Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ปัญหาเรื่องพ่อของลูกอีกแล้วค่ะ เราทำแบบนี้น่าจะดีที่สุดแล้ว ติดต่อทีมงาน

เนื่องด้วยความระอา ของเราที่เขาจะทิ้งก็ไม่ทิ้ง จะรับผิดชอบก็ไม่ทำ
พอเราถาม ขอคำตอบท่าทีที่ชัดเจนจากเขา เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมให้คำตอบจริงจัง

เราก็คิดว่าเขาคงยังตัดสินใจไม่ได้ เพราะเรื่องมันก็ใหญ่หนักหนาเอาการอยู่ คงต้องให้เวลาเขานิดนึง

จนเราคิดว่าเราให้เวลาเขามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ต้องยุติเสียที
ประกอบกับไปเห็นว่าเขาพาเด็กมหาวิทยาลัยไปเลี้ยงข้าวร้านอาหารแพงๆ อีก

สองสามวันก่อนก็เลยคุยแบบเปิดใจกับเขาไปเลย แบบไม่ให้โยกโย้ เลี่ยงไปไหนอีก

เราให้ทางเลือกเขาไปสามทาง
1. หย่าแล้วมารับผิดชอบเรากับลูกให้เต็มที่(เราไม่ได้ต้องการให้เขาหย่าหรอก แต่รู้ว่ามันจะมาบอกว่ารักอย่างโน้นอย่างนี้ เพื่อยื้อเวลา จึงยื่นคำขาดนี้ไปว่ารักก็มา)
2. ไม่ต้องหย่า เราไม่ได้ต้องการผู้ชายเห็นแก่ตัว ปลิ้นปล้อนมาเป็นสามี แต่ต้องบอกความจริงให้เมียรู้
และเขาก็ต้องเลิกยุ่งกับเรา เลิกมาพูดจาเหมือนเดิมๆ ติดต่อกันเฉพาะเรื่องลูกเท่านั้น  เขาจะได้มาหาลูกได้อย่างเปิดเผย จะรับลูกไปเที่ยว ไปค้างด้วยก็ได้ เพราะเราไม่อยากรู้สึกผิด เวลาที่เขาต้องโกหก ต้องแอบภรรยาเขาเพื่อมาหาลูก  ถึงจะรู้ดีแก่ใจว่าเราจบกับเขาไปแล้ว แต่พฤติกรรมหลบๆ ซ่อนๆ ของเขา เรารับไม่ได้ เราสงสารลูก เขาควรจะเติบโตอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่แอบ ไม่ใช่หลบอยู่ในมุมที่พ่อมันอยากให้อยู่
3. ไม่ต้องให้เมียรู้ ปิดมันอย่างนี้ตลอดไป  แล้วเขาก็ไม่ต้องเห็นหน้าลูกอีกแล้ว เลิกติดต่อ เลิกโทรหาเราด้วย ไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องอยากรู้ว่าเราสองคนแม่ลูกจะเป็นอย่างไร

เราเตรียมใจว่า ด้วยนิสัยเขา เขาต้องโมโห โวยวาย ทะเลาะกันใหญ่โตแน่
แต่ที่เราได้เห็นคือผู้ชายคนนี้มันร้องไห้
แล้วเขาก็บอกเราว่าขอโทษ ไม่ใช่เขาไม่อยากรับผิดชอบ
แต่เขาทำได้แค่นี้
เขาบอกภรรยาเขาแล้ว แต่ภรรยาเขาไม่เชื่อแล้วก็บอกว่าถ้ามันเป็นความจริงเขารับไม่ได้ จะฟ้องร้องให้ออกจากราชการ ฟ้องเรียกร้องเอาค่าเสียหายให้ถึงที่สุดด้วย
เขาก็เลยทำเป็นตลกกลบเกลื่อนภรรยาเขาว่าพูดเล่น
แล้วเขาก็บอกว่า ถ้าเขาต้องออกจากราชการ เขาจะไปทำมาหากินอะไรเลี้ยงลูก
ถ้าอยู่อย่างนี้ ถ้ามีเขาก็ช่วยซื้อนั่นนี่ให้เล็กๆ น้อยๆ ได้บ้าง
อีกหน่อยพอลูกเจ็ดขวบ เขาก็จะจดทะเบียนรับรองบุตร แล้วที่นี้ค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาล เราก็ใช้สิทธิ์เขาเบิกให้ลูกได้
แต่ถ้าเขาบอกภรรยาเขา เขาช่วยอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้จะไปทำอะไรกินด้วยซ้ำ
ทีนี้เราก็ต้องเลี้ยงคนเดียวจริงๆ เขาช่วยอะไรไม่ได้อีกแล้ว

พอเจอไม้นี้เราก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว คิดว่าถ้าคุยกันดีๆ ภรรยาเขาจะเข้าใจ เห็นแก่เด็กบ้าง
แต่ก็พูดยากนะ เป็นเราเราก็คงรับไม่ได้เหมือนกัน
ถึงเจาจะหลอกเรา แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราไม่ผิดต่อเขา

