ความคิดเห็นที่ 1 แล้วคุณทำยังไงต่อค่ะ? เรื่องแบบนี้นิ่งเฉยไม่ได้หรอกค่ะ ถ้ามีต่อช่วยเล่าทีนะคะ จากคุณ : maman'Pure เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 23:49:51

ความคิดเห็นที่ 2 เด็กสมัยนี้เป็นอะไรกันไปหมด น่าจะกลับไปขยันเรียนตั้งใจเรียนนะคะ เอาเวลามาคิดแต่เรื่องอะไรกันไม่รู้ ให้ลูกสาวพี่เข้มแข็งนะคะ หนูเคยเจอมาเหมือนกัน เดี๋ยวมันก็ผ่านไปค่ะ จากคุณ : clubstory เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 23:52:00

ความคิดเห็นที่ 3 เก็บข้อความในเฟชบุ๊ค จะเอากรณีแจ้งความตามกฎหมายก็ได้ หรือจะติดต่อไปที่ผู้ปกครองของแม่เด็ก แต่ทางที่ดีที่สุดเราว่าผู้ชาย ม 6 คนนั้นเลวค่ะ แนะนำให้คุยกับเด็กแล้วรุมผู้ชายคนนั้นดีกว่า จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 23:54:29

ความคิดเห็นที่ 4 โห...แรงอ่ะ อัดเสียงไว้รึเปล่าคะจะได้เอาไว้เป็นหลักฐานแจ้งความ จากคุณ : unflashgal (unflashgal) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 23:55:10

ความคิดเห็นที่ 5 ต่อค่ะ เราก็ตอบกลับไปว่า " ทำไมต้องรุนแรงกันอย่างนี้ เรื่องไม่เป็นเรื่องเลย "น้ำเสียงเราแม่พระมากแต่ใจนี่เดือดปุดปุด " แล้ว ..ไปไหน ทำไมให้แม่มาพูด " "แม่ไม่อยากให้ทะเลาะกัน " " ถ้างั้น แม่บอกลูกสาว แม่ ให้มันมาขอโทษหนู แล้วสาบานด้วยว่าจะไม่ยุ่งกับแฟนหนูอีก"  แล้วก็วางหู ลูกสาวเราถามเราว่าให้ทำยังไง เค้าไม่ขอโทษนะ เค้าไม่ผิด อีกอย่างนึง ทั้งคู่นี้ ก็เอาลูกสาวเราไปพูดในทางเสียหาย ลูกเราก็ไม่ยอมเหมือนกัน เราก็ถามว่าเพื่อนลูกว่าไง  ถ้ามีเรื่องพวกนั้นช่วยได้มั๊ย  ลูกเราสวนกลับเลย  ก็แม่ให้ลูกคบแต่เพื่อนเรียบร้อย  พวกนี้มันปอดจะตายแม่  พวกแสบๆก็ไม่สนิทขนาดขอให้ช่วยเรื่องแบบนี้ได้  เราก็บอกพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน  ปวดหัว จากคุณ : ไม่อยากอยู่เฉยเฉย เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:06:17

ความคิดเห็นที่ 6 ชะอุ๋ย อ่านคห.คุณมนชิจังแล้วแอบตกใจอ่า เราว่าพฤติกรรมของเด็กผช.ก็ธรรมดานะคะ ถ้าแค่เรื่องจีบกันไปมาของเด็กวัยรุ่นน่ะนะ ไม่ถึงกับเลวมั้ง ที่น้องผญ.ว่าเป็นปั๋วเค้านี่จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เรื่องน้องผญ.นี่แรงมากจริงๆ เป็นพฤติกรรมเลียนแบบหรือไง เห็นบ่อยจังตามข่าว ประเภทดักตบแล้วถ่ายคลิป คุณแม่ต้องเฝ้าน้องดีๆนะคะ น่าเป็นห่วงจริงๆ ยังไงก็ต้องแจ้งอาจารย์+/- ตร. แต่มันคงป้องกันน้องไม่ได้ 100% กลัวโดนแอบทำร้ายจัง จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:06:28

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยกะคุณฟ้าหมาดฝนนะคะ นี่ขนาดเค้ารู้ว่าคุณเป็นคุณแม่  เค้ายังพูดแบบนี้ใส่คุณแล้ววางหูใส่เลย เด็กประเภทนี้ไม่ไหว  น่าจะคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษานะคะ หรือทำเป็นแจ้งความไว้ว่าโดนข่มขู่  อะไรประมาณนี้  ไม่รู้จะช่วยได้หรือเปล่า ปล  เราพึ่งอ่านความเห็นคุณเกี่ยวกับกระทู้ที่ว่า เด็กนัวเนียในที่สาธารณะ จขกท  เจอแต่เด็กแสบๆ  เน๊าะ เฮ้ออออออออ จากคุณ : แม่น้องน้ำมนต์ (InfernoST) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:12:55

ความคิดเห็นที่ 8 หมอฝนจริง ๆ นะ สมัยเราอยู่ ม 3 มีข่าวลือ ลูกคุณหญิงท่านหนี่ง เรี่องนี้น่าจะ 15 ปีขี้นไปแล้ว เด็กสมัยนี้ยิ่งร้ายกว่าเด็กสมัยนั้น ต้องกลัวไว้ก่อนนะค่ะ โดนไล่ออกจากโรงเรียนดัง ย้ายมาเรียนโรงเรียนต่างจังหวัด(โรงเรียนเราเรียน แต่ก็ดังอยู่) เพราะมีข่าวลือว่า เขาจ้างผู้ชายไปข่มขื่นคนที่แฟนเขาไปจีบ จริงไม่จริงไม่รู้ข่าวเขาลือกัน จะว่าย้ายตามผู้ปกครองคงไม่ใช่ เพราะโรงเรียนนั้นเป็นโรงเรียนประจำ คนนั้นเรียนเก่งด้วยจะว่าโดนไล่ออกเพราะเกรดไม่ถึงคงไม่ใช่ เพราะย้ายมาตอนเทอม 2 ด้วย เด็กขู่บางทีมันทำกันจริง ๆ นะ ยิ่งพวกลูกคนมีเงินด้วย เด็กฝรั่งยังเป็นเลย เมีองเราอยู่เมีองเล็ก ๆ แต่ทุกปีจะมีลูกค้าผู้หญิง(อายุประมาณ 15-20 ไม่เกินนั้น) มาหาสามีเรา ปีล่ะ 2-3 คน เนี่องจากโดนผู้ชายรุมทำร้าย กรณีให้พี่ชายมาตีเพราะโดนแย่งแฟน ให้เพื่อนแฟนมาตีเพราะโดนด่า ขนาดต่างประเทศ(ฝรั่งเศส) กฎหมายไม่มีเส้นเท่าเมืองไทยนะ มันยังกล้ากันเลย (สามีเป็นคล้าย ๆ นักกายภาพ ทำเกี่ยวกับย้ายกระดูกและเอ็น กล้ามเนี้อ) แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 54 00:37:10 จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:16:37

ความคิดเห็นที่ 9 เด็กเดี๋ยวนี้เค้าโตกันไวกว่ารุ่นเราเยอะนะคะ ลูกสาวเจ้าของกระทู้ก็คงลำบากใจ ดีที่เข้าเล่าให้คุณแม่ฟังตลอด เห็นด้วยกับคห.ก่อนๆว่าควรแจ้งความ หลักฐานจาก บีบี และ เฟซบุ๊ก ก่อนจะนำเรื่องไปให้โรงเรียนจัดการ แต่ถ้าจัดการจริงก้ต้องระวังผลที่จะตามมาด้วยนะคะ เพราะไม่รู้ว่าคู่กรณีของลูกสาว จขกท.จะเลิกไหม ทั้งที่ความผิดคืออยู่ที่เด็กผู้ชายจริงๆ แต่จะว่าไป ถ้าเราเป็นผู้ชายแล้วแฟนปัจจุบันเลว พูดจาหยาบคายระรานคนอื่นแบบนี้ เราก็คงเลิกคบ บางทีเด็กผู้หญิงไม่ยอมเอง แล้วไม่พิจารณาตัวเอง ไปพาลว่าลูกสาวจขกท.เป็นมือที่สาม ปัญหาแบบนี้ คนเป็นพ่อแม่เหนื่อยใจนะคะ ยังดีที่เด็กคนนั้นยังมีมารยาทพอทราบว่าคุยสายกะคุณแม่ ก็พูดจาดีขึ้น โดยส่วนตัวคิดว่า ควรแจ้งความไว้ก่อน แต่ยังไม่ต้องถึงกับให้โรงเรียนจัดการ เพราะเด็กสมัยนี้รักแรงโกรธแรงคะ ทำได้ทุกอย่างจริงๆ เพราะเค้าเสพสื่อเยอะแล้วแยกแยะไม่ออก ลองหาทางให้เด็กสามคนมาเจอกันแล้วเราอยู่ด้วย ให้ลูกสาวเราบอกกับผู้ชายต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นไปเลยว่า ไม่ได้ชอบแล้วก็อย่ามายุ่ง ขอให้ต่างคนต่างตั้งใจเรียน เตรียมสอบเข้ามหาลัยดีกว่าอะไรทำนองนี้ แล้วก็แอบอวยผู้หญิงคู่กรณีไปเลยคะว่า เค้าก็น่ารักและดี ให้พี่ผู้ชายมองเค้าในแง่ดีบ้าง เพราะเราเองก็ชอบผู้หญิงแบบนี้ (ในความจริงลูกสาว จขกท.อาจจะเกลียดด้วยซ้ำ แต่มันก็ต้องรู้จักเอาตัวรอดคะ ดีกว่าวันหลังต้องอยู่โดยระแวงว่าจะโดนน้ำกรดสาด หรือโดนแกล้งฉุด มันน่ากลัวกว่าอีกคะ)   คือจุดนี้นะคะ มองว่า ปัญหาแบบนี้ถ้าไม่รุ้จักรับมือแบบประนีประนอม ก็คงเรียนต่อไปลำบาก โลกมันโหดร้ายคะ คุณแม่ท่านอื่นอาจมีวิธีรับมือดีกว่านี้ แต่ถ้าเป็นตัวเองจะทำแบบนี้คะ ขอเอาใจช่วยให้ จขกท.และลูกสาวสามารถผ่านเหตุการณ์นี้ได้อย่างปลอดภัย และจบปัญหาได้ด้วยสันติวิธีนะคะ จากคุณ : แม่คัสตาร์ด เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:19:35

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนเช้าลูกถามเราว่า  ถ้ามีเรื่องจะว่าไง เราก็บอกให้เลี่ยงไปก่อน อย่าอยู่คนเดียว  ในโรงเรียน คงไม่มีอะไร  ลูกถามว่าถ้ามันยกพวกรุมหล่ะ  เราก็บอก "ให้ยอมกันไป  อย่าไปเสี่ยง  พวกนี้สมองมันมีน้อย  "  "ถ้าตัวต่อตัวหล่ะแม่  " ก็อย่าไปแลกกับเค้าเลย มันไม่จบหรอก เรียนหนังสือไปดีกว่า" ตอนบ่ายได้เรื่องเลย ลูกส่งคลิปมา ว่าพวกนั้นให้ขอโทษ พาพวกมาเป็นสิบ ลูกเราคนเดียว ลูกเราก็ขอโทษไป เราส่งข้อความไป ว่า "ทำถูกแล้ว อย่าเสียใจในสิ่งที่ถูกต้อง" ตกเย็นลูกเรา กลับมาเล่าให้ฟังว่า  ตอนพักเที่ยงลูกเราไปห้องน้ำ พวกก็ตามไป แล้วก็รุมด่า แล้วสั่งให้ขอโทษ ลูกเคาก็คิดแล้วว่าไม่คุ้ม ก็ยอม ตอนแรกก้อายเพื่อนนะ แต่ตอนโทรมาหาเรา  เราก็บอกลูกไปว่า "คนที่อาย ก็คือพวกนั้น  คนจริงเค้าไม่ 1 ต่อ 10 หรอก มันเจ๋ง ก้แค่ในกลุ่มพวกนั้น  แต่สำหรับคนอื่่น  น้องเจ๋งกว่าเชื่อแม่"   ลูกเราก็เข้าใจ เพราะมีเพื่อนที่เห็นเหตุการณ์   แอบถ่ายคลิปไว้ พอคนอื่นได้เอาไปดูต่อ ก็มีคนBB เข้ามาทั้งปลอบ ทั้งชม จากคุณ : ไม่อยากอยู่เฉยเฉย เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:30:34

ความคิดเห็นที่ 11 ลูก จขกท  เก่งมากนะคะ   เป็นเด็กที่ใช้ได้เลย   รู้จักคิดแก้ไขปัญหาได้ดี ต้องชมคุณแม่   ขอจำไว้หน่อย ตอนนี้ลูกสาวพึ่ง 3 ขวบเอง  ไม่รู้ว่าจะจ้องเจออะไรอีก จากคุณ : แม่น้องน้ำมนต์ (InfernoST) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:41:04

ความคิดเห็นที่ 12 น่าจะเก็บหลักฐานแจ้งความนะคะ่ ให้ครูจัดการด้วย ก็อย่างที่คุณบอกเด็กพวกนั้นสมองน้อยแล้วแน่ใจได้ไงค่ะว่าจะไม่เกิดเื่เรื่องขึ้นอีก ไม่รู้แน่ใจได้ไหนว่าเรื่องจะจบเพราะคนมันพาลปล่อยไว้ไม่รุ้จะเกิดเรื่องอีกตอนไหน บางครั้งการไม่ยอมแลก ยอมเสี่ยงก็ดีค่ะ แต่เป็นเป้านิ่งไปเสี่ยงกว่า ไม่รู้ว่าตรงไปหรือเปล่า แต่เราไม่อยากให้คนแบบนี้ลอยนวลค่ะมองเห็นอนาคตเลย จากคุณ : maman'Pure เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:43:38

ความคิดเห็นที่ 13 เฮ้อ...อ่านแล้วใจหาย เราคงกลุ้มถ้ามีใครสักคน ขู่ว่าจะทำร้ายลูกสาว จขกท.กับลูกสาวเก่งมากเลยคะ ที่ปลอบลูกให้ยอมรับได้ ฝากบอกลูกสาว จขกท.ด้วยคะว่า "อย่าได้อายเลย แม้หนูจะไม่ผิดแต่กล้าที่จะขอโทษ พวกคนพาล ก็ปล่อยให้เค้าย่ามใจไปกับกรรมของเค้าซะ เค้าจะได้เลิกยุ่งกับเรา แม้เค้าจะหัวเราะเยาะกับคำขอโทษของหนู เก็บแรงและกำลังไว้ต่อสู้กับการเรียนดีกว่า เพราะถ้าสู้กับคนโง่ จะไม่มีวันจบ คนโง่จะใช้แต่กำลัง และความรุนแรง คนโง่จะไม่มีกติกา ไม่รู้จักคำว่าแพ้หรือชนะที่แท้จริง อย่างน้อยหนูก็ชนะใจตัวเอง" ขอตบมือให้ดังๆ..... ปล.จขกท.ลูกสาวต้องสวยมากแน่ๆ เลย แม้ผ่านด่าน ผู้หญิงโง่ไปแล้ว ระวังผู้ชาย (สามี ของหญิงโง่ไว้ด้วยนะคะ) รายนั้นต้องเรียกว่าผู้ชายเลว จากคุณ : kansakx_aj5 เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:46:13

ความคิดเห็นที่ 14 อืม...เรื่องน่าจะจบแล้ว แต่ก็อย่าให้จากไปแบบนี้คะ จริงๆ แล้วแจ้งทางโรงเรียนให้นัดกับ คู่กรณี ว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกดีกว่าคะ เพราะยังไง ซะให้หญิงโง่กับสามีเค้า พูดต่อหน้าว่าจะไม่มายุ่งกับลูกคุณอีก ก็ดีนะคะ แล้วก็ไม่ต้องเอาความ จะได้จบๆ กันไป จากคุณ : kansakx_aj5 เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:50:55

