ความคิดเห็นที่ 1 ทีนี้ มันเลยกลายเป็นปัญหาของสามีของดิฉัน ซึ่งเป็นพี่ชายของเธอ พี่ชายของเธอหรือสามีของดิฉัน เข้ามาบอกกับดิฉันว่า น้องสาวไม่มีบ้านอยู่ต้องการขอบ้านที่สามีดิฉันสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงที่ร่วมกันมากับดิฉัน (ดิฉันกู้ร่วมกับสามีและผ่อนบ้านมาอย่างยากลำบาก กว่าจะได้บ้านหลังนี้มา ชีวิตทั้งชีวิตเลยค่ะ บ้านนี้เป็นชื่อของสามี) -น้องสาวไม่ต้องการเช่าบ้านใครอยู่ (บอกว่าไม่อยากลำบาก บ้านเช่าโกโรโกโส) -น้องสาวไม่ต้องการย้ายโรงเรียนของลูก (ค่าเทอมโรงเรียนเอกชนคนละ 2 - 3 หมื่น รวม 2 คนก็6-7 หมื่น ซึ่งสามีดิฉันบอกว่าไปเรียนโรงเรียนรัฐที่ค่าเทอมถูกลงดีกว่าไหม) -น้องสาวต้องการบ้านของสามีดิฉัน ต้องการให้สามีโอนเิป็นชื่อเธอ ตอนนี้เธอลำบาก และถามสามี "ทำไมไม่สงสารแม่ม่ายบ้าง พี่มีเงินตั้งเยอะ แค่บ้านโอนให้ไม่ได้หรือ พี่มีกำลังจะหาซื้อบ้านใหม่ได้อยู่แล้ว ลำพังเมียพี่ก็หาเงินเก่งอยู่ จะให้น้องให้ไส้บ้างจะเป็นไรไป เมียก็เหมือนเสื้อผ้า พี่น้องเหมือนแขนขา!!" จากคุณ : Anna เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 09:08:27 A:49.49.220.239 X: TicketID:258789

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นเราจะบอกว่าถ้าแขนขามันไม่ดี ใช้การไม่ได้ ก็ควรตัดทิ้งไป อาจดูรุนแรง แต่น้องสามีไม่คิดถึงใจคนอื่นเลย จากคุณ : Wallabie Girl เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 09:14:29

ความคิดเห็นที่ 3 ดิฉันตอบสามีดิฉันไปว่า สำหรับเรื่องที่อยู่ เราช่วยเท่าที่ทำได้ ในเมื่อเธอไม่ยอมไปอยู่บ้านเช่า (คิดว่าเธอไม่อยากเสียค่าเช่าแพง เนื่องจากเธออยู่บ้านเช่าถูก ๆ ไม่ได้ แต่เธอก็ไม่มีปัญหาจ่ายค่าเช่าแพง) ดิฉันเสนอน้ำใจไปเพียงว่า สามารถให้อยู่บ้านหลังที่เป็นของดิฉันแต่เดิม (บ้านที่แม่ให้ดิฉันมาก่อนแต่งงาน ซึ่งไม่ใช่สินสมรส และเป็นชื่อดิฉันเพียงคนเดียว) ดิฉันยอมให้อยู่บ้านหลังนั้นได้ แต่ดิฉันจะไม่เก็บค่าเช่าค่ะ จนกว่าเธอจะหางานทำได้ และถ้าเธอมีงานทำแล้ว จะให้เธอจ่ายค่าเช่า 1,000 บาทต่อเดือน และเมื่อครบ 5 ปีดิฉัน จะเพิ่มค่าเช่าจาก 1,000 บาทเป็น 5,000 บาท(บ้าน 3 ชั้น ติดถนนใหญ่ ตกแต่งอย่างดี การเดินทางสะดวก และก่อนหน้านี้เคยให้คนอื่นเช่ามาแล้ว 2 ราย แต่ไม่เช่าต่อเพราะไปเปิดกิจการที่ต่างประเทศ คนเช่าคนก่อนนั้นเปิดจิวเวอรี่เพชร เคยให้คนนี้เช่า 15,000 ต่อเดือน มาแล้ว แต่ย่านนั้นตึกระดับนี้เขาให้เช่ากัน 20,000 อัพทั้งนั้น) จากคุณ : Anna เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 09:19:26 A:49.49.220.239 X: TicketID:258789

ความคิดเห็นที่ 4 สามีไม่มีบ้านหลังอื่น นอกจากบ้านหลังที่อยู่กับดิฉัน ซึ่งอยู่กันมานาน พร้อมลูก ๆ ของเรา (สามีดิฉันและตัวดิฉันเองเปิดกิจการเล็ก ๆ ในบ้านค่ะ) ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะยกให้กับน้องสาวสามี ถ้ายกให้น้องสาวสามีบอกว่าจะเปิดร้านเอง แล้วเราล่ะ จะไปเปิดกิจการที่ไหน น้องสาวย้อน เปิดที่บ้านของดิฉันไง (บ้านเดิมที่แม่ดิฉันให้มา) ดิฉันไม่ได้ตอบโต้ แต่บอกกับสามีเพียงว่า ดิฉันจะอยู่ที่ไหนขอตัดสินใจเองได้ไหม บ้านที่เราสองคนอยู่ด้วยกัน ดิฉันกับสามีก็สร้างกันมา ส่วนบ้านที่แม่ให้ดิฉัน ดิฉันจะไปอยู่้เองหรือจะไม่อยู่เองก็เป็นสิทธิ์ดิฉัน ดิฉันไม่เข้าใจนะคะว่า การที่เธอเลิกกับสามีนั้น ทำไมจะไม่สามารถทำงานได้อีก ดิฉันเสนอไปเรื่องบ้านดิฉันที่อยู่ทำเลสะดวก ที่แม่ดิฉันยกให้ดิฉันนั้น ให้เธอพักฟรี จนกว่าเธอจะหางานทำได้ เธอก็ถึงกับขนาดต่อว่าดิฉันว่า "ใจดำักับคนทุกข์ยาก ใจร้ายกับแม่ม่าย คนล้มอย่าข้าม ##@!##$$" ดิฉันพยายามเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ม่ายนะคะ แต่แบบนี้เห็นใจไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ ปากบอกลำบาก แต่ไม่หางานทำ ปากบอกไม่มีเงิน แต่ยังคงส่งลูกเข้าโรงเรียนเอกชนแพง ๆ วันไหนปากว่างก็ตีโพยตีพายด่าคนอื่น ด่าพี่ชายด่าภรรยาพี่ วันไหนเบื่อไม่มีเงินพาลูกกิน KFC ของเิงินพี่ชาย จากคุณ : Anna เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 09:30:51 A:49.49.220.239 X: TicketID:258789

ความคิดเห็นที่ 5 น้องหรือแม่ผัว เรียกร้องซะ สามียอมให้ได้ แต่เงินที่คุณช่วยผ่อนหรือเงินครึ่งนึงของราคาบ้าน น้องสามีก็ต้องจ่าย เต็มเม็ดเต็มหน่วย มือเท้าก็มี เล่นขอกันง่ายๆ ดูเหมือนเธอจะจมไม่ลงนะ จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 09:33:18

ความคิดเห็นที่ 6 อืม....... ขออยู่ฟรียังน่าเกลียด นี่เล่นขอฟรีให้โอนชื่นให้ด้วย สงสัยจะอาการหนัก จากคุณ : ป เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 09:33:49 A:203.146.3.251 X: TicketID:203339

