ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนจะเล่าขอบอกก่อนนะคะว่าเรารู้แค่อนุบาลแถวๆบ้าน อาจจะแตกต่างไปจากอนุบาลของเมืองอื่น ท่านใดมีข้อมูลของที่อื่นก็นำมาแชร์ที่กระทู้ได้ค่ะ ที่นี่ เด็กๆจะเข้าอนุบาลที่ไหนก็ได้ คือ มีอนุบาลแบบปกติ กับอนุบาลแบบไม่ปกติ คือให้เด็กๆเล่นในสนามบ้าง ในป่าบ้าง ไม่มีห้องเรียน ทุกวันเด็กๆจะได้ออกข้างนอกมากกว่าอยู่ในอาคาร แต่หน้าตาของ รร เป็นแบบไหนยังไม่เคยเห็น ชัดๆแค่เห็นผ่านๆ ตอนแรกคุณสามีก็บอกว่าน่าจะส่งเค้เร่ไปเรียนที่ อนุบาลป่าแบบนี้เพราะอาจทำให้เค้เร่สนุก แต่เราแย้งว่า สมบุกสมบันแบบนั้นไม่เหมาะกับลูกสาวเราแน่ๆ ( อิชั้นคิดผิดไปมากๆ) อนุบาลที่นี่ตอนแรกจะรับเด็กตั้งแต่สามขวบขึ้นไป พอปีแรกที่เค้เร่เข้า ทาง รร มีนโยบายใหม่ว่า สามารถเริ่มรับเด็กได้ตั้งแต่สองขวบขึ้นไปก็เลยมีเด็กเยอะนิดหนึ่ง ปกติจะมีแค่ 70 -80 คนเท่านั้น ปีการศึกษาของที่นี่จะเริ่มประมาณกลางเดือนกันยายนของทุกปี  และที่ รร อนุบาลผู้ปกครองสามารถนำเด็กมาเข้าได้ตลอดปีไม่ต้องรอเดือนกันยายน  เค้เร่เริ่มเข้าอนุบาลตอนเดือนมิถุนายนค่ะ มีคนบอกว่า ช่วงแรกที่เด็กๆต้องไปอนุบาล ผู้ปกครองต้องไปนั่งเฝ้าลูกๆ บางคนนั่งเฝ้าเป็นเดือนๆ  เด็กบางคนร้องไห้ทุกครั้งที่ผู้ปกครองกลับบ้าน ตอนนั้นฟังแล้วกลุ้ม เพราะไม่รู้ว่า เค้เร่จะเป็นแบบไหน   เลยต้องสร้างแรงบันดาลใจให้กับเค้เร่ซะหน่อย   คือแถวบ้านจะมีรถรับส่งเด็กๆไป รร และอนุบาล เราก็พาเค้เร่ออกไปเดินเล่นช่วงสิบเอ็ดโมงกว่าๆ แล้วพาเดินกลับบ้านในช่วงที่ รถ รร มาส่งเด็กๆที่ป้ายรถเมล์ แล้วเค้เร่ก็จะเห็นเด็กๆวิ่งลงจากรถมาเล่น มาทักทายเค้เร่   เราทำแบบนี้ตลอดช่วงฤดูร้อน จนเค้เร่สงสัยว่า  ทำไมเด็กคนอื่นๆได้ขึ้นรถ รร  บางวันมีของเล่นติดไม้ติดมือกลับบ้าน  พอเราอธิบายว่า  เด็กๆเมื่อครบสามขวบจะได้เข้า อนุบาล และเด็กที่เข้าอนุบาลจะได้ไปกับรถ รร   แล้วเค้เร่ก็มีความใฝ่ฝันที่จะนั่ง รถ รร  เฝ้าถามทุกเวลาที่นึกขึ้นได้ว่า เมื่อไหร่เค้เร่จะสามขวบค่ะ  เค้เร่อยากขึ้นรถ รร ( ไม่ได้อยากไปอนุบาลหรอกน่ะ) เมื่อถึงวันที่เค้เร่ได้ไปอนุบาลวันแรก พวกเราตื่นเต้นกันทั้งบ้าน ( มีกันแค่สามคนพ่อแม่ลูก) จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 03:38:24

ความคิดเห็นที่ 2 วันแรกเราไปส่งเค้เร่และรอรับกลับเพราะกลัวเค้เร่จะร้อง ตลอดเวลาที่เฝ้าดู ก็เห็นเค้เร่เล่นสนุกสนานกับเพื่อน เพราะส่วนหนึ่งเค้เร่รู้จักกันบ้างแล้ว และเค้เร่ก็ได้อยู่กลุ่มที่เค้เร่คุ้นๆทั้งนั้นเลยทำให้เค้เร่ไม่ร้อง ที่อนุบาลนี้ปีแรกที่เค้เร่เข้า  เขาแบ่งเด็กๆออกเป็นกลุ่มๆคละอายุกันไป ตั้งแต่ 3-6 ขวบ มีทั้งหมดสี่กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีชื่อต่างๆ เค้เร่อยู่กลุ่ม ตั๊กแตน   วันแรกผ่านไปด้วยดี เค้เร่คุยสนุกสนานและมีคำถามจากเค้เร่ว่า “ เค้เร่เข้าอนุบาลแล้ว ทำไมไม่ได้ขึ้นรถ รร หล่ะคะ” พอวันที่สองเค้เร่เดินมาบอกว่า “คุณแมไม่ต้องรอ วันนี้เค้เร่อยากกลับรถ รร กับเพื่อนๆค่ะ เราก็ไม่ได้รอรับเค้เร่กลับทั้งที่ใจก็เป็นห่วง เมื่อเค้เร่กลับบ้านด้วยหน้าตาสดชื่น ก็ทำให้เราเบาใจว่า การเข้าอนุบาลของเค้เร่ไม่มีปัญหา เราก็คุยกันเค้เร่ทุกครั้งที่กลับมาว่า  วันนี้หนูทำอะไรบ้างค่ะ ผ่านไปได้หนึ่งสัปดาห์ (เรื่องนี้เคยโพสแล้ว ขอเล่าซ้ำนะคะ) เค้เร่เล่าเรื่องเพื่อนๆผู้หญิงว่า โดนเด็กชายมาเซลแกล้งทำให้ตกใจบ้าง ทำให้กรี๊ดบ้าง เป็นประจำ เราก็เลยถามว่า  แล้วเค้เร่กลัวหรือตกใจบ้างไหม?   เค้เร่บอก ไม่กลัวค่ะ  (กำลังนึกชมว่าลูกเก่ง ..เค้เร่ก็พูดต่อว่า ) เพราะเค้เร่มีไม้ พอมาเซลจะแกล้งเค้เร่ก็เอาไม้ไล่ตีเขาค่ะ เราก็.. หือ.. ( ตายหละ ลูกชั้น)     ขอบอกก่อนนะคะว่าที่เค้เร่ไม่ค่อยกลัวเด็กๆผู้ชายเพราะว่า เค้เร่มีเพื่อนเล่นตั้งแต่ก่อนเข้าอนุบาล(ลูกเพื่อนคุณสามี) ส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้ชายและอายุมากกว่าเค้เร่ทั้งนั้นและเค้เร่เองก็ชอบที่จะเล่นกับเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง จำได้ว่า2-3เดือนแรกที่เข้าอนุบาล คุณครูบอกว่า เค้เร่จะเล่นกับเด็กผู้ชายมากกว่า ทั้งวิ่งไล่จับ ทั้งเล่นรถ ตอนนั้นได้ฟังก็หวั่นๆ กลัวลูกเป็นทอมอ่ะ เคยถามเค้เร่เวลาที่กลับบ้านว่า วันนี้หนูทำอะไรบ้าง   เขาก็จะเล่าว่า  วันนี้เล่นอะไรกับใคร พอถามว่าทำไมไม่ค่อยเล่นกับเพื่อนผู้หญิง ก็จะได้ความว่า เค้เร่  “ เค้เร่ไม่อยากเล่นค่ะ“ เรา  “ทำไมล่ะคะ” เค้เร่  “ ก็เขาเล่น พ่อแม่ลูกกัน แล้วพอเค้เร่ไปเล่นด้วย เค้เร่จะได้เล่นเป็นลูกทุกทีเลย  เค้เร่อยากเล่นเป็นแม่หรือพ่อบ้าง แต่ทุกคนก็จะบอกว่า เค้เร่เล็กที่สุดต้องเล่นเป็นลูกเท่านั้นค่ะ” นี่เป็นปัญหาใหญ่ของเค้เร่เลย (ตอนนั้นในกลุ่มที่เค้เร่อยู่  เค้เร่เป็นเด็กคนเดียวที่อายุน้อยสุด) เค้เร่ต้องเล่นเป็นลูกอยู่เกือบปีถึงได้มีเด็กที่อายุน้อยกว่ามาเข้ากลุ่ม . . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 03:44:28

