ความคิดเห็นที่ 1 2 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 00:55:00

ความคิดเห็นที่ 2 3 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 00:55:15

ความคิดเห็นที่ 3 4 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 00:55:30

ความคิดเห็นที่ 4 5 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 00:55:45

ความคิดเห็นที่ 5 6 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 00:56:03

ความคิดเห็นที่ 6 7 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 00:56:28

ความคิดเห็นที่ 7 8 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 00:56:54

ความคิดเห็นที่ 8 9 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 00:57:18

ความคิดเห็นที่ 9 10 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 00:57:37

ความคิดเห็นที่ 10 11 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 00:57:53

ความคิดเห็นที่ 11 12 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 00:58:08

ความคิดเห็นที่ 12 13 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 00:58:22

ความคิดเห็นที่ 13 14 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 00:58:37

ความคิดเห็นที่ 14 15 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 00:58:50

ความคิดเห็นที่ 15 16 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 00:59:04

ความคิดเห็นที่ 16 17 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 00:59:47

ความคิดเห็นที่ 17 18 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 01:01:00

ความคิดเห็นที่ 18 19 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 01:01:15

ความคิดเห็นที่ 19 20 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 01:01:27

ความคิดเห็นที่ 20 21 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 01:01:39

ความคิดเห็นที่ 21 22 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 01:01:52

ความคิดเห็นที่ 22 23 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 01:02:06

ความคิดเห็นที่ 23 24 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 01:02:24

ความคิดเห็นที่ 24 25 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 01:02:48

ความคิดเห็นที่ 25 26 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 01:03:06

ความคิดเห็นที่ 26 27 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 01:03:19

ความคิดเห็นที่ 27 จบแล้วค่ะ จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 01:22:15

ความคิดเห็นที่ 28 I think it's called WHO CODE. แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 55 03:30:51 จากคุณ : unflashgal เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 03:29:30

ความคิดเห็นที่ 29 คห.28 ถ้าคุยกับชาวต่างชาติก็คงต้องอย่างนั้นมั้งคะ WHO CODE, MILK CODE นอนดึกจังเลย  อยู่เมืองไทยรึเปล่าคะเนี่ย :) จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 07:25:05

ความคิดเห็นที่ 30 ตอนคลอดปลาเข็มเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ทางเนิร์สที่ดูแลน้องแจ้งนะคะ  ว่าทางรพ.ไม่สามารถให้นมผงน้องกลับบ้านได้ (ผิดเรื่องข้อตกลงไรซักอย่าง  คาดว่าจะเป็นอันนี้) คุณแม่ต้องไปซื้อเอง  แต่พอกลับมาบ้านในกระเป๋ากลับบ้านก็มีนมอยู่ 1 กระป๋องแบบเนียนๆ ตอนนั้นเรายังไม่มีนมให้ลูกกินค่ะ จากคุณ : ก้นครัวบ้านปลาเข็มน้อย เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 08:35:22

ความคิดเห็นที่ 31 ฮิฮิ คุณ joymacy เราอยู่เมืองไทยนี่เเหละค่ะ แต่ตอนนั้นตื่นมาเพราะลูกดิ้นเยอะค่ะ แล้วโทรศัพท์เราปุ่มภาษาไทยมันกดลำบากเราเลยเม้นท์เป็นภาษาอังกฤษแทนค่ะ พอดีเราทำงานอยู่บริษัท FMCG แห่งนึงค่ะเลยพอทราบเรื่องนี้บ้าง จากคุณ : unflashgal เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 11:02:38

ความคิดเห็นที่ 32 จริงๆ แล้วก็ดีอย่างเสียอย่างนะ บางครั้งก็จนปัญญาจริงๆ คะ ตอนลูกคนแรกน้ำนมไม่มีเลย ไหลน้อยมากๆ ลูกกินไม่อิ่ม ร้องอยู่เป็นคืนเป็นวัน จนตัวเหลือง ตาเหลืองต้องเข้า รพ.อีกรอบ กรณีนี้ก็ต้องขอขอบคุณนมผงจริงๆ (ไม่ขอบอกยี่ห้อแล้วกัน เผื่อจะผิด Code) แล้วก็นมผงมาตลอด เพราะนมแม่มันไม่พอสำหรับลูก ถ้าไม่มีการผลิตหรือจำหน่ายนมผง หรือการแจกตัวอย่าง ก็ไม่ดีเลยซะทีเดียวนะ เพราะคนที่2ก็ยังมีปัญหาเรื่องแพ้นมอีกต่างหาก (แม่กินนมวัว พอกินนมแม่ก็เลยมีปัญหา) แต่ตอนนี้ก็เลยงดนมวัว ทั้งแม่และลูก ก็สรุปอยู่ที่นมแม่นั่นแหละ... ถ้าจะถามว่าดีมั้ยก็ดีคะประหยัดแต่ นมเรามีน้อย(แม้ยังอุตส่าห์ไหล) น้ำนมน้อยมาก เธอก็ยังดูด จน 1.4ปี ก็ยังคงไหลอยู่เพียงน้อยนิด น้ำหนักก็ 9โล ตัวเล็กมากๆ ขอบคุณ จขกท.คะสำหรับข้อมูลดีๆ จากคุณ : kansakx_aj5 เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 11:08:47

ความคิดเห็นที่ 33 แบบว่า..ซีเรียสไปหรือเปล่าคะ (คอมเมนต์จะล่อเป้าไหมเนี่ย) เราว่าการมาต่อต้านการตลาดของบริษัทนมเช่นการทำหนังสือเล่มนี้ออกมาเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุนะคะ เราว่าการให้ความรู้กับคุณแม่มือเก่าและมือใหม่จากสถานพยาบาล เช่นโรงพยาบาลผ่านคุณหมอ หรือพยาบาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แม่ๆ เข้าใจว่านมแม่มีประโยชน์อย่างไร และนมผงถึงแม้จะแพงแค่ไหนก็ทดแทนกันไม่ได้จะดีกว่าไหมคะ และนมที่ให้ไปเป็นนมที่เข้ามาเสริมเมื่อกรณีนมคุณแม่ไม่พอกินเท่านั้น เพราะว่า..คุณแม่บางคนนมมาน้อย หรือมาช้า (เหมือนเราเป็นต้น) การให้นมผงเด็กก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่เป็นตัวเสริมให้กับลูกเพื่อไล่ขี้เทา กันโรคตัวเหลืองในช่วงแรกเกิด และช่วยเสริมจากนมแม่ให้น้องอิ่มเมื่อนมแม่ไม่พอกินได้เหมือนกันนะคะ ส่วนการแจกนมกลับบ้าน สำหรับเราแล้วเฉยๆ นะคะ เพราะยังไง ถ้านมแม่ยังไม่มา หรือมาไม่พอ ลูกไม่เข้าเต้าเพราะเหตุผลหลายๆ อย่างเช่นแม่หัวนมสั้น หัวนมบอด หัวนมใหญ่กว่าปากลูกมากเกินไปและอื่นๆ ก็ต้องออกไปซื้อนมผงมาอยู่ดีแหละคะ และแม่บางคนไม่ได้ศึกษาว่ามีนมผงชนิดไหนบ้างแบรนด์ไหนบ้างก็จะเป็นเหยื่อการตลาดจากบริษัทนมที่โฆษณาผ่านทีวีมากๆ อยู่ดีคะ และการรณรงค์ว่า..นมแม่มีประโยชน์ที่สุด ให้ลูกกินแต่นมแม่อย่่างเดียว มันก็เป็นการที่ทำให้คุณแม่ๆ ที่น้ำนมน้อยเครียดมากขึ้นนะคะ ยิ่งเครียดนมน้อยก็ยิ่งตะบี้ตะบันปั้ม ปั้มมาได้น้อยก็ยิ่งเครียดไปกันใหญ่ เราว่ามารณรงค์ให้เดินทางสายกลางดีกว่าคะ ถ้าคุณแม่ท่านใดมีนมแม่ให้ลูกดื่มก็ควรให้ดื่มไปเพราะมีประโยชน์ที่สุด และช่วยป้องกันภูมิแพ้และอื่นๆ ได้ดี แต่ในกรณีที่คุณแม่น้ำนมน้อยก็ให้นมแม่ไปตามปกติและให้นมผงเสริมเมื่อลูกทานไม่อิ่มจะดีกว่าคะ จากคุณ : Morsor เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 12:27:59

ความคิดเห็นที่ 34 เราคิดของเราง่ายๆนะ ว่าถ้านมวัวมันดีกว่านมแม่แล้ว วัวมันก็ต้องฉลาดกว่าคนอ้ะดิ จากคุณ : กลมมี่ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 13:10:18

ความคิดเห็นที่ 35 คุณคห.ที่ 33 เราขอตอบกรณีแม่หัวนมใหญ่เกินปากลูก ลูกดูดไม่ได้นะคะ เป็นกรณีที่เกิดกับเราเองค่ะ ลูกทำได้แค่งับ ๆ ซึ่งทำให้หัวนมแตก และเจ็บปวดมากเลือดไหลเลย แต่เราไม่ให้ลูกกินนมผงค่ะ  เราปั๊มใส่ขวดให้ลูกกินแทน จากคุณ : เหมียวน้อยไร้เวทย์ (NonMagicKitty) เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 13:19:31

ความคิดเห็นที่ 36 สุดโต่งเกินไปครับ อะไรก็ตาม ทางสายกลางย่อมดีที่สุด จากคุณ : americano เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 14:18:27

ความคิดเห็นที่ 37 ดิฉันคิดว่าไม่สุดโต่งเกินไปหรอกค่ะ เรื่องทั้งหมดมันคือความจริงค่ะ จากคุณ : jansudajs เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 14:39:29

ความคิดเห็นที่ 38 รพ.ที่เราไปคลอดน้อง ก็มีนมผงตังอย่างวางอยู่หน้าห้องหมอตรวจค่ะ ตอนนั้นสนแต่นมแม่เลยไม่ได้สนนมลูก เพราะกะจะให้ลูกกินนมแม่อยู่แล้ว ในที่สุด วันนึงต้องไปข้างนอก ไม่ได้ปั๊มนมให้ลูกไว้ ก็นึกได้เฉพาะยี่ห้อนั้น แล้วน้องก็กินยี่ห้อนั้นจนถึงงบัดนี้ค่ะ มีผลต่อการรับรู้และเลือกของเราจริงๆค่ะ จากคุณ : puangchan เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 14:55:35

ความคิดเห็นที่ 39 เราว่าไม่สุดโต่งหรอกนะคะ การโฆษณานมว่าดีนู่น นั่นนี่ เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้แม่ ๆ คิดว่ามันดีกว่านมแม่ เราเองยังโดนว่าว่ายังให้นมอีกเหรอ ไม่มีประโยชน์แล้ว นมวัว นมแพะดีกว่า บางทีเล่นเอาเซงค่ะ วัวมันกินแต่หญ้าดีกว่านมเราตรงไหนหว่า บำรุงแล้วบำรุงอีก เพื่อลูกยังโดนว่าแบบนี้ บางทีไม่อยากคุยด้วยเลยค่ะ การโฆษณาเวอร์เกินไปมีผลจริง ๆ นะคะ จากคุณ : หวานใจไกด์สเปน เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 14:59:46

ความคิดเห็นที่ 40 ตอนนมแม่ยังไม่มาเราก็ให้ลูกกินนมผสมที่ได้รับแจกจากโรงพยาบาล พอเลิกปั๊มนมเราก็ให้ลูกกินนมยี่ห้อที่ได้รับแจกจากโรงพยาบาลจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ จากคุณ : ลูกหมามุ่ยแม่หมาว้อ (Scudetti) เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 15:10:02

ความคิดเห็นที่ 41 ส่วนตัวคิดว่า แม่ที่เลือกให้ลูกทานนมผง จะใช้นมที่ได้รับแจกมาจาก รพ. เพราะคิดว่าดีที่สุด ไม่งั้น รพ.คงไม่เลือกให้  แต่การที่มีนมผงอยู่ไกล้มือ มันง่ายมากที่จะหยิบใช้...หมด  1 กระป๋องแรกที่เสริมให้ลูก ก็จะเป็นช่วงที่นมแม่แห้งหายไปพอดีกัน จากคุณ : jansudajs เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 15:16:59

