ความคิดเห็นที่ 1 มีอยู่วันเรากับลูกไปตลาดกันสามคน(ในตอนนั้นเค้าน่าจะอยู่ ม 2 , ม 3) ก่อนเดินเข้าตลาดเราบอกกับลูกว่า เห็นแม่คุยกับใคร สวัดดีเลยนะ ไม่ต้องให้แม่บอก แม่อายเค้า... พอเดินออกจากตลาด ได้ยินเสียงเจ้าพี่ชายพูดกับ น้องสาวว่า "เส้นแม่เรารู้จักคนเยอะเน๊าะ" เพราะอะไร เจ้าลูกชายถึงพูดแบบนั้น เพราะตั้งแต่หัวตลาดยันท้ายตลาด แม่รู้จักแม่ค้า พ่อค้าเกือบทุกคน จึงทักและพูดคุย เจ้าลูกชายและลูกสาวจึงต้องไหว้ทุกคนที่แม่พูดคุยด้วย Y____Y ครั้งต่อไปชวนเค้าไปตลาดเค้าไม่ไปด้วย 555+ คงเข็ด อย่างที่เราเคยบอกในกะทู้นู้น... เราสอนให้เค้ารู้จักความสำคัญของหน้าที่ของแต่ละบุคคล เค้าจะไหว้ทุกคนได้โดยไม่เคอะเขิน ลูกเราเวลาที่เค้าไปเรียนในตัวเมืองเค้าต้องขึ้นรถบัสที่รับส่งประจำ ก้จะบอกเค้าทุกวันว่า เวลาลงรถให้สวัดดีและขอบคุณคนขับและคนท้ายด้วยนะ หลังจากนั้น เราจะแอบถามพี่ว่า น้องสวัดดีมั้ย และแอบถามน้องว่า พี่ชายสวัดดีหรือปล่าว แล้วก็ถาม โชเฟอร์ กับคนท้ายว่า ลูกเราทำความเคารพมั้ย เค้าตอบว่า มีลูกแกนี่แหละที่สวัดดีทุกวัน พอถึงเทศกาลปีใหม่เราจะจัดขนมไปให้โชเฟอร์และคนท้ายทุกปี มีครั้งลูกชายเล่าให้ฟังว่า แม่วันนี้แวคเกือบไม่ทันรถ อาจารย์ปล่อยช้า แต่ลุงเค้าคอย... เราจึงบอกลูกว่า สองมือที่เรายกขึ้นไหว้เราไม่ได้ซื้อได้หา แต่เราจะได้อะไรดีๆกลับมาเยอะ... จะเห็นได้ว่า ที่เล่ามา มันเป้นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆแต่คุณรู้มั้ยคะ มันเป้นจุดเริ่มต้นเล็กๆของความอ่อนโยน ที่เราสามารถมอบให้กับลูกและมันจะติดตัวเค้าไปจนโต จากคุณ : 18 นะไม่ใช่อายุแต่เป็นมงกุฏ เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 22:21:23

ความคิดเห็นที่ 2 ติดตามอ่านอยู่ตั้งแต่ภาคแรกแล้วคะ สะดุดตรงหัวข้อกระทู้ เพราะประโยคนี้ เพื่อนเราเคยพูดกับเราเหมือนกัน ชอบการเลี้ยงลูกของ จขกท มากค่ะ จากคุณ : พระจันทร์เกเร เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 22:38:04

ความคิดเห็นที่ 3 ดาวเองก็รู้สึกเช่นนั้นคะ แม้ว่าไม่เคยเจอ แต่การตอบกระทู้ของคุณน้า(ขออนุญาตเรียกคุณน้านะคะ) ก็ทำให้ดาวรู้สึกแบบนั้น^^ จากคุณ : สาวไฉไล เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 22:40:19

