ความคิดเห็นที่ 1 ต่อ จากคุณ : credor เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:33:55

ความคิดเห็นที่ 2 เครดิตโดยคุณ aekhiggin จาก smart-mobile.com จากคุณ : credor เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:34:31

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณค่ะ มีประโยชน์มากๆ จะได้มีแนวทางไว้แนะนำลูกต่อไป จากคุณ : benbeljung เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 22:45:22

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณมากๆค่ะ กำลังเริ่มกังวลกับตัวเองอยู่ เป็นแบบนี้เลย หนักกว่าอีกคือลูกยังไม่ทันขอ อิแม่มานก็ซื้อมาซะก่อนแล้ว ตอนนี้เค้าสองขวบครึ่งคงยังเริ่มต้นทันนะคะ ขอบคุณมากๆอีกครั้งค่ะ จากคุณ : ไฟกลางธาตุ เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:02:15

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณค่ะ จะพยายามทำนะคะ จากคุณ : แม่ออนจ้า เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:39:40

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณครับจะลองพยายามทำตาม จากคุณ : รักลูก เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 23:48:24 A:124.120.226.243 X: TicketID:297998

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : poohying เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 00:04:43

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : พัดใบใหม่ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 03:23:39

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณที่นำมาฝากค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สะท้อนทั้งเราและลูกมาก เนื่องจากเมื่อก่อนยอมรับว่าเลี้ยงลูกแบบลูกฉันต้องมี ต้องได้ ต้องสะดวก สบาย สวยงาม ตอนนั้นพ่อแม่มานยังมีเงินไงคะ 555 (ตอนนี้เวลาเห็นกระทู้เรื่องของๆ ลูก ของใช้ลูก เราสะท้อนใจเลย แต่ไม่อยากพูดอะไรมาก เป็นเรื่องของแต่ละบ้านไม่อยากออกความคิดเห็นค่ะ) พอเริ่มมีเค้าลางว่าครอบครัวจะไม่มีรายได้ที่มากมายเหมือนเก่า ก็ต้องปรับการใช้ชีวิต ทีนี้เรากับสามีเลยมานั่งคุยกันว่าที่ผ่านมา เราเลี้ยงลูกผิดนะ เลยปรับใหม่ค่ะ ค่อยๆ ปรับ และ ปรับได้ในที่สุด ตอนนี้แฮปปี้กับลูกมากที่เค้าคิดเป็น เรื่องการใช้เงิน และเรื่องอื่นๆ ด้วย เอาไว้ว่างๆ จะมานั่งเล่าค่ะ จากคุณ : Dreams Catcher เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 08:50:17

