Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
วินัยเชิงบวกกับการใช้มาตรการทางสังคมมากดดันแบบนี้ เห็นด้วยไหมถ้าโรงเรียนจะนำมาใช้กับลูกสาวคุณ? ติดต่อทีมงาน

อย่างที่ทราบกันว่าในการดูแลเด็กให้อยู่ในระเบียบ วินัย ข้อตกลง หรือการจะทำให้เด็กตั้งใจเรียนนั้นก็ต้องมีการใช้มาตรการในทางลบ เช่นการว่ากล่าวตักเตือน ไปจนถึงทำโทษ รวมถึงการใช้แรงจูงใจในทางบวก เช่น การชมเชยหรือให้รางวัล

สำหรับในเด็กเล็กๆ การชมเชยหรือให้รางวัลแต่เพียงเล็กน้อย เช่น ยางลบหรือดินสอหรือแค่ดาวเด็กดีก็สามารถใช้จูงใจเด็กได้ แต่สำหรับเด็กมัธยมที่เริ่มโตแล้วโดยเฉพาะเด็กมัธยมปลาย การชมเชยว่า "หนูเป็นเด็กดีจังเลย" หรือแจกดินสอสีเมื่อเด็กตั้งใจเรียนนั้นถ้าหวังว่าจะได้ผลกับเด็กทุกคนก็คงแค่ในนิยาย

ที่ผ่านมาเจนก็พยายามที่จะลดการใช้มาตรการทางลบและหันมาใช้แรงจูงใจในทางบวกมาโดยตลอด ช่วงที่ผ่านมาก็ได้มีการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่าจะทำอย่างไรให้เด็กตั้งใจเรียน ส่งการบ้านครบ ไม่ทำผิดกฎโรงเรียน โดยไม่ใช้การทำโทษ

จากการที่พูดคุยกันมา ครูหลายท่านมีความเห็นว่าเด็กส่วนใหญ่เป็นเด็กน่ารักอยู่แล้ว และเด็กส่วนที่เหลือนั้นมาตรการในทางลบก็ใช้ไม่ได้ผลเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะเด็กเองก็รู้ว่าโรงเรียนไม่มีการตี ไม่มีการให้เด็กออก (ยกเว้นความผิดเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกาย)และไม่มีมาตรการลงโทษแบบรุนแรงหรือแบบประจาน แต่ในขณะเดียวกันครูก็รู้สึกอย่างชัดเจนว่าเด็กวัยนี้แคร์เพื่อนมาก กลัวเพื่อนไม่ชอบ ไม่รักหรือไม่มีใครคบด้วยเป็นอย่างมาก และมองว่าวิธีที่จะได้ผลคือการใช้มาตรการทางสังคมมากดดันเด็ก

อย่างไรก็ตามขออธิบายก่อนว่า  โรงเรียนมีข้ออย่างกำหนดชัดเจนว่าห้ามทำโทษเด็กแบบเหมารวม หรือแบบเหมายกห้องหรือยกชั้น เพราะฉะนั้นการใช้มาตรการทางสังคมนั้นถ้าจะใช้ก็จะใช้เฉพาะในทางบวก

เจนเลยมีคำถามมารบกวนขอความคิดเห็นกับคุณพ่อคุณแม่ว่าถ้าโรงเรียนมีข้อตกลงกับเด็กแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่มีความคิดเห็นเช่นไร

1.ครูมีข้อตกลงกับเด็กว่า ถ้าเด็กทุกคนส่งการบ้านครบ และตั้งใจเรียนในระดับที่ครูพอใจ คาบต่อมาก็จะให้เด็ก เรียนแบบสบายๆ คือยอมให้กินขนมไปเรียนไป ยอมให้นั่งขัดสมาธิเรียน ยอมให้ย้ายไปนั่งกับเพื่อนคนไหนก็ได้ และท้ายชั่วโมงถ้าสอนจบเร็ว ก็จะอนุญาตให้เด็กทำอะไรก็ได้ขอแค่ไม่ส่งเสียงดัง ครูบอกว่าหลังจากใช้ข้อตกลงนี้เด็กส่งการบ้านครบตลอด เพราะทุกคนกลัวเพื่อนไม่พอใจ (คือถ้าไม่ส่งการบ้านแม้แต่คนเดียวทุกคนก็ต้องกลับไปเรียนแบบปกติตามเดิม)