ความคิดเห็นที่ 4 แม่หนูไม่เห็นบอกสวัสดีแบบนี้เลย โดนตี โดนหยิก ไม่ก็จับหัว ให้หันมาไหว้ กลับบ้านมายังด่าต่ออีกนะ ตอนนี้มืออ่อนตามแฟนซะงั้น จากคุณ : One to watch เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 22:44:55

ความคิดเห็นที่ 5 ชอบ จกขท มากค่ะ ตามอ่านมาตั้งแต่ทู้แรก แล้ว ชอบวิธีสอนลูกของ จขกท มากกก จะจำไปใช้กับลูกชายสุดแสบบ้างค่ะ จากคุณ : mama_Tourpool เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 23:08:05

ความคิดเห็นที่ 6 ภูมิใจและอิ่มใจค่ะ ที่ได้ยินคำพูดแบบนี้ "แม่ เพื่อนบอกว่า อยากมีแม่แบบแม่จัง" ลูกเคยพูดให้ฟังครั้งหนึ่งเมื่อยังเด็กกว่านี้ เดี๋ยวนี้เหรอคะ  "แม่ หยุดบ่นได้แล้ว พูดหลายรอบแล้ว" "อ่านไดอารี่เด็กอเมริกัน แม่เขาก็พูดมากเหมือนแม่เลย" ชอบการสอนของคุณแม่ค่ะ จะเอาไปใช้กับลูกชายตัวแสบที่บ้านมั่ง กำลังจะเข้าวัยรุ่น 12ปี ติดตามมาจากภาคแรกค่ะ.... จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 00:33:47

ความคิดเห็นที่ 7 ตามอ่านอยู่นะคะ  หนูอายุ 20 ปี  เเต่มี หลานชาย 1คน (ลูกของพี่ชาย)อายุ 6 ขวบ ดื้อมาก  เมื่อวานพึ่ง หนี ย่าเพื่อจะไปเล่นเกมส์ที่ห้าง  เเม่โทรมาเล่าให้ฟัง ได้ยินเเล้วเหนื่อยเเทนเเม่เลยค่ะ  ดีนะที่ตามเจอ  ตอนนี้เเม่หนูก็อายุ 54เเล้ว หนูทำได้เเค่เพียงตั้งใจเรียน   อยากเรียนจบไวๆ  พ่อเเละเเม่จะได้พักผ่อนสบายๆ เเอบเข้ามาเก็บเคล็ดลับ  จะได้ไปบอกคุณเเม่บ้าง  เพื่อจะได้เอาไว้จัดการกับหลานตัวเเสบ จากคุณ : นางฟ้าตาตี่ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 07:49:35