เราก็ย้อนเขา ว่าเขาไม่มีเงินมาเลี้ยงดูลูก แล้วที่ไปเลี้ยงเด็กมหา'ลัยล่ะ
เขาก็บอกว่าแค่พันเดียวเอง
เราก็ถามว่า พันเดียว นี่ค่านมลูกได้กี่กล่อง
เขาก็เงียบอีก
บอกว่าขอโทษ เขาจะไม่มีอีกแล้ว เขาแค่เครียดๆ เราก็ไม่ยอมมีอะไรกับเค้าแล้ว เขาก็เหงา ก็สนุกๆ ไปเท่านั้น
แต่เราไม่เหงาเลยใช่มั๊ย เราไม่เครียดใช่มั๊ย ต้องอยู่ตัวคนเดียว ไปไหนไม่ได้ ต้องเลี้ยงลูก เงินพอแค่ใช้จ่ายไปวันๆ
พาลูกไปฉีดวัคซีน ร้อนๆ ร้อน จะซื้อน้ำเย็นดื่มยังเสียดายต้องกลับมากินน้ำที่บ้าน

เขาก็ร้องไห้ บอกขอโทษ เขาไม่เคยรู้ว่าเราลำบากขนาดนี้ ทำไมไม่บอกเขา
เราจะบอกได้ยังไง ก็บอกแล้วว่าจบกันแล้ว ก็คือจบ

เขาก็เลยบอกว่า เขามันเลว เขามันชั่ว ต่อไปนี้เขาจะไม่มีเรื่องพวกนี้อีกแล้ว คิดแต่เรื่องลูกอย่างเดียว
เราก็เลยยกมือโมทนาสาธุไป ขอให้ทำได้ แต่ก็บอกว่าเขาจะไปทำอะไรก็เรื่องของเขา แต่ถ้าเมียเขาจับได้ อย่าให้เดือดร้อนถึงเรา
ทุกครั้งที่ควักเงินไปกับเรื่องพวกนี้ ก็ขอให้หน้าลูกมันลอยมาบ้างก็แล้วกัน

ทีนี้ทางออกมันก็เลยเหลือแค่ทางเดียว
คือ เขาจะไม่ได้เห็นหน้าลูกอีกต่อไป ตัดขาดกันไปเลย
ถ้าจะยังอยากจะรับรองบุตรให้อยู่ พอลูกเจ็ดขวบก็ติดต่อมาก็แล้วกัน
เราจะไม่ให้เจอ ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวแล้ว

เขาก็ต่อรองว่า ขอโทรมาถามข่าวบ้าง ส่งรูปให้เขาดูบ้างได้มั๊ย
เราก็เลยบอกว่า แล้วแต่หัวใจเรานะ ว่าจะทนได้แค่ไหน

เขาก็เอาแต่นั่งเงียบน้ำตาไหลอย่างเดียว

เขาบอกว่าตอนนี้เปิดแบงก์เก็บเงินไว้ให้ลูกใช้สำหรับอนาคตแล้ว ให้เราวางใจ
เขาอยากเป็นพ่อ ที่ได้กอด ได้อุ้มลูกเหมือนคนอื่นๆ  แต่ในเมื่อเราจะตัดโอกาสนั้นเขาแล้ว เขาก็ต้องยอมรับ
แต่ให้เราเชื่อ ว่าเขาจะไม่ทำตัวเหลวไหลอีกแล้ว

หลังจากที่โง่ให้เขาหลอกจนท้องกับเขาโดยที่ไม่รู้ว่าเขาแต่งงานแล้ว
ตอนนี้เขาไม่ได้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายอะไรของเรากับลูกเลย
แต่เราเลี้ยงลูกคนเดียวก็เหนื่อย ค่าใช้จ่ายไม่พอ
เขาก็เลยเอาไปให้แม่เขาช่วยเลี้ยงลูกให้
โดยที่เราย้ำชัดว่า อีก 1 ปี เราจะพร้อมในด้านฐานะการงาน และการเงินมากกว่านี้ แล้วเราจะไปรับลูกกลับมาเลี้ยงเอง
เพราะเรากลัวว่า แม่เขาจะไม่ยอมคืนลูกให้เรา เขาก็โอเค แล้วก็บอกว่า ไม่ต้องเครียดมาก จะให้เขาเลี้ยงนานแค่ไหนก็ได้ หลานชายคนแรกของบ้าน จะให้เขาเลี้ยงตลอดไป แล้วเราไปมีอนาคตใหม่ก็ได้
เราก็ย้ำไปอีกทีว่าอนาคตของเราต้องมีลูกอยู่ด้วย

ตอนนี้ก็หวังว่าจะตั้งตัวอยู่ลำพังกับลูกได้โดยไว จะตัดขาดจากครอบครัวบ้าๆ นี่เสียที
รักกันมากทั้งครอบครัว รวมหัวกันปกปิดแบบนี้ ไม่รู้จะเลี้ยงลูกเราโตมาเป็นเด็กแบบไหน

จากคุณ : Beloved Son_Chang
เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 55 16:21:45




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com