคงสมัครอมยิ้มใหม่ค่ะ (ของเก่ายกเลิกไปแล้ว) ไม่ชินกับบัตรผ่านเลยจริงๆ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ จากคุณ : min (จขกท) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 00:44:35 A:161.200.211.122 X: TicketID:342661

ความคิดเห็นที่ 31 มาเป็นกำลังใจให้นะคะ..ใจเย็นๆค่ะ ค่อยๆแก้ปัญหาไปทีละเรื่องละกัน ยังงัยน้องควรไปฝากท้องก่อนเลยจ้า มีข้อสงสัยอะไร ยังงัยเกี่ยวกับการดูแลตัวเองระหว่างท้อง ถามคุณหมอไปเลยน๊า...แนะนำให้นึกคำถามไปก่อน เพราะถ้าไม่นึกไปก่อน จะงง ได้แต่ฟังอย่างเดียว พอกลับมาก็จะเสียดายว่า ทำไมไม่ถามน๊า และระหว่างนี้ก็หาหนังสือเกี่ยวกับคนท้องมาอ่านจะช่วยได้มากเลยจ้า ระหว่างที่ท้อง ขอให้น้องดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีๆ อย่ายกของหนัก อย่าเอื้อมหยิบของจากที่สูงๆน๊า คอยสังเกตุตัวเองเสมอ เช่น ว่ามีเลือดออกไหม ไม่ว่ามีนิดหน่อย ก็ควรปรึกษาคุณหมอ... ช่วงแพ้ท้อง ที่ทานอะไรก็อาเจียนออกมาหมด...แนะนำว่า หาของบำรุงตัวเองเยอะๆ ถ้าทานได้ก็พยายามทานหน่อยน๊า อย่างน้อยก็ควรมีไข่ทานสักวันละฟองจะดีมากเลย และอาจจะหาขนมปังกรอบ อาหารเบาๆ ผลไม้ หรืออะไรที่เย็นๆ ทานแก้เลี่ยนแก้คลื่นไส้ ทานไม่ต้องเยอะมาก แต่ทานบ่อยๆ ก็น่าจะช่วยได้นะคะ ส่วนนม..ไม่ต้องทานเยอะมากน๊า..ทานมากเกินไปเด็กอาจเกิดภูมิแพ้ได้จ้า จะฝากท้องที่ รพ. ไหน คุณหมอคนไหน..ลองถามแม่ๆ ในห้องนี้ก่อนก็ได้จะ ที่นี่มักจะมีคำแนะนำดีๆ ให้กันเสมอค่ะ ... เอาใจช่วยจ้า จากคุณ : หมูผัดขิง เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 00:50:44

ความคิดเห็นที่ 32 เชื่อว่าน้องยังนอนไม่หลับจริงๆ...แต่ปัญหาตรงนี้..ที่น้องบอกว่า "พรุ่งนี้จะเป็นยังไงเรายังไม่รู้เลย" ... ช่างมันไว้ก่อนก็ได้จ้า พักผ่อนก่อนดีไหม พักเอาแรง จะได้มีแรงคิดยังงัยล่ะ ... เหมือนตอนสอบยัง ถ้าไม่พัก ไม่หลับ ไม่นอน..จะเอาสติ เอาแรงที่ไหนมาแก้ปัญหา ... ต้องคิดเสมอน๊า พรุ่งนี้เราต้องตั้งหลักกันใหม่ น้องมีเพื่อนที่ดี มีอาจารย์ที่ดี..มีกำลังใจดีๆ อีกมาก  แต่ตัวน้องเองก็ต้องสร้างกำลังใจตัวเองให้สู้ ให้เข้มแข็งให้มากๆ นะจ๊ะ จำไว้ค่ะ..เพื่อลูกและตัวเราเอง... อีกอย่างที่คุณพ่อน้องพูดว่า " คิดว่าเลี้ยงเด็กมันง่ายเหรอ ทำไมทำเหมือนเห็นชีวิตเป็นเรื่องเล่นๆ " น้องก็ต้องอดทน พยายาม และต้องเรียนรู้ให้มากขึ้นนะคะ...และตอนหลังคลอดเดือน สองเดือนแรก..จะเหนื่อยมาก..แต่ก็เหนื่อยแบบมีความสุขค่ะ การได้มองหน้าเจ้าตัวเล็กๆ ของเรา ได้เห็นพัฒนาการลูกของเราเอง..มันมีความสุขมากจริงๆนะคะ พักผ่อนเยอะๆนะคะ..ฟังเพลงบ่อยๆ อาจช่วยคลายเครียด ช่วงท้องจะทำให้ลูกมีพัฒนาการด้านอารมณ์ดีนะคะ และทำให้ลูกฉลาดด้วยค่ะ..งานวิจัยเค้าศึกษากันว่าอย่างนั้น จากคุณ : หมูผัดขิง เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 01:12:13

