ความคิดเห็นที่ 1 ที่สำคัญ เมื่อวาน คุณภรรยา ก็ส่งลิงค์ กระทู้นี้มาให้ดูอีก ทำเอาปาดเหงื่อ เลย http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q11731148/Q11731148.html <<<<<<< ของขวัญวันเกิดจากสามี (ทำเอาซึ้งงงง)>>>>>>> จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 14:14:04 A:183.89.27.249 X: TicketID:349933

ความคิดเห็นที่ 2 เราว่ามันเป็นของฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็น เก็บเงินซื้อเครื่องเพชรดีกว่า สามีเราไม่เคยซื้อกระเป๋าพวกนี้ให้ค่ะ ส่วนมากให้เป็นเครื่องประดับแทน ปล. ถ้าไม่ลำบากใจ ก้อให้เค้าซื้อไปเถอะค่ะ ความสุขส่วนตัวเค้า จากคุณ : ดีใจที่เกิดเป็นคนไทย เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 14:24:02

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้าจะให้ราคาไม่ตกต้องพวก ชาแนล แอร์เมส อะไรแบบนี้นะคะ อย่างเราอยากได้ก็จะกันเงินของเราไปซื้อเอง ขนาดเรากันเงินของเรา สามียังบ่นเลย บอกว่า กระเป๋าพลาสติคสวยตรงไหน ไม่สวยแต่มีคุณค่าทางใจ 555 จากคุณ : pluswipa เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 14:31:04

ความคิดเห็นที่ 4 เอ่อ  มีสักใบสองใบก็พอค่ะ ของถ้าเป็นมือ2ยังไงราคาก็ตกค่ะ มีเยอะก็ดูแลลำบากเราเลยขายต่อเพื่อนไปหลายใบละ 5555555++ จากคุณ : กิ่ง&อ๊อด เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 14:33:50

ความคิดเห็นที่ 5 ซื้อเป็น Hermes Chanel เหมือนทีุ่คุณ pluswipa บอกจะดีกว่า เราว่า louis ของก็อปเยอะอ่ะคะ จากคุณ : ดากานดา (Phewa) เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 14:43:53

ความคิดเห็นที่ 6 . . ยกมือคัดค้านประเด็นเดียวค่ะ ว่า ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่อยากมีกระเป๋าพวกนี้ คือ มีสติปัญญาซื้อเดือนละหลายใบด้วยค่ะ แต่ไม่เห็นความสำคัญของมันเลย ก็เลยไม่เคยเหลือบแล แม้จะไปเดินในร้านที่ปารีส ก็ยังรู้สึกว่า มันสวยตรงไหนเนี่ย ไร้สาระมากๆ แต่ไม่ว่านะคะ ถ้าใครจะซื้อ เพียงแค่จะบอกว่า ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนจะอยากได้เล้ยยย พับเผื่อยสิ จากคุณ : ลำเนา เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 14:44:50

ความคิดเห็นที่ 7 ผมดูแล้ว มันก็ไม่ใช่กระเป๋าหนังซะด้วย เป็นผ้ามาพิมพ์ลาย ราคาหลักหมื่น ผมก็เสียดายอยู่เหมือนกัน แต่ภรรยาบอกว่า ที่โรงเรียนลูกแม่ๆ ส่วนใหญ่เค้าก็สะพายหลุยส์ หิ้วหลุยส์กันทั้งนั้น เวลามีงานโรงเรียน (เป็นโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัด) ก็อยากมีบ้าง ที่สำคัญ มันแพงกว่าค่าเทอมลูกซะด้วยสิ อีกอย่าง ผมก็ประหยัดใช้จ่ายมาตลอด รถ เราก็ขับแค่นิสสันราคาไม่กี่แสน ตอนนี้ก็อายุ 7 ปีแล้วก็ไม่ยอมเปลี่ยน อีกคันก็กระบะไว้ขนของ อายุปีกว่าๆ แล้วภรรยาเค้าจะหิ้วหลุยส์ไปทำไมให้เค้าสงสัยว่าของจริง/ปลอมไปทำไม ผมล่ะงง แถมยังให้ซื้อให้ทุกๆ ปีอีก เฮ้อ จะอธิบายเค้ายังไงดีล่ะเนี่ย จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 14:44:53 A:183.89.27.249 X: TicketID:349933

ความคิดเห็นที่ 8 คุณลำเนา ถ้าเป็นอย่างที่คุณลำเนาบอกมา ผมค่อยโล่งใจหน่อย นี่กดดันกันมานาน เพื่อนๆ ที่เค้าคบอยู่ก็มีกันหมด นี่ขนาดต่างจังหวัดนะครับเนี่ย รายได้ก็มาจากผมคนเดียว พ่อแม่ผม หรือแม่แต่น้องสาว ผมก็ยังไม่เคยซื้อกระเป๋าหลักหมื่นให้เลย จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 14:48:09 A:183.89.27.249 X: TicketID:349933

ความคิดเห็นที่ 9 พูดตรง ๆ นะคะ เราก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน อยากได้มากกกกกกกกกก พอสบโอกาสไปยุโรปด้วยกัน สามีถอยให้เลยทีเดียว 7 ใบ ทั้ง LV GUCCI  ยังไม่รวมพวกที่มีอยู่ที่บ้านอีก รวม ๆ แล้วซื้อรถได้คันนึงเลย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เลิกค่ะ เลิกซื้อ เลิกอยากได้ พอมันมีแล้ว เลยเกิดความไม่อยากได้ บางใบ ยังไม่ได้ใช้เลย พอจะขายต่อ ก็นั่งน้ำตาตกใน ราคาขายตกเกินครึ่ง สภาพเนี่ย 98 % ขึ้น เลยตัดใจขายไม่ได้ ปล่อยมันนอนอยู่ในตู้นั่นแหละ เดี๋ยวนี้ ใครมาเห็นเราใช้ LV ทุกคนนึกว่าเราใช้ของปลอม เอาขึ้นรถ ก็เอาขาเขี่ย ๆ ไว้ใต้เท้า เหยียบบ้าง โยนบ้าง ( แต่ทนเป็นบ้า ) หากย้อนเวลาไปได้ จะเปลี่ยนเป็นทองค่ะ จะซื้อทองเก็บไว้ดีกว่า ถึงแม้ไม่ใส่ มันก็คือสมบัติค่ะ ต่อจากนี้เป็นต้นไป เพชรก็จะซื้อเก็บไว้แค่ให้ลูก 2 คน นอกนั้นจะเก็บเป็นทองแล้วค่ะ ปีละ บาท สองบาท ก็พยายามจะเก็บไว้ค่ะ จะไม่ซื้อแล้วพวกของฟุ่มเฟือย กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา ป.ล. เบรคเมียได้ ก็เบรคเถอะค่ะ จากคุณ : ajh เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 14:49:11

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ ดากานดา (Phewa) Hermes Chanel ที่คุณแนะนำนี่ เท่าที่ผมรู้ก็ 6-7 หลักนะครับนั่น ผมยิ่งสยองไปกันใหญ่ อีกอย่าง ภรรยาผมไม่ได้ทำงาน ไม่ได้พบปะผู้คน นอกเสียจากตอนไปรับ-ส่งลูกเท่านั้นเอง งานสังคมก็ไม่ค่อยมี เพราะเค้าเป็นคนกรุงเทพฯ ไม่ได้เป็นคนพื้นที่ โอกาสที่จะใช้มันก็น้อยมากๆ อยู่แล้วล่ะ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 14:50:49 A:183.89.27.249 X: TicketID:349933

ความคิดเห็นที่ 11 ถามเค้าดิ รู้ได้งัยว่าทุกใบเป็นของจริง ปล. อ่านสัมภาษณ์ md ของ แอลวี มา เค้าบอกว่ามั่นใจว่่าที่ถือ ๆ กันเกลื่อน 99 เปอร์เซนต์ เป็นของปลอมค่ะ ปล. แนะนำซื้อ แอกซ์เมชเหมือนกัน รอคิวเป็นปีเอง จากคุณ : ดีใจที่เกิดเป็นคนไทย เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 14:52:52

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านหัวข้อกระทู้ต้องแอบยิ้มเลยค่ะ กระเป๋า LV ไม่ได้เป็นของสะสมที่มีมูลค่าเพิ่มนะคะ เป็นแบรนด์ระดับ hi-end ที่ราคากลางๆ ไม่ได้สูงเวอร์มากมายนัก นักศึกษา คนทำงานใช้กันทั่วไปค่ะ ถ้ามีเงินเหลือใช้ รายได้เดือนละตั้งหกหลัก ก็ซื้อให้เธอเถอะค่ะ ปีละใบเอง ไม่ได้มากมาย ปีไหนไม่ค่อยมีเงินก็ไม่ต้องซื้อก็ได้ ถ้าซื้อให้แล้วเธอมีความสุขก็ซื้อให้เธอเถอะค่ะ คนเป็นภรรยาทำงานหนักเลี้ยงลูก ทำงานบ้าน อะไรนิดๆ หน่อยๆ นี่ถ้าทำให้ภรรยาแล้วเค้ามีความสุขก็น่าจะทำนะคะ จากคุณ : Bigcrab เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 14:57:45

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ ajh ครับ ผมอยากเบรคเต็มที่เลยครับ เพราะสองใบที่ซื้อให้ รวมกันก็ สามหมื่นกว่าแล้ว มาดูตัวเอง นาฬิกาที่ผมใช้ยังไม่ถึงสามพันเลย นี่ก็บ่นอยากไปยุโรปอีก อยากพาลูกไปsummer อีก เฮ้อ แต่กลัวว่าถ้าเราพอมีแล้วไปขัดไม่ตามใจเค้า เค้าจะหาว่าเราไม่ดูแลเค้าให้ดีอีก เปรียบเทียบกับน้องสาวของเค้าเองให้ฟังว่ามีกระเป๋าแบรนเนมเยอะมากเพราะสามีซื้อให้ แล้วที่หนักๆ ก็คือ ขู่จะหอบลูกไปอยู่กรุงเทพ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 14:59:07 A:183.89.27.249 X: TicketID:349933

ความคิดเห็นที่ 14 เค้าอยากได้ก็ให้เก็บเงินส่วนตัวซื้อเองสิคะ จากคุณ : ต๋องศักดิ์ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 14:59:52

ความคิดเห็นที่ 15 ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ถ้าเป็นเงินส่วนตัวของภรรยา จะซื้ออะไรก็ปล่อยไปเลยค่ะ แต่ถ้าเป็นเงินกองกลางที่ใช่ร่วมกัน ความคิดที่จะมี LV เพื่อเป็นทรัพย์สินนี่ "ปัญญาอ่อนมากๆค่ะ" LV มันก็แค่กระเป๋าแสดงฐานะกลางๆ เท่านั้นเองค่ะ ราคาตกตลอด ทำจาก canvas คุณก็รู้อยู่แล้ว เอาไปลงทุนอย่างอื่นเถอะค่ะ ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็ print กระทู้นี้ไปให้เธออ่านซะเลย เผื่อจะหูตาสว่างขึ้นมาบ้าง คนที่เล่นกระเป๋าเพื่อเป็นการลงทุนน่ะ รายได้เค้าเยอะกว่าหกหลักมากๆค่ะ สงสารคุณจังที่ต้องมาเจอคนคิดอะไรแบบนี้ จากคุณ : smallkid เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:00:48

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ Bigcrab ครับ ผมรายไ้ด้ แสนนิดๆ เองครับ ส่วนภรรยาผมไม่ได้ทำงานครับ งานบ้านก็ไม่ต้องทำ มีแม่บ้านทำให้ตลอด ลูกก็โตพอที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ทุกอย่างแล้ว หน้าที่หลักคือ รับ-ส่งลูก เท่านั้นเองครับ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:01:26 A:183.89.27.249 X: TicketID:349933

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ smallkid ครับ อันที่จริงผมเห็นด้วยกับคุณมากๆ ความเห็นโดนใจจริงๆ ผมก็ให้ภรรยาผมใช้จ่ายส่วนตัว เดือนละ 18000 ค่าน้ำมันต่างหาก ส่วนใหญ่เธอก็จะเอาไปซื้อเครื่องสำอางค์ เสื้อผ้าซะมากกว่า จะว่าไปเงินทั้งหมดมันก็มาจากผมคนเดียวนั่นแหละครับ ถ้าเอากระทู้นี้ให้เธอดู กลัวเธอจะพาลน้อยใจแล้วกลายเป็นเรื่องใหญ่อีก กดดัน จริงๆ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:06:03 A:183.89.27.249 X: TicketID:349933

ความคิดเห็นที่ 18 เราว่าที่เค้าอยากได้ เพราะเอาไปอวดกันนะคะ ยิ่งถ้าทุกคนถือ เค้าก็คงอยากได้ อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ถามว่าพอมีแล้วเป็นยังไง ก็เฉยๆ อ่ะคะ แต่ตอนยังไม่ได้เป็นเจ้าของก็ทุรนทุราย เราว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนั้น ส่วนใหญ่นะคะ ไม่ใช่ทั้งหมด จากคุณ : pluswipa เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:07:40

ความคิดเห็นที่ 19 "มันเป็นกระเป๋าที่ผู้หญิงทุกคนในโลกใฝ่ฝัน" ^ ^ ดิชั้นคงเป็นผู้หญิงนอกโลกเลยไม่คิดใฝ่ฝ้นอยากได้ ! . จากคุณ : สวยสะพรึง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:07:58

ความคิดเห็นที่ 20 โห กำลังจะสอยมาอีกใบเหมือนกัน เป็นของขวัญให้ตัวเองในการอุ้มท้องลูกคนแรกให้สามี 555 มาอ่านเจอกระทู้นี้แล้วแอบละอายใจ อิอิ จริงๆ ไม่ใช่ของจำเป็นหรอกค่ะ แต่เป็นความสุขทางใจอย่างหนึ่ง เหมือนผู้ชายบางคนชอบสะสมนาฬิกาแพงๆ ไม้กอล์ฟ หรือเปลี่ยนรถบ่อยๆ ไรงั้นล่ะค่ะ คุณพ่อบ้านก็อาจจะต้องแอบสำรวจหน่อยว่า คุณภรรยามีฟุ่มเฟือยเรื่องอื่นหรือเปล่า อย่างเราจะไม่ซื้อแบรนด์เนมอย่างอื่นเลยนอกจากกระเป๋า (เสื้อผ้า รองเท้า ก็ซื้อตามห้างบ้านๆ ทั่วไป ต้องตอนเซลด้วยนะ) และหลายๆ ปีซื้อทีค่ะ ปีละใบนี่จัดว่าเว่อไปค่ะ ถ้าเขาอยากซื้อใหม่ทุกปี ก็ต่อรองว่าให้ขายของเก่ามาทำทุนเถอะค่ะ ซึ่งก็คงได้ไม่มาก (แต่ดีกว่าไม่ได้เลย) คือมันขายง่ายก็จริง แต่ราคาก็ตกพอควรนะคะ อยากสะสมเป็นทรัพย์สินต้องไปซื้อทองหรือเพชรนั่นแหล่ะค่ะ ไม่งั้นคุณลองบอกภรรยาบ้างสิ ว่าอยากเปลี่ยนรถยุโรปทุก 2 ปีเหมือนกัน ดูซิเขาจะว่าไง 555 จากคุณ : BJgal เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:10:07

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ pluswipa เค้าก็ได้ไปอวดแล้วใบนึง แต่จะให้กันงบไว้ซื้อให้อีกทุกๆ ปีนี่สิครับ ผมเซ็ง คุณ สวยสะพรึง ผมก็อยากให้ภรรยาผมคิดแบบคุณจริงๆ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:10:21 A:183.89.27.249 X: TicketID:349933

ความคิดเห็นที่ 22 ของเราซื้อเฉพาะโอกาสพิเศษ แบบ ครบรอบ 5 ปี อ่ะค่ะ (แต่ให้ตอนครบปีที่ 4 เพราะเราขอล่วงหน้า 555 ) แล้วสะมีเปรยๆ ไว้ว่า ครบ 10 ปี ค่อยให้อีกใบ เราก็โอเคนะ กิเลสน่ะมี อยากได้ก็อยาก แต่เห็นใจคนทำงานหาเงินมากกว่า เก็บไว้ให้ลูกเรียนดีกว่าเยอะ จากคุณ : cheery (cheerydoll) เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:11:56

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ BJgal ครับ กว่าผมจะหาเงินมาได้ก็เหนื่อยเอาการ ผมเลยไม่เคยใช้จ่ายซื้อของฟุ่มเฟือยใดๆ เลย กินอยู่ประหยัดมาตลอด อีกเค้ารู้นิสัยผมดี ว่าผมค่อนข้างมัธยัสถ์ คงไม่ทำแบบนั้นแน่ๆ จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:13:15 A:183.89.27.249 X: TicketID:349933

