Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
รู้จักเข้าใจเด็กสมาธิสั้น ติดต่อทีมงาน

รู้จักเข้าใจเด็กสมาธิสั้น ตอนที่  1

จากหนังสือเข้าใจเด็กสมาธิสั้น  โดย ผศ.นพ. ชาญวิทย์  พรนภดล

สาขาวิชาจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราช

“น้องตุ่มตุ๊ม  เชิญเข้าห้องตรวจค่ะ”

“ตุ่มตุ๊ม มาเร้ว  คุณหมอเรียกแล้ว”

“เฮ้อ... ได้ตรวจซะที  รออยู่ตั้งนาน”

เสียงคุณพยาบาลพร้อมกับเสียงของคุณแม่และลูกชายดังขึ้นหน้าห้องตรวจของผม  ขณะที่ผมกำลังอ่านแฟ้มประวัติของ น้องตุ่มตุ๊ม  เด็กชายวัย 7 ขวบ

“ซน อยู่ไม่นิ่ง ใจร้อน ไม่ตั้งใจเรียน  ไม่มีความเป็นระเบียบ”  คือข้อความที่คุณแม่ของน้องตุ่มตุ๊มเขียนอยู่ในช่องของปัญหาที่ต้องการปรึกษา

“เชิญเลยค่ะ”

สิ้นเสียงคุณพยาบาล พ่อแม่ลูกคู่หนึ่งพร้อมเด็กชายแก้มยุ้ย แววตาเป็นประกายหน้าตาน่ารัก ท่าทางซุกซน ก็เดินเข้ามาในห้องตรวจ

“โอ้โห...ของเล่นในห้องคุณหมอเยอะจัง”

ยังไม่ทันสิ้นเสียง น้องตุ่มตุ๊ม ก็ถึงชั้นวางของเล่น   และรีบทำการสำรวจด้วยท่าทางตื่นเต้น

“ตุ่มตุ๊ม ครับ  มาคุยกับหมอก่อนครับ แล้วเดี๋ยวค่อยเล่น”

“ค๊าบ” ตุ่มตุ๊มผละจากของเล่นด้วยท่าทางเสียดายแล้วเดินมานั่งที่โต๊ะตรวจ

“ตุ่มตุ๊ม เรียนอยู่ชั้นอะไรครับ”

“ ป.2 ครับ”

“คุณครูประจำชั้นชื่ออะไรครับ”

“ครูนิดครับ”

“ครูนิดเป็นยังไงบ้าง ใจดีไหมครั้บ”

“ก็ใจดี...แต่บางทีก็โหดเหมือนกัน”

“โหดยังไงครับ”

“ก็นักเรียนคนไหนคุยกัน ไม่ยอมเขียนหนังสือ ครูนิดก็จะทำโทษ”

“ทำโทษยังไงครับ”

“ก็แล้วแต่ครับ บางทีก็ให้มายืนหน้าห้อง บางทีก็ให้คัดไทย บางทีก็ตีมือ”

“แล้วตุ่มตุ๊ม เคยถูกครูนิดทำโทษบ้างมั๊ยครับ”

“โดนประจำเลยครับ”  ตุ่มตุ๊มพูดด้วยเสียงดังฟังชัด

“เพราะอะไร ถึงโดนล่ะครับ”

“ก็คุยไงครับ  บางทีก็เพราะทำงานไม่เสร็จ”

“โดนทำโทษแล้ว ตุ่มตุ๊ม รู้สึกยังไงบ้างครับ”

“เฉยๆ โดนจนชินแล้วครับ” ระหว่างพูด ตุ่มตุ๊มก็ ขยับตัวยุกยิกไปมาตลอดเวลา เลื้อยอยู่บนเก้าอี้จนเกือบจะตกเก้าอี้หลายครั้ง

“แต่หมอว่า  บางครั้งตุ่มตุ๊มก็คงเสียใจเหมือนกันนะ”

“ก็มีบ้างครับ บางทีผมไม่ได้เป็นคนชวนคุย  เพื่อนเป็นคนมาชวนผมคุยก่อน แต่ครูก็มาโทษผม  ครูนิดเคยตั้งให้ผมเป็นผู้ช่วยครู  คอยจดชื่อเพื่อนที่คุยกันในห้องเรียน”

“ตุ่มตุ๊ม คงภูมิใจสิครับ ที่คุณครูนิดไว้ใจ”

“ผมไม่ได้เป็นแล้วครับ  ผมถูกเพื่อนๆปลดออกแล้ว”  พูดพรางตาก็เหลือบไปมองของเล่น

“อ้าว....เกิดอะไรขึ้นล่ะ”  

“เพื่อนบอกผมว่าผมจดแต่ชื่อพวกเค้า  ไม่ยอมจดชื่อตัวเอง  เค้าก็เลยปลดผมออก ....หมอครับขอผมไปเล่นก่อนนะ หมอคุยกับคุณแม่ไปก่อนก็แล้วกัน”  ยังไม่ทันที่ผมจะเอ่ยปากอนุญาต ตุ่มตุ๊ม ก็ถึงของเล่น  และรีบสำรวจตามลิ้นชักต่างๆ

“อยู่บ้านก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน  นั่งนิ่งๆนานๆไม่ได้ ต้องลุกเดิน หาอะไรเล่นทำอะไรทำตลอดเวลา”  คุณแม่พูดด้วยน้ำเสียงระอา

“คุณแม่คงเหนื่อยน่าดูเลยนะครับ ในการดูแลน้องตุ่มตุ๊ม เพราะดูท่าทางแล้วน้องคงจะซนใช้ได้เลยล่ะ”

“โอ๊ย...อย่าให้พูดเลยคุณหมอ  เนี่ยขนาดมีเค้าคนเดียวนะคะ  ถ้ามีอีกคนแล้วซนแบบนี้ ตุ๊กว่า  ตุ๊กขอลาออกจากความเป็นแม่ดีกว่า  มันทั้งเหนื่อย  ทั้งเครียด  จริงๆนะคะคุณหมอ”

“ผมว่าคุณแม่เค้าพูดเกินไปนิดนึง  จริงๆแล้วผมว่าตุ่มตุ๊ม เค้าเลี้ยงไม่ยากนะ เค้าแค่เป็นเด็กที่ค่อนข้างซนสักหน่อยเท่านั้นเองแหละ  เด็กผู้ชายส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้  ผมไม่เห็นจะหนักใจอะไรเลย”  คุณพ่ออดรนทนไม่ได้  แยังขึ้นมา

“ก็คุณไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับเค้าเท่าชั้น  กว่าคุณจะกลับก็ดึก ชั้นอยู่กับเค้าทั้งวัน  ต้องสอนการบ้าน ต้องดูแลสารพัด ชั้นรู้สิว่าเค้ามีปัญหา เค้าไม่เหมือนเด็กปกติทั่วไป....”

“เอาล่ะครับ...หมอว่า ต่างฝ่ายต่างก็มีมุมมองของตัวเอง  คงไม่มีใครผิดใครถูก  ผมว่าเรามาค่อยๆดูกันดีกว่าว่าตุ่มตุ๊ม เค้ามีอะไรที่หมอพอจะช่วยเหลือได้บ้าง”  ผมรีบขัดจังหวะขึ้นก่อนที่จะได้เห็นการโต้วาทีสด

“เริ่มที่คุณแม่ก่อนก็แล้วกัน”  หมอ อยากทราบว่า อะไรในตัวตุ่มตุ๊ม ที่ทำให้คุณแม่หนักใจ”

“เยอะมากกก..........คุณหมอมีเวลาสัก 2 ชั่วโมงมั๊ยคะ  ตุ๊กจะได้เล่าให้หมด”

“เอาปัญหาใหญ่ๆ ที่คุณแม่หนักใจมากที่สุดตอนนี้ก็ได้ครับ”

“เรื่องเรียน   เรื่องระเบียบวินัยย   แล้วก็การควบคุมอารมณ์ค่ะ”

“ไหนคุณแม่ลองเล่าให้หมอฟังทีละเรื่องสิครับ”

“ตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาลแล้ว คุณครูฟ้องมาเรื่อยๆว่า ตุ่มตุ๊มเค้าไม่สนใจเรียน  ห่วงคุย  ห่วงเล่น  ชอบเดินไปเดินมาในห้องเรียน นั่งก็ไม่ค่อยจะติดที่  เวลาให้ทำอะไรก็ไม่ค่อยจะยอมทำ  ถึงทำก็ทำไม่ค่อยจะเสร็จ  ต้องคอยเรียก  คอยกระตุ้นให้ทำ  บางทีต้องนั่งประกบถึงจะทำ  ไม่งั้นก็มัวแต่คุย  มองโน่นมองนี่  สนใจคนอื่นเค้าไปหมด”

“สมาธิเป็นยังไงครับ”

“สั้นมากมาก   ไม่ค่อยจดจ่อ  วอกแวกง่าย”

“หยั่งงี้...ช่วงเวลาทำการบ้านก็แย่สิ”

“โอ้โห...แทบจะตีกันตายทุกเย็น”

“เป็นยังไงครับ  ลองเล่าให้หมอฟังหน่อยสิครับ”

“ส่วนใหญ่จะเริ่มทำตั้งแต่ 5 โมงเย็น คุณเธอก็จะอิดออด อ้างโน่นอ้างนี่สารพัด ต้องขู่ ต้องบังคับกันถึงจะเริ่มทำได้ พอทำได้ซักประเดี๋ยวก็ออกอการแล้ว บ่นกระปอดกระแปด  อ้างว่ายากบ้างละ  ทำไม่ได้บ้าละ  เยอะเกินไปบ้างล่ะ  ประมาณว่าลีลาเยอะมาก จนตุ๊กต้องหงุดหงิดอารมณ์เสียทุกวัน  บางวันทนไม่ได้ หลุด  เผลอตีเค้าไปเหมือนกัน  ตุ๊ก รู้นะว่าไม่ควรทำแต่เวลาเห็นท่าทางเค้าแล้ว  มันจิ๊ดขึ้นมาเลย  คิดดูสิคะหมอ  การบ้าน ป.1 ป.2 เนี่ย เค้าทำอยู่ได้ 5 ชั่วโมงไม่เสร็จ”

“คุณนะชอบกดดันลูก  เค้าเพิ่งตัวแค่เนี้ย  ไปบีบบังคับให้ทำการบ้านอะไรหนักหนา   คุณหมอรู้มั๊ย ตอนที่ตุ่มตุ๊มจะสอบเข้า ป.1  คุณแม่จับติวเข้มตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึง 2 ทุ่ม ทำแบบนี้อยู่ 2 เดือน เด็กที่ไหนจะไม่เครียดบ้าง”  คุณพ่อสบโอกาสฟ้องพฤติกรรมของคุณแม่

“ก็คุณเองไม่ใช่เหรอ  ที่บอกว่าอยากให้ลูกเข้าโรงเรียนดีๆ  ชั้นก็เลยพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อจะให้เค้าเก่ง  จะได้สอบเข้าได้  แล้วอย่างนี้จะมาโทษกันได้ยังไง”  คุณแม่เสียงเข้มขึ้นมา ไม่ยอมเพลี่ยงพล้ำให้คุณพ่อ

“ตุ่มตุ๊ม ครับหมอออยากให้ตุ่มตุ๊มออกไปเล่นของเล่นข้างนอกก่อน ได้มั๊ย ครับ   เดี๋ยว พอหมอคุยกับคุณพ่อคุณแม่เสร็จแล้ว หมอจะไปหา”  ตุ่มตุ๊มออกไปเล่นของเล่นที่อยู่นอกห้องตรวจ  ซึ่งความจริงผมน่าจะทำอย่างนี้แต่แรก

“เอาละครับ  นั่นคือ ปัญหาการเรียนที่คุณแม่หนักใจ แล้วเรื่อง...”

“เรื่องเรียนยังไม่จบค่ะ ....... มีอีก”   คุณแม่พูดสวนขึ้นมา

“คุณครูบอกอยู่เรื่อยนะคะว่า  ตุ่มตุ๊มเนี่ยเค้าหัวดี  ฉลาด  ถามอะไรรู้เรื่องหมด  แต่ไม่ชอบอ่าน ไม่ชอบเขียน  เวลาทำงานบางครั้งก็รีบๆ ทำให้มัน เสร็จๆไป  แต่ผิดหมด  เวลาสอบก็ไม่ยอมอ่านโจทย์ ใช้วิธีกามั่วเลย มีอยู่วันหนึ่งเค้าสอบวิชาภาษาไทยได้ 2 เต็ม 20  ครู งง มากเพราะตอนเรียน ตุ่มตุ๊มตอบได้หมด พอครูเรียกสอบใหม่  ให้นั่งสอบตัวต่อตัวกับครู ปรากฎว่าทำได้ 19 เต็ม 20”