ความคิดเห็นที่ 8 เมื่อกี้ โมโหมากค่ะ เพราะพิมพ์ไว้เยอะ ลุกออกจากหน้าคอมไปทำธุระ... คุณสามีไม่ถามเราสักคำ มาใช้คอม ทำให้ที่พิมพ์ๆไว้หายไปหมด เราโมโหมาก แต่ก้พยายามนึกถึงคำของลูก ไม่เป้นไร หนูทนได้ หนูดูเมื่อไหร่ก็ดูได้ พ่อทำงานหาแต่เงินไม่มีเวลาดู ... ในใจของเรามันจึงสู้กัน(เหมือนทำสงครามเลย อิอิ) แล้วก็ค่อยๆสงบ เรานะถ้าโกรธเราจะไม่พูดค่ะ เราจะนิ่งมาก... จนลูกและพ่อของลูกจะรู้ถ้าเราโกรธ เห็นมั้ยคะ การแสดงอาการโกรธของคนเรามีหลายแบบ บางคนโกรธต้องโวยวาย บางคนต้องพ่นๆๆๆ ด่าๆๆๆ เพื่อให้หายโกรธ ทีนี้บ้านร้อน ลูกและพ่อของลูกก็หาเรื่องออกนอกบ้านเพื่อไปให้พ้นหน้า แล้วอะไรจะตามมา... มีอยู่ครั้ง  ตอนนั้นลูกสาวน่าจะปีหนึ่ง เรานั่งรถจากลำปางเพื่อไปหาลูกที่ กทม พอรถวิ่งถึงนครสวรรค์ รถดันเสีย... ปกติแล้วประมาณ 5 ทุ่มรถจะต้องถึง กทม (ออกจากลำปางบ่าย3) เราโทรหาลูก เรา "เส้นรถแม่เสียอยู่นครสวรรค์จะถึง กรุงเทพกี่โมงไม่รุ" ลูก "แม่ แม่ให้อามารับเลยแล้วนอนที่บ้านย่าก่อน เช้าค่อยมาหาหนู"     (ย่าและอาของลูกอยู่นครสวรรค์)ลูกแสดงความคิดเห็นเหมือนหวังดี เรา (ฟังแล้วทะ:-)ๆยังไงพิกล) "ไม่เอาอ่ะ แม่เกรงใจอา แม่จะรอจนรถซ่อมเสร็จ" ลูกเงียบไม่พูดอะไรต่อ แต่เรารู้แล้วว่าลูกมีอะไรในใจ...แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไร วันนั้นกว่ารถจะซ่อมเสร็จและวิ่งเข้า กทม ถึง กทม ตี2ค่ะ เราเปิดเข้าห้อง ไม่เจอลูก เรากังวลซิ โทรหา ลูกบอกว่า อยู่ในงานวันเกิดเพื่อนหน้ามหาวิทยาลัยที่ลูกเรียน แล้วตบท้ายว่า แม่มารับหนูหน่อย เราโกรธลูกมาก  ..... แม่อุตส่าห์นั่งรถมาตั้งเกือบ 700 กม พร้อมของกินที่ลูกชอบและของฝากที่ลูกสั่ง ทำไมลูกไม่อยู่รอแม่ T____T (แต่ก็เชื่อใจลูกนะคะว่าลูกไม่นอกลู่นอกทาง) ถึงตอนเช้าลูกก็ยังไม่กลับ เราออกจากคอนโดแต่เช้า นั่งรถเมล์ไปลงที่หมอชิต2 แล้วเดินๆๆๆย้อนไปที่สวนจตุจักร แล้วก้นั่งอยู่ที่สวนนั้นจนถึงห้าโมงเย็น แล้วนั่งรถกลับคอนโด ... วันนั้นทั้งวันลูกโทรหาและส่งข้อความหาเราทั้งวัน เราทำเหมือนเราไม่มีตัวตน... เมื่อถึงคอนโด สิ่งแรกที่เห้นคือ ลูกนั่งรออยู่ลูกหันมาสวัดดีเรา เราพยักหน้ารับไหว้ลูก เราไม่ยิ้ม ลูกหน้าเสีย.... แล้วเราก็เข้าห้องน้ำ เอาน้ำราดศรีษะ แล้วร้องไห้ ๆๆๆๆๆๆ ร้องจนพอใจ เราก็ออกมาจากห้องน้ำ แล้วเราก็ทำกับข้าวให้ลูกกินตามปกติ ดูกิริยาลูกแล้ว ลูกรับรู้นะว่าเราเสียใจ... จนเมื่อเร็วๆนี้ เราเข้า กทม ไปหาลูก ลูกโทรหาเราว่า "แม่ แม่จะถึงกี่โมง" เราบอกเวลา แล้วถาม "ถามทำไมหรอ" ลูกบอก "พอดีมีงานเลี้ยง (เลี้ยงแสดงความยินดีพวกรุ่นพี่เค้าจบ) แต่ไม่เป้นไรเดี๋ยวเค้าก็มีอีกไม่ได้จัดครั้งเดียว" อืมม เราคิดไอ้การที่ไม่พูดนี่ดีเนอะ และเมื่อเร็วนี้ เพื่อนเค้าสมัยเรียนเตรียมโทรมาชวนเค้าไปงานวันเกิด... ลูกบอกว่า ไปไม่ได้แม่มา... เพื่อนลูกบอกว่า มรึงก็ชวนแม่มาด้วยซิ ว่าแต่ว่า แม่มรึงอายุถึงหรือยัง เค้าเล่าให้ฟังอืมมก็ขำกันไป การพูดการจาของลูก ถ้าเค้าอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของเค้าเราจะปล่อยนะคะแต่ก็จะคอยเตือนให้รู้จักกาละเทศะค่ะแม้กะทั้งเรื่องการแต่งตัว จะเห้นได้ว่า เราจะใช้การกระทำของเราทำให้เค้าคิดเป็น... จากคุณ : 18 นะไม่ใช่อายุแต่เป็นมงกุฏ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 09:41:17