ความคิดเห็นที่ 24 จริงๆแล้ว แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนนะค่ะ แต่ก็แปลกเหมือนกันสามีเค้าก็อยากให้เรามีเหมือนๆคนอื่นบ้างกระเป๋า LV เค้าก็สนับสนุนให้ซื้อนะค่ะ แต่ใบแรกซื้อเองค่ะจากโบนัสให้เป็นของขวัญตัวเอง ใบต่อมาสามีซื้อให้ สามีเงินเดือนพอๆกับ จขก.ค่ะ เค้าคงคิดว่าถ้าเราใช้บ้าง (หลุยส์ก็ถือว่าเป็นแบรนด์เนมที่ราคาถูกนะค่ะ ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นๆ คือคนทั่วๆไปใครๆก็ใช้ได้) เราดูดีก็จะเสริมให้เค้าดูดีด้วยนะค่ะเราคิดแบบนี้นะค่ะ แต่ไม่ได้แปลว่าฟุ่มเฟือยนะค่ะ เพราะเราก็มีอย่างละใบสองใบสำหรับเราก็พอแล้วค่ะ มีแล้วก็เท่านั้นจริงๆ ตอนไม่มีก็อยากได้มากๆๆ พอมีแล้วก็เฉยๆ มันก็คือกระเป๋า และไม่ได้คิดว่าจะซื้อทุกปีนะค่ะยิ่งมีลูกแล้วด้วยคงนานๆทีในโอกาสพิเศษๆอะไรแบบนี้ค่ะ ตอนนี้ซื้อของเตรียมให้ลูก ก็ได้พระเจ้าหลุยส์สักสองใบแล้วค่ะ ฝากประจำไว้ให้ลูกดีกว่าได้ดอกเบี้ยด้วย ยิ่งเค้าโตยิ่งต้องใช้จ่ายเยอะพอแล้วค่ะแบรนด์เนม ตอนนี้เรายิ่งไม่ได้ทำงานเหมือนแต่ก่อนไม่รู้จะถือไปไหนบ่อยๆ *แก้คำผิด และเพิ่มเติม ^^ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 55 20:20:38 จากคุณ : Nisa Beach เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:13:54

ความคิดเห็นที่ 25 คุณจขกทคะ เราว่ามันผิดตั้งแต่ที่เธอไม่ต้องทำงาน พอนานๆเข้ากลายเป็นว่า เธอไม่รู้ค่าของเงินไปแล้ว เรื่องแบบนี้ต้องคุยกันค่ะ เราว่าภรรยาคุณน่าจะ "คิดได้" มากกว่าจะเอากระเป๋าไปอวดใครนะคะ แค่นั้นมัน "ตื้น" เกินไปจริงๆค่ะ ถ้าคุณทำอะไรไม่ได้ เพียงเพราะกลัวเธอน้อยใจ ก็ก้มหน้ารับชะตากรรมไปค่ะ นานวันเข้ารับรองได้ว่า หนักข้อกว่านี้แน่นอนเลยค่ะ รีบๆคุยซะ ตอนที่ยังพอคุยได้ น่าจะช่วยให้อะไรๆดีขึ้นได้บ้าง เราว่าคุณน่ะ กลัวเธอมากเกินไปค่ะ แค่เรื่องแค่นี้ก็กลัวงอน กลัวเอาลูกไปกรุงเทพ... ขอโทษนะคะ อย่าหาว่าเราพูดแรงเลย... อย่างภรรยาคุณจะเอาปัญญาที่ไหนเลี้ยงลูกเองน่ะ งานการก็ไม่มีทำ สมองก็กลวงซะขนาดนั้น ถ้าไม่เกาะใครกินก็คงไม่มีปัญญาทำอะไรหรอกค่ะ เราว่าคุยกันด้วยเหตุผลเถอะนะคะ ดีกว่าคุณต้องมาแบกทุกอย่างคนเดียว ครอบครัวเดียวกัน ก็ต้องคุยกัน ปรึกษากันสิคะ สู้ๆนะคะ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 55 15:14:47 จากคุณ : smallkid เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:14:02

ความคิดเห็นที่ 26 ในฐานะที่เป็นผู้หญิง อยากจะบอกว่า ไม่เคยใฝ่ฝันถึงกระเป๋า LV เลย ไม่เคยคิดอยากได้ อยากมี อยากใช้... สำหรับเรา กระเป๋าผ้า กระเป๋า 199.- ก็ใส่ของได้เหมือนกัน... ไม่อยากบอกว่า...ภรรยาคุณนี่ ออกแนวงี่เง่านะเนี่ย แค่ไม่ซื้อกระเป๋า LV ให้ จะหอบลูกหนี เอาใจช่วยให้ชีวิตครอบครัวไปรอดนะคะ.... จากคุณ : PP-จัง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:15:37

ความคิดเห็นที่ 27 เพิ่งถอยชาแนลมาใบนึง โดนบ่น กระแทกแ ดกดันทุกวันอ่ะ   ตอนนี้เพื่อนๆ เราไม่ซื้อแล้วหลุยส์  ต้องชาแนลคะ ปีที่แล้วเพื่อนเราซื้อ 80000กว่า ปีนี้เป็นแสนกว่าแล้ว ขายก็ไม่ขาดทุนอ่ะ  แต่หลุยส์นี่ ขาดทุนแต่สบายใจ 555 เราก็มีหลายใบเหมือนกัน แต่ตั้งแต่มันขึ้นราคาปีที่แล้ว เราไม่กล้าซื้อแล้ว ไม่ไหว แพงเกิน เพิ่มอีกนิดได้ชาแนลแล้ว ปล. เราซื้อด้วยเงินเราเองน้าาาาาา แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 55 20:36:56 จากคุณ : พี่สาวที่แสนดี เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:21:20

ความคิดเห็นที่ 28 จริงถ้าเป็นเงินที่คุณภรรยาหาเอง แล้วเอามาซื้อก็โอเค แต่ถ้าภรรยาไม่ได้ทำงาน แล้วจะซื้อหิ้วไปไหนอะเนี่ย เราก็เป็นคนชอบซื้อ แต่หลังๆตั้งแต่ท้องมา เราก็เลิกซื้อเพราะมันเป็นของใช้ฟุ่มเฟือย ที่ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรเลย หนักก็หนัก ตอนนี้ก็เก็บเงิน ไว้เพื่อลูกเพราะอีกหน่อย ค่าใช้จ่ายเขาก็คงไม่แพ้ว่า ซื้อ hermes กะ chanel ปีนึงได้หลายใบเลย เพื่อนเราก็โทรมายิกๆ บอกว่า ไม่เอาหรอจะบินให้คิดราคาตาม shop เลย เราก็อยากได้นะ น้อง chanel อะ แต่ก็ตัดใจ เพราะว่า ซื้อของใช้เตรียมไว้ให้ลูกแล้วประมาณน้องแนลใบนึง แถมยังซื้อไม่ครบด้วยนะเนี่ย -__-' จากคุณ : pook009 เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:30:50

ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อสมัยก่อนนู้น...นน.....นานมาแล้ว เราเคยปลื้ม LV มากๆ แต่หลังจากเห็นพวกพนักงานล้างห้องน้ำถือนี่เราเปลี่ยนใจเลยคะ่ ของปลอมเยอะจริงๆ จากคุณ : symbolic เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:31:10

ความคิดเห็นที่ 30 ฟุ่มเฟือยมาก รายได้แสนนึงต่อเดือนไม่เยอะหรอกนะคะ บอกเมียคุณได้เลย เก็บเงินค่ากระเป๋า ไปส่งเป็นเบี้ยประกัน ไปซื้อเป็นทอง อะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้าไม่รู้  น้ำจะท่วม โรงงานจะปิด เศรษฐกิจจะร่ม ด้วยความเคารพ  เกิด จขกท  ไม่ได้ทำงานขึ้นมา  เงินแสน มันก็ไม่ ศูนย์ เพราะมีบุญเก่ากิน คือเป็นของขวัญ นาน ๆ ใบนึงอะไรงี้พอรับไหว  แต่เหตุผลที่ซื้อเพราะแม่ของเพื่อน ๆ ลูกใช้กัน เลยต้องมีบ้างนี่  ไม่ไหวนะคะ  จะสอนลูกยังไงเนี้ยยยยยย เกิดวันนึงลูกบอกว่า กลางวันนี้หนูอยากไปกินเข้าที่เชียงใหม่  ตกบ่ายไปกินน้ำส้มที่ภูเก็ตจัง   เพราะเพื่อนๆ หนูเค้าทำกันแบบนี้   แม่จะบอกเค้าว่าไง (อุ้ย แรงไปเปล่า)   คือเราต้องการจะบอกว่ามันไม่จำเป็น  เว้นแต่คุณมีเงินเหลือใช้ ใช้ทั้งชาติไม่หมด   จะซื้อมาถมที่  เราก็มิบังอาจไปห้ามปรามได้  แฮะๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 55 15:40:14 จากคุณ : InfernoST เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:39:38

ความคิดเห็นที่ 31 มันเป็นความสุขทางใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผู้หญิงค่ะ ถ้าไม่เดือดร้อนมาดก็ยอม ๆ ไปเถผอะค่ะ เดี๋ยวก็เบื่อเอง อย่างเราใบแรกอยากได้มาก ซื้อเองก็ได้ แตาให้สามีซื้อให้มันคุยกับิค้าได้ว่าแฟนให้ พอใบที่  2 ขออีก ไม่ให้ ซื้อเองก็ได้วะ กะจะซื้อทุกปีเลย แต่พอมี 2 ใบก็รู้สึกพอแล้ว. แหะ แหะ แต่กะว่าจะเก็บเงินไว้ซื้อ chanel เหมือนกัน อยากได้สักใบดับความอยาก แต่รอให้การเงินลงตัวกว่านี้ก่อนค่ะ จากคุณ : black onyx เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:41:08

ความคิดเห็นที่ 32 กลับกันนะคะ เราไม่อยากได้ แต่สามีอยากซื้ออให้ เหตุเพราะเห็นเมียเพื่อนมี เลยอยากให้เมียตูมีบ้าง ก็เลยไม่อยากขัดใจอยากซื้อก็ซื้อ สุดท้ายเราไม่ค่อยใช้ค่ะ ใช้เป๋าผ้าที่เย็บเองดีกว่า จากคุณ : jazz_swn เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:42:45

ความคิดเห็นที่ 33 แล้วแต่คนชอบเนอะ ดูยังไงก็ไม่เคยเห็น LV สวยเลยซักรุ่น คือถึงเห็นว่าสวยก็ไม่มีตังค์ซื้ออยู่ดี จะว่าไป Loewe Amazona ก็คลาสสิคดีนะคะ ลองให้คุณภรรยาเปลี่ยนยี่ห้อบ้าง ทู้แนะนำที่คุณมาแปะ เข้าไปอ่านละ สามีทำงั้นเราด่าตายเลย ซื้อของแพงไร้สาระให้เนี่ย ไม่รู้สิ กระเป๋ามันก็แค่กระเป๋าอะ จะต้องอยากได้อะไรมากมาย อย่างภรรยาคุณนี่แบบเวอร์ม้ากกกก  คือถ้าไม่เดือดร้อนก็ซื้อเถอะค่ะ รายได้คุณจะ หกหลักหรือมากกว่า ไปตลอดรึเปล่าล่ะคะ ถ้ามันมีขึ้นมีลง จะเอาเงินมาซื้อของไร้สาระทำไม ถ้าเรื่องมากนัก ไล่ไปหาเงินอง แล้วจะซื้อกี่สิบใบก็ซื้อเหอะ มีอยู่คนนึง เธอชอบ LV มาก แต่ซื้อเฉพาะ limited edition นะคะ รุ่นคนถือเยอะๆ ไม่ซื้อค่ะ แล้วก็มีเยอะมาก แต่รู้สึกว่าสามีเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟรึไงนี่แหะ คือซื้อไงก็ไม่เดือดร้อนน่ะ จากคุณ : lekumi เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:43:57

ความคิดเห็นที่ 34 เข้ามาอ่านแล้วก็จากไป  อันเนื่องด้วยไม่มีวาสนาได้ใช้กะเขา แค่ใบละห้าร้อย ยังคิดหนัก เฮ้อ จากคุณ : benjyja เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:44:02

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นด้วยว่ารายได้แสนนึงเนี่ย กระจิ๊บจ้อยมากนะ สำหรับการศึกษาลูก หากว่าไม่เก็บเงินให้ดี ยิ่งเป็นรายได้ทางเดียวด้วยแล้ว ยิ่งอันตราย ของขวัญให้เมียได้มันก็ดี แต่มาขอทุกปี ด้วยเหตุผลงี่เง่าที่ว่า เห็นคนอื่นหิ้ว แล้วฉันอยากได้บ้างเนี่ย ไม่เมคเซ้นเลย ปรามเมียบ้างก็ดีนะ ชีวิตคนไม่แน่นอน จากคุณ : rain&ant เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 15:48:26

ความคิดเห็นที่ 36 รายได้ครอบครัวเราเดือนนึง หลัก7 แต่เรามีกระเป๋า LV แค่ใบเดียว ชีวิตเราไม่จำเป็นจะต้องไปแขวนอยู่บนแบรนด์เนม ที่ซื้อ LV ก็เพราะชอบและตัดใจซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้กับตัวเองที่ทำงานหนัก ทุกวันนี้เรากับสามี ทำะธุระกิจส่วนตัว ประหยัด อดออม เพื่อสร้างครอบครัว และสร้างอนาคตให้ลูกคะ ******โดยส่วนตัวเราคิดว่า คนเราถ้าหาเงินมาได้ด้วยตัวเอง เราจะรู้คุณค่าของเงินที่เราหามาได้ว่ามันยากแค่ไหน การประหยัด อดออมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดคะ ****** แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 55 16:03:55 จากคุณ : ย้งยู่ยี่ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 16:02:19

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้าภริยาคุณอยากได้ ให้เค้าเก็บเงินจาก 18000 ที่คุณให้รายเดือน ซักเดือนละ 1000 ปีนึงก็ได้ 12000 ที่เหลือคุณก็ช่วยเค้าออก ถึงเวลาจริงๆ เค้าอาจจะเอาเงินไปซื้อของอย่างอื่นที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ มากกว่ากระเป๋าที่เค้าจะสะพายไปอวดคุณแม่ๆ เวลาไปรับลูกก็ได้ค่ะ เงินเดือนละแสน มันไม่ได้เยอะอะไรนักหนานะคะ ยิ่งถ้ามีลูกแล้วยิ่งต้องคิดถึงลูกก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ใช่คิดแต่ความสุขของตัวเอง ถ้ามีรายได้เดือนละล้านก็ว่าไปอย่าง จากคุณ : anata-oarichi-masu เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 16:12:35

ความคิดเห็นที่ 38 เราเป็นคนนึงที่ชอบถือกระเป๋าแบรนด์เนมนะคะ มี LV 2 ใบแล้ว ลองชอมมี 2 ใบ Coach มี 2ใบ แต่ใบ 199 กระเป๋าผ้า ตามตลาดนัดก็ถือนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับโอกาส สถานที่ที่จะใช้ แต่ทั้งหมดนั้นไม่เคยขอเงินสามีซื้อเลยคะ ทั้งๆที่สามีเราก็เงินเดือนหลักแสนเหมือน จขกท. เพราะเราว่าเค้าก็คงมีความคิดเหมือน จขกท. เราไม่อยากให้มานั่งบ่นนั่งว่าเรา ทั้งต่อหน้า และลับหลัง ซื้อเองใช้เอง สบายใจกว่าคะ เราอยากบอกแค่ว่า บางทีผู้หญิง อยู่บ้านเลี้ยงลูกไม่ได้แต่งตัว ก็เบื่อเหมือนกันนะคะ ของพวกนี้มันก็เป็นอะไรที่เป็นความสุขทางใจเล็กๆน้อยๆ ถ้าคุณซื้อให้ได้ก็ซื้อเถอะคะ อย่ามานั่งบ่นในทู้เลย มีเมียอยู่คนเดียว แต่ถ้าไม่ไหวก็คุยกันไปตรงๆ ว่าให้ในวาระโอกาสไหนบ้าง นานๆทีได้มั้ยจ๊ะเมียจ๋า ไรเงี้ยอ่ะคะ จากคุณ : ยัยจิ๋ว เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 16:17:22

ความคิดเห็นที่ 39 ถ้าซื้อให้คุณนายที่บ้านคงจะโดนด่าไปหลายวัน คุณเธอใช้แต่กระเป๋าซื้อที่ท่าพระจันทร์ จากคุณ : ความสุขเล็กๆ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 16:19:16

