ความคิดเห็นที่ 1 ความเห็นเรา คุณยอมตั้งแต่แรกทำไมค่ะ จากคุณ : กลับมาได้ไหม เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 10:45:17

ความคิดเห็นที่ 2 อย่าเอาผู้ชาย 2 ประเภทนี้ทำผรัว 1. ใช้กำลังทำร้ายร่างกาย และใช้คำพูดทำร้ายจิตใจ 2. ใช้เงินผู้หญิง . จากคุณ : สวยสะพรึง เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 10:45:21

ความคิดเห็นที่ 3 ขอโทษนะคะ อยากรู้ว่าเงินเดือนต่างกันขนาดไหนคะ แล้วต้องเลี้่ยงเค้าตั้งแต่เป็นแฟนกันรึป่าว จากคุณ : LiveGoodLife เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 10:46:02

ความคิดเห็นที่ 4 พ่อเราก็ใช้เงินแม่ค่ะ พูดตรงๆเลย เพราะเงินเก็บที่มีซื้อบ้านซื้อรถได้ทั้งหมดคือเงินที่พ่อเราเก็บไว้ แต่เงินที่ซื้อของใช้ ค่าน้ำค่าไฟ อันนี้เงินแม่ แต่พ่อก็มีเงินกินในทุกๆวันเป็นของตัว จากคุณ : แม่น้องฟ้าใส (มามี๊ตัวกลม) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 10:49:19

ความคิดเห็นที่ 5 นั่นมันแมงดานี่นา ยอมตั้งแต่แรกหรือเป่า จากคุณ : Suleepat1 เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 10:57:23

ความคิดเห็นที่ 6 แค่ไม่ให้ยังรับไม่ได้...ถ้ามาเบียดเบียนนี่ขอลาค่ะ จากคุณ : มน.มินนี่ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 11:10:46

ความคิดเห็นที่ 7 แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 55 22:52:55 จากคุณ : เทพบุตรหมัดดาวหาง เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 11:14:48

ความคิดเห็นที่ 8 เงินเดือนเรา หกหลัก ของเค้า ห้าหลัก เค้าก็ออกตังบ้างไรบ้างเวลากินข้าวนอกบ้านหรือซื้อของกินมาทำ (ผลัดๆๆกันออก) มีสองบ้าน บ้านเราเราก็จัดการเองหมด บ้านที่เค้าซื้อเค้าก็จัดการเองหมด เราไม่สนใจมากเรื่องเงิน เค้าก็ดูแลเราดี แต่บางทีก็รู้สึกว่า อยากให้เค้าให้ตังเราบ้าง ไม่ได้อยากได้เงิน แต่อยากได้ความรู้สึกว่าเค้าเป็นเหมือนสามีทั่วไป ที่ดูแลเรื่องการเงิน เฮ้ออออ จากคุณ : เมียรวย เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 11:36:35 A:110.49.248.229 X: TicketID:361808

ความคิดเห็นที่ 9 คุณยึดติดกับคติที่ สามีเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว แบบสมัยโบราณอยู่ค่ะ สมัยนี้อะไรๆก็เปลี่ยนไปค่ะ อยู่ที่ตกลงกัน อยู่ที่ความสบายใจ บ้านเรากระเป๋าเดียวกันค่ะ จากคุณ : superkoy เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 11:36:52

ความคิดเห็นที่ 10 ผมฟังคำบรรยายวันก่อน แต่จำไม่ได้ว่าเทปไหน อาจารย์อ้างกฎหมายว่า ถ้าเป็นสามีและภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้ง 2 ฝ่ายก็ต้องมีหน้าที่ช่วยเหลือ เลี้ยงดูและเกื้อกูลกัน ตอนนึงอาจาย์บอกว่า สามีสามารถฟ้องต่อศาลเพื่อขอค่าเลี้ยงดูจากภรรยาได้ เหมือนกับที่ภรรยาฟ้องต่อศาลเพื่อขอค่าเลี้ยงดูจากสามี แต่...อาจารย์บอกว่าก็ยังไม่เคยเจอกรณีอย่างนี้เหมือนกัน เนื่องจากอาจเป็นเพราะ วัฒนธรรม หรือจารีตประเพณี ของสังคมไทย แบบที่หลายคนพอรู้ว่าสามีขอเงินภรรยาก็กลายสภาพจากบุคคลเป็น แม_ด_โดยอัติโนมัต จากคุณ : anti_to dictate เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 11:37:01

