ความคิดเห็นที่ 1 ลูกชายเราเคยค่ะ  ตอนนั้นอยู่ อ.2 อายุ 4ขวบเอง ครั้งแรกโดนข่วนหน้า  แผลแบบลึก หนังหลุดหายไปเลย  สงสัยเล็บคนข่วนคนยาว ตัวเราเองก็ได้แจ้งคุณครู  คุณครูก็ขอโทษเช่นกันค่ะ  เราเองไม่ได้ติดใจเอาความอะไร  เพราะเข้าใจค่ะ ว่าเรื่องแบบนี้ คุณครูต้องดูแลนักเรียนหลายคน แล้วเวลาเด็กเค้าอะไรกัน  เราก็เข้าใจว่าครูคงห้ามไม่ทันจริงๆน่ะค่ะ  เพราอย่างเด็กบางคนเวลาเค้าทะเลาะกัน   เด็กไม่ได้โวยวายเสียงดังนะคะ  เค้าแอบหยิก แอบอะไรกันเงียบๆอ่ะ  ซึ่งบางครั้งคุณครูอาจไม่เห็น  จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึงจะร้องไห้ขึ้นมา  หรือเพื่อนๆฟ้องครูถึงได้รู้   ก็เลยไม่ได้เอาความอะไรค่ะ ครั้งที่สอง  คราวนี้รุนแรงขึ้นค่ะ 555 ลูกชายมีจุดเลือดที่ตาขาว  ลูกบอกว่าเพื่อนเอาดินสอจิ้มตาอ่ะ   เราแทบจะเป็นลม  คราวนี้คุณครูก็ขอโทษเหมือนเดิมค่ะ   และเราก็ไม่ได้โกรธเคืองคุณครู  แต่คราวนี้ได้มีการซักถามถึงสาเหตุ  และผู้กระทำคะ ได้ความว่าน้องคนที่ทำเป็นเด็กผู้ชายชาวแอฟริกันอ่ะค่ะ   ตัวใหญ่แรงเยอะ  และนิสัยเกเร (อันนี้คุณครูบอกมา)  เราเลยขออนุญาตคุณครู  คุยกับน้องคนนั้นอ่ะค่ะ   ไม่ได้ดุนะคะ  แต่ใช้วิธีถามดีดี  บอกเค้าดีดี  พูดคุยให้เห็นถึงความเป็นเพื่อน  และสุดท้าย  ก็ได้แต่ให้คุณครูช่วยดูน้องคนนั้นเป็นพิเศษ 555 ไม่ต้องดูแลลูกเราเป็นพิเศษค่ะ เพราะลูกเราไม่อันตรายกับใคร  แต่ให้ดูแลน้องคนนั้นแทน แล้วเราก็สอนลูกเราค่ะ  ว่าถ้าเพื่อนคนไหนที่เล่นรุนแรง หรือชอบรังแกเพื่อนคนอื่น ลูกก็อย่ายุ่งเกียวกับเค้า  ต่างคนต่างอยู่ไป เล่นกับเพื่อนที่นิสัยใกล้เคืองกันนาจะดีกว่า แต่อย่างว่าอ่ะค่ะ  ตอนนั้นลูกเราก็ยังเล็ก อ.2 เอง เค้าก็ชอบจะเล่นกับเด็กคนนั้นตลอด 555  เดี๋ยวก็มาเล่าให้ฟังอีกแล้ว ว่าเล่นนู่น เล่นนี่กัน แต่เราก็ไม่ได้ห้าม หรือว่าอะไรนะคะ แต่ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์ทำร้ายกันอีกค่ะ จากคุณ : มารร้ายทิชชู่ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 55 18:36:48

ความคิดเห็นที่ 2 ครุอาจไม่เห็นก็ได้คะว่าใครทำ เพราะเด็กเยอะกว่าครู ครุคงจับตาดูได้ไม่หมดทุกคนหรอกคะ แต่ถ้าน้องร้องไห้ทันทีหลังโดนข่วน แล้วครูหันไปตามเสียงร้องก็คงเห็น แต่ถ้าเด็กไม่ร้อง ครูก็คงมาเห็นอีกทีตอนหลังแล้วละคะ  ยกตัวอย่างเจ้าลูกชายของเราเลยคะ อายุ 3ขวบ 1 เดือน ใครหยิก ใครพลัก ใครเตะ ไม่มีร้องสักแอะ ก็ยังกลัวๆว่า ถ้าโดนคนทำแรงกว่านี้ ครุจะทันเห็นไหมนี่ตอนนั้น จากคุณ : zandzang (zandzang) เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 55 19:41:44

