 |
ก่อนอื่นต้องขอโทษจขกท.และเพื่อนๆผู้อ่านนะคะที่พิมพ์ยาวมากกๆๆ แต่ไม่อยากแตกกระทู้ใหม่เพราะเห็นเป็นเรื่องเดียวกัน เห็นกระทู้นี้ดีใจมาก กระโจนเข้ามาอ่านแทบไม่ทันเพราะกำลังตัดสินใจอยู่ค่ะ เราน่าจะคลอดต้นเดือนส.ค.นี้ ตอนนี้หาข้อมูลเยอะมากกกกกก เรียกว่าเรียนยังไม่ขยันเท่านี้ 555 เรากับสามีเอนไปทางอยากให้ลูกขลิบค่ะ ตอนแรกๆถามความเห็นคนนู้นคนนี้ก็อายนิดนิง แต่ตอนนี้เดินหน้าดะหาข้อมูลอย่างเดียว ถามไปทั่วไม่อายแล้วเพื่อลูกรักของเรา โดยประมาณก็น่าจะเกิน 50 คนแล้ว กลุ่มผู้ให้ความเห็นประกอบด้วย คุณแม่ที่มีลูกชาย เพื่อนทั้งชายและหญิง(มีแฟน,แต่งแล้ว,หรือมีพี่น้องผู้ชาย) ครอบครัว คุณหมอสูติ 2 ท่าน หมอเด็ก 1 ท่าน วิสัญญีแพทย์ 2 ท่าน และหมอผิวหนัง 1 ท่าน รวมทั้งอ่านตามเว็บต่างๆทั้งไทยและฝรั่ง เราเหลือเวลาตัดสินใจอีกเดือนเศษๆ ขอรวบรวมสิ่งที่ศึกษามาได้ตรงนี้ค่ะ เป็นจริงอย่างคุณจขกท.พูดค่ะ คุณหมอส่วนใหญ่ไม่แนะนำให้ขลิบ เหตุผลหลักๆคือ 1. ก่อนอื่นลองตัดสินใจดูก่อนว่าจำเป็นหรือ คุณหมอเปรียบเสมือนการตัดไส้ติ่ง ซึ่งถ้าไม่อักเสบก็คงไม่ไปทำ แต่ถ้าอักเสบก็ไปรักษา จะขลิบทีหลังตอนโตแล้วก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ธรรมชาติให้มาเพราะฉะนั้นไม่เป็นไรก็อย่าไปยุ่งเค้าเลย ไม่ใช่เด็กทุกคนที่มีปัญหา เป็นส่วนน้อยที่อักเสบ ปัสสาวะติดขัด มีปัญหาหนังหุ้มไม่เปิด 2. ที่ขลิบนี่ เด็กเจ็บนะ ไม่ใช่ไม่เจ็บ แต่ก็มีข้อดีตอนทำแรกเกิด คือเค้าเจ็บตอนทำแต่จำอะไรไม่ได้ ไม่ทำให้เกิดการกลัวฝังใจหรือเข็ดขยาดต่ออวัยวะของเขาเอง ไม่เหมือนมาทำตอนโตที่รู้เรื่องแล้ว ก็คงไม่มีใครอยากจะให้ยุ่งกับสิ่งที่หวงแหนถ้าไม่ได้มีปัญหาจริงๆ 3. ยุโรปเค้าไม่ทำกัน (จากการศึกษามา ยุโรปจะเป็นแถบที่เน้นธรรมชาติสุดๆ ป่วยก็ดื่มน้ำพักผ่อนมากๆ ไม่เน้นยา คลอดก็เน้นธรรมชาติถ้าไม่ได้มีปัญหาอะไรจริงๆ) ส่วนอเมริกาแต่ก่อนทำกันเยอะ เดี๋ยวนี้คนทำก็ลดลงมาก (หลายคนพูดถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน ให้เค้าได้ตัดสินใจเองตอนโต) เด็กไทยเองส่วนใหญ่เกิดมาก็ไม่ได้ขลิบ 4. ยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันในทางการแพทย์ ว่าการขลิบช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งในอวัยวะเพศชาย การติดเชื้อ HPV (รวมไปถึงการส่งผ่านเชื้อไปถึงภรรยาด้วย) ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบ ฯลฯ เหล่านี้จริงหรือไม่ ถ้าจริงก็เป็นอัตราส่วนที่น้อยมากจนแทบไม่มีนัยสำคัญ คือหมายถึงเอาทุกคนมาขลิบเพื่อคิดจะป้องกันโรคมันเหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตน 5. ถ้าหมั่นทำความสะอาดให้ดี ส่วนใหญ่แล้วก็จะไม่มีปัญหา เด็กบางคนมีปัสสาวะที่ค้างอยู่บ้างอาจช่วยโดยการเอามือบีบไล่ออก และตัวปัสสาวะเองไม่ใช่สิ่งสกปรกถ้าไม่ได้ไปปนเปื้อนกับอะไร เหตุผลของคนอื่นๆที่ไม่ใช่หมอ ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยก็ครึ่งๆ 1. ขลิบสิ จะได้สะอาด (ผู้หญิงจะพูดถึงประเด็นนี้มาก) ล้างไม่ดีมันมีกลิ่นนะ เหมือนคนใส่ผ้าถุงอาบน้ำอ่ะ มันก็ลำบากนิดหน่อย 2. ขลิบสิ มันป้องกันโรคได้ไม่ใช่หรอ 3. ขลิบสิ ทำตอนเด็กเจ็บเค้าก็จำไม่ได้ แผลหายเร็วดูแลง่าย วันหลังเค้าต้องมาขอบคุณเราที่ทำให้ 4. ขลิบสิ พี่/น้อง/หลาน/เพื่อนเราเคยมีปัญหา ปัสสาวะขัด อักเสบบวมแดง หนังหุ้มปลายไม่เปิดดี สุดท้ายก็ต้องไปทำ ทำตอนโตน่าสงสาร เจ็บจะตาย ลูกหยุดเรียน แม่หยุดงานมาดูแลแผล คนโตๆทำงานแล้ว ถ้าต้องไปทำก็ทั้งอาย ทั้งเจ็บเดินตัวงอไปเป็นเดือน 5. อย่าขลิบเลย ให้เค้าตัดสินใจเองตอนโตไม่ดีกว่าหรอ มันเป็นสิทธิของเค้านะ 6. อย่าขลิบเลย ไม่สงสารหรอ ลูกเจ็บนะ ทำตอนเกิดเค้าไม่ฉีดยาชา ยาสลบ แต่ทำตอนโตเค้าฉีดยาชาให้ 7. อย่าขลิบเลย ลูกเรา พี่/น้องเรา ไม่ขลิบแต่ก็ไม่เห็นเป็นไรนะ ช่วงเล็กๆเราก็ดูแลความสะอาดดีๆ พอเด็กเริ่มโตก็สอนให้เขารู้จักทำความสะอาด ธรรมชาติให้มามันดีอยู่แล้ว 8. อย่าขลิบเลย คนส่วนใหญ่ไม่ขลิบกันไม่ใช่หรอ เดี๋ยวของลูกเราไม่เหมือนคนอื่น โดนเพื่อนล้อนะ ขอเป็นคนส่วนมากดีกว่า 9. ขลิบ / ไม่ขลิบ ไม่รู้ แล้วประโยชน์ของหนังหุ้มมันคืออะไรล่ะ จากที่เราไปหาๆมาก็ได้ความว่ามันช่วยรักษาความชุ่มชื้น ปกป้องส่วนที่บอบบาง (แต่ได้ยินมาว่ามีคนนึง โดนลูกบาสอัด ก็อักเสบจนต้องไปขลิบช่วงวัยรุ่น เพราะฉะนั้นน่าจะหมายถึงการปกป้องเล็กๆน้อยๆของคนสมัยก่อนที่ยังไม่มีเสื้อผ้าใส่หรือเปล่า) ใครรู้ช่วยบอกที ทำไมเรากับสามีตัดสินใจเอนไปทางขลิบตอนแรกเกิด 1. จากการถามหมอว่าถ้าข้อดีเรื่องขลิบอาจยังไม่ชัดเจน แล้วข้อเสียหรือความเสี่ยงคืออะไร