ความคิดเห็นที่ 15 เห้อ น่าเห็นใจลูกสาว จขกท. จัง ต่อไปคงอึดอัดแย่เลย แต่น้องทำถูกแล้วล่ะค่ะอย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือเลย เราอ่านแล้วก็กังวลกับอนาคตลูกสาวเราจังเลย โตขึ้นไปจะเป็นยังไงนะ T.T  ขอบคุณที่นำเรื่องมาเล่านะคะ จะได้นำไปสอนลูกต่อไป... จากคุณ : นู๋เน้ง เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:59:49

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ เรานอนไม่หลับเลยนะคะ ห่วงลูกก็ห่วง  แต่วันนี้ค่ะ เราจัดเต็ม  เราขอเบอร์ พี่ ม.6  เราก็โทรไป " รู้เรื่องน้องเค้าแล้วยัง"  " รู้แล้วครับ ""แล้วเธอจะเอายังไง สาเหตุมาจากเธอ"  ผมเลิกกับน้อง(แฟน)เค้าแล้ว" " ก็บอกเค้าไปดีดีซิ นี่เที่ยวไปพูดว่าลูกแม่มีใจให้โน่นนั่นนี่ นิสัยดีกว่า เป็นแม่ แม่ก็ไม่ยอม    เธอโทรหาเค้าเดี๋ยวนี้เลย  ขอโทษแล้วพูดให้เคลียร์  ว่าลูกแม่ไม่เกี่ยว  " ประมาณ 10 นาที ผู้หญิงโทรมา  แม่..ทำไมให้ผู้ชายโทรมาด่าเรา เรากับลูกแม่เคลียร์กันแล้วนะ  หรือจะให้เป็นเรื่องอีก  เราวางหูเลยค่ะ ปรี๊ดมาก ลากลูกสาวพาไปบ้านผู้หญิง เรียกออกมาคุยเลย ว่าจะยังไง แต่เห็นท่าทางแล้ว เราเลยเรียกแม่เค้าออกมาคุยด้วย (ตอนแรก ไม่อยากให้มันเยอะค่ะ อยากให้จบแค่ที่เด็ก  แต่เด็กนี่ไม่สำนึกอะไรเลย ก็ต้องให้พ่อแม่เค้ารับรู้ ) ตอนแรกแม่เค้าไม่เชื่อนะ  ต่อว่าเราใหญ่เลย เราก็ให้แม่เค้าฟังคลิป ที่ลูกเค้าโทรหาลูกเรา แล้วคลิปที่โรงเรียน  แม่เค้าร้องไห้เลย เค้าไม่รู้เลยว่าลูกเค้านิสัยแบบนี้ อ้อ เราโทรตามผู้ชายมาด้วย เราขู่ถ้าไม่มาเราก็จะไปต่อที่บ้าน จากคุณ : ไม่อยากอยู่เฉยเฉย เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:01:50

ความคิดเห็นที่ 17 สงสัยงานนี้  ยาวแน่ๆ จากคุณ : ศรีวรลักษณ์ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:12:50

ความคิดเห็นที่ 18 เกาะขอบจอเลยค่ะ จากคุณ : InfernoST เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:13:50

ความคิดเห็นที่ 19 รออ่านนะคะ มีลูกสาวเหมือนกัน จากคุณ : vitcom2000 เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:15:38

ความคิดเห็นที่ 20 ขอชมทั้งคุณแม่และลูกสาวค่ะ ถือว่าเป็นคนมีสติมากๆ ถ้าเป็นตัวเราเจอเหตุการณ์แบบนี้บอกตรงๆเลยค่ะ ว่าไม่สามารถอยู่เฉยได้ ตั้งแต่เหตุการณ์โทรศัพท์มานั่นแหละค่ะ คงมีสวนกลับไปแน่นอน ตบมือให้ดังๆค่ะ ขอภาวนาให้เรื่องจบไปเลยนะคะ อย่าได้มีอะไรมาเพิ่มอืก จะได้อยู่เป็นสุขซะที เฮ้อ เด็กสมัยนี้นะ น่าจับมาตีก้นซะจริง จากคุณ : dolphin_alert (dolphin_alert) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:17:20

ความคิดเห็นที่ 21 (แอบปาด)โอ้โห ค่ะคุณแม่    เป็นเราก็ของขึ้นเหมือนกันนะคะ ยังคิด ๆอยู่ถ้าลูกในท้องคนนี้เป็นผู้หญิงจะสอนและปกป้องลูกได้เหมือนจขกท.แค่ไหน จากคุณ : นางฟ้าของแมวเหมียว เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:19:36

ความคิดเห็นที่ 22 ไคลแม๊กซ์เลยค่ะ  ผู้ชายมาถึง เราก็บอกให้พูดต่อหน้ากันเลยว่า ลูกเราไม่เกี่ยว เค้าไม่ได้คิดอะไรกับพี่คนนี้ พี่เค้าพูดเองเออเองทั้งหมด  เค้าก็หันไปบอกกับผู้หญิง อย่างที่บอกเรา  ผู้หญิงก็ตบหน้า ม.6 แล้วก็หลุดเรื่องราว  ที่เรายังช็อคไม่หาย คือเค้าสองคน มีอะไรกันตั้งแต่ม.3 และเคยทำแท้งไป แล้ว 2 ครั้ง เคยไปตามตบเด็ก ต่างโรงเรียน ที่มากิ๊กกะผู้ชาย บางคนถึงขนาดขับมอเตอร์ไซค์ชน  แบบด่าผู้ชายแล้วประจานตัวเองไปด้วยว่าทุ่มเทให้ขนาดไหน  ส่วนแม่ผู้หญิงนั่งช็อคอยู่กับที่  เรากับลูกทำตัวไม่ถูกเลย  เราก็พูดว่าสรุปเรื่องนี้ลูกเเม่ไม่เกี่ยวแล้วนะ อย่าหาเรื่องน้องเค้าอีก เพราะคราวนี้  แม่ไม่ยอมแน่ ต่อไป ถ้าน้องเป็นอะไร  แม่เอาเรื่องเธอให้ถึงที่สุดเหมือนกัน  เพราะนั้นเลิกแล้วต่อกันซะที ผู้หญิงหันมามองเราแล้วก็หลบตา  เราก็คิดเข้าข้างตัวเองว่า  เค้าคงจะกลัวเราบ้างหล่ะนะ เฮ้อ! จากคุณ : ไม่อยากอยู่เฉยเฉย เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:19:39

ความคิดเห็นที่ 23 เวรกรรม  กลายเป็นสงสารคุณแม่ของเด็กนั่น เฮ้อออออออออออ จากคุณ : InfernoST เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:23:31

ความคิดเห็นที่ 24 อ่านตอนแรกรู้สึกว่าคุณแม่ไม่ปกป้องน้องเลยค่ะ ทำไมต้องให้น้องยอมตลอด  ทั้งที่มีหลักฐาน เด็กนิสัยแบบนั้นม้นคงไม่จบง่ายๆ พอตอนหลังคุณแม่จัดเต็ม  เป็นกำลังใจนะคะ สู้ๆ จากคุณ : cheerful_love เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:27:37

ความคิดเห็นที่ 25 เอ่อ!! เราว่าเด็กคนนี้หนักละค่ะ แล้วคนที่ช็อคที่สุดคือแม่เค้าแล้วละตอนนี้ที่คงต้องหันมามองลูกตัวเองใหม่และแก้ปัญหาต่อไป หวังว่าเรื่องคงจะจบจริงๆนะค่ะ หวังว่าเธอคงคิดได้ว่าเรื่องมันเกิดเพราะตัวเธอเองไม่พาลว่า เพราะลูกจขกทถึงเป็นแบบนี้ ยังไงก็ให้ลูก จขกท ดูแลตัวเองและคุณก็คอยระวังด้วยนะคะ่ ปล. เคยทำแท้งไป แล้ว 2 ครั้ง เคยไปตามตบเด็ก ต่างโรงเรียน ที่มากิ๊กกะผู้ชาย บางคนถึงขนาดขับมอเตอร์ไซค์ชน (แบบนี้ไม่ธรรมดาละคะ่ ต้องเยียวยาจิตใจสุดๆละ )เพลียใจกับเ็ด็กสมัยนี้ - -" จากคุณ : maman'Pure เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:27:57

ความคิดเห็นที่ 26 เวรกำ -*- มันจะไวไฟกันไปไหนเนี้ย เซ็งเเทนคุณ จขกท เลยค่ะ ก็เพราะชีคนนั้นมันง่ายไง เเล้วนิสัยดันเเย่อีก ผู้ชายก็พอกัน สรุป ผีเน่าโลงผุ ดีเเล้วที่เรื่องจบลงได้ จขกท ค่ะ ให้ลูกสาว คบเพื่อนชายที่ออกเเนวเฮ้วๆ เเต่เป็นเด็กดีไว้บ้างก็ได้นะ ถ้าคบเเต่พวกเด็กเรียน เด็กเรียบร้อย เเนวนั้น มันช่วยอะไรไม่ค่อยได้นะคะ จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:29:19

ความคิดเห็นที่ 27 ต่ออีกนิดค่ะ ตอน 4 ทุ่มกว่า แม่ของผู้หญิงโทรมาหาเรา  มาขอโทษ และขออย่าให้เอาเรื่องลูกสาวเค้าเลย  เราก็บอกว่า เราเองก็ไม่อยากให้มีปัญหา แต่เรากลัวว่าถ้าเราไม่ออกตัว  เรื่องมันก็จะไม่จบ เราเป็นห่วงลูก  แม่ผู้หญิงบอกว่าเค้าสัญญาว่าจะดูแลลูกเค้า ไม่มีเรื่องเกิดขึ้นอีก ตอนนี้เค้าทำอะไรไม่ถูก  ไม่เคยนึกว่าลูกจะเป็นแบบนี้  เวลาอยู่ที่บ้านลูกเค้าก็จะอยู่เงียบๆ ในห้อง แม่ก็ไม่ได้คุยกับลูกคนนี้มากนัก เพราะมีลูกยังเล็กกว่าอีกสองคน พ่อทำงานต่างจังหวัด เดือนนึงกลับบ้าน 2-3 ครั้ง   เราเลยมาคิดว่าที่เราเลี้ยงลูก เราคงเอาใจใส่เค้าดี  มีอะไรเค้าเลยกล้าปรึกษาเราตลอด เพราะคำถามแรกที่เราถามลูก  เวลาลูกกลับจากโรงเรียนทุกวันตั้งแต่เด็กจนโต คือ ที่โรงเรียนมีอะไรหรือเปล่า วันนี้ มีใครแกล้งน้องมั๊ย มีอะไรแปลกๆมั๊ย เรากลัวเรื่องเพื่อนผู้ชาย กับครูผู้ชายด้วย ค่ะ แต่ถามแบบรวมๆ ไม่เจาะจงเดี๋ยวเค้าจะไม่บอก  ส่วนเรื่องลูกสาวเรา เราคิดว่าจะดูไปก่อน ให้โอกาสฝ่ายโน้นซักนิด  ถ้าไม่มีอะไรก็คือจบค่ะ บอกตรงๆ สงสารคุณแม่เค้าเหมือนกัน ขอบคุณทุก คห.นะคะ เราอยากบอกต่อเพราะเด็กสมัยนี้ มันเหลือเกินจริงจริง จขกท.นี่สมัยก่อนว่าแสบแล้วนะ ไม่ได้ครึ่งหนึ่งเลย แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 54 01:42:08 จากคุณ : ไม่อยากอยู่เฉยเฉย เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:37:37

ความคิดเห็นที่ 28 โหวตอ่ะ แถวบ้าน สก๊อยเยอะมาก น่าเสียดาย บางคนหน้าตาน่ารักๆ แต่พูดที ความน่ารักหายเกลี้ยง เคยเจออยู่ทีนึง ตอนเช้า เรานั่งสองแถว จะไปทำงาน เจอเด็ก ม.ต้น คนนึง (ผมสั้นเห็นติ่งหู เสื้อคอปกกะลาสี เลยฟันธงว่า ม.ต้นแน่ๆ) เดินเสื้อยับๆ มาขึ้นรถ หน้าตาง่วงๆ พร้อมรอยแดงเป็นจ้ำที่คอ อยากจะปิดปากกรี๊ดซัก 3 ที ไม่ใช่อย่างที่เราคิดใช่ไหม จากคุณ : saengchot เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:50:33

ความคิดเห็นที่ 29 คง ซ๊อคกันอีกระยะ อ่ะคะ ฝ่ายนั้น จริงๆ พ่อฝ่ายชายก็น่าจะมารับรู้ด้วยนะเนี่ย ว่าลูกชายไป ทำอะไรมาบ้าง แต่กระนั้นก็ไม่ใช่เรื่องของเราล่ะ แต่หวังว่า เค้าคงไม่คิดว่าชีวิตเค้าเป็นแบบนี้และแม่ต้องมารู้เรื่องนี้ก็เพราะ จขกท.นะ เห็นด้วยกะคห.26 นะ ที่ว่าให้คบเพื่อนที่เรียนดี แต่แอบแรงไว้สักหน่อยก็ดีคะ เป็นไม้กันหมา    เค้าจะดูทางกันออกคะ ว่ามากันแนวไหน... จากคุณ : kansakx_aj5 เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:50:35

ความคิดเห็นที่ 30 ลูกสาว จขกท. นี่ก็มิใช่น้อย ใจร้อน รักเพื่อน ไม่ยอมคน ที่หนีงเลย เราก็เลยให้คบเพื่อนที่เรียบร้อยหน่อยจะได้ช่วยกันดึง เนี่ยต้องยกนิ้วให้เลยค่ะ  เค้าบอกกับเราว่า นับ 1- 1000เลยยอมอดทนเพื่อแม่  เพราะเคยมี กรณีก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับ อ.ผู้ชาย  แม่มันเกือบติดคุกอิอิ ว่างๆจะมาเล่าให้ฟัง คงเหมือนที่แม่น้องน้ำมนต์ว่า เราเจอแต่เด็กแสบๆ ทั้งนั้นเลย เราสงสัยว่า เวรกรรมตามทันรึป่าว  เพราะเมื่อก่อน เราก็มีเรื่องปวดหัวให้แม่เราอยู่เหมือนกัน  555 จากคุณ : ไม่อยากอยู่เฉยเฉย เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:51:40

ความคิดเห็นที่ 31 kansakx_aj5 เราก็คิดอยู่เลยค่ะ  ว่าเป็นเพราะเราหรือเปล่า เห็นหน้าแม่ผู้หญิง ตอนที่รู้เรื่องลูก  มันเจ็บแปล๊บในอกเราเลยค่ะ จากคุณ : ไม่อยากอยู่เฉยเฉย เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:55:21

ความคิดเห็นที่ 32 เก็บหลักฐาน แจ้งความไว้ ดีที่สุดค่ะ เราเคยมีประสบการณ์จากกรณีน้องสาวเราค่ะ น้องเราคิดว่าขอโทษแล้วคือจบ แต่ฝ่ายโน้นไม่ยอมจบ เรื่องจบลงไม่ดีเลยค่ะ ตอนนี้น้องเราเสียชีวิตไปแล้ว ไม่ของเล่ารายละเอียดตรงนี้นะคะ อยากให้ระวังไว้จะดีกว่าค่ะ กดส่งไปแล้วเพิ่งได้อ่านที่เจ้าของกระทู้เล่าเพิ่มเติม เด็กคนนี้น่ากลัวมากๆนะคะ แต่ดูว่าแม่ของฝ่ายโน้นไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ก็หวังว่าจะช่วยเตือนลูกได้บ้าง อย่าไปคิดว่าโรงเรียนจะจัดการดูแลอะไรให้ลูกเราได้ค่ะ อย่าไปไว้ใจใครมาก ตอนเรื่องน้องเรา เราไปพบครูเอง ทางโรงเรียนก็รับปากว่าจะดูแลให้ แต่พอเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ เจ้าของโรงเรียนไม่อยากให้เป็นคดี เพราะกลัวเสียชื่อโรงเรียน กะจะให้ปิดข่าว แต่เรื่องที่เกิดมันคดีอาญา เราไม่ยอม ดำเนินการตามกฎหมายจนถึงที่สุดค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 54 03:37:38 จากคุณ : Orayanee เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 03:26:22

