|
ซึ่งเรากะป๊ะป๊าก็มองว่า ลูกเราเป็นลูกชาย (คนเดียว) ถ้าปล่อยให้คนอื่นเลี้ยงแทนดูแลแทน เค้าจะทำหน้าที่ได้ดีเท่ากับพ่อแม่ได้ยังไง ความรักความอบอุ่นที่เค้าได้จากเรายังคงเท่าเดิมในความรู้สึกของพ่อแม่ แต่เค้ากำลังโตขึ้น เค้าต้องการความเอาใจใส่จากเรามากขึ้นนะ คุยกันไปมาหลายรอบ จนได้ข้อสรุปว่างั้นก็ย้ายสำมะโนครัวกันเข้าไปอยู่ในเมืองกันเถอะ เราทั้งคู่จะได้มีเวลาอยู่กับเค้ากันมากขึ้น อย่างน้อยตอนเช้านั่งรถไปส่งลูก ก็ยังได้คุยกันบ้าง เย็นมาก็เจอกันเร็วกว่าที่เป็นอยู่ ช่วยลูกทำการบ้าน มีเวลาอ่านนิทานก่อนนอนให้เค้าฟังได้มากขึ้น
และเมื่อตกลงใจกันอพยพเข้าเมือง เรื่องของลูกที่ตามมาก็คือ แล้วลูกจะไปเรียนไหน ..... ก็สรุปว่าคงเป็นคาทอลิกเหมือนเดิม แต่ที่ไหนนั้นยังไม่ฟันธง เพราะ ต้องรอดูทุนทรัพย์ที่อยู่ในกระเป๋ากันก่อน อีกเกือบปี คงมีเวลาเก็บตังค์เพิ่มล่ะน่า ...
ถ้าถามเราว่า ทำไมต้องเป็นคาทอลิกล่ะ ทั้งๆที่ป๊ะป๊าก็เรียนรร.วัดมา ส่วนเราก็เด็กต่างจังหวัดดีๆนี่เอง ก็อีตาป๊ะป๊าเค้ามีความเชื่อเหมือนกับหลักการของรร.คาทอลิกทั้งหลายที่ว่า การจะได้งานดี เราต้องทำงานหนัก อยากเรียนเก่ง ก็ต้องเน้นวิชาการ จะแข่งขัน เราต้องติดอาวุธ 555++ คิดไปด๊าย ส่วนรร.สาธิตอ่ะนะ ไม่เคยคิดอยู่ในหัวเลย เพราะถ้าการแข่งขันหนักหน่วงขนาดที่ว่าเด็กสมัครสอบเกือบ 3,000 แต่รับ 100 คนเนี่ย รึถ้าไม่สอบก็ต้องมีเงินบำรุงการศึกษาหลักล้านขึ้นไป รวมถึงพ่อแม่ต้องอุทิศตนเพื่อการศึกษาของสถาบันนั้นๆแล้วล่ะก็ บ้านเราขอบายอ่ะ ซึ่งตอนนั้นจริงๆแล้วเราชอบวิธีการเรียนการสอนแบบบูรณาการนะ เพราะคิดว่านี่แหละ วิธีการเรียนที่เหมาะกับเด็กทุกคน ไม่เร่งเรียน ให้เค้ามีความคิดเป็นของตัวเอง กิจกรรมนอกห้องสี่เหลี่ยมที่หลากหลาย แต่ด้วยสภาพการแข่งขันในสังคมไทย เรากะป๊าเลยคิดว่าปล่อยให้ลูกเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคมไปเถอะ รึแปลได้อีกอย่างนึงก็คือ เราทุนน้อยน่ะเอง 555+++
จากคุณ |
:
tonngew
|
เขียนเมื่อ |
:
30 เม.ย. 55 15:21:49
|
|
|
|
|