ความคิดเห็นที่ 7 พี่สาวเมียผมนะเคยนั่งคุยกันอยู่ดีๆ ก็พูดคำนี้ขึ้นมา "ผัวก็เหมือนเสื้อผ้า พี่น้องเหมือนแขนขา เสื้อผ้าจะถอดทิ้งเมื่อไหร่ก็ได้" หลังจากได้ยินคำนี้ผมก็ไม่เคยพูดกับพี่สาวเมียอีกเลย ปล.ต้องไปค้างบ้านพ่อตาทุกอาทิตย์ งานการก็ช่วยทำตลอด จู่ๆ มาพูดคำนี้ให้ได้ยินก็เลิกคุยไปเลยดีกว่า ปล. ไม่เกี่ยวกับเรื่อง จขกท เล้ย แต่ได้ยินคำนี้ก็ปรี๊ดขึ้นมาเลย จากคุณ : Ma~Grood เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 09:37:49

ความคิดเห็นที่ 8 สำหรับข้อเสนอที่ดิฉันเสนอไปนั้น ว่าอยู่ฟรีจนกว่าจะหางานทำได้ เท่าที่ดู ๆ เธอคงคิดอยู่ฟรีอีกนาน แต่เธอไม่แค่นั้นเธอต้องการเงินจากพี่ชายเธอค่ะ แต่พี่ชายให้ได้เฉพาะส่วนที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น อย่างน้อยก็ปลื้มใจที่สามีคิดเป็น จากที่ดู ๆ เธอไม่คิดหางานทำเลยค่ะ แต่ก็ไม่ต้องการไปอยู่บ้านที่ดิฉันเสนอไป เนื่องจากมันไกลจากพี่ชายเธออยู่ ต้องจ่ายค่าน้ำมันแพง เธอไม่ต้องการจ่ายส่วนนี้เลย ดิฉันเห็นว่าบ้านที่เป็นของแม่ดิฉันแต่เดิมนั้น ถ้าไม่ให้เธอจ่ายค่าเช่าเลย เธอจะเคยตัว กับการอยู่ฟรี กินฟรี น้ำไฟ ฟรี ทำให้เธองอมืองอเท้า และมีความเป็นไปได้สูงถ้าเมื่อไหร่เธออยู่ฟรีมานานเกินกว่า10 ปีเธอจะไม่ย้ายออกจากบ้านดิฉันแน่ค่ะ ถึงตอนนั้นจะให้ใครไปไล่เธอได้ ถ้าเล่นงานตามกฎหมาย มันก็เกินไป (กฎหมายไล่ที่น่ะ เขาคงไม่ทำกันกับพี่น้อง กับญาติ จ้างคนมาไล่ที่พี่น้องซึ่งมีผลกับความรู้สึกสามีดิฉันอีก และเผลอ ๆ อนาคตลูกดิฉันจะหาว่าดิฉันให้อาเค้ากับลูกพี่ลูกน้องเค้าอยู่ฟรีทำไม ทำไมสิทธิ์นั้นไม่ได้ตกถึงผม ฯลฯ) ตอนนี้พยายามไม่คิดมาก (แบบคิดไปไกลว่า น้องสาวเธอพยายามมาเกาะพี่ชายกิน แล้วเฉดหัวเราออกจากบ้านไรงี้ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร) พยายามเข้าใจหัวอกเธอที่เธอถูกคนอื่นแย่งสามี แต่ตอนนี้เธอกำลังแย่งสามีคนอื่นเหมือนกัน โดยการทำตัวเห็นแก่ตัว คนอื่นเขาก็อยากช่วยเธอนะ แต่เธอเล่นมาไม้นี้ บางทีถ้าใจดำกับเธอโดยการไม่ยี่หระ ไม่สนใจคำพูดของเธอมันคงดีกว่า แต่นี่เธอเล่นอยู่บ้านดิฉันตอนนี้กับลูก ๆ เธอเลยค่ะ คนกลางอย่าสามีดิฉันแทบเอาเท้าก่ายหน้าผากทุกคืน บ่นไปว่า ทำไมพี่น้องคนอื่นไม่ช่วยน้องสาว ทำไมแม่ไม่ช่วยน้องสาวบ้าง ทำไมต้องเป็นภาระของเขาคนเดียว จากคุณ : Anna เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 09:42:51 A:49.49.220.239 X: TicketID:258789

ความคิดเห็นที่ 9 น้องสาวต้องการบ้านของสามีดิฉัน ต้องการให้สามีโอนเิป็นชื่อเธอ ตอนนี้เธอลำบาก และถามสามี "ทำไมไม่สงสารแม่ม่ายบ้าง พี่มีเงินตั้งเยอะ แค่บ้านโอนให้ไม่ได้หรือ พี่มีกำลังจะหาซื้อบ้านใหม่ได้อยู่แล้ว ลำพังเมียพี่ก็หาเงินเก่งอยู่ จะให้น้องให้ไส้บ้างจะเป็นไรไป เมียก็เหมือนเสื้อผ้า พี่น้องเหมือนแขนขา!!" ^ ^ ^ ^ เอิ่ม......น้องสาวสามีเอาอะไรคิดคะ  เห็นแก่ตัวและฟุ้งเฟ้อแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยที่สามีมีบ้านเล็ก --" ตัวเราเองก็เกือบเคยเป็น Single Mom นะ ถ้าไม่เห็นแก่ลูก ป่านนี้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไปแล้ว แต่ในช่วงแยกกันอยู่ สภาวะกึ่ง Single Mom เราก็ไม่เคยเอาตรงนี้มาเรียกร้องความเห็นใจจากใครนะ แม้กระทั่งจากน้องชายเรา (เหลือกันอยู่ 2 คนพี่น้อง) เพราะเกรงใจน้องสะใภ้ อะไรที่ทำได้ด้วยตัวเองเราทำหมด เฮ้อ...อ่านแล้วเพลียกะความคิดน้องสามีคุณจริง ๆ แต่ยังไงก็เอาใจช่วยให้ร่วมจขกทกับสามีร่วมกันฟันฝ่าวิกฤตที่ไม่ได้ก่อนี้ไปให้ได้นะคะ จากคุณ : คัสตาร์ดราดนมข้น เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 09:43:18

ความคิดเห็นที่ 10 น่าจะถามความเห็นของสามีก่อนว่า เขาว่าอย่างไร ถ้าเขาเห็นด้วยก็คงต้องบอกตรงๆ เพราะเขายังขอบ้านตรงๆ ก็บอกไปเลยว่าไม่ให้ จะให้อยู่บ้านหลังนั้น จะอยู่ไม่อยู่ก็ตามใจ จากคุณ : XXVII Forever เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 09:45:56 A:101.51.42.227 X: TicketID:357477

ความคิดเห็นที่ 11 ใช้ความสงบสยบความโลภ และโมหะของน้องสาวสามีคะ บอกข้อเสนอของคุณที่ว่าอนุญาตให้น้องอยู่บ้านของคุณไปก่อน แต่เรื่องยกบ้านปัจจุบันให้น่ะ มันเกินไป ขึ้นอยู่กับสามีคุณด้วยว่าจะมีความเห็นอย่างไร แต่อย่าไปสู้รบปรบมือกับน้องสามีเลยค่ะ จากคุณ : นกน้อยในสวนพลู เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 09:55:49

ความคิดเห็นที่ 12 บอกสามีอย่าไปสนใจได้ไหมคะ น้องจะพูดอะไรก็พูดไป บอกแค่ว่าจะช่วยให้เป็นเงินรายเดือน ๆ ละเท่านั้นเท่านี้บาท ที่เหลือไปจัดการบริหารเอาเอง จากคุณ : แม่น้องข้น เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 09:57:02

