ความคิดเห็นที่ 1 พ่อแม่สมัยใหม่บางคน เขาก็ เห็นอุปกรณ์ไฮเทคพวกนี้   เป็นอุปกรณ์  ที่ทำให้  เด็กอยู่นิ่งๆ  ไม่ถาม ไม่ซน  เท่านั้น เข้าใจ ความรู้สึก  ของจขกท เลย ครับ จากคุณ : otto เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 22:17:00

ความคิดเห็นที่ 2 เราคนนึงแหละที่จะไม่ให้อุปกรณ์พวกนี้มาทำลายความสัมพันธ์ในบ้าน แค่ปกติกลับมาบางทีเหนื่อยก็แทบจะไม่ได้คุยกันแล้ว วันก่อนไปตลาดเราก็เห็นเด็กประมาณซัก6ขวบได้ยืนเล่นไอแพดคนเดียวไม่เล่นกับเพื่อนๆเลย เฮ้อ.. จากคุณ : มนเจ้าคุณ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 22:38:10

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นได้ชัดว่าบางคนไม่ได้มีภาวะพอที่จะเป็นพ่อแม่คน.... ปล.เจอแบบเจ้าบองกระทู้บ่อยๆแต่ส่วนมาจะเจอแบบพ่อเครื่องลูกเครื่อง ต่างคนต่างจิ้ม มันเลยทำให้นึกถึงคำว่าก่อนวัยอันควร ... ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับอายุ และฐานะเลย จากคุณ : น้องเล้ง (น้องเล้ง) เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 22:40:15

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนตัวไม่ได้สนับสนุนและไม่ได้ต่อต้านอะไรกับอุปกรณ์ตระกูลไอพวกนี้ แต่เห็นว่าพ่อแม่หลายคนซื้อให้ลูกเพราะเป็นอุปกรณ์ช่วยให้ลูกอยู่นิ่ง อยู่เฉยๆได้นานๆ คุณพ่อท่านนึงเล่าว่าซื้อไอแพดให้ลูกชายวัยประถมกับไอโฟนให้ลูกสาววัยมัธยม ตั้งแต่นั้นชีวิตคุณพ่อก็มีความสุขขึ้นมาก เวลาลูกมารอที่ทำงาน,ไปกินเลี้ยง,ไปบ้านญาติ ทั้งเจ้าตัวเล็กตัวโตที่เอาแต่บ่น ร้องแต่จะกลับบ้านๆ สามารถอยู่ได้นานๆโดยไม่บ่น ไม่ร้องจะกลับบ้านอีก จะบอกว่าคุณพ่อทำผิดหรือถูกคงตอบยาก แต่ที่แน่ๆคือการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทุกคนได้ผลประโยชน์และรู้สึกดีด้วยนั้นยากมากที่จะสำเร็จ จากคุณ : JanE & IK เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 22:48:27

ความคิดเห็นที่ 5 อาจเป็นเหมือนสมัยก่อนที่พ่อแม่ซ์ื้อเกมส์บอยให้ลูกเล่น จากคุณ : คุณแม่พันธ์อึด (ting-p) เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 22:57:20

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับแต่ละบ้านคงมีเหตุผลที่แตกต่างกันออกไปนะครับ แต่สำหรับผมแล้วก็สรรหาอุปกรณ์ตระกูลนี้มาให้ลูกเช่นกัน ด้วยเหตุผลเข้าข้างตัวเองว่าเสริมพัฒนาการลูก แต่มาพิจารณาเหตุผลจริง ๆ แล้วคือเรามันขี้เกียจที่จะสอนลูกนี่นา สรุปสุดท้ายตอนนี้ผมก็ให้ลูกเลิกเล่นของ IT นะครับ หันมาเน้นเรื่องการปฏิสัมพันธ์พูดคุยได้หยิบจับ เพื่อให้ลูกได้ใช้กล้ามเนื้อต่าง ๆ แทนตากับนิ้ว แก้ไขคำพิมพ์ผิดครับผม แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 55 23:07:53 แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 55 23:06:44 จากคุณ : DevMan เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 23:06:09

ความคิดเห็นที่ 7 มาดูอเมริกาสิคะ ครอบครัวส่วนมากใช้เวลากับมือถือ ไอแพด ไอโฟน BB เกมกด... เดินกันนี่ไม่มองทางเดินกันแล้ว จนชนกันมีทะเลาะกันก็บ่อย ..ขับรถมีอุบัติเหตุ ขนาดรัฐบาลตั้งกฏหมายห้ามใช้มือถือ ก็ยังฝ่าฝืนกัน... ไม่รู้ว่าจะต้องพูดๆๆๆกันมากมายแค่ไหน ไม่เลือกเวลากัน บางคนขับรถบนไฮเวย์ แต่ตาก้มมองข้อความในมือถือ... อันตรายยยยยยยย ครั้งหนึ่งนั่งรถบัสจากนิวยอร์คไปบอสตัน... ฝนตกหนักมากระหว่างทางบนไฮเวย์... เป็นรถบัสบริษัทจีน คนขับจีนขับรถมือหนึ่งจับพวงมาลัย อีกมือก้มมองกดหาเบอร์เพื่อโทรคุย... เขาไม่คิดนะว่าผู้โดยสารทั้งรถนี่ขึ้นอยู่กับเขา... จากวันนั้นดิฉันโทรร้องเรียนบริษัทรถบัสเกี่ยวกับการทำงานของคนขับ มันอันตรายมาก ถ้าบริษัทไม่ทำอะไรไม่อบรมคนขับ และถ้าดิฉันใช้บริการและยังเห็นคนขับทำแบบนี้อีก ดิฉันจะแจ้ง Better Business Bureau... ทางบริษัทรับปากว่าจะอบรม ทางบริษัทอาจถูกเพ่งเล็งเมื่อลูกค้าร้องเรียน บ้านดิฉันไม่ยึดติดกับของพวกนี้ มีมือถือใช้ แต่ไม่ต้องรุ่นพิเศษ... ใครจะไปไกลแค่ไหน ไม่สนใจ... ครอบครัวใครครอบครัวมันกันแล้ว กับผลกระทบด้านวัตถุ จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 23:07:39

ความคิดเห็นที่ 8 พี่ชายเราก็เลือกซื้อให้หลานค่ะ มีหลานชาย 2 คน ตัวใกล้ๆกัน ป1 กะ ป2 พี่ชายเปิดร้านอาหารค่ะ ตอนเด็กๆกลับจากโรงเรียนจะยุ่งมาก เค้าซื้อ ไอแพดให้เล่นค่ะ เค้าว่าเด็กมันนิ่งขึ้นเยอะ ไม่ต้องคอยตะโกนเรียกว่าอยู่ไหนๆ แต่พ่อเราก็บ่นใหญ่  ว่า เยอะเกิ๊น !!  เราก็ว่าไม่ได้อะนะ เพราะเราก็เล่น FaceTime กะหลานนี่แหละ ...  ก็คงต้องอยู่ที่ความพอดี แล้วก็อยู่ในความดูแลของพ่อแม่ด้วยค่ะ เราว่านะ จากคุณ : pertrucci เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 23:08:05

ความคิดเห็นที่ 9 จริงๆ ไม่ได้ต่อต้าน iPad เลย ตอนนี้ท้องอยู่ก็ใช้ iPad เปิดเพลงให้ลูกฟัง ยังคิดอยู่ว่าจะโหลดโปรแกรม เพลงเด็ก วิดีโอ หรือสอนภาษาอังกฤษ ฯลฯ มาเตรียมไว้ให้ลูกเหมือนกันค่ะ แต่พอมาเห็นลูกเพื่อนอายุแค่ขวบกว่าๆ ชอบ iPad มาก และดูเหมือนสมาธิสั้นมากๆด้วย เพราะเล่นไปได้นิดนึง เล่นต่อไม่เป็น ก็จะกดเปลี่ยนเกมทันที ถามเพื่อนว่าให้ลูกเล่นเร็วไปไหม แม่เค้าบอกว่า เป็นสิ่งเดียวที่หยุดลูกได้ค่ะ บางคนเล่าให้ฟังว่า ลูกยังเรียกพ่อเรียกแม่ไม่ได้เลย แต่ตื่นเช้ามาเกาะเตียงแล้วร้องขอ แพด แพด ได้แล้ว เลยตัดสินใจอย่างแน่วแน่บอกกับแฟนว่า ห้ามให้ลูกเล่น iPad จนกว่าจะโตพอจริงๆ จากคุณ : ZRiN เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 55 23:44:02

ความคิดเห็นที่ 10 เด็กบางคนมันซนเว่อร์ค่ะ ก็อยากให้อยู่นิ่งบ้างสัก 10 - 15 นาทีก็ยังดี ถ้าเด็กไม่ติดก็โอเคนะคะ เราก็เอาให้ลูกเล่นนะ ลูกเราไม่ติดเกมส์เท่าไหร่หรอกค่ะ เขาจะชอบเปิดวีดีโอดู ส่วนใหญ่จะดูตัวเองในวีดีโอ -*- จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 00:07:24

ความคิดเห็นที่ 11 เป็นคนนึงที่เหนื่อยใจกับพฤติกรรมการเลี้ยงลูกแบบนี้ ... ต่อให้รวยล้นฟ้าแต่การที่ให้เด็กที่ยังหารายได้ เองไม่ได้ใช้ของแพงส่วนตัวเรากลับคิดว่าไม่เหมาะสมนะคะ ไม่นับรวมเรื่องการขาดปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง อีกด้วย เด็กคนหนึ่งมี อีกคนก็เอาอย่าง พากันสร้างค่านิยมอะไรไม่รู้ อีกหน่อยเด็กมันจะดาวน์โหลดAppฯพ่อกะแม่ใส่Ipad Iphone มาไว้เลี้ยงตัวเองกันละเน้อ จากคุณ : นางสาวมินิ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 00:19:58

ความคิดเห็นที่ 12 บ้านเราไม่มี ipad ให้ลูกจิ้มเล่นเวลาออกไปนอกบ้านและไม่มีโทรทัศน์ติดในรถให้ลูกดูค่ะ เพราะเราคิดว่าการที่ได้ออกไปข้างนอกกับลูกคือการที่พ่อแม่ลูกได้ใช้เวลาคุณภาพอยู่ด้วยกัน เช่นทานข้าว เราก็ได้คุยกับลูกถามไถ่และแชร์เรื่องต่าง ๆ รวมทั้งเวลาที่เราขับรถด้วยค่ะ เราชอบคุยกับลูก ชอบถามให้เค้าเล่าเรื่องราว ความรู้สึกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน บนรถสำหรับเราเป็นที่ที่ได้คุยกันมากเพราะเด็ก ๆ หนีไปไหนไม่ได้ อิอิ รวมทั้งเวลาออกนอกบ้านเราชอบให้เด็ก ๆ มองออกไปนอกรถ ดูสิ่งที่แวดล้อมเค้าอยู่และบ่อยครั้งที่เค้าสงสัยและถามเรา ถือว่าเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่งค่ะ หากมีโทรทัศน์เด็กคงมองแต่จอทีวีและไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ทำให้เราไม่เคยอยากติดทีวีตามที่ลูกเรียกร้องเลย เราไม่แอนตึ้เทคโนโลยีนะคะ แต่ควรใช้ให้เหมาะสม  ใช้ให้เป็นประโยชน์ไม่ใช่เป็นโทษค่ะ  ลูกเรายังดูทีวี เล่นเกมส์ เล่น ipad ของน้องชายเราบ้าง เด็กยังต้องการปฎิสัมพันธ์กับพ่อแม่ค่ะ  สิ่งที่เรากลัวที่สุดสำหรับเด็ก ๆ คือ หากวันนึงเค้าโตขึ้น เวลาเหงาเวลาหาทางออกไม่ได้ จะหันหน้าไปทางไหน  จะให้เด็กหันหน้าไปหาพ่อแม่ก็อาจจะไม่คุ้นเคยเท่าไอ้จอสี่เหลี่ยมที่พูดคุยกันมาตั้งแต่เด็กรึเปล่า จากคุณ : Nostalgie เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 00:24:47

ความคิดเห็นที่ 13 เราว่า สื่อพวกนี้มีประโยชน์ แล้วก็มีอันตรายด้วย หลานชายเรา จะเข้า 6 ขวบแล้ว ติด ipad มากๆๆๆ ก่อนหน้านี้ ติด i phone  ก่อนจะมาติด ipad iphone หลานเราฉลาดมาก คือเรียนรู้ไว เข้าใจอะไรได้ไว เล่นนู่นนี่ เล่นของเล่นเด็กผู้ชายทั่วๆไป ดูดีวีดี สำหรับเด็ก เรายังเคยคิดว่า เด็กคนนี้ไปได้ไกลแน่ๆ เพราะเป็นเด็กเรียนดี ทุกวันนี้ ติด ipad งอมแงม ยังดีที่พื้นฐานเป็นเด็กไม่ดื้อ เวลาให้ไปโรงเรียน ก็ไป แต่กลับมาบ้าน วิ่งหา ipad ก่อนเลย ไม่พูดไม่คุยกับใคร กดๆๆๆ เล่นเกมส์อย่างเดียว ตอนนี้การเรียน ไม่ได้ดีมากอย่างแต่ก่อน เริ่มจะถอย เวลาคุยด้วยจะมึนๆหน่อย เพราะเล่นแต่เกมส์ ล่าสุด ไปหาซื้อของเล่นให้ หายากมาก เพราะเค้าติดเกมส์มาก แบบนี้ให้โทษอ่ะ เสียดายจัง เด็กมาดีๆแท้ๆ แต่เสียเพราะ ipad จากคุณ : usagimom เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 00:34:51

ความคิดเห็นที่ 14 สำหรับเรามันก็โอเคนะคะ เราไม่มีลูกหรอก มีแต่น้องอายุ 5 ขวบซึ่งซนและเอาแต่ใจมาก การให้เล่นเกมในโทรศัพท์เพื่อฆ่าเวลาเป็นวิธีที่ทำให้เขาอยู่ข้างนอกได้โดยไม่โวยวาย ไม่กรี๊ด ไม่ดื้อไม่ซนเหมือนแต่ก่อน กลับเข้ามาบ้านเราก็คุยกันเหมือนเดิม ปกติดีไม่มีอะไร อย่างวันนี้เรากับแม่พาเจ้าตัวแสบไปดูกายกรรมที่เจ้าตัวร้องอยากไปเอง แต่พอเข้าไปได้สิบนาทีงอแงละ ขยับไปขยับมา เท้าจะไปพาดคอคนข้างหน้าอยู่แล้ว พอบอกว่าอย่าทำก็หน้างอ โวยวาย อยากกลับ ไม่ดูแล้ว หลอกให้ดูยังไงก็ไม่ดู จนปัญญาจะหลอกล่อแล้ว สุดท้ายเลยยื่นโทรศัพท์ให้เจ้าตัวก็รับไปกดเล่นเกมสบายใจไม่ออกฤทธิ์ พอโชว์จบ ยึดมือถือคืน กลับบ้าน พูดเป็นต่อยหอยเหมือนเดิมค่ะ win win ทั้งสองฝ่าย ของแบบนี้ก็ดาบสองคมล่ะค่ะ อยู่ที่ว่าจะใช้ให้มันเกิดประโยชน์หรือให้โทษ ปล. เรามีแต่ตระกูลแอนดรอย จิ้มๆเหมือนกันคงไม่หลุดกระทู้หรอกเนอะ จากคุณ : มะม๊าหนูชเว เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 00:59:10

ความคิดเห็นที่ 15 วัยที่แต่ละท่านมีลูกๆกัน เป็นแค่วัยไม่กี่ขวบเอง และส่วนน้อยที่ยังไม่ถึงสิบขวบ รอให้เป็นวัยแรกรุ่น ไปจนถึงวัยรุ่นก่อนสิ... แล้วจะรู้ว่าสวรรค์ในอก นรกในใจเป็นยังไง... เลี้ยงดูแบบปกติโดยไม่มีวัตถุแบบนี้ การเรียนให้ดีอยู่ในเกณฑ์ยังท้าทายมากมายแค่ไหน... วัตถุเหล่านี้ไม่ไ้ด้ช่วยฟื้นฟูในการเรียนระดับมัธยมขึ้นไป... มันเป็นแค่เครื่องบันเทิงมากกว่าคนเลือกใช้ประโยชน์ในการทำรีเซิช ทำรายงาน... ด้วยคนใช้มักเถลไถลไปเข้าเว้บบันเทิงตัวเองมากกว่าเพื่อการเรียน ต้องใช้สมาธิมากๆ... ดิฉันเงอยังเถลไถล แทนที่จะเอาเวลาไปศึกษาอ่าน Tutorial ฝึกฝน แต่กลับเอาเวลามาอ่านกระทู้  ดูหนังออนไลน์ จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 01:10:26

