PANTIP.COM : N12274557 ....สงสัยอยากทราบ การใช้ชีวิตของซิงเกิล มัม น่ะค่ะ... []

ความคิดเห็นที่ 10

เราทำงานเป็นพนักงานบัญชีค่ะ ตอนแรกที่ยังไม่มีปัญหากับอดีตสามี เนื่องด้วยเค้าได้งานใหม่ที่มั่นคงทางใต้ ทำให้เค้าต้องย้ายไปอยู่ที่นั่น บอกกับเราว่าไปเพื่ออนาคตของครอบครัว และด้วยหน้าที่การงานของเราที่นี่ก็ค่อนข้างมั่นคง เราก็เลยตัดสินใจทำงานอยู่ที่นี่คนเดียวไปก่อนค่ะ

พอเราอายุ 28 (ยังทำงานคนละจังหวัด) คิดว่าพร้อมแล้วว่าควรมีลูก ก็เลยตัดสินใจมีลูกกัน พอเราท้อง ก็อยู่คนเดียวลำพังค่ะ ไปฝากท้อง ทำอะไรทุกอย่างคนเดียว

พอใกล้คลอด ก็เลยตัดสินใจซื้อบ้าน ณ จังหวัดที่เราทำงาน เพราะอดีตสามีมองว่า งานเรามั่นคงดี ถ้าย้ายไปอยู่จังหวัดที่เค้าทำงาน ก็หางานยาก อายุงานเค้าก็เหลือน้อย (เรากับอดีตสามีอายุห่างกัน 18 ปีค่ะ) เห็นควรว่าให้ซื้อบ้าน ณ จังหวัดที่เราอยู่ เพื่ออนาคตของลูก เราก็เห็นดีด้วยค่ะ

ก่อนจะถึงกำหนดคลอด แม่เราก็มาอยู่เป็นเพื่อน 1 อาทิตย์ค่ะ วันที่คลอด น้ำคร่ำแตก แต่ไม่เจ็บท้อง เราก็เลยเป็นคนขับรถพาแม่ไปโรงพยาบาลเอง 555++ นึกแล้วยังขำอยู่เลย

พอคลอดน้องออกมา แม่ก็อยู่เป็นเพื่อนแค่ครบอาทิตย์ แล้วแม่ก็กลับต่างจังหวัด เราก็เลี้ยงเองเลยค่ะ ตอนนั้นอะไรก็ไม่เป็น อ่านตำรา หาข้อมูลในเน็ตเอา พอครบเดือนครึ่งเราก็กลับไปทำงาน โดยจ้างคุณยายใกล้ ๆ บ้านเลี้ยงลูกให้ช่วงกลางวัน พอเราเลิกงาน เราก็เลี้ยงเองตอนกลางคืน หลับ ๆ ตื่น ๆ ทั้งคืนแบบนั้นแหล่ะค่ะ ไม่รู้ว่าผ่านวันเวลาแบบนั้นมาได้ยังไง ^^

จริง ๆ ใช้ชีวิตแบบไว้ใจสามีมากนะคะ ไม่เคยโทรจิก โทรตาม เค้าบอกอะไรก็เชื่อ จนวันหนึ่ง ตอนนั้นลูกสาวอายุขวบได้แล้ว มีโทรศัพท์จากผู้ชายคนหนึ่ง ถามหาเราค่ะ พอดีวันนั้นเราเพิ่งกลับมาจากงาน

เค้าโทรมาบอกว่าอดีตสามีเรา ไปจีบแฟนเค้า มีอะไรกับแฟนเค้า บอกจริง ๆ ว่าวันนั้นตกใจ ไม่คิดว่าเรื่องที่เคยแอบคิดในใจจะเป็นจริง ก็โทรถามอดีตสามีค่ะ เค้ายอมรับว่าก็จีบเล่น ๆ

สรุปเลยนะคะ ว่าหลังจากนั้น เราก็ตัดสินใจเลิกกับอดีตสามีค่ะ เพราะบอกตรง ๆ ว่ามันทุกข์มาก ช่วงนั้นลูกยังเล็กแค่ขวบเดียว แถมเราต้องทำงานและเลี้ยงลูกเองลำพัง กระจิตกระใจตอนนั้นไม่ดีเลย มาทบทวนว่าเลี้ยงลูกคนเดียวไหว ก็เลยตัดสินใจว่าเลิกดีกว่า ไม่อยากทุกข์อีกแล้ว