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วคุณแม่อายุถึงรึยังคะ 555555 รออ่านนะคะ จะเอาไปปรับใช้กับวัยรุ่นที่บ้าน (1 ขวบ) ^^" จากคุณ : Jeeyab เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 09:48:32

ความคิดเห็นที่ 10 ลูกเราให้ฟังว่า แม่ "เพื่อนหนูถามว่า ให้แม่เข้าไปในเฟชบุคด้วยนี่ยไม่กลัวแม่ด่าหรอ" เราถาม "แล้วจะด่าทำไม "... ลูก "ก็เวลาที่เห็นหนูแต่งตัวแรงๆแล้วโพสลงเฟช" เรา "แม่ไม่ว่าหนูอยู่แล้วถ้าหนูอยู่ในกลุ่มของหนูจัดเต็มไปเลย" ที่พูดอย่างนั้นไม่ได้ให้ท้ายลูกนะคะ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาแม้แต่ตอนที่ลูกยังเล็ก เราจะบอกเค้าตลอดเรื่องการแต่งตัว ตอนไหนควรจะแต่งตัวแบบไหน เท่าที่ผ่านมาลูกก็เชื่อฟังนะ เราบอกแม้แต่ตอนนั่งรถทัวร์กลับบ้าน ให้แต่งตัวยังไง ต่อหน้าญาติผู้ใหญ่ต้องแต่งตัวแบบไหน เราขอแค่ให้ลูกเชื่อฟังเราบ้างเท่านั้นค่ะ ที่ผ่านมาลูกก็โอเคนะ เคยขอเค้าขนาดว่า ลูกเอากางเกงขาสั้นตัวหนึ่งมาให้ดู(อาซื้อให้) เราบอก อย่าเอามาใส่ที่บ้านนะ แม่อายเค้า เอาไว้ไปใส่ที่กรุงเทพเถอะ... แล้วในเฟชบุคเนี่ยเป้นอะไรที่เราตรวจสอบเค้าได้ง่ายมากค่ะ เราจะรู้ว่าเค้าคุยกับเพื่อนแบบไหน ตอนนี้ลูกอยู่ในอารมณ์ไหน ลูกไปเที่ยวกับใครที่ไหน ข้อดีมีเยอะค่ะ ถ้าเราสามารถเข้าไปคุยในเฟชบุคกับลูกได้ แต่เราก็ต้องเข้าไปส่อง เข้าไปดูด้วยอาการสงบนะ 5555+ และนี่คือ ตย. ที่ทำให้เรารู้ว่า ลูกอารมณืไหน 555+ ก้าวข้ามความเป็นเด็กน้อย ด้วยการฝึกงานแบบมีพ่อแม่จัดการให้ทุกอย่าง(เพราะเรายังคงเป็นเด็กในสายตาพ่อแม่เสมอ) :) . จากคุณ : 18 นะไม่ใช่อายุแต่เป็นมงกุฏ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 10:12:26

ความคิดเห็นที่ 11 ชอบกระทู้นี้ เข้ามากดโหวดค่ะ เล่าอีกนะคะ จากคุณ : นู๋ชื่อยินดีไม่มีปัญหา เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 16:08:09