ความคิดเห็นที่ 40 สำหรับเรามันเคยเป็นของที่เรารักและรู้สึกให้คุณค่ากับมันค่ะ ขอสามีซื้อให้ก็ซื้อสะสมไว้ตามวันพิเศษต่างๆจะอำนวย จนวันนึงที่เราท้อง เราไม่สนของแบรนด์เนมราคาแพงๆเป็นหลายหมื่นอีกเลยค่ะ เพราะตอนนี้เรากำลังจะมีแบรนด์เนมเป้นของตัวเองแล้ว ^______^ อยากอุ้มลูกนานๆมากกว่าถือกระเป๋าแพงๆอีกค่ะ ท่านหลุยส์ทั้งหลายของเรา และของสะสมอีกมากมายก็ถูกนำไปเลย์หลัง แปรเป็นเงิน เก็บทุกบาทเลยค่ะ บอกสามีไปเหมือนกันว่า ต่อไปนี้ถ้าเราจะซ์อของขวัญให้กันและกันจริงๆ ซื้อทองกันดีกว่าเนอะป๊า สลึงนึง สองสลึง บาทนึง ก็ตามเงินในกระเป่าจะอำนวย เก็บไปทีละนิดละหน่อย ซื้อมาคงไม่ได้เอามาใส่ เราคงไม่ใส่ทองหยองเต้มตัวหรอก แต่คิดว่าถ้าวันนึงเมื่อถึงคราวจำเป็นมันจะกลายเป็นเงินให้เรานำมาใช้จ่ายได้ กระเป๋าใบละหลายหมื่นขายมือสองเหลือแค่ครึ่งนึง เสียดายเงินเปล่าๆ เป็นสิ่งที่เรากับสามีคุยและเห็นพ้องต้องกันเมื่อเรารู้ว่าเราสองคนกำลังจะมีลูกค่ะ ^___^ ทุกวันนี้เห็นคนหิ้วกระเป๋าแบรนด์เนมสวยๆ ความรู้สึกอยากครอบครองแบบเมื่อก่อนไม่เคยมีอีกเลย มีแต่แอบเสียดายเงินแทนเจ้าของ (ไปยุ่งกับเงินชาวบ้านอีกแหนะ =_=") จากคุณ : nuunion เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 16:23:33

ความคิดเห็นที่ 41 เป็นกระเป๋าที่อิชั้นไม่เคยคิดจะซื้อเลยอ่ะ เสียดายเงิน เอาไปซื้อทองยังจะดีกว่าอีก แน่ใจหรอว่าภรรยาคุณอยากซื้อไว้เกร็งกำไร อิชั้นอ่านๆดูแล้วอยากซื้อไปเกทับเพือน หรืออ่านกระทู้นั้นแล้วตาลุกอยากให้สามียอมแบบนั้นมั้งซะอีก ไร้สาระ ละขอยืนยังมันไม่ใช่กระเป๋าที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันค่ะ!! จากคุณ : หนมจีนเส้นหนึบ (kkasemos) เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 16:23:46

ความคิดเห็นที่ 42 ปกติจะซื้อเองค่ะถ้าอยากได้ แต่ไม่ได้ซื้อ LV ชอบยี่ห้ออื่นมากกว่าค่ะ เรื่องราคาตก / ราคาขายต่อ / ซื้อเป็นทรัพย์สิน ฯลฯ  คือมันไม่ใช่เลยค่ะ กระเป๋าซื้อมาใช้ถือ ใส่ของ ก็ใช้แค่ว่ามันเป็นแค่กระเป๋าเท่านั้นเองค่ะ เราซื้อมาใช้ก็ใช้จริง ๆ ไม่ได้อุ้มเหมือนลูก กลัวเปื้อน กลัวตากฝน นั่นนี่ ถ้านอยแบบนั้น ก็คงไม่ใช้ดีกว่าคะ เครียดเปล่า ๆ ^^" เราชอบดีไซน์สวย ๆ กับคุณภาพการตัดเย็บของมันก็แค่นั้นเอง เราไม่ตามแฟชั่นค่ะ กระเป๋าจะซื้อแค่รุ่นคลาสิกใช้ได้นาน ๆ คุณเป็นคนหารายได้เข้าครอบครัวคนเดียว อันนี้เสี่ยงไปเปล่าคะกับของฟุ่มเฟือย ค่าเล่าเรียนลูก ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ประกันต่าง ๆ เงินออม ฯลฯ แค่นี้ก็หนักแล้วนะคะ สามี ภรรยาควรช่วยกันค่ะ ทั้งงานนอกบ้านในบ้าน ถ้าช่วยหาเงินไม่ได้ ก็ควรช่วยเก็บ ช่วยประหยัด แต่ถ้าอยากได้  อยากซื้ออะไรมากมายต้องช่วยกันหาเพิ่ม ช่วยกันสร้างค่ะ จากคุณ : BIRKIN SEVEN เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 16:23:51

ความคิดเห็นที่ 43 ความคิดเรานะคะ มันงี่เง่าสุด ๆ ค่ะ คนอื่นไม่ได้มาหาให้เรากินนะคะ ถ้าคุณไม่เก็บตอนนี้ อนาคตข้างหน้าไม่แน่นอน สมมตินะ ถ้าคุณเป็นอะไรขึ้นมา ภรรยาคุณจะดูแลลูกคุณได้มั้ยเนี่ย ควรตักเตือนให้สำนึกซะบ้างนะคะ   สามี  มีหน้าที่ดูแลให้สุขสบายก็จริง แต่คนที่เป็นคู่คิด ต้องคิดเสมอว่า อะไรควรจ่าย ไม่ควรจ่าย อันไหนจำเป็น ไม่จำเป็น ถ้าคิดไม่เป็น คุณต้องเพิ่มรอยหยักในสมองให้แล้วหล่ะค่ะ จากคุณ : Nongsea เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 16:28:10

ความคิดเห็นที่ 44 เราว่า ตอนนี้เป็นหลุยส์ปีละใบ อีกหน่อยจะเป็นยี่ห้อแพงขึ้นไปเรื่อยๆ อิอิ เพราะเบื่อหลุยส์แล้ว ^^ เราว่าถ้าไม่คิดอะไรมาก ถือเป็นของขวัญให้ภรรยาปีละครั้ง ก็น่ารักดีนะคะ (แต่อาจจะต้องจำกัดงบสักหน่อย) จากคุณ : pinkybird เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 16:29:20

ความคิดเห็นที่ 45 ผู้หญิง ถือว่าเป็นเพศที่หวั่นไหวไปกับสิ่งสวยๆงามๆ แฟชั่นต่างๆได้ง่ายๆค่ะ....สังเกตุมั๊ยคะว่า พวกโฆษณาการตลาดต่างๆจะเน้นไปที่ผู้หญิง / วัยรุ่น / เด็กเป็นหลัก...เพราะชวนเชื่อให้อยากซื้อได้ง่ายมากๆ...ดังนั้น ก็คงไม่แปลกที่ผู้หญิง (ส่วนหนึ่ง) จะหลงกับของสวยงามพวกนี้   ถ้าภรรยาคุณวันๆเอาแต่เข้าเว็บพวก siambrandname หรือวันๆก็เม้าท์กับเพื่อนเรื่องกระเป๋าทั้งวัน....เชื่อเถอะค่ะว่า เขาจะ "หลอน" อยากได้กระเป๋ามากกกกก (เราเองก็เคยเป็น 5555) ....พยายามให้เขาอย่าหมกมุ่นเข้าเว็บ / สังคมเหล่านั้น...ถ้าเขาถอยห่างออกมาได้ เขาก็จะไม่เฝ้าหมกมุ่นเฝ้าฝันอยากได้มากมายอะไรอีก ทั้งนี้ คุณควรหาสิ่งอื่นมาให้เขาหมกมุ่นแทนค่ะ เช่น อาจตั้งเป้าว่า เราจะเก็บทองแท่งกันอย่างน้อยปีละ 20 บาท ....บางคนเราก็เห็นเขาก็ตั้งใจไปก่อหนี้เพิ่ม เช่น ซื้ออสังหาฯ เพราะการที่เรามีหนี้เพิ่ม จะทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆได้มากขึ้นค่ะ....แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พวกทรัพย์สินต่างๆเหล่านี้ ทอง / อสังหาฯ แฟนคุณคงไม่สามารถเดินถือไปอวดใครได้....ผู้หญิงหลายๆคนเลยไม่ค่อยสนใจที่จะซื้อทรัพย์สินเหล่านี้เท่าไหร่ ประเด็นสำคัญคือ อย่าให้ภรรยาเข้าใจว่า ถ้าเขาอยากได้อะไร แค่เอ่ยปากขอจากสามีอย่างเดียวก็ได้มาง่ายๆ เพราะนั่นจะทำให้เขาคิดว่าคุณสามารถจ่ายในเรื่องที่เขาอยากได้อยู่เรื่อยๆโดยไม่มีขอบเขต....คุณควรคุยกับภรรยาให้เคลียร์ค่ะ พูดให้ตรงประเด็นให้เขารู้ถึง ฐานะทางการเงิน และความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของครอบครัว เพราะคำว่า "ครอบครัว" นั้น...มันไม่ใช่แค่ให้คนใดคนหนึ่งเป็นหลักอย่างเดียว....แต่มันต้องอาศัยทุกคนในครอบครัวร่วมด้วยช่วยกันนะคะ....เงินเดือนหลักแสนนี่เดี๋ยวนี้ไม่ถือว่ามากมายอะไรแล้วนะคะ สำหรับสังคมยุคนี้....แถมใดๆในโลกล้วนอนิจจัง อย่าคิดว่าคุณจะมีรายได้หลักแสนนี้ตลอดไปค่ะ ....วันหนึ่งข้างหน้า คุณอาจมีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้ ใครจะรู้คะ.... จากคุณ : พี่เอเธนส์+น้องเอเชีย เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 16:32:22

ความคิดเห็นที่ 46 เข้ามากระทู้นี้แล้ว ก็ก้มหัวงุดๆ กลับไปใช้นารายา เหมือนเดิม 55555 จากคุณ : จุกแสบเหลือง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 16:36:21

ความคิดเห็นที่ 47 ไม่ได้เข้า Pantip มานาน แสนนนนนนนนนนนนนนนนนนน นาน นานมาก ๆ เพื่อนส่งทู้นี้ให้ดู อดเม้นท์ไม่ได้จริง ๆ อิฉันเป็นหญิง ล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่เคยอยากได้เลยค่ะ เงินทองเก็บไว้มีค่ากว่าเยอะ ถ้าสามีซื้อมาให้ มีหวังเป็นเรื่อง ไม่ใช่ว่าเงินมีไม่พอ มีพอ แต่เราต้องเป็นตัวอย่างการใช้เงินที่ถูกต้องให้ลูกดู รายได้คุณพ่อแสนนิด ๆ อาจจะดุเยอะนะคะ แต่ถามว่า มีเงินเก็บเท่าไร???? ส่วนตัวมองว่าดสนนิด ๆ ไม่ได้เยอะนะคะ จะต้องหาได้เท่านี้ไปอีกนานเท่าไร จึงจะมีเงินพออัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึันทุกปี มีประกันชีวิตไม๊ เงินเก็บเพียงพอไม๊หากสถานการณ์เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลง โดยรวม คิดว่าภรรยาคุณอยากเอาไปอวด อยากเอาไปแข่งมากกว่า เข้าใจว่า รร ที่ลูกคุณเรียนคงเป็น รร ไฮโซ แม่ ๆ เลยแบบว่ามีอวดกันไปมา มันอยู่ที่สังคมแวดล้อมค่ะ บางทีมันก็พาเราไปในทิศทางแบบนั้น แต่ที่สำคัญคือ ต้องมีสตินะคะ สุดท้าย ถ้าคิดว่า รายได้คุณเพียงพอ ซื้อให้เธอเถอะค่ะ มีสักใบไม่เสียหาย แต่ไอ้ปีละใบก็ออกจะเยอะไปนะคะ ** แก้ไขพิมพ์ผิด สัญญลักษณ์ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง 5-5-5 แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 55 16:41:20 จากคุณ : Dare2Dream เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 16:39:53

ความคิดเห็นที่ 48 เราว่าคุณมีคำตอบในใจอยู่แล้วล่ะค่ะ ว่ามันไม่จำเป็น และคุณไม่ต้องการที่จะซื้อกระเป๋าพวกนี้อีก ... ไม่งั้นคงไม่มาตั้งกระทู้แบบนี้ มันเป็นปัญหาโลกแตกอะค่ะ เหมือนผู้ชายอยากได้รถสปอร์ต .. โดนส่วนตัวเรา มันก็คือของสะสมอย่างนึง ขอคิดต่างหน่อยนะคะ อย่าว่ากัน ปล. เรามี Mulberry Limited อยู่ใบนึง ตอนนี้ขายได้มากกว่าราคาที่ซื้อมาค่ะ ^^ จากคุณ : rainswatch เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 16:46:48

ความคิดเห็นที่ 49 เข้าใจ จขกท.คะ และเข้าใจคุณภรรยา จขกท. ด้วย มันไม่สำคัญ แต่มันมีความสุขทางใจคะ ตื่นเต้นทุกคนที่ได้ของใหม่ๆ สามีเราก็เหมือน จขกท.คะ เราขออะไรก็จะบ่น งง งง ไม่เข้าใจ ซื้อทำไม อะไรประมาณเนี้ย ตอนนี้เวลาอยากได้อะไรประเภทเนี้ย เราก็จะออกตังค์เองครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งสามีต้องจ่าย เพราะเราถือว่า เราช่วยคุณประหยัดไปตั้งครึ่งแล้วนะ ****จ่ายมาซะดี ดี****** อย่าบ่น ^_^ จากคุณ : ความฝันเล็กเล็ก เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 16:54:43

ความคิดเห็นที่ 50 เป็นกระเป๋าที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันหรือเปล่าคงไม่ใช่ค่ะ อันนี้ขอยกตัวอย่างพี่ๆน้องๆที่ทำงานในบริษัทชื่อดัง ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว แต่ละคนมักจะจบเกียรตินิยม รายได้สูงโบนัสเลิศ แต่เราไม่เห็นว่าส่วนใหญ่จะใช้ของแบรนด์เนมเหล่านี้เลย มีนะค่ะส่วนน้อยซึ่งเราก็ไม่ได้รู้สึกว่าผิดแต่อย่างใดอยู่ที่ใครชอบอะไร และก็ไม่เห็นว่าเค้าจะซื้อกันมากมายแบบปีละใบ แต่ละคนก็มีสไตส์เป็นของตัวเองบางคนเก็บไว้เที่ยวเที่ยวมันทั้งในไทยและต่างประเทศปีละหลายครั้ง  ซื้อคอนโด เล่นหุ้น ซื้อ ipad iphone Macbook หรือบรรดาเทคโนโลยีใหม่ๆ อะไรก็ว่ากันไป คนชอบรถก็ซื้อรถดีๆ คนชอบกล้องก็เล่นกล้อง คนชอบเครื่องเสียง จักรยาน บางคนรวยมากแต่ใช้รถเก่าอยู่บ้านหลังเป็นสิบล้าน บางคนขับรถเก่าส่งลูกเรียนนานาชาติเรียนต่อเมืองนอก เห็นแต่ละคนแล้วจะไม่รู้เลยว่าคนมีเงินทั้งนั้นเค้าก็ดูติดดินกันดีนะค่ะ แต่ละคนก็ต่างใช้จ่ายไปกับงานอดิเรกของตน '--------------' เพื่อนอีกคนอยู่บริษัทดังเช่นกัน แต่สังคมเค้าจะหรูหราหน่อย ใช้ของมีแบรนด์บ้าง แต่เน้นกินหรูเที่ยวหรู เปิดไวน์ขวดละ 5 พันงี้ เพื่อนเราก็ติดหรูนะคนนี้ แต่เราก็ไม่เห็นมันจะเปลี่ยนกระเป๋าแบรนด์บ่อยๆทั้งๆที่ชีเป็นผู้หญิง บ้านก็มีรถก็มีแล้ว โสด หาเงินเองได้เดือนละแสนกว่า ที่สำคัญมันน่ารักค่ะกับเพื่อนไม่ค่อยหรูแบบเราเค้าก็ไม่เคยรังเกียจ มาเทียบมาเปรียบว่าถือกระเป๋าอะไร ใส่รองเท้าอะไร '---------------' ถ้าคุณบอกว่ารายได้คุณคนเดียวเดือนละแสนนิดๆ ใช้จ่ายเฉพาะตัวคุณลูกและภรรยาคุณ แบบไม่มีหนี้สิน การจะซื้อให้ภรรยาไว้ใช้เชิดหน้าชูตาถือเป็นรางวัลที่เหนื่อยกับการเลี้ยงลูกนั้นก็โอเคค่ะ แต่ถ้าขอซื้อปีละใบเราก็คิดว่าไร้สาระมาก โดยเฉพาะกับแม่ที่มีลูกและแต่ไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง ไม่ได้ออกสังคมจัด อยู่ต่างจังหวัด แต่ดูลักษณะการเก็บเงินและใช้เงินของครอบครัวคุณแล้ว ถ้าเราเป็นภรรยาเราจะเกรงใจมากค่ะ ที่ตัวเองใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแบบนั้น การที่ได้เงินใช้เดือนละ 18,000 นี่ส่วนตัวจริงๆแบบไม่รวมค่าใช้จ่ายอะไรแล้ว ดิฉันคงปลาบปลื้มพอตัว ในขณะที่สามีใช้รถไม่แพง เสื้อผ้าเครื่องประดับไม่แพง แต่ให้ดิฉันถือกระเป๋าแบรนด์เนมไปรับลูก มีเปลี่ยนใหม่ทุกชั้นปีแถมราคากระเป๋าแพงกว่าค่าเรียนลูกเสียอีก เอาจริงๆสักกี่คนกันที่ดูออกว่าของจริงของปลอม '--------------' ครอบครัวเราหาเงินกันสองคนรายได้รวมต่อเดือนก่อนหักภาษีก็แตะแสน (แค่แตะๆค่ะ อิอิ) แต่เรามีหนี้บ้าน หนี้รถ จิปาถะ ดิฉันหาเงินเองได้ จะซื้อเครื่องสำอางแต่และทีคิดไปแปดตลบจนคุณสามีบอกซื้อๆไปเถอะของต้องใช้ กระเป๋าแพงสุดที่ซื้อก็ยี่ห้อไม่แพงมาก ที่ขายตามห้างทั่วไป เช่น  naraya,  charles & keith  หรืออื่นๆ เสื้อผ้าก็ปนๆกันห้างบ้าง แพตตินั่ม 55 ไอ้รถคันที่ผ่อนอยู่นี้จะซื้อทีคิดอยู่ 2 ปี แพงเกินตัวไปไหมน๊า สามีบอกรถใหญ่รถเค้าดีซื้อแล้วใช้นานๆไงที่รัก อย่างเรานะหาเงินเรียนเองมาตั้งแต่เด็ก ขนาดว่ารู้ค่าของเงินแล้ว พอทำงานมีเงินยังมีความอยากมีอยากได้เลย แต่ยับยั้งชั่งใจได้อยู่ค่ะ ดูว่ามันจำเป็นแค่ไหน บางทีก็ให้รางวัลกับชีวิตบ้างไม่บ่อยค่ะ สำหรับภรรยาคุณจะให้หักดิบไม่ซื้อให้เลยคงจะเป็นการหักหาญน้ำใจภรรยาค่ะ ลองหาวิธีค่อยๆอธิบายนะค่ะ จากคุณ : Wineglass เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 16:57:46