ความคิดเห็นที่ 33 ช่วยมาบอกหลังไมค์ด้วยค่ะ ว่าโรงเรียนอะไร พอดีมีหลาน เป็นห่วง คาดว่าครูาจารย์ดูแลไม่ทั่วถึง จากคุณ : เขียนบน iPad (ลิเซิ่ล) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 05:58:24

ความคิดเห็นที่ 34 สมัยก่อนก็ไม่น้อยกว่านี้นะคะ ตอนเราเรียน ม.3 (16-17 ปีที่แล้ว) มีผู้หญิงมาท้าตบเพื่อนเรา กรณีเดียวกันเลย เราแบบ ผช ก็เห่ยมาก ทั้งนิสัย ทั้งหน้าตา จะแย่งกันทำไม เราไม่ได้ไปด้วยอะค่ะ กลัวอะ ตอนนั้นจบยังไงก็ลืมแล้ว ตอนนี้มียัยหนูอยู่ในท้อง กลัวเรื่องงี้เป็นที่สุด หวังว่าจะเลี้ยงลูกได้อย่างคุณนะคะ ^^" จากคุณ : hikawa เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 06:15:13

ความคิดเห็นที่ 35 เอ่อออ... คุณแม่ครับ ผมยินดีเป็นองค์รักษ์พิทักน้องให้นะครับ แฮ่ๆ จริงๆเด็กสมัยนี้มีความกร้าวร้าวมากกว่าแต่ก่อนและเข้าถึงเรื่องเพศ แบบที่เขาคิดว่ามันถูกเองแบบผิดๆ ทั้งการป้องกันตัวจากโรค และการตั้งท้อง เราไม่รู้ได้เลยว่าลูกของเรา เป็นแบบไหน เมื่อเขาอยู่ในสังคมของเขา เราทำได้แค่ให้ภูมิคุ้มกัน กับ ความรู้ครับ เป็นกำลังใจให้น้อง เป็นวัยรุ่นดีๆมันเหนื่อย คำนี้จริงแท้เพราะผมก็เคยผ่านมันมา คาดว่าถ้าน้องไม่เอาเรื่องนี้มาบอกคุณแม่ แล้วได้บกับรุ่นพี่ผู้ชายคนนี้ ต่อไปอาจมีสภาพไม่ต่างจากน้องผู้หญิง ม.6 คนนั้น ผู้ชายมันก็หวังฟันฟรีไปเรื่อยๆนั่นแหละครับ เรื่องอื่นช่างมัน ขอให้ได้นอนกันก็พอ ปล.คุณแม่เจ๋งมั๊กๆฮะ สู้ๆครับ จากคุณ : อดีตวัยรุ่นไทย (Dr.Jackass.) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 07:52:59

ความคิดเห็นที่ 36 อ่านคห.ของคุณ Orayanee แล้ว ใจหายวาบๆเลยค่ะ น่ากลัวจริงๆ ความรัก ความหลง ของคนที่ไม่มีสติ จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 08:15:39

ความคิดเห็นที่ 37 เรื่องแย่งผู้ชายนี่มันมีมาตั้งแต่สมัยเราเรียนแล้ว จนตอนนี้เรามีลูกสาว 3 ขวบ (ยังนึกห่วงอยู่) ** แต่เด็กสมัยนี้แรงส์ กว่าสมัยเราเยอะ ** ยังไงคุณ จขกท. กะลูกก็ระวังไว้บ้างก็ดีกว่านะคะ เราจบ แต่อีกฝ่าย เนี่ยไม่รู้ จากคุณ : pradee2 เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 08:44:25

ความคิดเห็นที่ 38 เจ้าของกระทู้เลี้ยงลูกดีจังค่ะ เด็กสมัยนี้น้อยคนที่จะกล้าคุยกับแม่ น้องไทของเราเพิ่งจะเดือนเศษ เราคงยังต้องเจออะไรอีกเยอะ เข้ามาอ่านเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์การเลี้ยงลูกค่ะ ได้ข้อคิดเหมือนกันค่ะว่าต่อให้มีลูกเป็นเด็กผู้ชายก็ต้องสอนเค้าให้รู้จักความเป็นสุภาพบุรุษด้วย จากคุณ : S thiya เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 08:47:57

ความคิดเห็นที่ 39 อ่านแล้วกลัวจังเลยค่ะ เรามีลูกสาวตั้ง2คน อยากให้เค้าไว้ใจเราบอกทุกเรื่องแบบคุณ จขกท.จังค่ะ..............ถ้าเป็นเราคงขอไปพบครูที่โรงเรียนและติดต่อขอพบผู้ปกครองของเด็กๆที่เป็นเรื่องค่ะ เพื่อความปลอดภัยของลูกเราเอง แต่อาจจะคุยกับครูก่อนให้มันเงียบๆหน่อย เดี๋ยวลูกเราจะยิ่งถูกตามรังแก แต่ถ้าเรื่องยังไม่เงียบหรือเบาลง คงต้องขออนุญาตคุยกับผู้ปกครองเด็กๆคนอื่นค่ะ จากคุณ : ออยล์ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 09:18:11

ความคิดเห็นที่ 40 หลานสาวเราโดนดักตบ เป็นคดีกันพักนึง ตอนแรกก็โดนขู่นี่แหละค่ะ แล้วผ่านไปสองวัน ก็ดักตบกันเลย T__T จากคุณ : pure_diamond เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 09:26:29

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านตอนแรก อืมๆ ยังคิดว่า ยอมทำมัย แต่พออ่านตอนท้าย แจ๋วมาก ^^ ยังเป็นห่วงเหมือนกันค่ะ เด็กสมัยนี้ แรงได้อีกอะ เฮ้อ ^^! จากคุณ : แม่น้องบูม เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 09:27:55

ความคิดเห็นที่ 42 โอยยยย จะเป็นลม เด็กสมัยนี้ ไม่รู้จะเอาเวลาไปทำอะไรกันแล้วรึไง สมัยเรา แค่เรียน อ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ก็หาเวลาไม่พอแล้ว เก็บข้อความ BB เซฟเพจ เฟซบุ๊ค ถ้าโทรมาอีก ก็บันทึกไว้ ไม่ต้องไปตอบโต้ ปล่อยมันพูดไป แล้วไปแจ้งความฐานข่มขู่ ก่อกวนเลยค่ะ เด็กสมัยนี้ เห็นว่าทำตัวแบบนี้แล้วเจ๋ง ต้องให้เขารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ไม่อยากนั้นเดี๋ยวเกินเลย มาทำร้ายร่างกาย หรืออาจควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ถึงขั้นเอาชีวิตก็ได้ เห็นมาเยอะแล้วค่ะ เด็กแย่งผู้ชายกัน กะโชว์เจ๋งต่อหน้าเพื่อน แล้วเกินเลยจนอีกฝ่ายถึงแก่ชีวิตเนี่ย จากคุณ : Beloved Son_Chang เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 09:55:04

ความคิดเห็นที่ 43 อ่านแล้วน่ากลัวจัง  มีลูกสาวหน้าตาดีก็น่ากลัวเหมือนกันนะ นี่ขนาดลูกสาวคุณจขกท.ไม่ได้ไปตอแยผู้ชาย ยังมีเรื่องกันขนาดนี้เลย ยิ่งอ่านความเห็นของคุณ Orayanee แล้วจะเป็นลม เป็นนักเรียนดีๆไม่ชอบอยากจะเป็นฆาตกรนอนในคุก จริงๆเพื่อความปลอดภัย แจ้งตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนก็ได้ค่ะ แล้วก็แจ้งกับแม่ฝ่ายหญิง และตัวเด็กผู้หญิงไว้ว่า ทางคุณยังไม่ได้ดำเนินการทางกฎหมายอะไร แต่ขอลงบันทึกประจำวันกับทางตำรวจไว้ก่อน (อย่าลืมถ่ายสำเนสเก็บไว้ที่คุณ 1 ชุด แม่ผู้หญิง 1 ชุด เพื่อยืนยันว่าทำจริง ไม่ได้ขู่) หากมีเรื่องกันอีก ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม จะสันนิษฐานว่าเด็กคนนั้นเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรก และก็จะขอแจ้งความพร้อมทั้งส่งหลักฐานทั้งหมดถึงตำรวจ และก็จะขอดำเนินคดีจนถึงที่สุด ไม่มีการยอมความกันอีกแล้ว เชื่อว่าเค้าไม่น่าจะทำอะไรลูกสาวจขกท.อีกแล้ว นอกจากจะโง่ยอมตกเป็นทาสของความรักจนยอมนอนคุกแทนที่จะนอนบ้าน ยังไงจขกท.ต้องเก็บหลักฐานคลิปไว้ให้ดีนะคะ ทำเป็นสำเนาหลายๆแผ่นเก็บไว้ก็ได้ กันพลาดหลักฐานหายค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 54 10:39:34 จากคุณ : Trippy เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 10:38:04

ความคิดเห็นที่ 44 สุดยอดคุณแม่จริง ๆ อ่านแล้วลุ้นระทึกมากค่ะ เรื่องเด็กแย่งผู้ชายกันเราว่ามีมานานพอสมควรแล้ว ที่สำคัญมากคือเราต้องดูแลลูกเราอย่างใกล้ชิดและให้คำแนะนำที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ชื่นชมคุณแม่นะคะ เพราะถ้าเป็นเรา เราก็คงพยายามจะทำให้ได้แบบนี้ และเด็กผู้หญิงคนนั้นจบไม่สวยแบบนี้แน่ (กล้าดียังไงมายุ่งกับลูกเรา) อ่านจบแล้วความคิดบรรเจิดเกิดขึ้นในสมองน้อย ๆ ส่งลูกชายเรียนยูโดหรือศิลปะป้องกันตัวไว้ดีกว่า วันหน้าถ้ามีปัญหา และเราไม่สามารถยืนอยู่ตรงนั้นได้ อย่างน้อยลิงน้อยจอมซนในตอนนี้ น่าจะช่วยน้อง (ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย) ของเค้าได้มั่งแหละ จากคุณ : เลขาหน้าใส เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 10:39:42

ความคิดเห็นที่ 45 ลูกสาว จขกท. อยุ่ม.อะไรคะ อ่านแล้วอึ้งค่ะ เราว่าจขกท.ทำถูกแล้วนะ ให้ลูกเผชิญหน้าด้วยตัวเอง ไม่แก้ปัญหาโดยใช้กำลัง ถ้าเป็นเรานะ ฮึฮึ เราจะให้ลูกเรียนยูโด เทควันโ้ด้เลย แต่ถ้ามันมาทำอะไรลูกเราหละก็ ฮึฮึ คงได้นอนคางเหลืองหยอดน้ำข้าวต้มแน่ เด็กสมัยนี้มันแรงส์ค่ะ คิดว่าแน่ คิดว่าเจ๋ง อยู่เป็นกลุ่มทำเป็นเก่ง พออยู่คนเดียวเหมือนหมาหงอ  เด็กสมัยนี้มองหน้ากันก็ไม่ได้หรอกคะ มองหน้าเดี๋ยวโดนตบ -*- ลูกสาวจขกท.เก่งนะคะ ท่าทางไม่กลัวพวกนั้นเท่าไรเลย แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 54 11:32:30 จากคุณ : Fairybox เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 11:30:42

ความคิดเห็นที่ 46 เรื่องแย่งคนรักกันนี่ จำได้ว่า สมัยเรียนมัธยม ถึงกับเกิดเรื่องแทงกันในโรงเรียนเลย ดีแล้วค่ะที่ออกตัวปกป้อง สงสารแม่ฝ่ายนั้นเหมือนกัน เขาไม่เคยรับรู้ว่าลูกเป็นแบบนี้ แต่จะว่าไปส่วนหนึ่งก็คงมาจากการเลี้ยงดูของเขาด้วยแหล่ะ ที่ไม่ได้ใกล้ชิดลูกเท่าที่ควร แต่เราว่ามีเยอะนะที่ลูกตัวเองแท้ๆ แต่พ่อแม่มองไม่ขาด เพื่อนเราก็มีประเภทมีอะไรกับแฟนนานแล้ว แต่ทางบ้านไม่ทราบเลยซักนิด บางคนแรงกว่าถึงขนาดเป็นเมียน้อยเขาเลย จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 11:58:08

ความคิดเห็นที่ 47 เพิ่มอีกนิดนะคะ เราเพิ่งกลับจากโรงเรียนค่ะ คุณFairybox คะ    ลูกเราก็เรียนเทควันโด สายน้ำตาล 2 วันนี้ได้ใช้แล้วค่ะ   วันนี้ที่โรงเรียนจัดงาน ปีใหม่ คุณลูกสาวเค้าก็เฮฮา ปาร์ตี้กัน   แล้วพวกกลุ่มที่เรื่อง เมื่อวานมีอาการหมั่นไส้ ก็เลย เรียกลูกเราไปเจอกันหลังโรงยิม  ฝ่ายโน้น 5 คนลูกสาวเรา 3 คน (คู่กรณีลูกเราไม่มาค่ะ เค้ากับแม่มาหาเราที่บ้านเดี๋ยว เล่าให้ฟังนะคะ) พวกนั้นก็ประมาณว่า ลูกสาวเรา ยังจะมีหน้าสดใสรื่นเริงได้อีก   ทั้งที่เมื่อวานเกือบโดนรุมตบ แบบสั่งสอนลูกเรา มีคนนึงเดินเข้ามาตบหน้า ลูกเราหลบได้แต่ไม่พ้น   เล็บข่วนที่หน้านิดหน่อย ที่นี้ชีเป็นคนรักสวยมาก เลยลืมตัวก็เลยตอบโต้ไป สรุปพวกนั้นเยินค่ะ( จากสภาพที่เราไปดู) ลูกเราบอกให้เพื่อนอยู่เฉยๆ แต่ถ้าโดนล็อคแขน ค่อยเข้าไปช่วย  แกมีฝีมือพอตัวค่ะ เราฝึกให้แกไว้สู้คน แต่ห้ามทำร้ายคน ที่ไม่อยากมีเรื่องแต่แรก  เพราะลูกเราแกโมโหร้าย กลัวแกจะพลั้งมือ นี่โดนแค่ปลายเล็บ ของขึ้นเลย  มาบอกเราทีหลังว่า นึกว่าแผลใหญ่เห็นเลือดออกก็เลยจัดหนัก เค้าแค่ตบ แต่ลูกเรานี่ทั้งเตะ ทั้งต่อยฝ่ายโน้นเลยยอม   จนเรื่องถึงคุณครู  ก็โทรมาตามผู้ปกครองทั้งหมดไปเจอกันที่โรงเรียน จากคุณ : ไม่อยากอยู่เฉยเฉย เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 13:08:36

ความคิดเห็นที่ 48 เรียนต่อสู้ก็ดี แต่อย่างที่บอก สู้กับคนโง่ไม่มีกติกา ไม่มีแพ้ชนะ เค้าจะลอบกัด คนพวกนี้ไม่สนอะไรขอให้ชนะ... ลูกสาว จขกท.ทำถูกที่สุดแล้วคะ การลู่ไปตามลม เป็นไม้อ่อนดีกว่า เล่าให้สามีฟัง เค้าบอกว่า แม่เด็กเก่งมากเลย (จขกท) สอนลูกได้ขนาดนี้ ลูกปลอดภัยก็ดีที่สุดแล้ว บางครั้งศักดิ์ศรีก็ดี แต่ถ้าต้องแลกกับคนพาลก็ไม่คุ้มคะ ทางใครทางมันดีกว่า จากคุณ : kansakx_aj5 เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 13:20:36

