++ เอามาฝากค่ะ เรื่องอันตรายของรถหัดเดิน ++

ไม่รู้เเคยอ่านหรือทราบกันหรือบ้างยัง วันนี้อ่านเจอเลยแวะเอามาฝากค่ะ

by: พญ.ปาจรีย์ ลิ่มทองแท่ง
February 14, 2012

เป็นภาพคุ้นตาคนไทยอย่างเราที่มักจะเห็นว่าหากบ้านไหนมีเด็กเล็ก มักจะได้เห็นรถหัดเดิน (infant walker) อยู่ด้วย คุณพ่อคุณแม่ก็มักจะพูดอย่างภาคภูมิใจว่าดูสิ ลูกมีพัฒนาการที่ดี เดินได้เร็วกว่าเกณฑ์อายุ แต่ทราบหรือไม่ว่าสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประกาศต่อต้านการใช้รถหัดเดินมาตั้งแต่ปีคศ. 2001 ส่วนประเทศแคนาดาก็มีกฏหมายห้ามการค้าขายหรือโฆษณารถหัดเดินด้วยเช่นกัน เปรียบเทียบคล้ายคำกล่าวรณรงค์การเลิกเหล้าที่ว่า 'ให้เหล้าเท่ากับแช่ง' เช่นเดียวกัน 'ใช้รถหัดเดินเท่ากับแช่งเด็ก' นะคะ

การใช้รถหัดเดินได้รับความนิยมอย่างสูงมาช้านาน เนื่องจากเชื่อว่าช่วยให้เด็กได้ฝึกกล้ามเนื้อขาให้แข็งแรง นำไปสู่พัฒนาการของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่ดี เดินได้เร็วขึ้น เด็กเองก็ดูสนุกสนานที่เขาสามารถเคลื่อนไหวไปในทิศทางต่างๆได้อย่างรวดเร็ว แต่เหตุผลที่กลุ่มกุมารแพทย์ออกมาต่อต้านการใช้รถหัดเดินอย่างจริงจังก็ด้วยเหตุผล 2 ประเด็นหลัก ประเด็นแรกคือ ยังไม่มีการศึกษาใดพบว่ารถหัดเดินช่วยให้เด็กเดินได้เร็วขึ้น อธิบายง่ายๆก็เหมือนเด็กขาดการฝึกซ้อมกล้ามเนื้อ เราอยากให้ขาเขาแข็งแรง เด็กก็ต้องหัดไต่เต้ามาจากการคลาน เกาะยืน จนเดินเตาะแตะได้เอง แต่เมื่อใช้รถหัดเดินซึ่งมาคอยประคองกล้ามเนื้อ ไม่ได้ลงน้ำหนักใช้งานกล้ามเนื้อจริงๆ เพียงแค่สะบัดขา ล้อรถหัดเดินก็พาเด็กเคลื่อนที่ไปไหนต่อไหนได้ตามใจปรารถนาแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่บางการศึกษาพบว่าเด็กที่ใช้รถหัดเดินมีพัฒนาการด้านการเดินช้ากว่าปกติด้วยซ้ำไป

ประเด็นที่สองซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญ นั่นคือ การใช้รถหัดเดินทำให้เด็กเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ตั้งแต่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรงหรือเสียชีวิตก็มี ตัวอย่างอาการบาดเจ็บเช่น นิ้วมืิอนิ้วเท้าถูกหนีบเพราะเด็กเคลื่อนที่ไปเล่นประตู ลิ้นชักต่างๆ บางคนถูกน้ำร้อนลวกเนื่องจากเด็กเคลื่อนที่ไปเล่นในครัว โต๊ะกินข้าว แล้วเอามือดึงผ้าปูโต๊ะลากเอาชามน้ำแกง กาน้ำร้อนราดใส่ตัวเด็ก เด็กบางคนไปเจอขวดน้ำยา สารเคมี แล้วเอามือไปจับหรือดื่มกิน ได้รับพิษอย่างไม่คาดฝัน นอกจากนั้นรถหัดเดินยังพลิกล้มได้ง่าย เคยมีรายงานพบเด็กเสียชีวิตจากการจมน้ำเพราะรถหัดเดินพาเด็กไปตกลงบ่อ สระว่ายน้ำ หรือแม้แต่ในห้องน้ำ และหากบ้านไหนมีบันไดล่ะก็ ความเสี่ยงที่เด็กจะพลัดตกบันไดลงมาศีรษะกระแทก กระดูกหักหรือเสียขีวิตนั้นสูงมาก หากยังน่าหดหู่ไม่พอ มีมาแล้วที่เด็กเสียชีวิตเพราะรถหัดเดินพาไปติดอยู่ในที่แคบแล้วคอถูกรัดแน่น ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต

บริษัทผู้ผลิตเองก็พยายามปรับปรุงรถหัดเดินให้มีความปลอดภัยสูงขึ้น เช่น ปรับเพิ่มความกว้างของฐานรถหัดเดินเพื่อไม่ให้เด็กไถรถผ่านช่องประตูออกไปยังบริเวณบันไดหรือห้องครัวซึ่งเป็นจุดเสี่ยงได้ ปรับล้อให้มีความฝืดหรือติดยางเบรคไว้ใต้ฐานรถหัดเดิน แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรถหัดเดินใดที่เรียกได้ว่ามีความปลอดภัยเต็มร้อย ดังนั้นจึงมีของเล่นทางเลือกที่จับเอารถหัดเดินมายึดไว้กับโต๊ะที่มีของเล่นเสริมทักษะ ให้เด็กเคลื่อนที่ไปมาได้เฉพาะรอบๆโต๊ะเท่านั้น เป็นอีกทางเลือกที่ปลอดภัยแทนการปล่อยเด็กไว้ในรถหัดเดิน

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ให้ลูกใช้รถหัดเดิน คุณอาจคิดว่าคุณเฝ้าดูลูกตลอดเวลา ไม่มีทางที่เหตุการณ์เลวร้ายจะเกิดขึ้นกับลูกของเรา ใช่ค่ะ นั่นคือคุณโชคดี เพราะอย่างที่เปรียบเปรยแต่แรกว่ารถเข็นเด็กเปรียบไปก็คล้ายเหล้า ไม่ใช่ทุกคนที่ดื่มเหล้าจะขับรถแล้วเกิดอุบัติเหตุ เขามีความเสี่ยง แต่เขารอดเพราะเขาโชคดี อุบัติเหตุคือสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ ไม่คาดฝัน เพราะความประมาทเพียงชั่วเสี้ยววินาที หากวันนั้นคุณพลาดพลั้งเผลอไป ดูไม่ทัน โชคอาจไม่ใช่ของคุณและเดิมพันครั้งนี้หมายถึงชีวิตลูกของคุณเอง อย่าปล่อยให้เขามีความเสี่ยงเลยดีกว่าค่ะ

จากคุณ	: love me do
เขียนเมื่อ	: 24 ก.พ. 55 16:46:49