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้ามีกฏเกณฑ์ออกมาชัดเจน ทำให้เป็นกฏหมาย พยาบาลจะได้เลิกแจกนมกระป๋องให้แม่มือใหม่ เพราะผิดกฏหมายไม่คุ้มกับค่าคอมแจกนม ไม่ใช่ว่าเค้าใจดีหยิบมาให้ฟรีๆ นะคะ แจกแล้วเค้าต้องขอชื่อ-เบอร์โทรของผู้รับด้วย ประมาณ 2-3 เดือนต่อมาอาจมีใครโทรมาเช็คว่าได้รับของตัวอย่างจริงๆ อาจจะถามว่า "น้องทานนมเป็นอย่างไรคะ ทานนมแม่เหรอคะ แต่นมแม่หลัง 6 เดือนก็ไม่มีประโยชน์แล้วนะคะ" ฯลฯ น้อยคนที่ไม่เคยเจอ ตามที่คห.40 ได้ตอบไว้ แจกนมผงจากที่รพ. ส่วนมากเริ่มยี่ห้อไหน ถ้าลูกไม่ป่วย ส่วนมากคุณแม่จะไม่เปลี่ยนยี่ห้อค่ะ ดังนั้นให้ฟรี 1 กระป๋อง มันคุ้มค่ากับการได้ลูกค้าที่จะอุดหนุนกันต่อเป็นปีๆ ค่ะ หลายๆ คนเคยเป็นแม่มือใหม่ เหนื่อย กังวล หวั่นไหวง่ายว่าลูกจะได้นมไม่พอ ทารกส่วนมาร้องเก่ง นอนกลางวันตื่นมากินตอนกลางคืน งั้นอะไรที่ใกล้ๆ มือ ก็นมผงที่แจกมาน่ะค่ะ ป้อนไม่กี่ทีลูกก็ติดจุกไม่เอาเต้าแม่ บางคนอาจคิดว่านมไม่พอลูกจึงหงุดหงิด บางคนก็ต้องอดทนปั๊มนมให้ลูกกิน แต่มันเหนื่อยกว่าการเข้าเต้ามาก ถ้าห้ามโฆษณา + ให้ความรู้จริงจังเรื่องนมแม่  ประโยชน์จะตกอยู่กับผู้บริโภคค่ะ ไม่ใช่ใครจะได้กำไร แต่จะเป็นพวกเราเอง ใครมีเงินก็ไปซื้อได้ค่ะ ไม่ได้ห้ามซื้อนะคะ แต่อย่าโฆษณา ทำให้สมาชิกที่บ้านหวั่นไหวและกดดันแม่ที่ให้นมอยู่แล้วต้องชงนมให้ลูกกิน เพราะคำโฆษณาอวดอ้างที่มากเกินจริงนั่นเองค่ะ :) จากคุณ : Narcosis เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 15:59:02

ความคิดเห็นที่ 43 ส่วนตัวเราก็เข้าใจตลอดค่ะ ว่านมแม่ดีที่สุด และถ้าเป็นไปได้อยากให้นมแม่มากค่ะ คิดว่าประหยัดดี ; ) แต่ว่าปัญหาที่กังวลคือ เราเป็นคนทำงาน ลางานก็ได้แค่ 3 เดือน  ถ้าเราให้นมแม่ตลอดแล้วหลังจาก 3 เดือน ทำไงล่ะ ถ้าเค้าติดเต้าล่ะ ก็เลยคิดต่อไป งั้นก็ต้องปั๊มนมแม่ใส่ขวดดีกว่า ให้ลูกกินขวด แล้วถ้าปั๊มนมแม่เก็บๆไว้ ตอนไปทำงานเราจะปั๊มยังไง แล้วเราจะเอานมแม่ไปไว้ที่เนิสเซอรี่ยังไง เค้าจะมีตู้เย็นให้เก็บมั๊ย และด้วยอาชีพอย่างเรา ไม่สะดวกปั๊มแน่ๆค่ะ งั้นเราก็ต้องตุนตอนหยุด 3 เดือนเยอะๆใช่ป่าวแล้วเวลาไปห้างล่ะ  ไป ตจว ล่ะ เราจะต้องทำไง คือเราคิดเองอะค่ะ ว่าดูวุ่นวายจัง เราเลยคิดเองอีกว่าก็คงให้ผสมๆกัน ทั้งนมแม่ละนมป๋อง  ถ้าให้ดีเราว่าควรให้แม่ลางานได้ 6 เดือนจะดีกว่า ; ) จะตั้งใจให้นมแม่เลย อิอิ เราไม่รู้เราคิดถูกป่าว แต่ความน่าจะเป็นกับชีวิตเราน่าจะเป็นแบบนี้ ปล. เพิ่งตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนค่ะ ไม่มีประสบการ์ณ เลยคิดเอาจากความน่าจะเป็นของชีวิตเรา แต่ถ้าเราเป็นคุณแม่ full time เราก็ตั้งใจให้นมแม่แน่ๆค่ะ จากคุณ : pertrucci เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 18:36:25

ความคิดเห็นที่ 44 คุณแม่ใจเย็นๆนะคะ ให้นมแม่ เก็บสต็อกนมแม่ไม่ได้ยากเย็นวุ่นวายขนาดนั้นค่ะ ไม่ต้องคิดมากนะคะ ยังมีเวลาให้ศึกษาข้อมูล ศึกษาวิธีเก็บสต็อกนมแม่ค่ะ คุณแม่ทำได้อยู่แล้วค่ะ จากคุณ : jansudajs เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 18:44:40

ความคิดเห็นที่ 45 ตอนเราคลอดทั้งท้องแรก และท้องสองได้รับตัวอย่างนมผงพร้อมชุดกิ๊ฟท์เซ็ทมาเป็นกระเป๋า เยอะแยะเต็มไปหมดค่ะ ลูกคนแรกก็หม่ำเอาซะด้วย แต่คนที่สองนี้นมแม่ล้วนค่ะ จากคุณ : แม่ไอเดีย-ไอคิว (skw_dy) เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 20:42:37

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ pertrucci เราเองก็ทำอาชีพที่ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลาค่ะ เป็นผู้แทนยา ดูแลภาคตะวันออกทั้งหมด ลพบุรี สระบุรี โคราช เดือนหนึ่งขับรถไม่ตำ่กว่าสี่พันโลค่ะ กลางคืนและวันหยุดเอาลูกเข้าเต้า เวลาไปทำงานก็ปั๊มเอา ตอนนี้ลูกจะครบขวบแล้ว เรามีนมในสต็อคที่บริจาคให้เด็ก 3 คนอยู่เรื่อยๆ ค่ะ ขอแค่มีความตั้งใจที่จะให้นมแม่ เรื่องเวลาในการปั๊มนม ช่วงแรกอาจจะลำบาก ซักพักเราก็จะปรับตัวได้ค่ะ ลูกชายเราแพ้นมวัว ถั่ว ไข่ และอาหารอีกหลายอย่าง ต้องใช้ความอดทนอย่างมาก แต่ก็ฝ่าฟันมาได้ ตอนนี้ทั้งบ้านเป็นหวัดกันหมด แต่ลูกชายแข็งแรงมาก ไม่เป็นอะไรเลย ยังไงหลังไมค์มาคุยกันได้นะคะ จะได้แอด FB คุยกัน^^ สำหรับเรื่องของการละเมิด CODE นม มันเป็นอย่างที่ จขกท ว่าจริงๆ เราเองเป็นเภสัชทำงานอยู่ในวงการนี้ก็พอจะทราบเรื่องราวเหล่านี้อยู่บ้าง ทั้งเรื่องของการให้ค่าคอมพยาบาล การให้การสนับสนุนทริปประชุมกับหมอ เราเองยังโดนหมอเขียนชื่อนมยัดใส่มือ เพราะลูกเราแพ้นมวัว และเข้าใจว่า งานที่ต้องเดินทางแบบเราคงไม่สะดวกให้นมแม่ เราหมดศรัทธากับหมอคนนั้น เปลี่ยนหมอไปเลยค่ะ จากคุณ : by iPhone (TeeBebee) เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 21:03:55

ความคิดเห็นที่ 47 ให้นมแม่ ต้องใช้ความมุ่งมั่น จริงๆนะคะ ต้องกินมากๆ จะได้มีน้ำนม โหยน้ำมากก็ กินน้ำเย็นไม่ได้ กินของที่ชอบไม่ได้ ทั้งไอติม เป๊ปซี่ ชอคโกแลต ฯลฯ แถมนมก็คัดเจ็บ พุง ก็ลดไม่ได้ ตื่นมาสัปหงกปั๊มนมทุกคืน กลายสภาพเป็นยายเพิ้งไปเลย จะถอดใจตั้งหลายที อยากกินเป๊ปซี่มากๆ ก็มีแต่กระทู้รณรงค์นมแม่นี่แหละค่ะ คอย กระตุ้นให้เราไม่ลืม ว่านมแม่สำคัญขนาดไหน เราซื้อรถเข็นเด็ก ซื้อของเล่น แพงๆให้ลูกได้ นมแม่ที่ไม่ต้องเสียเงินซักบาท กลับมีประโยชน์ที่สุด อย่ามองประเด็นว่านมแม่ดีกว่านมผงเลยค่ะ แค่ทำให้เรามีกำลังใจในการให้นมแม่ต่อไป และคุณแม่ที่กำลังจะเริ่มให้นม ได้มีแนวทางใน การตัดสินใจให้นมแม่ ได้รับความรู้ ก็ถือว่ามีประโยชน์ สูงสุดแล้วล่ะค่ะ คงไม่ต้องหวังถึงขนาดให้ ทุกคนต้องให้นมแม่หรอกค่ะ จากคุณ : ENNUI เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 21:15:16

ความคิดเห็นที่ 48 จะพยายามและตั้งใจสุดๆค่ะ ; ) จากคุณ : pertrucci เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 21:26:37

ความคิดเห็นที่ 49 คุณ pertrucci คะ เราเป็นคนนึงที่เคยคิดว่า ลางาน 3 เดือนแล้วกลับไปทำงาน คงไม่มีเวลาปั้มนมให้ลูกแน่ๆ จนกระทั่งวันไปทำงานด้วยซ้ำ แถมวันที่ไปทำงานน้องที่ office ยังบอกเลยว่า คงปั้มได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์แน่ แถมตอน 3 เดือนที่ลางาน ก็ไม่ได้มีนมล้นหลามแบบใครๆ มีแบบพอมีพอกิน ชงนมให้ลูกก็เคยมี แต่สุดท้าย ก็ให้นมแม่ล้วนได้จนสำเร็จ และลูกได้กินนมแม่จนกระทั่ง 3 ขวบเศษ (จำเป็นต้องเลิกนมแม่ด้วยเหตุบางประการ ไม่งั้นคงให้ไปเรื่อยๆ นานกว่านี้) ถ้าจะอธิบายว่าต้องทำอย่างไร คงยาว แต่ที่ผ่านมาได้ เพราะหาข้อมูลเยอะมาก และที่ www.thaibreastfeeding.org ก็เป็น web หลักที่เข้าไปเพื่อเรื่องนมแม่เลยคะ มีข้อมูลต่างๆ สารพัดเกี่ยวกับการให้นมแม่ แต่ที่มีมากกว่านั้น คือ "กำลังใจ" คะ กำลังใจเป็นสิ่งที่คนให้นมแม่ต้องการอย่างยิ่งคะ ถ้าตั้งใจจะให้นมแม่จริงๆ แล้วลองเข้าไปดูนะคะ จากคุณ : MamyHwaHwa เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 21:30:24