ความคิดเห็นที่ 33 ลองฝากท้องที่ ร.พ. ใกล้ๆ ที่เราสะดวกดที่สุดค่ะ.. แต่ถ้าแนะนำก็คงเป็น กรุงเทพคริสเตียน ฤ ไม่ก็ BNH ก็ดีค่ะ... (แต่เราคลอดที่ กรุงเทพคริสเตียน ประทับใจมาก คุณหมอก็เก่ง พยาบาลก็ดูแลดี ห้องพักก็ใหม่ ..และเค้าก็ส่งเสริมเรื่องนมแม่ด้วยค่ะ ของเราตรวจกับคุณหมอพิชัยค่ะ) แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 54 02:16:20 จากคุณ : หมูผัดขิง เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 02:15:04

ความคิดเห็นที่ 34 แวะมาอีกที อย่ากังวลมากไปเลย มันเหนื่อยก็หยุดคิดก่อน อย่างน้อยแฟนน้องก็ไม่ใช่คนใจดำ นะ เขาแลกระตือรือร้น ทุกอย่างอาจจะเป็นไปในทิศทางที่ดี ถ้าเจอหน้ากันก็พูดคุยปรึกษาเพื่อหาทางออกที่ดีนะคะ เรื่องการตั้งท้องนี่ พี่ไม่แน่ใจว่าสถานศึกษามีกฏห้ามชัดเจนหรือเปล่า และสงสัยว่าทำไมล่ะ มีลูกแล้วมันผิดตรงไหน ในเมื่อเราใส่ใจที่จะเรียน หรือถ้าใครจะแต่งงานก่อนเรียนจบและเรียนไปด้วยกฏหมายห้ามหรือยังไงกัน ...........ไม่ต้องไปคิดมันเนอะ ตอนนี้ ตัดสินใจไม่ทำแท้งใครๆ เขาก็ชื่นชม อย่าอายเลยค่ะ ถ้าไม่รับผิดชอบต่างหากที่ควรจะอาย อย่าคิดน้อยใจกลุ้มใจอะไรมากมาย พ่อเขาพูดด้วยความเป็นห่วง.......ส่วนน้องเองตัดสินใจถูกแล้ว การทำแท้งมันเสี่ยงถึงเสียชีวิต ที่แย่ที่สุดความรุ้สึกผิดมันเกาะกินใจไปตลอดแหล่ะ ส่วนเรื่องป้า เขาอาจมีความห่วงในแบบของเขา การดุด่าว่ากล่าวก็ต้องปล่อยเขานะ มันเป็นควมเคยชิน ส่วนตัวเราเลือกปิดหูซะค่ะ อย่าเก็บคำพูดรกหูมาใส่ใจ ฟังเฉพาะคนที่เขาช่วยเหลือเราดีกว่าค่ะ ทุกๆ คนเขาห่วง เขาหวังดีกับเรามากมาย ไม่ต้องกลัวว่าจะใช้ชีวิตต่อไปบนโลกใบนี้ไม่ได้นะคะ พี่ก็กำลังท้อง ลูกคนที่ 2 ตอนนี้ได้ราวๆ 3 เดือนแล้ว แม้จะแต่งงานมีสามีแต่ก็มีปัญหาภาวะการเงิน แต่ลูกก็คือสิ่งสำคัญและเป็นสิ่งที่มีค่าในชีวิตพี่ งานประจำก็ไม่ได้ทำแล้วแต่เชื่อเสมอว่าจะสามารถเลี้ยงลูกไปจนได้ เข้มแข็งไว้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ แก้ไขเมื่อ 21 ธ.ค. 54 12:03:27 จากคุณ : แม่น้องปาย เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 11:59:25