“อืม....หมอเห็นด้วยนะว่าเค้าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องสติปัญญา”

“ใช่...แต่ถ้าเค้าไม่ใส่ใจ...ไม่ตั้งใจเรียนแบบนี้ ตุ๊กว่าอีกหน่อยเค้าคงแย่เหมือนกัน”

“แล้วเรื่องระเบียบวินัยล่ะ ครับ   เป็นยังไงบ้าง”

“ไม่มีเลยค่ะ”  คุณแม่เน้นคำ ทำเสียงหนักแน่น  “ตุ๊กพยายามฝึกเค้าทุกวันนะคะไม่ใช่ไม่ฝึก  ว่าให้จัดกระเป๋า  จัดตารางสอน เอาหนังสือกลับมาให้ครบ  แต่สอนไปก็เท่านั้น  กระเป๋านักเรียนนี่รกสุดๆ  หนังสือ ดินสอ ยางลบ กระเป๋าสตางค์  หายเป็นประจำ  พอถามเค้า เค้าก็มักบอกว่าเพื่อนเอาไป  พอไปพบครู คุณครูหยิบตะกร้าที่รวบรวมของที่ไม่มีเจ้าของมาให้ดู   ปรากฎว่ามีของตุ่มตุ๊มมากกว่าครึ่งอยู่ในนั้น  อยู่บ้านก็ชอบทิ้งของเรี่ยราด ถอดเสื้อผ้าก็กองไว้เกลื่อนพื้น เล่นของเล่นก็ไม่เคยเก็บ  ตุ๊กต้องคอยตามเก็บให้ประจำ  เก็บไปก็บ่นไป จนจะกลายเป็นยายแก่ขี้บ่นอยู่แล้ว”  คุณแม่พรั่งพรูระบายความอึดอัดคับข้องใจที่สะสมมานานออกมา

“แล้วเรื่องอารมณ์เค้าละครับ  เป็นยังไงบ้าง”

“ขี้หงุดหงิด ใจร้อน ชอบโวยวาย เสียงดังเวลาไม่ได้ดั่งใจ  ดูเหมือนเป็นเด็กชอบเอาแต่ใจตัวเอง เนี่ยใครไม่รู้คงคิดว่า ตุ๊กน่าจะตามใจลูกน่าดู  แต่เปล่าเลยนะคะ ตุ๊กบอกเค้าอยู่เรื่อยๆว่าให้รู้จักรอคอย  เค้าก็รับปากว่าจะรอ  แต่พอเอาเข้าจริงก็รอได้แป๊บเดียว  อยากจะเอาอะไรต้องเอาให้ได้เดี๋ยวนั้น”

“อย่างนี้เวลาเล่นกับเพื่อนๆ คงจะมีปัญหาเหมือนกันนะ”

“นี่ก็เป็นอีกเรื่องนึง ที่ตุ๊กหนักใจ  เค้าเป็นเด็กที่เพื่อนๆ ไม่ค่อยอยากเล่นด้วย ประมาณว่าเข้าที่ไหนวงแตกที่นั่น คือเค้าจะไม่ค่อยเล่นตามกติกาของกลุ่มขอบเล่นแรง จนหลายครั้งเพื่อนๆรับไม่ได้  เวลารวมญาติทีไรลูกพี่ลูกน้องของตุ่มตุ๊มจะบอกเลยว่า พวกเค้าเล่นกันสนุกกว่าถ้าไม่มีตุ่มตุ๊ม  ตุ๊กเคยสะท้อนใจนะคะที่เค้ามาถามตุ๊กว่าทำไมไม่มีใครอยากเล่นกับเค้าเลย  เค้าไม่ดีตรงไหน  เค้าทำอะไรผิด  เค้าไม่รู้ตัวเลยว่าเค้าทำให้ทุกคนที่อยู่รอบตัวเค้าเครียดไปหมด  ตุ๊กอยากให้เค้ามีเพื่อน เป็นที่ยอมรับของเพื่อนๆ ไม่ใช่เป็นตัวน่ารังเกียจ เหมือนทุกวันนี้”

