++... สาวๆจ๋า อ่านซักนิ๊ด [กระทู้เตือนใจ] ...++
|
 |
เนื่องจากนำไปโพสที่ห้องแป้งแล้วมีสาวๆแนะนำให้มาโพสที่ห้องนี้ด้วย เลยนำมาโพสให้ได้อ่านเตือนใจกันนะคะ
สาวๆจ๋า อ่านซักนิ๊ด [กระทู้เตือนใจ]
ที่เขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่ออยากจะเตือนใจสาวๆทั้งหลายที่มีแฟนแล้ว ทั้งที่แต่งงานแล้วหรือยังไม่แต่งงาน เนื่องจากเห็นกระทู้เตือนใจบ่อยๆ เลยฉุกคิดเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเล่าสู่กันฟัง
ก่อนอื่น ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เจ้าออยเคยเป็นผู้ช่วยแพทย์ทำงานที่คลีนิกหมอสูติ(ฝากท้อง ทำกิ๊ฟ ตรวจภายใน ปรึกษา ฯลฯ)อยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง อย่าพึ่งคิดว่าเจ้าออยเก่งจังทำเรื่องพวกนี้ได้ ขอออกตัวก่อนเลย เจ้าออยกลัวเลือดดดดดด เน้นๆๆ เลือดดดดดด กลัวมากกกกส์ กลัวแบบว่าเห็นแล้วเข่าอ่อนไปเลย แต่ไฉนถึงได้มาเป็นผู้ช่วยแพทย์ ก็...ช่างมันเถอะเน๊อะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
หน้าที่ของเจ้าออยนั้น ก่อนคลีนิกเปิดจะต้องไปเตรียมยาต่างๆสำหรับคุณแม่ที่จะมาฝากครรภ์ เช่น ยากันบาดทะยัก ยากันแท้ง วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูด เช็คอุปกรณ์ต่างๆ เตรียมหลอดฉีดยา ฯลฯ
คนไข้ที่จะมาหาหมอ ส่วนใหญ่หลักๆจะเป็นพวกคุณแม่ที่จะมาฝากท้อง หรือมาหาคุณหมอทุกเดือนเพื่อตรวจครรภ์ บางส่วนมาหาเพื่อขอคำแนะนำเรื่องทำกิ๊ฟ(คุณหมอท่านนี้ท่านเก่งเรื่องทำกิ๊ฟมากๆค่ะ และค่าใช้จ่ายก็แพงมากๆเช่นกัน ถ้าจำไม่ผิด ไม่เลือกเพศ2xx,xxx เลือกเพศ 4xx,xxx ถ้าไม่ติดก็ต้องทำใหม่อีก)
บางส่วนมาปรึกษาหรือรักษาเกี่ยวกับเรื่องของผู้หญิงเราๆ เช่น ตกขาวผิดปกติ คันบุ๋มบิ๋ม บุ๋มบิ๋มติดเชื้อ มีเลือดออกขณะตั้งครรภ์ ฯลฯ ซึ่งกลุ่มคนพวกนี้บางคนอาจจะต้องมีการตรวจภายในด้วย และจากข้อมูลที่น่าตกใจจากการทำประวัติของคนไข้ พบว่าบางคนเคยทำแท้งมากว่า4ครั้ง และพอปัจจุบันอยากมีบุตรแต่มียากจึงต้องมาปรึกษาหมอ (สาวๆจ๋า เวลาไปพบคุณหมอ ถ้าเค้าถามประวัติ อย่าอายที่จะตอบนะ เพราะมันเป็นผลเกี่ยวเนื่องกับเราโดยตรง)
เด็กบางคนเพิ่งอายุ 14ปี ท้องแปดเดือน แม่เจ้า!! เห็นแล้วหดหู่นะคะ นี่หรือสังคมไทยทุกวันนี้ แต่อย่างน้อยเด็กคนนี้เค้าก็ไม่ทำแท้ง ขอปรบมือให้ค่ะ นับถือจริงๆ