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะคะ และขอบคุณที่โหวตให้ค่ะ คุณ unflashgal เราไม่รู้จัก FMCG มาก่อนล่ะค่ะ เพิ่งไปsearch ดูตะกี๊ เอิ๊กๆ คห. 32 หนัก 9 โล เหมือนลูกเราเลยค่ะ แต่ลูกเราขวบครึ่งแล้ว แหะ แหะ (ลูกคนโตยิ่งกว่านี้อีก) พอดีมีหมอเด็กที่ให้นมแม่ล้วน ลูกตัวเล็กกว่าลูกเราอีก ลูกคุณหมอตอนขวบนึงหนัก 7.5 เราก็เลยชิล ชิล คุณหมอเด็กท่านนั้นบอกว่า ไม่เห็นเป็นไรเลย ก็แข็งแรงดี คห. 33 ก็ซีเรียสบ้างอะไรบ้างค่ะ :) "การให้ความรู้กับคุณแม่มือเก่าและมือใหม่จากสถานพยาบาล เช่นโรงพยาบาลผ่านคุณหมอ หรือพยาบาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แม่ๆ เข้าใจว่านมแม่มีประโยชน์อย่างไร และนมผงถึงแม้จะแพงแค่ไหนก็ทดแทนกันไม่ได้จะดีกว่าไหมคะ "  ก็ทำกันอยู่นะคะ จริงๆแล้วหนังสือนี้ก็มีจุดมุ่งหมายให้บุคลากรทางการแพทย์อ่านแหละค่ะ เพราะว่าบุคลากรทางการแพทย์เอง แม้กระทั่งหมอเด็กก็ยังไม่ทราบเรื่องนมแม่อีกเยอะ แล้วก็ไปให้คำแนะนำผิดๆ(ทั้งเรื่องประโยชน์ของนม และวิธีการสร้างน้ำนม) แต่ก็เห็นว่าหนังสือนี้่มันมีประโยชน์ มีคนไม่รู้เยอะ เลยเอามาแบ่งกัน "และการรณรงค์ว่า..นมแม่มีประโยชน์ที่สุด ให้ลูกกินแต่นมแม่อย่่างเดียว มันก็เป็นการที่ทำให้คุณแม่ๆ ที่น้ำนมน้อยเครียดมากขึ้นนะคะ" เห็นด้วยค่ะว่าเราไม่ควรรณรงค์แค่ว่านมแม่มีประโยชน์ที่สุดเพียงอย่างเดียว โดยไม่อธิบายกลไกการสร้างน้ำนม ทำให้คุณแม่ที่มีปัญหาแล้วไม่ได้รับการแก้ไข เครียดมากขึ้น แม่ท้องและแม่หลังคลอด ที่กลัวว่าจะไม่มีนมหรือคิดว่าน้ำนมน้อย ลองไปอ่านคำถามยอดฮิตของเว็บนมแม่นะคะ http://www.thaibreastfeeding.org/content/view/542/101/ สำหรับคุณแม่ที่มีปัญหาหัวนม ลองไปอ่านวิธีเหล่านี้ค่ะ http://www.thaibreastfeeding.org/content/view/541/100/ คห.35 นับถือเลยค่ะ ปั๊มให้ลูกดูดอย่างเดียว เหนื่อยกว่าดูดจากเต้าอีก ทั้งปั๊มทั้งป้อนทั้งล้าง ต้องปั๊มอย่างมีวินัยทั้งกลางวันกลางคืน แต่ก็มีแม่นักปั๊มหลายคนให้นมแม่ได้เป็นปีๆเลยนะคะ จริงๆแล้วถ้าน้องยังเล็กอยากให้ไปฝึกเข้าเต้าที่คลินิกนมแม่อีกจังเลยค่ะ เพราะมีหลายคนก็ทำสำเร็จไปแล้ว  เหนื่อยแทนอะ คห. 36 สุดโต่งก็ยอมค่ะ ถ้าคุณมีลูกแล้วลูกได้กินนมแม่ ก็จะมาเป็นพวกสุดโต่งกะเราด้วย อิอิ คห. 43 คุณแม่ขา เพิ่งท้องห้าเดือน ดีเลยค่ะ ระหว่างนี้ เข้าเว็บ thaibreastfeeding.org นะคะ เข้าไปอ่านคำถามยอดฮิต ทุกเรื่องนมแม่มีคำตอบค่ะ ถ้ายังไม่มีคำตอบก็เข้าไปเสริชหาในกระดานสนทนา หรือโพสต์ถามเลย หรือเข้าเฟซบุคเพจ"นมแม่" ก็ได้ ส่วนตัวคิดว่า แม่สมัยนี้ รวมทั้งแม่ให้นม เป็นแม่ทำงานมากกว่าเป็นแม่เต็มเวลานะคะ (เดาเอาจากคนที่มาโพสต์ในเว็บนมแม่และเฟซบุค"นมแม่" ไม่ได้ทำการสำรวจนะคะ หุหุ)คุณแม่ทำอาชีพอะไรคะ ลองไปคุยในเว็บดูนะคะ ในนั้นมีทั้งเป็นแอร์ เป็นพยาบาล ทำงานเป็นกะ ทำงานไม่เป็นเวลา มีทำงานอยู่คนละจังหวัดบ้าง ต้องเดินทางบ่อยๆบ้าง ดูว่าเค้าแก้ปัญหากันยังไงเนอะ หาข้อมูลตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า พอลูกคลอดออกมาแล้วมันโกลาหลค่ะ ถ้าที่ไหนมีอบรมเรื่องให้นมแม่ก็ไปฟังนะคะ แต่อย่าเอาที่บ.นมจัดนะ จะแอบขายนม เนียนๆ คห. 47 คุณแม่ขา เอ่อ เห็นใจค่ะ คุณแม่มีความมุ่งมั่นมากๆ ว่าแต่ว่าคุณแม่เคยลองกินน้ำเย็นดูยังคะ นมอาจจะไม่ลดก็ได้นะคะ เป็บซี่ อืม เราว่านานๆจิบได้ค่ะ คิดซะว่ากินมากๆก็ไม่ดีต่อสุขภาพเราเองอะเนอะ ส่วนไอติม กะช็อคโกแลต แหะ แหะ พูดแล้วรู้สึกผิด เรากินเกือบทุกวันเลยล่ะค่ะ ถ้าลูกไม่ได้แพ้นมวัว เราว่ากินได้นะคะ คุณแม่ไปคุยกันในเพจนมแม่หรือในเว็บมั้ยคะ เผื่อจะหายเครียดกันบ้าง สำหรับคุณแม่ที่ได้ให้นมผงไปแล้ว เพราะเหตุสุดวิสัย จนลูกโตๆไปแล้ว ก็อย่าน้อยใจเลยนะคะ(เราก็เด็กนมผง) แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 55 21:59:12 จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 21:54:32

ความคิดเห็นที่ 51 ลืมคห. 32 อีกข้อ CODEไม่ได้ห้ามผลิต หรือห้ามจำหน่ายนมผงนะคะ (ห้ามโฆษณาประชาสัมพันธ์ ห้ามบุคลากรทางการแพทย์เป็นเซลล์ ฯลฯ)ลองอ่านซ้ำอีกที แม้กระทั่งหมอหรือรพ.ที่สนับสนุนนมแม่ ก็อาจพิจารณาให้นมผงแก่เด็กได้ "เมื่อจำเป็น" ค่ะ และวิธีการอาจจะใช้การป้อนด้วยแก้ว หรือหลอด เพื่อไม่ให้เด็กติดจุกแล้วไม่ยอมดูดนมแม่ แต่ที่เป็นกันอยู่ คือ ให้มากเกินจำเป็นค่ะ แบบว่าเด็กทุกคนที่เกิดมาแทบจะกินนมผงกันหมดเลยอะ แล้ววันๆ ให้ดูดนมแม่วันละไม่กี่ครั้ง นมจะมาได้ไง ลองไปคุยเปรียบเทียบกันแต่ละรพ.สิคะ รพ.ที่สนับสนุนนมแม่ กับรพ.ที่ไม่สนับสนุน คนละแบบ คนละวิธีกันเลยค่ะ (ไม่ใช่สนับสนุนแต่ปากนะคะ)และสถิติคุณแม่ที่ให้นมสำเร็จก็ต่างกันด้วยค่ะ จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 22:12:34

ความคิดเห็นที่ 52 ตอนเราคลอดพยาบาลก็ให้มานะ มีหลายยี่ห้อเลย แต่เค้าก็แนะนำให้นมแม่ดีที่สุดแหละ ตอนนี้ลูกเรา1ขวบกว่าแล้วยังให้กินนมแม่อยู่ เคยชงให้น้องทานครั้งเดียวแต่น้องไม่ทาน เลยกะว่าจะให้นมแม่ไปเรื่อยๆนี้แหละ จากคุณ : มนเจ้าคุณ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 22:20:49

ความคิดเห็นที่ 53 บ๊ะเจ้า นี่มันนมแม่หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นี่ แต่เราให้ลูกกินนมแม่ล้วนนะคะ แต่ก็เห็นใจคนที่ไม่สะดวกหรือนมแม่ไม่พอแล้วต้องให้นมผงค่ะ อย่างน้องที่อยู่หน้าโต๊ะธนาคาร เขาก็อิจฉาเราที่ได้เลี้ยงนมแม่ล้วน เพราะเขาเองไม่สามารถแว้บออกไปปั๊มนมได้ ทำให้นมหด ท้ายที่สุดก็ต้องให้ลูกกินนมผง ---- เอ๊ะ เขาเรียกว่า เทเล ใช่ไหม ที่ให้บริการที่เคาเตอร์ธนาคารน่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 55 23:08:14 จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 23:06:14

ความคิดเห็นที่ 54 ดูรูปการ์ตูนแล้วพยายามวาดให้นมผงดูเป็นตัวร้ายยังไงก็ไม่รู้ค่ะ นมผงก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนะคะ เพราะบางคนก็มีความจำเป็นที่จะต้องให้นมผงกับลูก ควรเน้นการรณรงค์ถึงประโยชน์ของนมแม่ดีกว่าค่ะ จะถูกจุดกว่า โรงพยาบาลต่างๆควรจะมีข้อมูลการใ้นมแม่กับบรรดาคุณแม่มากๆค่ะ เพราะบางโรงพยาบาลไม่มีเลย ลูกชายเรากินนมแม่ค่ะ เป็นเด็กคลอดก่อนกำหนด ตอนนี้โตแซงหน้าเด็กครบกำหนดแล้วค่ะ แต่นมน้อย ลูกกินเยอะมาก ก็พยายามให้นมแม่ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าสุดท้ายนมไม่พอก็คงต้องพิจารณานมผงค่ะ เราไม่เครียดค่ะ เดินทางสายกลาง : ) จากคุณ : Sam_PinkLady เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 23:13:39

ความคิดเห็นที่ 55 ดิฉันสนับสนุนการให้นมแม่ ตัวเองให้นมลูก 14 เดือน (ทำงานและปั๊มนมที่ทำงานด้วย พอกลับบ้านก็ให้ลูกดูดเต้า) และคนที่สองก็ตั้งใจจะให้นานเท่าที่จะทำได้เหมือนกัน  แต่รู้สึกเหมือนสองท่านข้างบนว่า การ์ตูนนี่เสนอเหมือนว่านมผงนี่เลวร้ายอย่างรูปใน คห. 27 ถึงกับมีเงาเป็นปีศาจร้ายเลยทีเดียว อึม การรณรงค์เรื่องการให้นมแม่ กับการต่อต้านนมผงนี่มันไม่น่าใช่เรื่องเดียวกันนะ ว่าไหม จากคุณ : offita เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 00:11:33

ความคิดเห็นที่ 56 คห.53 เราก็เห็นใจค่ะ เราเคยทำงานที่แว่บไปจากโต๊ะสิบนาทีก็แย่แล้วค่ะ จะปั๊มที่โต๊ะก็ไม่ได้เพราะต้องรับแขก(รีเซฟชั่น) แล้วตอนนั้นเปลี่ยนงานใหม่ๆไม่กล้าขออนุญาตนายไปปั๊ม  ก็เลยปั๊มได้แค่ตอนเที่ยง พอไม่ได้ปั๊มทุกสามสี่ชม. นมก็เลยน้อย เราเข้าใจค่ะ ก็บอกเสมอว่า ถ้าต้องกินนมผงเพราะเหตุสุดวิสัย ก็ไม่เป็นไร คห. 54 โตแซงหน้าเด็กครบกำหนดแล้ว ไม่น่าจะนมน้อยนะคะ นมแม่ล้วนใช่มั้ยคะ(ลูกเราเด็กครบกำหนด 40 วึค โดนเด็กคลอดก่อนกำหนดแซงหน้าไปกันหมดแย้ว><) ถ้าไม่เกินขวบแล้วให้นมแม่ไม่ได้ ก็ต้องเป็นนมผงค่ะ แต่ถ้าเกินขวบแล้วกินนมยูเอชทีได้เลยนะคะ ดีกว่านมผง ไม่เครียดก็ดีแล้วค่ะนมจะได้ไหลๆ ก็ลองอ่านความคิดเห็นอื่นดูค่ะ ว่าการตลาดของบ.นมมันมีผลกระทบยังไง ไม่ได้ห้ามขาย ขายได้ค่ะ แต่ระวังการตลาด นมผงให้ข้อมูลผิดบ่อยๆค่ะ (เช่นตามเว็บไซต์ ตามเพจของบ.นม) เมื่อทักท้วงก็ขอโทษ แสดงว่าเขาเองก็ยอมรับว่าผิด ถ้าอยากให้นมแม่นานๆก็ปรึกษาคลินิกนมแม่หรือเข้าเว็บศูนย์นมแม่ที่บอกไปค่ะ ดูไว้ก่อนว่าแต่ละปัญหาแก้ไขยังไงก็ได้ค่ะ ก่อนที่จะเกิดปัญหาขึ้นมา จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 00:31:19

ความคิดเห็นที่ 57 เราออกตัวก่อนนะว่าเราเป็นพวก คลั่งลัทธินมแม่ เวอร์ไปไหม เนื่องจากตอนท้องลูกคนแรก เราไม่ได้ศึกษา เรื่องนมแม่ เลย รู้อย่างเดียวว่าคลอด แล้วจะให้ลูกทานนมแม่ พอคลอดออกมา ทำอะไรไม่เป็นเลย หัวนมก็สั้น ลูกงอแงกว่าจะหลับได้ แต่บนความวุ่นวายนั้น ลูกเราตัวเหลือง ต้องเข้าตู่อบ เราบอกพยาบาลว่าขอนมแม่นะคะ  ตอนนั้นยังไม่ไ้ด้ซื้อเครื่องปั๊ม ไม่เคยศึกษาเลย ต้องไปนั่งให้พยาบาลบีบน้ำนม ด้วยมือออกมา ออกมาออนซ์ สองออนซ์ พยาบาล ที่แสนดีบอกว่า คุณแม่คะ ช่วงแรกลูกทานนิดเดียวไม่ต้องกังวล นมแค่นี้เค้าพอทาน  ต่อมาเราไปคลีนิคนมแม่ ให้เค้าสอนให้นม มีหลายท่า จนเราหาท่าที่ลูกงับถนัด   พอออกจากโรงพยายาบาลมา เราได้เจอเวปนมแม่ เข้าไปอ่าน ความรู้สึกแรก คือ พวกนี้เป็นอะไรกันนี่ สุดโต่งเกินไปป่ะ แต่ เมื่อเวลาผ่านไป เราใช้เวปนั้นหาความรู้ให้เพื่อที่เราจะได้สามารถให้นมลูกได้         สำหรับเรานะ การให้นมแม่จะต้องใช้ความอดทน ความมีวินัย ความพยายาม เนี่ยแหละจะทำให้การให้นมแม่ ประสบความสำเร็จ  เราให้นมแม่ได้จนลูกเราขวบครึ่ง โดยนมแม่ล้วน ได้8เดือน ทานร่วมกับนมผสมจนขวบครึ่ง เราผ่านปัญหาเกี่ยวกับนมแม่มาหลายเรื่องเราสู้กับมัน และสละเวลา ความสุขของเรา เพื่อลูก ดังนั้นตอนนี้หากใครมาพูดกะ เราว่าไม่มีนม ให้ลูก เราจะแอบเคืองเล็กน้อย นี่แหละทำไมเราถึงบอกว่าเรา คลั่งลัทธินมแม่ จากคุณ : sweetmeringue เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 00:39:37

