ความคิดเห็นที่ 1 จขกท มองแต่มุมของตัวเองนี่คะ พี่สาวเค้าก็เหนื่อยทำงาน ได้ไปอยู่ใกล้ๆแบบนั้น เค้าสบายกว่า เค้าก็คงอยากใช้ชีวิตสบายๆบ้างอ่ะค่ะ ในเมื่อมันดีกว่ากัน   ลูกเค้าโตก็เรียนแถวนั้นเลย เค้าก็ห่วงความสบายของลูกเค้า(เหมือนที่ จขกท อยากให้คนอื่นทนลำบากเพื่อความสบายของลูก จขกท) จขกท อยากให้พี่สาวทนตื่นเช้ากลับค่ำ เดินทางไปทำงานไกลๆเพราะอยากให้มีคนดูลูก แบบนี้เราก็ว่าเห็นแก่ตัวนะคะ มองแต่ประโยชน์ของตัวเองเหมือนกันค่ะ แล้วบ้านไม่มีคนอยู่ เค้าก็อยากขายเอาเงินไปหมุนไปลงทุนอย่าอื่นแทน เพื่อความมั่นคงในชีวิต ถ้าบ้านน้ำท่วมบ่อยๆก็ต้องมาเสียสุขภาพจิตและเสียเงินซ่อมแซมบ้านอีก เค้ามีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีกว่านะคะ ส่วนพ่อแม่ จขกท ก็คงต้องแล้วแต่ท่านแล้วค่ะ ว่าอยากกลับบ้านไหม แม่ จขกท ก็ไม่ไดใจร้ายอะไรนี่คะ ก็บอกว่าจะฝากเลี้ยงวันธรรมดาก็ได้ แสดงว่าท่านก็เต็มใจช่วยเลี้ยงให้ เราว่าลูกของเรา เราก็ต้องหาทางออกเองอ่ะค่ะ จะหวังเป็นภาระให้คนอื่นมาคอยนึกถึงก็คงไม่ได้นะคะ ลูกคนอื่นไปเนอร์สได้ ทำไมลูกเราจะไปไม่ได้ล่ะค่ะ จากคุณ : เทมปุระ เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 16:00:43

ความคิดเห็นที่ 2 เดาว่าคุณmaverickjคงกำลังเหนื่อย ปน เครียดเล็กน้อย เราอยากบอกว่า..ลองทำใจให้..สงบๆ ผ่อนคลายด้วยอะไรก็ได้สักอย่าง เช่น สูดอากาศบริสุทธิ์ ฟังเพลง ช้อปปิ้ง+เสริมสวย(ถ้ามีอารมณ์) เพราะ..1.เรื่องที่คุณเจอ ยังเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ด้วยตัวคุณเอง การนำลูกไปฝากเนอสฯ ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายค่ะ..มีหลายบ้านที่จำเป็นต้องทำแบบนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์จะตามมาด้วย การ งอแง ป่วยบ้าง หรือเราไม่สะดวกนานาประการ แต่ล้วนแก้ไขได้ทั้งสิ้น จริงๆ 2.เรื่องของแม่และพี่ ไม่จำเป็นต้องคิดเลย ให้เขาจัดการแบบที่เขาเลือก เพราะเป็นวิถีชีวิตของเขาค่ะ แก้ไขคนอื่นนั้นยากมาก มาแก้ที่ใจเราดีกว่า "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"ได้ดีเสมอ...อยากให้มีกำลังใจ จากคุณ : ลมหนาวใต้ภูผา เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 16:03:16

ความคิดเห็นที่ 3 มองต่างมุมค่ะ จขกท ก็อยากเอาสบายตัวเองเหมือนกันนี่คะ พี่สาวคุณลูกเล็กกว่าด้วย  แม่คุณเค้าก็หาทางออกให้แล้วนี่ จากคุณ : กิ่ง&อ๊อด เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 16:08:33

