ความคิดเห็นที่ 1 อืมจะบอกว่ามันก็ไม่ได้เป็นแบบที่เจ้าของกระทู้เห็นไปซะทุกโรงเรียนนะค่ะ นานาจิตตังด้วยค่ะ ถ้าคิดว่าให้ลูกของเจ้าของกระทู้เรียนแล้วสุขภาพจิตแย่ ก็อย่าให้น้องเค้าเรียนเลยค่ะ เพราะจริงๆเด็กน้อยเหล่านี้เค้าก็บอกได้ค่ะว่าชอบ หรือไม่ชอบอะไร ซึ่งในฐานะของคนเป็นแม่ถ้าลูกพูดแบบนี้ก็คงไม่ให้เรียนค่ะ และการที่ผู้ปกครองบางคนต้องทำงานเลยฝากลูกอยู่เย็น มันก็ด้วยเหตุจำเป็นนะค่ะ เพราะทุกครอบครัวก็มีข้อจำกัดที่แตกต่างกันนะค่ะ ถ้าคุณสงสารลูกก็รับลูกกลับบ้าน ไม่เห็นต้องแคร์ใครเลยนะค่ะ จากคุณ : มายาค่ะ เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 14:11:00

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ต้องเรียนก็ได้คะ เด็กที่พร้อมก็สนับสนุนกันไป ถ้าเด็กยังไม่พร้อม อย่าเพิ่งเน้นวิชาการเลยคะ มองกว้างๆ คะ คุณแม่ .... วิ่งทางไกล ไม่ใช่สอบเข้า ป.1 แล้วจบนะ ชีวิตอีกยาวนาน...ไม่ต้องพร้อมพร้อมกันทุกคนก็ได้คะ ความแตกต่างระหว่างบุคคลเป็นเรื่องธรรมชาติ...ไม่งั้นจะมีสอบได้ สอบไม่ได้ ได้อย่างไร ถ้าทุกคนได้หมด... ปล.ความเห็นส่วนตัวนะคะ สำหรับเรา เรียนพิเศษ เราบอกลูกว่า "ถ้าไม่ไหว ไม่ชอบ เหนื่อย บอกได้เลย จะให้หยุด...เรียนพิเศษอย่างเดียวที่เราขอคือ ออกกำลังกาย" เพราะ เราคิดว่าสำคัญสำหรับเด็กเล็กๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แต่ละครอบครัว มีความเชื่อต่างๆ กันไป มีความสุขบนสิ่งที่ต่างกันไป แค่ในบ้าน tune ให้ตรงกันยังยากเลย ขืนต้องไปรับ มาตรฐานความคิด ความมสุขของครอบครัวอื่นๆๆๆๆ มาประยุกต์ด้วย เหนื่อยตายพอดี จากคุณ : paklinkz เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 14:13:44

ความคิดเห็นที่ 3 กดดันกันมากไปก็ไม่ดีหรอกนะเราว่า ให้เค้าโตมีความสุขตามวัยจะดีกว่าค่ะ เด็กฝรั่งไม่เหนเค้าเรียนอะไรช่วงเย็นเลย เสาอาทิตย์จะเรียนก็ดนตรีไม่ก็กีฬาเสียมากกว่า จากคุณ : mon kiwi เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 14:18:13