2.เล่นบัดดี้
ขออธิบายเรื่องบัดดี้สั้นๆว่าคือการที่เด็กจับฉลากกันแล้วเด็กคนนึงก็ต้องขนมให้เพื่อนโดยที่เพื่อนที่ได้รับก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนซื้อให้และเด็กที่ให้ขนมกับเพื่อนก็จะได้รับขนมจากเด็กอีกคนโดยที่ตัวเองไม่รู้ว่าเป็นใคร หลังจากครบกำหนดเวลาเด็กก็จะซื้อของขวัญตอบแทนให้เพื่อนที่ให้ขนมตัวเองมาตลอดและก็จะได้รับของขวัญจากคนที่ตัวเองซื้อขนมให้
ที่ผ่านมาเด็กก็แอบเล่นกันตลอดจนแทบจะกลายเป็นเทศกาลประจำปี เจนก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้มงวดเรื่องนี้กับเด็กมาก ยกเว้นช่วงไหนที่รู้สึกว่าขยะแทบจะท่วมโรงเรียนก็ค่อยปรามกันที
จากการพูดคุยครูหลายท่านก็มองว่าการให้เด็กเล่นบัดดี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องเสียหายอะไร และบางท่านคิดว่าน่าจะใช้ความชอบของเด็กในข้อนี้มาเป็นเครื่องมือในการควบคุมเด็ก

คือโรงเรียนจะจัดให้มีคะแนนของห้อง(ไม่มีผลอะไรกับคะแนนสอบ) ถ้าเด็กห้องไหนทำตัวดี ถูกระเบียบ ถูกหักคะแนนของห้องไม่เกินกว่าที่กำหนด (การหักคะแนนห้องจะหักเมื่อเด็กในห้องทำผิดกฎของโรงเรียนโดยถือว่าทั้งห้องต้องรับผิดชอบร่วมกัน)ก็จะยอมให้เด็กห้องนั้นเล่นบัดดี้ได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่คะแนนห้องถูกหักเกินกว่าที่กำหนดไว้ก็จะเตือนหนึ่งครั้ง และถ้าเกินเป็นครั้งที่สองการเล่นบัดดี้ก็จะต้องยุติทันที

และในอนาคตหากได้ผลก็จะใช้คะแนนของห้องมาให้รางวัลหรือสิทธิพิเศษบางอย่างกับเด็ก เช่น ให้ห้องที่คะแนนสูงสุด ได้พักก่อนสามนาทีหรือห้านาที (ซึ่งเป็นที่ต้องการของเด็กมากเพราะนั่นแปลว่าเด็กจะได้ใช้ห้องน้ำเป็นคนแรกๆหรือได้ซื้ออาหารเป็นคนแรกโดยไม่ต้องต่อคิว) หรือให้้ห้องที่คะแนนสูงสุดเลือกอัฒจรรยก่อนในงานกีฬาสี (เดิมใช้จับฉลาก)หรือหากมีกิจกรรมจากข้างนอกที่เด็กชื่นชอบมาที่โรงเรียนก็จะให้เด็กห้องนี้ได้สัมผัสก่อนหรือได้นั่งแถวหน้า

อันสุดท้ายไม่เกี่ยวกับมาตรการทางสังคมแต่อยากขอรบกวนถามด้วย

3.ครูสอนพละ ขอใช้ข้อตกลงกับเด็กว่า ถ้าเด็กคนไหนเล่นพละทุกครั้งจะให้เกรดสูงสุดโดยไม่สนใจผลสอบปฎิบัติ (ส่วนเด็กที่ไม่เล่นพละแม้เพียงครั้งเดียวไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามก็จะให้เกรดตามปกติ)ครูให้เหตุผลว่าเด็กบางคนหรือบางกลุ่มจะมีข้ออ้างในการไม่เล่นพละตลอด เช่น ไม่สบาย วันนั้นของเดือน เจ็บแขน ปวดขา และอื่นๆ ครูเองก็ไม่อยากบังคับเพราะถ้าเด็กป่วยจริงแล้วเกิดอะไรขึ้นครูก็คงลำบากแน่

คุณพ่อคุณแม่เห็นด้วยหรือไม่ในข้อตกลงแต่ละข้อหรือมีข้อเสนอแนะอย่างไรหากครูหรือโรงเรียนจะนำมาใช้กับเด็ก

ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบคะ

จากคุณ : JanE & IK
เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 55 18:24:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com