บันได 6 ขั้นสู่การครองคู่ที่ยืนยาว

## อ่านเจอ เลยนำมาให้แม่ๆชานเรือนอ่านกันคะ ##

คงต้องยอมรับว่า ความรักย่อมเปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลงของคนสองคน ซึ่งอาจไม่นิ่ง หรือตายตัวไปสักทีเดียว แต่จะทำอย่างไรให้ชีวิตรักไปกันได้ตลอดรอดฝั่ง และมีอายุรักที่ยาวนาน วันนี้ มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากเป็นแนวทางกันค่ะ

ความรักมี 3 ระยะ ระยะที่ 1 คือ Romantic love จะมีอายุ 3-6 เดือน หรือ 12 เดือน บางคนเรียกว่าเป็นช่วงโปรโมชั่น ไม่ว่าใครก็จะต้องผ่านช่วงนี้ ซึ่งเกิดจากการทำงานของฮอร์โมนความสุข 4 ตัว คือ โดพลามีน เซโรโทนีน เอนโดรฟีน และ PEA ซึ่งในช่วงนี้ คนที่รักกันอะไร ๆ ก็จะดูดีไปหมด หวานชื่น ใครห้ามก็ไม่ฟัง

หลังช่วงนี้ไปแล้วมันจะกลายเป็น Logical แล้วก็กลายเป็น Sensible love คือ เป็นความรักที่มีเหตุผลมากขึ้น เริ่มมองเห็นข้อที่ไม่ดี ข้อที่ฉันไม่ชอบ ข้อที่เธอนิสัยไม่ดี ทำไมทิ้งตรงนั้นอย่างนี้ ทำไมทิ้งตรงนี้อย่างนั้น โรยแป้งแล้วไม่เช็ด บีบยาสีฟันแล้วทำไมไม่เก็บ ซึ่งคนจำนวนมากพอผ่านเข้าสู่ช่วงนี้มักจะเลิกรา เพราะไม่สามารถยอมรับในการกระทำ พฤติกรรม หรือวิธีคิด ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะโดยพื้นฐานแล้วมนุษย์ทุกคนย่อมรักตัวเอง และย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง เมื่อรู้สึกว่าคนนี้ไม่ใช่คนที่ดีที่สุดก็จะเบื่อหน่าย และตีตัวออกห่าง

ส่วนระยะสุดท้ายเรียกว่า Live Long Friendship คือ ความผูกพัน และความเป็นเพื่อนสนิท เป็นรักแท้ ซึ่งคู่ที่จะก้าวมาสู่จุดสูงสุดของความรักนี้ จะต้องอาศัยองค์ประกอบความรักทั้ง 6 ทำให้มีวุฒิภาวะ และมีความเติบโตทางจิตวิญญาณ Spiritual Growth และซึ่งวัยรุ่นที่รักแล้วเลิก เพราะว่ายังไม่มีวุฒิภาวะพอในการที่จะไปแก้ปัญหา ลดความขัดแย้ง หรือไปสร้างความผูกพัน เพราะบางทีเราไม่เข้าใจกระบวนการความรัก มันก็จะทำให้เกิดปัญหาว่าทำไม รักแล้วต้องเลิกกัน

ทีนี้เรามาดูองค์ประกอบที่จะทำให้ความรักยืนยงและยืนยาวกัน ซึ่งมีอยู่ 6 ประการ คือ

1. การอุทิศตนต่อกัน คือ ความรับผิดชอบในหน้าที่ของกันและกัน เมื่อมีปัญหาก็รับผิดชอบร่วมกัน ไม่โทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งว่าใครผิด รวมถึงการปกป้องความสัมพันธ์ของคู่ของตัวเองไม่ให้เกิดการสั่นคลอน

2. ความผูกพัน ความสนิทสนมกันแบบลึกซึ้ง มีความเห็นอกเห็นใจ รับรู้ถึงความรู้สึกนึกคิดของอีกฝ่ายหนึ่ง มีความเข้าใจกัน ร่วมรับรู้ถึงความรู้สึกทุกข์ ร่วมรับรู้ถึงความรู้สึกสุข


3. มีความใกล้ชิด และความห่างกันพอสมควร ใกล้ชิดในระยะที่รู้สึกว่าเราพึ่งพาคนนี้ได้ เวลาเราเจ็บไข้ได้ป่วย เราพึ่งพาคนนี้ได้ แต่ห่างกันพอให้ได้เป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่เป็นเนื้อเดียวกันไปเลย เช่น แต่งงานไปเราต้องเป็นหนึ่งเดียว คือเราต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง ใกล้ชิดกับห่างให้มันเหมาะสมและพอดี

4. สื่อสารกันแล้วแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างกันว่าจะทำอย่างไร

5. มีความอดทน ซึ่งต้องใช้ความรักและการให้อภัย แต่ถ้าอดทนแล้วเก็บสะสมเอาไว้ มันจะกลายเป็นความโกรธ ความข้องใจ สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการแก้แค้น แต่ถ้าเราอดทนแบบให้อภัยด้วยความรัก เรื่องจะจบได้ง่าย และไม่มีการรื้อฟื้นพูดถึงอดีตความหลังให้ฝังใจ

6. ควรมีความหลงใหล และชื่นชมในตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน

แม้ว่าเรื่องราวของความรักจะมีหลายมุมหลายด้าน เกี่ยวกับทุกเพศทุกวัย อาจจะเป็นความรักต่อตัวเอง รักต่อคนอื่น รักลูก รักเพื่อนร่วมงาน แต่หากได้มีการเรียนรู้และทำความเข้าใจพื้นฐาน ธรรมชาติของความรัก เราจะมองเห็นโลกของความรักในมิติที่กว้างขึ้น และสามารถพัฒนาความรักให้เติบโตไปได้ หรือหากเกิดปัญหา ก็จะไม่รุนแรงหรือร้ายแรงเกินไป

"ถ้าพื้นฐานความรักเราดี ก็จะทำให้เวลาที่เราเจอความรัก เราไม่ทุกข์มากจนทำร้ายชีวิตตัวเอง หรือทำร้ายชีวิตคนอื่น เพราะถ้าเราเข้าใจพื้นฐาน เราจะรู้ความเป็นมาเป็นไปของความรัก แต่เราบอกไม่ได้หรอกว่า หากเรามีพื้นฐานที่ดีแล้ว จุดสิ้นสุดจะอยู่ที่ไหน ความรัก มันก็ต้องมีทั้งมุมที่ดี และมุมที่ไม่ดี เพียงแค่ว่า ถ้าฐานเราแน่น เวลาเราล้ม เราก็ไม่ล้มทั้งตึก หรือล้มเราก็ไม่เจ็บมาก หรือเวลาที่ลมพัดก็จะไม่ล้มเลย อาจจะแค่โยกเยกเหมือนต้นไผ่ ถ้าฐานเราดี ก็ไม่ล้มง่าย ๆ ค่ะ"

ขอบคุณข้อมูลจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

จากคุณ	: ~Yimlamai~
เขียนเมื่อ	: 20 ก.พ. 55 16:39:36