ความคิดเห็นที่ 10 ที่เอามาฝากทั้งหมดนั้น คือ คุณพ่อ (ปัจจุบันคือคุณตา) สอนพวกเรา (ลูกๆ) มาตั้งแต่เด็กๆ ตอนเราอยู่ประถมเนี่ย เดินเก็บกระป๋องนมข้น กระป๋องเปล่าปลากระป๋อง รับจ้างซักผ้าตั้งแต่ป. 5-6 รับจ้างถูบ้านตั้งแต่ประถม ทั้งที่พ่อเป็นครูใหญ่ (และสมัยนั้นเครื่องซักผ้าเป็นเรื่องใหม่และแพง) ที่พ่อให้ทำแบบนั้นเพราะพ่อสอนความอดทน และภูมิใจกับการหารายได้เอง นอกจากนี้การไปรับจ้างซักผ้า ถูบ้าน แ้ม้จะเป็นบ้านญาติก็ได้ฝึกความซื่อสัตย์เพราะไปทำงานบ้านคนอื่น ต้องซื่อสัตย์ไม่ขโมยเล็กน้อย มันได้ประโยชน์มากๆเลยนะคะ ที่พ่อสอนทางอ้อม ด้วยการปฎิบัติมากกว่าพูดสอนนั้น จำได้จนวันนี้ และเราก็เอามาเป็นแนวทางในการเลี้ยงลุก ตอนเด็กๆอยากได้อะไร ไม่ใช่แค่เก็บเงินซื้อ แต่ให้ทำงานแลกด้วย และตอ้งบอกเหตุผลข้อดีข้อเสีย ของของสิ่งนั้นๆที่อยากได้ จำได้ว่า ตอนเป็นวัยรุ่น ม.ต้น ซาวด์อเบ้าท์กำลังฮิต ก็อยากได้เหมือนเพือ่น พ่อให้บอกข้อดีและข้อเสีย แล้วให้เทียบกับการซื้อวิทยุอันไหนดีกว่ากัน ตอนนั้นจำได้ว่า พ่อไม่อยากให้เลือกซาวด์อะเบ้าท์ พ่อบอกว่า เอาอุดหู ไม่ได้ยินใครพูด หูหนวก หลุดในโลกส่วนตัว ไม่อยากคุยกับใคร......บลาบลา ตอนนั้นเลยเปลี่ยนเป็นเก็บเงิน ทำงานซักผ้าเพื่อซื้อวิทยุ เพื่อพี่ กับ น้องจะได้ฟังด้วย แถมมีเงินเหลือเก็บอีก น่าภูมิใจ กฎทั้ง 6 ข้อพ่อสอนหมด และจำจดจะสอนลูก (หลานของพ่อต่อไป) จากคุณ : pure_diamond เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 09:18:53

ความคิดเห็นที่ 11 เป็น 7 ข้อที่ดีมากค่ะ โดยเฉพาะข้อสุดท้าย เป็นตัวอย่างที่ดีของลูก ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : เช้าฟาดฝักฟัก เย็นฟากฟักฝัด เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 11:06:05

ความคิดเห็นที่ 12 ต้องกลับไปสอนลูกบ้างแล้วมีประโยชน์จริงๆ จากคุณ : พ่อลูกหนึ่ง เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 15:37:25 A:170.40.250.14 X: TicketID:245744

ความคิดเห็นที่ 13 กลัวทำไม่ได้จังเลยค่ะ เพราะพ่อแม่ก็สปอยตัวเองมากๆ แล้วเราจะสอนลูกยังไง ก็กลุ้มๆอยู่ อยากได้อะไรเราก็ซื้อ กลัวลูกเห็นแล้วเค้าจะคิดว่าของทุกอย่างได้ง่ายไปหมด แต่ที่เราซื้อได้เอาใจตัวเองเพราะเราหาเงินได้มากพอที่จะซื้อของฟุ่มเฟือยเหล่านั้น แต่จะพยามสอนว่ามันเป็นเงินคนละส่วนกัน ให้เค้าอดออมเงินของเค้าเอง ปัญหาก็คือเราควบคุมตัวเราพอได้ แต่สภาพแวดล้อมละค่ะ บรรดาญาติๆที่กำลังรอเอาใจหลานคนเล็ก แค่หลานๆที่บ้านอยากได้ ipad Galaxy tab iphone เด็กแบบว่าเห็นเราเล่นแล้วอยากได้ บรรดาญาติๆ ไม่เว้นแต่แฟนเราก็ยกให้ง่ายๆ หลานแค่สองสามขวบเอง ด้วยความเอ็นดู แต่เราแอบเห็นว่ามันเกินตัวไปนิด ส่วนลูกเรานี่หนักเลยค่ะ เดี่ยวโตสักนิดจะซื้อรถโกลคลาสให้ขับ ของเล่นบลาๆ เราดีใจนะที่มีคนเอ็นดู แต่เราจะสอนเค้าให้เห็นค่าสิ่งของแพงๆที่เค้าได้มาง่ายๆยังไงดี แต่บานแฟนก็เลี้ยงหลานไม่เคยเสียคน ได้ดีทุกคน สงสัยเราจะไม่ชิน ฮ่าๆ จากคุณ : Opank (Oohopank13) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 15:38:43