ความคิดเห็นที่ 16 เราทะเลาะกะสามีเพราะเรื่องนี้แหละคะ  สามีอยากซื้อใหลูก เพราะ เห้นลูกอยากได้ ไปไหนเจอใครมีไอโฟน ไอแพต ต้องไปขอเค้าเล่น  แบบสนใจ ตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจ (ลูกอนุบาล2 )     ส่วนตัวเราคิด  ให้เมื่อไหร่  ติดเกมส์แน่ๆ  การเรียนจะดีเหรอ  ยังเด็กเกินที่จะเล่นเกมส์  ปัญหาสายตาอีกอ่ะ   สุดท้าย  ต้องยอมสามี ไม่อยากทะเลาะไม่อยากมีปัญหา  ซื้อมันเลยทั้งไอแพตไอโฟน  หลังจากซื้อ ก็ยังทะเลาะกันไม่หาย เพราะ ไปไหนก็หยิบยื่นให้ลูก  กินข้าว  ทุกครั้งกินเองได้  แต่ถ้าพ่อไป ป้อนหน่อยเพราะจะเล่นไอแพต  พ่อเต็มใจ  แต่เราเซ็ง กินข้าวไม่อร่อยทุกครั้ง มุมมองแต่ละคนมองไม่เหมือนกัน  เข้าใจว่าพ่อแม่รักลูก เห้นลูกคนอื่นมี ลูกคนอื่นเล่น ก็อยากจะให้บ้าง แต่ส่วนตัว  รับไม่ได้จริงๆคะ เห้นด้วยกะทุกๆคน ตื่นมา คำแรกที่พูด ขอเล่นไอแพตหน่อย   ไปไหนทำไร เอาแต่ไอแพตๆๆ เราเครียดมากกกก   ทุกวันนี้ สามีไม่อยู่ เราซ่อนตลอด    แต่พ่อมาได้เล่น  ลูกเริ่มจะรักพ่อมมากกว่าแม่ซะแล้ววว  เฮ้อออออ ใครที่ยังไม่ได้เริ่มซื้อ ได้แต่คิดไว้จะซื้อให้ลูก  ไตร่ตรองและพิจารณานะคะ  ส่วนตัวคิดว่าผลเสียมากกว่าผลดีคะ เพราะเด้กยังแยกแยะ ยังแบ่งแยก อะไรไม่เป้น  สื่อต่างๆก็น่ากลัวคะ ถ้าใช้ผิด จากคุณ : ร่าเริงเลย เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 01:14:19

ความคิดเห็นที่ 17 เหรียญมีสองด้าน... ใช้ให้ดีก็เกิดประโยชน์  ใช้ไม่ดีก็เป็นโทษค่ะ ทุกอย่างในชีวิตแหละค่ะ ถ้ามากเกินไปก็เริ่มทำให้ชีวิตไม่สมดุลได้ แต่เราว่าแต่ละครอบครัว ความเหมาะสมคงแตกต่างกันไปค่ะ เราเองรู้ตัวเองดีว่า...ว่าแค่ไหนจึงจะเหมาะ อยู่ที่ว่าจะสามารถควบคุมตัวเองได้ไหม เด็กยังไม่มีวุฒิภาวะตรงนี้มากพอ  ที่จะรู้จักลิมิตตัวเองค่ะ ผู้ใหญ่คงต้องเป็นฝ่ายช่วยเหลือค่ะ จากคุณ : รักเฌอ..ประเทศไทย เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 01:18:22

ความคิดเห็นที่ 18 กลัวลูกติด iPad เหมือนกันค่ะ ตอนนี้เลยเอามายึดไว้ซะ กลายเป็นเราติดแทนลูกสะแร้ว จากคุณ : sakurasato เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 01:30:11

ความคิดเห็นที่ 19 เราซื้อ ipad ให้ลูกค่ะ ลูกสาวเรา 3 ขวบ เธอเล่นทั้งวี่ทั้งวัน เล่นจนแบตหมด ก็หันไปเอา ipod ถ้าแบตหมดอีก ก็ไปคว้า iphone ทุกวันนี้เราไม่ให้ลูกแตะอุปกรณ์พวกนี้เลยค่ะ เก็บหมด พ่อ-แม่ก็ห้ามใช้เหมือนกัน ยกเว้นอย่างเดียวคือโทรศัพท์ ลูกเราตั้งหน้าตั้งตาเล่นอย่างเดียวเลย ไม่ทำอะไร ตื่นมาก็มาคว้าเอาไปเล่น ออกไปข้างนอกนั่งรถก็เล่น ไปทานข้าวก็เล่น เห็นว่าลูกติดงอมแงม เลยรีบเอาอุปกรณ์พวกนี้ออกมาจากชีวิตประจำวันลูกก่อนดีกว่า ก่อนที่จะสายเกินไป อย่างที่จขกท.บอกเลยค่ะ ให้เด็กๆได้เจอได้สัมผัสกับประสบการณ์รอบตัว และเรียนรู้จากการซักถามพูดคุยดีกว่าค่ะ อบอุ่นกว่ากันเยอะ จากคุณ : symbolic เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 01:54:31

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นด้วยมากๆค่ะ.... ประโยคที่พูดกับลูกประจำ คือ "โลกไม่ได้มีแค่จอสี่เหลี่ยม" ทีวี ซีดี เกมส์ คอมพ์ ไอพ๊อต ไอแพ็ต ไอโฟน แทบเล็ต....จอสี่เหลี่ยมทั้งนั้น เราจะคอยจำกัดเวลา   จอสี่เหลี่ยมทั้งหมด....แต่ก็ไม่ค่อยได้นะคะ เพราะเราทำงาน /งานบ้าน /ธุระส่วนตัว....ลูกก็ย่องเข้าจอสี่เหลี่ยมตลอด พ่อมันก็เป็นตัวอย่างที่ชัดมาก จากคุณ : บ้านดอกชวนชมสารพัดสี เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 02:27:24

ความคิดเห็นที่ 21 สำหรับเรา เราแอนตี้การใช้สื่อพวกนี้อย่างไม่ถูกต้องและไม่ใช่วัยอันควรค่ะ สื่อพวกนี้ก็เหมือนทีวี ซึ่งทำให้(ตัว)เด็กนิ่งได้ แต่สมาธิเด็กจะไม่นิ่ง เพราะเขาสามารถคอนโทรลอุปกรณ์เหล่านี้ได้ เด็กที่ติดสิ่งเหล่านี้จะไม่ค่อยมีความอดทนในการรอ สามีเราให้ลูกเล่นไอแพดตั้งแต่ 11 เดือน เพียงเพราะมันทำให้เด็กอยู่นิ่ง และเขาจะได้พักผ่อนมากขึ้น เช่นตอนเช้าๆลูกมาหาที่เตียง เขาก็โยนไอแพดให้ส่วนตัวเองก็นอนต่อ...เป็นอย่างนี้อยู่เสมอ จนลูกติดถ้าไม่ได้เล่นจะเกรี้ยวกราดร้องหาไอแพด เราโกรธจนบอกว่า ลูกไม่ต้องมีพ่อมาเลี้ยงก็ได้ มีไอแพดก็เลี้ยงลูกได้เหมือนกันนั่นแหละ เขาก็เถียงว่าเขาต้องการการพักผ่อนถ้าไม่มีไอแพดเขาเลี้ยงไม่ไหว เราฟังแล้วก็เศร้ากับความคิด พยายามจะไฟท์บ้านแตกจนตอนนี้ลูกเราเลิกติดแล้วค่ะ เราจะเปิดให้ดูเฉพาะ app เด็กๆ กับนิทานเด็กเล็ก พวกเกมรุนแรงเช่นตีสัตว์หรือเสียงดังวื้บว้าบนี่ไม่ให้ดู (ลูกเราสองขวบกว่าค่ะ) เราว่าไอแพด ไอโฟนนี่มีก็ดีถ้าใช้ถูกวิธี แต่ไม่มีก็ไม่เห็นเป็นไรค่ะ เราสนับสนุนการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงและสื่อหนังสือมากกว่า มันเหมือนคนได้รับจดหมายน่ะค่ะ ความรู้สึกซาบซึ้งกว่าอีเมลเป็นไหนๆ จากคุณ : Rada Nene เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 03:01:42

ความคิดเห็นที่ 22 เราให้ลูกใช้ทั้ง iphone และ ipad ค่ะ ลูกเราคนโตชอบเล่น app หัดเขียน ก ไก่ แล้วท่องตามค่ะ ส่วนคนกลางชอบเล่น app sing sing together เป็น app ที่ร้องเพลงภาษาอังกฤษง่าย ๆ ประกอบท่าเต้นค่ะ ลูกเราเปิดแต่ 2 app ค่ะ เราให้ลูกเล่นไม่ใช่เพราะอยากจะให้อยู่นิ่ง ๆ นะคะ แต่เราเห็นว่าบาง app ที่โหลดมาเนี่ยเหมาะกับลูกมากแค่่ไหน เพราะเวลาส่วนใหญ่ลูกเราเอาไปวิ่งเล่นนอกบ้านกะเล่นบทบาทสมมติกันมากว่าค่ะ จริง ๆ การใช้อุปกรณ์เหล่านี้ควรอยู่ในความดูแลของพ่อแม่ด้วยค่ะ ไม่ใช่หยิบยื่นให้ลูกแต่ไม่อธิบายหรือให้คำแนะนำค่ะ จากคุณ : จอมมารพุงโต เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 03:49:48

ความคิดเห็นที่ 23 ไอแพด ไอโฟน ที่นี่ ราคาถูกๆ แต่เราไม่มีใช้ค่ะ เวลาไปเจอเพื่อนๆ หรือเพื่อนใหม่ เค้าจะถามหาเบอร์โทร เราบอกว่า เราไม่มี เค้าทำหน้างงๆ ฉะนั้นลูกๆ เราไม่ได้เติบโตมากับสิ่งเหล่านี้แน่นอน จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 03:50:02

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้คะ..^__^ ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่เขียนทุกอย่างเหมือนอยู่ในใจเราอยากบอกเลย จากคุณ : น้องเวียงพิงค์ (Prettymaew) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 04:26:17

ความคิดเห็นที่ 25 ยังไม่ได้อ่านเนื้อหาเลย แต่อ่านผ่าน ตรงคำว่า "คุยกันมากขึ้น จะเข้าใจกันมากขึ้น" ใช่ค่ะ.. เราว่าคุยและเล่นกับลูกๆ ดีกว่านะ แต่เราก็เข้าใจ ว่าคุณพ่อคุณแม่บางท่าน อาจจะไม่ค่อยมีเวลามากนัก ก็เลย หาสิ่งเหล่านี้มาเติมเต็ม . . ลูกๆ เราสองคน เราเล่นกับลูกๆ ค่ะ ตอนเย็นๆ เราก็เล่น เกมส์ครอบครัว กันก่อนเข้านอน สนุกมากๆ เพราะทำให้เราทั้งหมดในครอบครัว ได้ใช้เวลาด้วยกัน ที่บ้านเรามีหลายเกมส์เลยค่ะ แต่ที่เมืองไทย ไม่ค่อยมีขาย จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 04:42:46

ความคิดเห็นที่ 26 เรามีของตระกูลไอครบสูตรค่ะ ให้ลูกดูแอฟดูคลิปสำหรับเด็กนะ ลูกก็ชอบดีและเค้าก็จำเสียงเพลงเสียงดนตรีได้ (ลูก 9 เดือน) สำหรับเราแล้ว เรานั่งเล่นกับลูกค่ะ ไม่ได้ปล่อยให้ลูกเล่นอยู่คนเดียว ผลเสียมันมีอยู่แล้ว และผลดีมันก็มีเช่นกัน เราว่าอยู่ที่พ่อแม่ว่าจะเลือกอะไรให้กับลูกมากกว่านะคะ ก็เหมือนอินเตอร์เน็ตนี่แหละ เมื่อสมัย 20+ปีก่อนยังไม่ฮิตเท่าทุกวันนี้ พ่อแม่หลายคนก็กลัวๆกล้าๆที่จะให้ลูกใช้ ยกตัวอย่างที่บ้านเราที่เมืองไทย เรายังมีน้องๆ ที่ตอนนั้นอายุประมาณ 10 ขวบ แม่เลี้ยงเราเป็นครู ก็พยายามกีดกันสื่ออินเตอร์เน็ต ซึ่งเราน่ะ อยากให้ที่้บ้านมี เพราะเราอยู่ต่างประเทศ จะได้คุยออนไลน์กันได้ เห็นหน้าผ่านกล้องกันได้โดยไม่ต้องเสียเงินแพงๆ จนเดี๋ยวนี้ที่บ้านเราเพิ่งจะยอมติดอินเตอร์เน็ตเองค่ะ เพราะว่าเราเพิ่งมีลูกนี่แหละ ตายายเค้าอยากเห็นหน้าหลาน ทนไม่ไหวกันจนต้องไปติดอินเตอร์เน็ตเพื่อที่จะได้ดูกล้องกับหลานตัวน้อยต่างแดนได้ และพอคุยออนไลน์กันเสร็จ ผู้ใหญ่ก็จะปิดเน็ตทันทีนะ หรือว่าถ้าปล่อยให้น้องๆใช้ก็จะอยู่ด้วยตลอดเวลา ผลเสียมี แต่ผลดีมันก็เยอะ สรุปแล้วเดินทางสายกลาง เลือกเอาสิ่งดีๆ ให้ลูกดีกว่าค่ะ จากคุณ : NSY เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 06:32:55

ความคิดเห็นที่ 27 relationship killer คะ คุณปู่ คุณย่าของลุกสาวบอกอย่างนั้น วันนั้นไปทานข้าวร้านอาหารกัน สั่งอาหารเสร็จ ต่างคนต่างควักมือถือตัวเองมาเล่น พ่อเล่น angry bird แม่ตอบเม้นในfacebook ลูกสาวเล่นเกมส์ ปู่กับย่ามองหน้ากัน แล้วก็บอกเลยว่า เก็บใส่กระเป๋าเดี๋ยวนี้ นี่เป็นเวลาของครอบครัว ต้องพูดคุยกันว่าวันนี้แต่ละคนเป็นไง อย่าให้เห็นว่าทำอย่างนี้อีกนะ พวกเราสามคนพ่อแม่ลูกจ๋อยกันเป็นแถบเลยค่ะ จากคุณ : angelomm เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 07:31:38

ความคิดเห็นที่ 28 ลูกเราก็มีค่ะ คนโต 7 ขวบ คนเล็กขวบกว่า แต่ไม่ติดทั้งคู่ มีแย่งกันบ้าง แต่เห็นเล่นทีไร ไม่ถึง10 นาทีเลิกแล้ว คนโตเราไม่ค่อยชอบอยู่แล้วมั๊งคะ ตอนซื้อบอกอยากได้ พอซื้อมาก็ไม่ค่อยโหลด เลยไม่ค่อยมีappใหม่ๆ เล่นรอเราทำให้อย่างเดียว ส่วนคนเล็กชอบเดินค่ะ ออกเดินให้จูงเตาะแตะทั้งวัน เลยไม่ชอยนั่งนาน แถมเวลาเล่นจิ้มบ่อย ๆ ท่านเบื่ออีกออกไปเดินดีกว่า จากคุณ : หมีน้อยร้อยชั่ง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 07:38:59

ความคิดเห็นที่ 29 เราว่าแล้วแต่ว่าจะเอามาทำประโยชน์ได้มากน้อยแค่ไหน  ก้อเหมือนเด็กติดเกมส์นินเทนโด้สมัยก่อนนั้นแหละวันๆนั่งกดเกมส์ หรือไม่ก้อเกมส์คอม.....พ่อแม่ต้องช่วยดูด้วยว่าเด็กติดเกมส์มากเกินไปรึป่าว ไม่ใช่ว่าอะไรๆก้อไม่ดีต้องนั่งคุยกันอย่างเดียวเทคโนโลยีไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ขึ้นอยู่กับคนใช้มากกว่า  ลองคิดกลับกัน ใน iPad iPhone  มีapp ให้เด็กเล่นเป็นพันๆที่นอกเหรือจากเกมส์ เป็น เพลง  คำศัพท์ต่างๆ นิทานมีภาพเสียงประกอบด้วย และอีกเยอะแยะก้อเหมือนเปิด ดีวีดี สอนเพลงให้เด็กนั่นแหละ เพียงแต่อันนี้ดูจาก iPad  พ่อแม่ก้อสามารถนั่งเล่นกับลูกได้ เหมือนสอนเขาไปในตัว ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ส่งเสริมความอบอุ่นในครอบครัวได้เหมือนกันนะ   ตอนนี้เราท้องอยู่ ก้อได้ iPad  นี่แหละเปิดเพลง classic  หรือเพลง lullaby ให้เขาฟัง app ที่โหลดมาฟรีอีกต่างหาก ถ้าลูกเราโต ก้อคงใช้ iPad เป็นสื่อ การเรียนนการสอน ให้เขาแน่ๆ แต่คงนั่งเล่นกับเขาด้วย แต่ไม่ใช่ให้เล่นทั้งวัน ยังไงก้อต้องเล่นย่างอื่น หรือพาออกไปสวนสาธารณะให้อยู่กับธรรมชาติ  ....เราว่า ขึ้นอยู่กับพ่อแม่บางคนมีของดีในมือแต่ใช้ไม่เป็น บางคนไม่เคยใช้ก้ออาจไม่รู้ประโยชน์ว่ามันทำอะไรได้บ้าง จากคุณ : Gc (Goldcoast) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 07:50:56

ความคิดเห็นที่ 30 มายกมือว่าบ้านเรานี่แหละ สาวก apple มีทุกรุ่น ลูกได้ ipad ตั้งแต่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร ตอนออกใหม่ๆ พอดีไปเที่ยวที่ อเมริกากัน แต่เราเลือกโหลด app ให้ลูกเองทุก app คะ ของลูกสาว ชอบอ่านหนังสือ (นานๆจะเล่นเกมส์บ้าง ตอนนี้ grade5แต่ level การอ่านอยู่ที่ grade  7 ) app ของเธอก็จะเป็น หนังสือที่โหลดซื้อมาเป็นหลัก พวกนิยายทั้งหลายตามวัย ลูกชายเพิ่ง grade 2 ไม่ชอบอ่านก็ต้องโหลดหนังสือที่สนุกๆ มีลูกเล่น เกมส์ที่เหมาะกับอายุ บ้าง เราเคยเอาipad ไปแต่ไม่ได้ให้ลูก เวลาไปหาหมอ รอทำฟัน หรืออะไรต่างๆ เด็กๆ อดทนรอได้ไม่เหมือนผู้ใหญ่คะ สักพักเดียวเริ่ม ทะเลาะกันบ้าง เริ่มเล่นเสียดัง เราว่าเป็นการรบกวนคนอื่นๆรอบข้าง อันนี้เป็นความคิดเราเองนะคะ แต่ลูกเราก็ไม่ได้ติดipad iphone เพราะแม่มีให้เยอะเกิน เกมส์play wii ที่บ้านก็มีครบ ทำให้ลูกไม่อยากเล่น ประมาณว่ามีจนเบื่อ เรียกว่าสปอย ลูกสุดๆจนลูกหันไปขี่จักรยาน เอาลังกระดาษมาเล่นเอง เมินของแม่ไปเลย จากคุณ : sydney&sunny เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 08:01:47