ความคิดเห็นที่ 11 สมัยนี้ผู้ชายเห็นแก่ตัวมากขึ้น ความเป็นสุภาพบุรุษ ความเป็นผู้นำ มันลดลงทุกวัน อย่าแปลกใจที่สาวโสด ไม่แต่งงานกันเยอะมาก หาเลี้ยงตัวเองได้ไม่ต้องหวังพึ่งใคร จากคุณ : sinseng เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 11:48:39

ความคิดเห็นที่ 12 ลองคุยกันก่อนดีมั้ยครับ..  เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ไม่ลองเอาเงินมารวมกันละครับ จะได้ไม่รู้สึกว่า  ใครขอใคร... เรื่องภายในครอบครัวสามีภรรยา  คนนอกจะกลายเป๊น.... จากคุณ : greendoor เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 12:04:14

ความคิดเห็นที่ 13 เหมือนมีลูกเลยเนอะ จากคุณ : ชื่อนี้อนุมัติ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 12:12:05

ความคิดเห็นที่ 14 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 55 16:53:19 จากคุณ : ต้น ยางโทน เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 12:16:08

ความคิดเห็นที่ 15 มันเป็นเรื่องของครอบครัวคุณ จะเอามาโพสต์แบบเหมาๆ ว่าคนอื่นเป็นอย่างนี้คงไม่ดีมั้งครับ ไม่งั้นทุกวันนี้ ผมทำงานเลี้ยง 5 ปาก ทั้งลูกเมีย แม่ยาย หลาน จะเรียกว่าอะไร จากคุณ : Vancin เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 12:26:50

ความคิดเห็นที่ 16 แม่สามีบอกเราว่าเงินทองเราให้ซื้อของซื้อเสื้อผ้าให้สามี  พอเราบอกว่าเรากับเค้าแยกกระเป๋ากับเราแบ่งกันรับผิดชอบ  แม่สามีบอกว่าต้องซื้อของมียี่ห้อเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของสามีเราเลยบอกว่าจะให้สามีซื้อเครื่องสำอางค์ให้บ้าง แม่สามีบอกว่าเงินของเค้าแล้วเราจะมายุ่งทำ   เราเลยบอกว่า เราเรียนพุทธศาสนามา  พระพุทธเจ้าสั่งสอนให้สามีบำรุงบำเรอซึ่งภรรยาไม่ว่าเครื่องแต่งกายหรือของหอมต่างๆๆ   เค้าเลยเงียบไป เราเข้าใจ จขกท ว่าแค่อยากให้รับผิดชอบเล็กน้อย มันรู้สึกดีไม่ใช่ว่าของจะต้องเป็นของกินข้าวแกงจานละ30 ออกให้มันก็รู้สึกดีแล้วค่ะ ดีอย่างสามีเราไม่ติดนิสัยแม่สามี จากคุณ : titleinlove เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 12:38:19

ความคิดเห็นที่ 17 เราอ่านเนื้อกระทู้ กับคห.8 แล้วรู้สึกแปลก ๆ เหมือนคุณหงุดหงิด อยากระบาย ในเนื้อกระทู้ก็มีด้านเดียว โจมตีสามีอย่างเดียว เหมือนเค้าใช้เงินคุณทุกบาททุกสตางค์ เหมือนไม่มีไรดี ทำให้คห.ต่อๆมาอ่านแค่นั้นแล้วมีอารมณ์ร่วม แต่พอในคห.8 เหมือนคุณเย็นลงบ้างแล้ว เริ่มมีข้อมูลว่าสามีก็มีออกตังค์บ้าง แล้วที่คุณไม่พูดถึง ก็เรื่องบ้านที่อยู่ รถที่ใช้ หรือส่วนอื่น ๆ ใครจ่าย ตกลงกันยังไง ไม่ใช่ว่าสามีเงินหมื่นผ่อนบ้าน แล้วคุณเงินแสนจ่ายคชจ.ในบ้านเหรอ ใจเย็น ๆ แล้วทบทวนดีดีนะคะ การใช้อารมณ์ระบายออกมาด้านเดียว ให้คนอื่นมาด่าสามีเราว่าแมงดามันไม่ดีนะคะถ้าเค้าไม่ใช่อย่างนั้น หรือถ้าเค้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ คุณคงต้องรีบหาทางออกเองแล้วค่ะ จากคุณ : เช้าฟาดฝักฟัก เย็นฟากฟักฝัด เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 13:07:44