เอาหล่ะ เกริ่นไปเยอะมากแล้ว เข้าสู่เรื่องที่อยากจะบอกเล่าให้สาวๆได้ระวังตัวไว้
เนื่องจากมีผู้หญิงคนนึงมาพบคุณหมอเพราะพบว่ามีเลือดออกที่บุ๋มบิ๋มและเจ็บบุ๋มบิ๋มมาก ทั้งๆที่ประจำเดือนเพิ่งจะหมดไป คุณหมอเลยให้ตรวจภายใน สาวๆรู้ไหมว่าคุณหมอเจออะไร... ถุงยางค่ะ ถุงยางคาอยู่ที่บุ๋มบิ๋มของผู้หญิงคนนั้น คุณหมอจึงคีบออกมา ทั้งเลือด ทั้งกลิ่น อย่าให้พูดถึง พอตรวจเสร็จ คุณหมอจึงซักประวัติ ความว่า.. ผู้หญิงคนนี้มีอะไรกับแฟนโดยแฟนสวมถุงยางอนามัยพอเสร็จกิจถุงยางหลุดอยู่ข้างใน เนื่องจากเหตุผลอะไรไม่ทราบ แต่ว่าผู้ชายกลับไม่ยอมบอก แล้วผู้หญิงก็ไม่รู้สึกอะไรในตอนแรก แต่พอผ่านมาได้สองสามวัน กลับมีเลือดออกและเจ็บบุ๋มบิ๋มมากจึงได้มาตรวจ
สาวๆอย่าพึ่งนิ่งนอนใจ หรือคิดว่าถุงยางหลุดคาไว้เป็นไปได้จริงๆหรอ เป็นไปได้ค่ะ เพราะเมื่อผู้ชายเสร็จกิจแล้วยังแช่ทิ้งไว้ในกายสาวๆ พอเจ้าขุนทองเริ่มอ่อนตัวลงมันก็มีความเป็นไปได้ที่เวลาถอนออกมาจะออกมาแค่เจ้าขุนทอง มันอาจจะเป็นแค่ 1 ในร้อย หรือ 1 ในพัน หรือ 1ในหมื่น แต่ถ้าหากเกิดขึ้นกับตัวเองแล้วจะรู้ว่ามันทรมานขนาดไหน
เรื่องถัดมา มีผู้หญิงคนนึงมาฝากท้อง ซึ่งต้องเจาะเลือดตรวจ พอผลออกมาปรากฎว่าติดเชื้อ HIV เธอแทบช็อค เพราะกำลังท้องอยู่ เธอไม่เคยนอกใจแฟน และไว้ใจแฟนมาก แล้วตอนนี้เธอก็กำลังท้อง เธอจะทำอย่างไรดี สมัยนี้ถ้าคนแม่ติดเชื้อ แพทย์เค้ามีทางป้องกันไม่ให้ลูกในท้องติดเชื้อได้ค่ะ แต่โอกาสติดเชื้อก็ยังมีอยู่ ไม่ใช่ป้องกันได้ 100% และค่าใช้จ่ายสูงมากๆ
และมีผู้หญิงอีกคน ที่เรื่องคล้ายๆกัน คือ เธอออกอาการผิดปกติเลยมากตรวจ พบว่าติดเชื้อ HIV เช่นกัน บางคนร้องไห้ออกมาต่อหน้าคุณหมอเลยก็มี เธอเล่าว่า แฟนของเธอเป็นเซลล์ของบริษัทๆหนึ่งมีหน้าที่พาลูกค้าไปเที่ยวสังสรรค์ตามแต่ลูกค้า ซึ่งเงินค่าใช้จ่ายบริษัทก็จ่ายให้หมด เธอเองก็ไม่คิดว่าแฟนจะไม่ป้องกัน(แต่ถ้าคิดในฐานะคนรัก แฟนกันก็ไม่น่าจะทำเรื่องแบบนี้เลยด้วยซ้ำ) และแน่นอนลูกค้าพวกนี้ชอบไปเที่ยวอาบ อบ นวด หรือสถานที่ที่มีสาวๆ มาคอยบริการ และผู้ที่พาไปซึ่งก็คือแฟนของหญิงสาวคนนั้นก็ใช้บริการด้วย และคงอาจจะเผลอเรอไม่ป้องกันจึงนำโรคร้ายมาสู่ครอบครัว มาสู่หญิงสาวที่ซื่อสัตย์ หรือลูกน้อยก็เป็นได้