ความคิดเห็นที่ 13 คนแบบนี้ไม่น่าสงสารหรอกค่ะ ยังไงคุณก็ควรคุยสามีตรงๆ เรื่องความคิดเห็นที่คุณมี (คิดว่าสามีคุณคงคิดเช่นเดียวกัน ถึงได้กลุ้มใจแทบเอาเท้าก่ายหน้าผาก) ท้ายแล้วถ้าเห็นตรงกัน ก็คงต้องปฏิเสธทุกครั้งไปที่น้องสาวเค้าขอให้โอนบ้านให้(เห็นแก่ได้มากจริงๆ) ขอร้อยครั้ง ปฏิเสธร้อยครั้ง ขอล้านครั้ง ก็ปฏิเสธล้านครั้ง กล้าด้านขอ..ก็ต้องกล้าปฏิเสธค่ะ บ้านนะ ไม่ใช่ขนม ของเล่น จะได้มาขอกันง่ายๆ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : Rainbow Obsidian เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 10:00:57

ความคิดเห็นที่ 14 ตอบ คห.2 ขอบคุณสำหรับความเห็นมาก ๆ ค่ะ จะตอบต่างจากนี้ก็รับฟังเสมอค่ะ ตอบ คห.5 ตอนที่เธออยู่กับสามีอย่างไร เธอก็ยังคงอยู่อย่างนั้นค่ะ โดยพึ่งเงินสามีดิฉัน ตอบ คห.6 ตอนที่เธออยู่กับสามี ทุกอย่างมันก็ฟรีมาตลอด ตอนนั้นเธอทำงานแต่เิงินก็เข้ากระเป๋าเธอเอง บางครั้งขอเงินคนอื่นบ้าง สามีเธอหนักกว่าเธออีกค่ะ หาเงินมาได้ฟุ่มเฟือยมาก ตอบ คห.7 ขอบคุณสำหรับความเห็นมาก ๆ ค่ะ อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าคนอื่นก็เคยเจอประโยคลักษณะนี้ ไม่ใช่เราคนเดียว ตอบ คห.9 ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้มาค่ะ ตอบ คห. 10 สามีมาบอกดิฉันก่อนค่ะ ว่าน้องสาวต้องการอะไรบ้าง ดิฉันถามความเห็น สามีตอบว่า ยกให้ไม่ได้ ยกให้แล้วจะให้พวกเราไปอยู่ที่ไหน บ้านที่สร้างมาด้วยกัน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับน้องสาวเขา ดิฉันตอบไปตรง ๆ ว่า ยกให้น้องสาวไม่ได้ค่ะ ดิฉันมีสิทธิ์ในบ้านนี้ กว่าจะผ่อนกันมาได้ดิฉันลำบากมาก สามีดิฉันเลยขอให้น้องสาวไปอยู่บ้านเดิมที่แม่ดิฉันยกให้ ดิฉันก็ไม่ว่าอะไร แต่มีเงื่อนไขตาม คห. 3 ค่ะ แต่น้องสาวไม่ต้องการอยู่ไกลกับพี่ชาย เลยไม่ต้องการไปค่ะ ตรง ๆ คือเธอต้องการบ้านหลังที่ดิฉันอยู่กับสามีและลูกค่ะ ตอนนี้เธออยู่บ้านที่ดิฉันอยู่กับครอบครัว วันดีคืนร้ายดิฉันอาจไม่อยู่นิ่ง ๆ อย่างนี้แล้วนะคะ เพราะเธอไม่ยอมหางานทำ ขอเงินแต่สามีดิฉัน ก่อนหน้านี้มาขอพึ่งใบบุญสามีดิฉัน ซึ่งสามีไม่ได้ถามความเห็นดิฉันก่อนการให้เธอเข้ามาอยู่ค่ะ ดิฉันใจดำนักกับแม่ม่ายหรือคะ (วัน ๆ ด่าดิฉันว่าไม่เคยเป็นแม่ม่ายก็ไม่รู้หรอก ด่าต่อหน้าสามีดิฉันด้วย แต่ดิฉันไม่ได้ตอบโต้ สามีดิฉันได้แต่ส่ายหน้าบอกยอม ๆ น้องเขาเถอะอะไรแบบนี้ น้องสามีเค้าอายุ 50 ปี ดิฉันอายุ 38 ปี อะไร ๆ ก็ต้องยอมเธองั้นหรือคะ คนเราอายุขนาดนี้แล้วน่ะ) จากคุณ : Anna เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 10:03:16 A:49.49.220.239 X: TicketID:258789

ความคิดเห็นที่ 15 แปลกจริงๆ ร่างกายเรามีขาไว้ให้เดินไม่ยอมเดิน แต่กลับจะพยายามบินทั้งๆ ไม่ได้มีปีกติดตัว อ่านๆ ดูแล้ว อย่าว่าเราแรงเลยนะคะ ทำไมเค้ากล้า"ด้านขอ"ขนาดนั้น ขอไปทำอย่างอื่นในภายหลังหรือเปล่า ถึงจะเป็นพี่น้องคลานตามกันมาก็เถอะ แต่คนเราต้องฉุกคิดได้บ้างว่าของๆ พี่ชายไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของตัวเอง แล้วยิ่งพี่ชายก็มีครอบครัวไปแล้วด้วย ยิ่งต้องมีความเกรงใจให้มากๆ ถ้าเป็นเราคงไม่ยอมแน่ๆ ค่ะ  เอาใจช่วยให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้นะคะ มันต้องมีทางออกที่ดีที่สุดอยู่แล้ว อยู่แค่ตัวน้องสาวของสามีจขกท.เอง จะเดินออกดีๆ หรือจะบินออกตามฝันของตัวเอง แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 10:06:03 จากคุณ : mamyjuzz เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 10:04:46

ความคิดเห็นที่ 16 เราว่านิ่งไม่ได้นะค่ะ เพราะถ้านิ่งเสร็จแน่!!! คุณสามีของคุณเอามาคุยกับคุณแสดงว่าเค้ามีใจที่จะให้น้องสาวของเค้า อย่าหยุด อย่านิ่ง เสร็จเค้าแน่ค่ะ นี่แค่เรื่องบ้านงานไม่ได้ทำ อีกหน่อยก็ต้องทุกอย่างในชีวิตแน่นอน ค่าเทอม ค่ากิน ทุกอย่างภาระตกที่คุณแน่ คนล้มอยาข้ามพูดมาได้  คราวหน้าคุณบอกเลยอย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจ ไม่ได้ง่อยเปลี้ยเสียขาที่ไหน โหด้านสุดๆๆ คุณลองเรียกสามีคุณมาดูกระทู้นี้หน่อยเผื่อจะได้ตาสว่าง..... จากคุณ : cindychu เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 10:07:26

ความคิดเห็นที่ 17 คุยกับสามีให้รู้เรื่อง และตกลงกันให้เด็ดขาดค่ะ ที่สำคัญอย่ายอมอ่อนข้อให้น้องสาวสามีนะคะ บ้านเดิมของคุณAnna ที่จะให้เค้าอยู่ ถ้าเค้ายอมนะคะ ทำสัญญาตกลงค่าเช่า รายละเอียดทุกอย่างให้ดีๆนะคะ ส่วนเรื่องเงินช่วยเหลือที่สามีจะให้ ก็ต้องทำสัญญารายละเอียดปลีกย่อยให้ดีๆ ให้เท่าไร เดือนละ ค่าอะไรบ้าง ให้ได้แค่กี่เดือน ต้องระวังให้ดีนะคะ คนแบบนี้เค้าไม่รู้จักพอหรอกค่ะ(ขอว่านิดนึงนะคะ มันอดไม่ได้) เราต้องระวังตัวเองไว้ให้มาก เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร จริงๆค่ะ ปล.ขอให้แก้ปัญหาได้โดยเร็วนะคะ จากคุณ : ดีใจจริงจริง เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 10:09:21