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณทุกๆความเห็นค่ะ จะรับไปคิดและทวบทวนว่าจะรับมือ จัดการอย่างไร :) จากคุณ : จขกท เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 13:26:04 A:110.49.232.22 X: TicketID:361808

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้ารู้แต่แรก ทำไมไม่แต่งงานกับสามีที่เงินเดือนเยอะกว่าล่ะคะ จะได้ไม่ต้องมาคิดมากแบบนี้ เพราะสามีรู้ว่า คุณไม่ลำบากไงคะ  แล้วเขาก็คิดว่าเขาดูแลคุณในด้านอื่นๆน่าจะเพียงพอแล้ว  และคุณสองคนก็ดำเนินชีวิตแบบนี้มานาน มันก็เลยเป็นแบบนี้ ....  แล้ววันนี้ คุณจะอยากได้เงินของเขาบ้างเพื่อให้ความสำคัญกับคำว่า หัวหน้าครอบครัวเหรอคะ ... แล้วจะเอาเท่าไหร่ ยังไง ถึงจะมีความสุขคะ ส่วนจะมาขอแบ่งเิงินด้วยเนี่ย ..... เราว่าเอาแฟร์ๆเลยนะ  มานั่งคุยกัน จัดเรื่องเงินทองในบ้านใหม่หน่อยสิคะ  มันเหมือนแยกกระเป๋า แยกรายรับรายจ่ายกันไปหมด  แล้วทำไมมีสองบ้าน แล้วทำไมต้องแยกจ่าย   คุณไม่ได้ซื้อในนามร่วมกันเหรอ   คู่สามีภรรยาบางคน  ก็จะเอาเงินเดือนมาอิงกัน .... -   ใครเงินเดือนเยอะกว่า จ่ายค่าบ้าน ค่าภาษีบ้าน  ค่ารถ -    ส่วนคนที่น้อยกว่า จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าของใช้ในบ้าน   ค่าเน็ท  ค่าเคเิบิ้ล -    แล้วที่บ้านต้องมีเงินกองกลาง จัดเก็บทุกเดือน  มีค่าเที่ยว  ค่าเก็บ  ค่าภาษีรถ ค่าประกัน  ค่าจิปาถะ      ถ้าคุณมีเที่ยวประจำปี  คุณเอาเงินนี้ไปเลย  แต่ถ้ามีเที่ยวนิดหน่อย ตามสะดวก ก็จ่ายได้ถ้าไม่ลำบากเกินไป เพราะถ้าคุณมีลูก..... คุณจะจัดการเรื่องแบบนี้ยากแล้วค่ะ  แล้วจะนำมาซึ่งปัญหาจุกจิกมากมาย เหมือนทู้ก่อนหน้านี้ที่เคยอ่านมา จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 13:50:26