ชีวิตก็จะเป็นตื่นเช้ามาเตรียมอาหารเช้าให้ลูก อาบน้ำ ไปทำงาน ลูกก็อยู่กับยายคนเลี้ยง เย็นเลิกงานก็มาเลี้ยงลูกเอง ค่าใช้จ่ายของลูกรวมค่าคนเลี้ยง เดือนหนึ่งก็ประมาณหมื่นบาท แทบไม่มีเงินเก็บเลยค่ะ ใช้ไปเดือน ๆ หนึ่ง

(ตอนนั้น ค่าผ่อนบ้านกับค่าผ่อนรถอดีตสามียังผ่อนให้อยู่ เพราะยังตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์ เรื่อง รีไฟแนนซ์ยังไม่ได้ แต่ค่าใช้จ่ายของลูกกับของตัวเอง เราดูแลเองค่ะ)

ณ ปัจจุบัน ลูกสาวเกือบจะสี่ขวบแล้วค่ะ น้องกำลังน่ารัก ช่างพูด เข้าอนุบาลหนึ่งแล้ว ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเราดูแล คนเดียวค่ะ เรากับอดีตสามีเพิ่งทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์เรื่องบ้านและรถแบ่งกันไปเรียบร้อย เมื่อเดือนมีนาคม ปีนี้เอง

ทุก ๆ อย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางลงตัวค่ะ ตอนนี้เราก็ผ่อนบ้าน เลี้ยงลูก ตามลำพังเหมือนเดิม ตัวลูกสาวก็ดูไม่มีปัญหาอะไรนะคะ เพราะตั้งแต่เลิกกับอดีตสามี เราก็บอกความจริงให้ลูกฟัง เพื่อให้เค้าทราบความเป็นจริง ลูกสาวรู้จักพ่อค่ะ เวลาพ่อเค้าโทรมา น้องก็จะรับสาย คุยด้วย

อดีตสามียังติดต่อกลับมาหาลูกบ้างค่ะ แล้วก็เห็นบอกว่าได้งานใหม่ ที่ได้เงินดีขึ้นกว่าเดิม และขอเวลาว่าอีกสักเดือน สองเดือน ถ้าทางงานใหม่เข้าที่เข้าทาง ก็จะส่งเงินมาให้เป็นค่าใช้จ่ายลูกเป็นรายเดือน จะช่วยดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายลูกทุกอย่าง เพราะเค้ารู้ว่าเรารักลูก ดูแลลูกได้ค่ะ (อดีตสามีเป็นคนที่รักพ่อแม่ และลูกมากค่ะ แต่ก็มีส่วนไม่ดีตรงเจ้าชู้ เราค่อนข้างมั่นใจว่าเค้าจะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายลูกนะคะ ปกติถ้าเค้ามี เค้าจะให้ แต่ถ้าไม่มี ก็ไม่ให้ T_____T)

ดู ๆ แล้วชีวิตเราและลูกก็น่าจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้นนะคะ มีความสุขทุกวันที่ได้อยู่กับลูกค่ะ น้องมีเรื่องมาเล่าให้หัวเราะทุกวัน

ถามว่าเวลาเห็นครอบครัวคนอื่นมีความสุขแล้วเรารู้สึกยังไง ตอบจริง ๆ ว่าตอนแรกก็คิดมากบ้าง ที่ครอบครัวเราไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่น แต่ปัจจุบัน ไม่คิดแล้วค่ะ เพราะเราว่าหัวใจเราเข้มแข็งดี เราเลี้ยงลูกได้ แล้วก็มีความสุขกับงานประจำที่ทำอยู่ ถึงแม้ไม่ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แต่เราว่าเราพอใจ ณ จุดนี้ค่ะ

ได้ทำงาน เช้าไป ห้าโมงเย็นเลิก มาอยู่กับลูก ใช้เวลาอยู่กับลูก พอมีกินมีใช้ ไม่ถึงกับลำบากมากนัก

กำลังใจทุกวันนี้ สู้เพื่อลูกจริง ๆ ค่ะ

มีท้อบ้าง แต่ไม่ถอยแน่ ๆ เพื่ออนาคตของลูกค่ะ

จากคุณ : An ordinary life

เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 55 22:43:43