ความคิดเห็นที่ 18 น้องสาวของสามีคุณ จขกท. เห็นแก่ตัวอย่างรุนแรงเลยนะคะ ตัวเองมีปัญหา แต่กลับจะผลักภาระทุกอย่างที่เกิดกับตัวเองมาให้พี่ชายและพี่สะใภ้รับผิดชอบ เราไม่เคยเจอคนแบบนี้เลยและไม่คิดว่าจะได้เจอหรือได้ยิน ได้เห็นอะไรที่มันเห็นแก่ตัวแบบหน้าด้าน ๆ แบบนี้ด้วย (ขอโทษด้วยค่ะที่พูดรุนแรง) สิ่งที่เค้าควรทำมากที่สุด คือ พยายามลดรายจ่าย และทำงานเพิ่อให้เกิดรายได้ ถ้าขืนยังทำตัวเป็นคุณนาย นั่งงอมืองอเท้าแบบนี้ คงไม่พ้นให้พี่ชายตัวเองหาเลื้ยงแน่ ๆ จากคุณ : dslr-like เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 10:12:57

ความคิดเห็นที่ 19 น้องสาวสามีคุณ นี่ แย่ มากกกกกกกกกก เห็นแก่ตัวที่สุด เป็นเราบ้านเก่าเราที่แม่ให้มาอยู่ก็ไม่ให้อยู่ฟรีหรอก ดัดสันดานซะมั่ง สงสัยเติบโตมา มีแต่คนตามอกตามใจซะจนเคยตัว มองตัวเองเป็นแต่ผู้รับฝ่ายเดียว สงสัยตั้งแต่โผล่หัวมาดูโลกไม่เคยได้สัมผัสกับคำว่าเป็นผู้ให้บ้าง ลูกก็มีแล้ว รอยหยักในสมองยังไม่ขยายอีก ยังจะคิดไม่ได้อีก หน้าด้านจริงๆ หากเรื่องที่ จขกท.เล่ามาเป็นความจริง ถือว่า น้องสามีช่างด้านได้ใจจริงๆ เป็นเราฝันไปเถอะ ไม่กลุ้มด้วย ไม่สนเลย ให้อยู่ฟรีแล้ว แค่ที่พัก แ ต่ค่าใช้จ่ายก็หากันเอาเองเถอะนะ ไม่ได้เป็นคนทุพพลภาพซะหน่อย สะเงอะสะแงะ เกินไปแล้ว ตอนเด็กๆโดนแม่เลี้ยงมาตามใจพี่น้องโอ๋กันมากละสิท่า ยัยคนนี้ อ่านแล้ว หมั่นตับจริงๆ จากคุณ : tipjung เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 10:15:04

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าเป็นดิฉันจะไม่เสียเวลาต่อว่าน้องสาวสามีค่ะ  แต่จะคุยกับสามีว่า ดิฉันคงจะไม่สามารถยกสิทธิบ้านในส่วนที่เป็นของดิฉันให้กับน้องสาวของเขาได้  เหตุผลก็คือ ดิฉันมีลูก (ก็กับสามีนั่นแหละ)  ต้องห่วงลูก  ไม่สามารถยกบ้านที่ลูกอยู่ให้ใครได้จริงๆ (หวังว่าคุณคงจะจดทะเบียนสมรสกับสามีก่อนซื้อบ้านหลังนี้นะคะ...หรือไม่ก็มีหลักฐานพอจะยืนยันได้ในกรณีจำเป็นว่าคุณได้มีส่วนในการผ่อนส่งบ้านหลังนี้ด้วย) และถ้านิสัยของน้องสาวสามีเป็นอย่างที่คุณพูดจริงๆ  บ้านที่คุณบอกว่าคุณแม่คุณยกให้คุณ  ดิฉันก็จะไม่ให้เธออยู่ค่ะ  ไม่ให้เช่าด้วย  ไม่อยากจะมามีปัญหาต้องฟ้องร้องให้มองหน้ากับแม่สามี หรือผิดใจกับสามีในภายหลังได้   แต่ไม่ให้อยู่แน่นอนค่ะ  เอาให้คนอื่นเช่าแล้วช่วยเหลือน้องสาวสามีเป็นครั้งๆไป   ให้เท่าที่ให้ได้ค่ะ  ไม่ใช่ให้พร่ำเพรื่อ  ให้โดยที่ไม่ได้หวังจะได้คืน  ไม่ให้เงินสดด้วยค่ะ  แต่จะให้เป็นเช็คเท่านั้น  เพราะสามารถตรวจสอบได้ และถ้าคุณเธอมาโวยวายว่าไม่เคยช่วยจะได้เอาสำเนาเช็คที่ถ่ายเอกสารเอาไว้ให้ดู บอกตรงๆว่าช่วยคุณคิดยากมากว่าจะช่วยเหลือน้องสาวสามีอย่างไร เพราะไม่รู้จักตัวคุณ  ไม่รู้จักสามีคุณและน้องสาวของเค้า   ทางนึงที่มองเห็นคือช่วยทุนการศึกษาของหลานๆ ช่วยค่าใช้จ่ายรายเดือน โดยอาจจำเป็นต้องให้กับเด็กโดยตรงถ้าหากลูกๆของเธอโตแล้ว  หรือกลัวว่าจะไม่ถึงมือเด็ก(แต่ไม่ใช่ว่าลูกคุณเรียนโรงเรียนรัฐแล้วต้องให้ลูกเธอเรียนเอกชนตามที่เธอเรียกร้องนะคะ) ที่เธอมาวนเวียนกับสามีคุณ คงเป็นเพราะสามีคุณใจอ่อนว่าเธอเป็นน้อง  ถ้าสามีคุณนิ่งๆ เธอคงต้องดิ้นรนไปขอความช่วยเหลือจากแม่หรือว่าพี่น้องคนอื่นเองหล่ะค่ะ โชคดีนะคะ จากคุณ : MCCGO เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 10:15:43

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าโอนได้โดนขายบ้านแน่เลย อยากจะอาศัยเขาอยู่ยังจะขอเปลี่ยนชื่ออีก ไม่ได้มีส่วนร่วมในการทำเงินขึ้นมาซักนิด อยากรู้เหตุผลขอโอนชื่อจริงๆ อย่ายอมเด็ดขาดนะคะ จากคุณ : Harutoaki เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 10:26:27

ความคิดเห็นที่ 22 น้องสาวสาีมีคุณเป็นคนจมไม่ลง     ต้องให้สามีคุณนิ่งๆ อย่าเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเค้า ไม่งั้นเธอจะเรียกร้องไม่หยุด เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกด้วยซ้ำว่าจะไม่อยู่บ้านเก่าแม่คุณ   ช่วยเหลือเธอตามเห็นสมควร  เิงินของเรา    เธอไม่มีสิทธิ์มาเรียกร้องให้สามีคุณจ่ายค่าเทอมลูก  ค่าใช้จ่ายรายเดือนให้เธอใช้  เธอไม่ใช่คนพิการ  ควรที่จะดิ้นรนด้วยตัวเอง  มากกว่าจะทำตัวเป็นกาฝาก  เป็นภาระพี่ชาย   เท่าที่อ่านดูเธอกะจะฮุบกิจการของคุณด้วยซ้ำ  โดยขอบ้านแล้วมาเปิดธุรกิจเดียวกันกับคุณซึ่งก็เหมือนเป็นคู่แข่งทางธุรกิจกัน ถ้าเธอไม่อยากอยู่ก็ให้ไปหาที่อยู่ใหม่เอง   พี่น้องคนอื่นที่เค้าไม่ช่วย ก็คงระอากับพฤติกรรมที่เห็นแก่ได้ของน้องสาวมั้งค่ะ จากคุณ : อยากจะหมุนเวลา เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 10:27:05