ความคิดเห็นที่ 20 บ้านเรา เมียเงินเดือนเยอะกว่าผัวค่ะ ^^ แล้วก็ชอบซื้อของจุกจิกเยอะกว่าด้วย(ตามประสาผู้หญิง) ผัวก็เข้าข่ายขี้เหนียวสุด ๆ ด้วย เอาไงดีล่ะทีนี้ ทะเลาะมาหลายรอบ หาวิธีที่ดีสำหรับสองฝ่ายไม่ได้ สุดท้ายก็ลงตัวที่ เก็บเข้ากองกลางเป็น%ค่ะ ที่เหลือก็เอาไปใช้ส่วนตัวได้เลย จะซื้อของไร้สาระแค่ไหนก็ห้ามว่า เงินช้านหามา ใครจะเก็บทุกเม็ดก็แล้วแต่ ใครหาได้เยอะ ก็เข้ากองกลางเยอะ เหลือใช้ส่วนตัวก็เยอะ ใครหาได้น้อย ก็เข้ากองกลางน้อย เหลือใช้ส่วนตัวก็น้อย ตามกำลัง โฮ่ๆๆๆ ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าลูก ค่ากิน ค่าน้ำ ค่าไฟ ของใช้ทุกอย่าง ท่องเที่ยวที่เที่ยวร่วมกัน อาหารทุกมื้อที่กินร่วมกัน ทุกอย่างกองกลางหมด ค่าเลี้ยงดูพ่อแม่ ค่าภาษีสังคม เลี้ยงลูกน้อง เลี้ยงเพื่อน ค่าเที่ยวที่ไม่ได้ไปด้วยกัน อาหารกลางวันที่กินกันคนละที่ ออกเองหมดจ้า ... ปล. แต่ตอนนี้ผัวมีเงินเก็บเยอะกว่าเมียนะ >< อายเลย จากคุณ : เหวิ่ง เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 14:09:44 A:203.126.59.164 X: TicketID:360192

ความคิดเห็นที่ 21 ึถ้าคุณท้อง มีลูกให้สามีลาออกจากงานเลย ให้มาอยู่บ้านเลี้ยงลูก อย่าคิดมากค่ะ ลองหาคลิปของท็อป คันปาก(ดาณีนุชหรือเปล่าจำชื่อจริงไม่ได้จริง ๆ) เขาให้สามีที่ทำงานบริษัทโฆษณาลาออกจากงาน แล้วมาอยู่บ้านดูแลลูก แต่พอลูกโตสามีก็ทำงานธุรกิจ แต่รายได้หลักเขาก็ออกอยู่ดี จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 15:01:28

ความคิดเห็นที่ 22 เราว่าอันนี้เข้าข่ายเอาเปรียบกันนะคะ ของเรา  เราทำงานประจำ  สามีทำงานกิจการน้อยๆที่บ้าน พอมีลูก ก็จ้างคนอื่นทำ ให้พ่อเค้าเลี้ยงลูกค่ะ ตอนนี้มี 2 คนแล้ว  คุณสามีไม่เคยขออะไรเลยค่ะ แต่เค้ากลับคิดมากว่า  เหมือนเค้าเกาะเราเลย เพราะเค้าไม่มีรายได้ อยู่บ้านเลี้ยงลูก ทำงานบ้านให้  จัดของให้ลูกจ้างไปขาย บางทีเค้าก็น้อยใจ ร่ำๆว่าจะเอาลูกไปจ้างเค้าเลี้ยง  แต่ก็ทำไม่ลงค่ะ เราก็รอให้ลูกโตไปโรงเรียนแล้วเค้าอยากจะทำอะไรก็ตามใจค่ะ จากคุณ : แม่ยายซ่าหริ่ม เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 16:33:31

ความคิดเห็นที่ 23 ผิดที่จขกทเลือกผชแบบนี้มาแต่งงานเองค่ะ ไม่รู้จะว่ายังไง ยังไม่สายนะถ้าจะเลิก จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 17:18:36

ความคิดเห็นที่ 24 พ่อเราบอกว่า ผู้ชาย กับ ตัวผู้ มันต่างกันตรงที่ ผู้ชายให้ตายก็จะไม่เอาเงินจากผู้หญิง เเต่ตัวผู้ มันไม่มีศักดิ์ศรี มันเลยคิดไม่ได้ เเต่เราว่า ถ้า ฝ่ายชายเป็นพ่อบ้าน อยู่บ้านเลี้ยงลูก ทำงานบ้าน ทำกับข้าว เราก็ยอมจ่ายนะ 555 จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 21:33:28