ความคิดเห็นที่ 58 นมแม่ล้วนคืออะไร น้ำ กล้วย น้ำผลไม้ ตับบด ข้างต้ม ทานได้มัย งงคะ จากคุณ : กำลังจะเป็นคุณแม่ (nice_onna) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 01:05:22

ความคิดเห็นที่ 59 ช่วยไปเรียกร้องสิทธิให้แม่ลาคลอดได้1ปีก่อน แล้วมาทำวิจัยว่า แม่ๆจะให้นมลูกเพิ่มขึ้นมั้ย นมชงขายได้น้อยลงมั้ย เครื่องปั้มนมยอดลดลงมั้ย เราคิดว่า ถ้าแม่ๆทุกคนได้มีเวลาทำหน้าที่แม่ พวกเค้าคงให้ลูกๆกินแน่นอน เพราะทุกคนรู้ว่านมแม่ดี ยิ่งลูกดูดเยอะแม่ก็จะมีนมเยอะ บางคนลา 3เดือนยังดี บางที่ให้เดือนครึ่ง นมกำลังจะมาเยอะก็ต้องหยุดให้ เพราะแม่บางคนไม่มีตังค์ซื้อเครื่องปั้มนม บางคนต้องลดหุ่น อดอาหาร ต้องกลับไปทำงานเดี๋ยวเสื้อผ้าใส่ไม่ได้ นมจะเหลือสารอาหารสักแค่ไหนจากแม่ที่ต้องลดหุ่น ต่างประเทศเค้าให้ลาเป็นปี แถมลาเป็นแพคเกจ พ่อได้หยุดมาช่วยเลี้ยงด้วย จากคุณ : bangkoknail เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 02:01:02

ความคิดเห็นที่ 60 เกตุไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับข้อนี้เลย  ตัวเกตุเองก็ไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมตัว  แต่ด้วยไม่มีน้ำนมคะ  ไม่ใช่จงใจจะเลี้ยงเขาด้วยนมผง  ...  และเกตุก็เคยนำตัวอย่างนมผงมาให้แม่ ๆ ในชานเรือน  ด้วยตัวเองได้รับมาจำนวนหนึ่ง  ยังไงซะเกตุก็เห็นว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมตัวดีจริง ๆ และแม่ที่สามารถเลี้ยงได้อย่างต่อเนื่องนานได้เท่าที่จะนาน  เกตุสนับสนุนนะคะ !!!!! จากคุณ : แม่น้องทักทาย (mayainlove) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 02:29:22

ความคิดเห็นที่ 61 เราไปอบรมเตรียมพร้อมคลอดที่ BNH เขาก็แจกนมมา พอไปคลอดเขาก็แจกอีกค่ะใส่กระเป๋ากลับบ้านมา พออยู่ไฟบริษัทอยู่ไฟก็เอามาให้ทั้งนมทั้งกระเป๋าเลยค่ะ แต่หมอเราสนับสนุนนมแม่ และเราตั้งใจไม่แตะนมผงเลย เราเลยรอดมาได้ พออยู่ไฟรอบสองคราวนี้บริษัทอยู่ไฟมาแปลก โทรมาถามก่อนว่าจะมีนมผงแจกจะรับไหม เราบอกว่าไม่รับ ยังงๆอยู่เลยว่าทำไมคราวนี้มีมาถามด้วย สงสัยเริ่มมีจรรยาบรรณมากขึ้น วันก่อนมีให้ลงทะเบียนรับของเล่นเสริมพัฒนาการฟรี หลังจากนั้นก็มีเซลโทรหาเราคอยถามว่าจะเลิกให้นมแม่เมื่อไหร่ เราเลยบอกว่าก็ให้ไปเรื่อยๆ เซลที่โทรมาคงเซ็งก็เลยยอมวางไปในที่สุด ส่วนตัวว่าจะขายนมผงก็ขายไป แต่โฆษณาบางอันมันเว่อร์จริงๆค่ะ แบบว่ากินแล้วฉลาดเนี่ย ตัวเองเป็นคนเสพสื่อเยอะเปิดเจอบ่อยๆทั้งทีวี หนังสือ ก็เกือบโดนล้างสมองว่านมวัวดีเหมือนนมแม่ได้เหมือนกัน จากคุณ : Rada Nene เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 03:43:42

ความคิดเห็นที่ 62 เราว่านะเรื่องจะให้ลาคลอดได้ มากกว่า 3เดือน แล้วคนจะให้ นมแม่เยอะขึ้นไหม เราว่าเป็นไปได้ยาก หากยังมีการแจกนมผง เป็นของขวัญ ก่อนกลับบ้าน  ของเรานะ ปฎิเสธ ไม่รับนมผงเลย เด็กเล็กๆแรกเกิด ยังต้องการนมนิดเดียว พอช่วงแรกน้ำนมยังไม่มา ลูกร้อง เห็นกระป๋องนมผงตั้งอยู่ ชงให้ เลย อย่างนี้แหละเป็นการทำลายการผลิตนมแม่  ให้นมแม่ มันมีประโยชน์มากกว่า การให้อาหาร สายใย การมองตากัน นี่แหละสำคัญกว่า ตั้งเป้าหมายสั้น ๆ อย่างเรา ให้ได้3 เดือน พอถึงขยับเป็น หกเดือน เลื่อนไปเรื่อย ๆ          สำหรับคำว่า นมแม่ล้วนคือ เลี้ยงด้วยนมแม่ล้วนคือ การให้นมแม่อย่างเดียว ไม่ได้ให้ทานร่วมกับนมผสม จนอายุน้อง 6 เดือน เสริมอาหารอื่น ๆ แต่ยังทานแต่นมแม่ค่ะ         ตอนเราคลอด เราลาได้ 3 เดือน หลังจากนั้น ไปทำงาน  ทำงานไปปั๊มนมไป ปั๊มมันตรงโต๊ะที่ทำงานแหละ ผ้าคลุมไว้ เอาคลิปหนีบกระดาษหนีบไว้  ใครผ่านไปผ่านมา เค้าไม่รู้ว่าเราทำอะไร เดินมาคุยด้วย ต้องลองหาวิธีที่จะปรับใช้กับตัวเองว่าแบบไหนถึงจะ เหมาะกับตัวเอง เพื่อลูก อดทนเข้าไว้ จากคุณ : sweetmeringue เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 07:04:08

ความคิดเห็นที่ 63 ชอบจังเลยกระทู้นี้ อ่านทั้งหมดแล้ว คิดว่าสมาชิกห้องนี้ ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และมีความพยายามอย่างสูงในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว (ที่บอกว่านมแม่ล้วนน่ะแหละ) นา่น 6 เดือน หลังจากนั้น ให้อาหารตามวัย ไม่ว่าจะเป็นข้าวบดใส่ไข่แดง ปลา ตับ หมู ไ้ก่ ผักฯลฯ ควบคู่กับนมแม่ไปนานสองปีหรือมากกว่านั้น ตอนนี้หลักเกณฑ์ว่าด้วยการตลาดอาหารทารกและเด็กเล็ก หรือที่เรียกย่อๆว่า โค้ดนม ดำเนินการเป็นร่าง พรบ. แล้ว แต่ยังมีขั้นตอนรายละเอียดตามกฤษฏีกาอีกหลายอย่าง ระหว่างนี้ การสร้างความเข้าใจ ให้กับผู้บริโภค การสร้างความตระหนักให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะหมอ พยาบาลให้มีึความรู้ึความเข้าใจ เพราะเป็นผู้ที่คุณแม่ๆหวังเป็นที่พึ่ง แต่จะมาไม่รู้ซะเองและให้ความรู้หรือกระทำผิดๆก็จะกระไรอยู่ ยกตัวอย่าง "เพราะว่า..คุณแม่บางคนนมมาน้อย หรือมาช้า (เหมือนเราเป็นต้น) การให้นมผงเด็กก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่เป็นตัวเสริมให้กับลูกเพื่อไล่ขี้เทา กันโรคตัวเหลืองในช่วงแรกเกิด" << ถ้าคุณหมอคุณพยาบาล ช่วยคุณแม่ให้ได้ลูกมาเกาะอก ดูดนมตั้งแต่ชั่วโมงแรกของชีวิต ที่ออกมาเป็นสีเหลืองใสๆ ปริมาณเท่าหยดน้ำไม่กี่หยด ซึ่งเราเรียกว่า หัวน้ำนม หรือบางคนเรียก น้ำนมเหลือง ฝรั่งเรียก colostrum หยดใสๆที่ออกมาวันละนิดหน่อย ไม่กี่ซีซีนี่แหละ เป็นตัวขับขี้เทาที่ดีที่สุด และเชื่อมั้ยว่า ทารกแรกเกิดในวันแรก มีขนาดกระเพาะอาหารที่จุได้เพียง 5 ซีซี เท่านั้น 5 ซีซีมันแค่ 1 ช้อนชาเองนะ ต้องการหัวน้ำนมที่มีเพียงนิดหน่อยแค่นั้นแหละ แต่โดยปฏิบัติมักเสริมนมผงเป็นออนซ์ๆ เลย ออนซ์นึงตั้ง 30 ซีซีเชียวนะ อุปสรรคที่ดูจะยิ่งใหญ่มาก คือ แรกเกิดใหม่ๆ ทารกที่ถูกแยกจากแม่ มักจะมีอาการต่อต้าน ที่ผู้ใหญ่เรายังไม่เข้าใจ นั่นคือ ร้องจ้า การร้องสุดเสียงมือไม้กำของทารก แปลว่า หนูคิดถึงแม่ หนูอยากอยู่กับแม่ แม่กอดหนูหน่อย แต่ผู้ใหญ่ัมักแปลว่า หนูหิว หนูอยากกิน ป้อนหนูหน่อย ให้นมหนูเยอะๆ แม่หนูนมยังไม่มีก็หาอะไรก็ได้มาใส่ปากหนู สัญชาตญาณของทารกเล็กๆ เวลามีอะไรเข้าปากก็ดูดๆๆๆ ไม่ว่าจะนมแม่หรือนมผง ดูดนมผงเสร็จก็จุก ก็นะ ให้ไปหลายเท่าของความต้องการ ก็ต้องจุกแอ้กเป็นธรรมดา พออุ้มกลับมาคืน ผู้ใหญ่ก็ดีใจ อิ่มละ ดูิสิ หลับสบายเลย -_- ทารกเล็กๆที่เพิ่งเกิดใหม่ เป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก เรามาช่วยกันเฝ้ามองเค้า เวลาเค้าอยู่บนอกแม่ ศึกษาเค้าจากอากัปกิริยาของเค้า แล้วให้เค้าแสดงมหัศจรรย์ให้เราดู ให้เค้าแสดงฝีมือทางธรรมชาติของเค้าให้เราดู จะดีกว่านะ ^__^ จากคุณ : หยิบหย่ง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 07:11:43

ความคิดเห็นที่ 64 ข้อมูลคุณหยิบหย่ง  ไม่ธรรมดา  ว่าแล้วต้องเป็นซัมวัน ถ้าลาคลอดได้นานกว่านี้จะดีมากค่ะ แต่ต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่แม่ๆให้นมผงกันตั้งแตแรกกิด  ก่อนกลับไปทำงานอีก  ถ้าไม่มีใครให้ข้อมูล(บอกแล้วว่านอกจากข้อมูลว่านมแม่ดี  ต้องรู้ว่านมแม่สร้างได้ยังไงด้วย) และเมื่อลูกโตขั้น ก็เห้นว่าลูกก็โตแล้วนี่ ไม่เห็นตองกินนมแม่ก็ได้  ลูกก็น่ารัก  เก่ง  แข็งแรง มีเวลาก็ไปหาความรู้เรื่องการพัฒนาทักษะด้านอื่นให้ลูกเรื่องอาหารการกิน  สองภาษา baby sign ฯลฯ ไม่ค่อยมีใครย้อนมาดูเรื่องนมแม่หรอกค่ะ (เป็นเราก็ทำแบบนั้นแหละ) เพราะฉะนั้น  การให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับแม่ท้องและหลังคลอดสำคญมาก หากมีปัญหา  ย้ำว่า ให้ปรึกษาคนที่ทำได้ค่ะ จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 07:36:00