สาวๆรู้ไหมว่า... คนไข้ที่มา หาคนที่ติดเชื้อ HIV ได้ไม่อยากเลย นับวันคนที่ติดเชื้อมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น สำหรับคนที่มั่วถ้าติดเชื้อ คนอื่นอาจจะบอกว่าสมน้ำหน้า แต่สำหรับคนที่รักเดียวใจเดียว มีคนเดียวหล่ะ น่าสงสารแค่ไหน ผู้หญิงหลายๆคนเป็นแม่บ่าน เลี้ยงลูก คอยสามีกลับจากทำงาน แต่อยู่ดีๆกลับติดเชื้อ บางคนอยากตาย แต่นึกถึงลูก
ทำไมความเห็นแก่ตัวของคนๆนึง ถึงสร้างความอัปยศ ความเสียหายทั้งร่างกายและจิตใจได้ถึงขนาดนี้ คุณมั่วคนเดียวยังไม่พอ ยังจะพาโรคร้ายเข้าบ้านอีก อ่อ.. ส่วนมาผู้หญิงที่มาหาคุณหมอ และติดเชื้อ แฟนจะทำงานเป็นเซลล์ หรือพวกตำแหน่งติดต่อลูกค้าทั้งนั้น(วัดมาจากคลีนิกที่เจ้าออยทำ) แต่ไม่ใช่ว่าคนที่ทำตำแหน่งอื่นจะไม่ทำตัวแบบนี้นะคะ อันนี้โดยส่วนมาก ถ้ามีผู้หญิงมาหาคุณหมอ พอถามประวัติแล้วรู้ว่าแฟนทำงานที่เสี่ยงจะพาโรคเข้าบ้าน คุณหมอจะพูดตรงๆเลยค่ะ ว่า.. ในฐานะผู้ชายเหมือนกัน ขอให้อย่าไว้ใจแฟนเด็ดขาด บอกเขาว่าให้ป้องกัน อย่าพาโรคเข้าบ้าน คุณหมอจะแนะนำแบบตรงๆเลยค่ะ ฟังแล้วก็สะอึกๆเหมือนกัน
อันนี้เจ้าออยไม่ได้หมายถึงผู้ชายทุกคนนะคะ ผู้ชายดีๆไม่ใช่มีแค่ในนิยาย บนโลกเบี้ยวๆใบนี้ก็ยังมีอยู่ แต่...อยู่ที่ไหนไม่รู้(หากันเอาเอง เหอๆ)
การทำงานของเจ้าออยในแต่ละวันนั้นให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว อย่างบางคู่จูงมือกันมาฝากท้องดีใจ ยิ้มแย้ม ดูมีความสุขที่มีพยานรักตัวน้อย ดูแล้วมีความสุขจังค่ะ อยากมีบ้าง ไรบ้าง (มีลูกหรือมีสามีห๊ะไอ้เจ้าออย)555 พออายุครรภ์ได้ซักประมาณ5เดือนจะมีการอัลตร้าซาวว์(ถ้าพิมพ์ผิดขออภัยค่ะ) เจ้าออยก็จะออกไปเชิญคุณพ่อ(ถ้ามาด้วย)ให้เข้ามาดูด้วยกัน วินาทีที่เห็นอะไรกลมๆ รีๆ ขยุกขยิก ดิ้นไปดิ้นมานั่น ความรู้สึกปิติในใจเจ้าออยมันพรั่งพรูออกมา ขนาดเจ้าออยยังเป็นถึงขนาดนี้ แล้วคุณพ่อคุณแม่คู่นั้น จะไม่ปิติยินดีขนาดไหน คุณแม่บางคนน้ำตาไหล คุณพ่อตาแดงรื้นๆ สิ่งที่อยู่ในท้องคุณแม่ มันคือสิ่งมหัศจรรย์ จนไม่รู้จะกล่าวบรรยายออกมาได้ คุณแม่บางคนถึงกับขอให้คุณหมอปริ้นภาพของไอ้ตัวเล็กในท้อง แต่ขอระบุส่วน ดังตัวอย่าง การสนทนาต่อไปนี้
คุณแม่: คุณหมอคะขอรูปตรงปิกาจู๊ชัดๆหน่อยค่ะ ดิชั้นจะเอาไปให้ที่บ้านดู(เคยซาวว์และทราบผลว่าได้ลูกชายมาแล้ว)
คุณหมอ: ปิกาจู๊คืออะไรครับ แป่วววว!!