ความคิดเห็นที่ 35 อยากเข้ามาให้กำลังใจค่ะ ดีใจที่จขกท.เริ่มเดินถูกทาง การปรึกษาผู้ใหญ่อย่างอาจารย์ที่ปรึกษา คุยกับพ่อแม่ คุยกับแฟนเก่าเป็นทางเดินที่ถูกต้องแล้ว การตัดสินใจหลังจากนี้อยากให้เอาสถานการณ์รอบตัวมาร่วมตัดสินใจด้วยนะคะ ชีวิตไม่ง่ายค่ะ แต่ไม่ยากเกินไปหรอก อย่าท้อนะคะ จากคุณ : jedi2543 เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 12:19:42

ความคิดเห็นที่ 36 เป็นกำลังใจให้นะค่ะ อ่านแล้วน้ำตาแทบจะไหลเลย จากคุณ : แม่ต้นปี เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 13:34:58

ความคิดเห็นที่ 37 เป็นกรณีคล้ายๆพี่เลย ของเราก็ท้องตอนเรียนไม่จบเหมือนกัน แต่ของเรายุ่งยากกว่าเยอะ เพราะแฟนไปทำผู้หญิงท้อง2คน เราด้วยผู้หญิงอีกคนหนึ่งด้วยท้องไล่เลียกันเลย ดีแล้ว ล่ะเนอะที่น้องเก็บลูกไว้ ตอนพี่รู้วาท้องก็บสับสนวุ่ยวายเหมือนน้องนี่หล่ะ ไหนตัวเองจะท้องแล้วยังมารู้เรื่องกิ๊กของแฟนท้องอีก แล้วยังเรียนไม่จบอีก พี่ก็บอกพ่อแม่ แม่พี่ไม่มองหน้าเลยแต่ก็ยังส่งผ้าอ้อมเครื่องใช้เด็กมาให้ ส่วนพ่อตอนแรกก็ไม่คุยด้วยแต่ที่ไหนได้พ่อเป็นคนที่ห่วงเราที่สุดพาพี่ออกไปกินข้าวให้เงินพี่ใช้ เพราะแฟนพี่ยังไม่ได้ทำงานอะไรช่วงนั้นแทบจะอดมื้อกินมื้อ ตอนนี้น้องอาจจะยังสับสนอยู่แต่พอลูกในท้องเริ่มโตน้องจะรู้สึกผูกพันและรักเค้ามากๆ เรื่องเรียนน้องก็ทำถูกแล้วที่ปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษา ของพี่ก็ไม่ได้ปรึกษาใครเลยออกจากโรงเรียนมาซะอย่างนั้นเลยตั้งใจเป็นแม่คนเต็มที่แต่น้องยังอยากเรียนอยู่พี่ก็เห็นด้วย ฝากท้องก็ไม่มีอะไรมาก หมอเค้าก็จะตรวจฉี่ตรวจเลือดหาสภาวะเลือดจาง อาจจะตรวจภายในด้วยเพราะพี่ได้ตรวจภายใน ถ้าแฟนน้องไปด้วยก็ยิ่งดีเค้าจะตรวจหาเลือดจางทั้ง2คน ถ้าอะไรยังไงหมอเค้าจะได้ช่วยรักษาทันแล้วถ้าไม่รู้ประจำเดือนหมดเมื่อไหร่หมอเค้าจะอัลตร้าซาวดูขนาดมดลูกให้ ไม่ยุ่งยากไม่ต้องกลัวหมอด่าแค่เตรียมจิตใจไว้ให้พร้อมก็พอ อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ อย่าสนใจติฉินนินทา เด็ดขาด ใครจะว่าเรายังไงก็อย่าสนใจอย่าเก็บมาคิดเพราะน้องจะเครียดส่งผลต่อลูกแล้วยิ่งน้องไปเรียนหนังสือด้วยแล้วสังคมกว้างขวางทุกคนจะมองและนินทาเราไม่ต้องไปแคร์ใครลูกเราตัวของเราร่างกายของเรา ขอให้น้องกับลูกร่างกายแข็งแรงปลอดภัยกันทั้งแม่และลูกนะค่ะ มีความสูขกับตัวเล็กในท้องให้มากๆๆ จากคุณ : แม่ต้นปี เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 13:56:44