ความคิดเห็นที่ 3 มาดูภายในอาคารของ อนุบาลบ้างนะคะ   อนุบาลของเค้เร่เป็นอนุบาลเล็กๆประจำหมู่บ้านมีอาคารเดียว ตั้งใกล้กับ รร ประถมของหมู่บ้าน ภายในอาคารมีทั้งหมด 7 ห้อง แต่ละห้องจะมีของให้เด็กๆได้เลือกเล่น เช่น ห้องนี้เป็นห้องระบายสี  ใครอยากวาดรูป  ตัดกระดาษต้องมาที่ห้องนี้ค่ะ . . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 03:47:21

ความคิดเห็นที่ 4 จำได้ว่าช่วงแรกๆที่เค้เร่เข้าอนุบาล เวลากลับมาบ้านเค้เร่จะชอบนั่งตัดกระดาษมากกกก ถ้าเค้เร่จับกรรไกร เราต้องรีบหากระดาษมาให้คุณเธอทันที มิเช่นนั้นคุณเธอจะตัดทุกอย่างที่คุณเธออยากตัด  ผมตุ๊กตาคุณเธอก็ตัดซะแหว่ง . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 03:49:52

ความคิดเห็นที่ 5 อีกซักห้องหนึ่งนะคะ อันนี้เป็นห้องแต่งตัวเล่นละครสำหรับเด็กๆ  ใครอยากเป็นเจ้าหญิง เป็นอัศวิน ก็มาใส่ชุดเล่นได้ที่ห้องนี้ น่าจะเรียกว่าห้องสร้างจินตนาการของเด็กๆนะ  แต่บางครั้งก็แอบเห็นคุณครูก็แต่งชุดเจ้าหญิงกับเขาด้วย จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 03:53:04

ความคิดเห็นที่ 6 ที่ห้องแต่งตัวบางครั้งคุณครูก็จะแต่งหน้าให้เด็กๆด้วย  แต่งหน้าแบบแฟนตาซี ตอนแรกเราไม่รู้ว่าเขามีแต่งหน้าให้เด็กๆ มารู้ตอนที่เค้เร่กลับมาบ้านแล้วเราเห็นหน้าเค้เร่เป็นแบบนี้ค่ะ . . อากาศร้อนๆหน้าเลยเยิ้มเลย . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 03:55:27

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วก็มีห้องออกกำลังกาย หรือเต้นรำ  ห้องพักผ่อน  ห้องทานอาหาร ห้องนักประดิษฐ์ ( ไม่มีรูปนะคะ) หลายๆคนอ่านแล้วอาจจะคิดว่า  แล้วเด็กๆไม่ได้เรียนอะไรเลยเหรอ เพราะแต่ละห้องมีแต่ของให้เด็กๆได้เล่นซะส่วนใหญ่ ใช่แล้วค่ะ อนุบาลที่เค้เร่เข้านี่ เขาเน้นให้เด็กๆปรับตัวเข้ากับสังคมให้ได้ก่อน   อย่างวัยสามขวบแบบเค้เร่จะเน้นเล่น วาดรูประบายสีเรื่อยเปลื่อย ตามใจเด็กว่าอยากทำ อยากเล่นอะไร ตอนนั้นเค้เร่เองก็ชอบวาดรูปมาก กระดาษหมดไปเป็นลีมๆเลย . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 03:58:48

ความคิดเห็นที่ 8 แวะมาแจกกิฟท์ให้สาวน้อยเค้เร่คนน่ารักกกกกกกก ก่อนนอนจ้า จากคุณ : อิคคิวซัง (mamma och patrick) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 04:04:08

ความคิดเห็นที่ 9 ผ่านไปหนึ่งปี มีการประเมินผลของเค้เร่ (การประเมินผลของอนุบาลมีเดือนมกราคม ประเมินผลเค้เร่ถือว่าไม่ครบปี) จากการที่ได้คุยกับคุณครูพี่เลี้ยงๆ บอกว่า   เค้เร่เป็นเด็กที่เข้ากับเพื่อนได้ง่าย เล่นกับใครได้หมดทั้งหญิงชาย เรียกว่าสอบผ่าน  ได้เลือนชั้นขึ้นปีสอง เย้ๆ ง่ายเน้อ ไม่มีหัดเขียนหัดอ่าน มีแต่ร้องเพลง เค้เร่มีเพลงใหม่ๆกลับมาร้องให้คุณพ่อคุณแม่ฟังเกือบทุกวัน   อ้อ..และมีกระดาษที่เค้เร่ขีดๆเขียนๆจากอนุบาลกลับมาฝากเกือบทุกวันเหมือนกัน ส่งท้ายปีแรกเค้เร่ได้เป็นตัวแทนกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมของอนุบาล ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่ออกมาร้องเพลง   ต่อรูปจิ๊กซอ  กระโดดก้าวสลับยืนขาเดียว โชว์ผลงานวาดรูป   อะไรแสนจะง่ายปานนั้นเน๊อะ . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 04:04:57

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วยังมีกิจกรรมหลายๆอย่าง ให้เด็กๆได้ร่วมกันทำไม่ว่าอากาศจะหนาวหรือร้อน อย่างช่วงเดือนกุมภาฯแบบนี้อากาศที่นี่จะหนาวมากแต่ก็จะมีกิจกรรมหนึ่งที่เด็กๆชอบก็คือ ขบวนแห่แฟนซีของเด็กๆ โดยจะเดินขบวนกันหนึ่งรอบหมู่บ้าน ( เห็นแล้วนึกถึงขบวนแห่เทียนพรรษาสมัยเรียน รร วัดเลยอ่ะ ) . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 04:07:28

ความคิดเห็นที่ 11 ช่วงที่อากาศดีๆที่อนุบาลนี้ก็มีกิจกรรมที่สนามนอกอาคารเหมือนกันนะคะ กิจกรรมที่เด็กๆได้ทำก็ง่ายๆคือเด็กๆทุกคนจะได้ออกมาร้องเพลงตามกลุ่ม  ปีสองของเค้เร่ที่อนุบาลได้เปลี่ยนกลุ่ม จากที่อยู่ตามกลุ่มตั๊กแตน   ก็เปลี่ยนมาเป็นแบ่งกลุ่มตามอายุเช่น เด็กสามขวบก็อยู่กลุ่มสามขวบเรียกว่ากลุ่มเล็ก   ส่วนเค้เร่สี่ขวบก็อยู่กลุ่มกลาง เอ้า เด็กๆเข้าแถวเตรียมร้องเพลงจ้า การแสดงแบบนี้ไม่มีเวทีค่ะ . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 04:11:23

ความคิดเห็นที่ 12 ที่สนามก็จะมีการตั้งโต๊ะเพื่อให้ผู้ปกครองมานั่งดูการแสดงและมีการขายเครื่องดื่มกับขนมปัง ขนมเค้ก เพื่อสมทบเงินเข้าอุนบาล พวกขนมเค้กต่างๆก็ได้จากผู้ปกครองที่ทำไปให้อนุบาลนะแหละคะ และที่อีกด้านของสนามก็จะตั้งซุ้มต่างๆให้เด็กได้เล่น ได้ทดลอง  ( นึกถึงงานวันเด็กที่บ้านเราเลย ) . . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 04:15:37

ความคิดเห็นที่ 13 อ่านแล้วตื่นเต้นค่ะ ลูกสาวกำลังจะเข้าอนุบาลเดือนหน้า (ที่เยอรมันเหมือนกัน) อยู่กลุ่มกบค่ะ ตอนแรกอ่านแพลนว่าจันทร์ ถึง ศุกร์ทำอะไรบ้าง เห็นแล้วต้องอมยิ้มทันที เพราะไม่มีเรียนอะไรเลย เน้น เล่น เล่น และก้อออกกำลังกาย แถมบอกให้เตรียมชุดกันฝนไปอีก ฝนตกก้อจะพาออกไปลุย ปล. ตอนนี้ทำเหมือนคุณ จขกท. เหมือนกัน พาไปให้เห็นเด็กอนุบาลคนอื่นบ่อย ๆ จะได้อยากเข้าบ้าง จากคุณ : ดีใจที่เกิดเป็นคนไทย เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 04:17:34