ความคิดเห็นที่ 65 ร่างกายจะดึงสารอาหารรจำเแป็นมาไว้ทีนมแม่เสมอค่ะ ไม่ต้องห่วง นมแม่มีคุณค่าเสมอ  แต่ถ้าทานไม่พอ  แม่จะโทรมเอง และมีผลกับปริมาณไม่ใช่คุณภาพ  เซื่อเราป่ะคะ  เราไม่ใช่หมอ ส่วนเครื่องปั๊มนม  เชื่อมั้ยคะว่ามีแม่ให้นมหลายคนไม่ใช้  ใช้มือบีบ  ถ้าคล่องแล้วได้นม เยอะกว่าและร็วกว่าเครื่อง   แต่ใช้เครื่องปั๊มคู่ก็สามารถทำงานไปด้วยได้อะนะ จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 07:56:26

ความคิดเห็นที่ 66 "ช่วยไปเรียกร้องสิทธิให้แม่ลาคลอดได้หนึ่งปีก่อน" เค้าก็กำลังช่วยๆกันอยู่นะคะ แต่ถ้ากม.ออกมาคงเป็นหกเดือนก่อนค่ะ จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 09:29:07

ความคิดเห็นที่ 67 เราได้มาเป็นเซ็ทกระเป๋าเลยค่ะ ยังไม่ได้คลอดด้วยซ้ำ แค่จ่ายตังค่าหาหมอเกิน 1000 บาท พนักงานเก็บตังค์ก็ส่งถุงกิ๊ฟเซทที่ข้างในมีนมผงมากล่องนึงให้ทันทีค่ะ แต่เราก็ไม่สนใจนะ เพราะมีความตั้งใจจะเลี้ยงด้วยนมแม่ล้วนๆ เลย เราคิดว่าการให้นมแม่ล้วนไม่น่าจะยากเกินไปจากเท่าที่อ่านดูนะคะ มันเป็นความท้าทายความอดทนของตัวเองอย่างนึงด้วยซ้ำไป อยู่ที่เรามากกว่าว่าพยายามแล้วหรือยัง?? เพราะเราคิดว่าโดยธรรมชาติมนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาได้ มันต้องมีอาหารสร้างมาให้ด้วย ไม่งั้นมนุษยคงสูญพันธ์ไปแล้วเพราะสมัยก่อนไม่มีนมผงขายเลย แต่ยุคนี้การตลาดมันครองโลกค่ะ ดูอย่างโดนัทยี่ห้อดัง อร่อยก็ไม่อร่อย แพง หวานบาดคอ กินเข้าไปมีแต่โรคล้วนๆ แต่พอเห็นคนต่อคิวซื้อกันก็ตามน้ำไปซะงั้น -_-' จากคุณ : shihiro เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 10:12:32

ความคิดเห็นที่ 68 มันคือเรื่องจริงนะคะ การที่ รพ แจกนมผงมาเนี่ย เพราะเราเองก็เกือบยอมแพ้การให้นมแม่ล้วนเพราะว่า S-26 ที่ทาง รพ แจกมาแล้วเหมือนกัน .. เราคลอด รพ เอกชนที่ ระยอง แอบรู้สึกว่า ทำไมดูพยาบาลเนือย ๆ กับการให้นมแม่จัง ปากก็บอกว่าดีค่ะ ดี . แต่ก็ไม่บอกไม่สอนวิธีกระตุ้นน้ำนม ที่มาสำเร็จได้นี่ก็เพราะว่า คุณตาคุณยาย คอยเข็นค่ะ ไม่งั้นแพ้ S 26 ราบคาบ ( เพราะมันตั้งล่อเป้า ) อ่อ อีกอย่างนะคะ  . อันนี้ชัดเจน มากมายเลย ก็คือว่า รพ แถมขวดนม ยี่ห้อ ดี และ ดัง มา 1 ขวดค่ะ ... มันทำให้เรารู้สึกว่า เออ ขวดยี่ห้อนี้คงดีที่สุดล่ะ ไม่งั้นคงไม่แจกมา ด้วยอุปทานหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ทำให้เราต้องเปลี่ยนขวดทั้งหมดเป็นยี่ห้อนี้เลยค่ะ ( ปล เราเป็นแม่นักปั้มค่ะ ) จากคุณ : rainswatch เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 11:28:45

ความคิดเห็นที่ 69 เราว่า หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ต้องการสื่อว่า นมผงอันตรายหรอกนะคะ แต่ต้องการบอกว่า  นักการตลาด หรือเซลล์นั่นแหละที่อันตราย ตั้งแต่การให้ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับนมแม่ เอานมผงมาแทนนมแม่สำหรับแม่ที่เพิ่งคลอดลูก เพราะถ้าแม่มีนมมาน้อยจะไม่มีกำลังใจในการให้นมเท่าไหร่ ดังนั้นทางที่ดี คือ ต้องตัดนมผงไปตั้งแต่ต้น แล้วหน่วยงานสาธารณสุขก็ต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องด้วย ภาครัฐก็ยังไม่แข็งแรงพอในการส่งเสริมให้แม่ให้นมลูก ทั้งนี้ทั้งนั้นการให้นมลูกก็เป็นเรื่องที่ต้องอดทน และใช้ความพยายามมากด้วยค่ะ แต่ผลที่ได้รับมันคุ้มกับความพยายามนะคะ เพราะลูกมี EQ ดี ฉลาด สดใส ร่าเริง แม่ๆ ทุกคนถ้าทำได้ ขอให้ทำเถอะค่ะ อย่าให้เซลล์นมผงมาทำให้ไขว้เขว เพื่อลูกให้สิ่งที่ดีที่สุด คือ "นมแม่" ดีกว่านะคะ จากคุณ : ooheuy (ooheuy) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 13:55:36

ความคิดเห็นที่ 70 เราได้รับแจกนมผงเยอะมากเลยคะตั้งแต่ฝากท้องจนถึงคลอด แต่คิดว่าจะให้น้องกินนมแม่จนกว่าจะไม่มีนม แต่ไม่รู้จะทำยังไงกับนมผง เลยเอาไปให้กับสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเผื่อเค้าต้องการคะ เพราะมีเด็กอยู่เยอะน้ำนมที่มีแม่ๆมาบริจาคคงไม่พอ ทำแบบนี้ถูกรึป่าวคะ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 13:59:34 จากคุณ : improvise05 เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 13:58:33

ความคิดเห็นที่ 71 บอกตรงๆเลยค่ะ ถ้าไม่ได้พันทิปห้องชานเรือน   เราคงไม่อดทนให้นมแม่่จนลูกขวบกว่าแน่ๆค่ะ และเชื่อว่า กว่า 80% ของแม่ในนี้ เลือกให้ลูกกินนมแม่ค่ะ และจะมีซักกี่ % ของแม่ทั่วประเทศไทย ที่ตั้งใจให้นมแม่จริงๆ   คือมันน้อยมากค่ะ  นอกจากคนที่ตั้งใจจริงๆ -คนมีเงิน มีความรู้ และมีความตั้งใจให้นมแม่ -คนไม่มีเงิน ให้ลูกกินเพราะไม่มีเงินซื้อนมผง บางคนตั้งใจ แต่ไม่มีนมให้กิน บางคนตั้งใจ แต่ไม่ตั้งมั่นและอดทน   ยังงัยก็ตามแต่ นมแ่ม่ก็ดีที่สุดอยู่แล้ว   ##ลูกคนก็ต้องกินนมคนค่ะ## จากคุณ : crispyroll เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:06:16

ความคิดเห็นที่ 72 เราว่าทุกคนรูอยู่แก่ใจอยู่แล้วล่ะว่า....นมแม่ดีที่สุด เค้าก็อยากให้นมแม่นะคะ ไม่ใช่ไม่อยาก เพราะอย่างน้อย ๆ ก็ประหยัด ไม่ต้องเสียตังค์ แต่ว่าดีที่สุด มันไม่ได้เหมาะที่สุดกับชีวิตของเค้าค่ะ บางคนต้องทำงาน ยิ่งพวกคนงานนี่ ไม่ต้องพูดถึงเลย ลาแค่ 1 เดือน เจ้านายก็ร่ำ ๆ จะให้ออกจากงานแล้ว เครื่องปั๊มนมก็แพง รีดมือก็เมื่อย ไม่มีเวลา  นมผงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับเค้า ว่ากันไม่ได้ ยิ่งจะผลักดันให้กฎหมายลาคลอดได้ 1 ปี เราว่านายจ้างบางส่วน คงพิจารณานานนนนนนนน เวลาจะรับผู้หญิงเขาทำงานแล้วล่ะ ดีไม่ได้ ตัดออกเป็นตัวเลือกแรกเลย ลางาน 1 ปี เค้าหาคนใหม่ดีกว่า จากคุณ : saturn_eyes เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:14:56

ความคิดเห็นที่ 73    เคยเกือบจะเป็นแม่เลี้ยงลูกด้วยนมผงแบบเต็มตัวแล้ว เรื่องของเรื่องคือเป็นคนหัวนมเล็กเวอร์ แต่ฐานนมใหญ่มากกก...บวกกับนมทั้งตึงทั้งใหญ่มาก ลูกจะทำท่าไหนก็ไม่สามารถกินนมแม่ได้ แถมยังเป็นพังผืดที่ลิ้นด้วย บอกตรง ๆ ท้อใจไป 90 เปอร์เซ็นต์         ออกจากโรงพยาบาลก็ได้แต่ปั๊มให้ลูกดูด แล้วก็ให้นมผงไปด้วย แต่เราให้ลูกกินขวดนมนะ เพราะลิ้นเค้าติดมาก พอออกจากโรงพยาบาลมาสิ่งแรกที่คิดจะทำคือพาไปขลิบลิ้น แต่ก็ยังปั๊มและให้นมผงจากขวดอยู่     ที่บ้านเป็นร้านขายของ ช่วงนั้นเป็นช่วงน้ำท่วมด้วย แล้วงานที่ร้านก็เยอะมาก แฟนก็ไม่มีเวลา คือเหมือนเราเลี้ยงลูกคนเดียว ผ่าคลอดด้วย ไม่มีใครช่วยเลย จนผ่านไปได้ซักเดือนเศษ เอาล่ะสิ ปั๊มก็ไม่เป็นเวลา อาหารการกินก็ไม่มีใครดูแล นมเริ่มจะปั๊มไม่ค่อยมีแล้ว เครียดหนักอีกระลอก     สุดท้ายเหมือนไม่มีอะไรจะเสีย เลยลองเอานมตัวเองให้ลูกดูดดู แม่จ้าว...เค้าดูดได้ แล้วเค้ายอมดูดด้วย ดีใจน้ำตาไหลเลย ที่เค้าดูดได้คงเป็นเพราะตอนแรกเราปั๊มบ่อย ๆ ทำให้ฐานนมมันเข้ามาในเครื่องปั๊ม เลยทำให้มันยาวขึ้น แต่ตอนนั้นนมใกล้จะหมดเต็มทีแล้ว ( เริ่มจะเหี่ยวแล้ว 555 ) บีบไม่ออกแล้ว แต่ก็นะลองดูซักตั้ง เลยให้ดูดไปเรื่อย ๆ มีไม่มีก็พยายามไม่คิดมาก แล้วก็ให้เค้าดูดนมขวด ก็ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ     ซักพักน้ำนมเริ่มมา ก็ให้ดูดบ่อย ๆ ถึงแม้ว่าน้ำนมยังไม่ถึงกับเยอะมาก แต่ก็พอมีให้ดูดได้เรื่อย ๆ จนกระทั้งเดี๋ยวนี้เค้าก็ยังดูดขวดนม แล้วก็นมเราไปด้วย ดีนะคะ ที่เค้ายอมกินทั้งสองอย่าง ถือว่าเป็นโชคดีของเรา แต่เราก็พยายามให้เค้าดูดนมเราให้มากและบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้     เครื่องปั๊มนมตัวเล็ก ๆ ร้องแง ๆ นี่แหละที่ใช้ได้ผลดีที่สุด แต่ยอมรับเลยค่ะ ว่าต้องพยายาม ต้องใช้ความอดทนกันไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ตอนนี้ได้ 2 เดือนกับ 20 วัน คุณชายเธอหนักเจ็ดโล เล่นเอาแม่เป็นเอ็นข้อมืออักเสบทั้งสองข้าง เจ็บปวดไม่ใช่น้อยเลย T_T **แก้ไขคำผิดค่ะ** แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 17:00:26 แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 14:55:56 จากคุณ : พิซซ่าหน้าบูด เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:51:08

ความคิดเห็นที่ 74 อยากให้มีโฆษณานมแม่บ้างค่ะ เห็นแต่นมผง จากคุณ : กระต่ายลายเสือ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:41:31