ความคิดเห็นที่ 49 สมัยเราอยู่ม.3เคยเจอแบบนี้เหมือนกันแต่ไม่แรงเท่า ผู้ชายที่เพื่อนชอบมาจีบเรา(ก็เพื่อนในห้องเนี่ยแหละ) เพื่อนก็โกรธมากที่เราคุยกับผู้ชาย(คุยธรรมดาในห้องเรียนไม่ได้เดทกัน) พาเพื่อนในห้องมาขู่และให้เลิกคบเรา ตอนนั้นเราคิดคล้ายๆลูกจขกท.ว่าเราไม่ผิด ไม่ได้ชอบอีตานั่นแต่ทำไมเราต้องยอมทำตามใจพวกอันธพาลด้วย ชอบเค้าก็จีบเค้าสิ เราไม่ได้คบเป็นแฟนซะหน่อย แต่ในที่สุดเราก็ถอยค่ะ เพราะกับผู้ชายนั่นจริงๆเราก็ไม่ได้อยากคุยด้วย ตอนหลังผู้ชายไปจีบคนอื่นอยู่ดี เค้าก็ตามไปราวีคนอื่น มาคิดตอนนี้เราว่าอย่าไปแลกเลยค่ะ วัยรุ่นอารมณ์แรง ได้ไม่คุ้มเสีย ดีที่เราไม่ไปมีเรื่อง ตอนนี้เรามีลูกสาว นอกจากจะปกป้องลูก เราก็อยากสอนให้ลูกเรารู้จักแก้ปัญหาด้วย ดีจังที่ลูกคุณจขกท.มาปรึกษานะคะ จากคุณ : optimiss เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 13:29:09

ความคิดเห็นที่ 50 เราไปถึงหลังเพื่อน ก็เจอลูกเราโดนรุมด่า จากผู้ปกครองทั้งหลาย  เห็นลูกเรากำมือแน่น สงสารลูกเลยค่ะ เพราะรู้ว่าแกพยายามข่มใจไม่ตอบโต้ เพราะเราสั่งก่อนมาว่า ให้เงียบๆไว้ เดี๋ยวแม่ลุยเองค่า  + พอทุกคนเห็นเรา ก็เลยหันมาว่าเราทันที ว่าสอนลูกให้เป็นอันธพาล เที่ยวตบตีเพื่อนไปทั่ว เราก็จัดเลย เชิญดูคลิปนี่ ซะก่อนแล้วค่อยคุยกัน คลิปจบไปประมาณ 1 นาที ก็ยังนั่งเงียบ เราก็เลยถามว่า   เห็นแล้วยังว่าเรา ให้ลูกเราหลีกแล้ว  แต่ลูกพวกคุณก็ยังมาทำกร่างอีก เด้กมันก็มีขีดจำกัดของมัน  คงทนไม่ไหวแล้วเลยมีเรื่อง  แม่คนนึงเถียงว่าลูกเค้าเสียเปรียบโดนทั้งมือทั้งเท้า  ลูกเราไม่เป็นอะไรเลย เราก็ถามกลับ 5 ต่อ 1นี่นะเสียเปรียบ พวกคุณรังแกลูกกันทั้งนั้น  วันนี้คนที่ทำร้ายลูกคุณไม่ใช่ลูกเรา แต่เป็นตัวคุณทั้งนั้นหล่ะ ผิดก็คือผิดต้องสอนให้รู้จัก  นี่อะไรลูกอยู่โรงเรียนเป็นยังไง รู้กันบ้างหรือเปล่า  อย่าคิดแต่ว่าลูกคุณดี ลูกคุณถูกเสมอ  วันนี้ลูกเราก็ผิด ที่ทำร้ายร่างกายลูกคุณ  เราก็เรียกลูกมายกมือไหว้ขอโทษ ผู้ปกครองทุุกคนและขอโทษเพื่อนด้วย    หลังจากนั้นเราก็ได้คุยกันอย่างสันติวิธี เราเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ฟัง   โดยพวกเด็กๆ ก็ยอมรับทุกอย่าง  และก็มาขอโทษเราและลูกเช่นกัน  คุณครูให้ผู้ปกครองเซ็นรับทราบและรับปากว่าจะคอยดูแลพฤติกรรมของลูก  ถ้าเกิดปัญหากรณีเดียวกันอีก จะให้พักการเรียน และไล่ออกในถัดไป  จากนั้นแยกย้ายกันกลับ ยายตัวดีของเรา พอออกมาจากห้องประชุมนี้ เพื่อนยกนิ้วให้เป็นแถว เดินยืดเชียว เราก็ปรามว่าอย่าเหลิง เรายังมีเรื่องต้องเคลียร์  หน้าจ๋อยเลย สม! อิอิ รู้บ้างมั๊ยนี ว่าแม่มันเครียดจนนอนไม่หลับ เฮ้อ! จากคุณ : ไม่อยากอยู่เฉยเฉย เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 13:53:07

ความคิดเห็นที่ 51 ตามอ่านมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ ป่วยใจกับพฤติกรรมเด็กสมัยนี้จริง ๆ คุณสอนลูกได้ดีมากค่ะ เราเพิ่งพ้นช่วงวัยรุ่นมาไม่นานเราเข้าใจเลยค่ะว่าลูกสาวคุณคิดยังไง คนไม่ผิด จะให้ขอโทษก็ใช่เรื่อง เป็นเราเมื่อก่อนก็คงไม่ยอมเหมือนกันค่ะ แต่ ณ วันนี้เมื่อเราโตขึ้นเราก็เข้าใจแล้วว่าอะไรควรไม่ควร วิธีหลีกปัญหามีเยอะแยะแต่ต้องไม่หนี สงสารก็แต่พ่อแม่ของเด็ก ๆ พวกนั้น...ต่อให้ความจริงปรากฎตรงหน้าพวกเขาก็คงยากที่จะรับ แม้ลึก ๆ อาจจะรู้อยู่เต็มอกว่าลูกตัวเองมีพฤติกรรมและสันดานแบบไหน เพราะถ้ายอมรับ ก็เท่ากับประจานตัวเองด้วย ที่อบรมสั่งสอนลูกแบบไหนถึงได้ออกมาเป็นแบบนี้ อยากทราบว่าผู้ปกครองเหล่านั้นตอนเห็นคลิปแล้วว่าไงกันบ้างคะ ยังเชิดหน้าเถียงคอเป็นเอ็นกันรึเปล่า ถ้ามีลูกสาวในอนาคตจะให้เรียนต่อสู้ไว้ จริง ๆ คิดไว้แต่แรกแล้วพอมาเห็นเคสนี้แล้ว ต้องให้ลูกเรียนให้ได้จริง ๆ แล้วล่ะค่ะ อย่างน้อยก็ต้องมีวิชาป้องกันตัวบ้าง จากหนักจะได้เป็นเบา จากคุณ : Blue Syrup เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 14:05:58

ความคิดเห็นที่ 52 คุณจขกท.ไม่ต้องขอคำปรึกษาเพื่อนๆในนี้แล้วค่ะ เพราะคุณได้เลื่อนระดับเป็นที่ปรึกษาไปแล้ว เยี่มมมากๆค่ะ ทั้งคุณแม่และคุณลูก โหวตให้นะคะ พ่อๆแม่ๆจะได้ดูเป็นแนวทาง (และไม่แน่ว่าลูกๆของเราอาจเป็นหนึ่งในตัวละครของเรื่องราวคล้ายๆกันนี้โดยพ่อแม่ไม่ทันรู้เห็น มันน่ากลัวจริงๆ) แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 54 14:16:26 แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 54 14:16:08 จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 14:07:53

ความคิดเห็นที่ 53 ชื่นชมเลยครับ ยอดเยี่ยมทั้งคุณแม่และลูกเลยครับ จากคุณ : ซาตานกลับใจ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 14:48:29

ความคิดเห็นที่ 54 นับถือเลยค่ะ จากคุณ : Material Girl เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 15:08:09

ความคิดเห็นที่ 55 สงสัยต้องเปลี่ยนจากให้เรียนบัลเลต์ ไปเป็นพวก ยูโด ฟันดาบ บ้างแล้วค่ะ จากคุณ : TangMo-AKaNe เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 15:11:11

ความคิดเห็นที่ 56 เดี๋ยวรอดูก่อน ลูกสาวเราโตขึ้นจะสวยรึเปล่า ถ้าสวยให้เรียนชกมวย คาราเต้ ถ้าไม่สวยให้เรียนรำไทย แดนซ์ต่างๆ (เติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไง แหะๆ) จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 15:15:23

ความคิดเห็นที่ 57 คุณสอนลูกได้เยี่ยมจริง ๆ ค่ะ เราดีใจที่"จีจ้าตัวน้อย" ไม่ได้เป็นอะไรเลย ถ้ามีลูกสาว เราอยากทำได้เหมือนคุณบ้าง แต่เรากลัวตัวเอง "ห้าวเกินไป" แม่สอนไว้ตั้งแต่เด็ก "จะทะเลาะกันใคร ให้ประเมินสถานการณ์ดูก่อน ถ้าแพ้แน่ ๆ อย่าเริ่มก่อนให้หลีก แต่ถ้าชนะชัวร์ จัดให้หนัก ไม่ชนะก็อย่ามาเล่าให้แม่ฟัง" 555555555555 หมาน้อยที่บ้านเตรียมตัวเรียนเทควันโดได้เลย จากคุณ : เลขาหน้าใส เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 15:19:21

ความคิดเห็นที่ 58 ปรบมือให้ทั้งคุนแม่คุนลูกเรยคร๊า เรามีลูกชายเพ่งจะ 5 เดือน อยากสอนให้เค้าเป็นคนที่มีอะไรคุยกับเราทุกเรื่อง เรากัวจะเป็นเหมือนเด็กสมัยนี้ รับไม่ได้จิงๆ ค่ะ จากคุณ : nanzuza (nanzuza) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 15:35:22

ความคิดเห็นที่ 59 คุณ Blue Syrup คะ ตอนที่ผู้ปกครองเค้าดูคลิป บางคนนี่อึ้ง แต่มีบางคนทำหน้าเฉย แบบประมาณเอาอะไรให้ดูนี่ ไร้สาระ แถมตอนที่ลูกเรายกมือไหว้ขอโทษ   ยังทำหน้าเมินๆอีกต่างหาก และแน่นอนลูกนางคนนั้นแรงสุดในกลุ่ม   และนางก็รวยที่สุดในกลุ่มผู้ปกครองด้วย  ก่อนออกจากห้อง ได้ยินนางพูดกับลูกว่า ถ้ามีปัญหาก็ออกไปเรียนที่อื่น  เราก็เลยพูดตบท้ายว่า  คราวนี้จบกันที่โรงเรียน  แต่คราวหน้า  ต้องจบกันที่โรงพักอย่างเดียว เราไม่อยากเหวี่ยงเลยค่ะ  เพราะที่จริงแล้ว  บางคนก็พอจะคุ้นหน้ากันอยู่ ตอนประชุมผู้ปกครอง ก็ยังเคยคุยกันเลย  และเราอยากจะเล่าว่า ตอนที่คุยกันเรื่องของลูกๆ เราได้รู้ว่าแต่ละบ้านนี่เลี้ยงดูต่างกันไป   บางบ้านลูกอยู่บ้านเป็นเด็กเรียบร้อย บางบ้าน เจอลูกแค่วันหยุด  เพราะพ่อแม่ทำงานหาเงินอย่างเดียว ลูกๆอยู่กันเอง   บางบ้านก็ตามใจลูกเหลือเกิน  อยากได้อะไร ก็รีบหามาให้  อีกบ้านนึงก็เอาแต่ด่าลูก ไม่เคยได้ถามสาเหตุเลย   เราเลยกลับมาคิด สาเหตุที่เด็กโตมาเป็นแบบนี้ เกิดจากสาเหตุอะไร การเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม (เพื่อน โรงเรียน)หรือพฤติกรรมเลียนแบบ  สำหรับเรา  ตอนเรามีลูกคนนี้ เราก็เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว  เราทำงานตั้งแต่ลูก 6 เดือน เราทำงานเป็นกะ  แต่ทุกครั้งที่เลิกงานกลับมาบ้าน  ถ้าลูกตื่นเราก็จะอยู่คุย เล่นกับลูกเสมอ  เราจะพูด จะถามลูกตลอด  เวลาแกทำผิด เราก็ดุ แต่เราไม่เคยตีลูกเลยนะ  ตั้งแต่เกิด จนถึงตอนนี้  เราคิดไปเองว่าจะถ้าเราตี ลูกก็จะไปตีคนอื่นที่ทำไม่ดีกับเค้าต่อ เพราะเค้าคิดว่าการตี คือการลงโทษคนที่ทำไม่ดี เพราะเด็กคงไม่เข้าใจกติกาเท่าไหร่   แล้วคำพูดของพ่อแม่  เราว่าสำคัญนะ  บางคนบอกลูกพูดจาไม่เพราะ  ประทานโทษฟังให้ดีดี  ก็เหมือนถอดเทปออกมาจากพ่อแม่เลย บางคนสัญญากับลูกพร่ำเพรื่อ ว่าจะให้อย่างโน้น นี้ แต่พอถึงเวลากลับลืม  เด็กก็จะไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเรา  แล้วเด็กก็จะไปฟังคนอื่น   บางครั้งสิ่งที่ลูกเราขอ  เราไม่สามารถให้ได้ เราก็จะบอกเค้าไปตรงๆ  เค้าจะได้เข้าใจความรู้สึกผิดหวัง  หรืออาจต้องใช้เวลาที่กว่าจะได้สิ่งนั้นมา สอนให้เค้ารู้จักรอ รู้จักอดทน เพราะเด็กยิ่งโต เค้าก็จะอยู่กับเราน้อยลง  ไม้ยิ่งแก่ ยิ่งดัดยาก  บางครั้งโมโหลูกมากๆ เพราะลูกเราทำผิด เราก็จะเดินออกมา   เราไม่เคยด่าเค้าแรงๆ  เราจะรอให้ตัวเองเย็นซักนิดแล้วก็คุยกัน  ด้วยเหตุนี้มั๊ง ที่ลูกกล้าบอกเรา (เกือบ)ทุกเรื่อง   เราไม่ได้เก่งอะไรหรอกนะ   แต่จากประสบการณ์ล้วนๆ   แม่เราดุมาก ประหารก่อนรายงานทุกที  จะด่าเราหรือตีเราก่อน ที่จะถามว่าเกิดอะไรขึ้น ชอบคิดว่าลูกตัวเองผิดตลอด  จนเราไม่กล้าที่จะบอกแม่ตอนที่เราท้องลูกสาวคนนี้  แต่ในที่สุด แม่เรารู้ แต่เชื่อมั๊ยคะ แม่กลับไม่ด่าเราซักคำ มีแต่ปลอบเรา มันทำให้เรารู้สึกรักแม่มากขึ้นเป็นพันเท่า จากที่ไม่ค่อยคุยก็คุยกันมากขึ้น กอดกันบ่อยขึ้น  เราเลยตั้งปณิธาณไว้เลยว่า  เราจะไม่ใส่อารมณ์กับลูกเด็ดขาด  เราจะดูแลเอาใจใส่ลูกให้ดีที่สุด **เว้นวรรคใหม่ค่ะ** แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 55 01:42:37 จากคุณ : ไม่อยากอยู่เฉยเฉย เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 15:35:54