ความคิดเห็นที่ 14 อ้อ ลืมบอกไปว่า ที่อนุบาลนี้เขาให้เด็กๆได้จัดงานวันเกิดที่อนุบาลด้วย  ปีแรกที่เค้เร่จัดวันเกิดเด็กๆยังรวมกลุ่มตั๊กแตน และคละอายุกัน มีเด็กทั้งกลุ่มประมาณ 15-17 คน   การจัดงานวันเกิดผู้ปกครองของเด็กที่เกิดจะต้องนำขนมและเครื่องดื่มไปให้เพียงพอกับเด็กทั้งกลุ่ม (แต่พอปีสองของเค้เร่ ที่อนุบาลก็เปลี่ยนเป็นให้เด็กเจ้าของวันเกิดชวนเพื่อนมากินขนมได้แค่ 8คน คิดว่า อาจมีผู้ปกครองบางคนร้องเรียนไปว่า เด็กเยอะเกินและคงเปลื่องด้วยมั๊ง ) ปีแรกของเค้เร่ เราทำขนมไม่เป็นค่ะ  ต้องไปสั่งซื้อจากร้านขนมเป็นโดนัทที่เค้เร่อยากกิน . . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 04:18:37

ความคิดเห็นที่ 15 แล้วคุณครูก็จะจัดเก้าอี้เป็นวงกลมให้เด็กๆนั่ง  งานนี้เจ้าของวันเกิดสามารถเพื่อนให้มานั่งข้างๆได้   ปกติเด็กผู้หญิงเขาจะเลือกเด็กผู้หญิงด้วยกันมานั่งข้างๆ แต่อย่างที่บอก ปีแรกของเค้เร่ๆ ค่อนข้างจะสับสนกับเพศของตัวเอง อย่างบางวันคุณแม่จะให้นุ่งกระโปรงไปอนุบาล เธอก็จะโอดครวญว่า เธอปีนป่ายได้ไม่ถนัดบ้าง  กระโปรงไม่สวยบ้าง   . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 04:21:00

ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อนั่งเป็นวงกลมเรียบร้อยก็จะมีร้องเพลงวันเกิด เป่าเทียน แกะของขวัญจากคุณครู แล้วเด็กๆทุกคนก็จะลุกขึ้นมาจับมืออวยพรเจ้าของวันเกิดเป็นอันเสร็จพิธี แล้วเด็กๆก็จะได้มานั่งโต๊ะกินขนมกัน ถ้ามีการจัดการวันเกิดแบบนี้  เด็กๆแทบไม่ได้ไปเล่นที่อื่นเลยนอกจากจับกลุ่ม รอจัดงานและกินขนมกันเท่านั้นเอง . . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 04:24:40

ความคิดเห็นที่ 17 ปีสองนี่ เค้เร่ยังคงมีผลงานกลับมาฝากคุณพ่อคุณแม่เกือบทุกวันเหมือนกัน แต่ฝีมือพัฒนาขึ้น จากที่วาดรูประบายสี อะไรก็ไม่รู๊ ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น วาดคนมีแขนขา มีดอกไม้ มพระอาทิตย์ ระบายสีก็ไม่เลยขอบ ผลการประเมินปีสองของเค้เร่ นับเลข 1-17  หลักจากนั้นคุณครูไม่รู้ว่า เค้เร่พูดอะไร บางครั้งก็พูด  22  แล้วก็กระโดดไป 34 เราได้ฟังแล้วก็ยิ้ม เพราะเรารู้ว่า เค้เร่นับเลขแบบเยอรมันผสมไทยสลับกันไป การวาดรูป การลากเส้นไปจุดต่างๆเค้เร่ก็ทำได้ดีขึ้น และเค้เร่เขียนอักษรและตัวเลขได้เยอะ และปีสองนี้จะมีคุณหมอด้านพัฒนาการเด็กมาร่วมทดสอบความสามารถเด็กด้วยเพราะว่า เด็กที่จะอายุครบห้าขวบ จะต้องเข้าเรียนเตรียมประถม  การประเมินผลของคุณหมอเด็กจะมีเดือนพฤษภาคมของทุกปี การทดสอบของคุณหมอ ( เราจำไม่ได้ทั้งหมด แค่คราวๆนะคะ) ก็จะมีเรื่องการฟัง โดยให้เด็กฟังจากหูฟังแล้วบอกเด็กว่าถ้าได้ยินคำว่า .. ให้กดที่กริ่งหนึ่งครั้ง การเรียงลำดับของขนาด เล็กไปหาใหญ่   ทดสอบการลำดับความคิด การลากเส้นตามจุด  และการวาดรูปสามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม  ทดสอบการใช้มือของเด็ก ทดสอบการพูด โดยอ่านให้เด็กฟังแล้วให้เด็กพูดตาม เน้นการพูดชัด เน้นอักขระ ผลการทดสอบเค้เร่สอบผ่านหมด  เย้ๆ  ขนาดนับเลขได้แค่ 17 ยังให้ผ่านเลย . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 04:31:38

ความคิดเห็นที่ 18 นอกเรื่องหน่อยนะคะ   เมื่อกันยาปีที่แล้วมีคนวาดรูปม้าให้เค้เร่ พอเค้เร่เห็นก็เกิดอยากจะวาดม้าบ้าง คุณเธอก็เตรียมกระดาษดินสอมาแล้วตั้งอกตั้งใจวาดมาก ผ่านไปสักพักเค้เร่ก็เดินมาหาเราพร้อมกับกระดาษในมือแล้วพูดว่า “ คุณแม่ค่ะ เค้เร่วาดแต่สนามหญ้านะคะ  เพราะว่าม้ามันยังไม่มา  มันไปวิ่งเล่นก่อน “   แล้วยื่นกระดาษพร้อมระบายสีเขียวๆกับสีดำๆ(ดูร่างๆก็รู้ว่า เค้เร่พยายามวาดม้าแต่คงวาดไม่ได้ เลยระบายสีดำๆทับไว้) แล้วหลังจากนั้นอีกสองวันเค้เร่ก็บอก “ คุณแม่วันนี้ม้ามันมาแล้ว  เค้เร่กำลังขี่ม้าค่ะ “ . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 04:35:32

ความคิดเห็นที่ 19 เดือนกันยายนปีที่แล้ว เค้เร่ได้เริ่มเข้าเรียนเตรียมประถม สัปดาห์ละสองวัน วันละ 45 นาที (น้อยเน๊อะ) จากที่ได้ถามเค้เร่ว่า ได้เรียนอะไรบ้าง ก็ได้คำตอบว่า “ วันนี้เราท่องคาถากันค่ะ “ แล้วทำมือหมุนเป็นวงกลมพร้อมท่องคาถา วันถัดไปก็เป็นรูปสามเหลี่ยม   ถัดไปก็สี่เหลี่ยม  ท่องคาถาแล้วก็ขีดๆเท่านี้เองไม่ได้สอนอะไรเลย บางวันก็ไปเรียนกับเด็กประถม ถามแล้วได้ความว่า  ไปร้องเพลงและวาดรูป จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 04:38:48

ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเพิ่งประเมินผลเค้เร่ปีสุดท้าย  ก็ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นปีนี้เค้เร่ได้ขึ้นชั้นประถมแน่ๆ เย้ๆๆ   การเข้าอนุบาลที่นี่ ไม่ได้เน้นการเรียนอย่างที่ได้เล่าคร่าวๆไปแล้ว   แล้วเด็กๆได้อะไรบ้าง ดูจากเค้เร่สิ่งที่ได้อย่างแรกคือ การปรับตัวเข้ากับเพื่อน การยอมรับเงื่อนไขต่างๆ(มีบ้างที่ยังดื้อๆรั้นๆ) ทำไมอนุบาลไม่เน้นการเรียน การสอน เพราะเขาเริ่มสอนกันจริงๆจังๆตอนประถม ถ้าเด็กวัยอนุบาลสามารถอ่านออก เขียนได้พอขึ้นประถมเด็กจะไม่สนใจเรียน เพราะเด็กรู้หมดแล้ว เด็กๆวัยอนุบาลก็แค่เน้น ทักษะการใช้มือในการจับดินสอ   หรืออาจเรียกง่ายๆว่า อนุบาลที่นี่ ฝึกทักษะการใช้กล้ามเนื้อของเด็กให้มีพัฒนาการตามวัย การฝึกเด็กๆวาดรูปคน เพื่อฝึกให้เด็กจัดเรียงความคิดให้เป็นระบบ โดยเริ่มจากร่างกายเพราะเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุด โดยเด็กๆต้องวาดรูปคนให้ครบตั้งแต่หัวจรดเท้า (ไม่ได้เน้นสวยหรือต้องเหมือน แค่เน้นว่าต้องครบองค์ประกอบของคน) บางครั้งก็มีร้องเพลงประกอบ  " มีสองตา สองมือ สองขา " ประมาณนี้ การพูดที่ถูกอักขระ เน้นร้องเพลง การที่ปล่อยให้เด็กๆได้ระบายสีเป็นการสร้างจินตการอย่างหนึ่งให้กับเด็ก ส่วนการเรียนเตรียมขึ้นชั้นประถม ทำไมถึงเรียนท่องคาถาแล้วขีดวงกลม สามเหลี่ยมสี่เหลี่ยมนั้น เป็นการฝึกทักษะอีกอย่างหนึ่งให้เด็กคือ   เด็กจะต้องเขียนวงกลมได้กลม โดยวนได้ถูกต้องจากซ้ายไปขวา เวลาเขียนสามเหลี่ยมก็ต้องให้เป็นเหลี่ยมจริงๆ ไม่มีมุมมนๆ และการเขียนไปท่องคาถาไปก็เป็นการฝึกทักษะพูดให้สัมพันธ์กับมือที่เขียน ที่นี่เน้นให้เด็กเขียนชื่อและนามสกุลให้ได้เท่านั้น ไม่เน้นหลักสูตรเครียดๆมั๊ง เด็กๆเลยได้เรียนไปเล่นไป สนุกไปอีกแบบ จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 04:44:33