ความคิดเห็นที่ 51 จขกท เป็นคนดีนะคะ อันนี้ชื่นชมจากใจจริง ไม่เห็นด้วย แต่ก็ยังมาตั้งกระทู้ถามเพื่อความแน่ใจว่าตัวเองคิดถูกมั๊ย คุณภรรยาน่าดีใจนะค่ะ ความคิดเห็นของAuntPenguinก็คล้ายๆหลายท่านที่ตอบไปแล้ว คือ LVมีหลายรุ่นที่ราคาพอซื้อหาได้(2หมื่น+) ไปจนถึงรุนแรงๆแบบหลักแสน ศึ่งส่วนใหญ่ที่คนใช้กันมากๆก็เป็นรุ่นช่วงราคา 2-4 หมื่นค่ะ (ถ้าซื้อได้refund..รุ่นพิมพ์นิยมแบบspeedy, neverfullก็แถวๆ2หมื่น) เท่าที่ฟัง เช้าใจตุณภรรยาว่า เวลาไปเจอแม่ๆที่โรงเรียนก็ไม่อยากรู้สึกน้อยหน้า แต่รายได้ 1 แสน++ โดยที่คุณจขกท มีรายรับคนเดียว และลูกในวัยเรียน สมัยนี้ ก็ไม่ถือว่าสูงมากนะคะ แต่ถ้าไหวและเพื่อความสบายใจก็ซื้อให้เป็นการแสดงความรักกับภรรยาก็น่ารักดีค่ะ แต่คงต้องคุยกับภรรยาให้เข้าใจว่า อย่าเอาเราไปเทียบกับคนอื่น ไม่งั้น หาเงินเท่าไหร่ ก็ไม่พอค่ะ รายจ่ายค่าสังคมจะมีมาเรื่อยๆค่ะ (เหมือนที่คุณจขกท บอกว่า กระเป๋าแพงกว่าค่าเทอมลูก) โชคดีค่ะ จากคุณ : AuntPenguin เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 17:18:29

ความคิดเห็นที่ 52 กำลังคิดว่าถ้าภรรยาคุณมาอ่านกระทู้นี้ อาจอยากเปลี่ยนเป็น แอร์เมส หรือ ชาแนล (ไม่รู้เขียนผิดหรือเปล่า) เพราะเห็นคนอื่นบอกว่าดูมีราคากว่า  555+ ไม่เคยใช้คะ เงินไม่เยอะพอ 555+ ไม่เคยขอสามีด้วย ชอบใช้กระเป๋าผ้า ทำงานในกรุง อวดคนอื่นก็ไม่จำเป็น แต่แปลกใช้กระเป๋าผ้า ชอบมีคนถามซื้อที่ไหน เพราะเย็บแบบควิทว์ แบบไม่ซ้ำ เพราะเป็นแฮนด์เมด ใบละประมาณ 400 เอง มีคนชอบเยอะดี ส่วนกระเป๋าซื้อแพงสุดรู้สึกจะ 3000 ซื้อตอนเหลือสัก 2000 ใช้ 3 ปีแล้ว จากคุณ : แก๊งเหมียวอาละวาด เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 17:23:26

ความคิดเห็นที่ 53 โดยส่วนตัว ไม่ชอบกระเป๋า LV และแบรนด์อื่น ๆ เดินผ่านในห้างก็ไม่ได้ปรายตามองเลยเพราะไม่ได้สนใจ กระเป๋าที่มี ที่ใช้ก็ใบละไม่เกิน 1000 บาท ฉะนั้น กระเป๋าพวกนี้ไม่อยู่ในความคิดของเราเลยค่ะ หรือว่าเราห้าวเกินไป ?? เงินเดือนเยอะขนาดนี้ เราว่าเก็บเงินไว้ซื้อทองคำแท่งเอาไว้เป็นสินทรัพย์จะดีกว่านะคะ เห็นด้วยกับหลาย ๆ คนที่ว่า ถ้าเป็นเงินที่ภรรยาคุณหามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรง ให้เธอซื้อไปด้วยความสบายใจเถอะค่ะ แต่ถ้ามาบอกคุณว่า คนอื่นในจังหวัดมีแล้วเธอต้องมีบ้าง อันนี้ฟังไม่ขึ้นจริง ๆ คนเรามันไม่ได้วัดค่ากันที่กระเป๋าหรือสิ่งนอกกาย ไม่มี ไม่ตาย หรืออยากได้ก็หาเงินซื้อเอง จากคุณ : เลขาหน้าใส เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 17:27:08

ความคิดเห็นที่ 54 เราก็ไม่เคยอยากได้เลยค่ะ ดังนั้นไม่ใช่ทั้งโลกแน่ๆ ไม่รู้จะซื้อไปบ่งฐานนะอะไรกับใคร ถ้ามีเงินซะอย่าง ใช้ของตลาดนัด คนก็ว่าดูดีได้ บางคนใช้ของแพง แต่ราศีไม่จับ ก็โดนมองว่าของปลอมอยู่ดี ถือหลุย ถ้าขับรถเก่าๆ(ไม่ได้ขับเพราะเล่นรถเก่าบ้านมีหลายคัน) ก็อย่างคุณจขกท.บอก คนเขาก็มองว่าจริงหรือปลอมฟระ เรามีเพื่อนคนหนึ่งต้องไขว่คว้าหาของแบรนมาใส่ มาถือ เป็นมือสองหรือซื้อที่เค้าบอกว่า ซื้อมาล็อตใหญ่ราคาถูกก็ยังดี(ก๊อปเกรดAAA)นั่นแหละ ทั้งที่สภาพความเป็นอยู่จริงๆของเขาไม่ได้สุขสบายนัก แต่ต้องหามาถือเข้าสังคมให้ได้ เราว่าเขาคงอายที่ตัวเองไม่มีเหมือนเพื่อนๆกลุ่มที่เขาคบอยู่ แต่เราเฉยๆอ่ะ พอใจในสิ่งที่ตัวเองมีพอแล้ว เพื่อนที่ทำงานเวลาไปเที่ยวอัพลงเฟส มองไปไหนก็มีแต่รองเท่้าา fitflop กระเป๋าลองชอม หัวหน้าเคยบอกว่า ปลอมทั้งนั้น มีของจริงก็ระดับผู้จัดการขึ้นไปโน่น ถึงคห. 12 กระเป๋า LV ไม่ได้เป็นของสะสมที่มีมูลค่าเพิ่มนะคะ เป็นแบรนด์ระดับ hi-end ที่ราคากลางๆ ไม่ได้สูงเวอร์มากมายนัก นักศึกษา คนทำงานใช้กันทั่วไปค่ะ เราคงอยู่คนละโลกกับคุณแน่เลย สำหรับมันไม่ใช่ราคากลางๆเลย ปล. เพื่อนคนหนึ่งเคยบอกว่า มันอยู่ที่ความพอใจ พอดีกับเงินกระเป๋า ถ้าคนไหนมีเงินถึงก็ยอมซื้อได้ เราก็บอกว่าไม่จริงหรอก บางคนรวยมาก ยังใส่รองเท้าแตะหูคีบตราดาวเทียมเดินเอ็มโพเลี่ยมเลย มันอยู่ที่ความพอดีในใจเรามากกว่า ถ้าเราซื้อกระเป๋าใบละครึ่งแสน ให้เราไปซื้อที่ดินซื้อทองเก็บไว้ดีกว่า ถ้ายังมีรายจ่ายเยอะ จะจ่ายของฟุ่มเฟือยไปทำไม เก็บเงินไว้ส่งลูกเรียน โท เรียนเอกดีกว่า จากคุณ : ปลายปัญญา เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 17:31:15

ความคิดเห็นที่ 55 จริงอย่างที่บางความเห็นว่ามาค่ะ รายได้แสนนึงเนี่ยไม่ได้มากมายขนาดที่ว่าจะฟุ่มเฟือยได้เลยนะคะ ถ้าซื้อใบสองใบเพื่อเอาไว้ใช้ออกงาน หรือถือเป็นกระเป๋าประจำกาย อันนั้นเราว่าโอเคนะคะ แต่มาร่ำร้องขอปีละใบเพราะเห็นคนนู้นนั่นนี่ถือ หนักใจแทนคุณสามีจัง เราว่าสร้างค่านิยมใหม่ๆให้คุณภรรยาดีกว่านะคะ ปล สามีเรารายได้ต่อเดือนหลักหลายแสนค่ะ บางเดือนเฉียด7หลัก มีเงินเก็บให้อุ่นใจ มีทรัพย์สินมีอสังหาริมทรัพย์หนี้สินก็มีบ้าง ผ่อนตึกอยู่สองที่ เงินเดือนเราได้จากสามีมากกว่าคุณให้ภรรยาหลายเท่าค่ะ ไหนจะเงินจากค่าเช่ารายเดือนของอาคารพาณิชย์อีก ตัวเราเองยังใช้กระเป๋าสานผักตบชวาใบละ250 ซื้อจากบ้านถวาย ใช้จนเปื่อยถึงเปลี่ยน ที่บอกไม่ได้จะอวดนะคะ ให้ไว้เป็นข้อมูล เผื่อภรรยาคุณจะนึกได้ว่า เงินเราไม่ได้เยอะขนาดนั้น เก็บออมดีกว่า จากคุณ : earnnoi เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 17:34:00

ความคิดเห็นที่ 56 เห็นด้วยกับคุณ smallkid มากๆ เลยค่ะ เราไม่เคยคิดอยากได้ LV (เราคงเป็นคนนอกโลกเหมือนคุณสวยสะพรึง) จขกท.ลองจับเข่าพูดคุยกับภรรยาดูนะคะ คงต้องคุยกันอย่างจริงจัง ยิ่งมีลูกด้วยแล้วเราว่ายิ่งต้องวางแผนทางการเงินเพื่ออนาคตมากๆ  เกิดเจ็บไข้ได้ป่วยหรือคุณตกงานขึ้นมา เราว่าจะลำบากไม่ใช่เล่น  สมัยนี้แม้จะรักษาโรงพยาบาลรัฐบาลก็มีค่าใช้จ่ายไม่ใช้น้อย (หากเจ็บป่วยร้ายแรง) ถ้าภรรยาคุณอยากได้กระเป๋าจริงๆ เธอน่าจะเก็บเงินเองจากเงินเดือนที่คุณให้นะคะ เธอได้เงินเดือนจากคุณเยอะกว่าคนทำงานนอกบ้านบ้างคนซะอีก หรือไม่ก็ต่อรองเธอว่าขอซื้อเป็นทองให้แทนได้มั้ย เพราะอย่างน้อยอนาคตอับจนหนทางก็ยังขายเอามาทำทุนต่อได้ ปล. น่าแปลกนะ คุณเป็นคนหาเงิน ประหยัดมัธยัสถ์ ภรรยาคุณไม่ทำงานแต่ทำไมไม่เกรงใจกับการใช้เงินของคุณเลย แถมเอาลูกมาต่อรองเรียกร้องในสิ่งที่อยากได้อีก ปล.2 ถ้าคุณยอมเธอในวันนี้  ต่อไปเธอจะอยากได้ของที่อัพเลเวลมากกว่านี้นะเราว่า จากคุณ : ::: หมูแป้น ::: เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 17:34:47

ความคิดเห็นที่ 57 ยอมรับว่าตอนแรกก็เห่อกับเค้าเหมือนกันนะคะ แต่ตั้งแต่ตอนยังไม่มีลูกนะคะ ฝากเพื่อนขนมาจากอังกฤษให้ทีละ 3 ใบ แต่ปัจจุบันตั้งแต่มีลูกน้องหลุยส์ก็นอนห่มผ้า อยู่ในตู้เฉยๆซะงั้น กลายมาเป็นกระเป๋าผ้าที่สามีซื้อมาฝากจากเวียนนามใบละ 80 บาท แทนที่เราเอามาสะพายทุกวัน เห็นคนอื่นสะพายหลุยส์ตามห้าง ก็อืม...สวยดี แต่ไม่ได้ มีความรู้สึกอยากได้เหมือนเมื่อก่อนเลย อยากเอาเงินไปซื้อของหรือพาลูกไปเที่ยวมากกว่า คือสำหรับเรามันอาจจะอิ่มตัวแล้วก็ได้ค่ะ สำหรับเรื่องกระเป๋าแพงๆ ตอนนี้หันกลับไปมอง มีแต่ความรู้สึกเสียดายเงิน  และเห็นว่า มันไม่มีความจำเป็นเลย ส่วนกรณีคุณจขกท.ถ้าคุณปฏิเสธไปเลยว่าไม่ซื้อ เกรงว่าภรรยาจะงอนเอานะคะ ค่อยๆคุย เอาเป็นครบรอบแต่งงาน 3 ปี หรือ 5 ปีต่อใบดีไม๊อะไรทำนองนี้อ่ะค่ะ จะได้มีคุณค่าว่าใบนี้แทนความรักตลอด 3 ปีหรือ 5 ปีอะไรก็ว่าไป:) จากคุณ : เขียนบน iPad (will-o'-the-wisp) เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 17:35:41

ความคิดเห็นที่ 58 อ่านแล้วอืม เราเองลอมชอมยังตัดใจซื้อไม่ลงเลย สงสัยเป็นเพราะเงินตัวเองมั้งเลยงก เก็บไว้ซื้ออย่างอื่นมาลงทุนดีกว่า จากคุณ : ส เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 17:45:18 A:111.84.195.161 X: TicketID:069173

ความคิดเห็นที่ 59 อันนี้ความเห็นส่วนตัวเราล้วนๆนะคะ เราไม่เคยอยากได้ของพวกนี้เลย เวลาเอามากองๆในตู้แล้วเรานึกถึงเงินอ่ะ ถ้าที่กองอยู่นั้นเป็น เงิน หรือ ทอง มันคงมีประโยชน์มากกว่านี้แน่ๆ แต่สำหรับคนที่ชอบ ซื้อแล้วไม่เดือดร้อน ก็ปล่อยเค้าเถอะ บอกตรงๆตั้งแต่มีลูก จะซื้อกระเป๋าใบละพันยังคิดตั้งหลายรอบเลยค่ะ จากคุณ : ที่ตรงนี้ยังคงมีรัก เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 17:53:02

ความคิดเห็นที่ 60 เก็บเงินไว้อนาคตไม่แน่นอนค่ะ กระเป๋ามีแล้วก็ขายใบเก่าผสมเงินเก็บซื้อใบใหม่สิค่ะ ประหยัดไว้ก่อน มีเงินเก็บไว้ดีกว่ามีกระเป๋าค่ะ หรือจะเพราะเราขี้งก เมื่อตอนเราเด็ก ๆ เราก็อยากมีแต่ตอนนี้ไม่อยากแล้วค่ะ เก็บเงินให้ลูกทำประกันไว้ มีกระเป๋าก็แทบไม่ได้เปลี่ยนใบอื่นเลยค่ะ ขี้เกียจ เลี้ยงลูกวันๆ ก็ไม่มีเวลาไหนจะต้องไปทำงานอีก บ่น ๆๆๆๆ 555 จากคุณ : My_little_bonnie เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 18:18:20

