Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
วันนี้ที่รอคอย....ความรักจากแม่ที่หายไปในวัยเด็ก ติดต่อทีมงาน

ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี?? มันคือความรู้สึกที่อยากตะโกนออกมา
วันนี้เป็นวันที่เราโล่งมากๆ ความรู้สึกที่เก็บมากว่า 20 ปี

วันนี้ผู้หญิงคนหนึ่งร้องไห้กับเรา ขณะที่เราขับรถพาเค้ากลับจากโรงพยาบาล

หลายคนคงเดาออก..ใช่! ..ผู้หญิงคนนั้นคือแม่ของเราเอง วันนี้เราพาแม่ไปตรวจ
สุขภาพที่โรงพยาบาลเนื่องเพราะความกังวลใจเรื่องของมะเร็งเต้านมแม่บ่นว่าเจ็บ
ที่หน้าอกมาหลายวันแล้ว ...แต่คุณหมอบอกว่าคลำไม่เจอ แม่โล่งใจ... เราโล่งใจ
ขับรถกลับบ้าน

โดยปกติเราไม่เคยแสดงออกว่ารักกันแบบซื้งๆ กับครอบครัวซักเท่าไหร่ก็คงจะ
เหมือนกับหลายๆ ครอบครัว ไม่เคยกอด ไม่เคยหอม แต่แสดงออกที่การกระทำ
มากกว่า โดยเฉพาะกับตัวเราเองที่รู้ตัวมาโดยตลอดว่าแม่ไม่ค่อยรักเลยทำให้ดู
เป็นคนแข็งๆ กับครอบครัวพ่อกับแม่มีลูก 3 คน เราเป็นลูกคนกลาง ...มีพี่ชายคน
โตอายุมากกว่าเรา 2 ปี และน้องสาวคนเล็กที่อายุห่างจากเรา 5 ปี ด้วยความที่พ่อ
เป็นลูกคนจีน ดังนั้นพี่ชายคนโตของเราจึงได้รับการเอาใจมากกว่าคนอื่น อยากได้
อะไรแม่ก็ซื้อให้ อยากไปเที่ยว หรืออยากทำอะไรแม่ก็ตามใจ ส่วนน้องสาวคน
เล็กของเราเนื่องด้วยอายุต่างจากเราถึง 5 ปีจึงทำให้ดูเป็นน้องเล็กสุดที่พ่อแม่ตาม
ใจและดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษชีวิตตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยทำงานลำบาก อยากได้
อะไรก็แบมือขอพ่อแม่จวบจนถึงทุกวันนี้อายุ 28 ปีแล้วก็ยังคงแบมือขอเงินพ่อแม่
เหมือนเด็กที่ยังไม่รู้จักโต ส่วนชีวิตในวัยเด็กของเรานั้นต้องช่วยพ่อแม่ทำงาน
ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ตื่นตั้งแต่ตี 1 เพื่อมาช่วยแม่ขายของที่ตลาดสดทุกวัน เลิกเรียน
มาก็ต้องนั่งรถมาลงตลาดช่วยแม่ขายของต่อจนถึงหนึ่งทุ่มค่อยเข้าบ้าน วันเสาร์
อาทิตย์ก็ต้องไปยืนตากแดดตั้งแต่เช้ายันเที่ยงเพื่อช่วยอาโกว (พี่สาวพ่อ) ตาก
ปลา ตากหมึกส่งโรงงาน เวลาเพื่อนๆ มีกิจกรรมช่วงวันเสาร์อาทิตย์แม่ไม่เคย
อนุญาตให้ไป ชีวิตในวัยเด็กจวบจนเข้าสู่วัยรุ่นเราจึงไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทเท่าไหร่
นัก เชื่อหรือไม่คะว่ามีประจำเดือนครั้งแรกเราต้องหัดเรียนรู้การใส่ผ้าอนามัยด้วย
ตัวเอง เมื่อเริ่มมีหน้าอกแม่ก็ไม่เคยซื้อเสื้อชั้นในให้ใส่ จวบจนอาโกวเห็นเมื่อตอน
ที่ใช้เราปีนขึ้นไปเก็บมะม่วงบนต้นและมองเห็นว่าเราไม่มีเสื้อชั้นในใส่จึงไปหาซื้อ
เสื้อในมาให้ใส่ แม่ไม่เคยสนใจหรือใส่ใจเราเลย ในขณะที่น้องสาวเรานั้นได้
ทุกอย่างที่เราไม่เคยได้ ไม่เคยทำงานลำบาก ได้เรียนโรงเรียนมีชื่อของจัดหวัด
ในขณะที่เราเรียนโรงเรียนวัด ได้ไปเที่ยวไปดูหนังกับเพื่อน ในขณะที่เราไม่เคยได้
รับการอนุญาตให้ไปแม้แต่ครั้งเดียว ชีวิตของเราโตขึ้นมาจากคำด่าทอและไม้เรียว
ของแม่ในขณะที่น้องสาวแทบไม่เคยสัมผัสสิ่งเหล่านี้ เมื่อโตขึ้นเราเรียนจบปวช.
และจำเป็นต้องไปต่อปวส.ที่อื่น แม่ส่งเงินให้เราใช้เดือนละ 2000 บาท (ซื่ง ณ
เวลานั้นครอบครัวเริ่มมีรายได้มั่นคงมากขึ้นแล้ว) ซึ่งค่าเช่าห้องพักก็เดือนละ
1000 บาทแล้ว ชีวิตเราต้องอยู่ให้ได้กับเงิน 1000 บาท (ซึ่งรวมค่าเดินทางสำหรับ
กลับบ้านทุกสัปดาห์ด้วย) เราต้องต้มมาม่ากินกับข้าวอยู่บ่อยครั้งจนท้ายสุดเริ่มไม่
ไหวแล้ว เราต้องทำเรื่องย้ายไปเรียนภาคบ่ายเพื่อจะได้ทำงานพิเศษหารายได้ช่วง
กลางวัน  ในขณะที่น้องสาวเรานั้นเมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแม่พาไปส่งหาห้องพัก
ด้วยตัวเอง ค่าเช่าห้องอย่างเดียว 4500 บาท ค่าอยู่ค่ากินต่างหาก แต่สิ่งที่ทำให้
เรารู้สึกน้อยใจแม่มากๆคือเมื่อเราเรียนจบปวส.แม่ไม่ยอมให้เราเรียนต่อปริญญา
ตรี ...ความน้อยใจจุกอก และคำว่า “แม่ไม่รัก” เริ่มฝังแน่น ความน้อยใจเริ่มแปร
เปลี่ยนเป็น “ทิฐิ” และต้องการเอาชนะ ..เอาชนะอะไรเราไม่รู้ รู้แต่เพียงอย่างเดียว
ว่าต้องเอาชนะให้ได้