ความคิดเห็นที่ 60 คุณฟ้าหมาดฝน  มีลูกสาวนี่ให้เรียนตั้งแต่เด็กเลยนะคะ ลูกเราเรียนตอน ป.3 พอขึ้น ม.1 ชักห่วงสวย ไปบ้างไม่ไปบ้าง เพราะเวลาซ้อมนี่มีพลาดพลั้งกันบ้าง พอตัวเขียวที่ก็หยุดไปเกือบเดือน เป็นวัยรุ่นนี่เรื่องมาก ตอนนี้อยู่ ม.5 บางทีต้องให้เราไปรับไปส่งอยู่เลย ไม่อยากขับมอ'ไซค์ กลัวดำ ^_^ และเราขอเรื่องซ้อนมอไซค์ เพื่อนผู้ชายด้วย เค้าก็รับปาก เราเลยต้องเป็นแว๊นซ์ให้ลูกตลอด เราหน้าดำแต่คุ้มค่ะ จากคุณ : ไม่อยากอยู่เฉยเฉย เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 15:44:36

ความคิดเห็นที่ 61 ว่าแต่คู่กรณีกับแม่เค้ามาหาคุณที่บ้าน พวกเค้ายังไงกันบ้างคะ จขกท จากคุณ : Blue Syrup เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 15:47:01

ความคิดเห็นที่ 62 อ่านแล้วได้ข้อคิดอะไรดีๆ มากมายเลยคะ ขอบคุณนะคะที่เอาเรื่องแบบนี้มาแชร์ จากคุณ : แม่น้องไม้โท เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 16:42:25

ความคิดเห็นที่ 63 อ่านแล้วสงสารแม่เด็กที่สุดเลย คงจะอี้งที่ลูกเคยทำแท้งตั้ง 2 หน ถ้ามีแฟนแล้วมีอะไรกันก็ยังพอรับได้ ส่วนลูกสาวเรานี้พ่อมันบอกจะให้ไปเรียน มวยไทยตั้งแต่ 5 ขวบ สมัยนี้ไม่สวยก็น่ากลัว ภัยมันมีเยอะ ไปโรงเรียน(มหาวิทยาลัย) กลับบ้านดีก ๆ ก็อาจจะโดนฉุดได้ โดนล้วงกระเป๋าได้ สิ่งที่ดีที่สุดต้องเรียนพวกนี้เอาไว้ จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 16:46:24

ความคิดเห็นที่ 64 กลับเข้ามาอ่านอีกครั้ง ยังไงก็ต้องระวังค่ะ เล่าอีกหน่อยก็ได้ ไหนๆน้องเราก็เสียไปแล้ว แล้วเค้าก็เคยบอก ว่าอยากให้เรื่องของเค้าเป็นอุทธาหรณ์ให้คนอื่นๆ ว่าอย่าโง่แบบเค้า (อันนี้เค้าพูดเอง) เด็กผู้หญิงกลุ่มที่มีเรื่องกับน้องเรา พอเห็นเราเอาเรื่องที่โรงเรียน มันก็ยุแหย่เด็ก ม.๖ ผู้ชายที่แอบชอบน้องเราอยู่ แล้วก็มายุน้องเราให้ไปกับมัน มันบอกว่าจะพาไปส่งบ้าน ตอนแรกน้องเราไม่ไป แต่เพื่อนคะยั้นคะยอ นี่ถึงจะมีเรื่องกันน้องเราก็รักเพื่อน กลัวเพื่อนโกรธอีก เลยยอมไป สุดท้าย น้องเราโดนเด็กผู้ชายคนนั้นข่มขืนในวันนั้นค่ะ พอทางบ้านเรารู้เรื่อง โรงเรียนก็บอกว่าอย่าให้เป็นเรื่องเลย เด็กผู้ชายเคยไปขโมยของในห้าง โดนโทษรอลงอาญาไว้อยู่แล้ว ถ้ามีคดีอีก ติดคุกแน่ๆ (โรงเรียนส่งเสริมเด็กในทางที่ผิดหรือเปล่า กลัวเสียชื่อ เลยไม่อยากให้เด็กผู้ชายติดคุก แล้วน้องเราล่ะ) ทางบ้านเราไม่ยอม น้องเราก็บอกว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด สุดท้ายที่ฎีกา เด็กผู้ชายติดคุกไป ๑๒ปีค่ะ ส่วนเด็กผู้หญิงกลุ่มที่มีเรื่องแล้วยุแหย่เนี่ย เราไม่ได้ฟ้องด้วย เพราะเรื่องมันจะยาวมาก แต่ทุกคนก็ไม่ได้มีใครได้ดีสักคน ท้องตั้งแต่ ม.๓ โดนออกจากโรงเรียนทั้งหมด (ตอนเกิดเรื่อง น้องเราอยู่ ม.๒ค่ะ) อยากให้ระวังให้มากๆ แรงพยาบาทของคนมันร้ายกาจนักค่ะ ตัวเองทำอะไรไม่ได้ ไปยุคนอื่นให้มาทำ น้องเราตัวนิดเดียว ไอ้เด็กผู้ชาย ม.๖นั่นตัวยังกับหมี ใครจะไปสู้มันได้ ไม่ได้อยากให้กลัว แต่อยากให้ระวังให้มากค่ะ จากคุณ : Orayanee เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 17:01:31

ความคิดเห็นที่ 65 อ่านเเล้วสงสารน้องคุณOrayanee ดิฉันมีลูกผู้หญิงด้วย เรียนอยู่ญี่ปุ่น ก็กลัวเรื่องจะโดนรังเเก(อิจิเมรุ)จะจบม.3เเล้วยังไม่มีเรื่องอะไรร้ายๆ เคยโดนผลักล้มหัวเข่าเเตกครั้งหนึ่ง จะสอนลูกเสมอๆว่าอย่าอยู่กับผู้ชายหรือไปไหนกับผู้ชายตามลำพัง เพื่อนชวนไปไหนที่ลับหูลับตาคนก็อย่าไป จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 17:28:46

ความคิดเห็นที่ 66 จขกท เก่งจริงๆค่ะ ทั้งมีสติและรอบคอบ และสอนลูกได้ดีจริงๆค่ะ อ่านมาตั้งแต่ต้น สงสาร เด็กคู่กรณีของลูกสาว จขกท จริงๆค่ะ ขอให้น้อง เค้าคิดได้นะคะ หนทางอนาคตยังอีกไกล ขอบคุณนะคะที่เอามาแชร์ จากคุณ : mama N'opor เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 17:30:37

ความคิดเห็นที่ 67 มาเป็นกำลังใจให้คุณแม่ จขกท. นะคะ คุณแม่เก่งมากค่ะ มีสติรอบคอบ(พร้อมลุย อีกต่างหาก)น้องเก่งมากค่ะ และเป็นเด็กดีด้วย ขอให้คุณแม่และน้องมีความสุขมากๆ นะคะ ขอบคุณที่เล่าสู่กันฟังค่ะ จากคุณ : แม่ไอเดีย-ไอคิว (skw_dy) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 17:44:44

ความคิดเห็นที่ 68 เลี้ยงลูกได้เยี่ยมมากๆเลยนะ น้องดูเป็นคนเก่ง รู้จักปกป้องตัวเองในเวลาที่ควรปกป้อง ดีแล้วค่ะเลี้ยงน้องให้แข็งแกร่งแต่ไม่ใช่ก้าวร้าว และไม่อ่อนแอ ดูแล้วคุณจะสนิทกับลูกสาวมากเลยนะคะ ยังไงก็เอาใจช่วย ให้น้องเรียนเทควันโด้ต่อนะคะ เพราะว่ามันต้องได้ใช้ในชีวิตประจำวันแน่ๆค่ะ จากคุณ : Fairybox เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 19:08:19

ความคิดเห็นที่ 69 ถ้าเป็นคุณพ่อคงได้ต่อยกันแน่ๆ คุณแม่แก้ปัญหาได้เก่งมากๆครับ ยอมรับๆ จากคุณ : dupdanup (ดูบดานูป) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 19:10:40

ความคิดเห็นที่ 70 กลัวมากว่าปัญหานี้อาจจะเกิดกับหลานๆ เราในสักวันหนึ่งเหมือนกัน เราสอนคนของเราดี แต่ลูกหลานคนอื่น ไม่รู้จะจัดการกับเขายังไง โรงเรียนก็ไม่ดูแลทั่วถึงหรอก เหมือนต้องทำใจไว้ครึ่งๆ จากคุณ : อิมาอิซัง เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 19:12:14

ความคิดเห็นที่ 71 สุดยอดเลยค่ะเรื่องนี้ คุณแม่มีสติมากๆ แล้วสอนลูกดีมากๆ ขนาดเรายังไม่กล้าคุยกับแม่ทุกเรื่องเลย สงสัยต้องจำคำของจขกท ไปสอนลูกบ้าง ยังอยู่ในท้องอยู่เลย แต่การที่ถามเค้าทุกวันก็คงเป็นทางออกที่ดี เหมือนเปิดโอกาสให้เค้าพูด ตอนนี้เราแต่งงานมาอยู่ตปท เวลาคุยกับแม่ แม่จะชอบถามว่า มีอะไรรึเปล่า โอเคมั้ย บางทีถ้าเราไม่โอเค ก็ร้องไห้ออกมาเลย เราว่าการถามก่อน ถามแบบรวมๆ ก็ดีเหมือนกันนะค่ะ อย่างน้อยเราก็เปิดใจพูดเองเวลาเรามีปัญหา แม่เรากลัวเราไม่พูดถึงปัญหา พอระเบิดจริงก็เป็นบ้ากันไปเลย ขอบคุณจขกทที่นำเรื่องมาแชร์กันนะค่ะ เป็นประโยชน์จริงๆ สำหรับคนเป็นพ่อแม่ จากคุณ : Nan (Can't forget you) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 19:14:25

ความคิดเห็นที่ 72 อ่านไว้เป็นประสบการณ์ค่ะ .. ถ้าวันนึงมีลูกสาว จะได้เตรียมรับมือถูก จากคุณ : เด็กหญิงม่านหมอก เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 21:10:05

ความคิดเห็นที่ 73 คุณแม่และน้องเก่งมากเลยค่ะ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีนะคะ จากคุณ : la_oil เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 21:48:25

ความคิดเห็นที่ 74 อ่านตอนแรกก็อึดอัด แต่พอมาอ่านถึงความเห็นที่47 ก็หลุดอมยิ้มออกมาเลยค่ะ ต้องขอยกนิ้วให้คุณแม่เลยค่ะสอนลูกได้ดี จากคุณ : Ai's MaMa เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 21:50:19

ความคิดเห็นที่ 75 อ่านเรื่องราวของลูกสาว จขกท. นึกถึงตัวเองเลย เพราะเราเจอรุ่นพี่รุมตบค่ะ ไม่ใช่เรื่องผู้ชาย อะไร แต่กวนส้นตีงเค้าไปหน่อย โดนแบบว่า 30 ต่อหนึ่งเลยค่ะ คือเป็นแก๊งค์ใหญ่มากๆ ตอนนั้นเราก็หงอสุดๆ เพราะรุ่นพี่กลุ่มนี้มันใหญ่คับฟ้า มีเบื้องหลังหนุนอยู่ พอปีถัดไป เราก็เป็นรุ่นพี่บ้าง ขอบอกว่า ตามหาเรื่องรุ่นน้องทุกวัน ใครแรดๆ หน่อย ก็จะเดินเข้าไปสอนมัน เราไม่ค่อยแรดค่ะ แต่กวนตีง... เป็นทอมๆ มากกว่า คนเลยหมั่นไส้ .................. เด็กสมัยนี้น่ากลัว เราพยายามสอนลูก แบบให้ทันโลก ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก อีกไม่กี่ปี ลูกก็จะเข้าสู่วัยรุ่นแล้ว ก็ยังไม่รู้จะเป็นยังไงเลยค่ะ จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 21:59:04

ความคิดเห็นที่ 76 อ่านเรื่องนี้แล้วกลัวเหมือนกัน เคยได้ยินมา ว่ามีเรื่องแบบนี้ สมัยเราเรียนเราไม่เคยมี ตอนนี้มีลูกสาว กลัวเรื่่องแบบนี้มากเลย สงสัยต้องส่งให้ไปเรียนศิลปะป้องกันตัวมัง ยอมรับว่าว่าห่วงลูกสาวมาก ในเรื่องแบบนี้ไม่ได้ห่วงที่ตัวเค้าแต่ห่วงคนที่จะเข้ามามากกว่า ปล. คิดเยอะหรือเปล่าลูกสาวเพิ่งห้าขวบ จากคุณ : วีทีอาร์ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 22:10:40

ความคิดเห็นที่ 77 น่าจะฟ้องสื่อดีกว่า จัดการให้เด็ดขาด ทำแบบนี้ไม่สมควรเป็นเยาวชนแล้ว จากคุณ : credor เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 22:31:16

ความคิดเห็นที่ 78 น้องสาวเราก็เคยถูกเด็กเกเรรังแกค่ะ คือจริงแล้วพวกเด็กเกเรนี่มาเป็นกลุ่มแล้วมาหาเรื่องกลุ่มน้องสาวเรา จริงๆน้องเป็นคนไม่มีอะไรเลยนะ เขาจะมีพื้นที่ส่วนตัวอ่านหนังสือแต่งนิยาย ไม่เคยทำอะไรเสียหายให้ที่บ้านได้กังวลเลย แต่ในเคสนี้คือคลายๆกับคนในกลุ่มน้องไปมองหน้าแล้วเด็กเกเรก็มาหาเรื่องเหมือนลูกจขกท. แล้วทีนี้วันนั้นเด็กเกเรก็มาพูดในทำนองหาเรื่องกลุ่มน้อง แล้วน้องเรามันทำไงน่ะ ก็ก้มลงกราบเขาแล้วบอกว่าอย่ามาหาเรื่องเขากับเพื่อนเลย เราขอโทษเธอแล้วกัน เด็กเกเรหัวเราะสะใจแล้วจากไป วันนั้นน้องเรากลับมาเล่าให้ที่บ้านฟัง เรานี้แบบปรี๊ดเลย โกรธทั้งเด็กที่มารังแกน้องและโกรธที่น้องทำไมต้องก้มลงกราบคนไม่ดี แต่พออารมณ์เย็นขึ้นก็คุยกับน้องว่าวันหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ มีอะไรให้บอกครู มีอะไรให้เลี่ยงไปเสีย อย่าไปก้มลงกราบคนที่ไม่ใช่พ่อแม่หรือผู้มีพระคุณ แต่ถ้าทำไปแล้วก็แล้วไป ... ก็ดีแล้วต่อไปมันคงไม่มายุ่งกับกลุ่มของหนูอีก ผ่านมาหนึ่งปีแล้วน้องก็คอยมาเล่าให้ฟังถึงเรื่องของเด็กเกเรกลุ่มนี้ บางคนทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนครูต้องให้ลาออก คือจุดจบของเด็กพวกนี้ไม่ดีสักคนน่ะค่ะ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 22:46:54

ความคิดเห็นที่ 79 ติดตามต่ออยากรู้ว่าแม่ของเด็กผู้หญิงคนนั้น มาคุยอะไรกะ จขกท. และแน่นอนว่า ผู้ชายลอยตัว จากคุณ : saengchot เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 23:31:21

ความคิดเห็นที่ 80 โหวตค่ะ จากคุณ : สรณธรรม เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 00:32:41