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ต้องโรงเรียนหรอกค่ะ บางทีพี่น้องกันเอง หรือญาติๆ เล่นกัน เราดูอยู่แท้ๆ หันมาอีกที อ้าว ปากแตกไปคนนึง ไม่รู้ว่าใครทำหรือเกิดอะไรขึ้น ในสถานการณ์นี้ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันค่ะ เข้าใจคุณครูว่าเด็กเยอะคงจับตามองเป็นรายบุคคลยากหน่อย จากคุณ : M-M-C-L เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 55 21:34:08

ความคิดเห็นที่ 4 เด็กเยอะกว่าครูคะ ก็น่าเห็นใจครูด้วย ขนาดลูกเราแค่คนเดียว  เรายังแทบไม่ไหวเลยคะ จากคุณ : Fairybox เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 55 22:26:52

ความคิดเห็นที่ 5 อันตรายนะคะแบบนี้ จริงๆต้องรู้ตัวคนทำด้วยค่ะจะได้คุยกับผู้ปกครองน้องคนที่เกเรด้วย ถ้าเกิดว่าเอานิ้วจิ้มตากันจนเลือดออกล่ะคะ ใครจะรับผิดชอบ ครูรับผิดชอบไหวเหรอ เด็กคนไหนที่เกเรก็จะได้โดนขนาบไว้จะได้ไม่แกล้งเด็กคนอื่น จากคุณ : neat-neat 17 เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 55 22:52:05

ความคิดเห็นที่ 6 ควรรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถ้ามีบาดเจ็บหรือใช้ความรุนแรง เด็กอาจแย่งของเล่นกันทะเลาะกัน ควรให้รู้ว่าใครทำ แล้วให้เด็กมาคุยขอโทษกันเอง เพราะถ้าต่อไปได้เรียนด้วยกันเกิดเกเรรังแกกันนอกห้องหรือลับตาครูจะแย่ เพราะถ้าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่แก้ไขปล่อยไว้ มันจะกลายเป็นว่าในสังคมกลุ่มนั้นกำลังจะเริ่มมีการจัดลำดับอะไรบางอย่าง ใครใหญ่อะไรแบบนั้น ควรตักเตือนทั้ง2ฝ่ายไม่ให้ใช้กำลังค่ะ จากคุณ : angkan111 เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 55 23:25:32

ความคิดเห็นที่ 7 ลูกสาวตอนเด็กก็เคยโดนค่ะ ลูกพี่ลูกน้องเขาเกเรมาก เคยกัดแขนลูกเรา เคยเอามือตี ไปโรงเรียนก็เคยโดนเพื่อนเอาดินสอทิ่มหลังมือ ไม่เยอะค่ะ แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำตลอด วันหนึ่ง ก็เลยจับเข่าคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวกับลูกสาว (ตอนนั้น อ.1 ปลายๆค่ะ) ไม่สอนให้เขาทำตอบโต้ใครแต่เราสอนเขาให้รู้จักระวัง ป้องกันตัวเอง เราสอนเขาว่าหนูต้องหลีกเลี่ยงภัยใกล้ตัวหนู เพราะถ้าหนูโดนเพื่อนแกล้ง กว่าครูจะเห็น กว่าพ่อแม่จะรู้ หนูก็เจ็บตัวไปแล้ว มีอวัยวะที่ช่วยหนูพ้นภัยอันตรายได้นะ ถ้าหนูรู้จักใช้มัน คือหูตาต้องไว รู้จักมองไปรอบๆตัว คนเกเรหรือใครถือของมีคมอย่าเข้าใกล้ ตัวเราต้องรู้จักเอี้ยวหลบ มือมีไว้ปัดและผลักออก ขาและเท้ามีไว้เดินไปทางอื่น ถอย หรือวิ่งหนี ปากมีไว้ร้องและฟ้องครู เพื่อนต้องรู้จักคบ หนูก็รู้ว่าเพื่อนคนไหนใจดี คนไหนเกเร ให้คบและเล่นกับเพื่อนใจดี เขาฟังเข้าใจค่ะ ทำตามที่เราสอนได้ รู้จักหลีก เดินห่าง ไม่เข้าใกล้เด็กคนที่มักจะมีเรื่องราว คบเพื่อนในห้องที่ถูกใจ แล้วถ้าเพื่อนคนอื่นถูกแกล้งก็มาฟ้องครูให้ด้วย จากคุณ : piyada_pan (piyada_pan) เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 55 11:47:41