ความคิดเห็นที่ 61 ตั้งแต่เด็กจนโตมา แต่งงานแล้วก็มีลูก...คำสอนแม่เรายังใช้ได้เสมอ ตอนเด็กสมัยเราป.สอง อยากได้ระเป๋าตังค์คิตตี้ สมัยนั้นใบละ 199.- แม่บอกว่ามันแพงไปนะ สำหรับเด็กที่ยังขอตังค์แม่ แถมเป็นคิตตี้ตลาดนัดอีก ไม่ใช่ของจริง แม่ให้เงินมาสองร้อยบาท บอกให้เลือกเอาว่าจะเก็บเงินนี้เอาไว้ หรือ จะซื้อกระเป๋าใบนั้นแล้วมีเงินใส่กระเป๋าใบนั้นแค่บาทเดียว ทุกวันนี้เป็นแม่ค้าขายของ เงินเรายังมัดเป็นก้อนใส่ถุงข้าวแกงรัดยางไว้ เวลาไปไหนควักออกมาคนชอบขำ แต่เราชินเเล้ว ป.ล. เข้าใจอารมณ์ภรรยาคุณเจ้าของกระทู้ เป็นเราก็คงดีใจค่ะ ถ้าสามีซื้อให้ทุกปี อิอิ จากคุณ : S thiya เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 18:57:50

ความคิดเห็นที่ 62 เราว่าไม่จำเป็นนะคะ เราเคยจะซื้อโรเล็กซ์ให้สามี แต่สามีเราบ่นว่าอย่าซื้อนะมันแพง เค้าไม่มีความจำเป็นต้องใส่ของแพง เราเลยซื้อทอง 5 บาทให้แทนค่ะ ซื้อสะสมเป็นพวกทองหรือซื้อพวกกองทุนให้จะดีกว่านะคะ จากคุณ : ต้าถุง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 19:01:25

ความคิดเห็นที่ 63 เป็นแม่บ้านใช้เงินสามี มีหน้าที่ขับรถรับส่งลูกเหมือนกัน เห็นกระเป๋าแพง ๆ สวยดีค่ะ แต่ไม่อยากได้ เสียดาย เป็นคนใช้ของไม่ทนุถนอมแล้วก็เบื่อง่าย บางทีเจอชอบ ๆ ลดราคาแล้ว 2-3 พัน ยังไม่เอาเลย แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน เราชอบถ่ายรูป ชอบทำงานฝีมือ ซื้อกล้อง ซื้อจักร หลายหมื่น มันก็ใช้เงินเหมือนกัน เราเอาเงินเราซื้อเองไม่ได้ขอสามีพิเศษ ( สามีให้เงินประจำเดือน+เงินเก็บตัวเองที่เอามาออกดอกผล ) ชอบท่องเที่ยวด้วย สามีจะตั้งงบแต่ละปีไว้ให้ มีบางทริปเราจะเสนอออกค่าใช้จ่ายเอง ถ้าภรรยา จขกท เก็บเงินซื้อเองก็โอเคนะ ของชอบ ใช้แล้วมีความสุข แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 55 19:22:02 จากคุณ : ระแนงไม้ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 19:19:29

ความคิดเห็นที่ 64 มีแบรนด์ไว้ใช้ ใบสองใบก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา แต่ซื้อทุกปีนี่ปัญหา เราเป็นภรรยาที่อยู่บ้านเลี้ยงลูก สามีทำงานเงินเดือนพอๆกับเจ้าของกรุะทู้ เราได้กระเป๋าหลุยส์จาก สามีสุดที่รัก 1 ใบ โดยที่ไม่ได้เรียกร้อง แต่เค้าซื้อให้ แต่ใช้น้อยมาก เพราะมีลูกอ่อน กระเป๋าที่ส่วนใหญ่เป็น นารายา กับ กระเป๋าแถมจุกของดี กระเป๋า COACH ก็มี ก็ไม่ได้ใช้อ่ะ เรากับสามี สบายๆ ไม่ได้ใช้แบรนด์ทุกอย่าง ไม่ติดหรู ยิ่งตอนนี้มีเจ้าตัวเล็ก ยิ่งต้องประหยัด เอาเงินไว้ใช้จ่ายให้ลูกดีกว่า จากคุณ : แม่เนเน่ (boyote) เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 19:25:51

ความคิดเห็นที่ 65 เราไม่รู้ว่าภรรยาคุณเป็นคนยังไง เป็นผู้หญิงที่ชอบสบายหรือเปล่า หรือเป็นแค่ภรรยาและแม่คนนึง ที่เลี้ยงลูกงกๆ ทำกับข้าวให้ลูกและครอบครัวกิน ดูแลสามีในเรื่องต่างๆ ถ้าเป็นแบบหลัง ภรรยาคุณทำงานหนักมากนะ เงินเดือน 18000 อาจจะน้อยไปด้วยซ้ำ ปกติถ้าผู้หญิงหรือคนเป็นแม่ ทำงานในบริษัท สิ้นปีก็จะมีโบนัส 1 เดือน 2 เดือน หรือเป็นสิบๆเดือน ภรรยาคุณขอแค่กระเป๋าใบเดียว(ถือว่าเป็นโบนัส) ราคาไม่น่าเกินเงินเดือน 2 เดือน คุณน่าจะให้ได้นะ (คนเราความชอบไม่เหมือนกัน ถ้าเธอมีความสุขที่จะได้กระเป๋ามาครอบครองก็ให้เถอะ) แต่ถ้าภรรยาคุณเป็นแบบแรก ไม่ทำอะไรเลย มีเวลาก็ไม่ยอมไปหางานทำ ไม่ทำงานบ้าน แค่รับส่งลูก ไม่ได้สอนการบ้านลูก ไม่ได้ทำกับข้าวให้ลูก ไม่ได้เหนื่อยอะไรเลย แบบนั้นก็มากไปค่ะ ลองคิดดูแบบไม่มีอคตินะคะ ว่าจริงๆแล้ว ภรรยาคุณสมควรจะได้รับโบนัสนั้นหรือเปล่า ป.ล. เราไม่บ้าของแบรนด์นะ เป็นคนประหยัดค่อนข้างมาก แต่ก็แอบสงสารผู้หญิงบางคนที่ต้องเสียสละออกจากงานมาเลี้ยงลูก ดูแลสามี อยากจะได้อะไรที่ชอบก็ซื้อไม่ได้ เพราะไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง พออยากได้เข้าหน่อยก็มีแต่คนว่างี่เง่าฟุ่มเฟือย น่าสงสารอ่ะ จากคุณ : Love@Home เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 20:17:28

ความคิดเห็นที่ 66 เข้ามาจะบอกว่า จขกท ทำตามที่เพื่อนสมาชิกแนะนำสิคะต่อรองกับเธอว่าถ้าอยากได้จริงปีละใบ คุณก็จ่ายให้เธอแค่เดือนละ 17000 บาท ลดลงมา 1000 บาท แล้วครบปีคุณก็ออกส่วนที่เหลือโป๊ะไปแล้วซื้อให้เธอ เราว่าแบบนี้น่าจะโอเคที่สุดแล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 55 20:24:30 จากคุณ : jazzzro (jazzzero) เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 20:23:58

ความคิดเห็นที่ 67 เราไม่เคยฝันอยากได้LV เลยค่ะ คงไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนบนโลกแล้วแหล่ะ จากคุณ : MMTaro เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 20:30:40

ความคิดเห็นที่ 68 ไม่เคยเห็นกระเป๋าเป็นทรัพย์สินที่เก็บส่งต่อให้ลูกหลานได้ค่ะ จากคุณ : Extremely Chocolate เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 20:33:23

ความคิดเห็นที่ 69 เสียดายตังค์อะ ไม่รู้สิ เราคนหนึ่งละ ที่ไม่อยากได้ของฟุ่มเฟือยแบบนี้ ถ้าให้ฟรีก็เอา แต่ถ้าให้ซื้อ ไม่เอาอะ 555+ เราไม่บ้าของแบรนด์จ้า มันไม่อิ่มท้อง เพราะยังมีลูกที่ยังต้องกินต้องใช้เงินอีกมาก เก็บไว้เป็นการศึกษาลูกดีกว่า ชีวิตคนเราไม่แน่ไม่นอน ใครจะไปรู้ วันนี้สุขสบายก็จริง วันหน้าเราไม่รู้จะเป็นยังไงนี่นะ เพราะฉะนั้นอย่าประมาทกับเรื่องเงินทองเลย มีเยอะก็เก็บเอาไว้ อุ่นใจกว่าสุรุ่ยสุร่ายแล้วมาลำบากทีหลังดีกว่าค่ะ จากคุณ : แม่น้องเบนส์ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 20:48:15

ความคิดเห็นที่ 70 ภรรยาคุณจขกท กำลังหลงทาง   เรียกกลับมาด่วนๆเลยค่ะ แล้วคุณต้องอธิบายแบบแจ่มแจ้ง ว่าคุณคิดอะไร  ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ทำไมถึงไม่อยากซื้อให้ จากคุณ : Boon MM เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 20:48:47

ความคิดเห็นที่ 71 ขอพูดตรง ๆ นะคะ ถ้าภรรยาเป็นแบบนี้ จะสอนให้ลูกรู้จักค่าของเงินได้ไงเนี่ย อีกหน่อยน้องก็ต้องติดของแบรนด์เนม เพราะเห็นพฤติกรรมแม่แน่ ๆ เห็นคนนั้นมีแล้วเราต้องมีด้วย เราว่ามันไม่ใช่สิ่งที่คนเป็น "แม่" ควรจะทำอ่ะ จากคุณ : เจ้าปังย่ากะท๊อฟฟี่ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 20:49:46

ความคิดเห็นที่ 72 อาจเป็นความชอบส่วนตัวของภรรยาจขกท.มังคะ เราว่าจขกท.ควรจะคุยกับภรรยานะคะ ว่าเรามีเงินไม่ได้เยอะนะ ประหยัดๆบ้างก็ดีน่ะ แต่แปลกนะคะ ส่วนมากเราเห็นคนมีลูกแล้วมักจะประหยัด อะไรๆก็ต้องเพื่อลูก เรายังเป็นเลยค่ะ นี่แค่เพิ่งท้องนะคะ ตอนนี้จะย้ายกลับไทยแล้ว อยากจะขนของกลับมากๆเลย เดินซาร่าของที่อยากได้ลดตั้งเยอะ ยังเดินเข้าไปดูแล้วออกมาอย่างทำใจ หลุยส์เรายังไม่เคยซื้อเองเลยนะคะ เราอยู่ญี่ปุ่นมาสามปีแล้ว สามีและเราจะมีเงินส่วนตัวกันทุกเดือน เพื่อที่จะซื้อของให้ตัวเอง แต่เราไม่ได้ซื้อเลยค่ะ เราคิดว่าเก็บไว้พาพ่อไปเที่ยว หรือว่าซื้อทองยังจะดีซะกว่า ก็มีบ้างแต่เราจะจำกัดว่ากระเป๋าเราไม่ควรเกินสองหมื่นห้าพันเยน(ก็ราวๆไม่แปดพันห้าร้อยบาทอ่ะ) เราก็ว่านี่หรูสำหรับเราแล้ว หลุยส์เราก็มีค่ะ ชาแนลเราก็มี แต่ไม่ได้ซื้อเองนะคะ พี่สาวที่เรานับถือซื้อให้เป็นของขวัญบ้าง ให้มือสองมาบ้าง ของที่ญี่ปุ่นมือสองเยอะมาก ใหม่และถูกด้วย เราเดินดูค่ะ แต่ไม่เคยซื้อเลย หลุยส์เกลื่อนมาก เพราะเห็นราคาแม้จะแค่สองหมื่นเยน(แปดพันบาท) เรายังไม่คิดจะซื้อเลยค่ะ มีน้องๆคนไทยบางคนยังว่าเราเลยค่ะ ว่าเงินที่เราเอาไปซื้อกระเป๋ายี่่ห้ออื่นๆ สามารถซื้อหลุยส์มือสองได้เลยนะ แต่เรากลับคิดว่า ถ้าฉันไม่มีปัญญาซื้อมือหนึ่ง นั่นก็คือฉันเลือกที่จะไม่ซื้อดีกว่า จะถือไปเพื่ออะไร หลุยส์ซื้อมาราคาก็ตกค่ะ อย่าไปซื้อเลย พวกกระเป๋าแบรนด์เนมเนี่ย ที่ญีปุ่นรับซื้อถูกมาก ขายก็ยังถูกเลยค่ะ เอาไปซื้อทองดีกว่านะคะ หรือถ้าเธอชอบจริงๆ ก็ลองแบบครอบครัวเราก็ได้ค่ะ เราเป็นคนถือเงินทั้งหมด และจะแบ่งเงินให้สำหรับไว้ซื้อของชอบของตัวเอง อยากได้อะไรก็สะสมเอา อย่างเงินเดือนหนึ่งแสนบาท เราก็จะให้คนละหนึ่งหมื่นบาท อยากได้อะไรก็ตามสบาย ถ้าเกินงบก็เก็บเอาเอง ปีนึงก็ได้กระเป๋าหลายใบเลยนะคะ ประมาณนี้อ่ะค่ะ ลองดุนะ จากคุณ : เหมียวเหมียว (wichayen) เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 20:54:52

ความคิดเห็นที่ 73 เราว่าภรรยาของคุณกำลังยึดติดกับการฟุ้งเฟ้อ อยากอวดนั่นนี่ ตามสังคมต่างจังหวัดอะค่ะ เราก็เข้าใจนะ มีบ้างคงไม่เป็นไร แต่ถ้าต้องซื้อบ่อยๆ ต้องไปเที่ยวเมืองนอกบ่อยๆ ในขณะที่รายได้มันไม่ได้เยอะมากขนาดจะทำอย่างนั้นได้ เราว่ามันจะลำบากค่ะ ยิ่งหาคนเดียว ถ้าไม่ช่วยประหยัด คงไม่พอค่ะ คือเท่าที่อ่านดู เธอไม่พอแค่ LV หรอกค่ะ ถ้าคนที่อยากได้ มันจะ up ราคา up แบรนด์ไปเรื่อยๆ เราเป็นมาแล้วค่ะ แต่เราซื้อเองนะคะ ตอนที่ยังทำงานอยู่ ยังไม่มีลูก เงินหามาไม่ยาก เดือนเดียวก็ซื้อได้แล้วแบบไม่ลำบาก ตอนนี้ลาออกจากงานมาเลี้ยงลูก ไม่ค่อยได้ใช้เลย นอนแหมะอยู่ในตู้นั่นแหละ จะขายก็เสียดาย สำหรับ LV ขายต่อขาดทุนค่ะ จะให้ราคาดีต้องพวก Chanel , Hermes ซึ่งราคาสูงกว่าหลายเท่าเลยค่ะ มีบ้างพอหายอยาก แต่ถ้ามากไปจนเดือดร้อน ก็ไม่ควรนะคะ จากคุณ : Sara K. เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 21:16:18

ความคิดเห็นที่ 74 สามีเราเงินเดือนแสนสอง เราเงินเดือนหกหมื่น แต่ไม่เคยไปเที่ยวที่ไหนแม้แต่ไปต่างประเทศ เพิ่งมาตัดใจซื้อแหวนเพชรครบรอบ 10 ปี เมื่อปีที่แล้ว ให้เราสองคน ที่ผ่านมา ทรัพย์สินของเราคือ บ้าน 55 ตร วา 1 หลัง บ้าน 99 ตร วา อีกหลัง ที่ดินเปล่า 200 ตร วา อีกแปลง ปีหน้าคิดว่าจะขึ้นฐานรากสร้างหอแล้ว นอกนั่นก็มีเป็นทองคำ เงินออมแบบสะสมทรัพย์ สามีเราใส่เสื้อตลาดนัด 3 ตัวร้อย เราซื้อเสื้อต้องราคาไม่เกิน 500 และใส่ไม่ตำ่กว่า 10 ครั้ง ไม่งั้นไม่คุ้ม ช่วงท้องเรายังเอากางเกงสามีมาใส่ไม่ซื้อเพราะเปลือง คลอดมาผอมเดี๋ยวก็ได้โละทิ้ง กระเป๋าหนังแท้เราอยากได้แต่ก็ตัดใจซื้อมือหนึ่งไม่ลง เพราะราคาแพงมาก เราก็ซื้อมือสอง ถามว่าเพราะอะไร ไม่ใช่เพราะมันเป็นแบรนด์เนมแต่เพราะมันใช้คุ้ม ทน นาน ไม่เบื่อ แต่เรามีแค่สองใบ เพราะเคยซื้อกระเป๋าทั่วไปตามตลาดนัด ใบละ 600-900 บาท หนังลอกทั้งที่ใช้ครั้งเดียว ไม่คุ้มเลย สรุปปีหนึ่งซื้อเป็นสิบๆใบ ใช้ไม่ทน ไม่ลอกก็ขาด หูเปื่อย รวมเงินแล้วแพงมาก แต่พอลองตัดใจซื้อของดีแต่ขอเป็นแค่มือสอง นี่ผ่านมาเกือบปี เราไม่ได้ซื้อกระเป๋าใหม่อีกเลย ใช้คุ้มทน และไม่คิดจะซื้อใหม่ เพราะไม่ได้มีไว้เพื่อเก็บสะสม แต่เอามาใช้งานจริงๆ เงินไม่เหลือขนาดนั้น เอาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ปลายปีนี้ตั้งใจจะซื้อกองทุนเพิ่ม คิดว่า เงินต่อเงิน เราจะไม้ลำบากตอนแก่ ภรรยาคุณใช้ชีวิตบนความเสี่ยงมาก เงินทางเดียว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นทำยังไง เอากระเป๋าไปขายเหรอ สามีเราเงินเดือนเท่าคุณเรายังไม่คิดจะออกจากงานเลย เพราะอนาคตไม่แน่นอน แถมใช้เงินแบบไม่ช่วยประหยัดอีกต่างหาก จากคุณ : แมวสีขาวขนปุย เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 21:17:56