ความคิดเห็นที่ 38 สู้ๆนะคะ มีปัญหาคล้ายๆกันค่ะ แต่เราตัดสินใจแล้วว่าเราจะเลี้ยงลูก(ในขณะที่แฟนจะลากไปคลีนิกทำแท้ง) จนถึงขั้นเห็นแฟนกลายเป็นศัตรูไปแล้วค่ะ ไม่อยากรับสายไม่อยากเจอ ได้แต่ตั้งความหวังว่าถ้าเค้าเห็นหน้าลูกแล้วเค้าจะเปลี่ยนความคิด (ปกติแฟนเป็นคนรักเด็กมาก อยากมีลูกมาก แต่พอเราท้องจะลากเราไปทำแท้งซะงั้น) สู้ๆนะคะ มีอะไรมาเล่าให้ฟังนะคะ เป็นกำลังใจให้เสมอ ^^ จากคุณ : นางยักษ์ เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 15:40:12

ความคิดเห็นที่ 39 เข้ามาให้กำลังใจน้องอีกครั้งนะคะ สู้ๆนะคะ เรื่องมันเกิดไปแล้ว เดินหน้าอย่างเดียวค่ะ ดีใจด้วยนะคะ ที่มีอาจารย์ที่ดีที่สุด ดูแลและเป็นห่วงใยน้อง และมีเพื่อนรักที่จริงใจ น้องโชคดีจริงๆค่ะ และดีใจด้วยนะคะ ที่แฟนน้องเขาไม่ใช่คนใจดำหรือเป็นคนหนีปัญหา อย่างน้อยเขาก็กระตือรือล้นที่จะช่วยเหลือ และ..ในที่สุดจะได้อยู่ด้วยกันหรือไม่ ก็ไม่เป็นไรนะคะ ไม่มีใครได้อะไรทุกอย่างในชีวิตค่ะ อยากให้น้องเข้มแข็งและอดทน อย่าไปคิดมากกับคำพูดตำหนิของพ่อกับป้า ท่านรักน้องมากนั่นแหละค่ะ ที่บ่นๆไปคงด้วยตกใจและยังคิดอะไรไม่ออก ให้เวลาท่านบ้างนะคะ เราทำผิดแล้ว ก็ต้องยอมรับทุกสิ่งเหล่านี้แหละค่ะ เดี๋ยวมันก็ดีเอง..ท่องไว้นะคะ ตอนนี้ทำทุกอย่างที่ดีๆเพื่อให้ลูกที่เกิดมาสมบูรณ์และมีสุขภาพกายใจที่ดี ขึ้นต้นอาจไม่สวยหรู แต่พี่ว่าตอนจบจะสวยงามค่ะ..เชื่อมั่นไว้นะคะ พี่เป็นกำลังใจให้หนูนะคะ สู้ตายค่ะ^^ ไม่สบายใจ นอนไม่หลับ มาตั้งกระทู้นะคะ พี่ๆจะเข้ามาให้กำลังใจบ่อยค่ะ จากคุณ : Flair เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 16:54:45