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นด้วยกับควาวมเห็น 1 ค่ะ คุณบอกว่า พี่สาวกับแม่คุณเห็นแก่ตัว คุณเองก็มองแต่ตัวเอง และเอาตัวเองเป็นที่ตั้งไม่แพ้กัน ชีวิตใึคร ชีวิตมันทำไมต้องเอามาผูกติดกันด้วยคะ พี่สาวคุณเค้าก็มีสิทธิ์เลือกนะว่าจะอยู่คอนโด เพราะเค้าไปทำงานสะดวก รวมถึงอนาคตเค้าจะให้ลูกเรียนในเมือง แล้วเค้าผิดตรงไหนคะที่จะขายบ้านทิ้ง ปัญหามันอยู่ที่แม่คุณต่างหาก เค้าเลือกที่จะอยู่คอนโดกับพี่สาว ซึ่งนั่นแม่คุณเลือกเอง เพราะฉะนั้น หากคุณอยากให้แม่คุณช่วยเลี้ยง คุณก็ต้องเอาลูกมาส่งที่คอนโดพี่สาวแทน จะง่ายกว่ารึเปล่าคะ การเรียงร้องให้คนอื่นทำตามใจตัวเองเป็นเรื่องยากค่ะ บอกตรงๆว่าสิ่งที่คุณทำอยู่ มันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย เพื่อให้แม่คุณได้เลี้ยงลูกคุณด้วย คุณกลับบอกให้พี่สาวคุณเสียสละ กลับมาอยู่บ้านซึ่งห่างไกลที่ทำงานพี่เค้า เพื่อที่คุณจะได้สบายด้วย ส่วนพี่สาวลำบากไม่เป็นไร ตกลงใครเอาแต่ใจคะ จากคุณ : Trippy เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 16:13:37

ความคิดเห็นที่ 5 คิดเหมือน คห บนๆ ค่ะ จะบอกว่าเด็กๆ ที่อยู่เนอสตั้งแต่เล็กๆ จะเป็นเด็กอีกแบบนึง ไม่เหมือนเด็กที่เลี้ยงที่บ้านนะคะ เค้าจะเก่งเข้าสังคมและ update ตัวเองตลอดเวลา ^^ (ดูมาจากลูกเพื่อนที่เอาลูกเข้าเนอสตั้งแต่เค้ากลับไปทำงาน ตอนนั้นลูกก็ 3 เดือน คุณแม่เค้าก็อยู่บ้านห่างไป 3 หลัง แต่คุณแม่เค้าไม่ดูให้ค่ะ บอกว่า แก่แล้วอยากพักผ่อน มีกิจกรรมกับเพื่อนๆค่ะ เพื่อนเราก็เข้าใจค่ะ) ลองหาเนอสดีๆ ดูนะคะ เราว่าทางออกมีอีกมากมายค่ะ อย่าไปว่าใครเค้าเลยค่ะ คนในครอบครัวด้วยกันเองด้วยซ้ำเนอะ สู้ๆค่ะ จากคุณ : pinkybird เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 16:20:56

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยกับ คห.ที่ 4 ค่ะ อย่าโทษคนอื่นเลย ลูกของคุณเองนะคะ คุณยังมีแม่ที่ช่วยเหลือคุณ โชคดีมากๆเลยนะคะ จากคุณ : beetlebum_p เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 17:35:17