ความคิดเห็นที่ 12 ลูกเรายังไม่เข้าวัยรุ่น แต่เราเริ่มกังวลก่อนล่วงหน้าแล้วค่ะ กลัวว่าจะเลี้ยงเค้าได้ไม่ดีพอ กลัวเค้าไปติดยา เกเร หรือกลัวแม้กระทั่งคนอื่นมาทำร้ายลูกเรา ... โอ้ย... จิปาถะเน๊อะ จากคุณ : bake mania เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 16:32:50

ความคิดเห็นที่ 13 หนูตามเข้ามาอ่านกระทู้ของคุณน้าตั้งแต่กระทู้แรก เลยตามมากระทู้นี้ อ่านแล้วคิดถึงแม่เลยค่ะ แม่ชอบสอนเหมือนคุณน้าเลยว่าเจอใครที่แม่ รู้จักให้ยกมือไหว้นะ หนูก็ไหว้ตลอด ส่วนความสัมพันธ์ของแม่กับหนู ค่อนข้างเหมือนเพื่อนกันเลย มีอะไรปรึกษาแม่หมด แม่รู้หมดเลย แล้วแม่หนูเป็นอะไรที่แบบ อ่านคนเก่งมากก หนูคิดอะไร ยังไง แม่ดูออกหมด แต่เวลาแม่โกรธนี่สุดยอดเลยค่ะ ไม่อยากเข้าใกล้เลย แต่ก็ยังดีที่ไม่ค่อยโกรธง่าย ออกจะอารมณ์ดี เกินไปด้วย 55 เห้อออ. พูดแล้วก็อยากกลับบ้านเลยค่ะ ;) จากคุณ : I love dessert เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 18:02:44

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านประโยคนี้แล้วชอบมากเลยค่ะ "สองมือที่เรายกขึ้นไหว้เราไม่ได้ซื้อได้หา แต่เราจะได้อะไรดีๆกลับมาเยอะ..." ประทับใจและเห็นด้วยอย่างยิ่ง จากคุณ : สาวน้อยน่ารักผู้พิทักษ์คุณธรรม เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 11:23:15

