ชีวิตเป็นของชั้นกับลูก .. สามีไม่อยากเกียวก็ถอยไป
|
 |
ช่วงนี้มีปสก.ครอบครัวมาแชร์กันเยอะมาก ตอนแรกก็ว่าจะอ่านเพียงอย่างเดียว แต่มาคิดๆดูเรื่องของเรามันก็คงเป็นอีกแนวทางให้คนอื่นศึกษาเหมือนกัน มันผ่านมาจะ 4 ปีล่ะ แต่..ยังพอนึกออกอยู่ ..
**********************************************
ชีวิตคู่เราเริ่มต้นไม่เหมือนอีกหลายๆคู่ เราเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่หลังจากที่รู้จักสามีไม่ถึง 5 เดือน เหตุผลง่ายๆ .. ประชดแฟนที่คบกันมา 12 ปี คนที่มีแฟนที่คบกันนานคงรู้สึกว่ามันไม่คืบหน้าไปไหน ยิ่งแฟนเก่าเราเป็นประเภทไม่มาหาเพราะต้องประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยแล้วมันเหมือนเราเป็นอะไรกันหว่า สุดท้ายเราถามตรงๆว่าจะยังไง 12 ปีผ่านมาแล้ว เราก็โตเป้นผู้ใหญ่มีงานทำแล้วน่าจะคืบหน้ากันได้ซะที เค้ากลับตอบว่ายังไม่พร้อม เค้ายังไม่มีงานมั่นคง ยังมีภาระที่บ้านอยู่ ถ้าเราเจอคนที่ใช่ คนที่พร้อมกว่าเค้าก็เข้าใจ .. โห..จุก ..
พอดีช่วงนั้นสามีเริ่มเข้ามาในชีวิต .. เข้ามาในสภาพที่บ้านเราไม่มีใครยอมรับ แต่เรารั้นไง .. สุดท้ายเราย้ายออกจากบ้านมาอยู่กับสามี แต่สามีเราเข้าไปกราบแม่เราก่อนแล้วนะ สิ่งที่บ้านเราไม่ยอมรับสามีเพราะได้ข่าวเค้ามีประวัติไม่ดี เจ้าชู้ หนีทหารตอนนั้นแม้แต่บัตรปชช.ยังไม่มีเลย ชอบตีเมีย (เรื่องทั้งหมดสามีเล่าให้เราฟังหมดแล้วก่อนที่เราจะตัดสินใจ)
ช่วง 5 ปีแรก ถือเป็นช่วงโปรโมชั่นชีวิตมีความสุข ผุ้ชายที่ใครๆว่าเจ้าชู้มากอยู่กับเราตลอด เช้าแยกกันไปทำงาน เย็นก็กลับมาอยู่บ้านด้วยกัน มีอะไรโทรบอกตลอด แต่ไม่โทรพร่ำเพรื่อเพราะเราเองก็ไม่ชอบให้ใครโทรจิก เราก็ไม่โทรจิกใคร เรียกว่า 5 ปีเรา 2 คนไม่เคยห่างกันยกเว้นตอนสามีบวช 7 วัน (ไม่รวมเวลาทำงานนะ) เรา 2 คนไม่เคยด่ากัน ไม่เคยพูดหยาบ ไม่เคยลงไม้ลงมือกัน เงินเดือนให้เราเก็บแล้วจ่ายเป็นรายวันไป จนครบ 4 ปีที่เรา 2 คนเริ่มคิดว่าอยากจะมีลูกกันสักที พอวางแผนว่าจะมีลูกเราก็ลาออกจากงานมารับงานทำที่บ้านแทน สามีก็ทำงานตามปกติ .. ตอนเราคลอดลูก .. เราก็อยู่กับสามีมาครบ 5 ปีพอดี