ความคิดเห็นที่ 81 เมื่อ 8 - 9 ปีก่อน ลูกชายผม ขณะอยู่ ม. ปลาย มีเรื่องไปชกต่อยกับเพื่อนร่วมชั้นเรียน ด้วยข้อหา ว่า เพื่อนพูดยั่ว กวน teen จนสุุดจะทน แล้วครูก้อเรียกไปสอบปากคำ ได้คนผิด คนถูก รวมถึงมีพยานกว่าครึ่งห้อง ผม ไม่รู้เรื่องเลย ผ่านไป 7 วัน ลูกชายบอกว่า ไปชกเพื่อนมา เพื่อนไปโรงเรียนไมไ่ด้ ต้องลาหยุด 3 วัน ผมตกใจมาก รีับขับรถไปที่โรงเรียน ไปกราบขอโทษครูประจำชั้น บอกครูว่า ผมขอโทษด้วยครับ ผมผิดเอง ที่อบรมลูกชายมาไม่ดีพอ นอกจากนี้ ยังได้ขอให้ครูโทรนัดผู้ปกครองฝ่ายโน้นด้วยว่า ผมจะไปกราบขอโทษ  ตกเย็นได้ไปพบพ่อแม่ฝ่ายโน้น เขาก้อออกมาต้อนรับอย่างดี ผม ไหว้แล้วไหว้อีก บอกเขาว่า ผมขอโทษ ครับ ขอโทษจริงๆ ทั้งหมดเป็นผมเป็นคนผิดเอง คุณพ่อเด็กฝ่ายโน้น ก็ยื่นมือมาให้ผมจับ เขาเขย่าแรงๆ บอกว่า โอ้ยยย เรื่องของเด็กผู้ชาย ก็เป็นแบบนี้แหละ อย่าใส่ใจเลย วันนี้ตีกัน พรุ่งนี้ ก็กอดกัน อย่าถือสาเลย ทางเขาไม่คิดติดใจอะไรดอก ดีเสียอีก ลูกชายเขา จะได้จดจำเป็นบทเรียน   ผมได้ฟัง ก็โล่งใจ  แล้วก็ลากลับ ------------------------------------------------ พอมาถึง บ้าน ได้บอกลูกชายไปว่า ผมได้สอบถามครูแล้ว ครูไ่ม่ลงโทษลูกชายผม เนื่องจากลูกชายผม ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด และมีเืพื่อนๆ ร่วมชั้นเรียน เป็นพยานให้การตรงกันทุกคน ว่าหมอนั่น กวนโอ้ยย พูดถากถางกวนโอ้ยยให้โมโห แต่ไม่มีใครอยากยุ่งเพราะเขาตัวโต และที่นี่ ก็เป็นโรงเรียนที่คัดเด็กคะแนนสูงลิบลิ่วมาเรียน จึงไม่มีใครกร่าง พอโดนลูกชายผมชกเข้าให้  ทุกคนดูจะสะใจ (ซึ่งผมไม่เห็นด้วยเลย) เรื่องนี้   ทางโรงเรียนได้ทำเรื่องตักเตืิอนว่า แม้วันนี้ไม่ผิด ครั้ื่งต่อไป ก็อย่าให้เกิด  หากเกิดขึ้น ต้องพักการเรียนสถานเดียว ----------------------------------------------------------------- ผมได้บอกลูกชายไปว่า ถ้าไม่อยากเห็นผม ไปกราบไหว้คนอื่นเขาแบบนี้อีก ต่อไปภายหน้า ให้ใช้สมอง ใช้ความอดกลั้น อดทน หากทนไม่ไหว ให้เลี่ยงไปเสีย อย่าใช้กำลัง  ที่ผม ต้องไปขอโทษเขา ไม่ไ้ด้เกี่ยวกับเรื่อง ผิดหรือถูก แต่เกี่ยวกับ การใช้กำลัง ไม่ใช้สมอง เราตัวโตกว่าเขา ร่างกายสูงใหญ่ เรียนทางด้านการต่อสู้มา ที่ให้เรียนก็เพื่อป้องกันตัว ไม่ใช่ไปใช้กำลังกับคนอื่น เขาก้อรับคำ   วันนี้ โตเป็นหนุ่มใหญ่แล้ว กำลังจะเป็น candidate เรียน PhD. soft-ware engineer ครับ ก้อได้แต่หวังว่า ต่อไป หากเขามีครอบครัวในวันข้างหน้า เขาจะได้จดจำเรื่องนี้ ไปสั่งสอนลูกของเขา เหมือนที่ผม ได้อบรมเขามา เมื่อวันวาน จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 01:12:56

ความคิดเห็นที่ 82 จขกท ชื่อเหมือนนิสัยเลยค่ะ ขอชื่นชม จากคุณ : มาดามอุ้ย เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 04:27:28

ความคิดเห็นที่ 83 แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 55 16:10:42 จากคุณ : เค้กผลไม้ เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 05:14:06

ความคิดเห็นที่ 84 คุณแม่เก่งมากค่ะ  มีสติ และสอนลูกได้น่าชื่นชมมาก   และเราเห้นด้วยมากๆค่ะกับการที่ชวนลูกคุยเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ จนลูกกล้าเปิดใจคุยกับคุณแม่ทุกๆเรื่อง เรามีลูกสาวเหมือนกันค่ะ แต่ตอนนี้ยังเด็ก อยู่ อนุบาล2 สิ่งนึงที่เรามักจะทำกับลูกบ่อยๆ คือชอบให้เค้าเล่าเรื่องที่โีรงเรียนให้ฟัง ชอบฟังเค้าโม้โน่นนี่ว่าวันๆเรียนอะไรบ้าง กินข้าวเที่ยงกับอะไร เพื่อนชื่ออะไร คุณครูสอนอะไรบ้าง  เล่นอะไรกันตอนพักเที่ยง ฯลฯ จนตอนนี้ค่อนข้างกลายเป้นสิ่งที่ติดตัวเค้าค่ะ คือ มีอะไรก้อจะมาเล่าๆๆๆ เพราะสมัยเราเด็กๆ บอกตามตรงว่าไม่เคยคุยกับแม่กับพ่อแบบกระหนุงกระหนิงอะไรเลยค่ะ เพราะพ่อแม่ก้อทำงาน ไม่มีเวลามาถามอะไรแบบนั้น เราเลยค่อนข้างโตมาแบบตัดสินใจเอง คิดเอง เกิดปัญหาอะไรก้อไม่เคยเล่า จัดการเองทุกอย่าง เรื่องไปลุยกับเพื่อนนี่ก้อบ่อย  รู้ตัวอีกทีเมื่อตอนเรียกผู้ปกครองพร้อมกับสภาพปากแตก หน้าบวม เล็บข่วนกันเต็มหน้า สุดท้ายโดนดุโดนตี   ถ้ามีเรื่องอีกก้อลุยอีก ไม่เคยที่จะปรึกษาพ่อแม่เพราะกลัวว่าถ้าไปบอกต้องโดนดุ   และมันวนเวียนเป็นสเต็ปเดิมๆ แบบนี้ทุกๆครั้ง บอกตรงๆว่า กลัวค่ะ  กลัวทุกๆอย่างที่อดีตมันจะย้อนมาเหมือนเดิม พอมีลูก เลยตั้งใจเลยว่า จะแก้ไขทุกอย่างจากบทเรียนที่เราเคยผ่านมาไม่ให้ซ้ำรอยเดิม ซึ่งการที่เริ่มจากการคุยกับลูกนี่แหละค่ะ เป้นเรืองที่สำคัญมากกก คุยกันจากเรื่องเล็กๆ  พอเรื่องใหญ่ๆเราก้อมั่นใจว่าลูกจะยอมบอกยอมปรึกษา สมัยเราว่าร้ายแล้ว แต่เด็กสมัยนี้ร้ายกว่าาาาา ยกกำลังทวีคูณจริงๆ สงสารคุณแม่คู่กรณีนะคะ คงใจสลายเมื่อรู้ว่าลูกสาวตัวเอง เคยทำอะไรที่มันเลวร้ายแบบนั้นลงไป ส่วนลูกสาวเจ้าของกระทู้ก้อน่ารักตรงที่มีอะไรปรึกษาแม่ก่อนนี่แหละค่ะ  ปัญหาทุกอย่างเลยคลี่คลายได้ดี น่าชื่นชมมาก จากคุณ : มะปรางข้างรั้ว เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 09:11:13

ความคิดเห็นที่ 85 โอ้ย...โดนบ่อยมากค่ะขอบอก เราเป็นคนปากคว่ำ เวลาไม่ยิ้ม หน้าจะดูหยิ่งสุดๆ(เพื่อนๆการันตรี). โดนรุ่นพี่ท้าตบ แทบจะทุกวันจนเบื่อ แรกๆก็ต่อปากต่อคำกลับไป  มันก็ไม่จบสักที จนมีครั้งนึง เราต้องรีบไปเรียนพิเศษที่สยามต่อ มาอีกละ ดักไม่ให้ไปที่ประตูหลังรร. พวกรุ่นพี่ก็เริ่มใส่ๆๆๆเราจนเราเอือม แต่เราไม่พูดอะไรกลับไป ไม่ได้ไปทำอะไร ผิดเหรอที่หน้าเป็นอย่างนี้ สุดท้ายพวกนั้นก็เหนื่อย พักหายใจ เราก็เลยมีโอกาสขอตัวทิ้งท้ายว่า "เห่าจบยัง?" แล้วเราก็หยิบกระเป๋าขึ้นรถสามล้อไป ภาพเบื้องหลังที่เห็น พวกนั้นกรี๊ดๆอกแทบแตก เลยทำให้เรารู้ว่า ไม่จำเป็นต้องไปทำแบบเค้า แว๊ดๆแล้วเหนื่อยป่าวๆ โชคดีที่สมัยเรา ส่วนมากจะเป็นแต่พวกเก่งแต่ปาก ยิ่งมีพวกเยอะ ยิ่งกร่าง แต่สมัยนี้น่ากลัวจริงๆ เพราะว่าสภาพแวดล้อม และสถาบันครอบครัวมันเปลี่ยนไปเยอะ ครูที่สนิทกับเรามากคนนึงรู้เรื่องเราเยอะ เลยสอนเราว่า " ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชนะทุกทีไป การยอม ในบางครั้งมันก็ช่วยแก้ปัญหาได้" และอีกวลีเด็ดที่จะจำไปสอนลูก " สิบนิ้วพนมเข้าไปเหอะ มันไม่เน่าไม่กุดหรอก" จากคุณ : mommykitty เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 11:09:45

ความคิดเห็นที่ 86 อ่านแล้วนึกถึงแม่เราเลยค่ะเหมือนจขกท.ซึ่งจะให้ยอมคนก่อนแต่แม่เรายอมๆๆๆๆๆๆๆๆๆจนคนเอาเปรียบได้ง่ายๆ พอตอนนี้เรามีลูกเองเราก็กลัวเหมือนเวรกรรมเพราะเราแรงส์เหมือนกันแต่เรามีเพื่อนทั้ง 2 แบบ เลยรอดมาได้ อย่างน้อยเรายังโชคดีที่มีลูกชายเพิ่งได้ 2 เดือน เราจะสอนเค้าไม่ให้เป็นแบบนี้ ขอให้จขกท.โชคดีนะคะ จากคุณ : ชาดำเย็น30 (ชาดำเย็น30) เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 11:17:55

ความคิดเห็นที่ 87 ขอปรบมือให้ จขกท.ค่ะ  โอ้ว อ่านแล้วน่ากลัวจริงๆ  อย่าว่าแต่เด็ก ม.6 เลยค่ะ เด็กสาวๆ พอเริ่มมี ประจำเดือน ก็แก่แดดกันทั้งนั้นแล้วค่ะ เสือ สิงห์ กระทิง แรด เต็มบ้านเต็มเมือง สมัยก่อนก็ไม่เห็นมีอย่างนี้ เด็กมัธยม ถือ BB ไอโฟน เงินมาจากไหนก็พ่อแม่ทั้งนั้นค่ะ จากคุณ : สาวกโรตี เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 12:17:04

ความคิดเห็นที่ 88 ชื่นชม จขกท. มากค่ะ เลี้ยงลูกได้เก่งมาก ๆ จากคุณ : JUMคุณแม่ฝึกหัด เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 13:52:18

ความคิดเห็นที่ 89 ก่อนอื่นต้องขอชื่นชม จขกท. ค่ะ แต่อย่าว่ากันเลยนะคะถ้าจะบอกว่าอ่านแล้วไม่อยากมีลูกเลย จากคุณ : ploypin08 เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 13:52:27

ความคิดเห็นที่ 90 กรรม เราว่ารุ่นเราแรงแล้วนะ มีตบกันได้ทุกวัน สาเหตุมาจากมองกวน Teen แต่เราต้องขอยอมแพ้ให้เด็กเดี๋ยวนี้เล๊ย 11 รอดอ ขอยอมแพ้จริง ๆ จขกท.ใจเย็นมาก เป็นเรานะให้แหลกกันไปข้างหนึ่งแบบว่าเราอารมณ์ร้อนมาก ๆ คงต้องเอาอย่าง จขกท.แล้วหล่ะ เย็นจริง ๆ จากคุณ : Takaw เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 14:01:38

ความคิดเห็นที่ 91 เจ้าของกระทู้คะ คุณเลี้ยงลูกได้เยี่ยมมากๆค่ะ ขอยกนิ้วให้จริงๆ ตอนนี้ลูกชายเราเพิ่ง 5 เดือนเอง ยังห่วงว่าจะเลี้ยงเขายังไงดี จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 15:24:47

ความคิดเห็นที่ 92 มาต่อทีค้างไว้นิดนึงค่ะ เมื่อวาน จขกท.หลายสิ่งมาก เลยแอบงีบยาวเลย เมื่อวานแม่กับเด็กคนนั้น มาหาเรา ให้ลูกมาขอโทษเรา  แม่กลัวเราจะเอาเรื่องลูกเค้า เราก็บอกว่าถ้าเด็กมันไม่มีปัญหากันอีก เราก็จบตรงนี้ แต่ถ้ามีต่อ ก็จะไปจบที่โรงพัก เด็กก็รับปาก และขอให้เราบอกลูกเรา ว่าเค้าขอร้องอย่าพูดเรื่องเค้ากับพี ม.6 ที่ได้ยิน เราก็บอกให้สบายใจได้ ลูกเราก็เห็นใจเธอเหมือนกัน  เราถามเด็กตรงๆว่าคิดจะคบกับพี ม.6อีกมั๊ย เด็กบอกว่า   ยังไม่รู้ยังทำใจไม่ได้  เราบอกถ้าเป็นเรา ไม่เอาแล้ว ไม่รักนี่ก็ว่าเลวแล้ว ยิ่งไม่รับผิดชอบด้วย    มันตะกวดจริงๆ   แม่เด็กถามเราว่า ควรจะไปพูดกับพ่อแม่ผู้ชายมั๊ย  ความคิดเรานะ ให้เค้าห่างกันไปเลย  ยิ่งผู้ชายมันไม่เอาเราแล้ว ไปเรียกร้องก็เสียศักดิ์ศรีเปล่าๆ กลับมาเรียนหนังสือดีกว่า ไม่นานเดี๋ยวก็ลืม  ก็แล้วแต่คุณแม่นะ ตัวเราคิดแบบนี้ เด็กบอกเราว่า รักพี่คนนี้มาก คงลืมไม่ได้  เราถามว่า แล้วแม่หล่ะ เธอไม่รักเหรอ  ไอ้นั่น มันเป็นคนอื่น เมื่อวานมันรักมันก็ดี แต่วันนี้มันเลิก หน้าเรามันยังไม่มองเลย   แต่สำหรับแม่ ลูกจะเป็นยังไง จะค้ายา ฆ่าคน แม่ก็ยังรักลูกเสมอ เธอทำเรื่องขนาดนี้ แต่แม่ก็ยังรัก ยังให้อภัย ถึงลูกไม่มีความหมายสำหรับคนอื่น แต่ลูกมีค่าสำหรับแม่เสมอ  เราไม่อยากให้เธอถลำลึกลงไปกว่านี้   วันนึงข้างหน้า ถ้าเธอกลับมานึกถึงวันนี้ เธอจะรู้สึกเสียใจที่ทำมันไป  ถ้าเราทำดี  สิ่งดีดีก็จะเข้ามาให้ชีวิต  คิดให้ดี   แม่เด็กบอกว่าเค้าก็อยากจะพูดแบบนี้ กับลูก  แต่เค้าพูดไม่ออกมันจุกอยู่ในอก  เราก็ว่าต่อไปต้องคุยกับลูกให้มากขึ้นสนใจเค้าให้มากกว่าเดิม   และที่สำคัญ  อย่าตอกย้ำสิ่งที่ลูกทำผิดไปแล้ว ( และแล้วโทรศัพท์สายสำคัญก็เข้ามา ) เราก็บอกว่า ลูกเรากับเพื่อนเด็กมีเรื่องกัน  คุณครูเชิญให้ไปพบ  เด็กก็อาสาไปเป็นเพื่อน  เราก็บอกให้กลับไปพักผ่อนไปอยู่กับแม่  มีอะไรก็คุยกัน เด็กมาไหว้เราที่อก เรานี่จุกในคอเลย เด็กก็คือเด็ก  เค้าคิดอะไร ไม่เกินวัยของตัวเองหรอก  ถ้าเค้าได้ คำสอนที่ดี  สภาพแวดล้อมที่ดี  ตัวอย่างที่ดี  เค้าก็จะมองโลกในแง่ดี แม้บางครั้ง ต้องใช้เวลาในการปรับตัว เราก็ต้องอดทน จากคุณ : ไม่อยากอยู่เฉยเฉย เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 15:52:30