ความคิดเห็นที่ 31 ดาบสองคมค่ะ ขึ้นอยู่กับคนถือดาบ แล้วครูเพลงดาบ ใช้เพียงเล็กน้อยและเหมาะสม ให้ประโยชน์ ใช้มากเกินไปเกิดโทษมากกว่าดี เหมือนหลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้ ไม่ได้มีอคติกะตระกูลไอเหมือนกัน ของแบบนี้อยู่ที่พ่อแม่ค่ะ จากคุณ : *NaUgHtY*Go*LuCkY* เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 08:28:02

ความคิดเห็นที่ 32 เราเป็นคนนึงที่ลูกซนแบบพินาศวอดวายจนต้องใช้ไอแพดค่ะ ซนขนาดเราหลีกเลี่ยงที่จะไม่พาเขาออกไปกินข้าวนอกบ้าน ยกเว้นว่าจำเป็นจริงๆ ต้องพาไป เราจะเอาไอแพดไปด้วย แล้วยกมาใช้เป็นดาบสุดท้าย ถ้าทำทุกวิถีทางแล้วไม่สงบ ลูกเราจะเล่นไอแพดประมาณวันละไม่เกิน 1 ชั่วโมงค่ะ ช่วงกลางวันเขาก็จะไปเล่นอย่างอื่น จะได้เล่นไอแพดหลังกินข้าวเย็นเท่านั้น แล้วเวลาเล่นเราไม่ได้ปล่อยให้เขาเล่นคนเดียว เราเล่นด้วย เขาเต้น เราก็เต้นด้วย เขาออกเสียงภาษาอังกฤษ เราก็ออกด้วย ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่ขับเคลื่อนด้วย gadget พวกนี้ค่ะ เจอกันเพราะสิ่งนี้ รักกันแต่งงานกันเพราะสิ่งนี้ เรามีความสุขเพราะเราได้คุยกันเรื่องนี้ เพื่อนในกลุ่มก็คบกันมาเกือบสิบปี จุดเริ่มแรกก็เพราะอุปกรณ์พวกนี้ มันเป็นงานอดิเรกของพวกเรา เราไม่อยากห้ามลูกในขณะที่พ่อแม่ก็เล่น สำหรับเราแล้ว ไม่มีของไหนฟุ่มเฟือย ถ้าเราใช้งานมันคุ้มค่าจริงๆค่ะ ส่วนไอแพดเครื่องนี้เราได้มาฟรีค่ะ ถ้าไม่ได้มาฟรีคงไม่ซื้อ เพราะเราไม่ใช่สาวกแอปเปิ้ลค่ะ จากคุณ : Jibako เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 08:34:09

ความคิดเห็นที่ 33 อยู่ ตจว.ค่ะ ไอโพน ไอแพดไม่มีค่ะ โชคดีจังลูกอยู่นิ่งๆ คือ วาดรูป ปั้นดินน้ำมัน กินข้าวนอกบ้านก็พกสมุดวาดเขียน ดินน้ำมันไปด้วย  ไม่เห็นยากเลย ถ้าลูกเริ่มงอแง อุปกรณ์ วาดเขียนและดินน้ำมันเอาไม่อยู่ ก็ของเล่นในรถตรียมไปด้วย หรือพ่อรีบกิน แม่รีบกินแล้วเปลี่ยนกันดูลูก ไม่เห็นยากเลยค่ะ ชวนคุยกัน ดีออก จากคุณ : pure_diamond เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 08:44:28

ความคิดเห็นที่ 34 ของทุกอย่างก็มีข้อดีข้อเสียนะ อยู่ที่ว่า เราจะเลือกให้เป็นแบบไหน เราใช้ไอโฟน ลูกสาวกับลูกชายเราแย่งกันจะเล่น เราไม่ให้เล่นเลยทั้งคู่ เพราะถ้าให้พี่ คนน้องก็จะร้อง แล้วถ้าให้น้อง รนพี่ก็เสียใจ เลยไม่ให้เล่นทั้งคู่ จบ แต่เราจะมี app เรียนภาษาไทย พวกเอบีซี หรือเรียนสิ่งรอบตัวพวกนี้นะ มีประโยชน์มาก ที่ชอบมาก คือได้เรียนภาษไทยนี่แหละ นับเลข นึ่ง ซอง ซาม สี่ ห้า โหะ เจะ แปะ เก้า สิ ^^ จากคุณ : แม่น้องเบนส์ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 08:46:09

ความคิดเห็นที่ 35 ขอเฮ้อ!!! ก่อนคะ  ตอนนี้เราประสบปัญหานี้อยู่ เพราะคุณสามีไปถอย อิแพดมา สนองนี้ดตัวเอง  ก่อนซื้อทะเลาะกันหลายครั้งมาก เพราะเสียดายเงิน และสามีก็ติดเกมส์อยู่แล้ว  ยื้อได้ 3 เดือน ก็พ่ายแพ้ ด้วยความเหนื่อยใจ ลูกสาว 2 คน 6ขวบกับ 2.8 ขวบ  จากไม่ติดพ่อ ก็ร๊ากกกกกกกกกกก ขึ้นมาในทันที วนเวียนขอพ่อเล่น Angry  ดูก้านกล้วย  ต่อจิ๊กซอร์  ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียจริง ๆ สามีนั้นเหมือนที่คิดเป๊ะ ไม่ขยับไปไหนเลย  ส่วนลูกก็หาโอกาสเล่นตลอดเวลา  คนเล็กนี่เส้นฝอยในตาแตกเลยค่ะ  ถ้าสามีไม่อยู่ เราจะเอาอิแพดซ่อนค่ะ  หรือไม่ก็ปิดเครื่อง ซึ่งอย่างหลังนี่ไม่สำเร็จเพราะลูกขึ้นระดับเทพไปแล้ว เปิด ปิด ได้ เลือกแอปเป็น   ขึ้นอยู่กับพ่อแม่จริง ๆ ค่ะว่าจะนำลูกไปทางไหน จากคุณ : mompeach เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 08:56:59

ความคิดเห็นที่ 36 บางทีก็น่าคิดนะคะ ว่าเราโตมาได้ยังไงโดยปราศจากเครื่องมือพวกนี้ ถ้าพ่อแม่เราทําได้ เราก็น่าจะทําได้ค่ะ ส่วนตัวคงไม่ให้ลูกเล่นแน่ๆ อยากให้เค้าฝึกพัฒนาการด้านอื่นมากกว่า เห็นด้วยกับจขกท ค่ะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (miss indian) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 09:25:27

ความคิดเห็นที่ 37 คิดเหมือนแม่ ๆ หลายท่านในนี้ค่ะ.......ส่วนตัวรู้สึกว่ามัน เร็ว ไปมั้ย บ้านเราเองก็ไม่มีค่ะ แต่ทั้งนี้ข้อดี ข้อเสียมันก็มี แล้วแต่ว่าจะควบคุมดูแลไปทางไหนได้มากกว่ากัน ลูกสาวเรา 2.4 ขวบชอบดูการ์ตูนเรื่อง สโนไวท์มาก ๆ เป็นการตูนเรื่องเดียวที่เค้ารู้จัก นอกนั้นไม่เคยดูหรอก เค้าชอบเพราะน้องสาวเราเค้าเปิดโหลดจาก youtube ให้ดู จากนั้นมา ติดเลยค่ะ เราเองยังต้องโหลดลง บีบี เป็นตอน ๆ มาคอยเปิดให้เค้าดูเลย ดูจนทุกวันนี้ ทั้งแม่ทั้งลูก จำบทพูด จำตัวละคร ร้องเพลง และเนื้อเรื่องได้ทุกฉาก -__-" บางทีเราเองก็อยากมีเวลาพักผ่อน อ่านหนังสือ ดูหนังบ้าง จนบางครั้งเราก็เอาสโนไวท์ มาเปิดให้ลูกดู เพื่อที่จะมีเวลาพัก พออ่านหนังสือไปได้สักพักเกือบชั่วโมง สติก็กลับมา เราอ่านหนังสือเพลิน ๆ เห็นลูกก็นั่งดูสโนไวท์ ตาไม่กระพริบเลย เราก็คิดว่ามันดีจริง ๆ หรอวะเนี่ย แล้ว..............ทำไม เราไม่อ่านนิทาน เล่นปั้นดินน้ำมัน กอดกัน ฟัดกัน เล่นกันล่ะ ทำไมเอาเวลาให้ลูกไปดูแบบนั้นเป็นชั่วโมง จากนั้นมา พยายามเตือนสติตัวเองค่ะ อย่าให้เทคโนโลยีแบบนี้ มาแบ่งเวลาของเรากับลูกออกไป มีเวลาให้กันมากขึ้น กอดกันมากขึ้น เล่นกันมากขึ้น จากคุณ : One Love....For Tita เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 09:33:09

ความคิดเห็นที่ 38 เห็นด้วยค่ะ เราเองก็ว่าลูกเราเล่นมากไปเลย จริงๆลูกคนเล็เราเพิ่งขวบกว่า ยังไม่อยากให้รู้จักด้วยซ้ำ แต่พี่สาวเค้าห้าขวบกว่าเล่น คนเล็กเลยเล่นด้วย จากคุณ : joymacy เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 09:34:04

ความคิดเห็นที่ 39 เพิ่งยก ipad กับ galaxy tab ให้หลานไปคนละเครื่อง  หลานยังไม่กี่ขวบค่ะ ส่วนตัวเราไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะของมันราคาแพงไป  เด็กได้ง่ายจนเค้าจะไม่รู้ค่าว่านั่นหลายหมื่นเลยนะ  แต่เห็นพัฒนาการบางอย่างเค้่าแล้วก็เออ มันก็มีประโยชน์บ้าง แต่เราต้องควบคุมเวลาการเล่นของเค้าด้วย  พวก iphone ipad tv มันเป็นการสื่อสารทางเดียวค่ะ ถ้าเด็กนั่งเล่นได้ทั้งวัน เค้าจะตัดขาดกับการเรียนรู้ทางสังคม ยิ่งเด็กในวัยที่ยังไม่พูด ภาพเคลื่อนไหวกระตุ้นเค้าได้ ทำให้เค้านิ่งได้ แต่อย่าลืมว่าเค้าจะไม่เห็นความสำคัญของการสื่อสาร ที่พบก็คือพวกนี้พูดช้า อาจเป็นเพราะพ่อแม่เห็นเค้านิ่ง เล่นเองได้ทั้งวัน ก็เลยคิดว่าเลี้ยงง่ายและปล่อยเค้าไว้ เหมือนผลักภาระให้เทคโนโลยีเลี้ยงลูกให้อะค่ะ  โอว่าสำคัญมันอยู่ที่พ่อแม่ว่าจะเลือกเอาดาบคมไหนให้กับลูกมากกว่า จากคุณ : เขียนบน iPad (Oohopank13) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 10:11:52

ความคิดเห็นที่ 40 เล่นคงเล่นได้ มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่เด็กยังไม่รู้จักความพอดี อยู่ที่พ่อแม่แล้วล่ะค่ะเมื่อหยิบยื่นให้เขาแล้ว จะสร้างความพอดีให้กับลูกได้อย่างไร??? จากคุณ : shihiro เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 10:14:32

ความคิดเห็นที่ 41 เราคนนึงที่ซื้อไอพอดให้ลูกเล่น เพราะลูกชอบมาเล่นมือถือเรากับสามี เค้าปลดล๊อคเองได้ เอาวางไว้ที่ไหนก็ปีนไปหยิบได้ เราเลยซื้อมาให้เค้าเล่นกล้องเล่นเกม เราจะโหลดแอพที่เสริมทักษะ พวกเขียน ก.ไก่ abc เพลงเด็กๆ จิ๊กซอว์ วันนึงจะจำกัดชม.ไม่ให้เล่นตลอดวัน พอเค้าวางไว้ เราก็จะเก็บใส่กระเป๋า เราชอบตรงที่เค้าสามารถเรียนรู้อะไรได้จากแอพของเด็กๆ ถ้าพ่อแม่จำกัดเวลาเล่น คอยอยู่สอนและเล่นกับเค้า เลือกแอพที่ดีๆเหมาะกับวัย ก็น่าจะเอามาใช้ได้ แล้วเราก็ไม่ได้ซื้อมาให้ลูกเล่นโดยเฉพาะอย่างเดียว แต่เล่นด้วยกันทั้งพ่อแม่ลูก จากคุณ : nating เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 10:18:49

ความคิดเห็นที่ 42 ในฐานะที่เป็นเด็กติดเกมส์ Famicom อ่านการ์ตูน ตั้งแต่เด็ก ทุกวันนี้พอว่างก็ยังอยากเล่น อยากอ่านอยู่ คิดว่าถ้าไม่มีปัญหากับฐานะ ก็ซื้อได้ไม่ใช่ปัญหาครับ โดยธรรมชาติ เด็กต้องชอบเล่น ชอบเรียนรู้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะยิบหยื่นอะไรให้ หยิบปืนให้ หยิบเกมส์ต่อสู้ให้ เค้าก็จะเลียนแบบไป หบิยปากกาให้ หยิบดินสอสีให้ เค้าก็เอาไปวาด ยังไม่เคยเห็นเด็กได้ดินสอสีแล้วดีใจ เอาไปจิ้มพ่อจิ้มแม่นะครับ ไม่สนับสนุน และไม่ห้าม เพราะพอลูกโตพอที่จะเข้าใจ ก็อยากให้เค้ามีไว้เหมือนกันครับ ตอนนี้ยังขวบนิดๆ ห่างๆไว้ก่อน รอซัก 3 ขวบพอเริ่มเข้าใจ ก็อยากให้เค้าลองครับ จากคุณ : NITBALL เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 10:22:11

ความคิดเห็นที่ 43 ลูกเรา 5 ขวบ ก็ติดไอแพดเหมือนกัน เป็นช่วงๆ เราต้องเอาไปซ่อนบ้าง น้อง 3 ขวบ ยังเล่นไม่เป็น โดยรวม ไม่เป็นปัญหามากนัก เพราะลูกๆ ยังชอบเล่นด้วยกันมากกว่าเล่นเกมในไอแพด จากคุณ : ห่านดินกินหญ้า ห่านฟ้ากินยุง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 10:33:15

ความคิดเห็นที่ 44 ความคิดเห็นที่ 37   คิดเหมือนแม่ ๆ หลายท่านในนี้ค่ะ.......ส่วนตัวรู้สึกว่ามัน เร็ว ไปมั้ย บ้านเราเองก็ไม่มีค่ะ  แต่ทั้งนี้ข้อดี ข้อเสียมันก็มี แล้วแต่ว่าจะควบคุมดูแลไปทางไหนได้มากกว่ากัน ลูกสาวเรา 2.4 ขวบชอบดูการ์ตูนเรื่อง สโนไวท์มาก ๆ เป็นการตูนเรื่องเดียวที่เค้ารู้จัก นอกนั้นไม่เคยดูหรอก  เค้าชอบเพราะน้องสาวเราเค้าเปิดโหลดจาก youtube ให้ดู จากนั้นมา ติดเลยค่ะ เราเองยังต้องโหลดลง บีบี เป็นตอน ๆ มาคอยเปิดให้เค้าดูเลย ดูจนทุกวันนี้ ทั้งแม่ทั้งลูก จำบทพูด จำตัวละคร ร้องเพลง และเนื้อเรื่องได้ทุกฉาก -__-" บางทีเราเองก็อยากมีเวลาพักผ่อน อ่านหนังสือ ดูหนังบ้าง จนบางครั้งเราก็เอาสโนไวท์ มาเปิดให้ลูกดู เพื่อที่จะมีเวลาพัก พออ่านหนังสือไปได้สักพักเกือบชั่วโมง สติก็กลับมา เราอ่านหนังสือเพลิน ๆ  เห็นลูกก็นั่งดูสโนไวท์ ตาไม่กระพริบเลย เราก็คิดว่ามันดีจริง ๆ หรอวะเนี่ย แล้ว..............ทำไม เราไม่อ่านนิทาน เล่นปั้นดินน้ำมัน กอดกัน ฟัดกัน เล่นกันล่ะ ทำไมเอาเวลาให้ลูกไปดูแบบนั้นเป็นชั่วโมง จากนั้นมา พยายามเตือนสติตัวเองค่ะ อย่าให้เทคโนโลยีแบบนี้ มาแบ่งเวลาของเรากับลูกออกไป มีเวลาให้กันมากขึ้น กอดกันมากขึ้น เล่นกันมากขึ้น จากคุณ : One Love....For Tita ถึงคุณ One Love....For Tita แบบนั้นดิฉันไม่ห่วงค่ะ สมัยลูกๆดิฉันอายุสองสามขวบ ติดดูการ์ตูนที่ดิฉันเลือกให้เขาดูคือ การ์ตูนคลาสสิค วอลท์ ดิสนีย์... สมัยนั้นเป็นวิดีโอ ดิฉันซื้อแทบทุกเรือ่งสมัยดิฉันได้ดูตอนเด็กๆ ดิฉันชอบการ์ตุณคลาสสิควอล์ท ดิสนีย์โดยเฉพาะ ไม่มีผลเสียบอะไรกับดิฉัน.. จึงให้ลูกๆดู ดิฉันนั่งนอนดูด้วยกับลูกๆ และตามใจเขาให้เขาดูซ้ำๆๆๆก็ได้... ช่วงหนึ่งเด็กดูซ้ำวันหลายรอบดิฉันเปิดให้ดู.. และดิฉันนั่งดูไปกับเขา นอนดูจนหลับไปบ่อย นั่นมันสิบกว่าปีมาแล้ว และเด็กโตเป็นผู้ใหญ่ไม่ไ่้ด้มีผลเสียอะไร ถามเขาตอนโต เขาลืมไปแล้วว่าเคยดูซ้ำมากมายแค่ไหน... แต่เขามีความประทับความทรงจำที่ดีกับการ์ตูนวอลท์ ดิสนีย์ การปล่อยให้เด็กดูการ์ตูนที่ปลอดภัย ยังไม่มีผลเสียกระทบเหมือนกับให้เด็กให้เด็กเล็กๆเล่นไอโฟน ไอแพด ฯลฯ แบบนั้นเด็กอยู่ในโลกส่วนตัวของเขา มันต่างจากการดูทีวีร่วมกันกับพ่อแม่  ผลการเรียนของลูกดิฉันไม่ได้เสียอะไร... ช่วงเรียนประถมได้เกียตรินิยมทั้งคู่ เรียนชั้น Gifted Programs เป็นเด็กเรียนดีเด่นทั้งคู่ ไม่เล่นเกม ไม่ติดเกม... ไม่เรียกร้องอยากมีเหมือนคนอื่นๆมี เขาไม่สนใจ ไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ... ใครมีไอแพด ไอโฟน BB ก็มีไป... เขาใช้มือถือปกติที่มีฟังค์ชั่นเล่นอินเทอเนทได้เท่านั้น คนไทยในไทยส่วนมากมีวัตถุมากกว่าดิฉันมี ดิฉันไม่ใช้มือถือทันสมัยอะไร เป็นแค่มือถือรุ่นธรรมดา... รู้สึกเฉยๆมากที่คนอื่นใช้มืิอถือรุ่นล่าสุด มันไม่ทำให้ดิฉันอยากมีเหมือนคนอื่นๆ... ครอบครัวดิฉันไม่วิ่งตามกระแส อยู่ที่ความพอดี จากคุณ : JidNince เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 10:48:59