ความคิดเห็นที่ 4 ทำไมต้องตามคนอื่นหละคะ  ดูครอบครัวและลูกเป็นหลักดีกว่า ครอบครัวเรา พ่อแม่ทำงาน ไม่สามารถมารับลูกได้ ตอนอนุบาลจึงต้องให้เรียนพิเศษ ฝากได้ถึง 5 โมงเย็น ส่วนใหญ่ที่ให้เรียนพิเศษจะเป็นกลุ่มพ่อแม่ไม่สามารถมารับได้เหมือนกัน ยกเว้น ตอน อ.3 มาเรียนกันพรึบเต็มห้อง คาดว่าเตรียมพร้อมสอบ ป.1 ค่ะ เรียนเสริมที่โรงเรียน ไม่ได้ให้เรียนค่ะ เพราะมองว่าไม่เกิดความต่อเนื่อง ลูกต้องหยุดถ้าหากปิดเทอม ลูกร้องขอเพราะอยากตามเพื่อน แต่ก้อชี้แจงเหตุผลให้ฟัง ลูกก้อเข้าใจ เรียนเสริมวันเสาร์ ลูกเลือกดนตรี (ไปทดลองเรียนระหว่างศิลปะ กับ ดนตรีหลาย ๆ ที่เปรียบเทียบกันก่อนตัดสินใจค่ะ) กับ ภาษาอังกฤษ เรียนแฮปปี้มีความสุข เรียนติวสอบเข้า ป.1 เลือกสอนเอง ไม่ไปติวที่สถาบันไหน แม้มีคนมาชักชวนว่าที่นั้น นี่ โน้นดี ก้อไม่ได้ไป ยืนยันจุดเดิมค่ะ  ลูกสอบได้ทั้ง 2 ที่ที่ไปสอบ เราว่าดูตามความเหมาะสมของแต่ละครอบครัวดีที่สุดค่ะ  แต่เราเห็นหลาย ๆ ครอบครัวพร้อม จัดตารางลูกแน่นเอี๊ยด (แต่ส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมดนตรี กีฬา) ก้อเห็นเด็กมีความสุขดีนะคะ  ของเราลูกขอเรียนปั้นดินญี่ปุ่น บัลเล่ต์เพิ่ม แต่งบประมาณหมด เลยบอกลูกว่าเรียนเท่าที่เรียนตอนนี้ให้ดีที่สุดก่อน แล้วถ้าแม่พร้อม แม่จะเพิ่มให้ค่ะ ปล.ของโรงเรียนลูกเราตอนอนุบาล ไม่มีกดดัน ไม่มีเด็กร้องไห้ไม่อยากเรียนนะคะ เด็ก ๆ แฮปปี้ สุขภาพจิตดี สุขภาพกายแข็งแรงค่ะ จากคุณ : sui_k เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 14:40:29

ความคิดเห็นที่ 5 ของเราลูกชายเรียน อนุบาล1 ก็ให้เรียนค่ะ แต่เป็นเรียนศิลปะ วาดภาพ ดนตรี แนววิชาการนี่ยังไม่สนับสนุนค่ะ เพราะเค้ายังเล็กมาก จากคุณ : คนขี้ใจน้อย เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 14:45:58

ความคิดเห็นที่ 6 ลูกเราก็อยู่อ.2 ก็เรียนพิเศษเหมือนกัน แต่ว่ามีเรียนตอนบ่ายแบบแค่สอนการบ้านลูกเท่านั้นเอง จากคุณ : แม่นกลูกคนแรก เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 14:52:34

ความคิดเห็นที่ 7 ลูกเราเป็นอย่างที่คุณ จขกท. ว่ามาทุ๊กกกอย่างเลย ที่เราให้เค้าเรียนตอนเย็นเนื่องมาจากไม่มีคนดูแลจริงๆ แต่ก็เลือกให้เค้าเรียนเป็นกิจกรรมและออกกำลังกายมากกว่า เช่น ว่ายน้ำ และศิลปะวาดเขียน แล้วก็ดนตรี ส่วนของการเรียนติวเข้ม ป.1 เป็นความต้องการของคุณพ่อเค้า แต่เราถามความสมัครใจของลูกแล้ว เค้าชอบ และผลจากการเรียนเสริมก็เห็นพัฒนาการของเค้าจริงๆค่ะ (แอบดูจากช่องเล็กๆที่หน้าตาห้องเรียน) จากเดิมที่เคยซน ไม่สนใจเพื่อนร่วมห้อง บางทีอยากเดินก็ลุกขึ้นเดิน หรือครูสั่งอะไรก็ไม่ทำ นอนหมอบกับโต๊ะซะงั้น ตอนนี้พัฒนาจนเป็นเด็กที่กระตือรือร้นที่จะไปเรียนให้ทันเวลา เข้าห้องปุ๊บก็หาแบบฝึกหัดมาทำเอง แล้วก็ตั้งใจทำจนเสร็จ ไม่วอกแวกเหมือนก่อน ก็มีบ้างนะคะที่ดูเค้าเพลียๆ ถ้าวันไหนเพลียก็จะบอกให้เค้ารีบเข้านอน และปลุกเค้าสายกว่าวันปกติสัก 15 นาทีค่ะ เราก็ไม่รู้ว่า เราทำถูกต้องมั้ย แต่เราจะพยายามถามเค้าว่า เค้าชอบหรือไม่ ไม่อยากบังคับใจกันน่ะค่ะ จากคุณ : ชับ-บิ มัม เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 15:20:06