ความคิดเห็นที่ 75 มันเป็นกระเป๋าที่เราใฝ่ฝันอยากมีซักใบ จนในที่สุดก็ได้มาหนึ่งใบ หลังจากที่ได้มาแล้ว ใช้ไปสามสี่เดือน กระเป๋าหลุยส์ก็จอดอยู่ในบ้านอย่างของไร้ค่าชิ้นนึง หลังจากน้ำท่วม เราก็เริ่มคิด อั้ยกระเป๋าหลุยส์นี่คงช่วยเราให้รอดพ้นไปไม่ได้แน่ๆถ้าเกิดภัยธรรมชาติขึ้นมา พวกน้ำเปล่า ข้าวสาร อาหารแห้ง น่าจะเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด เราก็เลยไปเสริจดูว่าถ้าขายจะได้ราคาเท่าไหร่ ดูหลายเวบไซต์แล้วพบว่า ไม่คุ้มเลยจริงๆถ้าจะขายต่อ ซื้อมาแพงม๊ากก แต่ขายราคาครึ่งต่อครึ่งเลย เลยคิดว่าเอานะ ไหนๆซื้อมาแล้วก็เก็บไว้ เอาไว้เป็นบทเรียนว่าอย่าไปซื้ออะไรที่ไม่คุ้มค่าแพงๆอย่างนี้อีก เราไม่รู้ว่าวันนี้ พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับโลก เอาเงินที่จะไปซื้ออะไรอย่างนี้ มาซื้อความสุขดีกว่า ซื้ออะไรที่จะทำให้ครอบครัวมีความสุข ซื้ออะไรที่จะใช้ประโยชน์ได้จริง ถ้าเกิดเหตุภัยพิบัติ สุดท้ายนี้ แนะนำให้เจ้าของกระทู้ ปริ้นซ์คำแนะนำในกระทู้นี้ไปให้คุณภรรยาอ่านค่ะ เผื่อจะคิดได้บ้าง จากคุณ : U got it เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 21:34:54

ความคิดเห็นที่ 76 ไม่ทราบว่าภรรยาเข้าห้องแป้งบ้างหรือเปล่า ถ้าได้อ่านกระทู้บ่อยๆจะทำให้อยากได้ค่ะ แนะนำให้เลิกเข้าสักระยะอาการจะดีขึ้นค่ะ บอกเขาว่ามีใบหนึ่งก็โอเคแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีปีละใบหรอกค่ะ จากคุณ : เทียนสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 21:56:41

ความคิดเห็นที่ 77 ถ้าคนไม่เคยมี เเต่คนรอบข้างมี คงอยากมีบ้าง ไม่เเปลกอะไร คนเคยมี (เเต่ตอนซื้อยังไม่รู้จักเลย) เเบบเรา คงเฉยๆ ล่ะค่ะ (เพราะตอนเราใช้ คนอื่นก็ไม่ได้ใช้กัน) กระเป๋าใบละเเสน สองแสน กับกระเป๋าใบละ 199 จปส. มันไม่ต่างอะไรกันหรอก นั่นคือการใส่สิ่งของ เเค่นั้นเอง ถ้าจะเอาของที่ใส่โชว์ เเละเป็นการลงทุนไปด้วย เราว่านาฬิกาสักเรือน หรือเเหวนเพชรสักวง น่าจะดีกว่านะคะ ซื้อให้ปีละเรือน หรือปีละวง เราว่ามันเป็นการลงทุนที่ดีกว่ากระเป๋านะ ถ้าเราจะมองกรณีของผู้ชายมั่ง นั่นก็อาจจะเป็น คนขับฮอนด้าอยากขับเบนซ์ คนขับเบนซ์อยากขับเเเลมบอกินี่ ไรงี้ มันไม่สิ้นสุดหรอกค่ะ เพราะมันก็ออกรุ่นใหม่ ออกเเบบใหม่ไปเรื่อยๆ หรือไม่ เเทนที่จะซื้อเป็นของ ลองพาไปเข้าวัดทั้งครอบครัวก็ดีนะคะ คุยโอ้อวด เเบบไม่มีใครเหมือนได้ด้วย เพราะการทำบุญไม่ใช่เเค่มีเงินก็ทำได้ มันต้องมีเจตนาดี มีความสุขด้วย สักเเต่ควักตัง มันก็ใช่จะได้บุญ ลองถามภรรยาดูนะคะ เผื่อจะเปลี่ยนเเนวเนอะ ^^ จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 22:13:39

ความคิดเห็นที่ 78 ถามเมียคุณนะคะ ในเมื่อคุณแม่ของลูกไม่รู้จักการประหยัด แล้วคุณๆจะเอาอะไรไปสอนลูกให้รู้จักการประหยัดหล่ะคะ จากคุณ : ~Just Relax~ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 22:15:14

ความคิดเห็นที่ 79 ถ้ามีโอกาส ถ้ามีเงินเหลือจากการใช้จ่ายสิ่งที่จำเป็น เหลือจากการเก็บออม เหลือนอนนิ่งๆอยู่ในแบ็งค์ เป็น 7 หลัก ก็ว่าจะสอยซักใบ ให้หายสงสัย ว่าทำไมเค้าถึงนิยมกันจัง? แต่ทุกวันนี้ สามีบอกว่า.. ถ้าไอซื้อกระเป๋าหลุยส์ให้ยู ยูต้องอนุญาตให้ไอซื้อเรือลำใหม่ .. ป๊าดดด... ของมือหนึ่ง3 หมื่น กับ เรือลำนึง มือสองแบบห่วยๆ 3 แสน !!! เราเลยเงียบกริบ แล้วบอกว่า... "ไม่เห็นจะอยากได้เลยกระเป๋าหลุยส์ ฝากเพื่อนซื้อ Coach จาก Out let อเมริกา ก็ได้ !" จนบัดนี้ ฮีก็ยังไม่ได้ซื้อเรือลำใหม่ เพราะเราตัดใจไม่ซื้อกระเป๋าหลุยส์ ฮี่ๆๆ จากคุณ : I'm_NaYa เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 22:15:47

ความคิดเห็นที่ 80 มายกมือว่าไม่เคยอยากได้ค่ะ เราว่ามันสิ้นเปลืองน๊ะ เก็บเงินให้ลูกเรียนต่อดีกว่า อิอิ จากคุณ : twokids เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 22:21:43

ความคิดเห็นที่ 81 เราไม่เคยอยากได้เล้ย ทั้งของจริง ของก็อป สามีให้เอทีเอ็ม กับบัตรเครดิตเสริมให้ใช้ แต่เราเป็นคนประหยัดจนสามีงง งงแบบปลื้มๆ อ่ะค่ะ ว่าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าจะได้ภรรยาที่ประหยัดได้ขนาดนี้ ไม่เคยต้องปาดเหงื่อ เหนื่อยใจกับเรื่องภรรยาใช้เงินเก่งเลย อันนี้เป็นเรื่องความคิดเห็นและนิสัยส่วนบุคคลค่ะ จากคุณ : กาสะลองต้นหนาว เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 23:00:17

ความคิดเห็นที่ 82 ไม่รู้นะ  เราไม่เคยอยากได้กระเป๋าแพงๆอ่ะ  โอเค  มันสวยดี เห็นคนอื่นถือ  ก็สวยดี แต่ไม่จำเป็นสำหรับเราค่ะ ถ้าจะบอกว่าจะซื้อเพื่อเป็นทรัพย์สินในอนาคต  เราจะซื้อเป็นเพชร  หรือทองดีกว่าค่ะ   ต่างคนต่างมุมมองค่ะ   เราว่าจขกท. ลองต่อรองกับภรรยาดูก็ได้นะคะ   ถ้าจะเอาเป็นทรัพย์สินจริงๆ  ซื้อเป็นอย่างอื่นให้เค้าดู  เค้าอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้นะคะ จากคุณ : กระต่ายน้อยน่ารักจัง~* เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 55 23:02:41

ความคิดเห็นที่ 83 เราไม่รู้ว่าพื้นฐานครอบครัวภรรยาคุณเป็นยังไง มาจากครอบครัวที่ลำบากมาก่อน หรือว่าสุขสบายจนเคยตัว หากให้วิจารณ์จากสิ่งที่คุณบอกเล่าเกี่ยวกับความคิดของเธอ เราว่าเธอเป็นคนที่ไม่รู้จักค่าของเงิน และกลายเป็นคนจมไม่ลงไปแล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเราว่าน่าจะมาจากคุณเองที่ปล่อยให้เธอสบายจนเคยตัว ไม่ต้องทำงานอะไร และทำให้เธอรู้สึกเหมือนที่บ้านมีรายได้เยอะมาก จนเธอสามารถที่จะจับจ่ายใช้สอยยังไงก็ได้ ไม่มีวันหมด เธอถึงได้คิดอะไรแบบนั้นได้ ลองจับเข่าคุยกับเธอตรงๆไหมคะว่า คุณเองไม่ได้มีเงินมากมายพอที่จะสนองความต้องการของเธอได้ทุกอย่าง หากยังฟุ่มเฟือยกันอยู่แบบนี้ วันใดเกิดขาดคุณซึ่งเป็นเสาหลักไป เธอจะมีชีวิตยังไง จะหาเลี้ยงตัวเองได้รึเปล่า มีเงินพอดูแลลูกไหม อยากให้เค้าตระหนักถึงข้อนี้บ้าง ไม่ใช่วันๆมัวแต่หมกมุ่นว่า ชั้นจะซื้อกระเป๋าใบนั้น ใบนี้ไปอวดใคร ชั้นจะไปยุโรป หรือพาลูกไปเรียนซัมเมอร์ ลองเสนอเธอดูว่า หากอยากได้จริง ให้ลองหางานทำดู หรือช่วยงานธุรกิจคุณ ในเมื่อลูกก็โตดูแลตัวเองได้แล้ว งานบ้านก็ไม่ได้ทำ ก็ออกมาหาเงินเองเลยแล้วกัน จะได้รับรู้ถึงความเหนื่อยยากว่า กว่าจะได้เงินมาเป็นยังไง และให้เค้าเอารายได้ส่วนที่เค้าหามา ไปซื้อเพื่อสนองความต้องการเค้าเอง เผื่อจะคิดได้และเสียดายเงินว่าหามาแทบตาย แต่ต้องมาเสียไปกับสิ่งฟุ่มเฟือยอะไรแบบนี้ บอกตรงๆว่าถ้ามัวแต่กลัวเค้าจะน้อยใจหอบลูกกลับบ้าน หรือกลัวงอนไม่เข้าท่าอยู่แบบนี้ รับรองว่าอนาคตภรรยาคุณและลูกลำบากแน่ๆค่ะ ปล.เราเป็นคนนึงที่ไม่เคยมีกระเป๋า LV มาใช้ในครอบครอง ถามว่ามีเงินซื้อไหม มีค่ะ แต่เห็นราคาแล้วบอกตรงๆว่าเราเสียดายค่ะ ทั้งๆที่ตอนนั้นเราไปเที่ยว Paris  เดินดูใน shop ด้วย ก็ไม่ได้คิดซื้อกลับมา เพราะกว่าจะหาเงินมาได้ สู้เอาไปใช้ซื้ออย่างอื่นที่เป็นประโยชน์น่าจะดีกว่า จากคุณ : Trippy เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 00:24:14

ความคิดเห็นที่ 84 เราเคยไปช๊อปปิ้งกับแม่เราค่ะ วันนั้นแม่เราอยากได้กระเป๋าใหม่ เราเสนอให้แม่ซื้อ LV เพราะเราเห็นว่าแม่เราก็ต้องเข้าสังคม ราคามันก็ไม่ได้สูงเว่อร์แบบ Hermes หรือ Chanel แต่แม่เราไม่เอาค่ะ แม่เราบอกว่าเก็บเงินไว้ให้เรา ให้น้องเรียนดีกว่า สังคมที่อยู่ก็มีส่วนนะคะ แต่ทั้งนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับสภาพความแข็งแรงของจิตใจด้วย เราเรียนอินเตอร์ค่ะ เราไม่เคยซื้อกระเป๋าราคาสูงกว่า 2000 คิดว่ามันไม่จำเป็น ถึงเจอรุ่นที่ถูกใจราคาเป็นหมื่น เราก็คงเก็บเงินซื้อเอง คงไม่รบกวนพ่อแม่ ทุกวันนี้จะซื้อโทรศัพท์ราคาหลักหมื่นยังคิดแล้วคิดอีกเลย ทั้งๆที่มันจำเป็นกว่ากระเป๋าหรือของฟุ่มเฟือยพวกนั้นซะอีก จากคุณ : แมวแว่น เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 01:02:15

ความคิดเห็นที่ 85 เราเห็นเพื่อนถือ แต่บอกตามตรงว่า สำหรับเราถึงจะมีเงิน เราก็ไม่ซื้อค่ะ เสียดายเงิน เอาเงินไว้ซื้อทอง ซื้อที่ดิน เก็บเข้าธนาคารดีกว่าค่ะ ซื้อกระเป๋าหนังแท้ดีๆ สักใบก็ใช้ได้แล้วค่ะ จากคุณ : สกุลลัน (สกุลลัน) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 01:03:52

ความคิดเห็นที่ 86 เราก้ออยากได้นะคะ. ตอนที่สามีได้เงินเดือนประมาณ6หมื่น ก้อว่าจะซื้อ. ขอเค้าตั้งนานแล้ว พอคลอดลูกเค้าบอกว่าเอาเงิน3หมื่นกว่าๆไปซื้อซิ ได้จากปกส.แต่เราไม่อยากซื้อ แค่อยากบ่นๆๆไปงั้น เพราะเรามีลองชอท3ใบ พอลูกคลอดก้อใช้กระเป๋าคุณแม่แทน/// เครื่องสำอางnaked pallet ซื้อมา2พันกว่า ก้อไม่ได้ใช้ จะเอาไปขายต่ออีก พอมีลูกแล้วคิดเยอะ นี่สามีตกงานอีก. เลยไม่รู้รายได้ รูสึกว่าโชคดีที่ไม่ได้ซื้อหลุยส์วันนั้น จากคุณ : แม่น้องเดซี่ (คุณแม่วัยรุ่น) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 01:17:15

ความคิดเห็นที่ 87 กระเป๋าพวกนี้ต้องดูในตลาดด้วยครับว่าเค้าเล่นรุ่นไหนกันอยู่ เมืองไทยกับเมืองนอกจะฮิตไม่เหมือนกัน และราคามือสองในตลาดจะต่างกัน ผมเองก็ถือว่ามันเป็นการลงทุนนะ แต่ถ้าจะซื้อต้องทำการบ้าน ดูแนวตลาดหน่อย ถ้าที่ชอบจริงๆเป็นรุ่นที่ไม่แพงมากก็ ok  แต่ถ้าแพงแล้วคนไม่เล่นก็ต้องคุยกันครับ ถ้าไม่ได้แพงมาก ไม่เหลือบ่ากว่าแรงซื้อทุกปีก็ได้นะ  แต่ถ้าจะขยับไปเล่น Hermes นี่ก็คงไม่ให้อ่ะถ้าเงินเดือนไม่ถึง 7 หลัก หุหุหุหุ T_T จากคุณ : IhateCopS เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 06:45:17

ความคิดเห็นที่ 88 เอางี้ พี่ดูหน้าเมียพี่ แล้วพี่ว่าไงล่ะ ถ้าเมียพี่สวยก็บอกไปว่า ถึงน้องจะถือหลุยส์ปลอม คนก็ดูเป็นหลุยส์จริง ถ้าเมียพี่เอ่ออออ อ้วน ล่ำ เขอะ ก็บอกว่าไป ถึงน้องจะมีหลุยส์จริงใช้ คนเค้าก็คิดว่าเป็นของตลาดนัด "อย่าซื้อเลยนะจ๊ะที่รัก ถ้าจะซื้อก็ซื้อกระเป๋าถูกๆ เน๊อะ ผัวขอร้อง" อิอิ จากคุณ : ม่องเท่ง เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 07:24:01