ความคิดเห็นที่ 45 อย่าว่าแต่อนุบาลเลยค่ะ ต่อให้ลูกเรา 10 ขวบเราก็ไม่คิดจะซื้อของพวกนี้ให้ลูกเด็ดขาด แต่เมื่อถึงวัยเราก้จะวื้อค่ะ เราไม่ได้ต่อต้านนะคะ แต่เราว่าพวกเด็กประถมกับอุนบาลที่มี ipad กันมันเกินวัยไปค่ะ วัยนี้ควรจะเล่นกับเพื่อน ควรจะอ่านหนังสือนิทาน เล่นของเล่นค่ะ ซื้อมาทำไมเืพื่ออะไรกัน เพื่อเสริมบารมีพ่อแม่ว่ามีฐานะงั้นรึ -*- จากคุณ : Fairybox เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 10:58:05

ความคิดเห็นที่ 46 ถ้าใช้อย่างพอดีและมีสติ ก็มีประโยชน์ แต่อย่างว่า บางทีก็ตาบสองคมค่ะ จากคุณ : ดญ. หัวเหน่ง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 11:00:39

ความคิดเห็นที่ 47 ของเล่นเสริมพัฒนาการมีเยอะแยะ อย่าเอามาอ้างเลยดีกว่า ถ้าจะอ้างก้พูดไปเลยว่ามันช่วยให้พ่อแม่สบายขึ้นไม่ต้องทำอะไรมาก แค่มีข้าวเช้า กลางวัน เย็น และไอแพดไอโฟนให้ลูกเล่น ไม่เสียเวลาในการช๊อปปิ้ง เล่นหุ้น เล่นคอมของพ่อแม่เท่านั้นเอง ตกลงนี่ลูกหรือหุ่นยนต์กันแน่ จากคุณ : เมเหม่เม่เม้เหม๋ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 11:06:12

ความคิดเห็นที่ 48 ตรรกะงี่เง่าของพ่อแม่ที่ขี้เกียจคุยกะลูกน่ะ จากคุณ : นนนี่ (มิกัง) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 11:16:20

ความคิดเห็นที่ 49 ที่บ้านทีทั้งไอแพดสำหรับทุกคนและไอโฟนสำหรับผู้ใหญ่ สำหรับไอแพด ก็ขึ้นอยุู่กับเรานี่แหละว่าจะโหลดแอพอะไรให้ลูก เครื่องของที่บ้านจะโหลดแอพที่เอาไว้ฝึกภาษาอังกฤษ ต่อรูป เพลงภาษาอังกฤษ เด็กจะเล่นไม่กี่ครั้งก็เบื่อ พอทำได้รู้แล้ว ก็จะไม่เล่นซ้ำแล้ว แต่จะไม่เอาไว้ในห้องนอน ไม่เอาไว้ในรถ ไม่เอาไปนอกบ้าน แม้แต่ทีวี ก็จะไม่มีในห้องนอน ในรถยนต์ ทุกอย่างจะรวมอยู่ในห้องนั่งเล่น อ้อ!! เวลาลูกเล่นหรือดู เราก็ควรจะอยู่ข้าง ๆ เล่นไปกับเขา ตอบถามด้วยกัน ประโยชน์ก็มีเยอะ อยู่ที่ตัวผู้ปกครองมากกว่าค่ะ จากคุณ : oiooy เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 11:35:28

ความคิดเห็นที่ 50 เราว่าอุปกรณ์พวกนี้มันไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมายหรอกค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่ความพอดีของพ่อแม่ ว่าให้ลูกใช้ได้ขนาดไหน เวลาเท่าไหร่ ควบคุมได้รึเปล่า สำคัญมันอยู่ที่พ่อแม่ไม่ว่าจะเป็น iPhone iPad หรือของเล่นอื่นๆ ที่อาจจะไม่แพง ถ้าให้เด็กอยู่กับมันเยอะเกินไปมันก็ไม่ดีทั้งนั้น แต่ถ้าพ่อแม่รู้จักบริหารเวลาให้ลูก แนะนำให้เค้ารู้จักใช้ส่วนที่ดีๆ ของอุปกรณ์ ก็เกิดประโยชน์ค่ะ อุปกรณ์แค่อำนวยความสะดวกค่ะ แต่จะเกิดประโยชน์หรือโทษอยู่ที่พ่อแม่ที่ให้ลูกใช้ค่ะ อย่างลูกสาวเราก็เปิด iPad ให้เล่นค่ะ แต่ไม่ให้เล่นคนเดียว มีพ่อแม่นั่งเล่นนั่งคุยด้วย เปิดสอน A-Z , ร้องเพลง, หัดพูด, ดูการ์ตูนความรู้ต่างๆ วันละไม่เกิน 30 นาที แล้วแต่สมาธิของลูก ก็คิดว่าไม่น่าจะมีผลเสียอะไร อีกอย่างเราไม่ได้มีอุปกรณ์พวกนี้ไว้ให้ลูกเลย แต่เป็นของแม่ที่ใช้ทำงานและใส่ App เพิ่มเพื่อความบันเทิงและความรู้ของลูกครั้งคราว จากคุณ : Yogy Jung เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 11:47:02

ความคิดเห็นที่ 51 ส่วนตัวคิดคล้ายๆ จขกท.ค่ะ เราเลยค่อนข้างแอนตี้แนวคิดที่จะซื้อ iphone หรือ ipad ให้ลูก เราคิดว่าโดยมากที่พ่อแม่ซื้อให้ลูก ก็เพื่อตัดความรำคาญของตัวเอง เพื่อให้ตัวเองมีอิสระ ในการจะทำอะไรของตัวเองมากกว่า ที่จะต้องมาวุ่นวายกับเจ้าตัวน้อย ไม่ต้องใครอื่นไกลเลย สามีตัวดีของเราก็ใช่ เค้าเป็นคนหยิบยื่น ipod touch กับ iphone ของเค้าเอง ให้ลูกเสมอ เวลาเค้าต้องเลี้ยงลูก อยู่กับลูกเป็นเวลานานๆ เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่ต้องวุ่นวายมาก ทุกครั้งที่เราเห็นเราก็จะจี๊ดมาก เพราะลูกเราเค้าจะติดดูหนังมาก ดูแล้วไม่เป็นอันทำอะไร หากใครไปดึงออกเป็นเรื่องร้องโวยวายไม่เสร็จ จนเราต้องเอาไปแอบ ไม่ให้ลูกเห็น พอเค้าไม่เห็นก็ไม่มีปัญหา แต่พอเห็นหน้าป๊าจะขอตลอด ส่วนอีแม่มันก็เป็นนางยักษ์ไป ที่คอยไปขัดขวางความสุขลูกเสมอ สามีเรานี่ offer มาก ถึงขนาดพอนั่งรถปุ๊บ ยื่น ipod touch ให้ลูกทันที ทั้งๆที่เค้าไม่ได้ร้องขอ จนบางทีเราต้องบอกว่า ไม่ต้องนำเสนอขนาดนั้นก็ได้ ถ้าเค้างอแงก็ว่าไปอย่าง ใจคอจะไม่ให้มองสิ่งรอบตัวนอกรถเลยหรือไง บอกตรงๆว่ารบกับตัวพ่อนี่เหนื่อยใจกว่าลูกเยอะ -_-" จากคุณ : Trippy เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 12:10:23

ความคิดเห็นที่ 52 พ่อแม่บางท่านที่เอามาใช้ช่วยเสริมการเรียนรู้ของลูกนั้น มันไม่น่าเป็นอะไรหรอกค่ะ เพราะให้เล่นแบบจำกัดเวลา และคอยดูแลว่าเล่นอะไร แต่หลายๆท่านซื้อมาแล้วยกเป็นสมบัตติของลูกเลย จะควักมาเล่นตอนไหนก็ได้ พกไปไหนต่อไหน แล้วเด็กส่วนมากก็เล่นเกมแทนที่จะเอามาใช้เรียนรู้ไงค่ะ มันเลยน่ากลัว ถ้าจะบอกว่าเด็กเล่นเกมส์ดีแล้ว เพราะจะอยู่นิ่งๆไม่ซน ลองให้เค้าโตสักหน่อยนะคะ แล้วจะรู้ว่าเค้าจะสอนยากและแอนตี้สังคมแค่ไหน  จะเอาแต่ใจจนคุณนึกไม่ถึงเลยเชียว ส่วนตัวยังไม่มีลูก แต่เป็นมาเยอะแล้วค่ะ เด็กที่พ่อแม่ปล่อยให่อยู่กับเกมส์ เค้าก็จะเล่นตามความพอใจของเค้า จนไม่สนใจเรียน ไม่สนใจคนที่บ้าน ไม่สนใจจะกิน ปากก็เคี้ยวขนมมือก็กดเกม ใครมาห้ามจะโมโห   หนักหน่อยก็ไม่ไปโรงเรียนแล้ว หนีออกไปที่ที่เล่นเกมส์ได้   น่าเป็นห่วงนะคะ จากคุณ : เทมปุระ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 12:26:01

ความคิดเห็นที่ 53 เข้ามาอีกทีก็เป็นกระทู้แนะนำไปแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามา comment และ vote ค่า >>หลังจากได้อ่าน comment ส่วนใหญ่ไป บางท่านก็แย้งถึงข้อดีต่างๆนานา ซึ่งเราไม่เถียงหรอกค่า อย่างที่บอกทีแรกว่าเราไม่ได้ anti หรือว่่าว่ามันไม่ดี ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกะเทคโนโลยี  เจตนาที่ตั้งกระทู้ ไม่ได้ตั้งใจจะมาถกถึงข้อดีข้อเสียหรอกค่า  แน่นอนว่ามันมีสองด้าน แต่ point ของเราคือแค่อยากให้ฉุกคิดว่า สำหรับเด็กบางคน หรือแม่แต่กับลูกคุณเอง  "มันเร็วไปไหม " และ/ หรือ "มันมากไปไหม"  ก็เท่านั้นแหละ หากคุณคิดว่าไม่ได้เร็วไป เพราะ ก็โหลด app เพลง / นิทาน / abc เหมาะกับวัยเค้าแล้ว และ ไม่ได้มากไปเพราะคุณจำกัดเวลาลูกได้ ก็ยินดีด้วยค่า คุณใช้เทคโนโลยีในทางที่ถูกแล้ว คุณก็อาจมองข้ามทู้นี้ไปก็ได้ค่า เราก็ให้ลูกดู abc, เพลง ใน youtube เหมือนกัน นั่งดูกับเค้า และไม่ได้นั่งดูเฉยๆ มีเสียงเราพูดด้วย อธิบายด้วย  >>อยากบอกว่าปัญหาของการหยิบยื่นสิ่งเหล่านี้สำหรับบางท่านถึงแม้จะคัดสรรแล้ว รวมถึงเราก็เจอด้วยคือ ลูกอาจจะงอแง ไม่เข้าใจ ถึงลิมิต ว่าดู เล่น ถึงเท่านี้นะ อีกตอนนึงนะ อันนี้จบแล้วหม่าม้าปิดนะ เด็กก็รับคำ แต่พอจบจริงๆ ปิด เด็กกลับร้องจ๊าก งอแง ไม่ยอม อันนี้ก็ต้องรับมือกันไป >>กับประโยคที่ว่า "เป็นอุปกรณ์ที่ทำให้อยู่นิ่ง ไม่ถาม ไม่ซน เท่านั้น" พอได้อ่าน ได้ฟัีงแล้วรู้สึก อืม .... ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ก็เข้าใจค่า สำหรับบางท่าน ที่ต้องอาศัยเครื่องมือพวกนี้ เพราะต้องทำงาน ก็น่าเห็นใจ และเข้าใจค่า แต่หากบ่อยนัก ก็ต้องคอยสอดส่อง สังเกตพฤติกรรมของลูกดู  แต่ที่พบเจอส่วนมาก คืออยากได้เวลาบันเทิงให้ตนเองซะมากกว่า เช่น จะได้ช็อปปิ้งได้ ดูหนังดูทีวี ได้ เป็นต้น สำหรับเรา เรายอมสละเวลาแบบนี้ซักหน่อย ให้ลูกได้ถาม ได้ซน (ถึงแม้ตอนนี้หม่าม้าจะเหนื่อยโฮกก็ตามที จนตอนนี้ไม่กล้าพาไปห้างเลย ) แต่ไม่เคยได้ยินหรอ เด็กซนเป็นเด็กฉลาด อยากได้ลูกที่อยู่นิ่งกันหรอ  ลูกเราอยากถามอะไร ถามมาเลย สามีเราชอบให้ลูกถามมาก การได้ซักถามเป็นการเปิดสมอง เปิดจินตนาการให้เค้า เรากับสามีชอบ ลูกเราก็ happy ที่ได้รับรู้ ก็ถามต่อๆ สนุกดีนะ ^^ จากคุณ : จขกท (jennie_cu) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 12:27:08

ความคิดเห็นที่ 54 ผมว่าถ้าคิดกันได้ก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นประเด็นอะไรนี่ครับเราก็เลี้ยงลูกของเราให้ดีที่สุดและเป็นคนดีของสังคมก็น่าจะเพียงพอแล้ว ส่วนจะซื้อหรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องของแต่ล่ะบ้าน เพราะผมก็มีคุยก่ะแฟนเหมือนกันว่าจะซื้อ ให้ถ้าลูกโต จากคุณ : พ่อมือใหม่ (bow222) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 12:31:30

ความคิดเห็นที่ 55 เป็นเหมือนกันค่ะ รบกับตัวพ่อเหนื่อยใจที่สุดดดดดด รบกันจนไม่รู้จะรบยังไง...คนโตนี่ (อ.2) เริ่มจะเป็นสาวกไอแพดตัวจริงแล้ว เริ่มมีอาการเหมือนจะลงแดงเวลาแม่(นางยักษ์)ไม่ให้เล่น เริ่มหงุดหงิด เริ่มงุ่นง่านแล้วค่ะ กำลังหาทางแก้ไขสถานการณ์อยู่ค่ะ เฮ้ออออออ จากคุณ : Ohm-Good & Mamy เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 12:43:20

ความคิดเห็นที่ 56 เราก็เป็นคนนึงที่ให้ลูกเล่นเกม ทั้งๆที่ไม่อยากเลยย แต่บางทีมันก็เอาลูกอยู่มากกว่าเรๅจริงๆ ลูกชายแค่ 3 ขวบ พ่อแม่ใกล้จะ 40 บางจังหวะก็ไม่ไหว ต้องยอมมั่ง ก่อนที่จะประสาทกินกันทั้งบ้าน ตำหนิไปเถอะค่ะ พี่ยอมรับ จากคุณ : ชีวิตวันวัน เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 13:18:01

ความคิดเห็นที่ 57 อ่านบางคห. แล้วก็จุกค่ะ เราว่าเรื่องทุกเรื่องแต่ละคนก็มีความคิดไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าคนที่เค้าซื้อให้ลูกจะกลายเป็นพ่อแม่ที่ไม่มีความคิด พ่อแม่ขี้เกียจหรืองี่เง่า ถ้าเป็นอย่างนั้น การซื้อของเล่นให้ลูกแพงๆ อย่างที่ขายในห้องเปิดท้ายหรือซื้อขาย คนเหล่านั้น เค้าไม่มีความคิดด้วยรึเปล่า ที่ซื้อของเล่นทีแพงๆ บางอย่างก็ไม่ได้เสริมทักษะหรือความรู้ให้ลูกมากนัก บางคนซื้อไป ก็ไม่ได้เล่นกับลูก ซื้อมาก็ปล่อยให้ลูกอยู่กับของเล่น อยู่ในคอกกั้นมีตุ๊กตา มีของเล่นเต็มไปหมด มันก็ไม่ได้ต่างกับการซื้อไอพอด ไอแพด ก็แค่ซื้อมาแล้วโยนให้ลูกเล่น เพื่อที่ลูกจะได้ไม่ซนไม่วุ่นวายไม่งอแง แต่ถ้าไม่มีเงินแต่จะสรรหาให้ลูกได้เล่น ต้องไปกู้ยืม ต้องซื้อผ่อนผ่านบัตร อันนี้เรียกว่าไม่สมควรไม่มีความคิดมากกว่า เพิ่มข้อความค่ะ เผื่อมีคนเข้าใจผิด ที่บอกว่าของเล่นแพงๆที่ขายในห้องเปิดท้าย อันนี้เปรียบเทียบให้เห็นภาพนะคะ ไม่ได้ว่าแม่ๆที่ซื้อขายของเล่นแพงๆ ไม่ว่าจะไอแพดหรือของเล่นแพงๆ ถ้าซื้อแล้วไม่ใส่ใจที่จะสอนลูกหรือเล่นกับลูก ไม่มีจำกัดเวลา ปล่อยให้ลูกนั่งเล่นแต่ของเล่น นั่งดูยูทูบ นั่งกดไอโฟน เราว่ามันก็ไม่เกิดประโยชน์ทั้งนั้น ของทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราเลือกเอาข้อดีมาใช้และปรับข้อเสียให้เหลือน้อยที่สุด แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 15:02:41 จากคุณ : nating เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 13:19:02