ความคิดเห็นที่ 14 เป็นคำสอนที่ดีค่ะ   แต่เรื่องเทคโนโลยีที่เกินตัวนี่ เห็นว่าปีหน้าก็จะมีแจกแทปเลตให้กับเด็ก ป.1 ยังคิดอยู่เลยว่า ใช้เทคโนโลยีได้ถูกต้องไหม แล้วมันจะเหมือนปลูกฝังวัตถุนิยมหรีอเปล่า จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 18:29:34

ความคิดเห็นที่ 15 เราทำไม่ค่อยได้ข้อ7 ลูกเรา. 5 ขวบกว่านิดหน่อยแต่เรื่องเงินเธอ งกมาก ถ้าอยากเดินซื้อของ ห้ามเอาลูกไปเด็ดขาด เธอจะเบรคเราทุกอย่าง จับกระเป๋าเธอก็จะบอกว่าแม่มีกระเป๋าหลายใบแล้วจะเอาทำไมอีก วันนี้บ่นว่าอยากได้ทีวีใหม่เพราะทีวีที่ใช้อยู่เปิดแล้วไม่มีภาพต้องเปิดหลายหนรำคาญ เท่านั้นหล่ะลูกสาวเราบอกว่า จะซื้อทำไมบ้านเรามีทีวีหลายเครื่อง แม่จะเป็นหนี้ทีวีอีกทำไม รถก็เพิ่งซื้อยังเป็นหนี้รถอยู่เลยจะเป็นหนี้ทีวีอีกทำไม เราเบรคอึ้งไปเลยจริงของลูกมาก ทีวีก็ยังดูได้ยังใช้ได้อีกแค่รำคาญหน่อยเท่านั้นเอง (ทั้งที่ก็ไม่ได้ดูทีวีเยอะเลยนะจะเอาเครื่องใหม่ไปทำไม) เสื้อผ้าลูกเราต้องซื้อให้เอง ถ้าพาเค้าไปเค้าจะไม่ค่อยอยากซื้อเพราะมักจะพูดว่าเสื้อผ้าเค้าเต็มบ้านแล้ว เค้าจะซื้อเฉพาะของที่เค้าไม่มีเท่านั้นเองถ้ามีอยู่ลูกเราจะไม่ค่อยอยากได้ แปลกเด็กมากแงๆๆ ล่าสุดเพิ่งขอซื้อรองเท้าพละใหม่เพราะคู่ที่ใส่อยู่มันคับแล้วเค้าใส่วิ่งเจ็บเท้ามากเลยมาขอแม่ให้ซื้อใหม่ให้ ของเล่นต่างๆเค้าก็ไม่เคยร้องอยากได้ มีแต่คนซื้อให้เค้าก็เอาเท่านั้น ของชอบก็คงเป็นหนังสือชอบให้พาไปเลือกหนังสือ แต่ก็จะถามก่อนทุกครั้งว่าแม่ให้เลือกได้กี่เล่ม เพราะว่าตอนแรกที่กำหนดเราต้องการจะสอนให้เค้ารู้จักการนับ และการเลือกของที่อยากได้ จริงๆเท่านั้นเอง สอนเรื่องความฟุ่มเฟือยบอกกับเค้าตรงๆว่า แม่ต้องทำงานถึงมีเงินมาให้หนูใช้ถ้าอะไรที่เรามีแล้วใช้ได้ต้องประหยัด สอนตั้งแต่อยู่เตรียมอนุบาลเลย จริงๆเราก็แอบกังวลว่าลูกเราคิิดอะไรเยอะไปไหมเนี่ย แค่ห้าขวบเอง ปล. มีแต่คนเค้าว่า สงสัยใครเป็นแม่เป็นลูกกันแน่แหะๆๆ จากคุณ : วีทีอาร์ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 21:43:30