ความคิดเห็นที่ 21 อยู่บ้านเค้เร่ชอบที่วาดรูปมาก เราเก็บกระดาษจากผลงานของเค้เร่ตั้งแต่เข้าอนุบาลจนถึงวันนี้ เกือบหนึ่งลังแล้ว ( คาดว่าเมื่อไหร่ที่เค้เร่เป็นใหญ่เป็นโตจะนำไปประมูล เลียนแบบเวนโก๊ะ ) เมื่อวันศุกร์เค้เร่ก็เกิดอารมณ์ศิลปินอยากวาดรูปโลมา ก็หยิบกระดาษดินสอมาวาดๆ พอเราเดินไปดูเค้เร่ก็บอก เค้เร่ “ คุณแม่ตอนนี้โลมายังไม่มานะคะ มันมีคลืนใหญ่มาก ต้องรอนิดหนึ่งค่ะ” ( มุขเดิมค่ะ จะวาดโลมาแล้ววาดไม่ได้เลยวาดคลืนแทน ) ว่าแล้วเค้เร่ก็พยายามวาดโลมาต่อ แล้วชวนเราคุย เค้เร่ “ คุณแม่โลมามันพุงใหญ่นิดหนึ่งนะคะ มันเพิ่งกินอิ่มๆ ”    ( วาดช่วงท้องย้อยมากและปากก็ยื่นเกินไปนิดหนึ่ง) เรา “ อืม เป็นธรรมดาลูก หลังกินอิ่มพุงก็ใหญ่ทั้งนั้นแหละ”   พอถึงตอนวาดคลีบมันแหลมๆตั้งๆเค้เร่ก็บอกว่า  “ มันเหมือนฉลามเลยแต่มันไม่ใช่นะคะคุณแม่  มันกำลังตกใจก็เลยตรงๆ “ เรา  “ โอเค “ ( ถ้าลูกกำลังวาดหรือทำอะไรเพลินๆ อย่าไปขัดให้เสียจังหวะนะคะ ถึงแม้คุณจะขำในเรื่องนั้นๆก็ตาม ) แล้วเค้เร่ก็พยายามวาดรูปต่อไป . . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 04:49:41

ความคิดเห็นที่ 22 เค้เร่ใช้เวลาวาดโลมาประมาณ ชั่วโมงนิดๆ   สิ่งที่เราเห็นก็คือ เค้เร่มีความอดทนและพยายามจะทำให้สำเร็จ  ถึงแม้รูปที่วาดออกมาไม่เหมือนกับต้นแบบก็ตาม . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 04:51:24

ความคิดเห็นที่ 23 เรายอมรับนะคะว่า ช่วงก่อนเค้เร่เข้าอนุบาลและช่วงเข้าอนุบาลใหม่ๆ เราค่อยข้างบังคับให้เค้เร่หัดเรียนเขียนอ่านที่บ้าน เพราะตอนนั้นเรายังไม่ค่อยเข้าใจในระบบการเรียนการสอนแบบนี้ ประกอบกับเพื่อนที่รู้จักบอกว่า อนุบาลที่นี่ครูไม่ค่อยสอนเด็กๆเราเลยแอบเครียด กลัวลูกเรียนได้ไม่ดี ยิ่งพอกลับเมืองไทยไปเจอหลานที่บ้านเข้าอนุบาลเหมือนเค้เร่เลย  แต่หลานอ่านท่อง ก.ไก่ ได้จนจบ  เลขก็นับได้เยอะ แถมสูตรคูณก็ยังท่องได้อีก และวันเสาร์ยังไปเรียนพิเศษภาษาอังกฤษอีก พอเราหันกลับมามองเค้เร่  โห้..ลูกอิชั้น ยังวิ่งเล่นกะโปโลอยู่เลย ยังค่ะ  ยังกดดันความเครียดตัวเองไม่พอ เล่นเน็ตเข้าชานเรือน( ณ.ตอนนั้น ) เห็นคุณแม่บางคนมาโพสความสามารถของเด็กๆ ว่าทำอะไรได้บ้าง พออ่านจบหันกลับมาดูเค้เร่อีกครั้ง  โห้..ยังวาดอะไรไม่เป็นเลยแล้วจะไปหัดเขียน หัดอ่านอะไรอีกได้ไหมเนี่ย ความเครียดลงลำไส้ใหญ่เลยต้องมาระบายกับเค้เร่   จำได้ว่า เคยบังคับให้เค้เร่หัดอ่าน และพยายามให้เค้เร่หัดเขียน จากสมุดหัดเขียนแบบเส้นปะ ที่ซื้อมาจากเมืองไทยนะแหละ บังคับให้เค้เร่ทำไปได้สักพัก ( ประมาณ3-4เดือนมั๊ง ) ก็รู้สึกว่าเค้เร่เปลี่ยนไป จากเด็กอารมณ์ดีๆ เธอก็หงุดหงิดง่าย นอนกลางคืนบางครั้งได้ยินเสียงเค้เร่ครางหงิงๆ ตอนแรกคิดว่า เค้เร่เป็นหวัดแล้วอึดอัดหายใจไม่ออก เลยนอนคราง จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 04:57:26

ความคิดเห็นที่ 24 แต่เมื่อสังเกตก็เห็นว่า เค้เร่ไม่ได้เป็นหวัดน่ะ ถ้าวันไหนไม่ได้ถูกเราบังคับให้นั่งเขียนหนังสือ คืนนั้นจะไม่ได้ยินเสียงคราง  เราเลยลองหยุดให้เค้เร่เขียน   แรกๆเค้เร่ก็จะถามเราว่า “คุณแม่วันนี้เค้เร่ ต้องเขียนอะไรค่ะ” พอเราบอก “ไม่ค่ะ เราเล่นกันดีกว่า “ เค้เร่จะแสดงอาการดีอกดีใจ แล้วคืนนั้นเค้เร่ก็จะหลับสบายๆ ตอนแรกเราคิดว่า คงเป็นธรรมดาของเด็กที่ไม่ต้องเรียนก็เป็นชอบอยู่แล้ว แต่พอผ่านไปสักพักก็มีโอกาสคุยกับเค้เร่เรื่องเรียน  ตอนแรกเค้เร่ไม่อยากพูดว่า ไม่อยากหัดเขียนและหัดอ่าน เพราะกลัวเราดุ แต่พอเราบอกว่า “ คุณแม่จะไม่บังคับหนู ถ้าหนูไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ และจะไม่ดุด้วย “ เท่านั้นแหละเค้เร่ก็บอกเลยว่า ไม่อยากทำ  อยากเล่น แล้วก็เล่าเรื่องโน้นเรื่องนี่ที่อนุบาลให้ฟัง แล้วเค้เร่ก็ร้องไห้พอพูดถึงเรื่องที่ตัวเองได้เล่นเป็นลูกแต่ไม่เคยได้เล่นเป็นพ่อแม่กะเขาสักที เพราะอายุน้อยสุด เชื่อไหมค่ะ ต้องที่ได้ฟังและเห็นเค้เร่ร้องไห้ เราอยากจะขำ  ..เพราะว่ามันเป็นปัญหาเด็กๆ .. แต่พอคิดได้ว่า  อ้าว..ก็เค้เร่ยังเด็กนี่หว่า เราเลยเข้าใจเลยว่า   โธ่.ลูกแม่ หนูมีปัญหาที่ อนุบาลก็เครียดพออยู่แล้ว ยังมาเจอแม่บังคับทำอะไรที่มันยากๆอีก เราเลยบอกกับตัวเองว่า เอาหล่ะ อย่าไปบังคับอะไรลูกอีกเลย สอนเขาในเรื่องที่ควรจะสอน(ตามพัฒนาการเขานะแหละ) เพราะอยู่ที่นี่ เขาไม่มีเน้นเรียนพิเศษ เด็กคนอื่นๆก็ยังเรื่อยๆเปื่อยๆ เราก็ควรให้ลูกเรียนในแบบของอนุบาลที่นี่แหละกัน ถ้าถามเราว่า ณ.ตอนนี้เราพอใจไหมกับผลการประเมินของเค้เร่ ที่เข้าอนุบาลมาสามปี เราบอกได้เลยว่า พอใจมาก เราไมคาดหวังว่า ลูกต้องเรียนเก่ง หรือคาดหวังว่าโตขึ้นเค้เร่ต้องเป็นอะไร   แค่เราบอกกับเค้เร่ว่า โตขึ้นหนูจะเป็นอะไร ทำอาชีพอะไร คุณพ่อคุณแม่ก็ยอมรับได้ ขออย่างเดียวขอให้เป็นคนดีก็พอ . . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 05:04:11