ความคิดเห็นที่ 58 อืม  ขอมาเพิ่มอีกนิดแล้วกันนะคะ ส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ชอบพวกของไฮเทคค่ะ ไม่ได้แอนตี้ เพราะเรียนมาทางด้านคอมเ่หมือนกัน เห็นอะไรใหม่ๆจะสนใจไปหมด แต่สำหรับเด็กเล็ก มันเร็วไปที่จะซื้อแล้วให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเค้าไปเลย เคยอ่านพวกงานวิจัยและดูสารคดีค่ะ เด็กที่พ่อแม่ทิ้งไว้กับทีวีตังแต่เล็กๆ วันๆปล่อยให้เค้านั่งดูทีวี ถึงเวลาหาข้าวให้กิน แค่เค้าไม่งอแงพอ ทางทีมงานไปสังเกตุพฤติกรรมน้อง แล้วพบว่าพัฒนาการช้า ไม่ชอบเข้าสังคม ร้องงอแงไม่ไปโรงเรียน   ถึงวันไหนไปโรงเรียนก็ไม่เล่นกับเพื่อน  เพราะไม่ชินการเข้าสังคม  ที่บ้านก็ไม่ค่อยมีคนว่างคุยกับน้อง เพราะคิดว่าปล่อยให้น้องดูทีวีก็พอแล้ว ระดับความคิดและสติปัญญาด้อยกว่าเด็กในวัยเดียวกัน  ร่างกายอ่อนแอ (เพราะนั่งและนอนอยู่หน้าทีวีตลอด ไม่ได้เดินหรือวิ่งเล่นเลย)  กลัวการพูดคุย พัฒนาการทางด้านภาษาด้อยมากๆเพราะวันๆไม่คุยกับใคร เวลาคนอื่นมาถามอะไรจะตอบไม่่ถูก เช่น หนูชื่ออะไร หนูอายุเท่าไร   เด็กจะมองหน้าทำตาปริบๆหรือไม่ก็ก้มหน้ามองพื้น  หรือแค่ยิ้มๆ แต่ไม่ตอบ ของเล่นอย่างอื่น อาจดูไม่ได้ช่วยอะไร แต่ของเล่นที่ให้ออกแรง เดินตามเก็บ ใช้มือใช้ขาช่วย มันเสริมพัฒนาการนะคะ ไม่ใช่ว่ามันไม่มีประโยชน์ อย่างตุ๊กตา เอามาแต่งตัว นั่นก็ไม่ใช่ไม่มีประโยชน์นะคะ เด็กได้เรียนรู้การแ่ต่งตัว สวมเสื้อ จัดเสื้อผ้าเข้าชุด การใส่เสื้อผ้าให้ตุ๊กตา บางทีมันใส่ยาก เด็กก็ต้องพยายามใส่ หรือใส่ไม่ได้ก็มาถามพ่อแม่ว่าทำยังไง แต่หากเล่นในคอม เกมแต่งตัว แค่เอาเมาส์คลิกๆ เสื้อผ้าก็มาแล้วค่ะ เด็กได้รู้จักการจัดเสื้อผ้า การแต่งชุดให้เข้ากัน แต่ไม่ได้แต่งตัวให้ตุ๊กตาจริงๆ ไม่รู้การสวมใส่มันยากง่าย ต้องติดกระดุม ต้องผูกเชือกยังไง และการให้เด็กจดจ่อมองแต่จอมากไป มันไม่ดีต่อสายตาของเด็กนะคะ   ลองหาข้อมูลดูค่ะ จากคุณ : เทมปุระ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 13:48:40

ความคิดเห็นที่ 59 ส่วนตัวไม่ซื้อของพวกนี้ค่ะ คิดว่ามันยังสนองความต้องการได้ไม่เต็มที่ อยากรอจนใช้วินโดว์ได้ จะได้ไว้ทำงานด้วย ลูกสาวเรา 6 ขวบ อยากได้ ipad iphone เพราะเด็กข้างบ้านมีทั้งสองอย่างทั้งที่อายุ 5 ขวบ แต่แม่ใจร้ายก็ไม่ซื้อให้อยู่ดี แล้วช่วงปีใหม่ไปเที่ยวเสม็ดมา อยู่หาดที่ไม่ค่อยมีคนไทย มีแต่ฝรั่ง เค้ามาเป็นครอบครัว เด็ก ๆ ไม่เกิน 10 ขวบหลายคน ไม่มีใครเล่น ipat iphone พวกนี้เลย แต่ละคนจะมีหนังสือเล่มโต ผู้ใหญ่ก็เป็นพ๊อคเกตบุ๊ค เด็กเป็นการ์ตูนที่เล่มหนามาก ผิดกับหลานเพื่อน อายุ 14 อยู่ ม.2 ไปยุ่งกับใคร เปิดมือถือต่อ Wifi เล่นเนตตลอด 3 วัน แยกตัวไปจากคนอื่น เทียบกันแล้ว เราอยากให้ลูกถือการ์ตูนเล่มหนามากกว่า iphone นะ ปล แต่ปีหน้าลูกสาวขึ้น ป.1 จะได้รับแจก ipad อยู่ดีใช่ไหม แม่จะได้เตรียมตัวเตรียมใจ หัดใช้ซะ 5555 แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 13:58:27 จากคุณ : มนอุ๊งอิ๊ง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 13:57:24

ความคิดเห็นที่ 60 เราเป็นครูสอนเปียโนค่ะ เราจะเห็นพ่อแม่ผู้ปกครองที่(ส่วนใหญ่)มีฐานะดี ส่งลูกมาเรียน ดังนั้นส่วนใหญ่ก็มีกันทั้งนั้นเลยค่ะ ไอโฟน ไอพอด ไอแพด จริงๆแล้วถ้าถามเราว่าเราชอบมั๊ย เราก็ชอบนะคะ (ตัวเราก็มีไอพอดเครื่องนึงเอาไว้ฟังเพลง) แต่ถ้าถามกันจริงๆตามภาษาคนเป็นครูเลย เราว่าไม่ได้เสริมพัฒนาการอะไรเลยค่ะ มันทำให้เด็กๆสนุกมากกว่า แถมยังทำให้เด็กสมาธิสั้นอีกด้วย นึกถึงตอนพวกเราเป็นเด็กๆสิคะ ไม่มีของเล่น IT พ่อแม่เรายังเลี้ยงเรามาได้เลย สังเกตดูคนรุ่นๆเราสิคะสมาธิจะไม่สั้นด้วย ถ้าเปรียบเทียบกันแล้วซื้อของเล่นเป็นชิ้นๆให้ลูกเล่นดีกว่าเยอะนะคะ เพราะเด็กได้สัมผัสจริง อารมณ์จริง ขอคอนเฟิร์มค่ะ พวกการดู ทีวี เล่นเกมส์ ทำให้ลูกอยู่นิ่งได้ก็จริง แต่ส่งผลเสียระยะยาวค่ะ มีเด็กสมาธิสั้นมาให้แก้โดยการเรียนดนตรีเป็นประจำค่ะ(แก้ยากมาก) จากคุณ : view (view_piano) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 13:57:55

ความคิดเห็นที่ 61 สื่อมีประโยชน์ แต่จะมีโทษเมื่อใช้ไม่เป็นค่ะ   ถามตัวคุณเองว่าคุณอยากให้ลูกได้สิ่งไหน   ถามตัวคุณเองว่าสอนเค้าให้เรียนรู้แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์จากสิ่งนี้ได้หรือปล่าวะ $$$$$ ตัวอย่างเล็กๆจากบ้านเพื่อน#### ลูกชายอยากได้ ipad  (เด็ก 5 ขวบ) คุณพ่อบอกว่า ได้สิ แต่ต้องลดความอ้วนให้ได้ก่อนนะ ผ่านมาได้ 2 วันลูกชายบอกว่า ป๊าไม่เอาแล้วนะ ipad  หน่ะ ............... จากคุณ : crispyroll เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:11:40

ความคิดเห็นที่ 62 ขนาดผู้ใหญ่ยังติดเลย เด็กจะเหลือรึ ทุกวันนี้ยังคิดว่าจะเลี้ยงลูกให้ผ่านกระแสสังคมแบบนี้ไปได้อย่างไร จากคุณ : ongreen เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 14:23:32

ความคิดเห็นที่ 63 เห็นด้วยกับ คห. 60 ค่ะ สอนพิเศษแต่ไม่ได้สอนด้านดนตรี แก้ยากมาก เฮ้อออ ปัญหาเด็กติดทีวี ไม่พอมาแก้สมาธิสั้นเพราะติดพวกนี้อีก ><!! จากคุณ : pure_diamond เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 15:01:43

ความคิดเห็นที่ 64 แล้วโครงการเร่งด่วนของรัฐที่จะแจก tablet ให้เด็ก ป. 1 ปีการศึกษา 2555 นี่ล่ะ  T T ถึงไม่มีเกมเหลือเฟือก็เถอะ  เหมาะหรือเปล่า จากคุณ : by iPhone (ZERO_IDEA) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 15:51:18

ความคิดเห็นที่ 65 ที่บ้านมีลูก 6 ขวบ 5ขวบ 8เดือน ที่บ้านเรามีไอแพค 1 เครื่อง คอมตั้งโต๊ะ 2เครื่อง ระเบียบการใช้ที่บ้าน เราค่อนข้างเข้มงวดและลูกเราก็เข้าใจ ว่าจะเล้นได้ เฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้น และไม่ใช่ว่าจะเปิดตามใจตัวเองเมื่อไรก็ได้ ก่อนจะเล่น ไอแพค หรือ คอม ลูกจะถามว่า เล่นได้ไหม เราจะให้ลูกเขียนหนังสือ1-2หน้า มาให้ดูก่อน ถ้าเขียนไม่ถูก เราก็จะไม่ให้เล่น ส่วนไอแพค ตอนนี้ก็ลบ เกมส์ ออกเกือบหมดแล้วค่ะ เหลือศัพท์ความรู้เกี่ยวกับภาษา อังกฤษ ลูกเคยขอว่า ทำไม พ่อ แม่ไม่ซื้อแพค 2เครื่อง เราก็บอกไว้เล่นด้วยกันนั่นหละ บ้างทีพี่เล่นเอง แล้วน้อง ฟ้อง พ่อแม่ บอก พี่เซฟ ไม่ให้เล่น เราก็จะบอกว่า แบ่งให้น้องเล่นบ้าง เป็ฯพี่น้องต้องรักกัน มีไรแบ่งกันใช้  และอีกอย่างสอนเรื่องการรอคอยด้วยค่ะ ***ใช่ค่ะ บางทีเราใช้ให้ลูกอยู่นิ่งๆในบางสถานการณ์ เพื่อให้ลูกอยู่ในสายตา คนนอกไม่เข้าใจอะไร ไม่ไหวให้ลูกเล่นแต่ไอแพค ไอแพค คุมให้อยู่ค่ะ จากคุณ : จี้เพชร เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:22:45

ความคิดเห็นที่ 66 ผมว่ามันประหยัดไฟกว่าคอมตั้งโต๊ะนะครับ ถ้าสอนให้เขา ใช้ LinkedIn เพื่อสร้าง connection ตั้งแต่เด็ก หาหนังสือที่สนใจ  ผ่าน amazon แก้ไขการบ้าน ผ่าน icloud แบบนี้มันก็มีประโยชน์นะครับ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 16:34:42 จากคุณ : ชีวิตคือชีวิต เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:34:26

ความคิดเห็นที่ 67 ถามว่าเร็วไปไหม.....ความเห็นส่วนส่วนตัวคิดว่าเร็วไปครับ ในช่วงห้าขวบปีแรก เป็นช่วงที่เซลล์ประสาทสมองเติบโต พัฒนาไปเร็วมากแบบก้าวกระโดด การใส่ข้อมูลอะไรให้เด็กในช่วงนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก สิ่งที่ผมกังวลคือ นี่อาจเป็นวิวัฒนาการของสมองของมนุษย์ที่เปลี่ยนไปอีก (ในทางที่ดีขึ้น??) สมองเด็กที่ถูก shape ไปเรื่อยๆ  จากการใส่เทคโนโลยีเข้าไปในหัวเด็กจนมากเกินไป จนเปลี่ยนไปจากธรรมชาติแบบเดิมๆ สิ่งที่มีอยู่จริงคือ ภาวะเด็กสมาธิสั้นที่มีมากขึ้นๆจากเมื่อก่อน เด็กจะเคยชินกับสิ่งเร้าเยอะๆ จากภาพ เสียงที่กระตุ้นจากการเล่นเกม (ในรายที่เล่นเกมมากๆ) ขาดการฝึกปฏิสัมพันธ์ ทักษะด้านสังคมที่ควรจะเป็น พ่อแม่ที่บอกว่าใช้อุปกรณ์เหล่านี้ เพื่อให้เด็กอยู่นิ่ง เป็นสิ่งสะท้อนที่บอกว่า เราไม่สามารถ control พฤติกรรมเด็กได้มากกว่าครับ ซึ่งต้องมองย้อนไปว่า วิธีการเลี้ยงดูของเรามัน work รึเปล่า??   แล้วทำไมคนสมัยก่อนถึงคุมลูกอยู่ได้?? จากคุณ : tpipe เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:57:09

ความคิดเห็นที่ 68 สำหรับเราซื้อมาใช้งานค่ะตอนนี้ลูกสาว1.7 ขวบ ลองให้เค้าเล่นเค้าไม่ชอบเลยค่ะ ทีวีก็ไม่ดูถือว่าโชคดีเลยนะเนี้ย ที่ลูกไม่รับเทคโลโนยีเอาแต่ซนอยู่กับกองดินกองทราย (^^) จากคุณ : ป้ายแดงแซงโค้ง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:59:45

ความคิดเห็นที่ 69 อย่าว่าแต่เด็กเลยค่ะ เคยกลับไปสมาคมเพื่อนๆที่แยกย้ายไปแล้ว เราเป็นคนเดียวที่ไม่มีไอโฟน กะ ไอแพด จะเห็นชัดเลยว่า ถ้าใครพูดเรื่องอะไรที่อีกฝ่ายไม่รู้เรื่อง คนๆนั้นจะก้มหน้าเล่นอุปกรณ์ตรงหน้าไปเลย ไม่มีการพูดกัน จะเงยมาเมื่อมีอะไรมีรู้เรื่องด้วย  ทำให้สนทนากันแบบเป็นกลุ่มๆคนๆไป จะไม่สนใจสอบถามอะไรกันมาก แต่เรา แหะๆ ไม่มีอะไรดู เลยต้องคุยกะทุกคนไป ไม่งั้นเงียบเกิ๊น ถ้าเรามีลูก เราไม่ให้เล่นค่ะ จนกว่าจะโตระดับหนึ่งค่ะ เราเห็นเด็กแถวนี้ที่ฉลาดมากกก เนตอะไรก้อเล่นเป็น หาการ์ตูนดูจาก youtube ได้ แต่เสียดาย ไม่มีปฏิสัมพันธ์กะคนค่ะ ใครพูดจะไม่พูดด้วย วันๆดูแต่คอมค่ะ  ยังบอกแฟนเลยว่า เสียดายเด็กคนนี้ น่ารักแค่ไหน แต่เป็นคนแบบนี้ก้อไม่ไหวนะ จากคุณ : LAZIE SASSY GIRL เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:30:56

ความคิดเห็นที่ 70 เห็นด้วยกับหลายความคิดเห็นว่าเป็นดาบสองคมค่ะ เราให้ลูกดูไอแพดตอนป้อนข้าว ก็ไม่สบายใจหมือนกันนะกลัวลูกสมาธิสั้น แต่ว่าเค้าเป็นเด็กที่กินน้อย หลอกล่อด้วยของเล่นและการพูดคุยวิธีต่างๆนาๆแล้ว ไม่ไหวค่ะ พอให้เค้าดูbaby einstein หรือเพลงการ์ตูนขณะป้อนข้าวเนี่ยเวิร์คสุดแล้ว จะว่าเป็นข้ออ้างก็ว่าได้ เพื่อให้ลูกกินมากขึ้น ยอมรับเช่นกันว่าเร็วไป แต่ก็ดูไปกับเค้าด้วย เล่าตามเรื่องนั้นๆที่ดูไปด้วยกัน ยังคิดเลยว่าพ่อแม่เราเลี้ยงเราเก่งมากๆ โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์เทคโนโลยีใดๆ จากคุณ : แดงกันจัง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:46:49

ความคิดเห็นที่ 71 เรายื่นให้ตั้งแต่ 7 เดือน ตอนนี้ยังยื่นให้อยู่ ผลดีก็มี  ผลเสียก็มี  เลือกใช้ก็แล้วกันนะคะ จากคุณ : Ekathai เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:11:09