ความคิดเห็นที่ 16 เพิ่มเติม โฉมหน้าจอมยุ่ง จากคุณ : วีทีอาร์ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 22:14:08

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่ต้องใช้กฏเหล็กของใคร.. พ่อของฉันก็ใช้วิธีอย่างข้อที่ 3 มาตั้งแต่ 22 ปีที่แล้ว จากคุณ : เจ้าการเวกเสียงหวาน เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 08:51:47

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณน่ะค่ะ จากคุณ : อัศวินนภา เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 16:29:29

ความคิดเห็นที่ 19 บทความนี้เราอ่านแล้วในหนังสือพิมพ์เลยค่ะ (แม่ยื่นให้อ่านเลย) จะบอกว่าโดนสอนแบบนี้มาตั้งแต่เด็กเลยค่ะ (ทุกข้อด้วย) โดยพ่อกับแม่ของเราไม่ได้เป็นคนเรียนสูงอะไรมากมายนะคะ แต่ว่าเก่งในการสอนลูกมากๆ (ในความคิดเรา) เราเริ่มหาเงินตั้งแต่ ป.3 คือเริ่มหัดขายของตั้งแต่ ป.3 เลยค่ะ (ที่บ้านเป็นร้านค้า แต่จริงๆเริ่มหัดเรียกคนเข้าร้านตั้งแต่ ป.1 ) เวลาอยากได้อะไรต้องเก็บเงินซื้อเอง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือการ์ตูน ไปจนถึงโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากหาเงินเป็นตั้งแต่เด็กเลยรู้จักค่าของเงินค่ะ จะซื้ออะไรจะคิดแล้วคิดอีก ว่าเงินมันหายาก ไม่ฟุ่มเฟือย จนเพื่อนว่างก 555 ได้ค่าขนมเป็นรายวันตั้งแต่เด็ก และเริ่มได้เป็นสัปดาห์ตอนอยู่ ม.1 บริหารเงินให้พอทั้งสัปดาห์ (ภูมิใจมีเงินเก็บทุกอาทิตย์เลย 55) แล้วพอเข้ามหาวิทยาลัยถึงจะได้เป็นรายเดือนค่ะ ระหว่างปิดเทอมจะทำงานที่บ้านโดยจะได้ค่าแรง (ทำงานเหมือนลูกจ้างเลย ตื่นแต่เช้า ทำงานเช้าจรดเย็น) ก็จะมีเงินเข้าบัญชีช่วงนี้แหละ  (พ่อบอกว่ามันจะเป็นแรงจูงใจให้ทำงาน และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่) แล้วที่บ้านของเราไม่สนับสนุนการซื้อของเงินผ่อนเลยค่ะ แม่จะสอนอยู่เสมอว่า ถ้าเรามีน้อยก็ใช้แบบกระเบียดกระเสียนไปก่อน พอเราเก็บเงินได้เยอะๆแล้วค่อยซื้อเป็นเงินสด มันจะถูกกว่าเงินผ่อน และทำให้เราเรียนรู้ถึงความสำคัญของสิ่งที่เราจะซื้อจริงๆว่าจำเป็นไหม ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อ แต่ถ้าจำเป็นก็ซื้อเงินสดแล้วพยายามออมเงินค่ะ ต้องขอยกความดีเรื่องการออมเงิน+การรู้ค่าของเงินให้พ่อกับแม่ค่ะที่ปลูกฝังจนเป็นนิสัย ต้องขอบคุณจริงๆ จากคุณ : หมอนนุ่น เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 21:42:26

ความคิดเห็นที่ 20 ผมยอมรับครับว่า ผมเลี้ยงลูก ผิดทาง... เรื่องการใช้เงิน และ ความอยากได้ ... ผมคงสปอยด์ มากเกินไป หรือ เปล่า หนักใจเรื่องนี้ครับ จากคุณ : น้าลีโอ เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 20:53:48