ความคิดเห็นที่ 8 สำหรับเราลูกสาว 3 ขวบ 5เดือน ตอนนี้อยู่ K2 ค่ะ ก็มีเรียนพิเศษเช่นกันค่ะ เราก็ให้เรียนนะค่ะ ทั้ง เทควันโด, ภาษาจีน, วิทยาศาสตร์, ดนตรี ซึ่งตอนที่เค้าอยู่ K1 เราก็ให้เค้าเรียนแค่ดนตรีและภาษาอังกฤษ แล้วก็เลิก 4 โมงวันที่มีเรียน ที่ให้เรียนเยอะขนาดนี้ แต่จริง ๆ วิชาหนึ่งเรียนอาทิตย์ละครั้ง ๆ 1 ชม. บางวันเลิก 5 โมง ลูกก็เหนื่อยเหมือนกัน สังเกตุว่าวันไหนเลิก 5 โมงนี่ ตอนหัวค่ำจะเริ่มง่วงแล้ว แต่ก็ถามเค้าว่าชอบเรียนมั๊ย เค้าบอกว่าสนุกเค้าชอบมากสนุกไม่เครียดเลย เราก็เบาใจค่ะ เพราะเราว่าเด็กอนุบาลเรียนพิเศษเหมือนเล่นมากกว่าเรียนจริงจัง คล้่าย ๆ กับการเรียนรู้ผ่านการเล่น ลูกสาวเราก็ Happy นะค่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าไม่มีคนไปรับกลับบ้านเลยค่ะ ส่วนเรื่องติวเข้า ป1 ลูกสาวยังไม่ถึงเกณฑ์ค่ะ ยังตอยไม่ได้ จากคุณ : oat_ada_cherry เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 15:21:58

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วแต่เด็กค่ะ บางคนไหวรับได้หรือชอบเรียนก็ดีไป แต่ถ้าเค้าไม่ได้ชอบเรียน ก็จะฝืนค่ะ ปรับเอาตามนิสัยและความสามารถของเด็กดีกว่าค่ะ จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 15:38:14

ความคิดเห็นที่ 10 http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N12242207/N12242207.html ไปกระทู้นี้เลยค่ะ พ่อแม่หลายๆ คนเข้ามาตอบไว้แล้ว ว่าผลกระทบจริงๆ มีอะไรบ้าง บางคนส่งเรียนด้วยเหตุอะไร จากคุณ : PHaTthiTA เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 15:43:05

ความคิดเห็นที่ 11 ดิฉันว่าคนเป็นพ่อแม่นั่นแหละที่ควรจะต้องมีจุดยืน และ มีความเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ..ถ้าเราคิดว่าไม่เหมาะกับลูกเรา เราก็ต้องเลือกทางที่เหมาะกับลูกเราค่ะ เวลาดิฉันจะให้ลูกเรียนอะไร ดิฉันจะคิดเองว่าเหมาะกับลูก และ เหมาะกับ life style ของครอบครัวหรือเปล่า ถ้ามีใครซักคนที่ suffer ก็แสดงว่าไม่เหมาะ ก็เลือกใหม่ค่ะ ไม่จำเป็นต้องตามกระแส ไม่จำเป็นต้องตามคนอื่น จากคุณ : JNOY เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 16:54:07