ความคิดเห็นที่ 25 เราว่าถ้าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ใครที่มีความสามารถมากกว่าก็ต้องช่วยเหลือกันค่ะ ไม่อยากให้แบ่งหญิงหรือชาย แต่ถ้าเขามาขอนู้นนี่อะไรมากที่ไม่เกี่ยวกับปัจจัยสี่ที่ใช้ในครอบครัวอันนี้ก็ไม่ดีแล้วล่ะ แต่ถ้าเป็นของใช้ภายในบ้านเราว่าใครมีความสามารถมากกว่าก็น่าจะช่วยจ่ายมากหน่อย แต่คำว่าแบ่งเงินเดือนให้มันฟังดูแย่ไปหน่อย จากคุณ : BeauBerry เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 22:11:50

ความคิดเห็นที่ 26 ดิฉันว่าหลายความเห็นก็ใส่อารมณ์มากไปหน่อย เรายังไม่รู้รายละเอียดของ จขกท มากนัก จขกท ต้องเอาเงินเดือนของคุณกับแฟนมานั่งทำบช แล้วล่ะ ว่าใครจ่ายอะไรบ้าง โดยเฉพาะคชจ ภายในบ้าน ถ้าแฟนคุณเงินเดือนน้อยกว่าคุณ แล้วจ่ายคชจ ในบ้านแบบสมน้ำสมเนื้อแล้ว เราว่าคุณก็ต้องทำใจนะ เพราะคุณเงินเดือนเยอะกว่าเค้า อีกอย่างคุณต้องชั่งน้ำหนักด้วยว่า แฟนเงินน้อยกว่าคุณแล้วเค้าดี มีน้ำใจกับคุณมั้ย เคยได้ยินมั้ย ปัวบางคนเงินเดือนเยอะมาก แต่งกกับเมีย มีนะเราเคยเห็น อย่างนี้เรียกกว่าไม่มีน้ำใจกับเมีย ชีวิตคู่ไม่ใช่แค่เงินอย่างเดียว ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในบ้านของ จขกท เอง พวกเราที่นี่ก็ไม่ได้รู้ว่า แฟนของคุณเป็นคนย้ังไง แต่ถ้าแฟนคุณทำตัวเหมือน พยาบาลอ้อยที่เป็นข่าวตอนนี้ ที่เอาเงินเมียไปซื้อมอไซค์อะไรแบบนี้ ก็อย่างอยู่ด้วยเลยค่ะ เสียเวลา จากคุณ : DutchEngel เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 23:26:52

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่รู้สิเรามองอีกมุม ถ้าผู้หญิงพยายามเรียกร้องสิทธิเท่าเทียมกับผู้ชาย เรื่องแบบนี้ไม่น่าคิดแล้วนะ .. จากคุณ : เจ๊ว่าแล้ว เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 23:35:24

ความคิดเห็นที่ 28 ....อ่านแล้วรักสามีขึ้นอีกเยอะเลย สามีดิฉันทำงานเก่งมาก เป็นคนเก่งที่ดวงไม่ค่อยดี ไม่ค่อยมีโอกาสดีในชีวิตเท่าไหร่ เงินเดือนไม่ค่อยเยอะ แต่ก็พยายามหางานเสริมทำตลอด อะไรผุพังในบ้านก็พยายามซ่อม เอง ไม่ทิ้งไม่ต้องเอาไปจ้างใครซ่อม เราเป็นแม่บ้านก็ชอบว่าเขาว่าหาเงินไม่เก่งไม่เหมือนสามีเพื่อนที่รวยๆกันทั้งนั้น .......แต่เงินที่ได้มาทุกบามทุกสตางค์เพื่อลูกเมียทั้งนั้น ก่อนจะไปทำงานต่างจังหวัดจะเคลียร์ค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ซื้อของเข้าบ้านเตรียมไว้ เติมเงินโทรศัพท์ไว้ให้ ให้ค่ากับข้าวไว้ บางทีเหลือเงินติดตัวไปต่างจังหวัดไม่กี่ร้อย ระหว่าไปทำงานต่างจังหวัด ได้เบี้ยเลี้ยงก็ส่งมาให้ใช้ตลอด เรามีหน้าที่หาเงินส่งรถอย่างเดียว ส่งรถ 8000 สามีบอกหาแค่ 6000 ก็ได้ที่เหลือเขาจะช่วยเอง  นอกนั้นเหลืออยากได้อะไรก็ซื้อเอา เพราะเขาไม่ไหวแล้ว .....เรายังบ่น ยังน้อยใจที่มีอะไรไม่เหมือนเพื่อนๆที่เขาเป็นเจ้าของบริษัท รวยๆกัน .....ถึงตอนนี้ จขกท.ทำให้เราคิดได้เยอะ ขอบคุณคุณสามีจริงๆ ที่อดทนมาตลอด ต่อไปเราจะบ่นไม่งี่เง่าแล้ว จากคุณ : littlelion เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 09:54:23