ความคิดเห็นที่ 93 เอ่อ แอบเป็นห่วงน้อง กลัวว่าอีกฝั่งจะไม่ยอมจบนะคะ เพราะไม่มีอะไรจะเสียแล้ว แฟนก็เลิกแล้ว แม่ก็รู้แล้วว่าทำแท้งมา ทำอะไรมาบ้าง  เรื่องก็ถึงครูแล้ว ไหน ๆก็พังหมดแล้ว เอาอีกฝ่ายให้พังด้วยแล้วกัน ยังไงระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะคะ เค้ารู้แล้วว่าจำนวนคนทำอะไรน้องไม่ได้ กลัวว่าจะมาแนวอื่น จากคุณ : เนเน่กับกระต่ายน้อย เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 16:07:26

ความคิดเห็นที่ 94 เมื่อตอนเที่ยง มีแม่ของเด็กอีกคน โทรมา บอกเราว่า ลูกเค้าแขนบวมมาก แผ่นหลังมีรอยช้ำ  เค้าให้เราไปคุย ไม่งั้นเรื่องยาว เราบอก เราขี้เกียจไปฝนตก อยากจะคุยให้มาที่บ้าน  เค้าบอกว่าเค้าไม่ยอมนะ  นี่มันทำร้ายร่างกาย  ไม่ใช่เด็กทะเลาะกัน เราก็ เออไม่ยอมก็แล้วแต่คุณ จะไปโรงพักก็ได้นะ  ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ก็ดี  ที่หลังถ้ามีปัญหากันอีก  จะได้ตามเรื่องถูก   ถามผู้ปกครองคนอื่นด้วยนะ จะได้ไปพร้อมกัน  ไม่อยากไปหลายรอบ  ฝ่ายโน้นก็ว่าเรานักเลง  ไม่มีศีลธรรม  ลูกเค้าเจ็บแทนที่ถามอาการ  มาเบ่งใส่เค้า  เราก็อ้าว ! คิดผิดคิดใหม่ก็ได้นะคะ พอรับสายคุณก็ใส่ชั้นเลย จะได้ถามมั๊ยเนี่ย แล้วคุณก็วางสายใส่ เฮ้อ! จะมีต่ออีกมั๊ยเนี่ย จากคุณ : ไม่อยากอยู่เฉยเฉย เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 16:11:31

ความคิดเห็นที่ 95 จขกท. วุฒิภาวะดีมากๆ เลยค่ะ จากคุณ : Guga เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 16:12:55

ความคิดเห็นที่ 96 จาก คห.94 คุณแม่ของน้องแขนบวม เค้าคงลืมคิดไปนิดหนึ่งนะว่า ถ้าเราจำไม่ผิด ตอนมีเรื่องกับลูก จขกท โดนรุมไม่ใช่เหรอค่ะ 5 ต่อ 1 เลยนะ(ถึงแม้ลูก จขกท จะเป็นเทควันโดก็เถอะ) แต่โดนรุมเนี่ยนะ ถ้าลูกคุณไม่ไปรุมเค้าก่อน เด็กก็คงไม่ตอบโต้ เอาใจช่วย จขกท นะคะ คงบอกได้ว่า มันคงยังไม่จบหรอกค่ะ คงมีจุกจิก กวนใจเข้ามาอีก ตราบใดถ้าอีกฝ่ายยังไม่ทำความเข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ว่า กลุ่มก๊วนลูกคุณที่เป็นอยู่ค่อนข้างแสบจริงๆ  เฮ้อเด็กสมัยนี้นะจริงๆเลย จากคุณ : mama N'opor เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 16:38:06

ความคิดเห็นที่ 97 อ่านกระทู้นี้แล้ว...อยากให้ลูกไปเรียนศิลปะป้องกันตัวไว้บ้างเลยค่ะ สังคมสมัยนี้...น่ากลัวมาก ไม่รู้อีกยี่สิบปีข้างหน้าจะยิ่งแย่กว่านี้สักแค่ไหน สถาบันครอบครัวอ่อนแอ...เราคงได้เห็นเด็กเกเรๆแบบนี้อยู่เรื่อยไปค่ะ จากคุณ : รักเฌอ..ประเทศไทย เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 16:56:16

ความคิดเห็นที่ 98 อ่านถึงนี่ จากคุณ : โสดเสมอเมื่อเจอผู้ชาย เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 17:29:43

ความคิดเห็นที่ 99 เด็กแต่ละคน สุดติ่งจริงๆ จากคุณ : very good tonight เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 19:32:09

ความคิดเห็นที่ 100 ตอนเด็กเรายังเคยเจอลากไปหลังห้องน้ำเลยค่ะ รุ่นพี่ 6 คน แต่เราคนเดียวสาเหตุเพราะเราไปกวนติงพี่เค้า ปากเราไม่ดีเอง ก็ตอนนั้นเรายังเด็กอยู่นี่ เราดันไปเรียกพี่เค้าคนนึงในกลุ่มว่าอ้วนดำ อ้วนดำ เราก็ไหว้ขอโทษพี่เค้า พี่เค้าก็โอเค ขอโทษแล้วไม่เอาเรื่องต่อ คงเห็นว่าเรายังเด็กอยู่มั้ง จากคุณ : Fairybox เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 20:05:42

ความคิดเห็นที่ 101 รออ่านต่อ จากคุณ : saengchot เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 20:31:18

ความคิดเห็นที่ 102 แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 55 02:35:44 จากคุณ : สาวน้อยเหล็กดัดฟัน เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 22:03:54

ความคิดเห็นที่ 103 สุดยอดคุณแม่เลยค่ะ ตามอ่านเมื่อกี้ อยากบอกว่า เนื้อหาสาระดีมาก ได้แนวคิดในการสอนลูกเยอะเลย แม้ตอนนี้จะอายุแค่ 4 เดือนและเป็นผู้ชาย 55+ แต่เอาไปประยุกต์ใช้ได้แหละ แล้วเผื่อมีลูกคนที่ 2 เป็นหญิง อิอิ กดโหวตให้ค่ะ **แก้คำผิดจ้า แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 54 23:43:11 แก้ไขเมื่อ 31 ธ.ค. 54 23:42:26 จากคุณ : junmino เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 23:42:04

ความคิดเห็นที่ 104 เมื่อวานพิมพ์ไว้ เเบตหมดก่อน หายเกลี้ยงเลย ถ้า จขกท เข้ามาอีก จะได้อ่าน คห. เราอีกนิดเนอะ เราว่าเด็กคนนั้นเเฟนรุ่นพี่นั่นน่ะ คงเลิกยุ่งกับลูกสาวเเล้วล่ะค่ะ เเต่เด็กคนอื่น เราว่าไม่จบเเน่เลย ยิ่งมีพ่อแม่เเบบนี้ พฤติกรรมมันตกมาถึงลูกค่ะ ให้ลูกรีบหาเพื่อนชายจริงหญิงไม่เเท้ไว้ก็ดี เพราะลางสังหรณ์เรามันบอกว่า ถ้าพวกชีลงมืออีก คราวนี้คงไม่ลงมือเอง ดีไม่ดีไปเอาผู้ชายที่ไหนมาลงมือ งานจะเข้านะ เข้าใจว่าลูกสาวเก่งพอตัว เเต่ผู้ชายหลายคนกับผู้หญิงคนเดียว ความเเข็งเเรงของร่างกายเเละสรีระมันก็มีผลกระทบอยู่ค่ะ ผู้หญิงยังไงก็สู้เเรงผู้ชายได้ยาก จริงๆนะ เมื่อก่อน เราไม่เคยมีเรื่อง ทั้งที่ทำตัวกร่างมาก กวนทีนประจำชั้น อาจเป็นเพราะเพื่อนชายเราเยอะมาก เเต่ละคนเด็กหลังห้องทั้งนั้น เลยไม่มีใครกล้ามั้ง(นะ) อีกอย่างนึง ถ้าใครได้มาอ่าน คห. เรานะคะ เราอยากจะบอกว่า รร ที่ว่าดี มีเเต่เด็กเก่ง หรือนานาชาติอินเตอร์ ยังไงก็มีเรื่องพวกนี้ค่ะ รร เรา ที่ว่าเด็กดี เด็กเก่ง ยังมีเลย รุ่นพี่ผู้หญิงปิดห้องรุมตบรุ่นน้อง สาเหตุเพราะความกวนทีนกันเเท้ๆเลย อีกกรณีก็ดักตบ ดักกระทืบกัน ความเลว เเละความคิดชั่วๆ มันไม่เข้าใครออกใครหรอกค่ะ ไม่ว่าสังคมจะดีเเค่ไหน ความรู้มากเเค่ไหน มีเงินทองก่ายกองเท่าใด เราคิดว่าที่ จขกท สอนลูก เเละลูกสาว ก็ทำถูกเเล้ว ทั้งคู่นะ เเต่ลูกสาวก็มีช่องโหว่อยู่ค่ะ เพราะเขามาเรียกตัวก็ออกไปกับเขา คราวหลังบอกไม่ต้องไปนะคะ ให้อยู่ในที่ๆคนเยอะ บอกครูได้บอกไป มันเสี่ยงมาก เกิดคราวหน้าเหล่าชะนีทั้งหลายมันเอายามาโปะเเล้วลากตัวออกไป มันจะเเย่กว่านี้มากๆ ยังไงก็ขอให้ไม่มีอะไรเลวร้ายกว่านี้เกิดขึ้นเเล้วกัน เด็กสมัยนี้น่ากลัวอะ จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 23:47:29

ความคิดเห็นที่ 105 คุณ darkheart ขอบคุณค่ะ เราเองก็เพิ่งนึกได้ ก็บอกลูกไปแล้ว ว่าทีหลังถ้ามาเรียก ห้ามไปเด็ดขาด  คุณลูกก็บอกว่า ตอนแรกไปด้วยอารมณ์ โมโห แต่พอไปถึงที่ ก็ปอดเหมือนกัน โชคดี ที่พวกนั้นไม่มีอาวุธ ไม่งั้นต่อให้ สายดำก็ได้นอนหยอดน้ำข้าวต้ม ตอนเย็นมีคุณแม่อีกท่านโทรเข้ามา บอกว่า แม่ของเด็กคนที่แขนเจ็บ โทรไปบอกว่า เค้าโทรมาบอกเราว่าลูกเค้าเจ็บ แต่เราพูดไม่ดี ไม่รับผิดชอบอะไร จะทำยังไงดี  เราก็ถามคุณแม่ว่า แล้วคุณว่าไง เธอก็บอกว่า เด็กมันก็ผิดด้วยกันทั้งหมดแหละ  เค้าก็อยากให้เรื่องมันจบ  เด็กก็สัญญาไว้ว่าจะไม่ทำอีก  ก็อยากให้โอกาสลูก  เราก็ขอบคุณที่เข้าใจ ไอ้นิสัยของเราก็คือล็อคอินนี้หล่ะ เราก็ไปโรงพยาบาล ซื้อรังนกไปเยี่ยม (เพื่อไม่สบอารมณ์ ได้เอากลับมาให้ลูกกิน อิอิ) โอ้!อยู่กันครบทีม เลย พอเห็นเรา ก็ไหว้เราอยู่คนเดียว (คู่กรณีลูกเรา)" ตายแล้ว ลูกลูกแขนเจ็บกันหมดเลยรึ ยกมือไม่ขึ้นเลย"  ???? เด็กทำหน้างง เราก็คิดในใจ พ่อแม่มันไม่บอก หรือ สันดอน มันเองวะ เราก็ถามอาการ เห็นใส่เฝือกอ่อน  เด็กก็บอกว่ามันปวดร้าวไปทั้งแขน จนไปถึงกลางหลัง(ก็แหงหล่ะ ดันไปเอาเล็บไปขูดหน้ายัยลูกเรา  ก็เลยโดนเต็มๆ ) เราก็ขอโทษเด็กไป เด็กคู่กรณี ก็บอกเราว่า เค้ามาคุยกับเพื่อนๆแล้ว ว่าเค้ากับลูกเราเคลียร์กันเรียบร้อย  ต่อไป จะไม่หาเรื่องกันอีก เราก็บอก แน่นะ แม่กลัวจะมีตลบหลัง เพราะยังไงแม่ก็ไม่ได้อยู่กับลูกแม่ตลอดเวลา  แม่กลัวว่ามีคนจะผูกใจเจ็บ พาคนอื่นมาทำร้ายลูกแม่อีก  เด็กคู่กรณีเค้าขอรับรองเองว่า  จะไม่อะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น  เราก็บอกว่าจะลองเชื่อซักครั้ง แต่เราก็ขู่ไปเหมือนกัน " จำไว้เลยนะ ต่อไปถ้าลูกแม่เป็นอะไร คนที่ทำจะโดนกลับเป็นสิบเท่า  ใครเอาผู้ช่ายมารุมเป็นลูกแม่เป็นสิบ  มันก็จะโดนกลับเป็นร้อย ลูกแม่เป็นแผลแค่เซ็นเดียว มันก็จะโดนกลับเป็น สิบเซ็น "(เฮ้อ! อายปากเหมือนกันนะ ขู่เด็กเนี่ย ) พอดีแม่เด็กที่เจ็บเดินเข้ามา เราก็ยกมือไหว้ (แม่เราสอนมาดี) เค้าก็งงๆนะ  มาได้ไง เราก็บอกว่า   ตอนที่คุยโทรศัพท์เห็นคุณแม่มีอารมณ์ เราก็เลยไม่อยากพูดอะไรมาก   แต่เป็นห่วงเด็ก ก็เลยมาเยี่ยม (ยิ้มหวานด้วยนะเราหน่ะ)  คุณแม่ไปไม่เป็นเลยอิอิ เค้าบอกว่าเห็นลูกเค้าเจ็บ เค้าก็เลยโกรธ ตอนนี้ดีขึ้น พรุ่งนี้เด็กก็กลับบ้านได้แล้ว เราก็หันไปอวยพรเด็กๆ แล้วลากลับ (คุยกันนานเดี๋ยว ของเข้าตัว อิอิ ชีเล่นนอนโรงบาลเอกชน ห้องพิเศษสุดสุด เราเอง ยังไม่เคยเข้ามาเห็นห้องนี้เลย ครั้งแรกนะเนี่ย หรูจัด) ขอแถมท้ายอีกนิด ตอนลงลิฟท์ เจอ นักเรียนคู่นึงอยู่ในลิฟท์ ก่อนแล้ว พอเราเข้าไป  ทั้งสองคนก้เข้าไปจุกอยู่ในมุม อีผู้ชายยืนโอบเอว ส่วนผู้หญิงก็ยืนพิงซบอก เราก็ถอนหายใจดังดัง สองสามครั้ง แล้วมองด้วยหางตา สงสัยเพิ่งรู้สึกตัว" ตัวเองปล่อยสิ น่าเกลียด"  จ้าพ่อคุณแม่คุณ คิดจะมาน่าเกลียด ตอนลิฟทืจะถึงชั้น 1แล้ว  อิชั้นเหล่คุณๆตั้งแต่ชั้น6 นะจ้ะ แล้วเวรกรรม จอดมอ'ไซค์ใกล้กันอีก  บิดกุญแจทีหอมแก้มที สตาร์ทรถก็หอมแก้มกันอีกที สงสัยอิชั้นคงจะเป็นอากาศธาตุ มันมองไม่เห็นกรูบ้างรึไงวะ เราก็ภาวนาให้มันจบนะ โรงเรียนก็ปิดหลายวันอยู่ ช่วงนี้ก็เลยออกกฎอัยการศึก กับคุณลูก ห้ามไปไหน เด็ดขาด  นอกจากเราจะไปด้วย ก็เลยต้องไปเป็นบอดี้การ์ดหน้าเหี่ยวเฝ้าลูก ในงานเค้าท์ดาวน์ (ลูกมีการแสดงบนเวที) ขออีกที  เฮ้อ! จากคุณ : ไม่อยากอยู่เฉยเฉย เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 01:44:19