ความคิดเห็นที่ 12 ดิฉันเเปลกใจมากกว่า ที่คุณเลือกจะบ่นออกมา เเทนที่จะยกเลิกการเรียนพิเศษลูก จากคุณ : Pixiepasta เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 19:21:34

ความคิดเห็นที่ 13 ลูกเรียนไปร้องไห้ยังให้เรียน เป็นเราคงให้หยุดเรียนค่ะ ไม่ไหว จะโทษครูไม่ได้ ต้องโทษเราเองที่เลือกครูเเบบนี้ให้ลูก จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 05:52:35

ความคิดเห็นที่ 14 หลานเราก็เรียนค่ะ แต่ว่าเขาเอยากเรียนแล้วเขาชอบและสนุกค่ะ ส่วนลูกชายเรา  ตอนอนุบาล เรียนเปียโน 30นาที/สัปดาห์    ว่ายน้ำ 1 ครั้ง/สัปดาห์   อังกฤษ 1 ครั้ง/สัปดาห์ คือ อะไรก็ได้ที่ทำแล้วมีความสุข ลูกพอใจ เพราะเราจะถามก่อนทุกครั้ง ว่าเขาอยากทำไหม  ถ้าเขาสนใจ เราก็ลองให้เรียน แต่ถ้าเขาไม่ชอบ  เราก็พร้อมจะหยุดค่ะ แค่อนุบาลเอง  ไม่เห็นจะต้องไปจริงจังขนาดนั้นเลยค่ะ  คุณเป็นแม่ ดูแลลูกเองได้นะคะ   แต่ถ้าคุณทำงาน ไม่มีใครดูแล  มันก็ต้องเป็นแบบนี้น่ะค่ะ   แล้วถ้าเขาไม่มีความสุข คุณต้องหาวิธี หาคนมาอยู่กับลูกหลังเลิกเรียนดีกว่า จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 07:07:28

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าลูกไม่ไหวก็ไม่ให้เรียนค่ะ ลูกเราก็เรียนค่ะ แต่ไม่เยอะ เพราะอยู่บ้านก็ชอบดูการ์ตูน งานเรายุ่ง ไม่สามารถอยู่กับลูกได้ตลอด เห็นเพื่อนลูกบางคนรับไหวนะคะ เรียนเยอะมาก ฉลาด เรียนเก่งเลย เด็กเค้าชอบด้วย เคยพาลูกไปเรียนพวกกิจกรรม ลูกไม่ชอบ งอแง เราก็ไม่ให้ไปเลย เราก็อยากให้ลูกเก่ง เพราะเด็กสมัยนี้การแข่งขันสูง บางทีไม่เรียนก็ตามเพื่อนไม่ทัน พ่อแม่อยากให้ลูกมีทักษะเยอะๆแต่เราเน้นเอาที่ลูกรับได้ มีความสุขดีกว่าค่ะ เพื่อนลูกบางคนไม่เรียนพิเศษค่ะ แม่มีเวลาสอนเอง ลูกก็ตั้งใจดีมาก ลูกน่ารัก สอบได้คะแนนเต็มยังมีเลย เด็กมีความพร้อมสูงด้วย (อันนี้เด็กบางคนไม่ฟังพ่อแม่ก็ทำใจนะคะ เราคนนึงแหละที่พยายามสอนลูก แต่ลูกก็รับมั้งไม่รับมั้ง เหนื่อยมากเลย) จากคุณ : ชื่อนี้อนุมัติ เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 08:30:05

ความคิดเห็นที่ 16 โรงเรียนลูกเราแค่ให้เด็กทำการบ้าน แล้วก็นอนนานขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อยเพราะไม่ต้อง รีบกลับบ้าน ส่วนเรื่องเรียนพิเศษนอกห้องให้เรียนวาดรูปค่ะ เพราะเค้าอยากเรียนเวลาไปเรียนจะ มีสมาธิมาก มีความสุขกับการได้วาดสิ่งที่ชอบ ได้ระบายสี  เคยพาไปเรียนดนตรีเหมือน จะไม่โดนใจเลยไม่ได้ให้เรียนต่อ จากคุณ : อยากเป็นแม่ที่ดี เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 55 14:46:12