ความคิดเห็นที่ 25 ภูมิใจในลูกคนนี้ค่ะ เพราะเค้เร่มีกริยามารยาทที่ดีในการกินมากกกกก       ยังจะมีใครสนใจรับเค้เร่เป็นลูกสะใภ้ไหมน๊า . . จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 05:08:09

ความคิดเห็นที่ 26 หมดแล้วค่ะ  ( โพสเยอะๆเมื่อยมือมาก ) ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ     สุขสันต์วันก่อนวันวาเลนไทน์นะคะ กันยายนปีนี้  เค้เร่ขึ้นประถมแน่ๆ ไปซื้อกระเป๋านักเรียนมาเตรียมไว้แล้วค้า จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 05:13:27

ความคิดเห็นที่ 27 แฟนคลับหนูเค้เร่ มารายงานตัวแล้วจ้า.. ยังไม่ได้อ่าน แต่เม้นท์ก่อน กลัวไม่ทันคนอื่นๆ อิอิ.. .. คิดถึงพี่ไผ่ และหนูเค้เร่ ที่สุดเลย จากคุณ : น้องเวียงพิงค์ (Prettymaew) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 05:31:51

ความคิดเห็นที่ 28 มาแปะชื่อ แปะกิ๊ฟไว้ก่อนค่ะเดี๋ยวตามมาอ่านละเอียดอีกครั้งนะคะพี่ไผ่ นานๆมาทีแต่ก็เต็มไปด้วยเนื้อหา สาระ และความฮาเช่นเคยค่ะ :) จากคุณ : Bunnie เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 05:33:14

ความคิดเห็นที่ 29 ว้าว ขอบคุณแม่น้องเค้เร่มากเลยค่ะที่แบ่งปัน กลับไทยคราวนี้อ่ะ เค้ากะว่าจะไปซื้อพวกหนังสือไทยหัดอ่านให้ลูก (ลูกเพิ่งครบขวบ) เพราะว่าเห็นตามเวปนี่แหละ แบบว่า ว้าว ครบขวบอ่านหนังสือได้เป็นบางตัวละ พอขวบขึ้น ท่องหนังสือได้เป็นเล่มๆๆ เค้าดูน้องเค้เร่ออกรายการจ้อจี้ด้วยนะ ตอนนั้นก็ประทับใจน้องอ่านภาษาไทยออกด้วย ยังแอบกลุ้มใจ ลูกเราจะอ่านไทยออกไหมน๊ออออ ตอนนี้รู้ละ ต้องเดินทางสายกลาง มิงั้น ลูกจะเครียดดดดดด จากคุณ : ตุ๊กตาดุ๊กดิ๊ก เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 05:40:34

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ อิคคิวซัง (mamma och patrick)  ขอบคุณสำหรับกีบนะคะ คุณ ดีใจที่เกิดเป็นคนไทย   เข้าใจความรู้สึกตื่นเต้นที่ลูกจะเข้าอนุบาลเลยค่ะ แล้วอย่าลืมรองเท้าใส่ในบ้านติดไปไว้ที่อนุบาลด้วยนะคะ คุณ น้องเวียงพิงค์ (Prettymaew)  ขอบใจจ้าน้องแมว  ฝากจุ๊บๆน้องเวียงพิงค์ด้วยนะจ๊ะ คุณ Bunnie   ขอบใจจ้าน้องต้อง  ก่อนอ่านเข้าห้องน้ำก่อนก็ได้ เพราะมันยาว  จุ๊บๆน้องเจสด้วยนะจ๊ะ คุณ ตุ๊กตาดุ๊กดิ๊ก   ใช่แล้วค่ะเดินสายกลางดีที่สุด และให้เวลาน้องมากๆเมื่อถึงเวลาเขาจะได้รักการเรียน การอ่านด้วยความเต็มใจค่ะ จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 05:56:23

ความคิดเห็นที่ 31 แจกกิ๊ฟไว้ก่อนนะป้าไผ่ เดี๋ยวบ่ายๆเค้ามาอ่าน จุ๊บๆเค้เร่ จากคุณ : พจมารร้าย เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 07:55:18

ความคิดเห็นที่ 32 พี่ไผ่คะ แววอยากให้โรงเรียนในเมืองไทยเป็นอย่างนี้จัง โรงเรียนในไทยส่วนใหญ่เร่งเรียนเขียนอ่านกันจัง ทั้งๆที่ไม่เห็นจะต้องเร่งเด็กขนาดนั้นเลย โตมาก็ความรู้เท่ากันเน๊อะ ในเมืองไทย ถ้าอยากให้ลูกเข้าโรงเรียนแบบนี้ต้องเป็นโรงเรียนทางเลือก ถ้าไม่แพงเวอร์ ก็เข้ายาก หรืออยู่ไกล มีไม่กี่แห่ง ตัวเลือกสำหรับผู้ปกครองน้อยมากค่ะ บางที ดูรายการโทรทัศน์ครูในเมืองไทย เห็นสารคดีเด็กอนุบาลประถมต่างชาติ แววอยากย้ายไปอยู่เมืองนอกซะเลย อยากให้ลูกเดินในหมู่บ้าน บรรยากาศสงบๆแทน อย่าถามว่า งั้นแววย้ายกลับเชียงรายเลยดีมั้ย  ก็ไม่ต่ากงันเลยค่ะ ที่เชียงรายหรือเมืองไหนๆในเมืองไทย หลักสูตรเดียวกัน และการดิ้นรนก็ไม่ต่างกันเลย แต่ยังไงหนูม่วนใจ๋ก็ชอบไปโรงเรียนค่ะ เด็กสองขวบกว่าๆเอง ^_^ แม่มันพาไปแระ ไปวิ่งเล่นกับเพื่อน ยังดีที่โรงเรียนม่วนใจ๋ก็ยังสนุกาำหรับยัยจอมยุ่งอยู่ คุณครูรักเด็ก อิจฉาจังค่ะ....และหนูเค้เร่ โตขึ้นเยอะเลย แบบนี้พี่ไผก็เริ่มมีเวลาเป็นของตัวเองเยอะขึ้นนะคะเนี่ย^_^ จากคุณ : flower over the moon เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 07:58:48

ความคิดเห็นที่ 33 เร็วจังค่ะพี่ไผ่ น้องขึ้นชั้นประถมแล้ว จากคุณ : Louise Vuitton เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 08:00:04

ความคิดเห็นที่ 34 น้องน่ารักมากเลยค่ะ . . . . . . ตั้งใจเรียน เรียนหนังสือเก่งๆนะจ๊ะสาวน้อย จากคุณ : i_rinda (i_rinda) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 08:03:50

ความคิดเห็นที่ 35 ย้ายไปเีรียนกะเค้เร่ด้วยได้ป่ะ..อิอิ.. //สะกิดๆ ป้าๆ ที่นู่นเค้าไม่ได้เรียนไรมากมาย แล้วทำไมเป๋านักเรียนเค้เร่มันใหญ่นักอ่ะคะ จากคุณ : patapril เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 08:47:51

ความคิดเห็นที่ 36 ลูกสาวคนนี้น่ารักเสมอ จากคุณ : Untrue เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 08:51:33

ความคิดเห็นที่ 37 น่ารักจังเลยค่ะ จากคุณ : ดญ. หัวเหน่ง เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 09:01:10

ความคิดเห็นที่ 38 เค้เร่ โตเร๊ววเร็วว น่ารักด้วยอ่ะ^^ จากคุณ : หมีสีชมพู เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 09:17:18

ความคิดเห็นที่ 39 หน้าตาบ๊องแบ๊วสุดๆ ^^ จากคุณ : mawantha เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 09:32:36