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่านกัน ถ้าถาม จขกท ว่า จะให้จบตอนไหน 555+ไม่มีจบค่ะ (เป้นกะทู้แรกค่ะ ที่เขียนหาที่จบไม่ได้) ถ้างั้นอ่านไปเรื่อยละกันเน๊อะ ********************************************* เวลาที่ผู้ใหญ่พูดคุยกันแล้วเราพูดแซง...(ก็เด็กอ่ะเนอะ) อิหมาน้อยพลอยเห่า อินายว่า ( ^o^ )พลอย อิ ...แซมรู   มันเป็นคำด่า ที่เราโดนด่าสมัยเด็กๆ เค้าจะพูดแค่นี้ แต่ทำไมผู้ใหญ่ไม่อธิบายให้เด็กที่ประสบการณ์ชีวิตยังน้อยฟังล่ะว่า มันเป้นยังไง มันไม่ดีตรงไหน พอเรามีลูกเอง เราจึงอธิบายทุกอย่างเวลาลูกทำผิด พูดเถอะค่ะ ไม่ต้องหวังผล แม้จะเป้นเพียงลมผ่านหู... ครั้งหนึ่ง ลูกสาวประมาณ 6 7 ขวบ เราสี่คนพ่อแม่ลูกไปงานเลี้ยงโต็ะจีน เราต้องนั่งรวมกับเพื่อนๆเพื่อให้เต็มโต็ะ ขณะที่อาหารกำลังลงโต๊ะ ลูกเกิดปวดปัสสวะ เราจึงพาลูกไปห้องน้ำ พอกลับมา อาหารหมดจาน ลูกสาวเสียงดังว่า อะไร หมดแล้วหรอ... เราเลยบอกว่า อย่าเสียงดังลูก ลูกย้อนเราว่า แม่ยังเสียงดังเลย... เราไม่ว่าอะไร ... ปล่อยให้งานเลี้ยงเลิกลาก่อน... จนงานเลิกกลับบ้าน พอถึงบ้านลูกหลับอยู่เราปลุกเธอทันที แล้วเรียกลูกมาอธิบายว่า (ตอนนั้นเธองัวเงียด้วยนะ) แม่เสียงดังแม่ทำให้ใครเดือดร้อนมั้ย แม่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน(ที่เสียงดังเพราะแม่เชียร์นักดนตรี อิ อิ) แต่สิ่งที่หนูพูดถ้าป้าเค้าได้ยินจะเข้าใจผิดว่า เราว่าให้เค้าน่ะตะกละ ที่หน้าที่หลังจำไว้ จะย้อนว่าให้แม่คิดก่อนว่าสิ่งที่หนูพูดมันผิดหรือถูก แล้วที่แม่พูดน่ะถูกต้องมั้ย ลูกนิ่ง... เราเลยบอกให้ไปนอนต่อ ตั้งแต่นั้นมาลูกก็จะระมัดระวังในการพูดการจามากขึ้น กับเด็ก เราไม่ต้องไปหวังผลว่า เค้าจะได้อย่างใจเรา ไม่มีหรอกค่ะ ประสบการณ์ชีวิตลูกยังน้อย เค้าเกิดมาเพิ่งอายุได้กี่ปีเอง เราจึงต้องใช้ความอดทนในการเลี้ยงดูอบรมเค้าไงคะ อดทนเถอะค่ะ เพื่อลูกที่น่ารักของเรา และผุ้พบเจอ กับอีกคำที่เราขอ ไม่อยากให้พูด...กรูเป็นแม่เมิงนะ เวลาที่ลูกจะพูด จะอธิบายอะไรหยุดฟังลูกเถอะ อย่าใช้ความเป็นแม่มาข่มเค้า เพื่อนเราคนหนึ่ง (เมื่อเช้าเพิ่งคุยกัน) ลูกชายเพิ่งอายุ15 16 ปีที่แล้วเรียนไม่จบปีหนึ่ง ปีนี้จะขอเรียนใหม่ เธอถามเราว่า จะให้เรียนดีมั้ย เราบอกว่าให้โอกาสลูกเถอะแล้วพูดไว้เลยว่า ครั้งที่แล้วพลาดไปไม่เป็นไร ครั้งนี้ขอให้ตั้งใจใหม่ แต่จะให้โอกาสอีกแค่ครั้งเดียวนะ(พูดแล้วต้องทำตามที่พูด) เพื่อนดูท่าทางจะไม่ค่อยพอใจ...แต่เราบอกเธอว่า ให้นึกถึงตอนที่ลูกจะเกิดมา ลูกอ้อนวอนหรือเปล่า ว่า แม่จ๋าหนูอยากเกิด เราเป็นคนทำให้ลูกเกิดมา เราต้องทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุด จริงมั้ยคะ... จากคุณ : 18 นะไม่ใช่อายุแต่เป็นมงกุฏ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 14:54:32