ความคิดเห็นที่ 89 ส่วนตัวบ้า lv นะคะ แต่เผอิญไม่มีคนซื้อให้ ต้องซื้อเองอ่ะค่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า ตั้งงบไว้ปีละใบเหมือนกัน แต่เอาเข้าจริงก็สองสามปีใบแทน เพราะไม่มีโอกาสได้ซื้อกับไม่มีรุ่นถูกใจ(เราซื้อจากเมืองนอก ไม่ซื้อไทยเพราะแพงค่ะ) ใน brand hi-end ทั้งหมด เท่าที่เรารู้จัก lv เป็นกระเป๋าราคาประหยัดที่สุดละค่ะ ในกรณีที่พูดถึงรุ่นบ้านๆ อย่าง neverfull, speedy อะไรแบบนั้นนะคะ อย่าพูดถึงรุ่นที่ทำจากหนังแท้ พวกนี้ราคาก็โดดสูงไปเลย ดังนั้นเท่าที่เราเข้าใจ แบรน lv จึงเป็นแบรนพอจับต้องได้ ในระดับ hi-end จึงได้รับความนิยมค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าถามว่าเป็นแบรนที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝัน คงจะไม่ใช่อ่ะค่ะ เพราะจริงๆเราใฝ่ฝันถึงแบรนอื่น แต่ไม่มีปัญญา 5555 แล้วจริงกระเป๋า lv ถึงจะดูแบบเช๊ยยย เชยยย ไมมีอะไร แต่จริงๆแล้ว เราว่าทนมากและมีความเป็นสากล เลยเข้าได้กับทุกชุดค่ะ อย่างที่เคยโพสในกระทู้อื่นไปแล้วว่า ของเค้าก็มีคุณภาพดีค่ะ แล้วก็บวดค่าแบรนไปอีกจำนวนหนึ่ง เราว่าถ้าซื้อรุ่นธรรมดา lv ก็คุ้มค่านะคะ เพราะมันทำให้เราไม่ซื้อกระเป๋าถือเละละอีกเลย (พวกใบละ 599 หรือ พวกหลักพัน) ซึ่งกระเป๋าพวกนั้นถ้ารวมๆจำนวนเงินที่ซื้อต่อปีแล้วเพิ่มอีกนิดหน่อยก็อาจจะซื้อ lv ได้ค่ะ แต่นิดนึงคือ เราไม่ซื้อกระเป๋าเละละเลยจริงๆ เพราะเราคิดว่า เยอะแล้ว รกบ้านค่ะ ที่สำคัญคือมันไม่ทนด้วย เดี๋ยวซิบแตก เดี๋ยวด้ายหลุด อะไรแบบนี้ เบื่อจะมีขยะเพิ่มในบ้านค่ะ ถ้าถามเรา ... ถ้าคุณซื้อให้ได้ ก็ซื้อไปเถอะค่ะ มันเป็นความสุขเล็กๆของผู้หญิง ที่สามีจะซื้อของขวัญให้น่ะค่ะ โอเคว่า มันอาจจะดูไร้สาระ เพราะราคาแพง แต่ถ้าซักปีละครั้งในงบประมาณที่กำหนด เราว่ามันก็ไม่ได้มากเกินไปมั๊งคะ และอีกอย่าง เราว่าถ้าได้ไปซักสองสามใบ ลายมันจะซ้ำๆกันค่ะ เนื่องจากมีขีดจำกัดของงบประมาณอยู่ เช่นถ้ากำหนดไว้ 30,000 เราว่าไม่เกิน 2-3 ปีก็เลิกอยากค่ะ ส่วนจะข้ามไปซื้อลายอื่นก็ไม่ได้ เพราะมันแพงเกินงบไปค่ะ อยากให้ผู้ชายซื้อของขวัญให้ผู้หญิงบ้าง ผู้หญิงดีใจนะคะ เวลาได้ของขวัญ ถึงจะแต่งงาน มีลูกแล้ว ก็ยังอยากได้ของขวัญเป็นกำลังใจบ้าง ปีละชิ้น ไม่น่าจะมากเกินไปมั๊งคะ ป.ล. อย่าซื้อของปลอมเชียวนะคะ แพงและไม่ทน ที่สำคัญ ถ้าเพื่อนๆภรรยาคุณ และ ภรรยาคุณใช้ของจริงอยู่แล้ว มองปราดเดียวก็รู้ละค่ะว่าปลอมแหงๆ เสียดายตังเปล่าๆ ป.ล.2 บางทีตัวเงินที่เสียไปอาจจะไม่ได้ ได้มาซึ่งสิ่งของอย่างเดียว อย่าลืมมองถึงบางสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยค่ะ ป.ล.3 เราว่ามันไม่ใช่การลงทุนค่ะ เพราะ lv มันราคาตก ไม่มีวันขึ้น จริงๆถ้าชักจูงภรรยาคุณเป็นซือเพรช ซื้อทอง มาใส่ อาจจะ work กว่านะคะ :) จากคุณ : มูมู่น้อยคอยรัก เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 09:34:40

ความคิดเห็นที่ 90 เราไม่เคยคิดอยากได้เลยค่ะ สำหรับคนอื่นอาจมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิต แต่เรา ใบไหนก็เหมือนกันทั้งนั้น กระเป๋าเรายังบ้านๆ แต่เน้นไม่เหมือนใคร และัไม่ยอมให้ใครเหมือน เงินที่เอาไปซื้อกระเป๋าเปลี่ยนเป็นซื้อสร้อยคอให้ปีละบาท ดีกว่ามั้ยคะ เป็นทรัพย์สินที่มีแต่ราคาขึ้นๆ และจะจำได้ว่า ให้มากี่ปี ด้วย เพราะเราเองก็ทำแบบนั้นค่ะ จากคุณ : tungift เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 09:40:43

ความคิดเห็นที่ 91 ซื้อได้แต่ต้องใช้ให้คุ้ม เราใช้กระเป๋าตังส์หลุยส์มา 12 ปีแล้ว จนมันขาด สำหรับเรา เราชอบซื้อกระเป๋าแพงๆใบเดียว ดีกว่าไปซื้อกระเป๋าที่ราคากลางเป็นสิบๆใบ มีช่วงหนึ่งซื้อกระเป๋าใหม่ทุกเดือน ใบละ 2000 - 5000 บาท จนกระเป๋าเต็มตู้ไปหมด มานั่งคำนวนราคา ตกใจ..นี่เราซื้อ brand name ได้เลยนะเนี่ย แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่อยากทำ ปัจจุับันก็ยังอยากได้ แต่เอาตังส์ไปทำอย่างอื่นหมดแล้ว จากคุณ : Jibako เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 09:54:36

ความคิดเห็นที่ 92 ซื้อให้ทุกปีเลยก็ได้นะคะ  แต่ขอเธอเปลี่ยนเป็นเพชรหรือทองดีกว่า ยังไงลูกก็ได้ใช้แน่ๆ ราคาก็ไม่ตกด้วย จากคุณ : เด็กชายมะลิ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 10:18:09

ความคิดเห็นที่ 93 ลองมองอย่างไม่มีอคตินะคะ คนเราชอบมีของไม่เหมือนกัน บางคนชอบกล้อง บางคนชอบอุปกรณ์พวกเทคโนโลยีทั้งหลาย บางคนชอบเครื่องเสียง บางคนชอบรถ บางคนชอบพระเครื่อง บางคนชอบกระเป๋ารองเท้า คุณบอกว่าภรรยาคุณเป็นแม่บ้าน ต้องลองดูภรรยาคุณว่ารับผิดชอบงานนั้นนั้นได้ดีหรือเปล่าเช่น ดูแลลูก ดูแลสามี อาหารการกิน บ้านช่องห้องหับ การบ้านลูก อบรมลูกส่งเสริมพัฒนาการ ถ้าเธอทำได้ดี ก็น่าจะมีรางวัลให้บ้างเหมือนโบนัสสิ้นปีไรเงี้ย งานแม่บ้านมันก็เหนื่อยเหมือนกันนะคะ คนทำงานยังได้โบนัสเลยอย่างน้อยก็ 1-2 เดือน แต่ถ้าเธอขี้เกียจหรือทำหน้าที่ไม่ดีนัก ก็อาจลดหลั่นรางวัลกันไป พูดไปดูเหมือนเธอเป็นลูกจ้างเลยเนอะ แต่เราแค่เปรียบเทียบให้ดูนะคะ แล้วพวกวันพิเศษต่างๆ คุณมีอะไรให้เธอหรือเปล่าคะ เช่นวันเกิด วันครบรอบ อะไรแบบนี้ ก็ควรจะมีบ้าง เราไม่รู้ว่าคุณเป็นยังไงอยู่กันแบบทำแต่งานงกงกประหยัดตลอดตลอด หรือไรบางมีให้รางวัลตัวเองบ้างก็ได้ อย่างไปเที่ยวประจำปีเป็นต้น อ่านอ่านดู ดูเหมือนภรรยาคุณจะเครียดหรือเปล่า เคยอยู่กรุงเทพ แล้วย้ายมาอยู่กับคุณ เพื่อนอะไรก็ไม่มี วันวันก็อยู่กับลูก แค่ให้รางวัลเธอปีละครั้งสำหรับแม่ของลูกจะเป็นไรไป คุณก็ดูเอาที่เหมาะสมกับรายได้ หรือคุยกันว่า ปีนี้รายได้ดีก็ให้เยอะ ปีไหนไม่เข้าเป้าขายไม่ดีก็น้อยลงหน่อย เราว่าน่าจะคุยกันได้นะคะ จากคุณ : นู่นนี่ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 10:26:45

ความคิดเห็นที่ 94 . กลับมาอีกที อ่านความเห็นกันจนผมตาลาย ขอบคุณความเห็นจากทุกๆ ท่านมากๆ เลยครับ ส่วนตัวผมเองก็ยังนึกไม่ออกว่าจะใช้วิธีไหนให้เธอเปลี่ยนใจ เพราุะผมเองก็ไม่เคยกล้าขัดอะไรเธออยู่แล้ว เธอเคยบอกผมว่าจะเอาลูกไปเรียนที่กรุงเทพ เพราะลูกน้องสาวเรียนสาธิต จุฬาฯ เธอก็อยากให้ลูกเรียนบ้าง แต่ผมไม่ให้ไป บอกไปว่า "รอให้ผมตายก่อนแล้วกัน" จากนั้นเธอก็เริ่มอยากได้นู่นนี่อยู่เรื่อยๆ เรื่องให้เธอทำงานจะได้ไม่ว่างเข้าเว็บหรือคุยกับบรรดาผู้ปกครอง ผมก็เคยพูดเหมือนกันจะได้ช่วยกันหาเงินแต่เธอก็บอกว่า เธอต้องรับส่งลูก กลัวไม่สะดวกอีก งานบ้านเมื่อ 7-8 ปีก่อนเธอก็เคยทำ ทำกับข้าวบ้าง ส่วนผมมีหน้าที่ล้างจาน ขัดห้องน้ำ แต่ตอนหลังเธอบ่นเหนื่อย เลยหาแม่บ้านมาช่วยงานบ้านอีก ผมล่ะอยากให้ภรรยาผมผ่านมาอ่านกระทู้นี้เสียจริงๆ อย่างน้อยเค้าก็จะได้รับทราบแง่คิดดีๆ จากหลายๆ ท่าน และอาจพอฉุกใจคิดอะไรได้บ้าง จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 10:57:37 A:183.89.27.4 X: TicketID:349933

ความคิดเห็นที่ 95 พาไปร้านเพชร/ร้านทอง .. แล้วให้เลือกในงบราคา LV เชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ! . จากคุณ : สวยสะพรึง เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 11:12:30

ความคิดเห็นที่ 96 ตอนจะแต่งงานไม่ได้ศึกษาหรือตกลงกันก่อนหรือคะเรื่องชีวิตอนาคต เราคงเป้นผู้หญิงนอกโลกอีกคนที่ไม่อยากได้หลุยส์ อยากได้ทองหรือเพชรมากกว่า 555+ จากคุณ : Muay ja เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 11:12:32

ความคิดเห็นที่ 97 คุณ จขกทคะ ลองให้ภรรยาเก็บเงินซื้อเองดีไหมคะ คุณภรรยา จขกท มีเงิน เดือน 18000 เก็บ 2เดือนก็ได้แล้ว รุ่น neverfull อะค่ะ แล้วยังมีเงินเหลืออีก สามีเราเมื่อก่อนให้เราในโอกาสพิเศษเท่านั้นค่ะ คือครบรอบแต่งงานเท่านั้น แต่เราไม่เคยขอเพิ่มนะคะ วันเกิด วันพิเศษอื่นๆ เราเคยได้เป็นเงิน แต่เราก็คืนให้ หมด เราไม่รับค่ะ เพราะว่าเกรงใจเขาเพราะเขาทำงานคนเดียว ตอนนี้มีลูกแล้ว ของพวกนี้ยิ่งไม่จำเป็นเลยค่ะ เราบอกไม่ต้องซื้อให้แล้วและเราก็ไม่รับมานาน แล้วค่ะ แต่ว่ายังมีกิเลสอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ซื้ออยู่ดีค่ะ ตอนนี้ lv chanel fendi balen miu miu วางอยู่ในตู้อย่างไร้ประโยช ใช้จริงแค่ cath kidston เพราะไม่ ต้องมานั่งระวังกระเป๋าเปื้อน และกันน้ำได้ด้วย จากคุณ : issie's mom เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 11:32:06 A:70.119.187.24 X: TicketID:203003

ความคิดเห็นที่ 98 เห็นคุณจขกทยังกลับมาตอบ ประมาณว่าขัดใจเมียไม่ได้ แล้วพอไม่ให้ไปกรุงเทพเธอก็เลยเริ่มเรียกร้องอยากได้สิ่งต่างๆ เราเลยจะเล่ากรณีคนใกล้ตัวให้ฟังนะคะ แรกๆ มันเริ่มจากว่า ฝ่ายสามีรับราชการทหาร แล้วบังคับให้ภรรยาออกจากงานมาเลี้ยงลูก เธอก็ยอม ทีนี้พอมาเป็นแม่บ้านนานๆเข้า ก็เริ่มไม่รู้ค่าของเงิน คิดอะไรไม่มีเหตุผล อยากได้สิ่งต่างๆให้เหมือนกับบรรดาเมียๆทั้งหลายไนวงสังคมเดียวกัน ซึ่งจริงๆแล้วแต่ละคนก็ไม่มีสมองพอๆกันนั่นแหละ ทีนี้หนักเข้าๆ สามีเริ่มติดหนี้ ภรรยาไม่มีปัญญาช่วยอะไร (ก็แหงอยู่แล้ว) ที่แย่ไปกว่านั้น ภรรยาดันอยากซื้อที่ดิน ปลูกบ้านในจังหวัดที่ไม่ค่อยพัฒนาขึ้นมาซะดื้อๆ แน่นอนว่าสามีก็ต้องยอมค่ะ กลัวเมียหนักมาก พอหนี้พอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายต้องขายสมบัติของตระกูลใช้หนี้ ที่ดินที่ซื้อมา ไม่มีราคาด้วยนะ แบบว่าเป็นการตัดสินใจใช้เงินในอนาคตที่ไม่มีอยู่จริง นี่ล่ะค่ะ คนกลัวเมีย.... คิดให้ดีๆนะคะ ระวังวันนึง กระเป๋าจะไม่ใช่แค่กระเป๋าอีกต่อไป จากคุณ : smallkid เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 11:37:58

ความคิดเห็นที่ 99 เอาเงินไว้เลี้ยงลูกดีกว่าทุกวันนี้ไม่เคยซื้อของให้ตัวเองเลย นอกจาก "ลูก" จากคุณ : sj_berry เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 11:38:47

ความคิดเห็นที่ 100 สงสัยภรรยาอเคยอยู่ในสังคมหรู(อาจหรูจริงหรือหรูปลอมก็ไม่รู้)ในกรุงเทพ มาก่อน ด้วยญาติพี่น้องอาจจะมีหน้ามีตา ตอนแรกคิดว่าแต่งกับจขกท. ตามเงินเดือนก็เกือบรวยทีเดียว ก็เลยคิดว่าจะมีชีวิตสุขสบาย อย่างไรก็ดี จขกท. หาหลักประกันในชีวิตไว้บ้าง หรือสอนให้ภรรยารู้จักหาเงิน อย่างเช่น เอาเงินไปซื้อกองทุนเปิด ปิด สารพัด หรือเงินออมที่ได้กำไรบ้าง(เปลี่ยนจากห้องแป้งไปห้องสินธรบ้างก็ดี) เพราะดูจากแล้วหากเกิดอะไรขึ้น ในกรณีที่รายได้มาจากจขกท. คนเดียว ไม่แน่ใจว่า ภรรยาจขกท. จะฝ่ามรสุมชีวิตได้ในอนาคตหรือเปล่า แต่ถ้าญาติพี่น้องภรรยา รวยและพร้อมช่วยเหลือก็อีกเรื่องนึง จากคุณ : แก๊งเหมียวอาละวาด เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 12:04:27