ความคิดเห็นที่ 72 ลูกชายอายุ 11.9ปีค่ะป.6. เรียนโรงเรียนสามัญหลักสูตร IP เชื่อไหมว่าลูกชายเราได้ประโยชณ์มากจากสื่อเหล่านี้ โดยที่ลูกศึกษาและเรียนรู้ด้วยตัวเอง ได้จากพ่อแม่น้อยมาก พ่อแม่ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ เหมือนคนไทยทั่วไป ส่วนแม่ก็ได้เล็กน้อยเอง  แต่ลูกได้ภาษาอังกฤษจากสื่อIT มากๆ สามารถ ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้คล่อง เกินเด็กไทยในวัยเดียวกัน ได้รับคำชมจากเจ้าของภาษาว่าสำเนียงลูกเหมือนเด็กเจ้าของภาษาเลยค่ะ (เปรียบเทียบกับเด็กไทยหลายคนที่เรียนรร.นานาชาติแต่สำเนียงยังเป็นเด็กไทย) ลูกจะใช้เล่นทั้งเกม ดูการ์ตูน ฟังเพลง ดูหนัง ทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษหมด ผลการเรียนทุกวิชาที่เป็นภาษาอังกฤษได้ระดับต้นๆของห้องเต็มหรือเกือบเต็ม เช่นวิทย์ คณิต อังกฤษ สุขศึกษา ประวัติศาสตร์. สังคมอังกฤษ ส่วนวิชาที่เป็นภาษาไทยจะไม่ค่อยชอบได้แค่พอผ่าน พวกสังคม ดนตรี ภาษาไทย ข้อเสียคือลูกจะติดมากต้องจำกัดเวลาใช้ และต้องคอยเตือนอยู่ตลอด จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:15:17

ความคิดเห็นที่ 73 เห็นด้วยกับ จขกท. ค่ะ คิดเหมือนแต่ไม่กล้าตั้งทู้สักที กลัวๆกล้าๆอิอิ ทุกอย่างเป็นดาบสองคมจริงๆเหมือนหลายความคิดเห็น แต่โดยส่วนตัว มีอยู่ ไอเดียว คือไอพอดไว้ใช้ฟังเพลงตอนท้องลูกชายตอนนี้เลิกใช้ เคยอยากได้เอง แบบว่าเห็นคนอื่นก็มีกัน แล้วเคยพาลูกชายไปเจอเพื่อนๆเค้า ต้นข้าวก็ไปเมียงๆมองๆน้องคนนึง 1.6 ขวบเล่นไอแพดแบบน้องเค้าสนุกมากๆ เลยไปอ้อนแด๊ดดี๊ต้นข้าว แด๊ดบอกคิดดีแล้วหรือ "อย่าลืมว่าลูกแค่สองขวบกว่าๆ ตอนยูสองขวบกว่าเล่นอะไร ไม่มีไอแพดยูก็สนุกได้ ฉลาดได้" พอได้ยินอย่างนั้นนะคะ "เลิกค่ะเลิก" คิดได้ทันใด ตอนนี้ถ้าเล่นกับลูกในบ้านแล้วเบื่อกัน เดินทักทายเพื่อนบ้าน เดินทุ่งนา ชมนกชมไม้ เข้าครัว ทำความสะอาดบ้าน ขี่จักรยาน ฯลฯ มีอีกหลายสิ่งที่ทำให้เด็กสนุกได้แน่นอนค่ะ จากคุณ : แม่น้องลูคัสโซ่ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:26:11

ความคิดเห็นที่ 74 ปล่อยลูกให้เล่นไอเเพดโดยพ่อเเม่ไม่ดูเเล ก็ไม่ต่างกับการเลี้ยงลูกด้วยทีวี ของพวกนี้ประโยชน์ก็มี เเต่โทษมันก็เยอะ ใช้ให้ถูกวีธี พ่อเเม่ต้องคอยดูเเล ที่สำคัญ อย่าใช้เป็นพี่เลี้ยงลูก เด็กยังคิดเเยกเเยะ เเบ่งเวลาไม่เป็น อะไรดี ไม่ดี พ่อเเม่ต้องคอยสอน เด็กน้อยมีพ่อเเม่เป็นไอดอล ไม่อยากให้ลูกติดของพวกนี้ ตัวคุณเองต้องทำตัวให้เป็นตัวอย่างด้วยนะค่ะ จากคุณ : แม่ช้าง (ช้างน้อยเต้นระบำ) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:50:02

ความคิดเห็นที่ 75 หลาน 2 ขวบได้มาแล้วคนละเครื่อง อันนี้เร็วไปนะ (แต่ตอนนี้มีไอพอดให้ตัวเล็กในท้องไปแระ ^^") จากคุณ : จุกแสบเหลือง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 18:56:32

ความคิดเห็นที่ 76 เราซื้อ taplet มาค่ะ แต่ที่ซื้อมาคิดว่าการใช้งาน Ipad จะเน้นเกมส์ เราเลยไม่ได้ซื้อมา แต่เราซื้อ Taplet มา มันก็มีเกมส์นะคะ แต่เราไม่ค่อยได้ให้ลูกเล่น ส่วนใหญ่ อ่านนิทาน ในเว็ป (เห็นเขาว่ามันจะรองรับไฟล์flash พวกเว็บไซด์ได้ดีกว่าIpad) หรือ ไปเอา app ที่เป็นนิทาน มาให้ลูกได้กดๆ แล้วมันก็จะมีเสียงเล่า (ภาษาอังกฤษ) นะคะ เราว่า มันแล้วแต่สิ่งที่จะสอนลูกค่ะ เวลาไปไหน จะดูการ์ตูน ก็ Taplet เนี้ยะค่ะ จะระบายสีบนรถ ก็ Tap เนี้ยะค่ะ เราไม่ได้ทิ้งให้ลูกกดๆๆๆๆ เพียงอย่างเดียว เราจะร่วมเล่นกับเขาไปด้วยค่ะ จะดูการ์ตูน อ่านนิทาน หรือ เล่นเกมส์ ลูกเรา 3.5 ขวบค่ะ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะยุคสมัยนี้ หรือ สมัยก่อน มันก็คงเหมือนกันค่ะ สมัยก่อน พ่อแม่ก็ ซื้อเกมส์บอยให้ลูกเล่น (อันนี้เกมส์ล้วนๆ)เพื่อให้ลูกได้อยู่นิ่งๆเวลาไปไหนมาไหน สมัยนี้ มันก็คงเปลี่ยนจากเกมส์บอย มาเป็นเครื่อง Ipad อะคะ (อันนี้ต้องแล้วแต่งบด้วยนะคะ) เราว่า ทั้งนี้ มันไม่ได้อยู่ที่จะเป็น Ipad หรือ เกมส์บอย แต่มันอยู่ที่การเลี้ยงดู สี่งที่เปลี่ยน มันคือ วิวัฒนาการที่ตามยุคตามสมัยมากกว่าอะคะ ซึ่งเราคิดว่า Ipad เป็นเพียงอีกตัวเลือกหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมาจากเกมส์บอย... อันนี้ความคิด ส่วนตัวนะคร้าาา อาจจะไม่ใช่สำหรับเพื่อนๆ บางคนนะคะ อันนี้ต้องขออภัยเป็้นอย่างยิ่งนะจร้า จากคุณ : dady_mim (Dady_mim) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:48:43

ความคิดเห็นที่ 77 ถ้าแม่มีตังค์ แม่ก็จะซื้อมาไว้ทำงานหาเงินอาจมีลงเกมส์ไว้ให้ลูกเล่นบ้าง เล่นด้วยกันสนุกดี จากคุณ : แม่ไอเดีย-ไอคิว (skw_dy) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 20:20:53

ความคิดเห็นที่ 78 ยอมเป็นคนโลเทค ดีกว่าค่ะ จากคุณ : sodakung เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 20:43:07

ความคิดเห็นที่ 79 อยากบอกว่าไล่ตามอ่านทุก comment ค่ะ และอยากให้เพื่อนๆได้อ่านทุกความเห็นเหมือนกัน เพราะแต่ละท่านได้พูดให้แง่คิด มุมมองที่น่าสนใจ น่าคิดมากทีเดียว ชอบค่า ขอบคุณนะคะที่เข้ามาแชร์ จากคุณ : จขกท (jennie_cu) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 21:04:58

ความคิดเห็นที่ 80 ตอนเราอยู่อนุบาล เราัยังเล่นตุ๊กตาผู้หญิงอยู่เลย เล่นบทสมมติเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นนู่นนี่นั่น เอาเปลพับมาสร้างเป็นบ้านน้อยๆ เอาผ้าเช็ดตัวแม่มาทำเป็นหลังคา  แล้วก็เอาหมอนมานอนข้างๆตุ๊กตา คิดว่าสำหรับลูก ให้เค้าเป็นไปตามวัยน่าจะดีกว่า จากคุณ : มิสพรหล้า เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 21:51:57

ความคิดเห็นที่ 81 ถ้าใช้ให้ถูกทาง ข้อดีมีเยอะแยะไป จากคุณ : กิ่งท้อ...บนยอดหญ้า เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:05:13

ความคิดเห็นที่ 82 อยากแชร์บ้างค่ะ ที่บ้านมีครบเซตเลยลูกสาวตอนแรกๆ ติดไอแพดมาก ไอแพดแบตหมดไปเอาไอโฟนมาเล่นต่อ ตอนหลังเลยกำหนดเวลาเล่นแล้วชวนเค้าทำกิจกรรมอื่นที่เค้าชอบ เช่น เปิดเพลงเต้นด้วยกัน นั่งเล่นเลโก้ วาดรูปสีน้ำมัน ปั้นแป้งโดว์ ตอนนี้ถึงไอแพดวางไว้ที่โต๊ะหน้าโซฟาไม่สนใจแล้วค่ะไม่หยิบไปเล่นจนติดลมหลายชั่วโมง ตอนนี้เลยกลายเป็นแม่เองที่ยื่นให้ เปิดแอฟให้ท่องอักษรไทย นับเลข คำนวณ แต่ให้เล่นวันละไม่เกินชั่วโมง ส่วนข้อดี เราจะโหลดแอฟที่เป็นการเรียนการสอนมากกว่า เช่น สอนอักษรไทย เค้าเล่นบ่อยๆ ก็จำได้ ให้ลองอ่านในหนังสืออักษรไทยก็อ่านได้ อันนี้คิดว่าเป็นประโยชน์มากกว่าปล่อยให้เด็กเล่นเกมและบ้านเราไม่ให้เล่นไอแพดที่อื่นนอกจากที่บ้านค่ะ ปล. ลูกสาวอายุสามขวบค่ะ จากคุณ : Jedyne เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:13:46

ความคิดเห็นที่ 83 ลูกเราอนุบาลสองเล่นไอโฟนเรา แต่เราว่าดีน่ะ บางappมีประโยชน์ แค่เลือกโหลดหน่อย พวกการศึกษามีเยอะมาก และก็โหลดหนังเป็นภาษาอังกฤษมาให้ดู การ์ตูนก็มี จะมองว่าไม่ดีทั้งหมด คงไม่ใช่ มันก็เหมือนเด็กสมัยก่อนเล่นเกมกดนั่นแหละ แต่อันนี้ถ้าเลือกเล่นจะได้ประโยชน์กว่าเยอะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (เฟเฟ) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:16:23

ความคิดเห็นที่ 84 เราเป็นคนหนึ่งที่มีทั้ง สองอย่างที่ว่ามานั่นแหละ ไอโฟน เราเอาทำงานเป็นส่วนใหญ่ ไอแพดเนี่ย ความบันเทิงล้วนๆ ลูกเรา ก็ 5 ขวบ ค่อนข้างอยู่ในวัยที่กำลังเล่นพวกนี้ แต่ลูกเราไม่ติด ไม่ได้ชอบมาก ชนิด ต้องขอเล่นตลอดเวลา เราทิ้ง ไอแพดไว้ที่บ้านชนิดที่ไว้ใจได้ว่า ถ้าแม่ไม่ได้บอกให้เล่น เค้าก็จะไม่เคย หยิบมาเล่นเลย ส่วนใหญ่ ก็เล่นเกมส์นิดหน่อย อาจจะเป็นเพราะว่า เป็น เด็กผู้หญิงหรือเปล่า ไม่ค่อยชอบเล่นเกมส์ เค้าจะสนุกกับ การวาดรูป บนกระดาษ ระบายสี  ตัดกระดาษเล่น เขียนหนังสือ อ่านหนังสือไปเรื่อยเปื่อย มากกว่า อาจจะเป็นเพราะว่าแม่ติดเกมส์มากกว่า ลูก จนลูกเห็นแล้วเซ็ง ไอแพดไปเลยหรือเปล่า แต่เค้าก็เล่นนะ เล่น แป๊ปๆ เก็บผักหมดแล้วก็เลิก แต่ยอมรับว่าเราจะคอยดูเวลาเค้าเล่นว่า เล่นยังไง มากกว่า เพราะว่าเรากลัว ลูกไปเห็นอะไรที่ไม่ดี  เค้าโหลด ยูทูปได้ พิมพ์ ตัวหนังสือ search หาการ์ตูนดูเองได้ ทำให้เรากลัวว่าเค้าจะไปคลิกดูอะไรที่ไม่เหมาะ ดังนั้นเราก็เลย ห้ามไม่ให้เค้าเล่นไอแพด เวลาเราไม่อยู่ด้วย โชคดีมากที่ลูกเราเชื่อเรา สำหรับเรา ไอแพด ในแง่ของลูกเรา เราว่า โอเค ไม่มากไป แต่ยอมรับว่า เราให้เค้าเล่นเร็วเกินไปดังนั้น การจำกัดเวลา และการดูแลเด็ก สำคัญมาก จากคุณ : วีทีอาร์ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:30:02

ความคิดเห็นที่ 85 ที่บ้านเรานี่ปฏิเสธการรับ iphoneกับipadเลยค่ะ เหตุเพราะ เราไม่อยากให้การปฏิสัมพันธ์กันในครอบครัวมันเสียไปเพราะไอ้เจ้าสองสิ่งนี้ หลายครั้งที่เรานั่งรถไปกับญาติพี่น้อง ปกติแล้วการนั่งรถไปกันเป็นครอบครัวจะมีการสนทนากันสนุกสนาน แต่พอมีเจ้าสองสิ่งนี้เข้ามา บางคนจะเริ่มก้มหน้าก้มตากดๆจิ้มๆถ้าจะคุยกันก็ถามคำตอบคำ แล้วก็ก้มหน้าจิ้มต่อ คนจะคุยก็... หยุดคุยไปเพราะเกรงใจ เราว่าบางครั้งเทคโนโลยีที่มันมากไปมันเข้ามาครอบงำชีวิตเราโดยไม่รู้ตัว คนที่เล่นไอโฟนอาจไม่เคยสังเกตตัวเองมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างน้อยลงแค่ไหน แต่คนรอบตัวเข้ารู้สึกได้ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 22:35:02

ความคิดเห็นที่ 86 แต่ละคนมีเหตุผล มีความจำเป็นไม่เหมือนกันค่ะ พ่อแม่เหล่านั้นที่ซื้อพวกไอ ให้ลูกเล่น แล้วโดนว่าว่าขี้เกียจเลี้ยงลูก ไม่มีความคิดฯลฯ จริงๆคือเขาอาจจะคิดมาดีแล้วก็ได้ กลับกันเขาอาจจะคิดว่าพวกที่ต่อต้านเทคโนโลยีพวกนี้กับลูก เลี้ยงลูกไม่เป็นก็ได้ เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน พ่อแม่แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน การเอามาตรฐานคนนึงไปตัดสินอีกคน เราว่ามันไม่ถูกต้องซักเท่าไหร่ ที่แน่ๆ เราคิดว่าเด็กรุ่นลูกเรา จะเติบโตมาในสังคม ไลฟ์สไตล์ที่ต่างจากรุ่นเราแน่นอน ฉะนั้นการเปรียบเทียบว่า รุ่นเรายังถูกเลี้ยงมาอย่างงั้นอย่างงี้ได้ จึงไม่น่าจะ valid รุ่นลูกเรา เขาต้องเติบโตมากับเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ดิจิตอลต่างๆ จะช้าจะเร็วที่เราจะให้เขา expose กับมันเท่านั้นแหละ จากคุณ : Queen of hearts เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:11:01

ความคิดเห็นที่ 87 ผมโตแล้วครับ เมื่อคืนยังเอาไอแพด มานั่งเล่นกับแม่อยู๋เลย สนุกดีครับ แม่บอกว่า เดี๋ยวแม่จะไปลงแอพที่ผมลงบ้าง สนุกดี เราต้องใช้เทคโนโลยีให้ถูกทางครับ อย่าให้เทคโนโลยีใช้เรา นะครับ จากคุณ : Lusif (Lusif) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:24:44

ความคิดเห็นที่ 88 เราก็ใช้นะไอ้ตระกูล ไอๆ นี่ แต่พอเห็นเด็กตัวเล็กๆ ใช้บางทีมันก็ตะหงิดๆ นะ บอกตรงๆมันรำคาญในบางสถานการณ์ แบกไปท่ามกลางผู้คนเขาน่ะ แต่ก็นะทั้งหมดทั้งมวลผู้ใหญ่ควรพิจารณา เรามีความจำเป็นต้องใช้จริงๆ ฝากให้ผู้ปกครองพิจารณาก็ดี เล่นได้แต่ไม่ทุกที่ บางที่ไม่น่าพกพาไปมันก็มี และไม่เร็วไม่มากไป เหมือน จขกท ว่าแหละ จากคุณ : ปลา (scorpionfish) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:56:00