ความคิดเห็นที่ 40 มีความความเห็นดีๆ เจ๋งๆ มาช่วยน้อง ก็อยากเข้ามาเป็นกำลังใจอีกคนครับ ช่วงนี้ไม่ต้องไปสนใจเสียงนินทาจากคนอื่น น้องทำถูกต้องแล้วครับที่ตัดสินใจ จะเลี้ยงลูก ไม่มีใครในโลกนี้ไม่ถูกนินทา ไม่ว่าจะทำดีหรือทำไม่ดีก็ตาม ส่วนเรื่องเรียนพี่ว่าการเรียนไม่มีคำว่าสายไป หากอยากเรียนจริงๆ พี่เอง อายุ 28 แล้วยังเรียนอยู่เลย การเรียนก็มีหลายมหาวิทยาลัยหลายแบบให้เลือก ทั้งเอกชน รัฐบาล ทั้งเเบบเปิดและปิด แล้วก็ยังมีการเรียนแบบ ทางไกล ทางใกล้ ขอให้น้องมีสติค่อยๆ คิดนะครับ ลำดับความสำคัญของเรื่องต่างๆ ให้ดี สิ่งไหนที่ต้องทำวันนี้ สิ่งไหนที่ทำเมื่อไรก็ได้ สิ่งไหนที่คิดแล้วไม่เกิด ประโยชน์ก็ต้องตัดออกไปจากใจเราให้ได้ ดูแล้วน้องมีแต่คนน่ารักรอบๆ ตัว ช่วยประคองไป การคิดแก้ไขปัญหาต่างๆ ตอนที่เราอารมณ์ดี จิตว่างๆ เป็น เทคนิคส่วนตัวที่พี่ใช้ จะทำให้เราแก้ปัญหาได้เร็วและง่ายขึ้นครับ จากคุณ : ฮาตาเกะ คาคาชิ เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 18:26:51 A:86.148.81.39 X: TicketID:342893

ความคิดเห็นที่ 41 ที่ผ่านมาน้องคงเหงา แต่อยากให้คิดว่าต่อไปจากนี้น้องจะไม่เหงาอีกต่อไปแล้ว จะมีเจ้าตัวเล็ก มาเป็นกำลังใจ มาเป็นครอบครัวที่อบอุ่นของน้องนะคะ น้องเข้มแข็งมากค่ะ พี่จะเอาใจช่วยนะคะ ถ้ามีปัญหาหนักใจ ปรึกษาห้องนี้ได้ตลอดนะคะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (เด็กหญิงกล้วยบด) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 18:50:33

ความคิดเห็นที่ 42 เห็นด้วยกับที่หลายๆท่านแนะนำและให้กำลังใจน้องมินค่ะ ผ่านขั้นตอนที่ยากลำบากมาแล้ว ถึงแม้จะมีต่อ แต่ขอให้น้องทำใจให้สบาย รักษาสุขภาพให้แข็งแรงเข้าไว้ เรื่องคำพูดคนอื่นน้องไม่ต้องเอามาใส่ใจค่ะ ปล่อยเขา ที่เขาพูดไม่ดีนั่นเป็นเพราะเขาไม่อยากให้เราได้ดี ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องเต้นตาม น้องโชคดีที่ได้อาจารย์ เพื่อน และครอบครัวที่ดี(พี่รู้ว่าเขารักน้องแต่เขาแสดงออกมาอย่างนั้นเอง) พี่ขอเป็นกำลังใจให้น้องอีกคน หากน้องมีปัญหาอะไร อยากปรึกษา หรือเหงา อยากคุย หลังไมค์มาหาพี่ได้เลยนะคะ ยินดีเสมอค่ะ จากคุณ : miracle_rainyteddy เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 21:05:44