ความคิดเห็นที่ 40 กระเป๋าเคเร่สวยมากนะคะคงจะทนมากด้วย (ยี่ห้ออะร ราคาเท่าไหร่บอกได้ไหมคะ หลังไมค์ก็ได้ค่ะ แม่อยากได้เองไว้ใส่ของลูกอ่ะคะ จากคุณ : nong (hugnong) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 09:34:04

ความคิดเห็นที่ 41 เค้เค่ครับ พี่เทียนโตขึ้นอยากเป็นคนขับรถไฟฟ้า จากคุณ : คนสวยเมืองนนท์ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 09:34:13

ความคิดเห็นที่ 42 น่ารักมากๆ ขอเป็นแฟนคลับเค่เร้อีกคนค่ะ เห็นกระทู้เค่เร้ต้องรีบเข้ามาดูค่ะ ไม่ได้แสดงความเห็นก็ให้ กิ๊ฟ จ้า จากคุณ : ขนมปังน้ำแดง เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 09:40:54

ความคิดเห็นที่ 43 โอ๊ย!!!! น้องเค่เร้ น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกก ค่ะ จากคุณ : ~ * D a I J i M a r U * ~ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 09:52:12

ความคิดเห็นที่ 44 น้องเค่เร้ น่ารักจังค่ะ จากคุณ : mixkey เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 10:20:11

ความคิดเห็นที่ 45 ชอบเข้ามาอ่านบ่อยๆ อยากให้มีโรงเรียนแถวนี้ใกล้บ้านจัง ... หรือว่าจะทำซะเองดีนะ แล้วจะมีผู้ปกครองเห็นด้วยกับเราไหมแถวบ้านบ้านนอกซะด้วย จากคุณ : tanspice เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 10:33:31

ความคิดเห็นที่ 46 น่ารักจัง จากคุณ : lukเพื่อน_8910 เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 10:39:51

ความคิดเห็นที่ 47 แอบตามเป็นแฟนคลับเงียบๆมาหลายทู้ละ มาคราวนี้สาวสวยจะขึ้นชั้นประถมแล้วเหรอเนี่ย น่ารักๆๆๆ คุณแม่มาอัพเดตบ่อยๆนะคะ จะรอค่า ปล.อยากให้รร.ในไทยเป็นอย่างนี้บ้างเหมือนกัน จากคุณ : แม่หมูจอมซ่าส์ (+แม่หมูจอมซ่าส์+) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 10:42:14

ความคิดเห็นที่ 48 หวัดดีจ้าเจ๊ไผ่ เห็นด้วยอย่างแรงนะ ไม่ต้องไปเร่งเรื่องการเรียนหรอก ปล่อยไปสบายๆ ให้เค้าค่อยๆเป็นไปเอง ทีละอย่างสองอย่าง อย่าให้เป็นแบบเด็กไทยส่วนใหญ่เลยนะ ของผมนะ แรกๆโรงเรียนก็มีนโยบายเรียนๆเล่นๆแบบนี้แหละ  อยู่ๆไป ก็ผู้ปกครองตัวดีบางคนนั่นแหละ เห็นลูกตัวเองอ่านหนังสือไม่ออก ไม่เก่งเหมือเด็กนรร.เอกชนอื่นๆ  ดันทะลึ่งไปเสนอแนะทางโรงเรียน ให้เพิ่มความเข้มข้น เน้นเรียนมากขึ้น  ตอนนี้ก็เลยเพี้ยนไปเลย กลายเป็นบ้าเรียนเหมือนกันหมด เจ้าหญิงเค้เร่น่ารักไม่เปลี่ยนไปเลยเนอะ จากคุณ : คอบอล เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 10:42:36

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณนะค่ะ สำหรับข้อมูลดี ๆ ที่นำมาฝากกัน อยากให้การเรียนการสอนเมืองไทยเป็นแบบนี้บ้างจังเลยค่ะ น้องเค่เร้ น่ารักมาก ... ไว้เข้าประถมแล้วแวะมาอัพเดทข้อมูลกันอีกนะค่ะ จากคุณ : ppth เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 10:43:33

ความคิดเห็นที่ 50 ผมชอบนะครับ   จะจำไว้สอนลูกสาวบ้าง จากคุณ : ริมน้ำคาน เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 10:57:32

ความคิดเห็นที่ 51 พี่เคเร้น่ารักมากกกก จากคุณ : ich habe kein Geld เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 11:00:20

ความคิดเห็นที่ 52 จากคุณ : a lovely rainbow เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 11:05:02

ความคิดเห็นที่ 53 น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกก น่ารักสดใส พูดภาษาไทยเก่งสุดๆ ปล.คุณแม่เล่าเรื่องได้สนุกดีค่ะ ยาวนะ แต่อ่านจนจบเลย ^^ จากคุณ : Girl_of_Monsterteam เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 11:49:47

ความคิดเห็นที่ 54 น้องน่ารักจังค่ะ  ว่าแต่ว่า  ชื่อน้องแปลว่าอะไรเหรอคะ ^^" ขอเสียมารยาทนิดนึง  แฮะๆ จากคุณ : ban pug เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 12:32:25

ความคิดเห็นที่ 55 ชอบร.ร.อนุบาลแนวนี้จัง ตอนนี้ลูกเราสองขวบ พูดได้เป็นคำๆ ยังไม่ผูกประโยค ยังกลุ้มเลย ทำไมไม่พูดเยอะๆ เหมือนเด็กรุ่นเดียวกันน้า ยิ่งคนมาทักยิ่งเครียด พอมาอ่านกระทู้นี้ ค่อยสบายใจค่ะ แล้วเลยไปนึกขึ้นมาถึงข่าวนักเรียนไทยม.ต้น ม.ปลายมักไปได้เหรียญทอง โอลิมปิคคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ฯลฯ เสมอๆ เป็นเพราะหลักสูตรเราเร่งเด็กเรื่องการเรียนตั้งแต่เล็กหรือเปล่าหนอ ถึงไปกวาดเหรียญมาได้เยอะๆ แต่เด็กๆ คงจะเครียดน่าดูเลยล่ะ จากคุณ : NongNuDaddy เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 12:50:36

ความคิดเห็นที่ 56 น้องน่ารักมากคะ อยากให้ รร ที่เมืองไทยเรียนแบบนี้บ้าง คงสนุกดี แต่แถวบ้านก็มีแต่แนววิชาการ รร.ที่จะรองรับต่อก็เป็นแนววิชาการทั้งนั้น จากคุณ : เขียนบน iPad (viviblue) เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 12:54:46

ความคิดเห็นที่ 57 ป้าเขียนยาวมาก...คิดถึงหลาน คิดถึงป้านะ จากคุณ : ลูกไหม เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 13:02:46

ความคิดเห็นที่ 58 โรงเรียนของเค้เร่ เป็นแบบนี้หรือเปล่าเอ่ย? http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N11662083/N11662083.html จากคุณ : พาระวี เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 15:02:07

ความคิดเห็นที่ 59 น้องเค้เร่น่ารักมาก แต่ทีประทับใจมากคือคุณแม่ค่ะ คุณแม่น่ารัก เข้าใจเด็ก เข้าใจลูก พยายามให้เค้าเป็ฯอย่างที่เค้าเป็น เวลาอธิบาย คุณแม่ก็ให้เหตุผลได้น่ารักมากค่ะ ซึ่งก็ได้สมใจ เค้เร่เป็นเด็กน่ารักมาก เรียบร้อย ชื่นชม และเป็นกำลังใจให้คุณแม่นะคะ จะตามเป็นแฟนคลับอีกคนด้วยนะคะ จากคุณ : kwang_13 เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 15:16:34

ความคิดเห็นที่ 60 น้องไผ่ คิดถึงนะคะ คิดถึงหลานสาวสุดสวยด้วย จากคุณ : ป้าสดใส เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 15:21:38

ความคิดเห็นที่ 61 อนุบาลแถวบ้านก็ไม่เรียนอะไรเหมือนกันค่ะ ของพี่ไผ่ยังดีมีการประเมิน ที่นี่เพิ่งมีสอนเตรียมประถมปีนี้เอง (สอนตอนลูกเราไม่อยูแล้ว ฮึ่ม) ตัดกระดาษเก่งนี่ดีนะคะ เพราะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก เก่งหลายอย่างแบบเค้เร่ ไปโรงเรียนได้อยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลค่ะ จากคุณ : แมวต่างแดน เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 16:41:00

ความคิดเห็นที่ 62 อนุบาลสามเสน เรียนคล้้ายๆ แบบนี้เลยค่ะ ไม่เน้นอ่านเขียน เด็กๆ จบอนุบาลสองก็ยังท่อง ก-ฮ ไม่ได้ เขียนได้แต่ชื่อ นามสกุลตัวเอง ไม่เน้นวิชาการ ใครสนใจพาลูกไปสมัครได้ รร.รัฐบาลด้วย เรียนฟรี จากคุณ : tormay เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 17:58:30