คุณแม่: ตรงไอ้จู๊อ่ะค่ะ เอาแค่ตรงนั้นชัดๆ (ขออภัยหากหยาบคาย 555)
เจ้าออย: โห่.. คุณหมออ่ะ ไรเนี่ยยย ไม่รู้จักปิกาจู๊
คุณหมอ: -_-"
แล้วไอ้ตัวเล็กก็ดันเป็นใจดิ้นไปดิ้นมาจนหมุนตัวมาโชว์ปิกาจู๊ชัดๆจนได้ 555
อ่อ... ที่ลืมไม่ได้ สาวๆจ๋า อยากให้ทุกคนไปฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ฉีด3เข็มทั้งชีวิต คุ้มค่ามากมาย เดี๋ยวนี้ผู้หญิงเป็นมะเร็วปากมดลูกกันเพิ่มขึ้น ฉะนั้นป้องกันตัวเองไว้ก่อนดีกว่ามาเสียใจทีหลังนะจ๊ะ
อีกเรื่อง การตรวจภายใน อย่าอายจนทำให้ไม่กล้าไปตรวจเลยค่ะ หากอายจริงๆ หาหมอผู้หญิงได้นะคะ (คุณหมอที่เจ้าออยเป็นผู้ช่วย เป็นนายแพทย์ค่ะ คุณหมอบอกว่าว่างๆมาตรวจสิ ราคาพิเศษ ไม่เอาอ่ะ เค้าอายยย เห็นกันอยู่ทุกวัน)
ถ้าตรวจภายใน จะทำให้รู้สุขภาพของมดลูด สามารถตรวจมะเร็ง เนื้องอก ซีสต์ (Cyst) อาการเบื้องต้นโดยส่วนมากคือ เมื่อประจำเดือนมา จะปวดท้องมากๆ ปวดจนทนไม่ไหว สาวๆหลายคนพึ่งยาแก้ปวด นั่นไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีเลย เพราะเมื่ออาการปวดหนักขนาดนี้อาจจะฟ้องถึงโรคร้าย เนื้องอก ซีสต์ ฯลฯ
เฮ๊ออ... เหนื่อยยย พิมพ์เยอะ แต่เอาฟร่ะ เพื่อสาวๆด้วยกัน เจ้าออยสู้ตายยยย
สุดท้าย เรื่องที่อยากจะเตือน คือ ให้กลับขึ้นไปอ่านใหม่อีกรอบ นั่นแหละค่ะ ที่เจ้าออยอยากจะย้ำ 555 (ฟิ๊วววว.. ตุ๊บ! เฮ๊ยยยยย ใครเฟี๊ยงไรมาฟร่ะ)
... คนที่ไว้ใจ สุดท้าย ร้ายที่สุด ...
ด้วยความปรารถนาดี
เจ้าออย
สาระ.. เรื่องวัคซีนมะเร็งปากมดลูก (อ้างอิงจากอากู๋)
-มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งอันอับ 2 ของมะเร็งสตรีทั่วโลก จะเป็นรองก็แต่มะเร็งเต้านมเท่านั้น แต่สำหรับเมืองไทย มะเร็งปากมดลูกกลับเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในบรรดามะเร็งของสตรี แต่ละปี มีคนไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่า 6,000 ราย ไวรัส HPV ติดต่อทางเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อ HPV เป็นได้ทั้งหญิงและชาย (ชายรักชาย) จะเรียกว่าเป็นมะเร็งที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ (sexually transmitted cancer) ก็ได้ ดังนั้นพฤติกรรมทางเพศจึงมีความสำคัญในการเกิดมะเร็งปากมดลูก
เมื่อไรจึงจะฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
-มีคำแนะนำจากองค์การอาหารและยาของอเมริกาแนะนำว่าให้เริ่มฉีดเมื่ออายุประมาณ 11-12 ปี แต่อาจจะฉีดเมื่ออายุ 9 ปีก็ได้ เนื่องจากเด็กในช่วงอายุดังกล่าวยังไม่มีการติดเชื้อ HPV และช่วงดังกล่าวเด็กจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างเต็มที่
-นอกจากนั้นยังแนะนำว่าว่าผู้ที่อายุตั้งแต่ 13-26 ที่ไม่เคยฉีดวัคซีน หรือฉีดไม่ครบควรจะได้รับการฉีดวัคซีนทุกคน
จะต้องฉีดกี่เข็ม
-ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ฉีดสามเข็มคือ เข็มที่สองและสามห่างจากเข็มแรกสองและสี่เดือนตามลำดับ ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิได้เต็มที่เพื่อป้องกันการติดเชื้อ HPV
ครั้งที่1ให้ฉีดตามที่กำหนด
ครั้งที่สองห่างจากครั้งแรก 1-2 เดือน
ครั้งที่ 3 ห่างจากเข็มแรกประมาณ 6 เดือน
สำหรับท่านที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจะป้องกันตัวเองอย่างไร
-การติดต่อของเชื้อ HPV ติดต่อโดยทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้นควรจะสวมถุงยางอนามัย และไม่ควรจะเปลี่ยนคู่นอน และงดการสูบบุหรี่
ราคาทั้งสามเข็ม ประมาณ 7xxx-9xxx บางที่อาจมีการแบ่งจ่ายได้ค่ะ
| จากคุณ |
:
เจ้าออย  
|
| เขียนเมื่อ |
:
27 ม.ค. 55 00:28:31
|
|
|
|