ความคิดเห็นที่ 89 เคยคิดอยากจะตั้งกระทู้แนวนี้เหมือนกันค่ะ เราเห็นด้วยกับหลายๆ คคห ว่าของพวกนี้ หากซื้อให้ลูกด้วยเหตุผล ลูกจะได้นิ่งมากขึ้น หรือ พ่อแม่เหนื่อยน้อยลง   ผลเสียจะตกอยู่ที่ลูกเต็มๆ เลย (รายละเอียดหลายๆท่านกล่าวกันมาหมดแล้ว) ที่เราอยากจะเพิ่มคือ   iphone มันแย่งเวลาของพ่อไปจากลูก แย่งเวลาของสามีไปจากภรรยาค่ะ ตั้งแต่คุณสามีซื้อ iphone มา  ว่างเมื่อไร ก็ก้มหน้า เอานิ้วจิ้มๆ ปาดๆ ที่หน้าจอตลอดเวลา นอกบ้าน- เวลาที่ควรจะเป็น พ่อลูกคุยกัน ชี้ชวนกันดูสิ่งรอบตัว ตอบคำถามลูก มันถูก iphone แย่งไป ในร้านอาหาร- เวลาที่ควรจะเป็น พ่อแม่ลูกคุยกัน หรือ สามีภรรยาคุยกัน ระหว่างรออาหาร   มันถูก iphone แย่งไป ในรถ - ระหว่างรถติด  เวลาที่ควรจะเป็น สามีภรรยา หรือ พ่อลูกคุยกัน ชี้ชวนกันดูสิ่งรอบตัว นอกรถ   มันถูก iphone แย่งไป จนกระทั่ง ..... เกิดอุบัติเหตุ รถไปชนท้ายรถคันหน้า (มีลูกอยู่ในรถด้วย) เพราะคนขับมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเอานิ้วจิ้มๆ ปาดๆ ประกอบกับการยื่นคำขาดของเรา    เราและลูกๆ จึงแย่งเวลาส่วนหนึ่งคืนกลับมาจาก iphone ได้ อย่าคิดว่ามีแต่เด็กๆ ที่จะแยกแยะอะไรไม่ได้ หรือจะติดอะไรง่ายๆ  ผู้ใหญ่ก็เป็นกันเยอะค่ะ  จนต้องมีการเตือนสติกันบ้าง   จากคุณ : iamLinin เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 01:47:18

ความคิดเห็นที่ 90 afford จริงๆ พิมพ์ไทยว่า จ่ายได้ ความยาวก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นะคะ  ลำบากผู้อ่านอย่างเราต้องไปเปิดคำแปล  555 ความคิด จขกท.ดีค่ะ แต่นำมาเปรียบเทียบกับตัวเอง แสดงว่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานซึ่งไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และการหยิบยกเอาแค่ช่วงเวลาที่เห็นๆ มาตัดสิน  เราว่ามันไม่ครอบคลุม จะดีมาก ถ้า จขกท.ได้ทดลองทั้ง 2 สถานการณ์ มี ipad iphone แล้วชีวิตเปลี่ยนไปยังไง ทิศทางไหน  อย่างที่บาง คห.เขียนไว้ แบบนั้นดีกว่า เพราะเปรียบเทียบบนบรรทัดฐานเดียวกัน คห.ส่วนตัว เราว่า ไม่แตกต่างอะไรกับรถยนต์  ให้ความสะดวกสบาย แต่อันตรายถ้าไม่ระมัดระวัง   รู้ทั้งรู้ แต่มีไว้ซักคันก็คงจะดี  555 จากคุณ : ชกควน เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 02:32:51

ความคิดเห็นที่ 91 เขาฮิตกันทั่วบ้านทัวเมือง ก็คงมีอะไรดีหลายอย่าง แต่ดิฉันไม่ให้ลูกเล่น ใครว่าเชยก็ช่าง ลูกก็เก้าขวบ กับห้าขวบแล้ว สามีก็ห้ามเอามาเล่นให้ลูกเห็น เพราะเห็นว่า 1. ทำให้หมกมุ่น ขาดการปฏิสัมพัทธ์กับผู้อื่น และสิ่งแวดล้อม แทนที่ออกมาข้างนอก จะได้คุยกับคนอื่น ได้เห็น ได้ฟังอะไรอย่างอื่น มาก้มหน้าก้มตากับจอสี่เหลี่ยมตลอดเวลา 2. เป็นอันตรายต่อการพัฒนากล้ามเนื้อ สายตาของเด็ก นิ้วมือจิ้ม ๆ ตลอดเวลา จะหัดวาดภาพ ระบายสี ก็ผ่านจอสี่เหลี่ยมนี่แหละ ดินสอไม่ต้องจับกันให้เมื่อย ร่างกายไม่ต้องขยับไปไหน นั่งได้เป็นชั่วโมง ๆ 3. เสียเวลาทำกิจกรรมอื่นที่มีประโยชน์มากกว่า เหมือนเล่นเกมคอมนั่นแหละ จำกัดเวลาได้ แล้วจริง ๆ จำกัดเวลาได้กันหรือเปล่า   ปล. เดี๋ยวนี้ไปไหนกับลูก เลือกที่นั่ง ต้องนั่งข้างคนไม่มีไอแพด จากคุณ : Pidchayut เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 05:40:26

ความคิดเห็นที่ 92 มัวแต่ไปเที่ยวปีใหม่ ตกกระทู้ดีๆเลย ดีใจที่มีกระทู้นี้ค่ะ ที่บ้านมีพี่ชายสามีอยู่หนึ่งคน ที่เข้าบ้านมาไม่พูดไม่จากับใคร เอาแต่นั่งจิ้มอุปกรณ์สื่อสารที่เฮียมีครบครัน ซัมซุงกาแล็คซี่ ไอแพด แมคบุ๊ค ในตัวคนหนึ่งคนมีครบ...มากเกินไป สำหรับลูกสาวเรา วันสองขวบสามเดือน เราไม่ให้แตะค่ะ...เพราะเราไม่มีเงินซื้อ *_* แอนดรอยด์ที่เรามีอยู่ก็ไม่ได้โหลดอะไรให้ เพราะเราให้นั่งเล่นของเล่นในบ้านแทน แต่ปัญหาของเราตอนนี้คือ ลูกพยายามให้เราเล่นด้วยทุกครั้ง ไม่เหมือนลูกของเพื่อนที่พ่อแม่ให้เล่นแอพในมือถือ แท็บเล็ต นิ่งมาก พ่อแม่สบายยยย เราพยายามอดทนที่จะไม่สติแตกเวลาลูกร้องจะให้เราเล่นด้วย ตอนนที่เราทำงานไปด้วย พยายามที่จะไม่ท้อและอดทนกับลูกวัยอยู่ไม่นิ่งให้ได้โดยไม่ใช้ตัวช่วยมากเกินไปค่ะ เอาใจช่วยพ่อแม่ทุกคนนะคะ จากคุณ : flower over the moon เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 07:55:33

ความคิดเห็นที่ 93 อืม เราไม่ออกแนวไหนดีกว่า เพราะเราก็มีเลย มะกล้าด่าตัวเอง ^^! ถ้าสำหรับเรา เราเอาไว้ใช้เวลาจำเป็น เปิดแอพที่ได้จากคุณพ่อในนี้ให้ลูกฟังเพลง แค่นั้น อีกอันคือ เน็ตบุ๊ก เราเอาไว้ใส่ โทมัส กะบาร์นี่ (ซื้อถูกต้องน้า ไม่แอบโหลดอะจ้า) มาใส่ไว้เวลาเดินทางไกลๆ เบื่อ เปิดให้ดู ไว้ใช้แค่นั้น ไม่ได้ลงเกมส์ เพราะไม่อยากให้ติดเกมส์กะคอมอะ แต่พ่อเจ้าบูม ติดเกมส์สุดๆ แก้ไม่ได้ มีคอมกี่เครื่อง มือถือกี่อัน ลงเกมส์หมด ว่างปุ๊ปหยิบเล่นปั๊ป เจ้าบูมก็ไปเกาะติดนั่งดู แต่ไม่เล่น เพราะเล่นไม่เป็น ไม่ให้สอนด้วย ^^ จากคุณ : แม่น้องบูม เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 08:39:10

ความคิดเห็นที่ 94 คุณสามีเราก็ซื้อให้ลูกชายวัยเกือบจะ 5 ขวบเล่นค่ะ ตอนแรกเราก็ไม่อยากให้ซื้อให้ เพราะมันแพงเกินและกลัวเค้าจะติดเกมส์(ตอนนี้กลายเป็นแม่ติดแทนซะงั้น) แต่ลูกเราไม่ติด ipad นะคะ บางวันลืมไปเลย ไม่ได้เล่น เราว่าถ้าพ่อแม่คอยดูแลดีๆ จัดเวลา มันก็มีประโยชน์นะคะ มีหลายแอ็ปที่มีประโยชน์ เช่น เกมส์สอนภาษาทั้งจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ เกมส์ฝึกเชาวน์หลายๆ อย่าง เกมส์บวกเลข แต่ถ้าปล่อยให้ลูกเล่นอยู่คนเดียวก็ไม่ไหวค่ะ มีหลายเกมส์ที่เล่นได้หลายคน ลูกชายเรายังชวนอาม่าเล่นด้วยเลย ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ก็ยังทำอยู่เหมือนเดิมค่ะ เช่น ขี่จักรยานนอกบ้าน เตะบอล วาดรูป ระบายสี ปั้นแป้งโดว์ ต่อเลโก้ (อันนี้ดีมากๆ ลูกชายชอบมากค่ะ เห็นพัฒนาการได้อย่างชัดเจน) สรุปแล้วเราว่าอยู่ที่การดูแลเป็นสำคัญค่ะ จากคุณ : love_is_so_beautiful เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 08:45:29

ความคิดเห็นที่ 95 เมื่อวานเพิ่งคิดเรื่องนี้ เพราะพาลิง (2 ขวบ 2 เดือน) ไปกินข้าว ฮีป่วนสุดๆ เต้นเป็นเก้าอี้ ร้องกรี๊ดๆ จะกินนั่นกินนี่ มาออดอ้อนแม่ ตอนกินเสร็จยังพูดกับฝาชีว่า ถ้ามีโทรศัพท์หรือแทปเล็ตคงนั่งนิ่ง ฝาชีตอบมาว่าต้องซุกซนแบบนี้สิถึงจะดี :D เพิ่มเติม  จริงๆเป็นห่วงคนในร้านและโต๊ะข้างๆมากกว่าค่ะ แหะๆ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 55 10:10:43 จากคุณ : nitimajeng เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 10:10:05

ความคิดเห็นที่ 96 ถ้าใช้ให้ถูกทาง อุปกรณ์สื่อสารเทคโนโลยีเหล่านี้ จะมีประโยชน์มาก.....แต่หากใช้ไม่ถูกทางก็คงให้โทษมหันต์ไม่ต่างกันคะ จากคุณ : mangek เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 11:11:19

ความคิดเห็นที่ 97 สื่อที่ได้มาจาก พวก Tablet มันจะตื่นตาตื่นใจ  เมื่อเด็กๆ เสพจนติดแล้ว ส่วนใหญ่จะไม่สามารถทนอ่านหนังสือ และ สนุกกับจินตนาการผ่านตัวอักษร ได้นานๆ จากคุณ : แม่ลูกหมู เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 11:57:10

ความคิดเห็นที่ 98 เราทำบริษัท IT เลยมีครบเลย  ลูกเราก็เล่น Ipad ตั้งแต่ขวบนิด ๆ ตอนแรกก็เล่นแค่ App เด็ก ๆ ซึ่งชอบมาก  พวกบัตรภาพ  เกมจับคู่ ซึ่งลูกจะชวนเรามาเล่นด้วยเสมอ  เป็นกิจกรรมในครอบครัว ต่อมาลูกเราก็ชอบดูการ์ตูนจาก youtube อันนี้เป็นผลมาจากน้ำท่วม ลูกร้องดูการ์ตูนเรื่องโปรด  ที่โรงแรมไม่มีช่องการ์ตูนเลยเปิดให้ดู หลังจากนั้นน้องวัยสองขวบเจ็ดเดือนก็เรียนรู้วิธีเปิด youtube ด้วยตัวเอง   ย่อขยาย เป็นหมด  หาคลิป สาบานว่าแม่ไม่ได้สอนเรื่องพวกนี้ให้เลย   แรกก็หาการ์ตูน  หลัง ๆ หาวีดีโอของเล่น  จากนั้นก็วิ่งมาหาแม่ บอกว่าตัวเองน่าสงสารมากมาย  ไม่มีของเล่นแบบใน youtube -__-' จากนั้นก็เอาแป้งโดว์มาปั้นตาม youtube บ้างแหละ  วาดรูปตามภาพใน google (ใช้แม่วาด ลูกเป็นคนเลือกภาพ)  ล่าสุดลามไปที่เพลงเด็ก ๆ ตอนนี้ลูกเราร้องเพลง ABC ทั้งวัน  ตามวีดีโอใน youtube อีกนั่นแหละ ทั้ง ๆ ที่ก่อนนี้เราสอนแทบตาม  ไม่ยอมร้องตาม ยังคิดอยู่เลยว่าเด็กสมัยนี้เปิดรับเทคโนโลยีเร็วมาก  น้องก็ดันหัวไว เข้าใจเรื่องพวกนี้เร็วแบบนี้  อนาคตจะเป็นแบบไหนก็ไม่รู้  แต่ลูกสาวเรา ก็เล่นของเล่นอื่น ๆ ด้วย  ตอนนี้กำลังประกอบรางรถไฟเล่นกันอยู่ค่ะ จากคุณ : ตอกะจอ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 12:00:43

ความคิดเห็นที่ 99 อยากจะบอกว่า มีญาติส่งลูกเรียนอนุบาลโรงเรียนดัง หลักสูตร3ภาษา มีชั่วโมงเรียน Ipad ด้วย ซึ่งหมายถึงหน้าที่พ่อแม่ ต้องจัดหา Ipad เพื่อใช้ในการเรียนชั่วโมงดังกล่าว... ผมเห็นแล้วอึ้ง ไม่รู้ว่ามันควรหรือเปล่า... เ จากคุณ : toto_otto เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 12:16:30

ความคิดเห็นที่ 100 เทคโนโลยีแบบนี้ มันมีทั้งด้านที่เป็นคุณและเป็นโทษนะ ถ้าคิดว่าสามารถจำกัดการเล่นของลูกได้ ไม่ได้ปลูกฝังให้กลายเป็นเด็กติดเกมส์ ติดเทคโนโลยีตั้งแต่เล็กๆ ก็คงไม่เป็นไร ส่วนบ้านดิฉัน ครอบครัว IT ทั้งคู่ ไม่ได้หมายถึงเป็นพวกเกาะติดเทคโนโลยีนะคะ แต่ต้องทำงานด้าน IT แต่บ้านดิฉันไม่มีทั้ง Ipad และ Iphone ค่ะ 55 โทรศัพท์ก็เอาแค่โทร/รับ ก็แค่นั้น เพราะอย่างที่บอก ทำงานเกี่ยวกับ IT หมดเวลางาน เมื่อกลับบ้านก็อยากอยู่ห่างเทคโนโลยีหน่อย ส่วนลูกชายคนเล็กวัย 2 ขวบกว่า ก็ไม่ได้แตะเหมือนกันค่ะ อยากสอนอะไร เรียนรู้อะไรก็เปิดสอนเอาจากสมุดภาพ ตามความคิดดิฉัน เด็กวัยเล็กๆแบบนี้ยังไม่เหมาะที่จะสอนให้ใช้ เพราะเขาต้องได้เคลื่อนไหว วิ่งเล่น ขยับนิ้วไปมา ฝึกเขียนโน่นเขียนนี่ เป็นการพัฒนากล้ามเนื้อ จึงน่าจะเหมาะกับหนังสือ นิทาน สมุดภาพ หรือของที่จับต้องได้มากกว่า อีกเรื่องที่เป็นห่วงคือกลัวจะติด เพราะ app หรือเกมส์สมัยนี้ออกแบบมาให้ติดทั้งนั้น เป้าหมายหลักก็เด็กเนี่ยแหละค่ะ จากคุณ : wanvisa เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 12:16:52

ความคิดเห็นที่ 101 เห็นด้วยครับ ตอนนี้กลายเป็นค่านิยมไปแล้ว ลูกคนอื่นมี แต่ลูกเราไม่มี ลูกจะขอทันที บอกอย่างนั้นอย่างนี้ ผมก็มี iphone ก็ให้ลูกเล่นประจำ ตอนหลังซื้อ Tab มาเพราะสองพี่น้องทะเลาะกันบ่อยมาก (คนโต สี่ คนเล็ก สอง) ตัว iphone เนื่องจากผมใช้เองจึง control ได้ว่าจะลง app อะไรครับ ผมไม่ได้ใช้บริการร้านรับลง app หรอก เพราะพวกนั้นเกมส์เยอะมากกก ส่วนตัว Tab ก็เช่นกัน ผมจะเป็นคนลง app เอง เน้นเฉพาะที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กเท่านั้น นอกจากนั้นก็จะมีกฏเหล็ก เช่น เล่นในบ้านเท่านั้น ได้อย่างมากบนรถนิดหน่อย และถ้าบอกให้เลิก ต้องเลิก สำหรับเด็ก ถ้าเรายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เค้าจะเก็บกด จนวันหนึ่ง เค้าอยากได้มาก เค้าจะกลายเป็นติดเกมส์ไปในทันที แต่ถ้าเราผ่อนคลายให้เค้าได้เล่นบ้างภายในการควบคุมของเรา อย่างน้อยก็น่าจะลดความกดดันลงไปบ้าง และหวังว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับเด็กในอนาคต จากคุณ : HaHaHa เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 12:39:38