หมอบอกข้อเสียก็ไม่มีแต่แค่อาจไม่จำเป็น ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก็คือการตัดหนังหุ้มปลายมากไปหรือน้อยไป ซึ่งถ้าทำตอนแรกเกิดเค้าจะปรับตัวกับความตึงหย่อนได้ดี จะไม่ค่อยมีปัญหาตรงนี้ ไม่เหมือนการทำตอนโต 2. ไม่พบข้อเสียหรือความเสี่ยงที่ชัดเจนในการขลิบทารก ยกเว้นเรื่องความเจ็บตอนขลิบ การขลิบตอนแรกเกิดน่าจะให้ผลลัพธ์ไม่บวก ก็ศูนย์ แต่ไม่น่าเอนไปทางลบ เรื่องที่ถกเถียงกันมากที่สุดของคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่ให้ลูกขลิบตอนนี้เหมือนเป็นเรื่อง สิทธิมนุษยชนที่ควรให้ลูกตัดสินใจเอง แต่เราก็คิดว่าเราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เขาในเวลาที่เหมาะสมแก่การทำที่สุดซึ่งเขายังไม่มีวุฒิภาวะพอที่จะตัดสินใจได้ มันถูกต้องที่หลายคนบอกว่าเรื่องนี้ให้ลูกตัดสินใจเองตอนโตได้ แต่เราดู Youtube การขลิบตอนโตต้องผ่าตัด เย็บ กับอวัยวะที่บอบบาง น่ากลัวอ่ะค่ะ เชื่อว่าตอนโตถ้าไม่มีปัญหาจริงหรือถ้าจะทำแค่เผื่อรักษาความสะอาดง่ายขึ้นคงไม่มีใครเดินไปทำแน่ มันน่าจะรู้สึกทั้งอายและเจ็บ บางคนเปรียบการตัดสินใจขลิบให้ลูกเหมือนกับการฉีดวัคซีนค่ะ เพราะคิดว่าเลือกสิ่งดีที่สุดให้เค้าแล้ว 3. เด็กผู้ชาย เราสอนให้เค้าทำความสะอาดได้ แต่เค้าจะทำหรือเปล่านั่นอีกเรื่องนึง เราไม่อยากตามไปจ้ำจี้จ้ำไชเรื่องนี้ ก็ตัดไฟแต่ต้นลมเลยก็ดีเหมือนกัน 4. จากการถามผู้ชายวัยเดียวๆกันคนที่ขลิบแล้วยังไม่มีใครเสียใจที่แม่ไปตัดสินใจขลิบให้เขาตอนเด็ก ไม่มีใครรู้สึกอายที่ถูกขลิบ แต่พอจะจับทางได้ว่ามีความภูมิใจว่าของตัวเองสะอาด คนที่ไม่ขลิบส่วนใหญ่ก็บอกว่าไม่เห็นมีปัญหาอะไรแต่มี 2-3 คนที่บอกว่าถ้าได้ขลิบแต่เกิดคงดี ถ้าย้อนกลับไปเป็นเด็กได้อยากขลิบเพื่อสะดวกในการรักษาความสะอาด และมีคนที่เจ็บตอนช่วงวัยรุ่นที่พยายามรูดหนังขึ้น และเขายังไม่เห็นประโยชน์ที่ชัดเจนของหนังหุ้ม พร้อมทั้งบอกว่าถ้ามีลูกชาย ผมให้ขลิบเลย 5. ผู้ชายที่ไม่ขลิบมีคนยอมรับว่าการหมักหมมของขี้เปียกถึงจะไม่ทำให้อักเสบ แต่ก็มีกลิ่น แต่ถ้าล้างออกกลิ่นนั้นก็หมดไป 6. เราเชื่อในน้ำหนักของผู้ใช้งานจริง มากกว่าทฤษฎีหน่อย ขอ 18+ นิดนึง เพศสัมพันธ์สำหรับบางครอบครัวไม่ได้เกิดขึ้นในห้องนอน หลังอาบน้ำถูสบู่ทุกครั้งไป ในบางสถานการณ์ฉุกเฉินถ้ามีกลิ่นไม่พึงประสงค์คงไม่ดีแน่ หรือถ้าต้องพกผ้าเปียกทำความสะอาดก่อนก็คง... 7. 