ความคิดเห็นที่ 23 จากที่ จขกท. เล่ามา น้องสาวสามีนิสัยเห็นแก่ตัวมาก แถมยังโลภอยากใด้ของคนอื่น เค้าคิดว่าเค้าสามารถขออะไรจากพี่ชายเค้าไปใด้ง่ายๆ เราเจอแบบนี้เราบอกเลยว่าไม่ให้แม้แต่บาทเดียว ให้เค้ารู้บ้างว่า ทุกอย่างที่จะได้จากเรามันไม่ใด้ให้กันง่ายๆ แม้แต่บ้านเราๆก็จะไม่ให้อาศัยอยู่ อย่าว่าแต่มาขอบ้านเลย ดูซิจะทำไง คนเราอยากให้คนอื่นช่วยก็ต้องพยายามช่วยเหลือตัวเองก่อน ไม่ใช่งอมืองอเท้า คิดแต่จะเอาๆของคนอื่น จากคุณ : มารน้อยจอมขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 10:32:30

ความคิดเห็นที่ 24 อยากให้คุณและสามีใจแข็งให้มากค่ะ มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง ถ้ายอมกันเสียตั้งแต่ต้นคุณต้องเลี้ยงดูน้องสามี(อายุเยอะๆ)กับหลานอีกสองคนไปนิรันดร์แน่ๆค่ะ เผลอเธอจะคิดว่าเป็นหน้าที่ของสามีคุณที่ต้องดูแลเขาและลูกไปจนตาย นั่งลงจับเข่าคุยกับน้องสามีค่ะ เชิญพ่อแม่พี่น้องของสามีมาประชุมด้วยยิ่งดี(เผื่อเขาจะคิดได้ว่าต้องช่วยเหลือกันบ้างไม่ใช่ให้เป็นภาระของสามีคุณคนเดียว) ตกลงกันให้เรียบร้อยค่ะว่าจะดูแลเขาได้แค่ไหน เดือนหนึ่งจะช่วยได้เท่าไหร่ เขาเป็นแม่ม่ายผัวหย่านะคะไม่ใช่ผัวตาย ให้สามีเขารับผิดชอบบ้าง แล้วก็ยื่นคำขาดว่าให้ย้ายไปอยู่บ้านคุณ(โดยทำเป็นสัญญาเช่ากันให้เรียบร้อยกันการยึดครองปรปักษ์ในภายหลัง) ถ้าไม่ไปคงต้องอยู่บ้านเช่าใกล้ๆนี้แทน ถ้าไม่ให้เขาออกไปตั้งแต่วันนี้อนาคตต้องมีปัญหาน้องสามีแน่นอนค่ะ จากคุณ : เทียนสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 10:48:57

ความคิดเห็นที่ 25 อย่าให้น้องสาวสามี  อยู่บ้านที่เป็นสินส่วนตัวของจขกท.ฟรีๆ  ทำสัญญาเก็บค่าเช่าด้วย ให้อยู่ไปนานๆ  เดี๋ยวเกิดหัวหมออยากได้สิทธิ์ครอบครองปรปักษ์  จะซวยเอานา จากคุณ : CCE9PASS เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 11:06:23

ความคิดเห็นที่ 26 แสดงว่าหลังที่อยู่ปัจจุบันดูดีมีชาติตระกูลกว่าที่ให้อยู่ฟรีสินะ ถึงอยากได้นักหนา เฮ้อ ถ้ายอมก็ยอมร่ำไป น่าเบื่อจังพวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำแบมือขอเงินใช้ไปวันๆ ด้านขนาดนั้นลูกคงไม่อาย เผลอๆลูกคงเอาตามพ่อแม่ไปแล้ว สงสัยเด็กมีแต่ตย.แย่ๆ จากคุณ : นนนี่จ๊ะจ๋า เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 11:14:16

ความคิดเห็นที่ 27 ต๊าย..ของขึ้น ถ้าน้องสาวสามีดิฉันมาเปรี้ยวแบบนี้ ดิฉันจะชี้หน้าไล่ออกไปทั้งแม่ทั้งลูกเลยค่ะ จะให้คนอื่นช่วย เค้าต้องช่วยตัวเองก่อน นิสัยแบบนี้ ไม่น่าสงสัยว่าทำไมถึงตกอับตอนแก่ จากคุณ : JNOY เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 11:15:56

ความคิดเห็นที่ 28 นิสัยอย่างนี้ อย่าให้ไปอยู่บ้านเดิมเจ้าของกระทู้ฟรีๆค่ะ(ถึงเก็บตังค์ก็ไม่ควรให้อยู่ค่ะ) เราเอาไปให้คนอื่นเช่าได้เงินมาเก็บให้ลูกเราได้ แถมคนอย่างนี้มั่นใจว่าเข้าไปอยู่แล้วไม่ย้ายออกแน่ค่ะ เผลอๆจะทำบ้านเราให้เละด้วยถ้าเกิดมีไรไม่พอใจขึ้นมา อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนนะคะ เราควรดีกับคนที่รู้ค่า กับคนที่แว้งกัดเราแน่ๆอย่าไปยอมค่ะ จากคุณ : dead end เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 11:53:03

ความคิดเห็นที่ 29 อย่าเอาบ้านเดิมของคุณไปให้เขาอยู่ค่ะ เพราะในอนาคตหากมีปัญหากัน จะเชิญเขาออกนั้นลำบากมาก ยิ่งมีเด็ก ๆ ด้วย เสนอทางเลือกคือ บ้านเดิมของคุณ ให้คนอื่นเช่า แล้วบอกน้องสาวว่าให้ไปหาบ้านอยู่โดยคุณหรือสามีจะออกค่าเช่าบ้านให้เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ เป็นระยะเวลากี่เดือน กี่ปี เพื่อให้เธอมีเวลาหางานทำและปรับตัว หากเธอยังงอมืองอเท้า เธอจะถูกเจ้าของบ้านจัดการเอง จากคุณ : ฟ้าฝน-tktd เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 12:01:05

ความคิดเห็นที่ 30 ทำไมพี่น้องคนอื่นไม่ช่วยน้องสาว ทำไมแม่ไม่ช่วยน้องสาวบ้าง ทำไมต้องเป็นภาระของเขาคนเดียว ^ นิสัยแบบนี้หรือเปล่า จมไม่ลง เลยไม่มีใครกล้าช่วยเหลือ จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 12:02:35

ความคิดเห็นที่ 31 แ่ต่เรากลับคิดว่า น้องสาวสามีจขกท ยังคงมีความต้องการช่วยสามีอยู่หรือเปล่าหรือโดนสามีตัวเองเป่าหูมา หรือไม่อาจโดนเจ้าหนี้ตามทวงหนี้ที่เหลืออยู่อีกหลายล้าน อยู่ดีๆ มาขอบ้านแล้วให้โอนชื่อให้ด้วย เราว่าน้องสาวสามีคิดจะเอาบ้านจขกทไปขายแน่นอน แต่ไม่กล้าพูดตรงๆ คนเราลำบากต้องรู้จักดิ้นรนซะก่อน น้องสาวสามีจขกท โชคดีแค่ไหนแล้วที่ล้มบนฟูก ยังคงมีพี่ชายช่วยเหลือทางการเงินบ้างนิดๆหน่อยๆ มีบ้านของพี่สะใภ้ที่ให้อยู่ฟรีชั่วคราวจนกว่าจะลืมตาอ้าปากได้ แต่ตัวเองกลับทำตัวจมไม่ลงเอง ตอนที่แม่เราล้มเพราะโดนโกงแชร์ บ้านโดนยึด พ่อมีเมียน้อย  แม่เรามีเงินติดตัวแค่หมื่นกว่าๆ แม่เรายังสามารถพาตัวเองและลูกสามคนผ่านวิกฤตจนมีบ้านมีรถมีกิจการในทุกวันนี้ คนเราต้องช่วยเหลือตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปคิดพึ่งพิงคนอื่นค่ะ ก่อนที่แม่จะล้ม เราสามคนพี่น้องก็เรียนเอกชน ใช้ของดีๆ แต่พอแม่ล้ม เราก็ย้ายกันไปเรียนรัฐบาล เช่า้บ้านเช่าเล็กๆ ประหยัดกันจนมีทุกวันนี้   ----------------------------------------------------------------------------------------- ปล่อยให้น้องสาวสามีจขกท ดิ้นรนเองบ้างค่ะ อย่าไปช่วยเหลือมาก ช่วยเหลือมากเกินจะทำให้เค้ากลายเป็นคนที่รอความช่วยเหลืออย่างเดียว ไม่คิดจะขวนขวายช่วยตัวเอง แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 12:55:15 จากคุณ : GiibKae กิ๊บเก๋ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 12:54:15