ความคิดเห็นที่ 7 "มันเศร้ามากๆนะคะ สำหรับคนเป็นแม่อย่างเรา ที่ต้องเอาลูกไปฝากเนอส เพราะความเห็นแก่สบายของผู้ใหญ่บางคน" อึ้ง กับประโยคนี้ของคุณมากเลยค่ะ ลองคิดถึงตัวคุณเองด้วย ว่าคุณก็รักสบายด้วยหรือเปล่า อ่านแล้วเหมือนคุณไม่ได้สำนึกในพระคุณแม่เลย ตอนคุณยังเด็ก ท่านก็ฟูมฟักดูแล พอมีหลานท่านก็ช่วยเหลือเลี้ยงดู (ใช้คนแก่เลี้ยงเด็ก เราว่า มันทรมานคนแก่นะ) พอท่านอยากรักสบายเหมือนคุณกับสามีบ้างคุณกลับต่อว่า การมีลูกก็ทำกันสองคน ไม่ได้มีใครบังคับให้คุณมีลูกนะคะ แต่เวลาเลี้ยงคุณกับอยากให้คนรอบข้างช่วยเลี้ยง พอเขาเห็นแก่สบายของตัวเองบ้าง คุณกลัีบตัดพ้อต่อว่า ถึงคุณไม่ได้ออกปากพูด เพียงแค่คิด คุณก็ผิดเต็มประตูแล้ว เท่าที่อ่าน ก่อนหน้านี้เขาก็ช่วยเหลือคุณนะ ทำไมไม่ลองคิดว่า แล้วเราล่ะ เราเคยรักสบาย เคยช่วยเหลือคนอื่นบ้างหรือเปล่าก่อนที่จะไปว่าเขา คุณยังโชคดีที่มีพี่ มีแม่ช่วยเหลือก่อนหน้านี้ ตอนนี้ คุณเปิดใจให้กว้างๆนะคะ  อย่าเห็นแก่ตัวเอง แล้วปล่อยให้เขาได้มีชีวิตของเขาเองบ้าง เพราะที่ผ่านมาคุณกับสามีก็ได้ใช้ชีวิตส่วนตัว รักสบายเช่นกัน  จะหวังอะไรให้มากมายกับเขาเหล่านั้น เขาที่ไม่ได้มีส่วนในการผลิตลูกน่ะ อีกอย่างพี่คุณดันมีลูกเล็กกว่าคุณอีก คุณเคยคิดถึงความดีของพี่คุณบ้างหรือเปล่าล่ะ การส่งลูกเข้าเนิร์สฯ มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร คุณคงเหนื่อยและเครียดมากกว่าจึงตัดพ้ออย่างนี้กับคนที่มีพระคุณกับคุณมาก่อน ถ้าเลี้ยงเองได้ไม่มีใครอยากส่งเนิร์สฯหรอกค่ะ แต่ถ้ามีความพร้อมที่จะมีลูกได้ ก็น่าจะมีความพร้อมในเรื่องการแบ่งเวลา หรือหาทางแก้ไขปัญหาเองได้โดยไม่เดือดร้อนคนอื่นค่ะ เราพิมพ์มาให้คุณคิดได้นะคะ ไม่ได้ต่อว่าอะไรคุณ และอยากให้เปิดใจให้กว้่างๆว่าคนอื่นเขาก็ต้องมีชีวิตของเขา ไม่ใช่ต้องมาช่วยเหลือแ่่ต่คุณ และให้คุณลองคิดถึงว่าที่ผ่านๆมาคุณได้ดูแล หรือช่วยเหลือแม่และพี่คุณบ้างหรือเปล่า จากคุณ : ไม่ได้ตามน้ำ (Cupid MOMO) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 18:05:46

ความคิดเห็นที่ 8 ตัวเองก็อยากสบายเหมือนกันไม่นั้นคงไม่มาบ่นในนี้ จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 18:40:53

ความคิดเห็นที่ 9 หลายคนที่คุณตาคุณยายไม่ได้อยู่ช่วยเลี้ยงหลาน เขาก้็เลี้ยงกันมาได้ หลายคนเป็นซิงเกิลมัมซิงเกิลเเด๊ด เขาก็เลี้ยงกันมาได้ ไม่มีส่วนไหนของการเป็นพ่อแม่คน ที่จะต้องกำหนดให้คุณตาคุณยายมาเลี้ยงหลาน รักที่จะมีลูก แต่ไม่อยากเอาเข้าเนิส ถ้าไม่มีพี่เลี้ยง ก็ต้องลาออกมาเลี้ยงค่ะ คุณตาคุณยายหรือพี่เลี้ยง ยังไงก็ไม่เหมือนพ่อแม่เลี้ยงเอง จะโทษพี่ จะโทษแม่ ยังไง ก็เเล้วแต่คุณเถอะค่ะ เขาก็เอาสบายเขา ส่วนคุณจะเอาสบายตัวเองและลูกยังไง ที่ไม่ต้องไปเดือดร้อนคนอื่น หรือพึ่งคนอื่นขนาดนั้น คุณโชคดีแค่ไหนแล้ว ที่ยังมีบ้าน มีคอนโด มีงานทำ หลายคนที่เขาไม่มีบ้าน ไม่มีงาน ไม่มีเงิน มองคนที่เขาด้อยกว่าสิค่ะ จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 19:03:02