“หมอดีใจนะที่คุณแม่ตระหนักถึงปัญหาและเห็นความสำคัญของทักษะทางสังคมของน้องตุ่มตุ๊ม.....ทีนี้หมออยากรู้ว่าความเชื่อฟังของน้องเค้าเป็นยังไงบ้าง”

“ดื้อสุดๆ  เลยค่ะ คุณหมอ  บอกให้ทำอะไรก็ไม่ยอมทำ  ชอบทำหูทวนลม  ตุ๊กต้องเรียกแล้วเรียกอีก  บางครั้งต้องตวาด ต้องขู่เสียงดังๆ ถึงจะยอมทำ”

“ก็เป็นตอน ที่อยู่กับคุณแค่นั้นแหละ  กับผมไม่เห็นมีอะไรเลย  ผมบอกให้ทำอะไรก็ทำดี”  คุณพ่อแย้งขึ้นอีก

“ก็เค้ากลัวคุณนะสิ คุณมือเบาซะเมื่อไหร่  เวลาคุณโมโหขึนมาคุณไม่รู้หรอกว่าคุณน่ากลัวขนาดไหน” คุณแม่ไม่รีรอที่จะสวนกลับ

“หมอเห็นใจทั้งคุณพ่อคุณแม่เลยนะครับ.... หมอเชื่อว่าตุ่มตุ๊มเค้ามีลักษณะเฉพาะในตัวเองที่สามารถยั่วโมโหเราได้บ่อยๆ”

“คุณหมอพูดถูกค่ะ  ตุ๊กว่าตุ๊กเปลี่ยนไปเยอะเลย  เดี๋ยวนี้รู้สึกว่า ตุ๊กทนอะไรได้น้อยลง  หงุดหงิดง่าย ตั้งแต่เลี้ยงเค้ามา ตุ๊กเคยอิจฉาคุณแม่คนอื่นๆ นะคะ   เห็นเค้าอยู่กับลูกแล้วดูมีความสุขจังเลย  แต่ทำไมตุ๊กรู้สึกเครียดตลอดเวลา  ยิ่งเค้าโตขึ้น ตุ๊กยิ่งเครียดมากขึ้น  ตุ๊กก็สำรวจตัวเองอยู่เหมือนกันว่า เอ๊ะ..เป็นเพราะเรารึเปล่า ที่ทำให้เค้าเป็นแบบนี้  เราเลี้ยงเค้าไม่เป็น เลี้ยงเค้าไม่ดีรึเปล่า  ตามใจเค้ามากเกินไปมั๊ย เราทำอะไรพลาดตรงไหน”

“ช่าย....ผมว่าเพราะคุณนั่นแหละ ชอบไปกดดันลูก ใช้อารมณ์กับลูก ลูกก็เลยต่อต้าน”   อีกแล้ว คุณพ่อพูดไม่สร้างสรรค์เลยนะ   นี่ขนาด อยู่ต่อหน้าหมอ นะเนี่ยะ ไม่อยากจินตนาการเลยว่าตอนอยู่ที่บ้าน คู่นี้เค้าคุยกันยังไง  คงจะ บู๊กันน่าดู  ผมคิดในใจ

“ตกลงคุณหมอสรุป ได้มั๊ยคะ ว่าเค้าเป็นอะไร”

“มีใครเคยบอก คุณแม่มั๊ยครับว่า ตุ่มตุ๊มเค้าน่าจะเป็นอะไร”