ความคิดเห็นที่ 43 มาอัพเดทด้วยนะคะ น้องมิน (เย้ รู้ชื่อเเล้ว) อย่างน้อยเเฟนก็ดีเนอะ เเต่ดันปากเสียนี่สิ บอกเเฟนด้วยสิค่ะ ว่าเเฟนใหม่เขาไม่ให้คุยด้วย เเล้วจะบอกยังไง ชิชิ จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 23:18:29

ความคิดเห็นที่ 44 เราชื่อ มิน จริงๆค่ะ ตอนเด็กๆชื่อมินนี่ ทำไมโตมาถึงเหลือแค่มินก็ไม่รู้ ^^ ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะคะ พรุ่งนี้คงจะได้ไปฝากครรภ์จริงๆแล้วค่ะ ^^ จากคุณ : min (จขกท) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 54 23:36:39 A:161.200.215.6 X: TicketID:342661

ความคิดเห็นที่ 45 พี่เข้ามากอดน้องแน่นๆๆๆ ไม่เป็นไรนะจ๊ะ น้องเป็นคนที่มีความคิดพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว พี่เชื่อว่าน้องต้องผ่านเรื่องนี้ไปได้ และได้ดีด้วย เอาใจช่วยนะจ๊ะ ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยหรือรับฟังส่งมาทางหลังไมค์ได้นะจ๊ะ จากคุณ : PetiteYelly เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 02:26:09

ความคิดเห็นที่ 46 ^^  ยังไงตอนนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่คิดใช่มั้ยคะ?? อ.ที่ปรึกษาก็เป็นกำลังใจ  มีเพื่อนคอยอยู่เป็นเพื่อน  และผู้ชายคนนั้นก็กำลังมาเคลียร์ปัญหานี้  ถึงแม้ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง  แต่คิดไว้เถอะค่ะว่า  สิ่งที่เราคิด มักจะเลวร้ายกว่าความเป็นจริง  หรือสวยความกว่าความเป็นจริงอยู่เสมอ เข้ามาเป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ ตอนนี้แม้เราจะมีทุกข์ มีคนด่าว่าเราบ้าง  แต่ยังไงก็ยังมีคนให้น้ำใจกับเราอีกเยอะแยะเลย คงมากกว่าดุด่าด้วย เด็กคนที่เกิดมา อาจจะนำสิ่งดีๆมาให้คุณก็ได้นะค่ะ สู้ๆค่ะ  ถ้าอยู่ใกล้ๆเจ้าของกระทู้อยากกอดแน่นๆสักทีจริงๆ จากคุณ : Baboon_baba เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 21:02:51

ความคิดเห็นที่ 47 เป็นกำลังใจให้นะครับ ยังไงเค้าก็มาอยู่กับเราแล้ว ปัญหามีทางออกเสมอ เป็นกำลังใจให้นะครับ จากคุณ : pan-pan เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 12:03:03

ความคิดเห็นที่ 48 เย้...ไปฝากครรภ์ก่อนพี่อีกวุ๊ย 55...เฮ้อ ท้องแล้วลำบากจิงแหละ ทำงานอะไรๆก็เหนื่อย แต่ก็อย่าได้แคร์เน๊อะ ได้เรื่องยังไงบอกก็ดีนะ (เค้าชอบอยากรู้เรื่องคนอื่น 555+) จากคุณ : Trinycat เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 13:51:11

ความคิดเห็นที่ 49 พี่ก็เป็นอีกคนที่คล้ายๆกันกับน้องค่ะ อยากจะบอกว่า อย่าเครียดนะค่ะ เพราะถึงเด็กอยู่ในท้องเค้าจะรับรู้อารมณ์ของเราได้ค่ะ ฉะนั้นทำยังไงก็ได้ให้จิตแจ่มใสเสมอ หางานเบาๆทำ ดูหนัง ฟังเพลง เพื่อไม่ให้คิดมาก เด็กก็จะอารมณ์ดีค่ะ เพราะพี่ไม่คิดมาก ทำจิตใจร่าเริงเสมอ ลูกพี่เกิดมาอารมณ์ดีเชียวค่ะ แต่มีเพื่อนพี่อีกคนท้องเหมือนพี่แต่เค้าทำใจไม่ได้ร้องไห้ทุกวัน เด็กเกิดมาร้องไห้ไม่หยุดหรือเรียกว่าโรคโคลิกค่ะ คิดถึงลูกเอาไว้นะค่ะ ออกมาเค้าต้องน่ารักน่าชัง แล้วมีจิตใจที่ดีเหมือนแม่เค้าค่ะ สู้ๆนะค่ะ จากคุณ : Bbbbbbb (petch20) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 22:42:43