ความคิดเห็นที่ 75 กลับเข้ามาอีกที เพื่อจะบอกว่า ถ้าไม่มีห้องชานเรือน ณ พันทิพ นี่นะ  เราคงไม่แคล้วเลี้ยงลูกด้วยนมผงไปแล้ว เพราะไม่มีใครให้คำแนะนำเลย คนรอบ ๆ ตัว คุณหมอ พยาบาล ใครก็ตาม มีแต่บอกว่า ให้นมแม่สิ ให้นมแม่สิ  แต่ไม่สอน ไม่แนะนำเทคนิค วิธีการฯลฯ เราก็ให้นมผิด ๆ ถูก ๆ จนหัวนมแตก เลือดไหล เจ็บไปหมด เข้ามาหาข้อมูลในนี้ และพยายามด้วยตัวเอง จนปัจจุบันลูกจะ 9 เดือนแล้ว นมแม่ล้วน 8 เดือนเต็ม  เสริมอาหารเสริม 8 เดือนครึ่ง (แต่ก็ยังกินนมแม่เป็นหลัก) เราคลอดโรงบาลชัยภูมิ อ่ะค่ะ สงสัยจะไม่ใช่โรงบาลสายใยรักมั้งคะ  ไม่เห็นช่วยอะไรเรา เลย ปล.  ขอบคุณพันทิพ ขอบคุณชานเรือน ค่ะ ปล. 2  เกิดมาไม่เคยทำอะไรมีวินัยเท่านี้มาก่อนในชีวิต ก็ได้มาทำ ตอนปั๊มนมนี่แหละ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 19:50:20 จากคุณ : เหมียวน้อยไร้เวทย์ (NonMagicKitty) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:49:43

ความคิดเห็นที่ 76 คห. 72 ไม่ว่ากันค่ะ ถ้าจำเป็น ถ้ากลับไปทำงานแล้วมันไม่ได้นั่นอีกเรื่อง เข้าใจกันอยู่แล้ว ตรงนั้นอย่าเพิ่งพูดถึงเลยค่ะ เอาตอนลาคลอดน่ะค่ะ ถ้าจำเป็น เช่น ลูกตัวเล็กคลอดก่อนกำหนด ไม่มีแรงดูด แม่ไม่สบายตกเลือดหลังคลอดฯลฯ นั่นก็อีกเรื่องค่ะ แต่ส่วนใหญ่แม่ให้นมได้ แต่บุคลากรทางการแพทย์ชี้แนะผิดๆน่ะสิคะแม่ก็เลยนึกว่าตัวเองนมน้อย หลายคนทราบว่านมแม่ดีที่สุด แต่มีอีกหลายคนที่ไม่ทราบค่ะ แม้ในกระทู้นี้ ยังมีคนนึกว่าถ้าแม่อดอาหาร นมแม่จะไม่มีคุณค่าอยู่เลยค่ะ บางคนก็นึกว่าหลังหกเดือน หลังหนึ่งปี เท่าโน้นเท่านี้ นมแม่จะหมดคุณค่า หลายคนนึกว่านมวัวดีกว่าค่ะ เราเข้าใจค่ะ ว่าการบอกว่านมแม่ดีที่สุด ไม่พอค่ะ ต้องช่วยอธิบายวิธีการให้ด้วย รพ.เรา ก็สอนว่านมแม่ดีที่สุด แต่วิธีการให้นม บอกว่า ให้นมลูกทุกสามชม.ข้างละสิบห้านาที มันใช่ที่ไหนเล่า ! กลับมาบ้านลูกมันก็ดูดๆๆทั้งวันทั้งคืน(ขอบคุณลูกมากที่ยังดูด ไม่ติดจุกเหมือนลูกชาวบ้านเค้าซะก่อน) น้ำนมก็ยังไม่มี  จนวันที่ห้าโน่นแหน่ะ กว่านมจะมา(คือบีบออกมาแล้วซึมมาจี๊ดนึงนะคะ ไม่ใช่มแบบไหลมาเทมา) อะ พอผ่านไปสักสองสัปดาห์ เอ๊ะ ทำไมปั๊มออกมาได้น้อย ครึ่งออนซ์เอง ถามเพื่อน ผู้ซึ่งเพิ่งคลอดลูกก่อนเราได้สองสัปดาห์ก็บอกว่านมไม่พอแน่เลย โทรไปถามรพ.ที่คลอด ก็บอกว่านมแม่ต้องกินทุกสองชม. นมผงสามชม. (-_-') ลูกเรามันก็ไม่ใช่สองชม.อยู่ดีนี่ แล้วถ้ากินทุกชม.ล่ะคะ ก็อ้ำๆอึ้งๆ จนโทรไปคลินิกนมแม่ เค้าก็บอกว่า เป็นแบบนี้แหละเดือนแรกๆ ให้ดูดไปเรื่อยๆเดี๋ยวเดือนหน้าก็เยอะเอง นมจะเพิ่มขึ้นตามความต้องการของลูก เราถึงได้ค่อยๆเข้าใจ คราวนี้มีปัญหาอะไรก็โทรถามตลอด ถึงได้ซึ้งว่าควรหาข้อมูลตั้งแต่ท้องจริงๆ ทำไมเดือนแรกลูกอึตลอด เดือนที่สองไม่อึหลายวัน ทำไมอึเป็นฟอง อึเขียว ทำไมนมใสจังฯลฯ แล้วเราก็ศึกษาเรื่องนมแม่มากขึ้นๆ กว่าจะเข้าใจมากๆจริงๆก็ลูกคนโตสามขวบได้มั้ง (คือถ้าขยันเราคงเข้าใจเร็วกว่านั้นอะค่ะ) จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:56:20

ความคิดเห็นที่ 77 ก่อนออกจาก รพ ก็ได้มาหลายยี่ห้อเหมือนกันค่ะ ตอนพาลูกไปฉีดวัคซีนแต่ละครั้ง ก็ได้กลับมาทุกที จนเราคิดว่าได้ครบทุกยี่ห้อในท้องตลาดแล้ว ลองชงให้ลูก เค้าก็ไม่กินเลย กินแต่นมแม่ ต้องเอาไปแจกคนอื่นทุกที ก็ยังดีที่มีประโยชน์กับคนที่เค้าต้องการอยู่เหมือนกัน จากคุณ : pineap เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:10:57

ความคิดเห็นที่ 78 เราคิดว่า แม่หลายๆคนส่วนใหญ่เขาก็ไม่ได้โง่ เขาก็คงทราบดีว่าโดยรวมแล้วนมแม่มีประโยชน์กว่า ทั้งในแง่สารอาหาร และการประหยัดเงิน แต่การเลือกจะให้นมอะไรลูก มันเป็นทางเลือกของแต่ละคน  (อยากจะขีดเส้นประโยคนี้จริงๆ) การรณรงค์เรื่องนมแม่เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ควรจะอยู่ในขอบเขต ไม่งั้นมันจะกลายเป็นเหมือนพวกคลั่งลัทธิ และพาลไปกดดันบางคนที่เขาไม่มีน้ำนมจริงๆ เปล่าๆ จากคุณ : Queen of hearts เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:29:51

ความคิดเห็นที่ 79 ไม่ทราบว่าจะนอกเรื่องไหม แต่ผมทราบมาว่า โฟโมส ผสมน้ำนะครับ ให้ดีจริงๆ ต้องไทย-เดนมาร์ค ผมกินมาตั้งแต่เดกๆครับ ตอนนี้ กินของ เดลี่-โฮม กับเมจิ พาสเจอไรท์ แทนครับ จากคุณ : Lusif (Lusif) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:29:57

ความคิดเห็นที่ 80 คห.58 นมแม่ล้วนหมายความว่า ให้นมแม่อย่างเดียวโดยไม่ได้ใช้นมผง นมกล่องหรือนมอย่างอื่นเลยค่ะ ส่วนอาหารอย่างอื่นไม่ว่าจะเป็นผลไม้ น้ำผลไม้ต่างๆไม่นับว่าเป็นนมค่ะ อย่างของเราลูกสาวเราดูดเต้าอย่างเดียวจน 2.1ปีโดยไม่ได้กินนมอย่างอื่นเลยไม่ว่าจะเป็นนมผงหรือนมกล่องต่างๆ และน้ำเย็น น้ำแข็ง น้ำปั่น ไอศครีมต่างๆ กินได้หมดค่ะ น้ำนมไม่หดเลยถ้าคุณให้นมหรือปั๊มนมอย่างมีวินัย รับรองเรากินทุกอย่างที่บอกมา จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:45:51

ความคิดเห็นที่ 81 คห.79 ต้องดูที่เขียนว่านมโคสด 100% ค่ะ ไม่อย่างนั้นจะเป็นนมผงผสมน้ำ ที่เป็นนมโคสด 100% ก็มีไทยเดนมาร์ค จิตรลดา หนองโพ อะไรอีก นึกไม่ออก โฟร์โมสต์เขียนว่านมโค 100 มั้งคะ ก็เป็นนมโคจริงๆ แต่ไม่สดค่ะ แม่ๆเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกอยู่แล้ว ขออย่าให้ใครไปให้ข้อมูลผิดๆกับแม่แล้วกัน จากคุณ : joymacy (joymacy) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:51:59

ความคิดเห็นที่ 82 แต่เราก็กินโฟร์โมสต์เป็นบางทีค่ะ อร่อยอะ ^^' จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:54:33

ความคิดเห็นที่ 83 ยินดีกับคุณแม่ทุกท่านด้วยนะคะ ที่ให้นมแม่ได้สำเร็จ แต่ขอร้อง คุณแม่ทุกท่าน อย่าใช้คำบาดใจกับนมผงได้มั้ยคะ อย่าง ลูกคนก็ต้องกินนมคน นมวัวกินแต่หญ้า กินนมวัวจะฉลาดได้ยังไง เราคนนึง มีปัญหาเรื่องการให้นม ตอนเค้าเกิดใหม่ๆ เราเคยปั๊มได้บ้าง หลังจากนั้นเป็นเวลานาน 1 เดือนที่เราต้องเลี้ยงลูกคนเดียว และลูกไม่ดูดนมจากเต้า เราความดันขึ้น 210 เป็นไข้หวัดใหญ่ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ และเป็นริดสีดวง เราต้องงดให้นมน้องเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม แย่กว่านั้น ตอนนี้เราพบว่าน้องแพ้โปรตีน เลยต้องให้นมสำหรับเด็กแพ้โปรตีนกับเค้า เรายังไม่รู้ว่าถ้าเรากู้นมกลับมาได้แล้ว ลูกเราจะกินนมเราแล้วแพ้รึเปล่า พวกคุณที่ให้นมลูกได้ ถือเป็นโชคดีของพวกคุณ แต่พวกคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมากล่าวว่าแม่ที่ให้นมผงลูกค่ะ ส่วนตัวเราขอขอบคุณบริษัทนมผงมาก ที่ผลิตมันขึ้นมา ไม่งั้นลูกเราคงอดตาย หรือไม่ก็แพ้นมตายไปแล้ว จากคุณ : แม่น้องอัณณา เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 00:46:10 A:124.122.36.229 X: TicketID:258399

ความคิดเห็นที่ 84 ขอบคุณจขกทมากที่บอกความคืบหน้าเรื่องCODE เราเป็นคนนึงที่ส่งจดหมายไปรณรงค์เรื่องนี้ด้วย เพราะอยากให้เด็กไทยได้กินนมแม่เยอะๆ และไม่หลงกลไปกับคำแต่งสวยหรูของบ.นมผงที่เน้นหากำไร แถมบางทียังให้ข้อมูลเรื่องนมแม่ผิดๆอีก (เราเคยเห็นคุณแม่บางคนเป็นแม่บ้านเต็มตัวและมีนมเยอะมากๆ จนเราอิจฉาเลยแต่เนื่องจากเขาคิดว่านมผงมีประโยชน์กว่านมแม่ กอปรกับคนรอบข้างไม่เห็นความสำคัญอีก สุดท้ายเด็กเลยได้กินนมแม่แค่ไม่กี่เดือนทั้งที่จริงๆแล้วแม่เขาให้นานกว่านั้นได้สบายๆ เราเห็นแล้วยังเสียดายแทนเลย) ความรู้ความเข้าใจสำคัญมากเลยนะคะเรื่องนี้ จากคุณ : k.lover เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 03:38:42

ความคิดเห็นที่ 85 อยากให้เป็นกฎหมายเร็ว เร็วจัง ทุกอย่างจะได้ชัดเจนเสียที จากคุณ : ilovelove88 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 06:10:29