ความคิดเห็นที่ 63 อร๊ายยยยยยยยย ใครเขียนหน้าให้เค้เร่อ่ะ น่ารักซ้าาาา อิจฉาเค้เร่แทนน้ำมนต์กะน้องไหม โตมากับบรรยากาศการเรียนสนุกสนานแบบนี้เห็นแล้วมีความสุขไปด้วย เค้าอยากได้รร.แบบนี้แหละป้าไผ่ แต่ต้องทำใจเพราะใกล้ๆบ้านไม่มีเลย ป้าไผ่สนใจจะรับหลานสาววัยรุ่นไปเลี้ยงซักสองคนมั้ย จากคุณ : พจมารร้าย เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 19:16:42

ความคิดเห็นที่ 64 ได้ครวามรู้มากๆค่ะ  พอดีลูกสาวจะเข้าอนุบาลเดือนหน้าค่ะ ยังนึกไม่ออกเลยค่ะว่าจะเป็นยังไง  อยูกลุ่มหนูค่ะ  เค้เร่ น่ารักมากๆค่ะ จากคุณ : เศร้าพองามๆ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 20:36:52

ความคิดเห็นที่ 65 ..................แฟนคลับมาแสดงตัว......................... ไว้ดึกๆจะมาตามอ่านทุกบรรทัดเลยค่ะพี่เค้เร่ของน้องชมพู่ แดดร่มลมตกวันไหน จะฝากเสียงใสๆสำเนียงด๊อซไปหาค่ะป้าไผ่ จากคุณ : แม่น้องชมพู่ เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 20:51:22

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ อยากให้ที่ไทยมี รร แบบนี้เยอะๆเหมือนกันค่ะ จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 00:10:02

ความคิดเห็นที่ 67 สวัสดีค่ะคุณแม่และน้องเค้เร่ ^__^ ยังจำสาวน้อยสดใสเค้เร่ได้ดีค่ะ ไม่ทราบว่าอยู่ประเทศอะไรค่ะ เดาๆว่าน่าจะฝรั่งเศสหรือปล่าว การเรียนการสอนในเด็กเล็กคล้ายๆกับที่เดนมาร์กเลยค่ะ อนุบาลบางแห่งจะพาเด็กๆนั่งรสบัสเข้าป่าตั้งแต่เช้าไปจนบ่าย ทุกๆ 6 อาทิตย์ค่ะ เด็กๆคงจะสนุกกันน่าดู ที่นี่ก็ไม่ได้เน้นให้เด็กๆต้องอ่านออกเขียนได้ในวัยก่อนประถมค่ะ ดิฉันเห็นด้วยนะคะและชอบการศึกษาแบบนี้ จากที่ตัวเองก็มาเรียนต่อสายอาชีพที่น่เหมือนกัน เห็นความต่างได้ชัดค่ะ จะเน้นการทำงานกลุ่มและศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง มีการถกเถียงกันด้วยเหตุผล ยอมรับและฟังความคิดเห็นคนอื่นค่ะ ดิฉันยังไม่มีลูกนะคะ แต่คิดๆไว้ว่าถ้ามีลูกก็คงจะให้เขาค่อยๆเรียนไม่ต้องเครียดค่ะ ดิฉันคิดถึงสมัยที่ตัวเองเรียนหนังสืออยู่ที่เมืองไทย บางครั้งไปโรงเรียนอาทิตยฺละ 7 วันเลยค่ะ จันทร์ถึงศุกร์ก็เรียนปกติ เสาร์อาทิตย์ก็ไปเรียนพิเศษอีก การแข่งขันที่เมืองไทยมีสูงค่ะ เด็กๆที่นี่โชคดีมากๆที่ทุกคนมีที่เรียนหมด เวลาสอบก็ไม่ได้ยากด้วยค่ะ เน้นสอบปากเปล่าเป็นส่วนใหญ่ เน้นที่ความเข้าใจ สามารถตอบคำถามและอธิบายได้ลึกค่ะ ไม่ต้องสอบทุกวิชาด้วยค่ะ สายอาชีพที่ดิฉันเรียนสอบแค่วิชาเดียว ส่วนวิชาอื่นที่เหลือก็ดูจากความตั้งใจเรียนในชั้นค่ะ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 55 02:28:11 จากคุณ : sunisaogkim เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 02:07:07

ความคิดเห็นที่ 68 เค้เร่น่ารักจังเลยค่ะ แถมพูดไทยเก่ง ภูมิใจแทนคุณแม่จัง จากคุณ : Brunnett เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 03:40:28

ความคิดเห็นที่ 69 พี่ไผ่...น้องเค้เร่น่ารักมาก...ท่าทางจะพูดเก่ง อ้อนคุณพ่อคุณแม่แน่ ๆ เลย ภูมิใจแทนพี่ไผ่เลยนะคะเนี่ย จากคุณ : KhunTop เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 04:23:46

ความคิดเห็นที่ 70 เค้เร่พูดไทยชัดมากนะคะ เล่นทำอาหารเป็นขั้นเป็นตอนเชียว ไม่เหมือนลูกสาวบ้านนี้เลย มุมครัวพังไปแล้ว เพราะแย่งกันเล่น ร.ร.อนุบาลแบบนี้น่าเรียนจังนะคะ  ของน้ำอิงนี่ให้หัดเขียนตัวอักษรตามเส้นประแล้วอ่ะ บางทีเขียนไม่ตรงบ้าง หรือบางทีระบายสีตามจินตนาการบ้าง (ประมาณว่าม้าลาย 7 สี) คุณครูก็จะประเมินว่าทำได้บางครั้ง (มีทำได้ทุกครั้ง บางครั้ง และ ไม่ได้ค่ะ) ยังแอบคิดว่าครูจะเอาไรนักหนาฟระ แค่นี้ลูกชั้นก็เก่งมากแล้วนะ จากคุณ : lovenaming เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 09:52:47

ความคิดเห็นที่ 71 เป็นแฟนเค้เร่ คร๊า น่ารักมากกกกก จากคุณ : OK@y เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 09:54:30

ความคิดเห็นที่ 72 เค้เร่น่ารักมากค่ะ จากคุณ : Mrs. Krinch เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 12:36:20

ความคิดเห็นที่ 73 พี่ไผ่ พึ่งจะได้เข้ามาอ่านเต็มๆก็วันนี้แหละ เค้เร่น่ารัก อารมณ์ดี และมีทักษะการเข้าสังคมเป็นเยี่ยมก็เพราะมีพี่ไผ่ที่แสนดีเป็นคุณแม่นี่แหละค่ะ เห็นด้วยนะคะว่าเด็กๆ หน้าที่เค้าก็คือเล่น ที่เมืองไทยไม่รู้จะเร่งเรียนกันไปไหน สงสารลูกเหมือนกัน ตอนนี้ก็ปวดหัวเกี่ยวกับหาโรงเรียนประถมให้เจ้าบูม เพราะตอนนี้ก็จะจบอ.2แล้ว พ่อเค้าอยากให้เข้าโรงเรียนเก่าของพ่อเค้า แต่ก็ดูท่าทางจะเรียนหนักหนาสาหัสเหลือเกิน เลยมองๆที่อื่นๆให้ลูกเตรียมไว้อีก กว่าเด็กจะโตก็ต้องเรียนกันอีกเยอะ ก็เลยอยากให้เค้ามีความสุขที่สุดในชีวิตการเรียน ก็อยู่ที่พ่อแม่จะเริ่มหาโรงเรียนที่เหมาะสมที่สุดกับลูกนั่นแหละ  แต่ก็อยู่ในงบที่จำกัด เงื่อนไขเยอะเชียว 555 คิดถึงพี่ไผ่ คิดถึงเค้เร่ มาเมืองไทยอีกเมื่อไหร่ต้องบอกกันด้วยนะคะ จากคุณ : bodiamond1 เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 13:17:29