ความคิดเห็นที่ 32 น้องสามีอายุ 50  ป๊าด แบบนี้บ้านเราเรียกป้าแล้วค่ะ แถมคุณอายุอ่อนกว่าแกอีกต่างหาก ก็คงคิดว่าคุณคงจะไม่กล้าปฏิเสธ อย่าแรงนะคะใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว จากคุณ : โด่ง บรื้น บรื้น เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 12:54:27

ความคิดเห็นที่ 33 โอ้วววววว อายุ 50 ปี แก่ปู้นนี้แล้วนะ เอ่อ น้า คนนี้ยังคิดไม่เป็นอีกเนอะ คนพวกนี้ พวกที่มีหนี้สินรุงรัง นี่แบบว่า เป็นเหมือนกันหมดเลย คือ ฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ หัวสูง ไฮโซ รายได้ต่ำรสนิยมสูง ขี้โอ่  ไม่เคยพอ และจมไม่ลง จากคุณ : ฟ้าสางที่เชียงดาว เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 12:58:22

ความคิดเห็นที่ 34 อายุ 50 เนี่ยนะตะ ให้ตาย คิดว่า ซัก 28-29 เค้าเอาอะไรมาคิดเนี่ย คุณเสนอทางเลือกให้อย่างดีดันไม่เอา บ้านเดิมคุณปล่อยให้คนอื่นเช่าไปค่ะ ให้เค้าหาเอง สามจะให้เงินก็ให้ไปเลย เดือนละ 5พัน ให้ได้แค่นี้ จะเอามั้ย คือเค้าจะไม่ทำมาหากินเลยเหรอคะ ลูกก็น่าจะโตแล้ว ลูกเค้าเรียนชั้นอะไรกันแล้วคะ พอหางานพาร์ทไทม์ทำได้รึยัง จากคุณ : lekumi เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 13:19:54

ความคิดเห็นที่ 35 ฝากบอกทีค่ะ อยู่อย่างจน ไม่มีวันจน อยู่อย่างรวย ไม่มีวันรวย จากคุณ : rainswatch เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 13:21:01

ความคิดเห็นที่ 36 ยินดีด้วยนะคะที่คุณและสามีคิดได้ ไม่ประสาทไปทำตามน้องแก่เห็นแก่ตัวและโลภสุด ๆ แต่คงอีกไม่นานหรอกค่ะ เราว่าคุณคงใกล้จะตะบะแตกละ เป็นเราคงได้ประทับปากประสานมือกันไปนานแล้วละ พูดจาแมว ๆ แบบนี้ ให้อยู่ด้วยแล้วยังปากดี แบบนี้อยู่ร่วมบ้านกันไม่ได้หรอกค่ะ อย่ามาหวังว่าจะให้โอนบ้านเลย แค่จะอยู่ร่วมกันก็ทำท่าจะไม่รอดละ ยังไงพยายามข่มอารมณ์ไว้นะคะ สงสารคนกลาง แต่ถ้ารู้สึกว่าอยู่ดี ๆ ไม่ได้เป็นคนก่อปัญหา แล้วต้องมารับอารมณ์คนบ้าประสาทปากเสียแบบนี้ ปรึกษาสามีดูนะคะ ก่อนจะวู่วาม หรือบอกสามีไว้ก่อนเลยก้อได้ว่าจะอดไม่ไหวแล้วนะ แก่กว่าไม่ได้หมายความว่าจะปากแมวใส่ได้ฝ่ายเดียวนะ จากคุณ : Sea อ่านแล้วของขึ้น เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 13:28:06 A:223.27.229.254 X: TicketID:353085

ความคิดเห็นที่ 37 อ่านดูแล้วเห็นแกตัวมากน่ะสำหรับเรา เคยเจอเหตุการณ์ที่เกือบคล้ายๆ กันค่ะ คือซื้อที่โดยแม่สามีออกเงินให้บางส่วน และแม่สามีก็จะปลูกบ้านให้น้องชายของสามี เลยมาคุยกับสามีเราว่าให้น้องปลูกบ้านในที่ดินที่เหลือได้หรือเปล่า โดยให้สามีไปเอาที่ดินอีกที่หนึ่งแทน เราเหมือนนางมารร้ายเลย คุยกับสามีเลยว่าไม่เอาน่ะ เพื่อว่าเราอยากทำอะไรเพิ่มเติมจะทำอย่างไร ดีนะมีสามีฟัง เลยรอดไป จากคุณ : แม่น้องไม้ (แม่น้องไม้) เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 13:34:21

ความคิดเห็นที่ 38 โห ปรี๊ดดดดดด เห็นแก่ตัวโคตร  คนเราเวลาลำบาก  มันต้องเจียมตัวเจียมตน  ทำตัวดี ๆ ให้คนอื่นเขาสงสารเมตตาอยากช่วยเหลือ  นี่อะไรเรียกร้องนั่น โน่น นี่   ตัวเขาเอาก็ต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวันด้วย  ตอนนี้คุณไม่มีสิทธิ์จะเลือก  ไม่มีสิทธิ์จะมากเรื่อง  ไม่มีสิทธิ์จะเรียกร้อง  ลูกน่ะย้ายมาเรียน รร.รัฐบาลซะ  จะเคยดูถูกเหยียดหยามว่าต่ำต้อย  ตอนนี้ขอแค่ให้ลูกได้มีที่เรียนซะก่อน  ลูกชาวบ้านคนอื่นเขายังเรียนกันได้ ถ้าเขาเรียกร้องแบบไม่เกรงใจคุณ  คุณก็ไม่ต้องเกรงใจเขาแล้ว  และคิดว่าถ้าเขาได้อยู่บ้านของคุณ  อีกหน่อยก็จะอยู่ฝังรากฝังลึก  พออยากให้ออกก็จะมีปัญหากันอีก  จะยิ่งหาว่าใจร้ายใจดำกว่าตอนนี้ซะอีก  จะถึงขั้นว่าเราไล่เขาออกจากบ้านด้วยซ้ำ   คนอย่างนี้ก็มีด้วยเนอะ จากคุณ : aicm เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 14:05:00

ความคิดเห็นที่ 39 โกรธแทนจขกท.เลยค่ะ มาขอบ้านคนอื่น โอนให้ด้วยเหรอ..... เอาเงินมาซื้อสิคะ ถึงจะยกให้   รักชีวิตตัวเองแต่ไม่ห่วงชีวิตพี่ชายพี่สะใภ้อย่างคุณเลย   ตอบได้เลย ว่าการร้องขอแบบนี้ มนุษย์ที่ไหนเขาก็ไม่ทำกันค่ะ ตกทุกข์ได้ยาก กลับไปหาแม่สิคะ .... ไปตั้งต้นชีวิตใหม่ก่อน อย่าใจอ่อน  อย่ายอม แค่ผ่อนปรนให้ตามกำลังที่คุณช่วยได้ก็พอ  การให้น้องสาวอยู่บ้านของคุณ.... ถือว่าเป็นพระคุณของเขามากล้นแล้วค่ะ  พอแล้วค่ะ  อย่าช่วยอะไรไปมากกว่านี้เลย ทำอะไร อย่าลืมเซนต์สัญญานะคะ แม้จะพี่น้องก็ตาม จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 14:37:28