ความคิดเห็นที่ 86 คุณจขกทพยายามรณรงค์ให้ความรู้กับคนที่อาจยังไม่รู้ทันเท่าสื่อโฆษณาของบริษัทนมผง  ต้องยอมรับความจริงค่ะว่าในสังคมมีผู้คนมากมายที่ไม่เข้าใจเรื่องการให้นมแม่อยู่มากๆ ทั้งนี้เกิดจากการโฆษณาที่ชักจูงเเละการให้ข้อมูลนมแม่อย่างผิดๆอยู่มาก เเละการส่งเสริมการให้นมแม่นั้นน้อยมาก   ประเทศออสเตรเลียจะไม่มีตัวอย่างนมผงเเจกให้กับเเม่ๆเลยค่ะ  เเละการให้นมผงกับเด็กทารกหลังคลอดนั้นเป็นเรื่องยากมาก ต้องมีเหตุผลที่สมควรจริงๆถึงจะให้นมผงแก่ทารกได้ เเละก็ไม่ได้ให้อย่างต่อเนื่องจนทารกเคยชินกับนมผง เนอสจะเข้ามาช่วยให้ความรู้การให้นมแม่ พยายามให้คุณแม่ให้นมแม่กับลูกให้ได้ในขณะที่อยู่รพ.เเละหลังคลอดกลับมาบ้าน  เเสดงให้เห็นว่า การให้ความรู้เรื่องนมแม่เเละบุคลากรของประเทศเค้าเเข็งจริงๆ  การโฆษณานมผงก็ไม่มีออกสื่อทางทีวี  ประเทศที่พัฒนาเเล้วก็ยังเห็นความสำคัญกับนมแม่อย่างมาก และการให้ความรู้เกี่ยวกับนมแม่อย่างถูกต้องเป็นเรื่องที่สำคัญ มีหน่วยงานช่วยเหลือให้ความรู้กับเเม่ที่มีปัญหาในการให้นมในหลายๆพื้นที่   แต่ว่าหลังจากที่ได้ความรู้การให้นมแม่   การให้นมผงกับลูกนั้นก็เป็นสิ่งที่คุณแม่เลือกที่จะให้เอง ต่างกับเมืองไทยตรงนี้ที่มีการแจกนมผง มีการให้ข้อมูลนมแม่ผิดๆ มีการตลาดแฝงที่เเยบยล ออกสื่อไปทั่ว  บุคลากรเองก็มีส่วนทั้งเนอสทั้งหมอ อ่านเห็นเรื่อยๆว่านมแม่6เดือนหมอบอกไม่มีประโยชน์ ป่วยไม่สบาย(ในกรณีที่สามารถทานยาและยังให้นมบุตรได้)งดให้นมแม่ จากคุณ : แม่อยู่ไกล (แม่อยู่ไกล) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 07:29:41

ความคิดเห็นที่ 87 อยากให้คุณแม่อยู่ไกลมาตั้งกระทู้ใหม่เรื่องนโบายของรัฐบาลที่โน่นให้ฟังจังค่ะ เพราะบางคนก็ไม่ได้ตามอ่านจนคห.สุดท้าย เพราะมันยาว เราก็ได้ยินมาว่าหลายๆที่นโยบายเค้าดีมาก บางที่มีผู้เชี่ยวชาญติดตามผลตามไปถึงบ้าน ไม่ได้ตามไปขายนมนะ เราก็ย้ำแล้วย้ำอีกอะนะว่าไม่ได้ห้ามผลิต ไม่ได้ห้ามขาย ใช้ได้ในกรณีจำเป็น เพียงแต่ให้ทำการตลาดแบบมีจรรยาบรรณ แม้แต่หมอที่ดชี่ยวชาญด้านนมแม่ก็ยังพิจารณาให้นมผง หากเห็นว่าจำเป็น และต้องมีวิธีให้อย่างระมัดระวังและระหว่างนั้นพยายามช่วยแม่ให้มีน้ำนมไปด้วย แม้แต่หนึ่งในแอดมินเพจนมแม่ก็ให้นมแม่ล้วนไม่ถึวหกเดือน ไม่เห็นจะต้องน้อยอกน้อยใจ สุดวิสัยก็คือสุดวิสัย มาช่วยกันให้ความรู้ดีกว่า คิดว่ามีปัญหาก็ปรึกษาผู้รู้ อย่าไปคิดเองเออเอง เครียดเปล่าๆ จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 08:28:45

ความคิดเห็นที่ 88 เราก็ไม่อยากให้คุณแม่นมผงใช้คำบาดใจกับคนให้นมแม่ อย่าง ลัทธินมแม่ คลั่งนมแม่ ฯลฯ เหมือนกันค่ะ ส่วนตัวเรา พยายามมากที่จะไม่พูดจาให้เกิดความรุนแรง จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 08:33:40

ความคิดเห็นที่ 89 คุณjoymacy คะ ไว้มยกมีข้อมูลจากหลายๆด้านมยกจะมาส่งข่าวเล่าเรื่องให้ฟังนะคะ เรื่องการโฆษณามีผลเเน่นอนค่ะ สำหรับคนที่ไม่มีความรู้เรื่องนมแม่ สำหรับผู้ที่ถูกชักจูงความคิดจากการอ่านข้อความบรรยายสรรพคุณแล้วหลงเชื่อทำให้มองข้ามเเละเชื่อผิดๆว่านมแม่ไม่มีประโยชน์   คุณjoymacy ตั้งกระทู้เรื่องนมแม่ กับการโฆษณาเกินควรการทำการค้าตลาดนมผงของบริษัทผู้ค้านมผง การแทรกแทรงนมผงไปยังโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ ในเรื่องภาพของการ์ตูนนั้นก็เเสดงให้เห็นสื่อถึงการทำการตลาดทุกรูปเเบบอย่างชัดเจน  เป็นตัวการ์ตูนดูง่าย คนที่ความรู้ไม่มากอ่านเเละตีความหมายอาจไม่เเตกฉานก็เห็นภาพเเละเข้าใจได้ง่ายขึ้น ในข้อความเนื้อความสื่อถึงการตลาด การเข้าหากลุ่มเป้าหมาย การค้าที่ได้ผลประโยชน์ต่อๆกันเป็นลูกโซ่ การโฆษณา ไม่ได้ว่านมผงเป็นสิ่งไม่ดีนะคะ จากคุณ : แม่อยู่ไกล (แม่อยู่ไกล) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 09:29:39

ความคิดเห็นที่ 90 จากคุณ : PASSENGERS ON BOARD เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 11:05:58

ความคิดเห็นที่ 91 เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์มากๆค่ะ เราก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยเห็นความสำคัญของนมแม่ ประมาณว่า.... คุ้นเคยกับนมผงมาจนชิน เนื่องด้วยการตลาด ที่ยัดเยียดทางสื่อแทบทุกช่องทาง แต่พอมาศึกษาจริงๆจังๆ ก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า นมแม่นั้นมีคุณค่ามหาศาล เราเองก็น้ำนมมาน้อย หลังผ่าคลอด แต่ก็พยายามที่จะต่อสู้กับความยากลำบากตรงนี้ ตอนนี้ผ่านมาสิบกว่าวันแล้ว ดีขึ้นมาก เพราะคำแนะนำจากเว๊บต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น thaibrestfeeding พันทิพ และคุณหมอสุธีราจากโรงพยาบาลบีเอ็นเอช (เราว่าทั้งโรงพยาบาลน่าจะมีหมอคนเดียวนี่แหละที่พยายาม อย่างมากที่จะให้ความรู้เรื่องนมแม่) เราไม่ได้คลั่งเรื่องนมแม่ แต่ขอเรียกว่ามี ศรัทธา กับนมแม่ อย่างไรก็ตาม เห็นใจคุณแม่หลายๆท่าน ที่ทำอย่างไรก็ไม่มีน้ำนม อันนี้ เราก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันค่ะ ว่าปัญหาคืออะไร ซึ่งม้นคงเป็นสาเหตุให้แม่หลายๆท่าน เริ่มเซ็งและท้อถอยกับการให้นมแม่.... แต่สำหรับเรา เราว่าปัญหาทุกอย่างมีทางออก สำคัญแต่ว่า เราแก้ปัญหาถูกจุดหรือไม่ จากคุณ : 2nd Ave. เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 11:11:39

ความคิดเห็นที่ 92 คอยติดตามอ่านเรื่อยๆ ค่ะ เห็นด้วยกับเรื่องนมแม่ และชื่นชมในความพยายามค่ะ ไม่มีข้อคิดเห็นแย้งใดๆ กับเรื่องในกระทู้นี้นะคะ ขอบคุณที่ช่วยให้ได้รับรู้ข้อมูลดีๆ ค่ะ ขออนุญาตออกความเห็น เรื่องคำเรียก ลัทธินมแม่ หน่อยนะคะ คิดว่ามันคงมีที่มา คือ เท่าที่อ่านเจอผ่านๆ มา มักจะเห็น เวลามีการพูดเสนอแนะเรื่องการให้นมแม่ พอคุยกันไปคุยกันมา บางทีมีใส่อารมณ์ และจะมีคำพูดคล้ายๆ กดดัน คนที่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ หรือต่อว่ากลายๆ เช่นยกตัวอย่าง คนที่ให้น้ำนมแม่ มาก่อนว่า ใช้ความพยายาม และลำบากมากขนาดไหน ฯลฯ ถึงคนจะให้นมแม่ไม่ได้ ก็ไม่น่าไปต่อว่าต่อขานกันนะคะ ให้คำแนะนำกันดีๆ จะดีกว่า คนเค้าจะเลือกทางไหน ก็แล้วแต่พิจารณา ด้วยข้อจำกัดแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าลดกรณีเหล่านี้ไปได้ การพยายามรณรงค์ให้นมแม่ ชุมชนนมแม่ จะดูน่ารัก น่าชื่นชมขึ้นอีกเยอะ เราคิดว่านะ จากคุณ : คนต่างดาว เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 11:38:42 A:199.48.226.86 X: TicketID:102465

ความคิดเห็นที่ 93 To ...  คห. 83 แม่น้องอัณณา เราอยากให้ Gift คุณจัง แต่ให้ไม่ได้เพราะคุณใช้บัตรผ่าน เรามันหัวอกเดียวกันค่ะ ^_^ จากคุณ : MaeMod เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 16:15:00

ความคิดเห็นที่ 94 เข้ามาโหวตว่าควรให้แม่ลาคลอดได้นานกว่านี้และที่สำคัญเงินสนับสนุนจากรัฐบาลควรให้ิต็ม100% ตามเงินเดือนที่เราได้รับค่ะ ตัวเราเองให้นมแม่ 99% ค่ะเพราะว่าลูกอยู่ต่างจังหวัดกับคุณยายเราต้องแพคนมส่งรถทัวร์ไปทุกอาทิตย์บางอาทิตย์นมไม่พอึุณยายก้อต้องให้นมผงเสริมเข้าไปเครื่องปั๊มนมประเทศเรามันก็แพงเหลือเกินซื้อจากเมืองนอกถูกกว่าครึ่งนึงแต่เวลาซ่อมก้อโดนฟันค่าซ่อมอีก อุปสรรคเราเยอะมากค่ะ ตอนนี้ลูกเราสี่เดือนกว่าแล้วเราก็ยังคงเพียรพยายามปั๊มต่อไปเดินทางไปประชุมต่างประเทศก้อหอบหิ้วกระติกใบโตไปแพคนมกลับมาด้วย แสนสาหัสแต่เราก็อยากให้ลูกกินนมเราเพราะลูกคนแรกได้กินแค่สองเดือนเนื่องจากเราป่วยเป็นไข้หวัด2009 แต่เพื่อนเราเค๊ามีปัญหาเรื่องการเงินเนื่องจากเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวรายได้ไม่พอเพราะบริษัทช่วยแค่เดือนครึ่งเลยต้องรีบแจ้นกลับมาทำงานเงินที่ได้จากประกันสังคมไม่พอจ่ายค่าบ้านค่ารถค่ะ   เราจะบอกว่านี่เป็นปัญหาระดับชาตินะคะไม่ใช่เคื่องเล็กๆค่ะ เราเองโชคดีที่มีเงินเก็บอยู่บ้างเลยลางานได้สบายแต่พวกแม่ๆพนักงานเงินเดือนล่ะคะ จะมัวแต่ให้นมลูกอยู่บ้านก้อไม่ได้จะให้ซื้อที่ปั๊มนมก้อไม่มีเงินอีก น่าเห็นใจค่ะ ควรให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังค่ะ จากคุณ : only_orange เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 17:10:54

ความคิดเห็นที่ 95 คห.91 โชคดีมากๆค่ะ ที่ได้เจอเซียนนมแม่อย่างคุณหมอสุธีรา ถ้าเจอหมอทั่วๆไปก็คงสถานการณ์แย่ลง คห.92 ขอบคุณมากๆนะคะที่ให้คำแนะนำ และให้โอกาสข้อมูลของเราให้เข้าถึงคุณ เราพยายามมากค่ะที่จะรักษาน้ำใจของแม่นมผง และเราก็ไม่เห็นด้วยที่จะใช้การต่อว่ากัน แต่บางทีมันก็ยากนะคะ การรณรงค์เรื่องนี้เนี่ย -_-' พูดอะไรก็ อืม ดูจะกระทบ กระเทือนใจ ไปหมด... จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 21:32:23

ความคิดเห็นที่ 96 ตัวอย่างโฆษณาที่อวดอ้างเกินจริงในสมัยก่อนค่ะ ช่วงที่มีโฆษณาก็มีคนเชื่อจริงๆ ว่านมข้นหวานมันดีเหมือนนมแม่ คือจะขายก็ขายนะคะ นมข้นหวาน แต่อย่ามาบอกว่าเหมือนนมแม่ ดีกว่าค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 00:12:55 จากคุณ : Narcosis เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 23:11:16

ความคิดเห็นที่ 97 อ้าว รูปไปไหน ^^ จากคุณ : Narcosis เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 23:11:54