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นลูกเราได้เห็นดีกัน เข้าห้องฝ่่ายปกครองเด๋วนั้นแหละ จะขอดูกล้องเด๋วนั้นเลย (ถ้าเขาติดกล้อง) เราไม่สน ถ้าเจอตัวก็เข้าหาเด็กคนนั้นก่อนเลย แล้วต่อด้วยพ่อแม่เด็กคนนั้น ทำขนาดนี้เห็นดีกันแน่ื  ทะนุถนอมมาอย่างดี เป็นใครมาจากไหนอยู่ดีๆ มาทำตัวนักเลงในโรงเรียน เราเป็นคนไม่ยอมคน ทำเราไม่เท่าไหร่ ทำลูกเราได้เจอดีแน่ จัดลูกก่อนเลย พ่อแม่ทีหลัง ใครจะว่าเราไงไม่สนหรอก ลูกเรา  ไม่ปล่อยไว้ให้มีครั้งที่สองค่อยเอาเรื่องหรอก ลูกเราไ่ม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของลูกคนอื่น... จากคุณ : Nafiead เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 55 12:23:26

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วจะให้ครูทำไงเหรอคะนอกจากขอโทษ ถามลูกคุณดีกว่าว่าใครแกล้ง และเพราะอะไร  แล้วถามเด็กคนนั้นว่าทำจริงเปล่า และเพราะอะไร จากนั้นก็คุยให้เข้าใจกันทั้งฝ่ายลูกคุณและเด็กคนนั้น อย่าเอาครูเป็นแพะเลยค่ะ  บางทีเหตุการณ์เกิดขึ้นเพียงชั่วแว๊บเดียว ครูไม่ใช่สัปะรดนะจะได้มองตามทันมวยทุกคู่ จากคุณ : เทพบุตรหมัดดาวหาง เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 55 13:37:15

ความคิดเห็นที่ 10 ลูกชายเราโดนเยอะกว่าลูกคุณค่ะ เราเห็นใจครูคงดูไม่ทันหรอก เดือนแรกลูกมีแผล โดนไปหลายหน สัปดาห์แรกที่ย้ายมาอ.2รร.ใหม่ โดนเพื่อนเอาเก้าอี้ทับหัวแม่เท้า ห้อเลือดต้องถึงกับถอดเล็บเท้า สัปดาห์ที่2นั่งอ่านหนังสืออยู่ดีๆ เพื่อนซนปีนขึ้นไปบนตู้หนังสือ ตู้ล้มลงมาทับขาลูกเราที่นั่งอยู่ไม่รู้เรื่อง ต้องไป X-ray โชคดีที่ขาไม่หัก อีกไม่กี่วันต่อมา เพื่อนเล่นสไลเดอร์ขึ้นผิดทาง ลูกเราสไลส์ลงมาหัวชนกัน หัวปูดโนเลย และอีกมากมายในโรงเรียนนี้ แต่เราไม่โทษครูซักคำ เราว่าครูก็ดูไม่ทันหรอก เด็กกำลังซน ครู3คนต่อเด็ก20คน จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 55 20:35:21

ความคิดเห็นที่ 11 คือเราว่าครูคงไม่เห็นจริงๆค่ะว่าใครทำ อยากให้เห็นใจครูนะ ขนาดพ่อแม่ดูลูกตัวเองคนเดียวลูกยังมีล้มบ้าง ได้แผลบ้าง อันนี้เด็กตั้งหลายคน แล้วพ่อแม่ทุกคนก็ต้องการให้ครูดูแลลูกตัวเองดีๆทุกคน เราว่าบางคนก็เยอะไปนะ อาชีพครูยิ่งอยู่กับเด็กๆเหมือนเอาขาเข้าไปอยู่ในคุกข้างนึงแล้ว เพราะอะไรๆก็มาลงที่ครู เหอๆ จากคุณ : ribbon jung +^_^+ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 14:58:52

ความคิดเห็นที่ 12 เราขอแชร์นิดนึงนะคะ .. คุณแม่อย่าพยายามมองแค่สิ่งที่เห็น คิดไว้หลายๆทาง แล้วจะใจเย็นไปเอง ... อ่านในพันทิพก็เจอบ่อยค่ะ ประมาณว่าลูกถูกเพื่อนแกล้ง หรือแย่งของก่อน พอลูกสู้กลับข่วนหน้าเพื่อน คุณแม่ของเพื่อนก็จะมาเอาเรื่อง ทั้งๆที่ลูกตัวเองแกล้งเขาก่อนก็มีค่ะ   แค่จะบอกว่าบางทีการที่ลูกเราเจ็บ ลูกเราอาจไม่ได้เป็นผู้ถูกกระทำ แต่เป็นผู้ลงมือกระทำก่อนก็มีค่ะ เพียงแต่สู้เขาไม่ได้เลยเจ็บกว่า.. ต้องฟังความทั้งสองข้างค่ะ การที่คุณครูขอโทษก่อน เพราะคุณครูไม่รู้ที่มาที่ไปว่าใครทำใครก่อนก็ได้ค่ะ ... จากคุณ : เจ๊ว่าแล้ว เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 22:44:07