ความคิดเห็นที่ 106 คุณ จขกท คล้ายๆ แม่เราเลยค่ะ เพื่อลูก ได้เสมอ มีครั้งนึง เราเล่นแบตอยู่หน้าบ้านกับเพื่อนๆ ก็ค่ำๆ หน่อย แต่ไม่ดึกมาก สงสัยเสียงดังไปหน่อย มีลุงแถวบ้าน เดินออกมาด่า ด่าแบบเสียๆ หายๆ ด่าถึงพ่อแม่เลย ไม่สั่งสอน เราก็เงียบๆ เข้าบ้านไป พอดีวันนั้นแม่เราไม่อยู่บ้าน วันต่อมา แม่เรากลับมาบ้าน เราเล่าให้แม่ฟัง แม่เราเดินไปตะโกนเรียกบ้านนั้นเลย ออกมาเคลียร์เลย ลุงแกไม่ได้ออกมา แต่แฟนลุง ป้าแกออกมาแทน แม่เราก็พูดดีๆ แหละ ทำไมพี่ เด็กมันก็มีเล่นบ้าง เสียงดังบ้าง ก็พูดดีๆ บอกดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องด่า ป้าแกขอโทษแม่เราใหญ่ บอกเมื่อวานลุงแก ไม่สบาย ไรงี้ แล้วมีบอกอีกว่า พี่ว่าแล้วน้องต้องไม่อยู่แน่ คือเพราะถ้าแม่เราอยู่ ได้ฉะกันแน่นอน แม่เราไม่ยอมอยู่แล้ว แม่บอกว่า ตอนสาวๆ แม่แสบมากเหมือนกัน เรียนพาณิชย์อ่ะ ใครมาหาเรื่อง ไม่รอดแน่ ตอนมัธยมเราไม่ค่อยมีเรื่องอ่ะค่ะ เพราะเราออกแนวฮาๆ บ้าบอ มีเพื่อนหลายห้อง ทักไปเรื่อย แล้วเราก็ไม่สวยด้วย เลยรอดตัว จากคุณ : kisschup เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 03:10:35

ความคิดเห็นที่ 107 ็เห็นใจคุณจขกท จริงๆ ค่ะ เด็กสมัยนี้พูด "ผัว" ได้อย่างไม่อายปาก ขนขึ้นครบหรือยังก็ไม่รู้ ขนาดดิฉันเองแต่งงานแล้ว อายุก็เยอะแ้ล้ว ยังกระดากปากจริงๆ ทีจะเรียกแฟนตัวเองว่าผัวอ่ะค่ะ ในเฟซมีแฟนเก่าของหลานชายแอดอยู่ พึงจะม.4 เองค่ะ บอกว่าปีใหม่นี้ "อยากได้ผู้ชายผูกโบว์ซักคน" เฮ้อ... อีป้านี้จะบ้าตาย ทำไมเด็กสมัยนี้มันหยาบคาย หยาบโลนแบบนี้ เออ ขอให้เรียนเก่งๆ สอบเข้ามหาลัยได้นี้ก็ว่าไปอย่าง เป็นลูกเป็นหลานรักตายเลย เด็กสมัยนี้คิดว่าการพูดผัวการพูดอะไรแรงๆ ให้คนอื่นเห็น คิดว่ามันเทห์ มันจ๊าบบ้างล่ะ แต่จริงๆ แล้วเป็นโรคปอดซัก 80% เอาจริงหางจุดตูดฟ้องพ่อฟ้องแม่ ยังไงก็ขอเอาใจช่วยคุณจขกทค่ะ และอยากให้คุณพ่อแม่ลองสมัครเฟซแกล้งๆ สอดส่องลูกหลานด้วยนะคะ ถ้าเห็นเขาเป็นแบบนี้ก็ค่อยตักเตือนค่ะ แบบว่ากังวลใจในอนาคตของชาติจริงๆ ภาวนาว่ามันเป็นแค่ความคิดเด็กๆ เท่านั้น โตขึ้นคงคิดได้และปรับเปลี่ยนตัวค่ะ จากคุณ : เนนนา เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 05:39:24

ความคิดเห็นที่ 108 เป็นเรา เห็นพ่อแม่พวกมันไม่สำนึก เราคงท้าตบกะพวกนั้นตั้งแต่อยู่ที่ รร ละ หมันไส้ ปากเก่งดีนัก จากคุณ : Disciple de Alexandra Cabot เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 08:04:42

ความคิดเห็นที่ 109 เด็กสมัยนี้น่ากลัวจัง เราเคยทำงานอยู่สถานพีนิจ มีทั้งเด็กหญิงและชาย ที่เราว่าน่ากลัวกลับเป็นเด็กผู้หญิง แสบกว่า ร้ายกว่า เรื่องเยอะ เล่าในนี้ไม่ได้ง่ะ ส่วนเพื่อนเราทำงานสอนพิเศษเด็กม.ปลาย แต่เป็นแบบสนิทกะเด็ก คอยสอน คอยแก้ปัญหา เพื่อนเราทำตัวเข้าแก๊งเด็กได้ แต่งตัวก็เปรี้ยวสุด ๆ จนเด็กต้องเอาเป็นโมเดล เพื่อนคอยเล่าให้ฟังถึงวีรกรรมและแนวคิดของเด็ก สรุปได้ว่า "แย่มาก" เรืองเรียนไม่ต้องพูดถึง ไม่อยู่ในวิสัยของเด็กสมัยนี้ มาเรียนก็คือการมาหาเพื่อนหรือหาแฟน ส่วนแนวคิดก็สุดบรรยาย ขนาดในห้องเรียนพิเศษ ยังมีการด่ากระทบกระทั่งกัน จองที่นั่ง หรือรวมกันเกลียดคนที่เพื่อนของตัวเองไม่ชอบ เอามาเล่านินทากันทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้จักกะขาเลยด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องรุมทำร้ายกันก็เป็นเรื่องธรรมดา ตามข่าว บางครั้งผู้หญิงหน้าตาดี เรียนดี ผู้ชายมาชอบแล้วแต่ผู้หญิงไม่สนใจ โดนสาดน้ำกรดก็มี เยอะเนอะ ส่วนเรื่องของ จขกท เราว่าระวังไว้ต่อดีกว่าค่ะ เด็กผู้หญิงคนนั้นอาจทะเลาะกับครอบครัวตัวเอง และกับ ผช เลยอาจพาลต่อกับคุณและลูกคุณได้ แจ้งทางรร. และแจ้งตำรวจไว้เลยดีกว่า ดำเนินคดีไปก่อน เคสของเด็กนี่เขาจะมีนักจิตวิทยาดูแลนะคะ ผญ.คนนั้นอาจจะโชคดีได้พบนักจิตและสภาพจิตใจดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อความสงบสุขของลูกคุณด้วย เราก็คิดในแบบคนเคยทำงานด้านเนี้ย ถ้าคุณอยู่กทม. ลองไปคุยกะตำรวจเจ้าของพื้นที่ แล้วถามถึงนักจิตวิทยาที่โรงพักนั้นเชิญมาประจำก็ได้ เขามีอยู่ค่ะ ถ้าเป็นคดีความ คุณอาจขอคุยกะนักจิตถึงจุดประสงค์ของคุณไว้ก่อนเลย และคุณไม่ต้องห่วงไปถึงเด็กผญ.คนนั้น เขาไม่ถึงกะติดคุกหัวโตหรอกค่ะ ขอให้ปลอดภัยกันทุกคนนะคะ สวัสดีปีใหม่ด้วยเลยละกัน 55 จากคุณ : Pinkjung เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 09:00:27

ความคิดเห็นที่ 110 เมื่อก่อนเราก็เคยเรียนพวกศิลปป้องกันตัว เทควันโดก็เคยเรียนอยู่พัก เมื่อไม่กี่ปีก่อนเราเห็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ นักเทควันโดทีมชาติถูกยิงเสียชีวิต พออ่านเนื้อข่าวแล้วก็อึ้ง เพราะคนทีเสียชีวิต เป็นนักเรียนเทควันโดรุ่นน้องที่นิสัยดี เสียชีวิตด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง แค่มองหน้า กัน คู่อริตามมายิงซะงั้น การเรียนศิลปป้องกันตัวมันก็ดี แต่พึงระลึกไว้เสมอ การป้องกันตัวที่ดีที่สุดคือ การไม่นำพาตัวเองไปสู่การมีเรื่อง (อย่านึกว่าเก่งมีฝีมือเอาตัวรอดได้) จริง ๆ การเรียนศิลปป้องกันตัวที่ดี ต้องฝึกการควบคุมจิตใจควบคู่ไปด้วย หลีกเลี่ยงการมีเรื่องเป็นดีที่สุด เพราะการใช้กำลังไม่เคยนำมาซึ่งสันติที่แท้จริง จากคุณ : มุนีน้อย เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 11:47:19

ความคิดเห็นที่ 111 คนแบบนี้มีเยอะค่ะ   ตอนเราเป็นเด็กใหม่ของรร.แห่งหนึ่ง  มีเพื่อนในห้องไม่ชอบหน้าเรา  เคยหาเรื่องพาลจะตบเราเอาให้ได้  แต่เราก็หาทางเลี่ยงตลอด  เคยโดนแค่เดินมากระแทกที่ไหล่แรงๆ  แต่เราทำเป็นไม่สน  ตอนนี้เพื่อนในห้องคนนั้นมันได้เป็นดาราแล้วค่ะ  ทำตัวเรียบร้อยเชียว  ทั้งที่จริงเคยหนีตามผู้ชาย  ท้าตบ  แซวผู้ชายข้ามรร.จนคุณครูต้องทำโทษมาแล้ว  ที่เราโดนแกล้งก็เพราะว่าเราไม่ยอมเข้ากลุ่มนั้นค่ะ  มันหาว่าเราแรดเงียบ  เฮ้อ........ตอนนั้นก็ทุกข์สุดๆเลยค่ะ จากคุณ : PapikaS เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 12:57:12

ความคิดเห็นที่ 112 เฮ้อคุณแม่คะ ลงบนทึกประจำวันไว้เถอะค่ะ ในฐานะที่โตมากับเด็กสมัยนี้ (แต่คนละรุ่นกัน) ขอบอกว่าพวกเธอทำได้มากกว่าที่คุณคิด ปากบอกว่าดี พ่อแม่รับรู้ ขอโทษขอโพย แต่มันเจ็บกันแล้วมันจำ เมื่อไรที่คุณแม่เผลอมันจัดการอีกแน่ จากคุณ : Anya Anya เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 19:27:31

ความคิดเห็นที่ 113 เราเติบโตมาในสังคมที่เป็นโรงเรียนรัฐบาล ห้องท้ายๆ พูดตรงๆนะ  มันแย่มากกกกกกกกกกกกกกกก คนที่ได้เรียนต่อมอ 4 นี่เหมือนการร่อนหาทองเลยทีเดียวแหละ จบมอ 3 ท้อง มีลูกไปครึ่งห้อง นอกนั้นเป็นเด็กนั่งดริ๊งบ้าง บางครั้งอิพวกเด็กนั่งดริงค์ เจอเราก็ตะโกนทัก บอกตามตรง (กรุไม่อยากจะรู้จักคุณเล๊ยยยย) การเลี้ยงดู การบ่มทัศนะคติ รสนิยม มาจากครอบครัว ก่อน!!!! ครอบครัวเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง  การใช้เวลากับลูก ขอรับประกันว่าคุณจะเห็นผลเมื่อเค้าโตขึ้น ลูกของคุณจะสะท้อนให้เห็นการเีลี้ยงดูว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้เราเรียน ปี 3 แล้ว  มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศเราเนี่ยแหละ เราภูิมิใจที่ผ่านจุดๆนั้นมาได้ แล้วก็คิดว่ามีภูมิต้านทานมากพอ ที่จะอยู่ร่วมกับคนหลายๆแบบ แต่ถ้าถามว่าเวลาช่วง ม.1-3 น่าจดจำไหม   ไม่ค่อยนะ    น่ารำคาญ ฟังแต่เพื่อนขยันหาผัวกัน เบื่อ จากคุณ : ฮิปโป-โป๊ เตมัส O.,o เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 55 22:59:07

ความคิดเห็นที่ 114 อ่านจบ จะเป็นลม ชื่นชมคุณจขกทจังค่ะ ชมเชยคุณลูกสาวด้วยนะคะ อยากได้ลูกสาวแบบนี้จัง ^ ^ จากคุณ : รักแม่นะคะ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 04:34:04

ความคิดเห็นที่ 115 เราเป็นเหมือนคห.113 เติบโตในสังคมโรงเรียนรัฐแถวบ้านห้องท้ายๆ เหมือนกันในช่วงตอนม.ปลาย (ส่วนตอนม.ต้นจบอีกที) ตอนม.4 เราก็โดนเพื่อนในห้องแกล้ง แต่แม่เราก็บอกว่าให้อดทน อย่าไปตอบโต้ สักวันเวรกรรมจะตามทันพวกนั้นเอง ตอนนั้นเราก็เหนื่อยและเจ็บนะ แบบว่าท้อไม่อยากไปโรงเรียนเหมือนกัน (ช่วงนั้นก็คิดตลอดว่าเวรกรรมมันมีจริงหรือ แล้วมันจะตามพวกนั้นจริงหรือ) แต่สุดท้ายพวกนั้นก็ได้รับกรรม โดยที่เราไม่ได้ไปทำอะไร พวกนั้นก็แตกคอกันไป หนีตามผู้ชายไปบ้าง ถูกพักการเรียนบ้าง พอเราขึ้นม.5 ก็ไม่มีเรื่องพรรค์นี้ให้เหนื่อยกาย เหนื่อยใจแล้ว เรียกว่าช่วงม.ปลายสร้างภูมิต้านทานให้เราเยอะ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตจริงเยอะ ถึงจะรู้สึกแย่ตอนนั้น แต่พอผ่านมันมาได้ เราก็รู้สึกแกร่งขึ้น... และที่สำคัญมันทำให้เรารู้ว่า "เวรกรรมมีอยู่จริง" จากคุณ : comicclubs เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 21:31:44

ความคิดเห็นที่ 116 คืออ่านแล้วคิดตามแบบว่ามันส์มาก  ผมเองอยากเป็นพ่อที่ดีพยามเก็บเกี่ยวประสบการณ์การเลี้ยงลูกต่างๆ ผมมองดูว่า จขกท. ค่อนข้างจะเป็นกลางดีทีเดียว คงเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือท่านนึง  ตอนนี้ผมอยากมีลูก  ก็ไม่กล้าอยากมาก กลัวอยากมากแล้วจะไม่มี 555  อีกอย่างที่สำคัญกว่าผมต้องพยามเป็นสามีที่ดีให้ได้ก่อน นับถือ จขกท.นะครับ ^^ จากคุณ : CC.mand เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 21:45:54