18+ อีกหน่อย ในกลุ่มตัวอย่างคนที่ขลิบตอนโต พบว่าความไวต่อความรู้สึกลดลงเล็กน้อย แต่ดูแล้วไม่ได้เป็นอุปสรรค คือไม่ค่อยมีนัยสำคัญ แต่พวกเขาบอกว่าสิ่งนี้เป็นผลดีต่อชีวิตคู่เพราะทำให้ควบคุมการหลั่งได้ดีขึ้นค่ะ อ่านจาก web ฝรั่งค่ะ 8. ตอนแรกกังวลใจว่าจะกลายเป็นคนส่วนน้อยถ้าตัดสินใจขลิบ แต่เราคิดว่าสาเหตุที่เด็กไทยส่วนใหญ่ไม่ขลิบเพราะถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เปิดประเด็นถามหมอเรื่องนี้ หมอมักจะไม่ได้ถามว่าจะขลิบหรือไม่ ก็จะปล่อยเป็นตามธรรมชาติค่ะ 9. ถ้าตัดสินใจจะขลิบแล้ว ทำแรกเกิดดีและง่ายที่สุด ช่วงอยู่โรงพยาบาลก็มีพยาบาลดูแลแผลให้ กลับบ้านแผลก็เกือบแห้งพอดี จากที่อ่านดูเด็กทารกแผลจะหายใน 1 อาทิตย์ค่ะ เพราะหนังยังอ่อน เลือกออกน้อย ไม่ต้องเย็บแผล อีกทั้งเด็กเล็กๆนอนอย่างเดียวไม่ได้มีกิจกรรมอะไรมาก ไม่ได้เอามือไปจับ การดูแลแผลก็จะง่ายสำหรับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ สุดท้ายเราได้มีโอกาสเข้าไปอ่าน http://www.m.webmd.com เผื่อใครสนใจก็ลอง search หาว่า Circumcision นะคะ มีข้อมูลมากมาย มีผลสำรวจที่ฟังน่าเชื่อถือขึ้น ค่อนข้างนำเสนอแบบเป็นกลาง และข้อความที่เราชอบขออนุญาต quote ไว้ตรงนี้คือ การเลือกว่าจะขลิบหรือไม่เป็น family decision, not a medical decision Remember that there is no right or wrong way to go with the circumcision decision. Weigh all the factors involved and trust your heart to make the right decision. Your little boy will do just fine either way. เราเชื่อว่าการตัดสินใจของคุณพ่อคุณแม่ทุกคนผ่านการไตร่ตรองมาอย่างรอบคอบ และเลือกสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดให้ลูกแล้ว ทุกคนตัดสินใจไปเพราะรักลูกทั้งนั้น ไม่มีใครถูกหรือผิดค่ะ ต้องขออภัยด้วยนะคะถ้ามีอะไรผิดพลาด เพราะส่วนใหญ่ได้มาจากการรวบรวมความเห็นของกลุ่มคนต่างๆ และตัวเราเองก็เป็นผู้หญิง ไม่ได้มีเป็นของตัวเองก็ได้แต่ฟังกับอ่านอย่างเดียว ยินดีที่จะรับฟังทุกความเห็น และขอโทษอีกครั้งที่เขียนยาวมากค่ะ
จากคุณ |
:
คิดแทนลูก (pandyDog)
|
เขียนเมื่อ |
:
24 มิ.ย. 55 11:03:50
|
|
|
|
 |