เมื่ออยากเรียน ..เราก็หาทางเรียนจนจบด้วยน้ำพักน้ำแรงของเราเอง ในหัวคิด
อย่างเดียวว่า “เห็นมั๊ยแม่..ถึงแม่ไม่ช่วย หนูก็เรียนจบได้”  

เมื่อเรียนจบและมีงานทำ เราส่งเงินให้แม่ทุกเดือนไม่เคยขาดจนถึงทุกวันนี้ “เห็น
มั๊ยแม่..ลูกที่แม่ไม่รักคนนี่แค่คนเดียวส่งเงินให้แม่ใช้”

ตั้งแต่เราทำงานมีเงินเดือนของตัวเองจวบจนปัจจุบันเราตะลอนพาแม่ไปเที่ยวขึ้น
เหนือล่องไต้แม้แต่ไปเที่ยวเวียดนามกับเพื่อนๆ เราก็พาแม่ไปด้วย “เห็นมั๊ยแม่..
ลูกสามคนของแม่มีหนูคนเดียวที่พาแม่ไปเที่ยว”

แม่เสียเงินเสียทองไปกับพี่ชายเราและน้องสาวเรามากมายในขณะที่เราไม่เคยแบ
มือขอเงินแม่เลย “เห็นมั๊ยแม่..หนูไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้แม่เลย”  ...

”เห็นมั๊ยแม่..หนูสร้างครอบครัวที่ดีไม่ได้หนีตามใครให้แม่เสียใจ”

“เห็นมั๊ยแม่..หนูสร้างธุรกิจเกื้อหนุนให้น้องมีงานทำได้”

“เห็นมั๊ยแม่..ยามเจ็บไข้ได้ป่วยหนูคอยดูแลแม่”

“เห็นมั๊ยแม่..หนูเป็นคนดีของแม่”

ฯลฯ

แม่เห็นมั๊ย?

วันนี้แม่ร้องไห้กับเราขณะขากลับจากไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล แม่พูดขึ้นด้วย
เสียงที่สั่นเครือ “แม่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่แม่เคยทำกับลูกไว้เมื่ออดีต แม่ไม่รู้ว่าจะชด
เชยอย่างไรดี แม่รู้ดีว่าแม่ให้ความรักต่อลูกน้อยกว่าลูกคนอื่นๆ ลูกไม่เคยได้อะไร
จากแม่เหมือนพี่น้องคนอื่นๆ แต่สิ่งที่ผ่านมาแม่ไม่รู้จะย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ยัง
ไง หากสามารถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้ แม่ก็อยากทำ แม่อยากให้รู้ว่าแม่รักลูก”

ในที่สุดวันนี้เราก็รู้แล้ว..สิ่งที่เราอยากเอาชนะนั้นคืออะไร

หัวใจแม่นั่นเอง..

“ในที่สุดหนูก็ชนะใจแม่จนได้ หนูก็แค่อยากให้แม่รักหนูบ้าง”

แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 55 22:25:19

จากคุณ : เจ้าหญิงสโนไวท์
เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 55 22:17:29




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com