ความคิดเห็นที่ 16 เลี้ยงลูกทุกช่วงวัย ไม่ต้องคิดล่วงหน้าค่ะ อิอิ เดี๋ยวเครียด คิดแค่วันนี้ ชม. นี้ พอค่ะ เพราะปัญหามานมีมาให้แก้ไขตลอดๆๆๆ จบจากเรื่องนี้ ไปเรื่องนั้น จบจากเรื่องนั้นไปเรื่องนู้นนนน แล้วไม่รู้เป็นไร พ่อแม่นี่ไม่ว่ารุ่นไหนๆ ไม่เคยทันลูก...อย่างเช่นลูกเรา ลูกชายกับลูกสาวตอนเรียน ม 1 ม 2 เค้าต้องขึ้นรถบัสประจำ แล้วรถคันนี้มันจอดรอรับเด็กๆแถวนั้นตอนตีห้าครึ่งที่หน้าบ้านเรา เช้าวันนั้นคุณสามีเป็นคนเดินไปส่งลูกชายลูกสาวขึ้นรถ ส่งขึ้นรถ บ๊าย บายกันเรียบร้อย พอสายคุณสามีไปทำงาน  เราอยู่บ้าน แต่เพิ่งมาสังเกตุเห้นว่า รถมอร์เตอร์ไซด์หายไปไหน เราโทรหาสามี ถามว่า พ่อ แวคเอารถมอร์ไซด์ไปโรงเรียนหรอ คุณสามี เปล่านี่ เมื่อเช้าพ่อยังไปส่งเค้าขึ้นรถพร้อมน้องอยู่เลย พ่อยังบ๊ายบายเลย(เค้าตอบแบบมั่นใจมาก) เรารอลูกกลับมาตอนเย็นด้วยใจคอไม่ดีด้วยความเป้นห่วงแต่ไม่กระโตกกระตากนะ (เดี๋ยวเค้าไม่กล้าเข้าบ้าน) เพราะโรงเรียนกับบ้านห่างกันเกือบ 30 กม พอถึงตอนเย็นลูกคิดว่าเราไม่รู้ว่าเค้าเอามอร์เตอร์ไซด์ไปโรงเรียน เค้าไปแอบจอดไว้ไกลบ้านแล้วเดินเข้าบ้านมา เราจึงถามเค้าว่า เอามอร์เตอร์ไซด์ไว้ไหน ดูเค้าตกใจ... ว่าแม่รู้ด้วยหรอ แต่ทำไมแม่ไม่ด่า... จึงปะเหลาะถามเค้าว่า เอารถไปได้ยังไงเค้าจึงเล่าให้ฟังว่า เค้าตื่นก่อนพ่อกับแม่ แล้วแอบจูงรถไปไว้หน้ารถบัสในที่มุมมืด แล้วกลับมาแต่งตัว แล้วเดินไปขึ้นรถบัส เหมือนปกติ... แล้วพอพ่อเดินมาส่งขึ้นรถ เค้าก็ทำเดินขึ้นรถแล้วพอพ่อหันหลังกลับ เค้าก้ไปเอามอร์เตอร์ไซด์ขับออกไป ส่วนน้องก็ไม่กล้าบอก เพราะกลัวโดนเตะ... ถ้าเราโวยวาย ด่าเค้าก่อน คุณว่าเค้าจะเล่าวิธีการของเค้าให้เราฟังมั้ยคะ . จากคุณ : 18 นะไม่ใช่อายุแต่เป็นมงกุฏ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 15:23:49

ความคิดเห็นที่ 17 เหลี่ยมเยอะมากๆ คุณลูกของ จขกท. ท่าจะเหนื่อยเอาการเนอะ  ^^" จากคุณ : Lovely Creature เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 16:36:06

ความคิดเห็นที่ 18 ตามอ่านมาจากกระทู้ก่อน ชอบมากๆค่ะ ตอนนี้ลูกชาย 2 ขวบ ปรกติเป็นคนกินง่าย แต่หลังๆมาชักเริ่มอมข้าว พูดก็แล้ว บอกแบบปนดุก็แล้วยังอม เลยเอาวิธีหนังสติ๊กของเจ้าของกระทู้มาใช้ (เรานี่ก็แอบโหดเหมือนกันแฮะ) 555 ได้ผล ตอนนี้เวลานั่งกินข้าวถ้าเริ่มรู้สึกว่าอมข้าวนะ ไม่ต้องพูดอะไรหยิบหนังสติ๊กมายืดใกล้ๆเท่านั้นแหล่ะ บอกไม่เอาแล้วรีบกินต่อเลย ขอบคุณมากนะค่ะ จากคุณ : la_pelota เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 22:31:39