มองทางด้านครอบครัวสามี ทุกคนดีกับเรามาก มองเราเป็นคุณหนูพยายามช่วยทำงานบ้านให้หมด สมัยแรกๆที่อยู่ด้วยกันเราอยู่กับพ่อแม่สามี .. แม่สามีทั้งซักผ้า-รีดผ้าให้เรา ทำอาหารให้ หน้าหนาวเช้ามืดแม่สามีตื่นมาต้มน้ำให้เราอาบอีกด้วย .. โห ..ชีวิตคู่ชั้นทำไมมันแฮปปี้แบบนี้ จนเราย้ายไปอยู่กัน 2 คนที่คอนโดแม่สามียังบอกว่ผ้าถ้าซักไม่ไหวก็เอามาให้แม่ซัก ..สามีเล่าว่าแม่บอกว่าให้ช่วยเราทำงานบ้านด้วย ไม่มีใครจะเก่งทั้งงานนอกบ้านและในบ้านหรอก (เราเก่งงานนอกบ้านอ่ะ) สามีเราเก้บกวาดบ้านมากกว่าเราด้วยซ้ำไป ตอนเราท้องแก่ก็ส่งพี่สาวสามีมาช่วยทำงานบ้านให้
สามีเรามีลูกติดมา 1 คน แต่อยู่กับยายเค้าปิดเทอมถึงจะมาอยู่กับเรา .. ก็ไม่มีปัญหาอะไรเรากับลูกสาวเค้าสนิทกันดี สนิทมากกว่าแม่แท้ๆของเค้าอีก เรียกเราว่าแม่ทุกคำ แต่แม่แท้ๆเค้าเรียกพี่เพราะเค้าอยู่กับยายตั้งแต่เกิดเลยเรียกแม่ว่าพี่เรียกยายว่าแม่ .. ครั้งหนึ่งแม่แท้ๆของเค้ายกมือไหว้เรา..แล้วร้องไห้บอกว่าขอบคุณมากที่รักลูกสาวเค้า แถมบอกว่าอิจฉาเรามากที่ลูกเค้าเรียกเราว่าแม่ และรักเรามากด้วย ..
ตอนเราท้องแก่สามีก็ออกมาช่วยเราทำงานที่บ้าน .. ตอนนี้เราเริ่มวิตกแล้วว่าถ้าเราคลอดเราจะทำงานไหวมั้ย (ตอนนั้นเราทำกราฟฟิคและมีทีมทำป้ายโฆษณา) จนเราคลอดก็พอดีเป็นช่วงงานน้อย ช่างที่รับเหมาทำป้ายก็ย้ายไปทำที่อื่น .. แรกๆไม่มีปัญหาเพราะเงินเก่าที่วางบิลไว้ยังมีให้รับเรื่อยๆ
พอเราคลอดลูกก็สบายอีกแหล่ะ .. สามีรับดูลูกให้ช่วงกลางคืน ให้เราดูช่วงกลางวัน .. กลางวันลูกหลับอย่างเดียว แต่จะตื่นมาร้องกลางคืน .. สามีอยู่ช่วงกลางคืนอุ้มลูก กล่อมลูกทั้งคืนอีแม่มันหลับสบาย .. เช้ามืดลูกหลับสามีก้ล้างขวดนม ใส่หม้อนึ่งไว้ให้เรียบร้อย ..เราตื่นมาแค่เอาผ้าลงเครื่องแล้วตากเท่านั้นเอง ..สายๆสามีตื่นมาเอาลูกอาบน้ำเอง เพราะกลัวเราทำลูกตกจากมือ แม่เราเองยังบอกว่า สามีเราเลี้ยงลูกเก่งกว่าเราอีก ..
พอลูกสัก 2 เดือนกว่า สามีเริ่มคุยกับเราเรื่องค่าใช้จ่าย เค้ามีความคิดว่าจะออกไปทำงานและต้องเป็นงานที่รายได้ดีมากๆด้วยเพราะเค้าอยากให้เราเลี้ยงลูกอย่างเดียว พอดีว่าเค้าได้งานเป็นเซลล์แต่ต้องวิ่งตจว. เค้าก็บอกว่าให้เราอดทนหน่อยนะ เค้าจะรีบทำงานเก็บเงินให้เราให้ลูก .. โอ๊ย .. อยู่กันมา 5 ปีไม่เคยห่างกัน พอเค้าออกไปทำงานแรกๆทำไมมันเหงาอย่างนี้ .. เค้าก็โทรมาบ่นคิดถึงวันละหลายครั้ง .. เฮ่อ
นี่ล่ะ ..หายนะกำลังมาเยือน
| จากคุณ |
:
กุ้งอ้วน  
|
| เขียนเมื่อ |
:
23 ม.ค. 55 14:55:55
|
|
|
| 