“ก็มีคุณครูที่สอนตุ่มตุ๊ม ตอน ป.1  เคยแนะนำว่าน่าจะลองพาตุ่มตุ๊มไปตรวจดูว่าเป็นสมาธิสั้นรึเปล่า  เพราะว่าเค้าซนมาก  ไม่สนใจการเรียนเลย  มาปีนี้อยู่ ป.2  ครูนิดก็พูดอีกว่า สงสัยตุ่มตุ๊มน่าจะเป็นสมาธิสั้น ก็เลยคิดว่าต้องมาตรวจดูแล้วล่ะว่าเป็นจริงมั๊ย  ถ้าเป็นจริงจะได้รีบรักษา  ไม่อยากให้เหมือนลูกชายของพี่ทำงาน  กว่าจะรู้ว่าเป็นสมาธิสั้นก็ตอนอายุ 15แล้ว  มีพฤติกรรมก้าวร้าว หนีเรียน กินเหลา สูบบุหรี่ ติดเกม ไม่สนใจเรียน แม่พาไปหาหมอ หมอให้ยามารับประทาน  แต่เด็กปฏิเสธ  ไม่ยอมกินยา  ไม่ยอมรักษา ต่อต้าน สุดๆ  ตอนนี้แย่เลยคบเพื่อนเกเร  ออกจากโรงเรียนตั้งแต่ ม.2”

“เท่าที่หมอฟังอาการ  ของน้องตุ่มตุ๊มเข้ามาคุยกันต่อ  ก็เหมือนตอนแรก ตุ่มตุ๊มเป็นเด็กที่ช่างพูด ช่างคุย ชอบถามโน่นถามนี่(ไม่รู้ใครสัมภาษณ์ใคร)   สนใจสิ่งของในห้องตรวจไปหมด  เวลาทดสอบสมาธิตุ่มตุ๊มทำได้ไม่ดีเลย  อาจจะเป็นด้วยความวอกแวกง่ายของตุ่มตุ๊ม  เลยทำให้ดูเหมือนไม่ค่อยฟังเวลาที่ผมพูดด้วย  เพราะไปสนใจอย่างอื่นแทน  พลังงานนี่มีเหลือเฟือเลย  กระโดดม้วนตัวตีลังกาบนโซฟา หมุนเก้าอี้ มือไม้อยู่ไม่สุข รื้อค้นทุกลิ้นชัก ชอบมุดไปใต้โต๊ะตรวจของผม  สำรวจปีนป่ายจนเกือบตกลงมาหลายหน

ตุ่มตุ๊มดูเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาด  ความรู้รอบตัวเยอะ ความจำดี  แต่เวลาทดลองให้อ่าน เขียน คำนวณ ตุ่มตุ๊มทำได้ต่ำกล่าเกณฑ์เฉลี่ย  โดยมากทำผิดเพราะความรีบร้อน สะเพร่าเผอเรอ

“ตุ่มตุ๊ม ครับ  หมอเห็น เลยเนี่ย ว่า ตุ่มตุ๊มเป็นเด็กที่ฉลาด หัวดีคนนึงเลยนะ....แต่เอ๊ะ...หมอสงสัยจังว่าทำไมตุ่มตุ๊มถึงเรียนไม่ทันเพื่อน”

“ไม่รู้สิครับ   ผม ก็พยายาม ตั้งใจเรียนอยู่นะครับ แต่ใจผมมันชอบไปโน่นไปนี่ ห้ามไม่ค่อยจะได้  คุณครูบอกว่า คุณสมาธิ สงสัยจะไม่ชอบผม อยู่กับผมไม่ได้นาน  ชอบหนีไปเที่ยว”

“ฟังดูเหมือนตุ่มตุ๊มก็อยากเรียนเก่ง   อยากให้คุณสมาธิอยู่กับตุ่มตุ๊มนานๆ เรื่องนี้หมอมีวิธีช่วยนะ  เดี๋ยวหมอจะเชิญคุณพ่อคุณแม่มาฟังด้วยกันว่า เราจะช่วยตุ่มตุ๊มได้ยังไงบ้าง ดีไหมครับ”

“ตกลงตุ่มตุ๊มเป็นสมาธิสั้นรึเปล่าคะ”  คุณแม่ถามด้วยความกังวล

“จากประวัติที่หมอได้จากคุณแม่ และ จากการตรวจน้องตุ่มตุ๊ม  หมอคิดว่าเค้ามีภาวะสมาธิสั้นอยู่พอสมควรครับ”

“อุ๊ย แล้วเค้าจะเรียนหนังสือในห้องกับเพื่อนๆได้มั๊ยเนี่ยะ หรือต้องถูกแยกไปเรียนต่างหาก”

“ได้ครับได้แน่นอน  แต่จำเป็นต้องรับการรักษาไปด้วย”

จากคุณ : credor
เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 55 17:17:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com