ความคิดเห็นที่ 98 ตัวอย่างโฆษณาในสมัยนี้ บอกว่าใกล้เคียงนมแม่ แล้วมีดอกจันทร์เล็กๆ (รูปจาก FB นมแม่) ตามที่หลายๆ ท่านได้กล่าวไว้ ใครๆ ก็รู้ว่านมแม่ดี แต่ปัจจุบันมีคนเข้าใจผิดมากเหลือเกิน ว่ากินนมยี่ห้อนี้ "เหมือนนมแม่" หรือ กินนมแพะ "จะไม่แพ้ เพราะใกล้เคียงนมแม่" Code นม ระบุว่าห้ามโฆษณาแบบนี้ ห้ามเปรียบเทียบนมผงกับนมแม่ด้วยข้อความเช่นนี้ เพราะจะทำให้แม่ล้มเลิกให้นมแม่ไปได้ง่ายมากขึ้น ตามข้อเท็จจริง นมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด มีฮอร์โมน มีเอนไซม์ มีเม็ดเลือดขาวทำหน้าที่เป็นภูมิคุ้มกันที่มีชีวิต เป็นไปได้อย่างไรว่าจะมีนมผง "ใกล้เคียงนมแม่"? โปรตีนทุกชนิดที่เป็นโปรตีนสัตว์ (นมวัว นมแพะ) หรือแม้แต่ถั่วและไข่ขาว ล้วนมีขนาดใหญ่กว่า จะต้องทำการดัดแปลงก่อนถึงจะเป็นอาหารของทารกได้ มิฉะนั้นทารกจะเกิดผื่นแพ้ ผิวสาก หายใจติดขัด ถ่ายเป็นมูกเลือด แม้แต่ไขมัน ที่ต้องใช้ไขมันพืชแทน (เพราะทารกย่อยไขมันนมวัวไม่ได้) แล้วจะมีอะไรที่เหมือนนมแม่ ซักอย่างไหม? ไม่ใช่จะให้ทารกทุกคนกินนมแม่ ใครจะเลือกอย่างไรเป็นทางเลือกของแม่นะคะ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ใดมิอาจและมิควรก้าวก่ายการตัดสินใจของแม่ แต่กรุณา อย่า ใช้ นม แม่ เป็น เครื่อง มือ การ ทำ ธุรกิจ เพราะมันทำให้แม่มือใหม่ และคนอื่นๆ สับสนค่ะ ไม่ให้ห้ามขาย ไม่ได้ห้ามโฆษณาตามควร แต่ไม่อวดอ้างเกินจริงค่ะ คุณแม่ท่านใดจะให้ลูกกินนมอะไร ล้วนรักและหวังดีต่อลูกทุกคน ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกสุดความสามารถที่ตนเองจะมอบให้ได้ ด้วยความเคารพนะคะ :) แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 00:14:29 จากคุณ : Narcosis เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 23:26:40

ความคิดเห็นที่ 99 การแจกตัวอย่างนมผง ทำไมเค้าถึงใจดี บางยี่ห้อให้เป็นกระป๋อง? ในกระเป๋านมผงสำหรับแม่ที่ให้แม่ท้อง กล่องเล็กๆ เป็นนมสำหรับแม่ "ให้ลองชิม" 1-2 ซอง ด้านนอกกระเป๋าเขียนก็เป็นโลโก้นมผงของแม่ แต่ข้างในมีนมผงสำหรับทารกแรกเกิด ซึ่งปริมาณมากกว่าตัวอย่างนมผงของแม่ซะอีก ทำไมใน Code นมระบุห้ามบริษัทนมหรือผู้ขายติดต่อแม่ที่กำลังท้องและครอบครัวของเธอ? เพราะนอกจากข้อมูลที่อาจบิดเบือน บริษัทอาจแจกนมผงทารกด้วย สาเหตุหลัก: พอเด็กอ่อนได้กินนมผง นมแม่ไม่ได้รับการกระตุ้น "น้ำนมก็จะไม่มา" แล้วทารกจะต้องกินนมอะไรเมื่อน้ำนมแม่ไม่ไหลซักที ก็ต้องกินนมผงไปอีกเป็นปี สวนคุณพยาบาลไม่ได้ใจดีนะคะ พยาบาลก็ได้ค่าแจกค่ะ เค้าไม่ได้หวังดีกับเราเลยแม้แต่น้อย ไม่มีของฟรีในโลกนี้ :-( จากคุณ : Narcosis เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 23:43:05

ความคิดเห็นที่ 100 ชอบที่มีกระทู้นี้จัง ^.^ จากคุณ : แม่น้องริวว เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 04:39:10

ความคิดเห็นที่ 101 คุณNarcosis ลงภาพประกอบ คุณแม่หลายท่านที่คิดว่าตัวเองไม่สามารถให้นมเเม่ได้คงเข้าใจสิ่งที่คุณจขกทและอีกหลายท่านสมาชิกที่พยายามช่วยรณรงค์ไม่ให้มีการโฆษณาเกินควรของสื่อนนมผง เพราะเป็นผลกระทบวงกว้างต่อประชากรของประเทศที่เข้าใจผิด ทำให้เกิดอัตราการให้นมแม่นั้นลดน้อยลง    ทั้งนี้เจตนาไม่มีใครว่าค่ะว่านมผงไม่ดีเป็นยาพิษ หรือทานนมผงเเล้วเเย่ก็ไม่มีใครคิด เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในประเด็นที่คุณจขกทต้องการสื่อ เเต่ก็มีทุกครั้งที่จะต้องมีคนที่ไม่เข้าใจเเล้วเข้ามาบอกว่าจำเป็นต้องให้ เราก็รักลูกเหมือนกัน อ่านเเล้วเรารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังให้สิ่งไม่ดีกับลูกบ้าง  ลองกลับไปอ่านทบทวนในเนื่้อความนะคะเเล้วมองให้ถึงประเด็นที่เเท้จริง  จะทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้นค่ะ จากคุณ : แม่อยู่ไกล (แม่อยู่ไกล) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 05:46:01

ความคิดเห็นที่ 102 เราฝากท้องกับโรงพยาบาลในอเมริกา ตั้งแต่ท้อง 3 เดือนจนตอนนี้ 8 เดือนกว่า ยังไม่เคยได้รับแจกเลย แถมผลจากการหาข้อมูลเรื่องการให้นมแม่ที่ห้องชานเรือน ทำให้ต้องไปถามหมอและพยาบาลเรื่่องนโยบายการสนับสนุนนมแม่ของโรงพยาบาลกันเลยที่เดียว ถามละเอียดเลยนะ ประมาณว่า พอน้องออกจากท้องแล้ว พวกคุณจะทำไงจะลูกชั้นต่อ กลัวมากว่าเค้าจะไม่เอาลูกมาดูดนมแม่ภายใน 1-2 ชั่วโมง โชคดีมากที่โรงพยาบาลที่เราฝากท้อง เค้าสนับสนุนนมแม่ค่ะ จากคุณ : ภควมินตรา เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 09:23:52

ความคิดเห็นที่ 103 คุณ pertrucci คห 43 แล้วคุณแม่จะทำได้ค่ะ เราก็ working mom ให้นมแม่ล้วนกับลูกถึง 1 ขวบ 7 เดือนค่ะ ตอนนี้ก็กินแต่มื้อก่อนนอน (ปั้มให้ดื่ม) เราก็ปั้มที่ที่ทำงาน แล้วเราก็เดินทางบ่อยก็หอบไปปั้มด้วยตลอดค่ะ ^^ จากคุณ : nitimajeng เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 10:11:27

ความคิดเห็นที่ 104 คุณภควมินตรา เล่าให้ฟังด้วยนะคะ จากคุณ : Joymacy (joymacy) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 10:24:34

ความคิดเห็นที่ 105 น้ำนมไม่พอ มันเป็นข้ออ้างคะ ถ้าหากเรารู้ว่าน้ำนมไม่พอ เราก็มีวิธีแก้นี่คะ นมผงมันจะเจาะเราทุกที่เมื่อมีโอกาส ขอให้คุณแม่ทุกคนอดทน อดกลั้น มองหน้าลูกแล้วสู้ต่อไปคะ จากคุณ : muu ruu (muu ruu) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 11:05:35

ความคิดเห็นที่ 106 เขียนเกี่ยวกับนมแม่ทุกครั้งที่มีโอกาส ใครจะบอกว่าไม่มีนมเลยต้องให้นมกระป๋อง จะบอกว่าคุณโดนความไม่รู้ของตัวเองเล่นงาน เด็กทารกต้องการนมแค่ 1 ช้อนชา เด็ก 3-4 วันแรกไม่กินอาหารก็ยังได้เพราะมีอาหารเดิมติดตัวมา ธรรมชาติสร้างงสรรค์ มาให้ครบหมด รู้ว่าช่วงแรกแม่(บางคน)อาจจะยังไม่มีนม ตัวเก่งเองนมมาวันที่ 3 ทั้งๆที่คลอดธรรมชาติ และปั๊มนมทุก 3 ชั่วโมงตามตารางทุกวัน ลูกก็กินนมวันที่ 3 นั่น แหละ ก่อนหน้านั้นไม่มีนมผงเลย มีน้ำที่พยาบาลเอามาหยดลงหัวนมหลอกให้ลูกเลียๆ ดูดๆบ้างไม่กี่หยด แต่เหล่านี้คือสิ่งที่แม่ก่อนคลอดไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องประสบ หลายคน นึกว่าเรื่องให้นมเป็นเรื่องธรรมชาติ คลอดลูกแล้วเดี๋ยวก็มีนม พอวันที่สองนมยังไม่มาก็ ใจเสีย พยาบาลก็ไม่รู้เรื่องนมแม่ อากงอาม่าก็กลัวหลานหิวเดี๋ยวไม่โต สิ่งนึงที่ภูมิใจคือคนรอบข้างที่ได้มีโอกาสคุยกับเก่งจะให้นมแม่สำเร็จ"ทุกคน" ฉะนั้น เป็นความเชื่อส่วนตัว(ที่ลึกๆเชื่อว่าจริงว่าแม่ทุกคนสามารถให้นมลูกได้ ถ้าไม่ใช่เพราะ สุขภาพร่างกายไม่สมบูรณ์) หลายคนบอกว่าเด็กที่กินนมแม่ฉลาดกว่าเด็กกินนมผง ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่จริง คิดเอาเองว่าทัศนคติของแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนได้ไม่ต่ำกว่า 6 เดือนต้องอาศัย ความอดทน(เจ็บ เหนื่อย ท้อ) อดกลั้น(ต่อคำพูดของคนอื่น) ความทุ่มเท(ยอมอดกิน เผ็ด กินของชอบ) ความมีวินัย(ปั๊มนมตามเวลา ตามหน้าที่) เหล่านี้ล้วนมีผลต่อทัศนคติ ในการเลี้ยงลูกทั้งนั้น ตัวเก่งเองเลี้ยงจนลูก 4 ขวบกว่าจะบอกว่ายังไม่เจออะไรทรมาน เท่าให้นมแม่เลย เก่งเป็นคนนึงที่ทรมานมากจากการให้นมแม่ ตอนลูกคนโต 7 เดือนนม แม่เก่งยังไม่เข้าที่เข้าทางเลย นมคัด ท่อนมอุดตันสารพัดเจ็บ ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายถึงแม่ที่ให้นมกระป๋องไม่รักลูก แม่รักลูกกันทั้งนั้นแหละค่ะ แล้วเก่ง ก็เจอแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมกระป๋องแล้วเลี้ยงลูกได้ดีมากๆๆๆๆก็มี  เพราะสิ่งแวดล้อม ทำให้พลาดข้อมูลสำคัญไป แล้วการกู้น้ำนมก็ทำได้ยากกว่าที่จะเริ่มแต่แรกมากมาย เก่ง ก็มีเพื่อนที่ลูกนมกระป๋องไปหลายสัปดาห์กลับมาให้นมแม่ได้สำเร็จ แต่นั่นก็หมายถึง ต้องสู้กับแรงต่อต้านรอบด้าน ใจแข็งมากมาย อยากบอกแม่ๆทุกคนว่าแม่ที่ผ่านการให้นมแม่มาล้วนผ่านความลำบากมากด้วยกันทั้ง นั้น และเมื่อผ่านกันมาได้ก็อยากจะตะโกนบอกแม่ๆคนอื่นว่า "ลองเถอะ ลองสู้ดู มันทำ ได้ ฉันทำได้เธอก็ทำได้" เสียงของพวกเราได้แต่บอกต่อกันอย่างนี้ มันไม่มีทางดังกว่า บริษัทนมผงที่โฆษณาโครมๆหรอกค่ะ เราถึงได้ช่วยกันตะโกนปาวๆตามเว็บบอร์ด แต่ อยากให้เอะใจคิดกันนิดนึงว่าพวกแม่ๆพวกนี้ได้อะไรจากการตะโกน? ได้เงินจากเว็บ นมแม่เหรอ? ได้ความสะใจที่เห็นแม่ที่ทรมานให้นมแม่ไม่ได้เหรอ? ทุกคนตั้งอยู่บน ความตั้งใจดีกันทั้งนั้นหละนะคะ ยิ้มๆกันไว้นะคะลูกจะได้ซึมซับความสุขจากแม่ แก้ไขวรรคตอนค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 11:46:00 แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 11:38:25 จากคุณ : IcyRose เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 11:37:42