ความคิดเห็นที่ 102 คุณจะมาตัดสินความเป็นพ่อแม่ที่ดีหรือไม่ดีจากเรื่องนี้ไม่ได้หรอกค่ะ บางคนลูกก็ซนอย่างกับลิง จะพาไปทานข้าวที่ร้านอาหาร ลูกก็ไม่ได้จะนั่งนิ่งๆ อยู่กับที่คอยถามให้เราอธิบายว่านี่ตะเกียบนะ นี่ช้อนนะ เด็กบางคนพอวางปุ๊บ ก็ปีนนู่นปีนนี่ หยิบจับอะไรไปทั่ว เผลอๆ ไปทำจาน แก้วน้ำแตกอีก นั่งแป๊บๆ ก็เดินซนทั่วร้าน ไปเกาะโต๊ะนู้นโต๊ะนี้ สร้างความรำคาญให้คนอื่นเขา บางคนเอาลูกไปหาหมอ ก็อาจจะอยากให้ลูกนั่งอยู่กับที่ เพราะโรงพยาบาลเชื้อโรคมันเยอะ เดี๋ยวไปจับนั่นนี่ วิ่งไปเล่นกับเด็กป่วย ติดโรคกลับมาอีก สู้ให้ลูกนั่งนิ่งเล่น ipad ไม่ดีกว่าเหรอคะ อย่างมากก็รอหมอชั่วโมงนึง เหตุการณ์สั้นๆ แค่นี้จะมาวัดอะไรไม่ได้หรอกค่ะ หลานเราขวบเก้าเดือน เค้าก็เล่น ipad นะ แต่ก็มีเวลาเล่นของเค้า ตอนเช้าอาบน้ำกินข้าวเสร็จเล่นชั่วโมงนึง กลางวันก็ไปเล่น กับเพื่อนๆ ข้างล่างคอนโด ก่อนนอนเล่นอีกชั่วโมงนึง ถ้าควบคุมได้ก็ไม่น่าเป็นปัญหา เราก็เห็นหลานโหลดแอ๊พมาเล่นเอง เกมส์บ้าง การศึกษาบ้าง เค้าชอบดูพวก abc นับเลข สี ภาพสัตว์ เค้าหามาดูเองเลยนะ เรายังว่าเค้าเก่งเลย แต่ของเล่นอื่นเค้าก็เล่นนะคะ พวกลูกบอล รถเด็กเล่น เราว่าถ้าพ่อแม่รู้จักควบคุมให้มีวินัยในการใช้ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะ แต่เห็นด้วยว่ามันเป็นของฟุ่มเฟือย ถ้าบ้านไหนมีกำลังในการซื้อก็ดีไป บ้านไหนซื้อไม่ไหว ก็หาอย่างอื่นให้ลูกเล่น เลี้ยงลูกตามไลฟ์สไตล์ตัวเองแหละดีที่สุด ไม่มีอะไรถูกอะไรผิดหรอก จากคุณ : เจ้าหญิงนิ้วนิ้ว เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 13:09:23

ความคิดเห็นที่ 103 เร็วไป หรือ มากไป  มั้ย มันอยู่ที่เอาอะไรเป็นตัวชี้วัด ipad  iphone มัน ก็มีทั้งคุณ ทั้งโทษ  อยู่ที่เรา / ผู้ปกครอง จะดูแลการใช้งานของเด็กยังงัย เราให้ลูกเล่นทั้ง 2 อย่างค่ะ แต่เราจะโหลดเฉพาะ app ที่เราคิดว่ามีประโยชน์  เช่น พวกศัพท์ภาษาอังกฤษ  appวาดรูป ฝึกระบายสี  เขียน ABC ตัวเลข  โหลด sesame ให้เค้าฝึกฟังภาษาอังกฤษ ฝึกการนับ และศัพท์ต่างๆ   ลูกเรา 4 ขวบ แต่ ก็รู้ศัพท์ภาษาอังกฤษ เกือบ 100 คำ  จาก app ใน iphone นี่แหละค่ะ   ส่วน ipad ส่วนใหญ่ จะเป็นนิทานต่างๆ โหลดมาอ่านให้ลูกฟังก่อนนอน สลับกับหนังสือนิทานที่มีอยู่ แล้วแต่เค้าจะเลือก  แต่สังเกตุว่าเค้าจะุ้เลือกอ่านจากหนังสือมากกว่านะคะ   เด็กเค้าไม่ได้ติดงอมแงมอะไรอย่างที่เรากลัวหรอกค่ะ สุดท้าย เค้าก็ยังชอบที่จะเล่นทราย  ปั้นแป้งโดว์ เล่นหม้อข้าวหม้อแกงกับพ่อแม่มากกว่า ส่วนเวลาไปที่สาธารณะ  บางทีเราคิดว่าการเอา iphone  ipad ให้ลูกเล่น ก็เป็นการจำกัดพื้นที่ให้เค้าได้อย่างหนึ่งนะคะ เค้าจะได้ไม่ไปในที่ที่อาจก่อความรำคาญให้คนอื่น  ในร้านอาหารก็มีคนหลายประเภท ถ้าเราชวนลูกคุยอยู่ตลอดเวลา ก็เกรงใจคนโต๊ะข้างๆ เค้าอาจไม่พอใจก็ได้ค่ะ มันนานาจิิตตัง จากคุณ : พิมพ์อารีย์ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 13:30:38

ความคิดเห็นที่ 104 เด็กควรถูกสอนให้อยู่นิ่ง ๆ ให้รู้จักรอ ในเวลาที่ควรจะทำ ไม่ใช่หรือคะ ถ้าเด็กไม่ยอมอยู่นิ่ง พ่อแม่เอาเกมส์ให้เล่น เอาไอแพดให้เล่น เพื่อให้เด็กอยู่นิ่ง ๆ พ่อแม่บอก" หมดเวลาแล้ว เลิกเล่น" ถ้าเด็กไม่ยอมอีก จะทำอย่างไร.... ความเห็นส่วนตัว จากประสบการณ์ที่เจอมา ส่วนใหญ่ที่บอกว่า "เอาอยู่ เอาอยู่ จำกัดเวลาได้" เอาไม่อยู่ทั้งนั้น ดูจากปัญหาเด็กติดเกมส์ได้ จากคุณ : Pidchayut เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 13:37:22

ความคิดเห็นที่ 105 แต่ของเรากลับกันค่ะ ลุกเราเก่งได้เพราะแอป Flash card และABC ของIpadค่ะ ลูกเรา 2 ขวบกว่า ไปเรียนเตรียมอนุบาลที่โรงเรียนใกล้บ้าน เราให้เล่นไอแพต แต่ไม่มีแอพเกมส์เลย ลบเกมทิ้งหมด เพราะตั้งใจซื้อให้ลูกไว้เสริมพัฒนาการค่ะ เราโหลดแต่แอฟที่เป็นรูปสัตว์และคำศัพท์ภาษาอังกฤษ  ภาษาจีนก็มี สรุป คุณครูที่โรงเรียนบอกว่า  ลูกสาว วัดระดับพัฒนาการได้ที่ 1 เพราะท่อง A-Z  ท่องก-ฮ ได้หมด  และ ตอบคำศัพท์ภาษาอังกฤษได้ แต่เราเล่นกับลูกด้วยเวลาที่ลูกเล่นศัพท์ภาอังกฤษ เพราะสำเนียงจะฟังยาก เราต้องคอยสอน คอยบอกลูกด้วย   ชวนกันร้องเพลง จิงเกอเบล ร้องเพลง ไวท์คริสมาสด้วย ตอนนี้เค้ามีพันาการที่ดีกว่าเพื่อนค่ะ จากคุณ : Nan_yaris264 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 14:07:43

ความคิดเห็นที่ 106 เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 102 คุณพิมพ์อารีย์ เราจะตัดสินพ่อแม่คนอื่นว่าดีหรือไม่ดี หรือมีวุฒิภาวะสมกับเป็นพ่อแม่คนหรือไม่ จากการยื่นของตระกูลไออย่างเดียวไม่ได้หรอกค่ะ การที่เขาเอาไอโฟนให้ลูกเล่นระหว่างอยู่ร้านอาหาร เขาอาจมีเหตุผลของเขาเอง คิดในแง่ดี ลูกเขาเดินเพ่นพล่านหรือเปล่า รบกวนโต๊ะข้างๆ ไหม เดินชนพนง.ขณะพนง.กำลังเสิร์พของร้อนหรือเปล่า "หรือข้อสอง มันดูมากไปไหม ตัวอย่างแรก เราพาลูกไปหาหมอ นั่งรออยู่ก็นั่งคุยกะลูกไปเรื่อย มีแม่ลูกคู่นึงเข้ามา นั่งปุ๊บก็ยื่น ipad ให้ลูกปั๊บ แล้วลูกก็นั่งเล่นไป ไม่คุยกันเลย" คิดในเง่ดี รพ. โรงหมอ เป็นสถานที่ที่ต้องการความสงบ เขาไม่อยากชวนลูกคุย ส่งเสียงดังา รบกวนคนอื่นหรือเปล่า   นานาจิตตังค่ะ จขกท. ลูกชายเรา 2.4 ปี เล่นบ้าง ไม่ได้ติด ดูแอปพวกภาษาอักงฤษ ดูรถไฟ thomas วันละไม่เกิน 15 นาทีค่ะ แต่เราไม่ถึงขนาดไม่หยิบยื่นของพวกนี้ให้ลูกเลย อยากให้เขาเรียนรู้สิ่งอื่นๆ บ้างนอกจากอยู่บ้าน เล่านิทาน เล่นทราย วาดรูป ระบายสี ร้องเพลง เต้นรำน่ะค่ะ เดินทางสายกลางค่ะ  ^^ ทุกอย่างมีคุณและโทษเสมอ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 55 14:20:02 จากคุณ : Pimnattada เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 14:15:21

ความคิดเห็นที่ 107 มีค่ะ...แต่ลูกไม่ชอบ เอาเข้าจริงๆเด็กน้อย เค้าชอบเล่นกับแม่มากกว่าน่ะ จากคุณ : savita29 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 14:43:03

ความคิดเห็นที่ 108 ของแบบนี้นานาจิตตังเลยคะ ตอนแรกก่อนมาเจอกระทู้นี้ตั้งใจว่าจะๅถอยไอแพดดด มาเล่นกะตัวเล็กที่บ้านอยู่เลย เพราะสังเกตว่า ตัวเล็กที่บ้านอายุ1.3ขวบ เวลาเห็นใครเล่นไอแพด ไอโฟน จะต้องเข้าไปสแล๋น ทุกครั้งไป แต่พอมาอ่านกระทู้นี้ เอออ เราลืมนึกไปเลย ว่าถ้าเราให้ลูกเราสนใจเทคโนโลยี มากกว่าแทนที่จะมานั่งคุย กัน วันนึงน้องจะติดไอไอ ทั้งหลายมากกว่าตัวเราแน่ๆ เลย ว่าแล้วเปลี่ยนใจว่าจะซื้อให้ตัวเราเองแทนดีกว่า ^^ จากคุณ : fifhai เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 15:09:41

ความคิดเห็นที่ 109 เห็นด้วยกับเจ้าของ กท ครับ จากคุณ : tistlotus เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 16:32:25

ความคิดเห็นที่ 110 คุณ คห 102 "คุณจะมาตัดสินความเป็นพ่อแม่ที่ดีหรือไม่ดีจากเรื่องนี้ไม่ได้หรอกค่ะ" คุณ คห 106 "เราจะตัดสินพ่อแม่คนอื่นว่าดีหรือไม่ดี หรือมีวุฒิภาวะสมกับเป็นพ่อแม่คนหรือไม่ จากการยื่นของตระกูลไออย่างเดียวไม่ได้หรอกค่ะ" เราไม่เคยพูดและไม่เคยตัดสินว่าพ่อแม่ดีหรือไม่จากเรื่องนี้ค่า และไม่เคยว่าพ่อแม่ทำอย่างนี่้ถูกหรืออย่างนี้ผิดนะคะ ที่ว่าร้านอาหาร เด็กบางคนซนมาก ปีนโต๊ะ รบกวนผู้อื่น กลัวจับโน่นนี่แตก เป็นต้น ลูกเราก็เป็นค่า ปีนนั่น โยกนี่ เขย่าเสาดูซิ หยิบถ้วยซอสจะเท มือหมุนเป็นวงสวิงประมาณว่าจะปล่อยพลัง วิ่งไปโน่นนี่เวลาเดินห้าง หรือปีนเข้าไปตาม shelf เสื้อผ้า เราว่าหลายคนโดยเฉพาะเด็กผู้ชายก็เป็นกันทั้งนั้นแหละค่า ขึ้นอยู่กับว่าตัวคุณพ่อคุณแม่เองจะจัดการยังไงมากกว่า แต่เด็ก ยิ่งห้ามยิ่งยุค่า บางท่านใช้วิธีนี้ ไม่ได้ผลเลยต้องพึ่ง ipad/iphone คิดว่าง่ายกว่า เด็กนิ่งได้ ก็เป็นอีกตัวเลือกนึัง ไม่มีใครบอกผิดค่า ส่วนเรา (ก็ไม่ได้บอกว่าถูก) จัดการโดยการห้าม ดุไม่ได้ผล เลยต้องปรับเปลี่ยนวิธี ใช้เหตุผล ลูกเราฟังเข้าใจเพราะสอนแบบนี้มาแต่เด็ก คุยแบบเห็นเค้าเป็นผู้ใหญ่คนนึง บางทีก็เล่าเป็นเรื่องให้ตื่นเต้นบ้าง เค้าก็จะได้หยุดแล้วฟังเรา เอามาโยงกับการ์ตูน นิทานบ้าง พยายามไม่หยิบยื่นมือถือให้   ตอนเค้าเฮี้ยวๆ งอแง ดื้อ จะไม่ฟัง ลองใช้ไ้ม้อ่อนบ้าง จับมากอดเลยก็มี เค้าจะนิ่งขึ้น ค่อยปรับไปเรื่อยๆ เพราะเรา พ่อแม่จะรู้ดีที่สุดว่าแบบไหนได้ผลกับลูก  ลูกเราเริ่มเข้าใจ ดีขึ้นในครั้งต่อๆมา บางครั้งเป็นอีก ก็สลับวิธีไป นานเข้าเด็กจะเข้าใจได้เองว่าสถานการณ์แบบนี้ อยู่ทีร้านอาหาร หรือ โรงพยาบาล ต้องทำตัวแบบนี้นะ พ่อแม่ถึงชม หรือจะได้สติ๊กเกอร์ (พิ่งเริ่มใช้ค่า เอามาสะสมแลกของรางวัล) คือ ลูกจะปฏิบัติได้ตามสภาพแวดล้อม และเค้าจะเข้าใจ เชื่อฟังเรา พ่อแม่มากขึ้น ลูกเราจะไม่นิ่ง หรือหยุดทำเพราะตัวช่วยจากเทคโนโลยีเหล่านี้ เพราะเราว่ามันแค่ชัวคราว คราวหน้าก็จะเป็นอีก ดึงออกก็ร้องแล้ว เราเลยไม่ใช้วิธีนี้ เราอยากเป็นคนที่ control เค้าเองได้  เราอยากให้ลูกเรารู้จักนั่งรอบ้าง ไม่อยากให้เป็นเด็กสมาธิสั้น พอหมดอะไรกระตุ้นหน่อย ร้องแล้ว ไม่ใช่ ลองอ่านที่คุณ tpipe ลองเขียนใน คห 67 เราว่่าน่าสนใจไม่น้อย จริงอยู่เหตุการณ์แค่นี้อาจวัดอะไรไม่ได้ และจาก ตัวอย่างที่เรายกมา ที่ร้านอาหารกับที่โรงพยาบาล แค่สองสถานการณ์นี้เพราะเด็กส่วนใหญ่นอกจากไปโรงเรียน อยู่บ้าน เดินห้าง ก็ไปหาหมอ เลยอยากจะหยิบยกมาพูดให้เห็นภาพซักเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากเรียนแจ้งใน คห 53 ขอเรียนทุกท่านอีกครั้งว่าเราไม่ได้มีเจตนามาถกถึงข้อดีข้อเสียว่าอะไรมีมากกว่ากัน เพราะแน่นอนมีสองด้าน และหากใช้เป็น ก็มีประโยชน์อยู่แล้ว ข้อนี้ไม่เคยเถึยงเลย แค่อยากให้ฉุกคิดกันสักนิดเท่านั้นว่า มันเร็วไปหรือไม่ และ/หรือ มันมากไปหรือไม่ สำหรับวัยของเด็กแต่ละคน หรือลูกของคุณ หากคุณว่าไม่ คุณใช้เป็น ลูกคุณได้ประโยชน์ มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ก็ยินดีด้วยค่า  บางท่านอาจไม่ชอบ ไม่เห็นด้วย กับเรา ไม่เป็นไรค่า ในโลกออนไลน์ การโพสกระทู้แบบนี้เราทำใจอยู่แล้ว ต้องมีั้ทั้งคนเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย หากมุมมองของเราไม่มีประโยชน์ เราหวังว่ามุมมองของท่านอื่นคงเป็นประโยชน์ต่อท่านบ้าง หลายท่านเขียนไว้ดีทีเดียว มีแง่คิด ข้อคิดที่ดี น่าสนใจค่า ขอบคุณค่า จากคุณ : จขกท (jennie_cu) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 16:48:43

ความคิดเห็นที่ 111 คุณพ่อ/คุณแม่ ที่คิดว่า ให้ลูกเล่นเกมส์ ลูกจะได้อยู่นิ่ง อยากบอกว่า คุณเห็นลูกคุณนั่งอยู่นิ่งกับที่ไม่ลุกไปไหนก็จริง แต่ในใจเค้าเร่งเร้า วุ่นวาย ลุ้นระทึก สับสน ขัดแย้ง อยากเอาชนะตลอดเวลานะคะ ขอยืนยันว่า การเล่นเกมส์ ไม่ได้ช่วยให้ลูกนิ่งค่ะ ยิ่งทำให้เค้าเป็นเด็กไม่มีสมาธิอีกด้วย การให้ลูกใช้ไอโฟน/ไอแพด/อุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ อยู่ที่ Application/Program ที่เลือกให้ลูกเล่นค่ะ เลือกที่ดี มีประโยชน์ มันก็จะกลายเป็นอุปกรณ์ที่สร้างสรรค์มากกว่าทำลายค่ะ จากคุณ : แม่น้องต้า (toom.com) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 17:06:47