ความคิดเห็นที่ 40 บ้านที่ได้มาระหว่างสมรส ถือเป็นสินสมรส สามีจะโอนได้ ต้องได้รับความยินยอมจากภรรยาค่ะ ดังนั้น ถ้าคุณไม่ยอมให้โอน ยังไง ก็โอนไม่ได้ เว้นเสียแต่คุณไม่ได้จดทะเบียนกับสามี ค่ะ จากคุณ : SKR เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 14:55:50 A:202.28.7.36 X: TicketID:362322

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าเป็นหนี้นอกระบบ อย่าหาว่าใจร้ายเลย แนะนำให้ไล่ออกจากบ้านให้เร็วที่สุด แล้วจะหาว่าไม่เตื่อน ลูกคุณตัวคุณจะลำบาก เรื่องอื่นเราก็อ่านนะ บ้านแม่ก็อย่าไปให้อยู่ล่ะ เดี๋ยวของที่ตกแต่งจะเสียหาย ไหน ๆ ก็ไม่ทำมาหากินอยู่แล้ว ลูก ๆ ก็น่าจะอยู่บ้านคุณ แนะนำให้พี่สามีไปต่างจังหวัดค่ะ แล้วลูกคุณก็เลี้ยงให้เขาล่ะ อันนี้คนข้างบ้านเคยกู้นอกระบบมาแล้ว คนท้วงหนีจะใส่ชุดดำใช่มั้ย ถ้าใช่เอาพี่ไปไกล ๆ บ้านคุณและสมบัติของคุณดีที่สุด จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 15:16:37

ความคิดเห็นที่ 42 เป็นเราจะไม่ให้อยู่เลยสักที่ค่ะ จะบอกกับสามีตรงๆเลยว่าน้องสาวเค้ามือเท้าก็ดี แต่คิดจะเกาะคนอื่นกิน งอมืองอเท้า จมไม่ลงแบบนี้ไม่ช่วยและช่วยไม่ไหวค่ะ มีแต่จะพาเราลำบากไปด้วย อยากด่าก็ด่าไป พูดมากนักก็ถามกลับ "คิดแต่จะงอมืองอเท้าเป็นปลิงเกาะเค้ากินอยู่แบบนี้รึไง ไม่อายเหรอ  แล้วยังมีหน้ามาว่าคนอื่นเค้าอีก" สามีคุณใจดีมากไปกับน้องเค้าไม่ได้หรอกค่ะ คนแบบนี้ได้คืบจะเอาศอก ถ้าคุณปล่อยให้เค้าอยุ่กับคุณนานไปจะไล่ออกไปยากค่ะ เรื่องค่าเทอมลูกของเค้าบอกไปเลยค่ะว่าให้ไม่ไหว ถ้าจะให้ช่วยส่งหลานเรียนต้องย้ายไปเรียนที่ๆมันค่าใช้จ่ายน้อยกว่านี้ ไม่ใช่ไม่เห็นแก่อนาคตเด็กแต่เด็กอีกมากมายที่ไม่ต้องเรียนเอกชนแพงๆก็สามารถเรียนจบมีหน้าที่การงานที่ดีได้ค่ะ จากคุณ : jazzzero เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 16:55:48

ความคิดเห็นที่ 43 เดี๋ยวพอถึงเวลาจ่ายค่าเทอมครั้งต่อไป เค้าต้องมาขอสามีคุณแน่เลยอ่ะ ชัวร์ จากคุณ : Sea เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 17:09:38 A:223.27.229.254 X: TicketID:353085

ความคิดเห็นที่ 44 ถ้าสามีคุณให้บ้านที่อยู่นั่น ดิฉันว่าต้องเสียสติไปเเล้วเเน่ๆค่ะ ขอโทษนะที่ออกความเห็นเเรงเเละจาบจ้วง น้องสามีคุณ เป็นหนี้นอกระบบ โดนเจ้าหนี้ทวงอยู่ จะให้โอนบ้าน ขอบอกเลยว่า โอนเช้า บ่ายยังไม่ทันเข้าบ้าน เจ้าหนี้ตามมายึดเเน่ เเล้วยังไม่รู้ว่าเเกล้งหลอกพวกคุณ ช่วยเหลือสามีอยู่ลับๆหรือเปล่า เป็นดิฉัน ไม่ให้ไปอยู่บ้านเเม่ด้วย เจ้าหนี้นอกระบบน่ะ มันไม่มีคุณธรรมมาเเยกเเยะหรอกนะ ว่านี่น้องสามี นี่สามีคุณเเละตัวคุณ คนละส่วนกัน ยิ่งอยู่ด้วยกันเเบบนี้ เวลาออกจากบ้าน หัดสังเกตรอบตัวว่่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่าด้วยนะคะ ไม่ได้ขู่ อยากเล่าเรื่องมากๆ เเต่กลัวคุณกลัว รีบให้น้องสาวสามีออกไปเช่าอยู่ทีอื่นเลย โดนพวกคุณอาจช่วยเหลือเป็นค่าเช่าอะไรก็ว่าไป ตอนนี้คุณรีบตกลงคุยกันสามีเลยค่ะ ว่าจะจัดการอย่างไร เตือนน้องสาวเขาอย่าให้ล้ำเส้น ไม่งั้นเดี้่ยวคุณออกโรงเองเเล้วจะหนาว จะเข้าหน้ากันไม่ติดกันหมด   เรื่องอื่นๆรอได้ เเต่ระวังเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวไว้ก่อนดีกว่า ยิ่งมีลูกเล็กๆด้วย จากคุณ : Pixiepasta เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 21:56:21

ความคิดเห็นที่ 45 เหมือนเค้ามีวาระแอบแฝงเลย อาจจะยังอยากช่วยสามี ช่วยเท่าที่ช่วยได้ ตามสมควรเถิดค่ะ จากคุณ : มะเลม่อน เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 22:31:06

ความคิดเห็นที่ 46 เราลองสมมติเรื่องนี้แล้วถามคุณสามีมาว่าถ้าเป็นน้องสาวเค้าขอแบบนี้จะให้มั้ย สามีเราตอบว่ายังจะต้องถามอีกเหรอ ให้ก็บ้าแล้ว เห็นใจกับชีวิตน้องสามีจขกท.ที่ต้องเจอสามีเลวๆแบบนั้น ก็พอเข้าใจค่ะว่ามันจะชอกช้ำเพียงใด แรกๆอาจตั้งตัวไม่ไหว แต่หย่าแล้วก็ไม่ควรมาเป็นปลิงเกาะคนที่เค้ายื่นมือมาช่วย สมควรเกรงใจและเจียมตัวด้วยซ้ำ นี่อะไรด้านชะมัด (แก่แล้วยังต้องให้เด็กด่าอีก) ความเห็นนะคะ ทางที่ดีควรจะให้สามีคุณติดต่อพ่อแม่และพี่น้องคนอื่นๆให้มาช่วยกันรับและแก้ปัญหา ไม่ใช้มากองปัญหาและเกาะทางบ้านคุณแบบนี้ เค้าเป็น"แค่น้อง"ค่ะไม่ใช่แขนขาแบบที่พยายามเปรียบเปรย น้องแบบนี้เปรียบได้กับเห็บหมัดที่มาเกาะดูดเลือดต่างหาก อายุอานามจะเรียกว่ารุ่นแม่ได้ด้วยซ้ำ ส่วนบ้านจขกท.ไม่ควรให้เค้าอยู่เป็นอย่างยิ่ง....ขอยืนยันอีกเสียง รับรองได้อยู่แล้วอยู่เลยแน่ๆ พยายามให้เค้าออกไปจากบ้านคุณให้เร็วที่่สุดเถอะค่ะ ขืนอยู่นานกว่านี้จะยุ่งไปใหญ่ ช่วยเป็นเงินในขอบเขตที่เหมาะสมดีหว่า เราต้องรักษาชีวิตครอบครัวเราไว้ให้ดีที่สุดค่ะ การช่วยเหลือคนนั้นทำได้แต่ต้องไม่ทำให้เราเดือดร้อน แต่หากช่วยแล้วเรากลับต้องเดือดร้อน มีแต่ความทุกข์นั้น ถือว่าเป็นการทำบาปได้เหมือนกัน ซึ่งก็คือการทำบาปต่อตัวเอง ทำให้ตัวเองเป็นทุกข์ (อันนั้นไม่เกี่ยวกับพวกใจดำ เห็นแก่ตัว ไม่เคยช่วยเหลือใครเน้อ) ขอให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้นะคะ เราเคยเจอเรื่องประมาณนี้กับน้องตัวเองเหมือนกันแต่ก็ผ่านไปได้ค่ะ จากคุณ : catkingdom เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 22:39:02