ความคิดเห็นที่ 101 LV หรือสินค้าไฮเอนด์อื่นๆ ถ้ายังต้องคิดต้องตัดสินใจ ต้องพะวงเรื่องเงินในการซื้อ คงต้องตัดใจคิดว่าคุณไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของสินค้าประเภทนี้ ในอดีต กลุ่มเป้าหมายลูกค้า LV คือพวกราชวงศ์ เศรษฐี ดาราดังๆ คนที่มีรายได้มากๆ แต่ปัจจุบันกลายเป็นชนชั้นกลาง ซึ่งถ้ามีรายได้ซื้อได้โดยไม่เดือดร้อนก็ยังไม่เท่าไหร  แต่พวกต้องเก็บเงินซื้อ จะซื้อแล้วยังห่วงหน้าพะวหลัง ยังมีปัญหาเรื่องเงิน ก็ยังอยากกระ:-)กระสนเป็นเจ้าของกัน  เพื่อ ? กำลังทรัพย์ไม่ถึง ไม่ใช่ความผิด  คนๆนึงมีความดึงดูดหลายมิติให้คนอื่นสนใจ  วัตถุภายนอกเป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งเท่านั้นเอง   แฟนคุณต้องเปลี่ยนความคิด ต้องสร้าง self esteem ขึ้นมาเอง ถ้าในตัวตนคุณมีอะไรที่มันดี มันเหนือคนอื่นอยู่แล้ว คุณจะไม่ต้องการของพวกนี้หรอก จากคุณ : Queen of hearts เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 12:07:19

ความคิดเห็นที่ 102 คงไม่ถึงกับผู้หญิงทุกคนหรอกมั้งคะ   ส่วนตัว ก่อนหน้านี้ก็อยากได้มากกกกกกกก จนตอนนี้มี Longchamp 3 Coach 2 LV 5 Chanel 2 แต่ๆๆๆ เราแค่นักศึกษาอายุเพิ่งขึ้นเลข 2 ไม่มีรายได้อะไร แบมือขอเงินพ่อแม่ล้วนๆ กว่าเราจะคิดได้พ่อแม่ก็หมดไปเยอะค่ะ แต่ว่าแต่ละใบที่เราซื้อ เราเก็บเองจากค่าขนมที่คุณพ่อให้ครึ่งนึง คุณพ่อออกให้ครึ่งนึง แล้วก็มีบางใบที่แฟนซื้อให้ ตอนอยากได้ก็ไม่คิดอะไรเลย อยากมีเหมือนเพื่อน แค่นั้นเองจริงๆ รู้สึกผิดจนถึงตอนนี้ หันไปมองกระเป๋าที่กองอยู่แล้วก็โกรธตัวเอง ตอนจะซื้อทำไมไม่คิดให้ดี   ไปขอโทษคุณพ่อคุณแม่ ท่านก็เมตตา ได้แต่บอกว่าของซื้อมาแพง ให้ใช้อย่างระมัดระวัง จะได้เก็บไว้ใช้นานๆ เผื่อต่อไปเราทำงานก็ไม่ต้องซื้อใหม่ แต่คงต้องบอกให้จขกท.เตรียมใจไว้ ถ้าภรรยาคุณกำลังอยากได้มากๆ คงห้ามยากค่ะ ตอนเราอยากได้มากๆ ใครห้ามก็ไม่ฟัง ผ่านไปซักพักถึงคิดได้ .. เฮ่อ เป็นบทเรียนของเราจนวันตายเลยค่ะ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็อยากเอาไปซื้อทองเหมือนกัน ฮ่ะๆ จากคุณ : Aislin (Aislin) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 14:31:06

ความคิดเห็นที่ 103 กระเป๋าแพง ๆ เป็นของที่น่ารังเกียจสำหรับเราค่ะ เคยได้ยินมานักต่อนักแล้วว่า นักศึกษาไปขายตัวเอาเงินมาซื้อกระเป๋าก็เยอะ เป็นสิ่งที่ทำให้คนยอมทำตัวตกต่ำค่ะ มีคนให้เรามา เรายังคิดเลยว่าแก่ ลายป้ามาก ๆ ไม่ชอบเลย แต่ก็ใช้นะ ใช้แบบไม่ถนอมด้วย ตอนนี้เยินแล้ว ไม่ต่างอะไรกับของก้อปเลยในสายตาเรา เราดูไม่ออกเลยค่ะ (หรือว่าเค้าจะซื้อของก้อปให้เราก็ไม่รู้สินะ) จากคุณ : Lily of the Valley เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 15:46:18

ความคิดเห็นที่ 104 ปีละใบ เกินไปไม๊ เริ่มเหลิงแล้วค่ะ จากคุณ : น้องกรณ์ขอบอก เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 15:59:52

ความคิดเห็นที่ 105 เคยไปเดินฮ่องกง ด้วยกัน ถามแฟนอยากได้ไหม แฟนผมก็ไม่เห็นจะอยากได้ หรือแฟนผม ไม่ใช่ผู้หญิง 555 จากคุณ : yuyumomo เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 17:39:36

ความคิดเห็นที่ 106 ไม่ใช่เราอ่ะที่ใฝ่ฝัน เราเฉย ๆ นะ เราชอบ Kipling มากกว่า ซื้อใบละ 4 พันยังว่าแพงแล้วเลย เหอ เหอ อีกอย่างหิ้วไปประชันกันทำไมอ่ะ เค้ามีหลุยส์แล้วเราจะมีหลุยส์ไปทำไมมันจะเกลื่อนไปป่าว กระเป๋าบางใบราคาไม่ถึงพันก็สวย หรูได้เหมือนกันอ่า จากคุณ : บุญผ่อง เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 17:53:42

ความคิดเห็นที่ 107 มันเป็นการเข้าสังคมอ่ะค่ะ ภรรยาคุณไม่ได้เห็นเป็นกระเป๋า แต่เห็นเป็น social status อาจจะถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของครอบครัวคุณด้วย ตอนยังไม่มี ก็อาจจะกลัวว่าไม่ทัดเทียมคุณแม่คนอื่นๆ ตอนที่มี 1 ใบ ก็อาจจะกลัวโดนเม้าท์ว่าหาได้แค่ใบเดียวถือซ้ำๆอยู่นั่น ตอบตามค่านิยมแม่บ้านทั่วไปนะคะ จากคุณ : venomenigma (bubuki) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 17:57:22

ความคิดเห็นที่ 108 เมื่อก่อนอิชั้นก็ซื้อไว้ แต่พอยิ่งแก่ ยิ่งหาเงินได้ ยิ่งมีลูก ยิ่งรู้จักค่าของเงินและการใช้เงินให้รอบคอบกว่าเดิม เลิกนิยม เลิกอยากได้ แต่.....อิชั้นเปลี่ยนจากกระเป๋าแพงๆๆ มาเป็น " ทองแท่ง " แทนอ่ะค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จริงค่ะ สะสมมันไปงั้นล่ะค่ะ อิชั้นถือว่าเป็นสมบัติติดต่อ มีน้อยก็ซื้อน้อย ไม่มีก็ไม่ต้องซื้อ อีกอย่างอิชั้นเลิกนิยมค่ะ เลิกนิยมของที่มีราคา แต่พอไม่อยากได้ อยากขายเลหลังมันกลับไม่มีราคา หรือราคาต่ำ แถมก๊อปแบบเกรดเอสี่เอก็เยอะ หรือ ของใช้แล้วหมดไปหรือเก่าไปค่ะ เพราะอิชั้นถือว่าของชิ้นนี้มันไม่มีราคาในอนาคตอีกแล้วค่ะ ส่วนกระเป๋าเนี่ย อิชั้นใช้แต่กระเป๋าผ้าราคาไม่กี่สิบบาท ราคาสบายกระเป๋าแถมรักษ์โลกอีกต่างหากค่ะ จากคุณ : กระเพราตับราดข้าว เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 22:51:20

ความคิดเห็นที่ 109 ถ้าคุณจขกท.ยังขัดคุณภรรยาไม่ได้ ปัญหาก็จะเรื้อรังต่อไปค่ะ อาจไม่ต้องหักดิบ แต่ใช้วิธีละมุนละม่อม เอาเงินส่วนนึงไปฝาก fix กับธนาคารดอกเบี้ยสูงๆ แต่เบิกไม่ได้ แล้วก็...ตายละ เงินหมุนไม่ทัน ทำยังไงดี ไม่ได้แล้วนะ เราต้องวางแผนการใช้เงินกัน บลาๆ...อะไรแบบนั้นก็ว่าไปค่ะ ส่วนตัวเองก็กิเลสเยอะ อยู่หลายวงการก็ยิ่งเปลืองเงินมาก ทั้งไอที เล่นกล้อง เย็บปักถักร้อยบ้าง นี่ก็เริ่มสนใจเครื่องสำอางอีก แต่เรามีเกณฑ์กับตัวเองค่ะ ว่าในเดือนนึง เงินในบัญชีเราจะต้องเพิ่มขึ้นตลอด ห้ามลดลง ถ้าอาทิตย์ไหนใช้เยอะ อาทิตย์ต่อไปก็ต้องใช้น้อยๆ แต่กระเป๋ากับรองเท้าเราใช้ค่อนข้างแพงนะ กระเป๋าใบนึงก็ 1000-3000 กว่าๆ สามพันกว่าคือแพงสุดแล้ว คุณแม่ซื้อมาให้แบบไม่รู้ตัวค่ะ ปกติจะซื้อแบรนด์ตอนลดราคาเอา เพราะของแบรนด์การเย็บอะไรเขาดีกว่าทนทานกว่า พวกใบละ 200 ใช้ได้สี่ห้าเดือนก็สายขาด กระเป๋าขาดแล้ว หรืออย่างรองเท้าถูกๆ ใส่เดือนเดียวก็พัง เจ็บเท้าอีกต่างหาก การซัพพอร์ตน้ำหนักมันสู้รองเท้าดีๆ ไม่ได้ ซื้อแพงหน่อยแต่ใช้ไปเลยเป็นสิบปีดีกว่า อันที่จริงปีละใบไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือเอาไปทำอะไรเยอะแยะมากกว่า เรื่องนี้จขกท.ต้องหาวิธีคุยกับคุณภรรยาล่ะนะ ไม่อย่างนั้นกจะเรื้อรังอย่างที่ว่าค่ะ ปล. แอบงงนิดๆ ว่า ทำไมคุณจขกท.ไม่อยากให้ลูกเรียนสาธิตจุฬาง่า เสียดาย ส่วนตัวว่าโรงเรียนเขาดีออกนะ ตอนเด็กๆ เราไปสอบยังสอบไม่ติดเลย นี่น้องชายเพื่อนก็เรียนอยู่ค่ะ ใครบอกว่าโรงเรียนไม่มีผล ส่วนตัวว่ามีผลมากๆ อยู่ดี (ในฐานะเด็กคนนึง ><) จากคุณ : ตัวตลกสีเทา เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 04:45:09

ความคิดเห็นที่ 110 .. แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 55 11:30:37 จากคุณ : OKANEMOCHI เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 08:05:39

ความคิดเห็นที่ 111 ถ้าลำบากก็บอกภรรยาไปตรงๆ หรือซื้อรุ่นถูกลงมากหน่อยก็ได้ ปีละใบพอ ห้ามเกิน เราก็เป็นแม่บ้านเลี้ยงลูกค่ะ แบรนด์มีใช้บ้างแต่ไม่มาก ส่วนมากซื้อเอง แต่นะสามีเป็นคนให้ค่าใช้จ่าย มีบ้างนานๆทีสามีซื้อมาให้เอง แต่ไม่ถูกใจ แต่หลังๆไม่ค่อยซื้อแล้วค่ะ หันมาซื้อเป็นพวกทองพวกเพชรค่ะ เก็บให้ลูกได้ด้วย ไม่จม เก็บสะสมแล้วก็มีความสุขอะนะ ยิ่งเป็นเครื่องประดับเก็บแล้วสบายใจ เปลี่ยนเป็นซื้อจิวเวลลี่ให้ภรรยาแทนได้ไหม ในมูลค่าเท่ากัน ภรรยาก็น่าจะชอบนะคะ จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 10:38:24

ความคิดเห็นที่ 112 จากที่เรามองนะก็มันเป็นธรรมดาของสมาคมแม่บ้านตามรร.คะ โรงเรียนลูกเราก็มีแก็งค์แบบนี้ ส่งลูกเสร็จจับกลุ่มชวนไปเที่ยวฆ่าเวลาระหว่างรอลูกเลิกเรียน วันๆๆเม้าท์ชาวบ้าน อวดนู่นนี่นั่น เพ้อเจ้อคะ ดิฉันก็เป็นบุคคลๆนึงอยากได้กระเป๋าดีๆๆเช่นlouisเนื่องจากว่ามันทนและใช้ได้นานแต่เมื่อสัปดาห์ก่อนไปสอบถามราคา แม่เจ้า39,000บาท อยากได้นะแต่พอเห็นสามีกลับมาบ้านเห็นความเหน็ดเหนื่อย ก็ไม่เอาดีกว่าใช้coach ต่อไปจนกว่าจะพังไปข้าง คุณไปเตือนภรรยาคุณตอนนี้ไม่มีประโยชน์มีแต่จะทะเลาะกัน ทางที่ดีคุณควรทำให้เธอคิด ว่าทุกอย่างในโลกไม่ได้หามาง่ายๆๆค่อยๆเป็นค่อยๆๆไปแหละทุกอย่างใช้เวลาคะ. เชื่อไหมคะดิฉันเลิกเล่นบีบีวอทแอป เฟตบุคเล่นแต่พันทิพย์ เพราะสิ่งเหล่านั้นนำพากิเลสมาสู่ตัวดิฉัน ไอความอยากมีอยากได้เห็นเพื่อนๆๆมี เลยยอมโลเทค ยอมสังคมน้อยเอาว่าทุ่มให้ลูกดีกว่า ทุกข์สุขอยู่ที่ใจคะ จากคุณ : Lovemylife_myson เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 20:24:18

ความคิดเห็นที่ 113 คุณเป็นสามีที่น่ารักมาก ๆ นะคะ แต่อ่าน แต่ละความเห็นแล้วอย่าไปทะเลาะกะภรรยาหล่ะ เราก็คล้าย ๆ กะภรรยาคุณนะอยากซื้ออยากมีแล้วสามีไม่เข้าใจอ่ะค่ะ ทะเลาะกัน  สุดท้ายเราซื้อแค่ใบสองใบที่คิดว่าจะใช้จริง ๆ ก็จบ ไม่คิดอยากได้อีก สลับไปมาใช้ที่มีอ่ะ    มาตอนหลังสามีจะซื้อให้เองเราก็เป็นฝ่ายห้ามไว้ อยากบอกว่า  เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องของสังคมผู้หญิงค่ะ ตอนนี้อาจกำลังเห้อ อวด ๆ กันอยู่ไรแบบนี้ สักพักเธอก็เบื่อเองค่ะ    ไม่ต้องกลัวว่าเธอจาซื้อจริงทุกปีหรอก ไม่อยากให้คุณไปทะเลาะกะเธอ เพราะเดียวจะเข้าใจว่าไม่รักเธอ แต่สำหรับเรายอมรับว่ากระเป๋าหลุยส์ที่มีเนี้ยใช้ได้นานและทนค่ะ ประหยัดกว่าไปซ้ือแฟชั่นอ่ะค่ะ    ออกงานได้ตลอด   บอกเค้าว่าขอใบที่ไม่แพงแล้วใช้นาน ๆ  หรือบอกว่าจะเก็บเงินไว้พาเทื่ยวต่างประเทศก็ได้ค่ะ ภรรยาคุณก็จะได้รู้สึกว่าคุณแคร์และอาจประหยัดช่วยคุณอีกก็ได้นะ จากคุณ : โอเคนะ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 08:43:58

ความคิดเห็นที่ 114 อยากให้คุยกับภรรยาด้วยเหตุผล ในเมื่อคุณทำงานคนเดียว ภรรยาไม่ได้ทำงาน แถมมีลูกอีก ในกรณีที่คุณเป็นอะไร LV มันสามารถช่วยให้ภรรยาและลูกคุณมีชิวิตที่ไม่ได้ลำบากได้หรือเปล่า คุณน่าจะบอกภรรยาให้ซื้อทอง / หุ้นกู้ /กองทุน / ที่ดิน ไว้ดีกว่าเพื่อวันข้างหน้าถ้าคุณเป็นอะไรไป ภรรยาและลูกไม่ลำบาก  ของเราซื้อหุ้นกู้ด้อยลิทธิของธนาคาคาร แถมมีเงินปันผลตลอดเลย ดอกเบี้นดีกว่าฝากแบงค์อีก จากคุณ : คุณพ่อน้องปั้น เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 15:08:22