ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ความคิดแบบนี้มีอยู่จริง เฮ้อออ!!,,,,
|
 |
สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังค่ะคุณแม่คุณพ่อ ชานเรือนทุกท่าน เพิ่งกลับมาจากเชียงใหม่ได้ สองสามวันค่ะ วันนี้มีเรื่องมาเล่าให้ฟังค่ะ เป็นเรื่องที่อ่านเจอให้บ้านชานเรือนบ่อยมากเหมือนกัน แต่ก็ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวหรอกค่ะ แต่แล้วก็เจอจนได้ เมื่อช่วงหยุดยาวปีใหม่ค่ะ เราและสามีกับลูกอีกสองคน กลับบ้านที่เชียงใหม่ค่ะ คือว่าเราเองตอนนี้ไม่ได้ทำงานนะคะ เลี้ยงลูกอย่างเดียวเต็มเวลาค่ะ ตอนลูก
สาวคนโต เรายังทำงาน ลาคลอดได้สามเดือน ลูกสาวก็เลยได้กินนมผง เพราะเราทำงานอยู่ กทม. ส่วนลูกต้องฝากพ่อแม่สามีเลี้ยงที่เชียงใหม่ แต่พอมีลูกคนที่สองนี้ เราไม่ได้ทำงานแล้วเพราะลาออกมาเลี้ยงลูกอย่างเดียว ก็ให้ลูกกินนมตัวเองซึ่งก็มีกินอย่างพอเพียง ไม่มากเกิน ไม่น้อยเกิน พ่อแม่สามีก็รับรู้เรื่องนี้ ว่าเออ เราตั้งใจจะให้ลูกกินไปจนขวบครึ่งเป็นอย่างน้อย จนกว่าลูกจะดื่มจากแก้ว
หรือดูดหลอดคล่องก่อน และเจ้าลูกชายก็ไม่ยอมกินขวดเลยมาจนอายุ 8 เดือนแล้ว ทีนี้พอกลับบ้านที่เชียงใหม่ คุณปู่ ก็มีคำสั่งมาเลย ให้เลิกนมแม่ แกพูดทำนองว่า อายุเลยหกเดือนแล้ว เขาคิดว่านมแม่หมดคุณค่าแล้วล่ะ (อันนี้เขาคิดเองล้วนๆ ) กินนมขวดดีกว่า อึ๋ยยย เราก็มองหน้านะ ก็บอกว่า นมแม่ไม่มีวันหมดคุณค่าหรอกค่ะ และนมหนูก็ยังมีให้ลูกกินอย่างเพียงพอ ประหยัดและสะอาดด้วย น้องก็กินอาหารเสริมแล้วหนึ่งมื่อ หนูจะให้กินต่อไปค่ะ แกก็พูดอยู่นั่นแห
ล่ะ เรื่องของเรื่องอาจจะเป็นเพราะว่าเจ้าหนูไม่ยอมอยู่กับใครนานค่ะ ติดแม่ ยิ่งคุณปู่อุ้มยิ่งไม่ยอมเลย ร้องจะเอาแม่คนเดียว (อิอิ แอบสะใจเล็กๆ เพราะตอนคนแรกเราไม่มีสิทธิ์มีเสียงกับลูกเลย)
วันต่อมา ก็ไปเยี่ยมอาแปะ พี่ชายคุณปู่ อาแปะก็ถามสารทุกข์สุขดิบ จนวกมาถามเรื่องกินนมอะไรตอนนี้ เราตอบกินนมแม่ แกทำหน้าแบบว่า ฮึ้ยยย เลิกได้แล้วโตแล้ว กินนมชง ๆๆ นมแม่ไม่มีคุณค่าแล้ว แปดเดือนแล้ว บลาๆๆๆๆๆๆๆๆ
เราก็นั่งฟังอ่ะนะ ไม่อยากขัดใจคนแก่ เพราะคนแก่ทางบ้านสามี เขาเอาแต่ใจ เถียงก็ไม่ได้ มีเหตุผลแค่ไหนก็ไม่ต้องมาเถียง เงียบแล้วฟังดีที่สุด (แต่ไม่ต้องทำตามหรอก 555) คุณสามีก็เริ่มคล้อยตาม มีการพูดด้วยนะว่า อาปา (พ่อสามี)ก็พูดแบบนี้แหล่ะ ผมก็ว่าจะให้เลิกแล้วเนี่ย (แน่ะ) พอคุยกับแปะเสร็จเข้าห้องนอน เราก็ถาม จะให้ลูกเลิกจริงหรอ แฟนเราก็บอกใช่ เราเลยจ๊าก ให้เลย
เนี่ยดูสิ ลูกไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วยเลย ร่าเริง จ้ำม่ำแข็งแรง ทั้งหมดเพราะนมแม่ ที่กล้าพูดเพราะลูกชอบนมแม่มากกว่าอาหารเสริมอีก อาหารเสริมก็เพิ่งกินได้ เดือนกว่าๆ สองเดือน แถมยังช่วยเธอประหยัด ไม่ต้องเตรียมของให้วุ่นวาย ไม่ดีหรือไง (ฮ่วย!) พอหลังจากนั้นอีกวันสองวัน คุณปู่ก็ูพูดเหมือนเดิมอีกแล้วว ให้เลิกนมแม่ อาปาว่ามันหมดคุณค่าแล้วล่ะ เดี๋ยวขาดสารอาหาร กินนมผงดีกว่า (ดีกว่าตรงไหนเนี่ย) เราเลยตอบเลยว่า หนูจะให้กินเท่าที่นมหนูยังจะมี อาจจะนาน
ไปจน 2-3 ขวบนู่นล่ะค่ะ ตอนนี้น้องก็กินอาหารเสริมแล้วด้วย ไม่ต้องกลัวว่าจะขาดสารอาหาร แล้วนมวัวน่ะ วัวมันกินแต่หญ้า จะมาสู้นมคนที่กินสารพัดอย่างได้ยังไงคะ หมอหรือพยาบาลเขาก็รณรงค์กันมาตั้งนานแล้วด้วย แล้วที่เขาใส่นั่นนู่นนี่ในโฆษณาน่ะ เขาทำเพื่อจะเลียนแบบนมแม่ซึ่งใส่เท่าไรก็ทำได้ไม่เหมือนหรอกค่ะ (พูดตามที่คิดว่ามันถูกนะคะ) หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดไรต่อ เพราะใจไม่
ได้คิดโกรธเคือง ยังไงเราก็ตั้งใจไว้แล้ว เลยไม่อยากจะโกรธให้เหนื่อย แต่กลับไปบอกสามีว่า ถ้าเธออยากให้ฉันเลิกให้นมลูกก็ไปหาเอกสารทางการแพทย์มาให้ฉันดูก่อนว่า นมผงมันดีกว่านมแม่จริง ถ้าหามาไม่ได้ก็เลิกพูด สำหรับคุณแม่ที่เลี้ยงด้วยนมแม่ไม่ได้ นั่นเพราะเหตุจำเป็น หรือต้องทำงาน แต่นี่ฉันไม่ได้ทำงาน นมก็มีเพียบๆ เรื่องอะไรจะไปเปลืองตังค์ค่านมอีก เฮ้อ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนที่คิดแบบนี้อยู่จริงๆ ถ้าไม่เจอเองก็ไม่เชื่อนะเนี่ย
| จากคุณ |
:
คุณแม่ธรรมดา 
|
| เขียนเมื่อ |
:
6 ม.ค. 55 11:20:11
|
|
|
|