ความคิดเห็นที่ 74 ป้าไผ่ เค้าอยากให้ต้นหอม ได้เรียนๆเล่นๆแบบนี้มากๆเลย ยัยต้นหอม เป็นเด็กจริงจังมาก  ทำเอาแม่ที่ไม่ค่อยได้เรื่องอย่างอิช๊าน เครียด ตามลูกไปเลย ตอนนี้ มานั่งคิดว่าตัวเอง พ่อแม่อย่างเราติดกับดักการศึกษาของไทยหรือเปล่า อะไรม๊านจะบ้าเรียน กันซะขนาดนี้ แค่อนุบาล สารพัดจะแข่งกัน แข่งกันเตรียมตัว สอบเข้า ประถมดีๆ เด็ก อนุบาล ควรอ่านออกเขียนได้ รร.ประถมดีๆ ก็มีไม่มาก คนแห่สมัครมหาศาล ประเภทพวกรร.วัด ไม่ค่อยมีคอยากเข้า วันก่อนเลยถามครูว่า ป 1 เค้า เรียนอะไรมัง เรียนสะกดคำ อ้าว แล้ว อนุบาล สอง  สอนแล้ว แล้วเรียน ป.หนึ่งทำไม ครูมองหน้าแม่ ถ้าไม่เกรงใจ ครูคง ซัดแม่ต้นหอมกลับมาแล้ว ว่ารร.เค้าสอนแบบนี้ ประมาณแบบ แม่ม๊านไม่เก็ท กับ ระบบการสอนแบบแข่งขันสูงๆแบบนี้ คุยกับ น้องชาย เรื่องเรียน บอกว่า เนี่ย พ่อแม่สมัยนี้ ตะเกียกตะกาย หาร.ร.ดีๆให้ลูก  ยอมจ่าย แป๊ะเจี๊ยะรร.ดังๆ ปีละเป็นล้าน เพราะว่าอยากให้ลูกเรียนดีๆ   แต่พอลูกเรียนจบ มหาลัย ก็ไปเป็นลูกจ้างเค้าก่อน ทำเงินเดือน ไม่กี่หมื่นบาท ปีหนึ่ง เงินเดือนลูก ค่าแป๊ะเจี๊ยะ ตอนประถมยังหาไม่ได้เลย แต่เด็กไทยเรียนหนักมาก ต้นหอมกับ เค้เร่เนี่ยคนละแนวเลย แม่ต้นหอมอยากให้ต้นหอมลั่นล้า แบบเค้เร่มากก แต่วัย แค่ อ 2  ยัยต้นหอม อ่านนิทานเอง ได้ ตอนนี้รร. สอน บวกลบเลขสองหลัก ยังคิดเลยว่าเร็วไปไหมเนี่ย แล้ว ประถมเค้าจะเรียนอะไร ไม่เรียน ตรีโกณกันเหรอ (ประชดนะเนี่ย )  แค่นี้ การบ้านลูก บางที แม่ม๊านก็มาตั้งสมาธิทำก่อน ว่าทำยังไงเนี่ย คิดไม่ออก ให้ต้นหอมทำเองแล้วกันลูก ผิดถูกไปถามคุณครู แม่ม๊านโง่ อ้อ..สั่งต้นหอม เซ้นต์ชื่อแม่ ที่การบ้านให้ด้วยนะ บอกกับครูว่า แม่ดูแล้ว แต่ให้ต้นหอมเซ็นต์ชื่อให้   เนียยยย ชีวิตอนุบาลของยัยต้นหอม หล่ะ ป้าไผ่ จากคุณ : วีทีอาร์ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 13:19:25

ความคิดเห็นที่ 75 เป็นสาวเร็วจัง สวยอย่างแรงเลย จากคุณ : แม่นกลูกคนแรก เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 14:59:59

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ อ่านที่น้องหนึ่ง น้องโบว์กะแม่น้องต้นหอมเล่าแล้ว สงสารหลานๆเลย แต่ว่าลูกพี่สาวก็เรียนหนักทั้งๆที่อยู่อนุบาล คิดว่าเป็นไปตามกระแสสังคมด้วยมั๊ง ถ้าไม่เรียนเยอะๆก็ไม่ทันเพื่อน ไม่ได้เข้า รร ที่มีชื่อเสียง มันก็น่าคิดเหมือนกันนะคะว่า ทำไมเด็กๆสมัยนี้ต้องเรียนพิเศษ และเท่าที่ได้ยินมา ก็คุณครูที่สอนอยู่ที่ รร นะแหละรับจ้างสอนพิเศษด้วย แทนที่จะสอนๆใน รร ให้จบๆกลับกั๊กๆไว้สอนพิเศษอีก   คุณsunisaogkim   เราอยู่เยอรมันค่ะ  ที่อนุบาลนี้เด็กๆก็ได้ไปเดินป่าเหมือนกันค่ะไม่ว่าอากาศจะเป็นอย่างไรก็ต้องไปเดินป่า ปีแรกๆเค้เร่ป่วยบ่อยเพราะอากาศและการเดินป่า แต่ตอนนี้ไม่ค่อยเป็นแล้วค่ะ  สงสัยจะชิน 555 จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 19:03:04

ความคิดเห็นที่ 77 เค้เร่ น่ารักมากๆเลยค่ะเห็นแล้วอยากมีลูกสาวจังเลย ปลื้มแทนคุณแม่ค่ะ จากคุณ : lookmoodeaw เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 55 22:28:10

ความคิดเห็นที่ 78 ลูกสาวน่ารักจัง โตขึ้นสวยแน่ๆเลยค่ะ จากคุณ : แป้งสีฝุ่น เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 00:01:18

ความคิดเห็นที่ 79 เค้าขำตรงคุณแม่ยังสาวยังสวยนี่แหล่ะ เอาไป 1 กิฟท์จ้ะป้าไผ่   นึกถึงเข้มตอนอนุบาลเหมือนกัน วิ่งเล่นๆๆๆ ไม่ต้องมาจริงจังอะไรในชีวิต ตอนนี้ป.6 แล้ว เรียนหนัก ถึงหนักมาก เพื่อที่จะต่อม.1   สงสารลูกนะ แต่การที่จะมีชีวิตอยู่ในสังคมที่แข่งขันกันแบบนี้ ก็ต้องพัฒนาตัวเอง เฮ่อออออ ปล.  หลานป้าไผ่ หล่อมั๊ย ? จากคุณ : ป้าแมงฯ เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 08:12:34

ความคิดเห็นที่ 80 เป็นกระทู้ที่น่ารัก น่าสนใจมากค่ะ ขอบคุณที่มาแชร์ชีวิตนักเรียนอนุบาลที่เยอรมันให้ฟัง ชอบอ่านค่ะ โรงเรียนเมืองไทย แนวๆ นี้มีค่ะ แต่มีชื่อเรียกที่เริ่ดหรูว่าโรงเรียนทางเลือก หมายถึง โรงเรียนที่มีค่าเทอมแพงเป็นพิเศษ แม่ไม่มีปัญญาหรอกลูกเอ๊ย จากคุณ : คุณหมาขายาว เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 13:37:51

ความคิดเห็นที่ 81 น่าอิจฉาน้องเค้เร่มากเลยค่ะ ได้เรียนอะไรสนุกๆ แต่ทำไม ป.1 กระเป๋าใหญ่จังเลยค่า จากคุณ : pluswipa เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 15:40:30

ความคิดเห็นที่ 82 ขอบคุณอีกครั้งนะคะ  ที่เข้ามาอ่านและแจกกีบ   ป้าแมง   หลานอิชั้นหล่อมาก    เอ..หรือจะเรียกว่าสวยดีฟร่ะ เพราะดูแล้วสวยกว่าแม่อีก 55 จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 19:11:55

ความคิดเห็นที่ 83 ได้ดูรูปน้องเค้เร่ก่อนนอน คืนนี้หลับฝันดีแน่ๆ ค่ะ ^^ จากคุณ : แม่มินจู เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 22:12:27

ความคิดเห็นที่ 84 น่ารักขึ้นทุกวันเลยนะครับ เวลาผ่านไปเร็วจัง จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 13:06:15

ความคิดเห็นที่ 85 เพิ่งไปจองอนุบาลแนวนี้ให้ลูกค่ะ เห็นกระทู้นี้แล้วมั่นใจเลยว่าคิดไม่ผิด ^^ จากคุณ : ALP Blossom เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 55 16:44:47

ความคิดเห็นที่ 86 Hoi เค้เร่ , Hoi ต้นหอม, Hoi เข้ม..หล่อดี , Hoi ทุกคน คิดถึงจัง ...เขียน thai ไม่ได้ ก็ต้อง copy เอา ,sorry นะ จากคุณ : NATTI นัทตี้ เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 07:45:58

ความคิดเห็นที่ 87 น้องเค้เร่ น่าร๊ากกกกกกก  อยากได้แบบนี้สักโค๊นนนนนน จากคุณ : ดอกธูป เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 14:36:02

ความคิดเห็นที่ 88 ป้านัทตี้ หนูก็คิดถึงป้า   จากคุณ : ป้าแมงฯ เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 16:39:03

ความคิดเห็นที่ 89 ^ ^ มาไวมาก   ป้านัทตี้  คิดถึงเหมือนกันค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 19:43:20