เรื่องนี้คงต้องฝึกตั้งแต่แรกเกิดนะคะ หากมาฝึกตอน 3-4 เดือนล่วงแล้วคนฝึกต้องใจแข็งมากหน่อย เพราะเด็กจะร้องมาก แล้วธรรมชาติคนเป็นแม่ทนฟังเสียงลูกร้องไม่ไหว
แรกๆ เมื่อเอาลูกเข้าอกกินนม และเห็นว่าอิ่มดีแล้ว เพราะเขาจะเบือนหน้าหนี ยกพาดบ่าให้เรอเรียบร้อยแล้ว วางลงเลยค่ะ เด็กบางคนพอวางแล้วลืมตาแจ๋ว ทำท่าจะร้องไม่ต้องตกใจ
แม่ควรเอามือวางไว้บนตัวลูกนิ่งๆ ย้ำว่า นิ่งๆ ไม่ต้องตบก้นหรือเคลื่อนไหวมือ แล้ว เพราะหากเคลื่อนไหวมือเด็กก็จะติดอีก อื่อ อือ เบาๆ บอกเขาเบาๆว่า นอนเสียลูกแม่อยู่นี่เพื่อให้เขามั่นใจว่ายังมีแม่อยู่ใกล้ๆ เขาจะรู้สึกอบอุ่น
ที่เหมาะที่วางมือ คือ หน้าอก และศรีษะ เมื่อเขาหยุดร้องก็ค่อยยกมือออกและนั่งอยู่ใกล้สักครู่ ขณะนั้นแม่ควรอือไปเบาๆก่อน และเมื่อเขาสงบจริงแล้วแม้จะยังไม่หลับ แม่ก็ค่อยๆถอยออกมา
ทำกับเขาแบบนี้สม่ำเสมอ เด็กจะค่อยๆชินไปเอง กรณีที่เด็กแวดล้อมด้วยปู่ย่าตายาย พี่เลี้ยงหรือมีคนช่วยเลี้ยง ต้องให้ทุกคนทำแบบนี้เมื่อเวลาจะเอาเด็กเข้านอน แล้วเด็กจะค่อยๆชินไปเอง
หากแต่เด็กบางคน อารมณ์แรง ร้องประท้วงเสียงดัง กรีดร้องอยู่นั่นแล้ว หากรู้แน่ว่าไม่ใช่อาการเจ็บปวดจริงๆ ต้องปล่อยให้ร้องไปสักครู่ แต่แม่หรือคนเลี้ยง ห้ามตะโกนเสียงแข่งกับเด็ก ห้ามโมโห หรือร้องไห้ตามเด็ก
เมื่อปล่อยให้ร้องพอสมควรแล้วเห็นว่าไม่หยุดจริงๆ จึงเข้าไปอุ้มสักครู่พูดปลอบใจด้วยน้ำเสียงที่เขาคุ้นเคย จนเขาสงบ แล้วค่อยทำตามแบบเดิมอีก ทำไปเรื่อยๆจนเขาชิน แล้วคุณจะพบว่า
วันหนึ่งเขาจะเป็นเด็กที่วางตรงไหนก็หลับได้ตรงนั้น บางทีเมื่อเขาจะหลับเขาจะหยิมมือคุณออกจากตัวเขาเองเลย ทั้งหมดนี้จากประสบการณ์ตรงที่ทำมาแล้วทั้ง สามหน่อ มั่นใจค่ะ
แถมอีกนิด หากคุณเคยชอบร้องเพลงไหนให้ลูกฟังตอนลูกอยู่ในท้องมากที่สุด เพลงนั้นแหละค่ะ เป็นเพลงที่เหมาะสำหรับ การปลอบลูกให้สงบมากที่สุด เอาใจช่วยแม่ๆมือใหม่นะคะ
แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 55 12:41:06