ความคิดเห็นที่ 10 "เราน้อยใจแม่และพี่สาวสุดๆ ทำอะไร เอาแต่ตัวเองสบาย ใกล้ที่ทำงาน แล้วเราและลูกละ" จริงๆแล้ว แม่ก็จะเลี้ยงให้นี่คะ ก็ดีแล้ว ทำไมไม่ฝากแม่ไว้และคุณก็ขยันไปรับลูก ดีกว่าฝากเนอสอีกคะ ถ้ากังวลมากขนาดนั้น คุณมีปัญหาในเขตกรุงเทพ ไม่ไกลเลยคะ ขนาดเราต้องเอาลูกไปไว้ต่างจังหวัีด ไปเยี่ยมเดือนละครั้ง (ถ้ามีตังก็อยากไปเยี่ยมทุกวันหรืออาทิตย์เลยคะ) พี่สาวคุณก็พาแม่ไปอยู่ด้วยก็ถูกของเค้า เค้าหาที่อยู่ที่ปลอดภัยให้แม่อยู่ และจะได้ฝากเลี้ยงลูกด้วย แต่คุณ จขกท. เอาลูกไปไว้บ้านแม่ถึงเวลาก็มารับ มันต่างกันอ่ะ แถมอยู่คอนโดพี่เค้าก็ดูแลแม่ด้วย ถ้าให้ดี คุณก็เอาไปฝากแม่กับพี่ซะเลยสิ ไม่เห็นยากเลยคะ จริงๆ แล้วก็ไม่เห็นน่าน้อยใจเลยคะ คิดง่ายที่สุดก็แค่ ใครก็อยากสบาย แม้แต่คุณหรือเรา แล้วแม่ก็ไม่ได้ทอดทิ้งคุณด้วยนี่คะ ยังบอกให้เอาลูกมาให้เลี้ยงที่บ้านพี่สาวเลยนี่นา ใจเย็น ร่มๆ ดีกว่าเนาะ .... โอ๊ะ โอ๋ ไม่น้อยใจนะ  แค่ค่อยๆ คิด แต่ถ้าเป็นเรา จะทำอย่างที่แม่แนะนำ ฝากพี่สาวกับแม่เลี้ยงซะเลย...เหอะ เหอะ จากคุณ : kansakx_aj5 เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 21:13:13

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าคิดจะฝากเนอสแล้วเลิกงานเย็นก็ควรเอาลูกฝากเนอสแถวที่ทำงานคะ ไม่ใช่ใกล้บ้าน จากคุณ : tarntarn เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 22:51:46

ความคิดเห็นที่ 12 คิดเข้าข้างตัวเองหมดเลยเนอะ โลกไม่ได้หมุนรอบตัวคุณนะคะ ของคุณยังดีนะ ยังอยู่ในจังหวัดเดียวกัน ยังขอความช่วยเหลือ หรือย้ายตามได้ ของเราเหรอ แม่หนีไปอยู่กะพี่สาวเราที่เมืองนอกตั้งนานละ ไม่เคยได้มาช่วยเลี้ยงหลานหรอกค่ะ ก็ทำไงได้ ลูกเราเอง ดิ้นรนเองสิคะ แรกๆ เอาไปฝากบ้านย่า ไป-กลับ ต่อมาหาคนเลี้ยง ต่อมาเข้าเนอร์ส ก็ผ่านมาได้นะคะ ลูก 2 คนด้วย อยู่กันเอง 4 คน พ่อ-แม่ลกแ ครอบครัวเดี่ยวมีความสุขจะตาย แม่คุณเค้าคงเลือกทางที่สบายใจ มีความสุขสำรับเค้าแล้วล่ะค่ะ อย่าไปน้อยใจอะไรมากมายเลย จากคุณ : lekumi เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 01:03:02

ความคิดเห็นที่ 13 จขกท คะ ที่คนอื่นๆพูดมาน่ะ ถูกหมด ลูกคุณ คุณก็เลี้ยงเองสิคะ ถ้าคุณว่าพี่สาวคุณเอาแต่สบาย เราว่าคุณน่ะ ยิ่งกว่าอีก ห่วงสบายมากกว่าพี่สาวคุณอีก ในเมื่อไม่มีคนดูแลลูก คุณก็ลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกซะ ถ้าไม่ต้องการให้ไปเนิส ลูกตัวเอง มีปัญหาแก้เองค่ะ คอยแต่หวังพึ่งพี่สาว พึ่งพ่อแม่แบบนี้ เหมือนเด็กที่ยังไม่โตเลยนะคะ ขออภัยที่พูดแรงนะคะ เราอ่านแล้วหงุดหงิดแทนพี่สาวและพ่อแม่ของคุณค่ะ จากคุณ : wanvisa เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 55 11:57:52