ความคิดเห็นที่ 47 "ให้อยู่ขนาดนี้แล้วยังบอกว่าใจร้าย ไม่ช่วยอีกหรอ ข้อเสนอที่ยื่นให้ มีตรงไหนที่ใจร้าย??" มองหน้า จ้องตาไปตรง ๆ เลยค่ะ แล้วถามไปว่า "อยากเห็นมั้ยว่า ใจร้ายจริง ๆ น่ะ เป็นยังไง" ตัวเองลำบากยังไม่เจียม จะเรียกร้องให้มากมาย ได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา เดี้ยะก็ไม่ได้อะไรสักอย่าง แล้วจะร้อง อ่านแล้วโมโหแทนค่ะ เพราะตอนเราลำบาก ขอพึ่งพาพี่สาวตัวเอง เค้าให้แค่ไหน เราก็เอาแค่นั้น เราไม่มีที่อยู่จริง ๆ เราตั้งใจหางาน ไม่นิ่งดูดายหรอก แต่เราไม่รู้ว่าจะงานที่ได้ ทำแล้วมีเงินเหลือพอไปถึงค่าเช่ารึป่าว ไหนลูกยังเล็ก ไหนจะค่าคนเลี้ยงลูก อยากมั่นใจว่า พี่สาวโอเคที่ให้ที่พำนักไปก่อน จนกว่าจะมีเงินพอค่าเช่า พี่สาวให้อยู่แค่ 2 เดือน เราก็เอาค่ะ แต่ 2 เดือนน่ะ ถึงเงินน้อย ไม่มีพอไปเช่าที่อื่น เราก็เอาเงินให้พี่สาว 6 พัน (คิดเป็นเงินไทย) ที่มาอาศัยเค้าอยู่ 2 เดือนนะ ถ้าพี่สาวเราหรือสามีพี่สาวเรา มีข้อเสนอแบบคุณให้น้องสามีนะ เราจะน้ำตาร่วง ก้มกราบเลยค่ะ มันเหมือนให้เราอาศัยบ้านอยู่ แต่ให้ความเป็นส่วนตัวด้วย แล้วใครจะนิ่งดูดายล่ะคะ แบมือขอเงินคนอื่นไปเรื่อย ๆ คนเค้าก็มีครอบครัวของตัวเองเหมือนกัน ไม่รู้นะว่าน้องสาวสามีคุณมีระบบความคิดแบบไหน นี่น้องสามีคุณ ลำบากไม่จริง ยังมานั่งเรียกร้องมากมาย ไม่ใช่คนลำบากแล้วเนี้ย จากคุณ : ~amily~ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 23:10:27

ความคิดเห็นที่ 48 เข้าใจสามีน้องสาวแล้วว่าทำไมถึงมีเมียน้อย - - จากคุณ : หนมจีนเส้นหนึบ (kkasemos) เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 55 00:04:26

ความคิดเห็นที่ 49 พอกันที สำหรับน้องสาวสามี!! ไม่ต้องเผาผีกันอีก จากคุณ : Anna เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 55 09:35:37 A:49.48.232.158 X: TicketID:258789

ความคิดเห็นที่ 50 ถ้าให้เงินเค้าใช้เราว่าควรกำหนดไปเลยว่าจะให้เงินช่วยเหลือจำนวน.........เป็นเวลา กี่เดือน เพราะถ้าไม่กำหนดดูแล้วว่าคงจะไม่ดิ้นรนหางานทำแน่ คงจะอยู่เกาะไปเรื่อยๆ แล้วครอบครัวคุณจะต้องส่งเสียกันไปถึงไหน เก็บเงินไว้ให้ลูกคุณไม่ดีกว่าเหรอ   ถ้าเป็นเราไม่ยอมให้อยู่บ้านเดียวกันเป็นเวลานานหรอก ถ้าไม่ยอมออกไปดีๆ ก็ไล่ออกไปเลยเก็บของกองไว้หน้าบ้าน ล็อคประตูบ้าน แล้วออกไปต่างจังหวัดซักอาทิตย์ ดูดิจะยังอยู่รออีกมั้ยถ้ามาก็ไม่เปิดประตูให้ เรื่องอะไรที่ต้องมานั่งเลี้ยงคนอายุ 50 ที่ไม่มีความคิด พ่อแม่พี่น้องคนอื่นก็มีทำมัยไม่ไปพึ่งคนอื่นบ้าง แสดงว่าแฟนคุณคงใจดีมาก เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ขอให้เหตุการณ์ผ่านไปเร็วๆ จากคุณ : ถ้วยตวง เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 55 10:54:04

ความคิดเห็นที่ 51 ไม่แปลกนะ ที่น้องสาวสามีจะเป็นคนแบบนี้ แม่ก็บอกว่า ไม่ช่วยน้องแล้วใครจะช่วย เหลือแค่พี่ชาย แม่แก่แล้ว ช่วยอะไรไม่ได้ พี่ชายก็บอกว่า พี่น้องคนอื่น ๆ และแม่ ทำไมไม่ช่วยน้อง ทำไมต้องเป็นตนเองที่ช่วยอยู่คนเดียว งง ว่า คิดกันได้แค่นี้เหรอ เหมือนพี่ชายเกี่ยงแม่ แม่ไม่ช่วยน้อง แม่ก็เกี่ยงพี่ชาย พี่ชายไม่ช่วยน้องสาว แต่ !!!!  ทั้งแม่ และพี่ชาย  ทำไมไม่ถามน้องสาว ว่าเมื่อไหร่จะช่วยตัวเอง ? งานการไม่ทำ งอมืองอเท้าขอเงินไม่พอ ยังมานั่ง ๆ นอน ๆ ให้เราดูแลอีก คนแบบนี้ อยู่ที่ไหนก็เป็นที่น่ารังเกียจ จากคุณ : :+:+ น้ำแข็งใส ใส่โซดา +:+: เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 55 15:43:18

ความคิดเห็นที่ 52 เรื่องง่ายๆ  แค่ สามีคุณ  เซย์โน  ทุกอย่างก็จบแล้ว   จะให้น้องมั้ยล่ะ  บ้านตั้งหลัง  แถมเป็นของ เมียด้วยครึ่งนึง(เพราะช่วยผ่อน) ถ้าโอนให้น้องสาวล่ะก็   มันก็เห็นแก่ตัวทั้งบ้านแหละ  คิดจะฮุบ สมบัติ ให้เป็นของครอบครัว ตัวเอง ฝ่ายเดียว     อยู่ที่  สามี จขกท  คนเดียวเลย  และไม่ใช่เรื่องยาก  พี่น้องแล้วไง เพราะถ้าเป็นเรา  เราไม่ให้  แค่นั้นจบ จากคุณ : NooPooK เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 55 19:48:09