ความคิดเห็นที่ 29 นั้น ไม่ใช่ สามี  แต่ เป็น แมงกะจั้ว จากคุณ : NooPooK เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 10:45:19

ความคิดเห็นที่ 30 แฟนเก่าเราจะคล้ายสามี จขกท ค่ะ พอเราวางแผนแต่งงานก็ซื้อบ้าน(แฟนอยู่เพราะต้องเฝ้าของ) รถ(แฟนใช้) แต่เราต้องจ่ายทั้งหมด ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ น้ำ ไฟ โทรศัพท์ เพราแฟนบอกว่า ทั้งหมดเป็นชื่อเรา ถ้าเลิกกันไปเค้ามีแต่ตัว แล้วแฟนไม่ค่อยกลับไปเฝ้าบ้านเพราะติดเที่ยวกลางคืนเกือบทุกวัน เราเลยเลิกเลยค่ะ ปัจจุบันเราแต่งงานแล้ว สามีเงินเดือนน้อยกว่าเรา 3 เท่า แต่เค้าเป็นคนจ่ายทุกอย่างในบ้าน  รวมทั้งค่าใช้จ่ายของเราด้วย แต่เวลาไปทานข้าวนอกบ้านหรือซื้อของใช้ในบ้าน เราจะแย่งเค้าออกตลอดค่ะ รู้สึกเกรงใจเค้า จากคุณ : ต้าถุง เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 10:54:25

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าจะให้ดิฉันเลี้ยง คงต้องหล่อมาก ช่างเอาใจ คอยบริการนวดเท้า ทำกับข้าวล้างจานบริการถึงใจ ไม่จู้จี้ขี้บ่น อย่างนี้ดิฉันยอมเลี้ยงค่ะ โอเค..พูดจริงๆละ บ้านเราเป็นแบบแฟร์ๆ ค่าใช้จ่ายแบ่งกันจ่ายตามสัดส่วนของรายได้ สามี60% ดิฉัน40%ค่ะ ที่เหลือเงินใครเงินมัน จะเอาไปใช้อะไรก็ตามใจ ไม่เกี่ยว แต่ถ้าไม่พอก็ขอบ้างยืมบ้างค่ะ จากคุณ : earth after rain เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 12:06:08

ความคิดเห็นที่ 32 ก็เพราะผู้หญิงคิดแต่จะเอาตังค์ผู้ชายฝ่ายเดียว ผู้ชายถึงไม่อยากแต่งงาน หรือกว่าจะแต่งก็ปาไปค่อนชีวิต ป่านนั้นผู้หญิงก็เงินเดือนแซงหน้าแล้ว ไม่ต่งไม่แต่งมันละ เลี้ยงไม่ได้เดี๋ยวจะหาว่าแมงดา จากคุณ : ช่าย เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 55 10:48:36 A:203.126.59.164 X: TicketID:360192

ความคิดเห็นที่ 33 คุณ เมียรวย จขกท ใจดีมากๆเลยค่ะ เราคงทำไม่ได้ >_< ทะเลาะกันบ้านแตกแน่ มาขอแบ่งเงินเดือนนี่เกินไปนะคะเราว่า จากคุณ : giffy_mini เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 55 20:44:48