ความคิดเห็นที่ 50 สู้ๆนะคะ เราไม่ได้เป็นแม่คน แต่แม่เราท้องตอนเรียนยังไม่จบ และแม่ก็เก็บเราไว้ดูแลเป็นอย่างดีถึงแม้จะต้องลำบากมากๆ แต่วันนึงเมื่อลูกคุณโตขึ้น เค้าจะขอบคุณและสำนึกในบุญคุณของคุณมากๆนะคะ สู้ๆค่ะ จากคุณ : arkana เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 09:57:42

ความคิดเห็นที่ 51 น้องมินเป็นอย่างไรบ้างแล้ว พี่มาให้กำลังใจนะคะ ขอให้แข็งแรงทั้งแม่และลูก พี่มีเพื่อนที่เคยเจอปัญหานี้ตอนที่ครอบครัวรู้ใหม่ๆทุกคนเครียดมากแต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีตอนนี้ลูกของเพื่อนพี่เป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว ตั้งแต่เพื่อนพี่มีลูกคนนี้ชีวิตก็มีแต่สิ่งที่ดีๆเข้ามา สู้ๆนะคะ จากคนที่อยากมีลูกแต่ไม่มี จากคุณ : หมูซี เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 02:09:01

ความคิดเห็นที่ 52 เป็นกำลังใจให้น้องมิน นะคะ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 55 16:33:39 จากคุณ : แม่น้องเวียงพิงค์ (Prettymaew) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 05:39:37

ความคิดเห็นที่ 53 ให้กำลังใจน้องมินนะจ๊ะ เท่าที่ฟังตอนนี้ ทุกอย่างกำลังคลี่คลายไปในทางที่ดี ทั้ง อาจารย์ เพื่อน รอบข้าง ก้อคอยเป้นที่ปรึกษาที่ดีมากๆ แค่ได้ยินว่าน้องไม่คิดจะทำแท้ง  แค่นี้ก็ดีใจมากๆแล้ว ตอนนี้น้องมินฝากท้อง ทำใจให้สบาย อย่าเครียดนะ แรกๆ อาจจะหนักหน่อยกับอาการแพ้ท้อง  เดี๋ยวก็จะผ่านไปได้เอง พี่เป้น single mom เลี้ยงตัวเล็ก2คน  เหนื่อย แต่มีความสุขที่สุดในโลกเลยจ้า หากว่าน้องมินต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มีอะไรปรึกษาได้นะ  หรืออยากให้ช่วยอะไรก้อบอกได้นะจ๊ะ อ่านห้องนี้อบอุ่นค่ะ มีอะไรมาอัพเดตบอกบ่อยๆนะ  อย่าเครียด อย่าเก็บไว้คนเดียว จากคุณ : มะปรางข้างรั้ว เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 07:27:35

ความคิดเห็นที่ 54 เป็นกำลังใจให้มินนะคะ พี่อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยแต่พี่ขอชื่นชมนะที่มินไม่คิดจะเอาน้องในท้องออก ยังไงก็ต้องมีทางออกนะมิน แล้วสุดท้ายลูกจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตมินนะคะ จากคุณ : กระต่ายน้อยเซนทาโร่ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 14:35:00

ความคิดเห็นที่ 55 ตอนนี้เป็นไงบ้างแล้วคะ.... เป็นกำลังใจให้น้องมินนะ สู้ๆค๊า จากคุณ : zenkwang เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 00:01:17